Eden’s Promise [Savage] - ตอนจบ

ต่อจากตอนที่แล้ว หลังผ่านฟอลกาย อากิโตะ ซ้ายขวา โฮโบลาลา (ชื่ออะไรพิกลแท้) ก็จะมาถึงลาสบอสซะที บอสสุดท้ายของเหรดเทียร์มันก็ต้องยากที่สุด ตุนไก่ย่างไว้พร้อมแล้วก็ลุย
.
.
=4th Floor=
Eden's Promise: Eternity

ร่างรวมของลอกริฟและมิตรอน การกลับมาของ door boss แน่นอนว่าบอสเจ้าที่ย่อมยากกว่าลาสบอส

*door boss หมายถึงบอสตัวแรกในไฟต์ที่มีเชคพอยต์คั่นกลาง นั่นคือพอฆ่าตัวแรกได้แล้ว ต่อให้ไวป์กับตัวที่สองก็ไม่ต้องสู้กับตัวแรกใหม่ เริ่มสู้ตัวสองได้เลย แต่เชคพอยต์จะอยู่แค่ในเวลาดิวตี้ครั้งนั้น ถ้าออกดิวตี้มาแล้วเข้าใหม่ก็ต้องสู้ตัวแรกอีกรอบ
.
บอสตัวแรกของชั้นสุดท้ายคือ Eden's Promise ตัวละมุด มะม่วง ขนุน อะไรก็ตามแต่ที่อยากจะเรียก ออกแบบโดยเทตสึยะโนมูระ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Artemis of Ephesus (Artemis คือชื่อจริงของมิตรอน) จงมองพวงนมนี้แล้วสิ้นหวังไปซระะะ เป็นบททดสอบสุดท้าย ว่าเข้าใจแมคคานิคต่างๆที่ผ่านมาหรือไม่ ในบริบทนี้คือรวมมิตรไพรมอลที่ WoL มโนขึ้นมา
.
ไว้ลายในการเป็นเหรดที่ ref กับภาค 8 แมคคานิคเบสิคสุดของไฟต์นี้คือการแคสต์ สตอคและจังค์ชั่น เอเดนจะดึงเวทจากไพรมอลตัวอื่นมาใช้ หรือเก็บไว้แล้วใช้ทีหลัง รีมิกซ์ท่าจากทั้งไททัน อิฟริต การุด้า รามูห์ เลเวียธาน ชิว่า ไม่ตกหล่นใครสักคน แถมด้วยเหรดไวด์ที่เจอครั้งแรกถึงกับตายไปค่อนทีมทั้งที่เลือดเกือบเต็ม...เล่นเอาอุทานอิหยังวะ
.
นอกจากแคสต์ สตอค และจังค์ชั่น ในไฟต์นี้จะมีแมคคานิคสำคัญอัดแน่นเปรี๊ยะอยู่อีกสี่อย่างคือ DD, Titan, Giants และ Lions
.
.
ความหรรษาจุดแรก DD หรือ Diamond Dust จากชิว่า เป็นบททดสอบความแม่นยำในการสไลด์ออนไอซ์แบบสามัคคีคือพลัง และทดสอบฮีลเลอร์ (อีกแล้ว) ดาเมจแรงและต่อเนื่องตั้งแต่เวฟแรกที่ระเบิดพลังพื้นลื่น ในช่วง DD นี้ต่อให้ไม่ได้เล่นพลาด ก็ยังอาจจะเป็นลมตายไปเฉยๆได้เพราะมีจังหวะให้ฮีลไม่มาก ใครชอบไปยืนสันโดษไม่เข้ามารับฮีลก็จะตกรถบ่อยๆ
.
ความยากของ DD คือจังหวะหลังสไลด์เสร็จที่บอสปักเสาน้ำแข็งใส่ทุกคนตามจุดยืน จากนั้นเสาจะลิงค์เส้นเข้ากับเพื่อนแล้วนับถอยหลังก่อนพุ่งใส่ หากอยู่ใกล้เกินไปก็จะโดนเสาเสียบเท่งทึง เหมือนสคอลล์โดนอัลติเมเซียยิงน้ำแข็งเสียบอก
.
