FFXIV Crystal Afterglow

ต่อกันกับประเด็นจากเนื้อเรื่อง 5.3 วันนี้จะคุยกันถึงเรื่อง Memory crystal

ช่วงที่ไปตามหายาชโตล่าในอามูรอทจำลอง ตัวเอกของเราได้เจอหินเปล่งประกายวางอยู่ที่พื้นอันเรียบลื่นแสนสะอาดของอาคารในอามูรอท….เป็นคริสตัลที่มีรูปทรงสมมาตรสวยงามบ่งบอกว่าถูกสร้างขึ้นด้วยฝีมือมนุษย์ บนผิวหน้ามีลวดลายสลักอยู่ดูคล้ายภาพของหมู่ดาว
.
ตะหงิดแรก ถ้ามีวางอยู่ตั้งนานแล้วเหตุใดเราถึงเพิ่งมาเห็นตอนนี้? ในเมื่อ WoL และเหล่าไซออนเคยมาสำรวจที่นี่ไปแล้ว ตะหงิดสองเมื่อ WoL เหมือนจะได้ยินเสียงแปลกๆ โดยตัวเอกของเราเข้าใจได้ทุกภาษาด้วยพลัง echo จึงตั้งสมาธิฟังดู ก็ได้ยินเป็นภาษาโบราณจริงๆ
.
ด้วยลางสังหรณ์ เรารู้สึกได้ว่าเพิ่งจะมีคนเอาหินนี้มาวางไว้ให้เจอง่ายๆโดยเจตนา แล้วก็ถูกต้องตามที่สงสัยเพราะเมื่อเดินไปอีกก็เจออีก วางไว้ทีละชิ้นสองชิ้น (ยังกับวางเหยื่อล่อกระรอก 😅) จนในที่สุดก็ได้พบกับตัวการ เพื่อนเก่าคนใหม่ของเรา หรือ ไฮโธลเดอุส นั่นเอง
.
.
.
‘หุหุ เจ้ากำลังเก็บหมู่ดาวอยู่นี่เอง?

ข้าหมายถึงคริสตัลที่เจ้าถืออยู่

เห็นลวดลายของกลุ่มดาวที่สลักอยู่ไหม

พวกมันส่องสว่างค้างฟ้าเป็นนิรันดร์ ชี้ทางให้กับผู้ที่อยู่เบื้องล่าง เหมือนกับหน้าที่ของกลุ่มผู้นำทั้งสิบสี่

คริสตัลแต่ละอันนี้บรรจุไว้ด้วยความทรงจำถึงเจ้าของตำแหน่งนั้น มันถูกสร้างโดยอันซันเดอร์

มันไม่ใช่คอนเซปต์หรอกนะ มันไม่สมบูรณ์ขนาดนั้น แต่ว่าก็มีประโยชน์ใช้สอยเวลาที่ต้องการจะปลูกฝังความจำให้กับเสี้ยววิญญาณของเจ้าของตำแหน่งเดิม

เจ้าเก็บไว้เถอะ
ข้ารู้ดีว่าเอเมทเซลค์ไม่ว่าอะไรหรอก

ว่าแต่เรื่องของเจ้าเถิด เกิดอะไรรบกวนใจเจ้า กำลังมีข้อขัดแย้งกับอิลิดิบัสใช่หรือไม่?’
.
.
มาขยายความสิ่งที่ไฮโธลเดอุสพูดกัน

อันซันเดอร์ / Unsundered
หรือที่ฉบับญี่ปุ่นเรียก ออริจินัล หมายถึงคนที่มีวิญญาณสมบูรณ์ หลบหนีการดรอปคิกทำลายโลกออกเป็นสิบสี่ส่วนของไฮเดลีนมาได้ อันซันเดอร์ในเรื่องมีสามคน คือ อิลิดิบัส เอเมท ลาฮาแบร

โดยความทรงจำในหินคริสตัลเหล่านี้ที่มีต่อตำแหน่งอื่นๆในกลุ่มผู้นำก็เป็นของพวกเขานั่นเอง มีขยายความในเรื่องสั้นตอนที่ 7 ว่าหินทั้งหมดนี้ถูกสร้างขึ้นก่อนตัวตนลาฮาแบรและอิลิดิบัสจะเริ่มเสื่อมสลาย
.
นอกจากอันซันเดอร์แล้ว ทุกวิญญาณล้วนถูกไฮเดลีนแบ่งแยกออกเป็นส่วนๆ แต่ละส่วนอาศัยอยู่ในโลกกระจก ในเรื่องจะเรียกวิญญาณที่แยกออกไปว่า shard

