[爆卦]Wither Storm是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇Wither Storm鄉民發文沒有被收入到精華區:在Wither Storm這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 wither產品中有162篇Facebook貼文,粉絲數超過178萬的網紅ลงทุนแมน,也在其Facebook貼文中提到, กรณีศึกษา ทำไมคนญี่ปุ่น ชอบถือเงินสด มากกว่าลงทุนในหุ้น /โดย ลงทุนแมน รู้ไหมว่า ตลาดหุ้นญี่ปุ่นนั้นก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1878 หรือเมื่อ 143 ปีที่แล้ว และ...

 同時也有398部Youtube影片,追蹤數超過21萬的網紅mkのゲーム実況ch,也在其Youtube影片中提到,チャンネル登録よろしくお願いします! ◆mkのマイクラ実況再生リスト↓ https://youtu.be/byTCfdoa_lI?list=PLSszGF__n8Ssqa7W2vjwag1R23CAqR-sl ◆mkのマケプレ実況再生リスト↓ https://youtu.be/m6vXznAQipc...

  • wither 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文

    2021-09-29 11:00:19
    有 3,784 人按讚

    กรณีศึกษา ทำไมคนญี่ปุ่น ชอบถือเงินสด มากกว่าลงทุนในหุ้น /โดย ลงทุนแมน
    รู้ไหมว่า ตลาดหุ้นญี่ปุ่นนั้นก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1878 หรือเมื่อ 143 ปีที่แล้ว และมีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นมากกว่า 2,000 บริษัท ในปัจจุบัน

    และรู้หรือไม่ว่า ต้นปี 2021 มูลค่าของตลาดหุ้นญี่ปุ่นนั้นสูงกว่า 190 ล้านล้านบาท ซึ่งถือเป็นตลาดหุ้นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก

    หลายคนอาจคิดว่า คนญี่ปุ่นคงชอบลงทุนในหุ้น มากกว่าสินทรัพย์อื่น
    แต่ความจริงแล้ว กลับไม่เป็นเช่นนั้น..

    แล้วคนญี่ปุ่นเมื่อมีเงินแล้ว พวกเขาเอาไปเก็บไว้ที่ไหน ?
    ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
    ╔═══════════╗
    Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
    ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
    แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
    Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    เราลองมาเทียบกันดูก่อนว่า ส่วนใหญ่แล้วคนญี่ปุ่นชอบถือครองสินทรัพย์อะไร และเมื่อเทียบกับประเทศอื่นอย่างสหรัฐอเมริกาและยุโรป มีความแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน

    ข้อมูลจากธนาคารกลางญี่ปุ่นระบุว่า ในปี 2018 ครัวเรือนญี่ปุ่น ถือครองสินทรัพย์มูลค่ารวมกันกว่า 558 ล้านล้านบาท

    โดยจำนวนนี้ ถ้าแบ่งตามสัดส่วนจะเป็น
    - เงินสดและบัญชีเงินฝาก 52%
    - ประกันและบำนาญ 28%
    - หุ้นและกองทุนรวม 15%
    - อื่น ๆ 5%

    ที่น่าสนใจคือ เมื่อเทียบกับคนยุโรปและคนอเมริกัน ที่มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นและกองทุนรวม ต่อมูลค่าสินทรัพย์ถือครอง เท่ากับ 28% และ 31% ตามลำดับ

    จึงแสดงให้เห็นว่าคนญี่ปุ่นไม่ค่อยสนใจการลงทุนในหุ้นและกองทุนรวมมากนัก และยังชอบถือครองเงินสด ด้วยการฝากเงินไว้ในธนาคารจำนวนมากอีกด้วย

    ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า อัตราดอกเบี้ยเงินฝากในญี่ปุ่นนั้น อยู่ในระดับที่ต่ำมาต่อเนื่องหลายปี แม้กระทั่งในปัจจุบันก็อยู่ที่ประมาณ 0%

    คำถามสำคัญก็คือ ทำไมคนญี่ปุ่น ยังเลือกที่จะฝากเงินกับธนาคารจำนวนมาก แทนที่จะนำเงินไปลงทุนในหุ้นและกองทุนรวม ที่มีโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูงกว่า ?

