【什麼是腸病毒重症？（上）】
文／賴俊維　東元綜合醫院小兒科主治醫師

上週我們轉院了一位疑似腸病毒感染併發重症的小弟弟到長庚醫院進行後續治療，所幸他已經順利出院。

我們都知道：腸病毒很會傳染、腸病毒學校要停課、腸病毒有可能併發重症，如果重症很嚴重可能會有生命危險。

但是很多家長可能不知道當小孩感染腸病毒之後，出現了什麼症狀就是重症，或是出現了什麼症狀可能會變成重症。變成重症之後，又會發生什麼事？今天就來講深一點點，幫大家掃盲一下。

兒童腸病毒感染，一般我們所認知的就是疱疹性咽峽炎、或是手足口症。疱疹性咽峽炎是除了高燒，喉嚨痛之外，口腔內會有潰瘍。而手足口症則是除了口腔潰瘍，手、腳甚至屁股還會有紅疹。但其實約有一半的腸病毒感染口腔內部不見得有潰瘍，有時候就只是很紅的紅點。但無論如何，出現以上症狀我們稱作這是腸病毒感染的『第一期：手足口症』。

絕大多數的腸病毒感染都只進展到這個『第一期』，二三天之後就會慢慢恢復。但少數的病童病程會繼續進展下去，進入『第二期：腦脊髓炎』。從進入第二期開始，就是腸病毒重症了。什麼樣的小朋友比較會進入腸病毒『第二期』呢？

一般我們認為的危險因子很多，包括：年齡小於三歲、高燒超過 39℃、發燒超過三天、出現肌抽躍（myoclonic jerk）與其他抽搐、頭痛、嘔吐、嗜睡、肢體無力（無法走路）、高血糖（>150mg/dl）、白血球過高（>17,500/mm3）。

講白話好了，如果你是父母親，謹記出現三大『重症前驅症狀』時一定要提高警覺並且趕緊就醫，那就是「持續昏睡、持續嘔吐與肌躍型抽搐」。肌躍型抽搐是一種類似受到驚嚇的突發性全身肌肉收縮動作，文末我們會附上影片連結做為參考。

所以當你的孩子除了高燒、口腔潰瘍之外，持續嗜睡、嘔吐、頭痛，睡著的時候還時不時的有像是受到驚嚇的肌肉收縮動作；更進一步的會有全身抽搐痙攣（類似癲癇的動作），甚至講一些奇怪的話或是話說不清楚，最後意識不清。這些都是『第二期：腦脊髓炎』的症狀。

此時已經需要立即轉入醫學中心的兒童加護病房接受治療，但可怕的是，腸病毒進展還沒結束。當進入第二期的重症之後，許多孩子往往會快速地進入腸病毒感染的『第三期：自主神經失調以及心肺衰竭』。

肌躍型抽搐（影片2分06秒以及4分16秒處動作）：
https://www.youtube.com/watch?v=TZ6J2H-FVf0#t=2m0s
https://www.youtube.com/watch?v=TZ6J2H-FVf0#t=4m10s

（待續）
【什麼是腸病毒重症？（下）】
https://www.facebook.com/…/a.9267952373314…/1304309656246694

▶10 ปฏิกิริยาแปลกๆของร่างกายที่คุณอาจไม่รู้มาก่อนว่ามันเป็นกลไกการป้องกันตัว!! | Pomster freestyle
เรามาดูกันครับ ว่ากลไกการป้องกันตัวของมนุษย์เราจะมีอะไรบ้าง

วิดีโออื่นๆ : https://goo.gl/90CLv4

10. การหาว yawn
เมื่อเราเห็นใครสักคนกำลังหาว เรามักจะรู้สึกและหาวตามไปด้วย การหาวนั้นเป็นปฏิกิริยาของร่างกายที่เกิดขึ้นหลังจากที่สมองทำงานหนักและมีความร้อนสูง ซึ่งการหาวนี้จะทำให้เซลล์สมองเย็นลงซึ่งช่วยให้เซลล์สมองมีประสิทธิภาพมากขึ้น นักวิจัยพบอีกว่าการหาวช่วยให้เลือดไหลเวียนเพิ่มขึ้น และช่วยให้สมองทำงานอยู่ในระดับที่เหมาะสม พวกเขายังแนะด้วยว่า ในทางชีววิทยา คนที่เหนื่อยล้าจะหาวเพื่อให้รู้สึกตื่นตัวและปกป้องตนเองจากภยันตราย

9. การผายลม(ตด) Fart
เกิดจากแก๊สในกระเพาะอาหารที่มีมากเกินไป ร่างกายจึงขับแก๊สออกมาในรูปแบบของการผายลม ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้มีการศึกษาและพบว่า การสูดดมกลิ่นผายลมเป็นเรื่องที่ดี เพราะเวลาที่คุณผายลมออกมา จะมีสารไฮโดรเจนซัลไฟด์ออกมาด้วย ซึ่งในการวิจัยพบว่า การสูดดมก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ในปริมาณน้อยๆ จะสามารถลดความเสียหายของเซลล์ได้ในระยะยาวได้ แถมยังสามารถป้องกันไม่ให้เกิดโรคไขข้อและโรคหัวใจด้วย