เหมือนที่อาร์ดเบิร์ตเป็นหนึ่งใน shard ของเรา พวกผู้นำคนอื่นๆก็มี shard เช่นกัน

ก่อนหน้านี้พวกอันซันเดอร์จะตามหา shard ของเพื่อนผู้นำเหล่านี้แล้วก็รื้อฟื้น/ปลูกฝังความจำในอดีต เพื่อจะให้กลับมารับตำแหน่งเดิม

ตอนที่แวะคุยข้างทางใน 5.0 เอเมทเคยเล่าว่าเลือกใช้คนที่ไม่เกี่ยวข้องเลยก็ได้ แต่พวกเขาอยากได้ shard ของคนเดิม เพราะคิดว่าจะยึดมั่นกับภารกิจมากกว่า คนที่เราเคยเจอมาก่อนในเรื่องก็อาทิ นาบริเอลเลส อิเกยอร์ม พวกนี้เป็น shard ที่ยกระดับขึ้นมาเป็นแอสเชี่ยน
.
.
จะว่าไปแล้วหินพวกนี้ ก็ทำหน้าที่คล้ายกับจ็อบคริสตัลของเรา ที่สะสมประสบการณ์และความชำนาญของผู้ใช้คนก่อนเอาไว้ทำให้เราใช้พลังของจ็อบนั้นๆได้

ก่อนหน้านี้เคยเขียนถึงที่มาชื่อตำแหน่งผู้นำอามูรอท ว่าเป็นการเอาชื่อ Esper ของภาค 12 มาใช้ จากข้อมูลตรงนั้นก็ทำให้สามารถจับคู่ชื่อกับราศีที่ปรากฏบนคริสตัลได้

ทีนี้มาดูกันว่าคริสตัลแต่ละอันที่เราเก็บมาได้นั้นเป็นของตำแหน่งอะไร และพูดถึงความทรงจำของใครบ้าง ไล่ตามลำดับที่เก็บ
.
.
➤ แฟนดาเนล (Fandaniel)
คริสตัลสีแดงเลือด
ตำแหน่งประจำราศีสิงห์

‘...จากวันนี้ไป ..จงนำเกียรติมาสู่...’

คริสตัลแรกที่เราเก็บได้ เป็นของแฟนดาเนล ตำแหน่งของว่าที่ตัวร้ายคนต่อไปในร่างอาซาฮี เป็นอันเดียวที่คำพูดของความทรงจำขาดๆหายๆ อาจเป็นเพราะเป็นชิ้นแรกตัวเอกยังตั้งสมาธิฟังไม่ถนัด หรือไม่แน่อาจเป็นการบ่งบอกอะไรบางอย่างถึงความทรงจำที่ไม่สมบูรณ์สำหรับแฟนดาเนล ทำให้ shard ที่ครองตำแหน่งนี้ในปัจจุบันดูไม่โหยหาอดีตและไม่ภักดีกับโซดิอาร์ค
.
.
➤ ฮัลมารุต (Halmarut)
คริสตัลสีเหลือง
ตำแหน่งประจำราศีตุลย์

‘ดูสิ ชีวิตทั้งหลายงอกเงยจากผืนดินที่อุดมสมบูรณ์ สายลมที่พัดอย่างอิสระจนถึงเมฆเบื้องบน โลกเราเต็มเปี่ยมไปด้วยชีวิตที่เปล่งประกาย ดั่งเช่นที่เป็นมา’
.
➤ อิเกยอร์ม (Igeyorhm)
คริสตัลสีเขียว
ตำแหน่งประจำราศีธนู

‘ไม่มีความสุขใดจะเทียบเท่าการใช้ความรู้และความสามารถที่เรามีเพื่อคนอื่นๆทุกคน ไม่มีสิ่งใดจะน่าภาคภูมิใจไปกว่านี้’
.
➤ ดูดาลเลฟอง (Deudalaphon)
คริสตัลสีเทา
ตำแหน่งประจำราศีมังกร