ปัญหาคือการสไลด์นั้นไม่ง่ายเหมือนจับวาง ยิ่งเล่นจอยจะสไลด์ยากหน่อยๆ หากสไลด์เบี้ยวใกล้ตรงกลางเกินไปก็อาจจะไปสร้างหายนะให้กับเพื่อนได้ในภายหลัง เพราะไม่เหลือระยะให้วิ่งห่างจากเสา หรือบางคนกะจะวางไกลๆก็สไลด์เลยป้าย ตกขอบฉากไปซะเฉยๆ
.
และต่อให้วางเสาได้พอดีเป๊ะ ก็ยังต้องลุ้นต่ออีกว่าตอนวิ่งห่างเสาจะใจตรงกันไปชนกันเองที่เลนนอกมั้ย จะมีใครมาปาดเรารึเปล่า คือที่มันก็มีเยอะแยะแต่ไม่รู้ทำไมมักจะวิ่งไปกระจุกที่เดียวกัน
.
ส่วนตัวเรารู้สึกว่าจะเล่น DD ให้ได้แบบสวยๆไม่มีคนตายนี่ยากมาก...แม้ปัจจุบันในตี้ที่ผ่านแล้วก็ยังมีคนตายอยู่เรื่อยๆ สรุปคือไม่ว่าชิว่าจะไปเอี่ยวแมคคานิคอะไรก็จะสร้างความโกลาหลได้อย่างคลาสสิก นึกว่าน้องรีนร่างผีน้ำแข็งไปผุดไปเกิดแล้ว ยังจะตามมาหลอกหลอนข้ามเหรดเทียร์ได้อีก
.
ต่อมาคือไททันบอมม์ ดีบัฟเหลืองส้มฟ้ากลับมาอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ต้องยกพื้นแต่ถ้าทำพลาดไม่ใช่แค่ตาย หากระเบิดหินไม่ครบทั้งทีมจะโดนดาเมจดาวน์เป็นหลักฐานความผิดพลาด ระเบิดจะมาสามชุด แต่ละชุดแพทเทิร์นดีบัฟไม่ซ้ำกัน เป็นจุดที่เหมือนจะยากแต่กลับง่ายจนน่าแปลกใจ
.
ความซวยหนึ่งเดียวที่จะเกิดได้คือช่วงระเบิดชุดสอง แผนที่เราเล่นคือ Healer Tank ไปทางซ้าย DPS ไปทางขวา แต่ถ้าสีฟ้าเกิดในหมู่โรลเดียวกันเองจะวิ่งไม่ทันบ่อยๆ เช่น ฟ้าเป็น DPS ทั้งคู่ D1 ต้องไปซ้ายแทนซึ่งจะไม่ชิน ก็จะมีทำเพื่อนแบนเป็นกล้วยทับบ้างอะไรบ้าง
.
ถัดมาคืออันที่เหมือนจะง่ายแต่ทำไมไม่ง่าย...ฝรั่งเรียก Giants คือรูปปั้นยักษ์สองตัวจะโผล่มายิงคาเมฮาเมฮาใส่แปดคน คนละที มีเลขขึ้นที่หัวว่าจะโดนสอยเป็นลำดับที่เท่าไหร่และมีเส้นลิงค์ว่าจะยิงจากทิศไหน
.
ซึ่งทีมคิลจะเกิดขึ้นหากมีคนออกตัวช้า เพื่อนเลยโดนสอยไปด้วย หรือคนตาลาย ดูลำดับ/ทิศผิด พอยิงครบแปดคนบอสจะตบท้ายด้วยฝ่ามืออรหันต์โยกฉากสะเทือน บางทีผ่านเลเซอร์ได้อย่างสวยงามแต่มีคนโดนโบกตกฉากง่ายๆซะงั้น แล้วก็มีกับดักโรยหน้าอีกอันเป็นทอปปิ้งคือสตอคที่เก็บไว้ตั้งแต่ก่อนจะยิงเลเซอร์ จะมาแคสต์เอาหลังฉากสะเทือน ตรงนี้ต้องจำเอาเองเพราะจะขี้โกงรอดูเพื่อนไม่ทันแน่

พอผ่านตรงนี้ไปได้จะเจอกับตัวเอกของชั้นนี้…ซิมบ้าาา
.