8. นิ้วที่เหี่ยวย่น
เมื่อเราใช้มือแช่น้ำเป็นเวลานาน ผิวหนังนิ้วมือจะเกิดการเหี่ยวย่น ซึ่งนิ้วมือเหี่ยวย่นนี้ เป็นกลไกของร่างกายที่ปรับตัวให้มนุษย์หยิบจับสิ่งของต่างๆ เมื่อนิ้วมือเปียกได้ถนัดขึ้นนั่นเอง จากทฤษฎีนี้ได้มีการทดลองจากนักชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล ทำการทดลองโดยให้ผู้ทดลองหยิบลูกหินชนิดเดียวกันทั้งเปียกและแห้ง ในสภาพมือที่ทั้งแห้ง และเหี่ยวย่นจากการแช่น้ำ 30 นาที ผลปรากฏว่าการหยิบจับลูกหินที่เปียกด้วยมือเหี่ยวย่นจะหยิบได้เร็วกว่ามือแห้ง

7. การสูญเสียความทรงจำ
จะสังเกตเห็นได้บ่อยครั้งหลังจากที่มีการเกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงเกิดขึ้น แล้วความทรงจำของคนที่ประสบเหตุนั้นจะหายไป ซึ่งนั้นเป็นปฏิกิริยาของมนุษย์เพื่อไม่ให้จำเรื่องราวที่เลวร้ายในช่วงนั้นได้

6. อาการขนลุก goose bumps
อาการขนลุกนั้นเกิดจากการตอบสนองชั่วคราวของระบบประสาทอัตโนมัติซิมพาเทติก ส่วนมากจะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายรู้สึกหนาวเย็นอย่างฉับพลัน ซึ่งอาการขนลุกนั้นเป็นปฏิกิริยาที่ทำให้เกิดการหดตัวของกล้ามเนื้อขนขนาดเล็กซึ่งเกาะอยู่ที่บริเวณรูขุมขนทั่วร่างกายจนเกิดการตั้งชันของเส้นขน โดยอาการขนลุกอาจเกิดจากสิ่งเร้าต่าง ๆ เช่น อากาศหนาว หรืออารมณ์ต่าง ๆ อาทิ ความกลัว ซึ่งเป็นการป้องกันของระบบในร่างกาย

5.
การบิดขี้เกียจนั้นเป็นปฏิกิริยาของร่างกายที่เกิดขึ้นเองโดยไม่รู้สึกตัว ซึ่งการบิดขี้เกียจนั้นเกิดขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับร่างกาย เป็นการปรับสภาพอารมณ์ให้ดีขึ้น และยังช่วยผ่อนคลายความเครียดได้อีกด้วย

4. อาการสะอึก
อาการสะอึกนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่คุณกินอาหารเป็นปริมาณมากเกินไป เร็วเกินไป จนทำให้เส้นประสาทที่เชื่อมต่อไปยังระบบกระเพาะอาหารเกิดระคายเคือง จึงกระตุ้นให้เส้นประสาทในบริเวณนี้ทำงานผิดปกติ ทำให้กล้ามเนื้อกะบังลมมีการหดเกร็งตัวเป็นจังหวะๆ และกล้ามเนื้อซี่โครงได้รับผลกระทบให้เกิดการหดเกร็งตัวในลักษณะเดียวกัน ซึ่งการสะอึกเป็นระบบ
ของร่างกาย ที่ทำให้เรารู้สึกรำคาญไม่น้อย

3. ความฝันที่น่าตกใจ Myoclonic jerks
ความฝันที่น่าตกใจอย่าง เช่น ฝันว่าตกจากที่สูงจนต้องตกใจตื่นขึ้นมา ซึ่งอาการแบบนั้นเกิดขึ้นมาจาก เมื่อคุณหลับ ร่างการของคุณจะผ่อนคลายทำงานช้าลง หัวใจและชีพจรจะลดช้าลง เมื่อชีพจรในขณะนอนช้าลงมากเกินไป ร่างกายก็จะเข้าใจผิดว่าคุณนั้นกำลังจะตาย กลไกของสมองจะสั่งการ ทำให้คุณจินตนาในเรื่องตกใจและสะดุ้งตื่นขึ้นมา

2. น้ำตาที่ไหลออกมา
การที่ร่างกายหลั่งน้ำตาออกมานั้นเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งเป็นการป้องกันดวงตาเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาโดนดวงตาแล้ว การร้องไห้เป็นวิธีปลดปล่อยอารมณ์ที่มีประโยชน์ต่อมนุษย์ด้วย โดยผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่า การร้องไห้เป็นวิธีปลดปล่อยอารมณ์ที่มีประโยชน์ต่อเรา และการกลั้นน้ำตาจนเป็นนิสัย อาจมีผลเสียต่อสุขภาพได้

1. การจาม
การจาม เป็นกลไกของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เพื่อกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่ทำให้เกิดการระคายเคืองในโพรงจมูก นักวิจัยของสถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสซาชูเสตต์ ค้นพบด้วยความพิศวงว่าการจาม 1 ครั้ง จะมีไวรัสไข้หวัดใหญ่ออกมาถึง195-19,500

▶ Inspiration BY Casey neistat

============================
ข้อมูลสำหรับการติดตามผม
BLOGGER : https://goo.gl/NAexP1
YOUTUBE : https://goo.gl/90CLv4
FACEBOOK : https://goo.gl/XqffdR
INSTAGRAM : https://goo.gl/WVZo7t

Support subtitles : https://goo.gl/bt0pRS
==============================
จะพยายามทำคลิปออกมาเยอะๆ
ฝากกดติดตามด้วยนะครับบบ