‘ข้าอยากให้ทุกคนได้มีความสุขใจตลอดไป’
.
สามก้อนนี้วางอยู่ด้วยกัน ความทรงจำที่เพื่อนๆมีต่อฮัลมารุต คือเป็นคนที่คิดถึงเรื่องของธรรมชาติ ก็ตรงกันกับใบปลิวข้อมูลในดันเจี้ยนอคาเดเมีย อไนเดอร์ (พิพิธภัณฑ์พืชและสัตว์น้ำของแอนเชี่ยน) ที่บอกว่าฮัลมารุตเป็นตำแหน่งที่เชี่ยวชาญด้านชีววิทยา คิดว่าคนจะอยู่ตำแหน่งนี้คงต้องออกแนวรักธรรมชาติสายลมแสงแดด~

ส่วนความทรงจำที่มีต่ออิเกฮ์ยอร์มในคริสตัล คือแนวคิดเสียสละต่อส่วนร่วมของเธอ โดยฉายาของตำแหน่งนี้คือ Martyr (ผู้สละชีพ)

อันสุดท้ายของดูดาลเลฟอง ไม่บอกอะไรเท่าไหร่ โดยตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งเดียวที่ยังไม่เคยถูกพูดถึงในเนื้อเรื่องของ FFXIV เลย
.
.
➤ โลกริฟ (Loghrif)
คริสตัลสีเขียวอ่อน
ตำแหน่งประจำราศีเมษ

‘หายนะมาถึงบ้านเกิดของพวกเรา แผ่นดินร่ำไห้ สวรรค์ลุกเป็นไฟ...เกิดอะไรขึ้นกับดวงดาว? เหตุใดชีวิตจึงถูกปฏิเสธ?’
.
➤ มิตรอน (Mitron)
คริสตัลสีม่วงอ่อน
ตำแหน่งประจำราศีพฤษ

‘รากเหง้าของเราคือที่นี่..หยั่งรากลึกอยู่ที่ดวงดาวนี้ เรา..เราจะต้องหาความหวังต่อไปด้วยกัน ’
.
เอเมทเคยบอกว่าสองคนนี้สนิทกัน พอมีคริสตัลก็จับคู่ไว้อยู่ด้วยกันอีก เป็นคู่หูที่รับหน้าที่ดูแลเดอะเฟิสต์แล้วสุดท้ายถูกพวกอาร์ดเบิร์ตกำจัดไป ก่อนจะเกิด The Flood of Light ที่เกือบจะทำลายเดอะเฟิสต์
.
.
➤ นาบริอาเลส (Nabriales)
คริสตัลสีน้ำเงิน
ตำแหน่งประจำราศีพิจิก

‘โลกกำลัง มอดไหม้ พังทลาย สลายไป... ข้าได้ยินเสียงโหยหวนของเหล่าพี่น้อง..ก่อนที่จะกลายเป็นเพียงความเงียบงัน’
.
➤ เอมเมอโรโลธ์ (Emmerololth)
คริสตัลสีฟ้าอมเขียว
ตำแหน่งประจำราศีกุมภ์

‘เราจะช่วยทุกคนให้รอดพ้น ข้าขอสาบาน พวกเจ้าจะไม่ต้องหลั่งน้ำตาอีก’
.
สองคนที่เคยมีบทแล้ว และหมดบทไปแล้วด้วย (คู่อาภัพเหรอ…) ของนาบริอาเลสพูดถึงความสิ้นหวังตอนเจอมนุษย์เจอภัยพิบัติ ผู้คนกรีดร้องด้วยความทรมานและสิ้นหวังแต่สุดท้ายก็เงียบหมด (ตาย) ส่วนเอมเมอโรโลธ์นั้นมีบทในเควสยูเรก้า แต่ไม่ได้ปรากฏตัว
.
.
➤ ลาฮาแบร (Lahabrea)
คริสตัลสีฟ้าใส
ตำแหน่งประจำราศีมีน

‘ถึงเวลาที่เราจะต้องเปลี่ยนกฏเกณฑ์ของสรรค์สร้าง เพื่อช่วยดวงดาวของเรา’
.
➤ อิลิดิบัส (Elidibus)
คริสตัลไร้สี
ตำแหน่งประจำกลุ่มดาวคนแบกงู

‘ด้วยเลือดเนื้อและวิญญาณของข้า … จะนำทางรอดมาสู่เรา’
.
➤ อัลติม่า (Altima)
คริสตัลสีชมพู
ตำแหน่งประจำราศีกันย์