ทุกคนจะได้เชิดสิงโตตุ้งแช่ให้พ่นไฟใส่ตัวเอง ห้ามโดนคนอื่น สำหรับแมคนี้เรียกว่าช่วง Lions ผู้เล่นฝั่ง EU/NA ยกให้เป็นเสมือน LR ของรอบนี้เพราะมีคุณสมบัติคล้ายกันคือ

- พลาดคนเดียว ละลายทั้งตี้
- อาศัยจุดยืนที่แม่นยำ เพี้ยนนิดเดียวเป็นเรื่อง
- ต้องไว ห้าม greed ห้ามมึน

เหมือน LR...ที่แบ่งแมคคานิคเป็นสองกลุ่ม และไม่มีใครอยากได้ออร์บ ในรอบนี้ก็แบ่งเป็นซิมบ้าและมุฟาซา ก็ไม่มีใครอยากได้สิงโตใหญ่เช่นกัน...เพราะมีจุดละเอียดอ่อนให้ผิดพลาดร้ายแรงได้ รวมถึง greed ไม่ได้
.
คำว่ากรีดหรือโลภในที่นี้คือการที่คนเล่นมักจะตีบอสจนถึงวินาทีสุดท้ายค่อยไปทำแมคคานิค ซึ่งเป็นทุกคนทุกอาชีพ เพราะถ้าเล่นซาเวจมาถึงขั้นนี้แล้วนี้ความโลภก็ได้ฝังลึกเข้ากมลสันดานไปแล้วล่ะ
.
แต่กับสิงโตถ้าช้าไปนิดเดียวมันจะพ่นไฟใส่มิตรสหายพรืดเดียวไปเกิดใหม่เบย...ความลำบากทั้งหมดที่ผ่านมาสูญสิ้น ฉะนี้แล้วถ้าได้สิงโตใหญ่เราจะโกยแน่บทันทีที่ถึงคิว...ไม่ได้ตีไป 2 gcd น่ะไม่ตาย แต่ถ้าพ่นอีกฝั่งตายคือไวป์แน่นอน
.
เนื่องจากซิมบ้าจะพ่นไฟเป็นโคน ตามจังหวะสามครั้ง คั่นด้วยการกระแทกพื้น แคสต์ และกวาดฉากครึ่งนึง เท่ากับว่าต้องยืนให้ถูกจุดถึงสามที ระหว่างนั้นก็ต้องห้ามลืมที่หลบ ห้ามตายก่อนจะโดนพ่นรอบต่อไป เพราะถ้าขาดไปคนนึงพ่อลูกสิงโตจะยื่นปากไปพ่นคนอื่นที่ใกล้ที่สุดแทน
.
เอาแต่แมคคานิคเพียวๆ เราคิดว่า LR ยากกว่า แต่รวมกับสถานการณ์แล้วซิมบ้าโหดกว่า เพราะอยู่ในช่วงใกล้จบของไฟต์ เหมือนจะถึงเชียงใหม่แล้วรถระเบิดถอยหลังไปตั้งหลักที่กรุงเทพอีกรอบนึง ไปเริ่มใหม่ตั้งแต่สไลด์น้ำแข็งนู่นน บั่นทอนสติและทำลายความอ่อนโยนในจิตใจมาก
.
หมดสิงโตไป ที่เหลือคือของหวาน เชิญรับประทานให้สบายปาก เพราะเวียนแค่จังค์ชั่น แคสต์ สตอค ง่ายกว่าที่ผ่านกันมาแล้ว แต่ระวังติดคอกับ enrage และ heal check (อีกแล้วเหรอ) เนื่องจากบอสค่อนข้างเชคดาเมจโหด ยังไม่มีอาวุธก็กินยากันพุงบาน รีดดาเมจผ่านไปได้ก็จะเข้าคัทซีนซะที ฮือ
.