    เหตุผลที่อธิบายเรื่องนี้ สามารถสรุปออกมาได้ 3 ประเด็น คือ

    1. ประสบการณ์ที่เลวร้ายจากเหตุการณ์ฟองสบู่แตกครั้งใหญ่ในญี่ปุ่น

    หลังจากที่ญี่ปุ่นพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 1945 ญี่ปุ่นก็เริ่มเข้าสู่ระยะของการฟื้นฟูประเทศ ช่วงหลังจากนั้นเป็นต้นมา เศรษฐกิจของญี่ปุ่นก็เติบโตแบบก้าวกระโดด

    ในช่วงปี 1961-1971 เศรษฐกิจญี่ปุ่นเติบโตอย่างรวดเร็ว เฉลี่ยกว่า 9% ต่อปี และเติบโตมาอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา จนถึงในช่วงทศวรรษ 1980

    ในตอนนั้น ผลกำไรของบริษัทในญี่ปุ่นอยู่ที่ระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท และธนาคารหลายแห่งมีการปล่อยกู้ให้แก่บริษัทจำนวนมาก

    การเติบโตทางเศรษฐกิจทำให้ทั้งบริษัทและผู้คนในญี่ปุ่นต่างร่ำรวย จนเกิดการเข้าไปเก็งกำไรราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ รวมทั้งอสังหาริมทรัพย์

    ราคาหุ้นในตลาดปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ดัชนี Nikkei ที่สะท้อนตลาดหุ้นญี่ปุ่น พุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง จนเกือบแตะ 40,000 จุด ในปี 1989 จากระดับประมาณ 8,000 จุดในปี 1982

    พอเรื่องเป็นแบบนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่นจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 2.5% ในปี 1989 มาอยู่ที่ 6% ในปี 1990 เพื่อเพิ่มต้นทุนการกู้ยืม ไม่ให้เกิดการกู้ไปเก็งกำไรในสินทรัพย์ต่าง ๆ

    จนสุดท้าย เมื่อแรงเก็งกำไรเริ่มอ่อนลง ก็ถึงคราวฟองสบู่ลูกใหญ่ระเบิดออก
    ราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ และราคาอสังหาริมทรัพย์ ก็เริ่มปรับตัวลดลง และลดลงเรื่อย ๆ จนหลายคนเจ็บตัวอย่างหนักจากการลงทุน

    วิกฤติฟองสบู่ครั้งใหญ่ในครั้งนั้น ทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นหลังจากนั้นมาหลายสิบปีแทบจะหยุดอยู่กับที่ และเป็นแบบนี้มาแล้วราว 3 ทศวรรษ

    ซึ่งนี่เองเป็นหนึ่งเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้คนญี่ปุ่นจำนวนมาก รู้สึกขยาดกับการลงทุนโดยเฉพาะในตลาดหุ้น รวมทั้งยังปลูกฝังความคิดนี้มายังรุ่นลูกรุ่นหลานต่อ ๆ มา จนถึงตอนนี้

    2. ภาวะเงินเฟ้อฝืด

    ผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจในช่วงต้นทศวรรษ 1990 ส่งผลโดยตรงต่อภาคครัวเรือน
    รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนของคนญี่ปุ่นนั้นลดลง จากการที่หลายคนต้องตกงาน ซึ่งเรื่องนี้ส่งผลโดยตรงต่อการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศ

    ข้อมูลจาก Statista ระบุว่า ในช่วงปี 1990-2020
    ญี่ปุ่นประสบกับภาวะเงินฝืด (เงินเฟ้อติดลบ) ทั้งหมด 14 ปี
    ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่เศรษฐกิจอยู่ในภาวะเงินฝืด นั่นหมายความว่า ราคาสินค้าและบริการมีแนวโน้มที่จะลดลง