‘วิญญาณของข้ากำลังเปลี่ยนแปลง..อย่างช้าๆ พลังนี้..ช่างน่าเกรงขาม แต่ว่าเส้นทางนี้..ถูกต้องแล้ว’
.
การที่มีคริสตัลของอันซันเดอร์อยู่ด้วยนั้นน่าสนใจ เพราะอันซันเดอร์ทั้งสามคนไม่มีชาร์ด พวกเขาอาจเคยคิดเผื่อไว้ว่าถ้าตัวเองตาย ก็จะได้ให้เพื่อนอันซันเดอร์คนอื่นเอาคริสตัลนี้ไปสร้างคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาแทน คำพูดของลาฮาแบรเหมือนจะชี้ว่าเขาเป็นต้นคิดเรื่องการอัญเชิญจิตของดวงดาว อิลิดิบัสก็คิดถึงบทบาทของตนเองในฐานะหัวใจ

ส่วนความทรงจำถึงอัลติม่า (ชื่อคล้ายกับบอส Ultima ในเหรดอิวาลิซ แต่เป็นคนละคนกัน) ไม่แน่ใจว่าเป็นคำพูดตอนที่อัญเชิญโซดิอาร์ค หรือพูดถึงตอนที่กำลังถูก tempered หลังจากเชิญมาแล้ว
.
.
➤ พาชทารอต์ (Pashtarot)
คริสตัลสีแดงสด
ตำแหน่งประจำราศีกรกฎ

‘หายนะผ่านพ้นไป แต่ก็แลกด้วยการเสียสละที่ยิ่งใหญ่...ทุกคนอันเป็นที่รัก ผองเพื่อนที่แสนดี ข้าภาวนาให้เราได้พบกันอีกครั้ง ใต้ท้องฟ้าสีคราม’

เป็นแอสเซี่ยนที่เคยปรากฏตัวใน ARR (แว่บเดียวในคัทซีนจบ 2.0 ) ไม่เคยพูดถึงว่าตายแล้ว ก็ไม่รู้ว่าปัจจุบันยังรอดอยู่หรือเปล่า แต่เราจะเคยเห็นไกอัสห้อยหน้ากากแดงอยู่สองอัน แล้วเขาก็เคลมว่าฆ่าแอสเซี่ยนไปบางคนแล้ว แต่เพราะไกอัสไม่น่าจะรู้วิธีใช้อูราไซต์...ที่ทำไปอาจจะแค่กำจัดกายเนื้อเท่านั้น
.
.
และก็อันสุดท้ายที่เก็บได้ก่อนไฮโธลเดอุสจะโผล่มาคุยตามด้านบน

➤ เอเมทเซลค์ (Emet-Selch)
คริสตัลสีม่วง
ตำแหน่งประจำราศีเมถุน

‘ไม่มีแล้ว ประกายแสงของชีวิตที่รุ่งโรจน์ จะมีก็แต่แสงอ่อนจางของสิ่งมีชีวิตที่บิดเบี้ยว

ต้องจบกันแบบนี้รึ? การมีอยู่ของพวกเรา

พวกเราที่รักดาวดวงนี้ยิ่งกว่ายิ่งใด

ไม่
ข้าไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่’
.
.
เป็นความทรงจำตอนโลกเพิ่งโดนไฮเดลีน sundered เอเมทที่มีสายตาพิเศษสามารถพินิจสีและความเข้มข้นของวิญญาณ ได้เห็นว่าชีวิตต่างๆกลายเป็นเศษสะท้อนของเหล่าแอนเชี่ยน และการมีอยู่ของมนุษย์ต้นแบบกำลังจะถูกลืมไป ทำให้รับไม่ได้
.
.
.
หินทั้งสิบสามอันนี้ถูกสร้างมานานแล้วตั้งแต่ตอนที่โลกถูกแยกส่วน อนุมานได้ว่าพอถึงช่วงท้ายเนื้อเรื่อง 5.0 ที่เราลงมาที่เทมเพสต์ เอเมทก็คริสตัลทั้งหลายเอามาฝาก shade ของไฮโธลเดอุสไว้

คิดว่าเอเมทที่ไตร่ตรองผลลัพธ์ต่างๆคงจะฝากเผื่อไว้ ถ้าตัวเองชนะ กำจัดเราได้ ก็จะมาเอาคืน แต่ถ้าแพ้/ตายก็เป็นกรณีนี้