เกณฑ์ตามใจฉัน
ความท้าทาย ★★★★★
ความสนุก ★★★★★

เป็นบอสที่มีหลากหลายแมคคานิค ไม่มีจังหวะเนือยแบบชั้นที่แล้ว ตุ๊มๆต่อมๆทั้งไฟต์ สนุกดี ความไม่สนุกอย่างเดียวคือต้องเจอมันทุกรอบตอนที่จะฝึกตัวสุดท้าย :E ซึ่งช่วงแรกที่แม้จะผ่านแล้วแต่เวลาเข้าดิวตี้ใหม่ก็ยังวันชอตไม่ได้ มีไวป์บ้าง ย่ิงเอนเรจ <1% จะทำให้อารมณ์บูดพอควร จะรู้สึกว่าอยากไปฝึกเล่นไกอาแล้ว ทำไมถึงยังต้องมาจมปลักอยู่กับอีร้อยเต้านี่ ประมาณนั้น
.
.
.
=Last Boss=
Oracle of Darkness
.
ได้ยินคำว่า Mine is the seat of Logrif! ซะที พอมาถึงตรงนี้ได้ ของขวัญปลอบใจแน่ๆอย่างนึงคือรู้มาว่าตัวนี้ DPS สบายกว่าตัวที่แล้ว (ไปหนักแทงค์กับฮีลแทน) แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะง่ายฟรีวิน จุดเด่นของไฟต์นี้คือ heal check ...อืม ทำไมรู้สึกว่าพูดคำนี้บ่อยมากเลย....แต่มันคือความจริง อยากเอาพัดไปช่วยโบกให้ฮีลผ่อนคลาย
.
สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ mitigation ของทั้งทีม ใครที่ไม่เคยใช้สกิล mitigate ให้ทีมก็จะได้รู้ตอนนี้เองว่าที่ผ่านมาคือโดนแบก ไม่ว่าจะ reprisal addle samba tactician และอื่นๆตามอาชีพ จำเป็นต้องงัดมาใช้ทั้งหมด
.
เนื่องจากในทีมมีแคสเตอร์คนเดียว...addle นั้นมีค่าดั่งทองคำ...อยากเอา feint ไปแลกมาก เพราะแทบไม่มีจังหวะให้ใช้ TB แทงค์ก็กดอมตะ ส่วนท่าทุบแชร์มันชอบมาตอนที่ฮีลไม่เดือดร้อนเท่าไหร่ อันที่หนักจริงๆเป็นเวททั้งนั้น ก็ได้แต่ mantra แล้วส่งพลังไปช่วยWHMโกคู
.
แมคคานิคของไกอามีพื้นฐานจาก E2S ที่เคยสร้างความสะเทือนใจกันมาแล้ว รอบนี้กลับมาพร้อมเพิ่มความซับซ้อน แมคจะแบ่งออกเป็นสองอย่างหลักๆคือ Relativity และ Apocalypse
.
Relativity ไกอาจะเสกดีบัฟจำนวนมากใส่เราและผองเพื่อน ซึ่งจะมีเวลานับถอยหลัง พอถึง 0 ดีบัฟก็จะเกิดผล ส่วน Apocalypse จะเป็นการกระโดดทุบและหลบวงแสงระเบิดที่วิ่งรอบฉาก
.
ความน่าจดจำของ Relativity คือเวลาทำถูกทุกคน เป๊ะทุกจุด เพอร์เฟ็คต์เพลย์แล้วมันช่างสวยงาม! เหมือนดูภาพรีเพลย์นักกีฬาทำสกอร์ แต่ถ้าทำผิดก็แก้ไขอะไรไม่ได้เช่นกัน...เหมือนนั่งรอดูรีเพลย์ความฉิบหัยที่กำลังจะคลายตัวออกมา
.