    พอเรื่องเป็นแบบนี้ ชาวญี่ปุ่นจึงเกิดแรงจูงใจในการถือเงินสด มากกว่าที่จะนำเงินออกไปใช้จ่าย หรือชะลอการใช้จ่ายออกไปก่อน เพราะพวกเขาเชื่อว่า ในอนาคตเงินจำนวนเท่าเดิมนั้นจะสามารถซื้อสินค้าและบริการได้มากกว่าในปัจจุบัน และนำเอาเงินไปฝากกับธนาคารไว้ก่อนนั่นเอง

    3. ความรู้ ความเข้าใจด้านการเงิน ของคนญี่ปุ่น

    หลายคนคงแปลกใจถ้าบอกว่า ประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างญี่ปุ่น มีคนจำนวนไม่น้อยที่ขาดความรู้ด้านการเงิน

    ซึ่งเรื่องนี้ มีผลการสำรวจของธนาคารกลางญี่ปุ่นระบุว่า ประชาชนชาวญี่ปุ่นนั้นมีความรู้ด้านการเงินน้อยกว่าประชาชนในประเทศพัฒนาแล้วอื่น ๆ อย่างเช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และเยอรมนี

    การขาดความรู้ความเข้าใจทางด้านการเงิน ทำให้คนญี่ปุ่นจำนวนมาก กลัวการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง และชอบในการเก็บเงินออมด้วยการฝากธนาคารที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า

    นอกจากนี้ โรงเรียนในญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเรื่องการลงทุนเท่าที่ควร โดยศาสตราจารย์ Nobuyoshi Yamori ที่สอนสาขาวิชาเศรษฐกิจและธุรกิจแห่งมหาวิทยาลัยโกเบ ระบุว่า

    “โรงเรียนส่วนใหญ่ในญี่ปุ่น ใช้เวลาสอนเรื่องการเงินการลงทุนให้นักเรียนน้อยมาก ขณะที่ครูที่มาสอนวิชาดังกล่าวก็ไม่ได้รับการฝึกอบรม หรือมีความรู้ ความเข้าใจ ในด้านการเงินการลงทุนที่ดีมากนัก”

    จึงทำให้เด็กญี่ปุ่นจำนวนมากขาดความรู้ด้านการเงิน ซึ่งส่งผลให้เมื่อทำงานมีรายได้แล้ว พวกเขาเลือกที่จะฝากเงินกับธนาคาร มากกว่านำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ โดยเฉพาะหุ้น

    อ่านมาถึงตรงนี้ เราก็น่าจะเข้าใจว่าทำไมที่ผ่านมา คนญี่ปุ่นจำนวนมากตัดสินใจถือเงินสด หรือฝากเงินไว้กับธนาคารอย่างมากและไม่ค่อยชอบการลงทุนในหุ้นมากนัก ทั้ง ๆ ที่ญี่ปุ่นก็เป็นประเทศที่มีตลาดหุ้นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

    ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
    รู้ไหมว่าปัจจุบัน เงินเยนของญี่ปุ่น เป็นสกุลเงินที่ถูกใช้ซื้อขายบิตคอยน์มากที่สุดอันดับที่ 2 ของโลก เป็นรองเพียงแค่เงินดอลลาร์สหรัฐ

    ซึ่งเราอาจบอกได้ว่า แม้คนญี่ปุ่นจำนวนมาก จะไม่ชอบสินทรัพย์เสี่ยงสูง และนิยมฝากเงินไว้ในธนาคาร
    แต่ในทางกลับกันก็มีคนญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อย ที่หันมาลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง อย่างบิตคอยน์
    ╔═══════════╗
    Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
    ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
    แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
    Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    ติดตามลงทุนแมนได้ที่
    Website - longtunman.com
    Blockdit - blockdit.com/longtunman
    Facebook - facebook.com/longtunman
    Twitter - twitter.com/longtunman
    Instagram - instagram.com/longtunman
    Line - page.line.me/longtunman
    YouTube - youtube.com/longtunman
    Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
    Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
    Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
    References:
    -https://www.stat.go.jp/english/data/handbook/pdf/2020all.pdf
    -https://data.worldbank.org/indicator/NY.GDP.MKTP.KD.ZG?locations=JP
    -https://en.wikipedia.org/wiki/Tokyo_Stock_Exchange
    -https://www.statista.com/statistics/710680/global-stock-markets-by-country/
    -https://tradingeconomics.com/japan/deposit-interest-rate
    -https://en.wikipedia.org/wiki/Demographics_of_Japan
    -https://data.worldbank.org/country/JP
    -https://en.wikipedia.org/wiki/Lost_Decades
    -https://www.statista.com/statistics/270095/inflation-rate-in-japan/
    -https://www.fsa.go.jp/frtc/kenkyu/event/20150305/s3_2.pdf
    -https://www.investopedia.com/tech/top-fiat-currencies-used-trade-bitcoin/
    -https://globalriskinsights.com/2021/06/japans-cryptocurrency-market-set-to-bloom-or-wither/