ไฮโธลเดอุสก็พูดเองว่าที่เอาหินทั้งหมดมาให้เรานั้น ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำตามประสงค์ของตัวเอง รึทำตามที่เอเมทสร้างเขาขึ้นมา แต่ไม่ว่าจะอย่างไหน สุดท้ายแล้วทั้งสองความตั้งใจนี้ก็มีปลายทางอย่างเดียวกัน คือส่งต่อความทรงจำให้กับเรา ซึ่งเราก็ได้ใช้มันช่วยกระตุ้นความจำของอิลิดิบัสได้สำเร็จ ทำให้เขาได้ระลึกถึงเพื่อนๆเป็นครั้งสุดท้าย

ครั้งหน้ามาต่อกันกับคริสตัลอันสุดท้าย อันที่สิบสี่ซึ่งพิเศษกว่าคนอื่น เพราะถูกเอเมทสร้างขึ้นมาเป็นการลับโดยที่อันซันเดอร์อีกสองคนไม่รู้ ทำหน้าที่เป็นหินที่ระลึกถึงเพื่อนสุดรัก และบรรจุความสามารถของอาเซ็มไว้

ป.ล. ถ้าใครลืมไปแล้ว คอนเซปต์ คือแนวความคิดในการสร้างสิ่งต่างๆของแอนเชี่ยน เปรียบเทียบง่ายๆก็เหมือนแม่พิมพ์ในการสร้างของน่ะเอง

ส่วนคำว่า แอนเชี่ยน (Ancients) =/= แอสเซี่ยน (Ascians) คำแรกคือคนโบราณที่มีวิญญาณสมบูรณ์ ส่วนแอสเซี่ยนคือกลุ่มคนที่พยายามรวมโลกกลับคืนหลังเหตุการณ์ Sundering สรุปคือ แอสเซี่ยนทุกคนเคยเป็นแอนเชี่ยน ส่วนแอนเชี่ยนเป็นคำใช้เรียกคนโบราณทั่วไป

#FFXIV #ShadowBringers

-----------------------------------
อื่นๆของ FFXIV

สรุปเนื้อเรื่อง 5.3
facebook.com/pg/taepoppuri/photos/?tab=album&album_id=3355024771243615
บทแปลเรื่องสั้น
facebook.com/pg/taepoppuri/photos/?tab=album&album_id=1394794957266616

FFXIV Shadowbringers
โคลงกำสรวลของเฮดีส
.
‘Primal Extreme’ ถือเป็นคอนเทนต์ความยากระดับสูงกว่าปรกติ ถึงจะไม่ยากเท่าเหรดซาเวจชั้นท้ายๆ แต่ก็ท้าทายสมชื่อ ‘เอ็กซ์ตรีม’ นั่นแหล่ะ

สำหรับไพรมอลเอ็กซ์ตรีมใน 5.1 นี้ ก็ตามธรรมเนียมแพทช์ใหญ่แพทช์แรกหลังออก expansion ที่จะต้องเป็นลาสบอสของภาคนั้นๆ ในครั้งนี้ก็คือ ‘เฮดีส’!
.
ตามเนื้อหาในเกม WoL ไม่อาจชนะได้เลยหากไม่ได้ใช้ศิลาอูราไซต์ บวกพลังของไซออนทุกคน บวกพลังของนักรบแห่งแสงจากมิติอื่นอีกเจ็ดคน บวกพลังของไลท์วาร์เดนที่ดูดซับมาทั้งหกตน และบวกเสี้ยววิญญาณของอาร์ดเบิร์ต บวกเยอะเหลือเกิน….
.
แต่นั่นมันก็แค่ใน narrative การเล่นจริงมันคนละเรื่อง~ สำหรับเฮดีสโหมดสามัญในเนื้อเรื่องนั้น เน้นความอลังการแต่ไม่ได้ยากไม่ได้ลำบากอะไรนัก ถือว่าง่ายกว่าชินริวแบบนอร์มอล ก็คิดว่าแบบเอ็กซ์ตรีมก็คงจะไม่ยากไปกว่าชินริวเอ็กซ์ล่ะนะ
.
.
…หรือเปล่า?
.
.
มาดูคำบรรยาย Minstrel's Ballad กันก่อนดีกว่า