สำหรับ Basic ก็ตามชื่อว่าเบสิก มี rewind น้อยหน่อย แต่ Intermediate กับ Advanced คือเด้งกันสนุกสนาน ความงงๆอย่างนึงคือถ้านับความยากในการปฏิบัติ Basic กลับยากกว่า Advanced เฉยเลย ส่วนนึงคงเพราะตอนแอดวานซ์ไม่ต้องตีบอสด้วย
.
เนื่องจาก Relativity นั้นออกแนวพัซเซิล ซึ่งคงยากสำหรับทีมที่เล่น prog แบบเวิลด์คลาสที่ต้องแก้ปริศนาจุดยืนของทุกคนในตี้ไปพร้อมๆกัน ส่วนเราเป็น WoL ระดับชาวบ้านมาเล่นตามไกด์เอาทีหลังแมคคานิคนี้ก็เลยง่ายทีเดียว
.
ส่วน Apocalypse นั้นไปยากที่แทงค์ ซึ่งอโพก็มีความงงอีกครั้งที่ Dual เบทยากกว่า Tripple แทงค์จะต้องเป็นคนล่อให้บอสกระโดดทุบ คนที่เหลือก็ทำตัวผอมๆอยู่ในช่องปลอดภัยไป เนื่องจากบอสโดดทุบไว ถ้าแทงค์ออกตัวช้าก็อาจจะต้องแซะเพื่อนขึ้นมาจากพื้นเพราะน้องทุบไม่เลี้ยงเหมือนเล่นเกมตีตัวตุ่น ถ้าออกตัวไวไปก็อาจจะโดนระเบิดแสงทำดาเมจดาวน์ แต่ก็ไม่ได้มีปัญหามาก (พูดโดยคนไม่ได้แทงค์ lol) เพราะตัวนี้ dps check ไม่โหดเท่าต้นละมุด
.
ในส่วนของคนไม่ได้แทงค์ จะมีความตุกติกที่ Triple ตอนบอสกระแทกให้คนกระเด็นแล้วต้องกะให้ปลิวไปอยู่จุดเซฟพอดี เนื่องจากมีแสงสามลูกก็เลยไวสามเท่า ยังไม่ทันจะยืนเล็งดีๆเลยน้องก็ถีบเอาซะแล้ว...ใจเย็นค่ะหนู และเนื่องจาก dpsกับฮีลเลอร์จะเลือดไม่ได้เยอะเท่าแทงค์ ถ้าโดนวงแสงคลิปเอาก่อนโดนกระแทกก็จะเท่งทึง 100%
.
และแล้วก็จะมาถึงจุดสุดท้ายของเหรดเอเดนทั้งหมด ‘Terminal Relativity’
.
ไม่นับอัลติเมทนี่ก็เป็นซอฟต์เอนเรจที่โหดที่สุดตั้งแต่มีในซาเวจมา ก่อนจะถึงตรงนี้ถ้ามีคนตายเพราะทริปเปิ้ล ฮีลจะรีบจิกกบาลกระชากวิญญาณพวก dps โง่เง่ากลับมาเข้าร่าง เพราะต่อจากนี้จะไม่มีเวลาชุบแล้ว ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าตายเยอะเกินสามคนแล้วไม่มี rez mage ก็จอดป้ายลงมันตรงนี้แหล่ะไม่ต้องดันทุรังไปต่อเพราะ mp จะไม่พอใช้ฮีล
.
บอสจะเปิดด้วยการร่ายเทอร์มินัลแบบแรงเว่อให้ใจสั่น จากนั้นต่อด้วยชอคเวฟสามครั้งสลับกับไควตัส 8x3 = 24 ลูก...ใช่ อ่านไม่ผิด มันคือเหรดไวด์ 24+ ครั้งจริงๆ โดยหล่นใส่หัวทั้งตี้ทีละ 2-3 ลูก เป็นเวลาประมาณ 40 วินาทีที่ทั้งปาร์ตี้จะโดนดาเมจต่อเนื่องแบบแรงโคตรๆ แรงเห้ๆ
.