  • wither 在 Milton Goh Blog and Sermon Notes Facebook 的最佳解答

    2021-08-25 09:30:04
    有 194 人按讚

    Blessed Through Meditating on the Gospel

    “Blessed is the man who doesn’t walk in the counsel of the wicked, nor stand on the path of sinners, nor sit in the seat of scoffers; but his delight is in Yahweh’s law. On his law he meditates day and night. He will be like a tree planted by the streams of water, that produces its fruit in its season, whose leaf also does not wither. Whatever he does shall prosper. The wicked are not so, but are like the chaff which the wind drives away.” (Psalms‬ ‭1:1-4‬ ‭WEB‬‬)

    Planted by the streams of water: well-supplied and nourished in every way.

    Produces fruit in its season: doing the right thing at the right time.

    Leaf does not wither: staying healthy and young.

    Whatever he does shall prosper: things are constantly being turned around for your good—rigged for your success.

    Do you want to be like the tree in the passage above?

    The key is to meditate day and night on God’s law.

    “There is therefore now no condemnation to those who are in Christ Jesus, who don’t walk according to the flesh, but according to the Spirit. For the law of the Spirit of life in Christ Jesus made me free from the law of sin and of death.” (Romans‬ ‭8:1-2‬ ‭WEB‬‬)

    Under the New Covenant of Grace, we are no longer under the law of sin and death (the Old Covenant with the Ten Commandments), but we are now under the law of the Spirit of life that is in Christ Jesus.

    We follow the Holy Spirit who gives us the desire and ability to do God’s will.

    In other words, we are to meditate on the New Covenant of Grace and everything it entails for us.

    Let the Gospel of Grace and Peace be your delight.

    No one should have to force you to enjoy the life-giving Scriptures.

    Do you want to prosper in all things, be healthy, even as your soul prospers? Then meditate on the Gospel.

    Let your mind mull over the revelations about Jesus Christ and the Holy Spirit will show you more about Jesus as you focus on Him.

    “But we all, with unveiled face seeing the glory of the Lord as in a mirror, are transformed into the same image from glory to glory, even as from the Lord, the Spirit.” (2 Corinthians‬ ‭3:18‬ ‭WEB‬‬)

    God’s word is like a mirror because when you see Jesus in the Scriptures, you are actually looking at how you are really like in the spirit.

    As your understanding is broadened and you receive more light, you become transformed into Jesus’ image, from glory to glory—your outward man will align with the inward righteous spirit who is full of life.

    Yes, the Scriptures say to do this “day and night”, not only once a week for an hour-long sermon while playing with your distracting smartphone.

    If you take this word seriously, you will see life-changing results very soon. Be a doer of the word, not a hearer only. Meditate on the Gospel!

    Did you know that Jesus is forever young, healthy, strong, and beautiful? As you see this and many other revelations clearly, you will be transformed into the same image. Join me on a 31-day journey to discover God’s youth renewal promises for you in “Younger and Younger”: https://bit.ly/younger-and-younger

  • wither 在 Milton Goh Blog and Sermon Notes Facebook 的最讚貼文

    2021-08-14 20:00:19
    有 255 人按讚

    Restoration for your Own Mistakes

    Perhaps you are thinking, “Yes I know I can expect restoration when the devil attacks me or if I am persecuted. But I am suffering now because of my own mistake. Surely I cannot expect God to restore me? I will have to suffer and pay for my mistake.”