*Minstrel หรือกวีพเนจร คือตัวละครที่เป็นตัวแทนของผู้กำกับโยชิพี จะมีข้อความมาบอกกับเราในเหตุการณ์สำคัญต่างๆ หรืออีเวนท์ครบรอบวันเกิดเกมแต่ละปี อาทิ มาบอกคำขอบคุณเวลาจบเกมแต่ละภาค คำใบ้ของเนื้อเรื่องหลักที่จะมาถึง และเล่าเรื่องของดิวตี้ระดับเอ็กซ์ตรีมกับอัลติเมท
.
.
.
===========
Hades’s Elegy
===========

“โคลงกำสรวลที่กวีพเนจรจะขับขานบทนี้
เป็นเพลงส่งวิญญาณของ’ผู้กล้า’คนหนึ่ง

ชายผู้มีชีวิตมานับร้อยพัน ยึดเหนี่ยวความหวังอันล่องลอยรางเลือน มิเคยทอดทิ้งภาระซึ่งสาบานแก่ผองเพื่อนที่จากไปแสนนาน

ชายผู้ยืนหยัดอย่างภาคภูมิ และได้เปล่งนามของตนในการต่อสู้ที่ศัตรูจะปลิดชีพเขา เหมือนเงามืดที่ถูกดับลงด้วยแสงสว่าง

กวีพเนจรขอหยิบยืมพิธีส่งวิญญาณมาจากเหล่านักรบพรแห่งราตรี และบรรจงแต่งเพลงอาลัยนี้เพื่อเป็นเกียรติแก่ศัตรูผู้กล้าคนนั้น…
ตำนานแห่งชัยชนะแสนโศก
และการต่อสู้ที่จะไม่มีวันถูกลืมเลือน”
.
.
.
ความคิดแรก : ในที่สุดโคจิฟอกซ์ก็ยอมแพ้! ชื่อเควสไม่ลงท้ายด้วยสระเอ(น)แล้วว้อย ที่ผ่านมาไพรมอลเอ็กซ์หลักตัวสำคัญจะชื่อคล้องกัน เช่น อัลติม่าส์เบน ธอร์ดันส์เรน นิดฮอกเรจ ชินริวโดเมน ทสึคุโยมิเพน เวพ่อนส์รีเฟรน
.
ความคิดที่สอง : งวดนี้มาแปลกดี เป็นครั้งแรกนะเนี่ยจัดงานศพให้ตัวร้าย กวีบอกว่ายืมพิธีระลึกนี้มาจากนักรบแห่งพรราตรี (ไนท์เบลส) งานศพเอเม็ทผู้ sassy ตัวพ่อ แน่นอนว่าทุกคนโยนความสำรวมทิ้งไป แต่งตัวกันเต็มที่ กองทัพ2Bชุดกบเกิบหัวปลาดุกตัวมูเกิ้ล หมดทุกเฉดสีแพนโทน ลุงจะดีใจหรือเสียใจวะเนี่ยย
.
ความคิดที่สาม : งานศพใครกันแน่คะ เราว่างานศพไอ้แปดตัวที่คิวเข้าดิวตี้มาเจอกันโดยไม่รู้จักมักจี่เนี่ยแหล่ะ มาดูแมคคานิคและประสบการณ์การเล่นแบบ pug กัน
.
.
.
=เฮดีส เอ็กซ์ตรีม=