ปกติจะชินกับการที่ติด dps check...แต่รอบนี้ดาเมจฝ่ายเราไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เป็นดาเมจฝ่ายน้องต่างหากเล่าที่ขยี้ทุกคนเป็นผุยผง...ต้อง HP เต็มบวกชีลด์ด้วยก่อนเริ่มทุกเวฟ เลือดต่ำกว่าร้อยเปอร์คือน้อยไป สมเป็น heal check the raid ถ้าผิดจังหวะฮีลไม่ทันนิดเดียวคือไปเกิดใหม่ยกทีม ซึ่งหลายครั้งไม่ใช่ความผิดฮีลเลอร์ เพราะการแสปม cure3 อย่างเดียวทำให้ mp ไม่พอ ทั้งตี้ต้องช่วยกัน mitigate ดาเมจจากบอส
.
อย่างที่บอกว่าในตี้มี addle แค่อันเดียว...ซึ่งใช้ไปตั้งแต่เทอร์มินัลดอกแรก ที่เหลือเลยต้องประยุกต์กันหน่อย หลังจากขยับเขยื้อนสิ่งที่มีกันไปมาสักพักก็ยังไม่ค่อยจะพอสำหรับเวฟที่สามซึ่งแรงสุด เลยต้องงัดไม้ตายสุดท้าย…'Tank LB'
.
เนื่องจากจะใช้ของมีลีขั้นสามไปตั้งแต่ก่อนแอดวานซ์รีเลทีฟแล้วเลยจะมีเหลือมาให้แทงค์กดตอนท้าย ก็ใช้กันไควตัสช่วงใกล้จบที่ลงหัวตูมๆๆนั่นเอง
.
จากนั้นบอสจะร่าย Memory’s end ที่เป็นเอนเรจของจริง แต่ถ้าผ่านนรกไควตัสมาได้ตรงนี้ก็จะเหมือนช่วงชูแขนวิ่งเข้าเส้นชัยไปเลยกูลิโกะแมน
.
เกณฑ์ตามใจฉัน
ความท้าทาย ★★★★
ความสนุก ★★★★★
.
สนุกคนละแบบกับตัวแรก จุดที่ชอบคือความเป็นเหรดที่ต้องใช้ทั้งทีมเวิร์คช่วยกัน mitigate และความรับผิดชอบส่วนตัว ต่างคนต่างวิ่งไปคนละทางยืนให้เป๊ะ แต่ทุกอย่างที่ทำส่งผลกับเพื่อนหมด

ชอบเป็นพิเศษคือจังหวะ Advanced Relativity ลมพัดสามคนกระเด็นไปแชร์อีกฟากนี่ฟินมาก และช่วงเอนเรจที่บีบหัวใจบวกกับเพลงประกอบก็เป็นจุดพีคของเหรดรอบนี้
.
.
จบแล้ว achievement เด้งครบทีมแปดคน นอนรอ Endwalker ยาวๆได้แระทู้กคน
.
.
แถม - วีรกรรมฝังใจในชั้นนี้

P2 ก่อนจะเข้าแอดวานซ์ ปรกติ LB เต็มก็จะรีบกดใช้เพื่อให้เหลือเกิน LB1 แน่ๆตอน Terminal แต่มีครั้งหนึ่งที่กดไปแบบไม่แหกตาดู ….เอ้ะ ทำไมเสียงมันแปลกๆ ฟังดูแป๊กๆ ง้างก็ไวผิดปกติ…..เดี๋ยวนะ นั่นมันนน LB2!!! แต่ไม่มีใครรู้ตัว ผ่านแบบเฉียดฉิว อืม รู้สึกบาปมากจนต้องสารภาพ
.
.
ทิ้งท้าย - Shadowbringers ถือเป็นภาคที่ได้รับเสียงชื่นชมล้นหลามในแง่เนื้อเรื่องและ solo content ทว่าในแง่ของ endgame แม้กระแสตอบรับของ Eden จะดี แต่ก็ถูกแฟนๆสายฮาร์ดคอร์บ่นขรมว่าคอนเทนต์บางเกินไป ทั้งยังมีช่วงคอนเทนต์แห้งจาก Covid จน Ultimate ชุดที่สองก็ถูกยกเลิกเสียอีก
.