    Well, the Gospel of Jesus Christ is called the good news because it is really undeserved favor. Even if you are suffering losses from your own mistakes, you can still expect to receive restoration that is better in quality and/or quantity than before.

    I know it sounds too good to be true, but I am not just making that up. Look at Abraham’s story. He told his wife Sarah to lie to everyone in Gerar that she was only his sister.

    He did this because Sarah had been renewed in her youth and was exceedingly beautiful. Abraham was afraid that if the people knew that she was his wife, they would kill him and take her for themselves.

    After hearing that Sarah was only Abraham’s sister, the king of Gerar, Abimelech, took Sarah into his harem.

    Reading this story, it is clear that Abraham is the one at fault. He lied that Sarah was only his sister, and his lies stemmed from cowardice and self-preservation, endangering Sarah’s chastity.

    Yet, when God wanted to save Sarah from being violated, He threatened Abimelech and his family with death if he decided not to restore Sarah to Abraham.

    “God said to him in the dream, “Yes, I know that in the integrity of your heart you have done this, and I also withheld you from sinning against me. Therefore I didn’t allow you to touch her. Now therefore, restore the man’s wife. For he is a prophet, and he will pray for you, and you will live. If you don’t restore her, know for sure that you will die, you, and all who are yours.”” (Genesis‬ ‭20:6-7‬ ‭WEB‬‬)

    Shouldn’t it be Abraham who was threatened with death for his cowardice and lies? This is God’s Grace towards the righteous ones who are justified by faith. Even if you make a mistake, God is not punishing you for your sins—His heart is to restore you for the negative consequences of your wrong actions.

    What does restore “the man’s wife” mean? Is it just to give Sarah back to Abraham? Let us examine what Abimelech did:

    “Abimelech took sheep and cattle, male servants and female servants, and gave them to Abraham, and restored Sarah, his wife, to him. Abimelech said, “Behold, my land is before you. Dwell where it pleases you.” To Sarah he said, “Behold, I have given your brother a thousand pieces of silver. Behold, it is for you a covering of the eyes to all that are with you. In front of all you are vindicated.”” (Genesis‬ ‭20:14-16‬ ‭WEB‬‬)

    Wow, instead of just giving Sarah back to Abraham, Abimelech gave sheep, cattle, servants, land and a thousand pieces of silver to Abraham. Even though Abraham was the originator of the problem, he was enriched through his mistake.

    This is what God’s restoration looks like. You never just get the same thing back. It will always be better in quality and/or quantity when He restores you for your losses.

    Even though Abraham made mistakes in his life, he had a great relationship with God, such that the Scriptures call him “a friend of God”. Whenever God appeared and spoke to him, he paid attention, delighting in the words and meditated on them.

    An example of this would be God’s promise to him that he would have a son who was born of Sarah. Abraham never gave up on that promise, and eventually, he received the fulfillment of it.

    “Blessed is the man who doesn’t walk in the counsel of the wicked, nor stand on the path of sinners, nor sit in the seat of scoffers; but his delight is in Yahweh’s law. On his law he meditates day and night. He will be like a tree planted by the streams of water, that produces its fruit in its season, whose leaf also does not wither. Whatever he does shall prosper.” (Psalms‬ ‭1:1-3‬ ‭WEB‬‬)

    Although we are born-again and our spirits are righteous, holy and perfect like Jesus, we still live in this body of sinful flesh. Sometimes we get confused, thinking that the fleshly impulses and thoughts are our own. This causes us to make mistakes.

    However, if you have a heart for God’s word like Abraham did, even the mistakes you unwittingly make will prosper. What you did may not be good, but God can still turn things around for your good because He is for you, not against you. Since you are righteous in Christ, you can expect to receive restoration for your losses, even if they were caused by your own mistakes!

    Learn God’s plan to prosper you in all things through His restoration. If you have lost in any way, you can expect to gain much more/better back. This eBook, “All Things Made New”, may be the most comprehensive book about God’s restoration:
    https://bit.ly/prosper-through-restoration

你可能也想看看

搜尋相關網站