ความเสี่ยงตี้ล่ม ★★★★
ความชอบโดยรวม ★★★★★

การสู้กับเหล่าบอสใน FFXIV นอกจากโรเตชั่นของแต่ละจ๊อบรวมไปถึงการตีหลังตีข้างที่ต้องเล่นเป็นเองอยู่แล้วเนี่ย เราแบ่งของเราเองว่าลักษณะแมคคานิคในเกมนี้แบ่งเป็นสองขั้นคือ
.
1.เน้นรีเฟลกซ์ คณิตคิดไว ใช้ความเร็วของการตอบสนอง เช่นพวกหลบท่า AoE หันหน้าหลบตาหิน วิ่งหาจุดยืนล้างดีบัฟ เป็นต้น ไอ้พวกนี้ไม่ถือว่ายากเท่าไหร่ ถ้าเข้าใจวิธีรับมือแล้วก็ปร๋อ เหมือนขี่จักรยานเป็นครั้งเดียวก็ ez gg
.
2.เน้นมัลติทาสก์ มายากเอาตรงนี้ล่ะ มันคือไอ้ข้างบนหลายอย่างพร้อมกัน หรือต้องทำอะไรติดๆกัน ต้องใช้ทั้งความจำและสมาธิ เช่น บอสไม่ขึ้นวง AoE ใบ้ให้ ต้องจำเอาเอง หรือขึ้นชื่อท่ามาทีเดียวแต่ออกเป็นชุด เป็นต้น
.
แมคคานิคพวกนี้มองในกระดาษเหมือนจะง่าย แต่จะยากตอนต้องทำ เพราะพอเกิดอะไรหลายๆอย่างพร้อมกันคนเล่นมักจะสติไม่มาปัญญาเตลิด...บางแมคคานิคเจอแล้วก็เกิดคำถาม คุณจะเรียกร้องอะไรจากฉันเยอะแยะหาาา เหมือนให้ทำกับข้าวพร้อมปั่นจักรยานล้อเดียว นี่แหล่ะคือความยากของระดับเอ็กซ์ตรีมและซาเวจ
.
แน่นอนว่าในแต่ละบอสไฟต์จะมีมิติความซับซ้อนที่ต่างกันตามความใจร้ายของคนออกแบบไฟต์นั้นๆ บางตัวเน้นสติแต่ไม่ต้องรีบ บางตัวเน้นรีบด้วยจำด้วย บลาๆ สำหรับคนเล่นก็เช่นกันว่าแต่ละคนถนัดไม่เหมือนกัน
.
มาถึงเฮดีส เป็นไฟต์ที่เน้นสติ ถึงจะมีทรานสิชั่นเยอะมีคัทซีนเยอะ บอสพูดมากพูดนาน แกะหนมกินรอได้เลย แต่พอถึงจุดที่ต้องสู้แล้วทุกอย่างเกิดขึ้นไวว่องจนหัวหมุน เพราะแมคคานิคมาต่อๆกันเป็นชุด
.
จุดเด่นของไฟต์นี้อย่างแรกเลยคือ เฟสเยอะมาก(กกก) น่าจะเป็นไพรมอลที่เฟสเยอะที่สุด มีหลายร่างและมีลูกน้อง (add phase) ซึ่งปกติลูกน้องในไฟต์อื่นมักๆจะเป็นกระสอบทราย แต่ในไฟต์นี้ลูกน้องเองก็มีแมคคานิคที่สามารถไวป์ทั้งปาร์ตี้ได้ทุกตัว และแมคคานิคไม่ลูป ขึ้นเฟสใหม่ก็เปลี่ยนแมค พูดง่ายๆคือเป็นไฟต์ที่ซับซ้อน
.
จุดเด่นอย่างที่สองคือ มีเอนเรจ’ทุกเฟส’ สู้ๆไปถ้ามีคนตายบ่อยดาเมจไม่ถึง ลุงจะรำคาญพวกเอ็งทำอะไรกันชักช้าร่ำไรแล้วระเบิดเป็นผงยกวง ไปเริ่มใหม่ที่เฟสแรก
.
ที่ผ่านมา ไพรมอลเอ็กซ์ส่วนมากนั้นคนทำผิดแมคคานิคบ้างก็ไม่ถึงกับตายยกตี้ ถูๆไถๆไปได้ มีแค่จุดพีคๆในไฟต์อันสองอันที่ห้ามพลาดเด็ดขาด

แต่สำหรับเฮดีส จุดที่พลาดแล้ววินาศสันตะโรยกตี้ทันทีทันใจมีเยอะมาก (Instant wipe) และแจกจ่ายความชิหัยได้ทั่วถึงกันทุกโรล จะ dps, healer, tank มีจุดทำพังได้หมด ว่าแล้วก็มาดูแมคคานิคคร่าวๆ