ส่วนตัวเราก็อยากให้มี Ultimate อีกอัน ถึงจะไม่ได้เป็นผู้เล่นสายฮาร์ดคอร์ แต่ Ultimate เป็นคอนเทนต์ที่สร้าง exposure ให้กับเกมได้ดีมาก และถึงคนผ่านจะมี % น้อยเมื่อเทียบกับคอนเทนต์อื่นๆ แต่หนึ่งในข้อดีของ XIV คือความหลากหลายของเนื้อหา
.
จุดดึงดูดของเกมก็คือมีทุกอย่างสำหรับทุกคน คนที่เล่นสายฮาร์ดคอร์ก็ควรจะได้สนุกกับเกมเท่าๆกับแคชชวล คือถ้านับแต่สถิติว่าอะไรคนเล่นน้อยแล้วไม่ต้องมี มองก์คงโดนลบทิ้งจากเกมไปแล้ว -_- สายแคชชวลที่ไปไล่บอกคนอื่นว่าคอนเทนต์คนเล่นน้อยไม่มีความสำคัญ คุณกำลังสร้างความ toxic ในสังคมเกมนี้อยู่ เลิกทำเถอะ ส่วนฝั่งเหรดเดอร์ที่เกรี้ยวกราดก็ช่วยเข้าใจด้วยว่า Covid เป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น และเราก็เชื่อว่าโยชิพีไม่ได้อยากให้ผลออกมาเป็นแบบนี้ เห็นใจที่เซ็งเพราะทีมงานสัญญาไว้แล้ว แต่ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานเหตุผลด้วยว่าบางอย่างมันก็ควบคุมไม่ได้
.
ในส่วนภาพรวมของ Eden แน่นอนว่าแต่ละคนก็มีเหรดดีไซน์ที่ชอบต่างกันไป บางคนชอบกิมมิคไฟต์ บางคนชอบดัมมี่ไฟต์ ส่วนตัวเราเป็นคนชอบกิมมิคไฟต์แบบที่ต้องทำลูกเล่นอย่างอื่นด้วยไม่ใช่ทำดาเมจอย่างเดียว แบบต้องไปขี่หุ่น แปลงร่างเป็นตัวนู่นนี่ อะไรแบบนี้เราชอบ ซึ่งสายฮาร์ดคอร์จะเกลียดกัน lol
.
ตามฟีดแบค Eden ก็เลยเป็นดัมมี่ไฟต์ซะเยอะมาก คือเน้นตี สาย uptime ก็จะชอบ ส่วนเราอยากให้มีลูกเล่นพิเรนทร์ๆที่ไม่ใช่การทำดาเมจบ้าง แต่คุณภาพของเหรดซาเวจ ตั้งแต่ Gate, Verse ถึง Promise ก็คงมาตรฐานเอาไว้ได้ดี ไม่มีชั้นไหนทำออกมาชุ่ยๆ โดยรวมแล้ว Eden ก็ถือเป็นเหรดชุดที่เราประทับใจ หวังว่าใน Endwalker จะต่อยอดจากจุดนี้ไปและใส่ลูกเล่นใหม่เข้ามาเพิ่ม ถ้ามีเทียร์ละห้าชั้นก็ดีนะ (ฝัน~)
.
.
ป.ล. Shoutout ให้ Pepe raid team แม้จะมีปัญหาขลุกขลักมากมาย ต้องเปลี่ยนสมาชิกมั่ง เนตพังมั่ง ไอดีมีปัญหามั่ง แต่ก็ผ่านมาได้ สมาชิกน่ารักกันมาก มีความรับผิดชอบ เฮฮาแต่ตั้งใจเล่น มีวุฒิภาวะกันดี ขอบคุณที่ทำให้รู้สึกว่าตัดสินใจถูกที่เล่นกับ static ในรอบนี้ <3

ป.ล.2 Eden mount เหมือนจะเท่ แต่ท่าขี่ทุลักทุเลยังไงไม่รู้...

#FFXIV