========================

=Phase แรก เฮดีส=
.
ร่างแรกคล้ายกับนอร์มอล เพิ่มเติมคือเบิ้ลท่า เฮดีสจะเสกบัฟดับเบิ้ลใส่ตัวเอง ทุกท่าที่ออกมาจะออกติดกันสองรอบ รวมไปถึงท่าสุดหรรษาอย่าง Bad Faith คือวง AoE ขาวๆหน้าตาเหมือนแผ่นโรตีหรือพิซซ่านาโปลีจะหล่นลงมารอบฉาก สุ่มสลับที่กันไปทั้งหมด ปกติมี 8+1 อัน แต่เพราะมีบัฟดับเบิ้ลเลยกลายเป็น 18 อัน
.
ทุกคนก็จะวิ่งหนีตายจ้าละหวั่น หาได้มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันไม่ คือไปทางไหนก็ได้ที่ไม่โดนวงโรตี ...เกิดเป็นคำถามว่าแบลคเมจเล่นไงวะคะ เอาเวลาที่ไหนไปยืนร่าย แต่ช่างเถอะ เป็นมีลีชีวิตก็ลำบากพอกัน กดเข้าไปทรูนอร์ธ เพราะบอสจะหันตามแทงค์หมุนเป็นเบย์เบลด ทำโพสิชั่นยากมาก
.
เฟสนี้ไม่ยากอะไรแต่ก็มีเอนเรจ...ใช่แล้ว มีเอนเรจตั้งแต่เฟสแรกเนี่ยล่ะ บอสต้องเลือดลดถึง 10% หลังจบแทงค์บัสเตอร์ครั้งที่สอง ไม่งั้นลุงจะส่งพวกเราไปคุยกับรากมะม่วง ส่วนใหญ่ถ้าติดเอนเรจตรงนี้กันก็ยุบตี้เลย เฉกเช่นจะไปฮาล์ฟมาราธอนแต่แค่เดินไปเซเว่นหน้าบ้านก็เหนื่อย จงล้มเลิกแผนการซะเถอะ
.
.
=Phase สอง ตัวแทนหมู่บ้าน=
.
เฟสนี้บอสจะเรียกตัวแทนหมู่บ้านมาให้สู้ แอนเชี่ยนตัวแรกคือ นาบริเอเลส ใช้แมคคานิคจากไครซาลิส แทงค์ต้องวิ่งไปรับเมเทโอที่ตกลงมา เพิ่มเติมคือมีผีปอบมายืนเล็ง dps สี่คน ยิงดีบัฟใส่ ซึ่งเหล่า dps ต้องเล็งให้ดีบัฟหันไปสาดทางอื่นที่ไม่โดนแทงค์ ไม่งั้นแทงค์จะโดนเมเทโอทับขี้แตกตาย และถ้ารับเมเทโอไม่ทัน ทุกคนก็ไวป์
.
ต่อมาเป็นคู่หูติงต๊อง ลาฮาแบร กับ อิเกยอร์ม จุดอันตรายคือ ‘ห้ามเอามันสองคนมาใกล้กัน’ ถ้าเขาและเธอได้ลิงค์กันเมื่อไหร่คูลดาวน์ทั้งตี้ก็เอาไม่อยู่ เพราะพี่แกจะตบทีละสามแสน ต้องแทงค์แยกเท่านั้น ไม่งั้นก็ไวป์อีกแหล่ะ
.
ซึ่งสองตัวนี้จะมีบัฟไฟกับน้ำแข็งตามลำดับ คนเล่นก็จะมีบัฟติดตัวเช่นกัน โดยต้องตีตัวที่บัฟตรงข้ามกับเราถึงจะตีเข้า เพิ่มความวุ่นวายอีกนิดด้วยการที่บอสจะสลับบัฟเล่นๆระหว่างสู้ทำให้แทงค์ต้องผลัดตัวกัน ระหว่างนี้จะมีลิงค์ไฟกับน้ำแข็งด้วย ก็เห็นแก่ชีวิตเพื่อนร่วมตี้ วิ่งไปตัดเส้นให้เขาด้วย
.
พอตีสองตัวจนน่วม ลาฮาแบรกับอิเกยอร์มก็จะร่วมร่างเฮนชิน กลายเป็นแอสเชี่ยนไพรม์ พร้อมกับแมคคานิคที่วันแรกๆนั้นทำตี้ล่มเยอะที่สุดคือ Universal Manipulation ...อธิบายยาก รวบรัดตัดความเอาเป็นว่าแทงค์กับฮีลเลอร์ต้องยืนตามตำแหน่งให้วง AoE รอบตัวไปทับ dps แบบพอเหมาะพอเจาะ
.
และในขณะเดียวกันทั้งตี้ต้องไม่มองหน้ากันมิงั้นเป็นหิน ...โอ่ย ปัญหาเยอะเหลือเกิน ไอ้นี่ยืนเบี้ยว AoE ไปทับตรีนอีกคน ไอ้นี่หันช้าตัวแข็งตาย ไอ้นี่ยืนห่างไปกระเด็นตกเหว ก็โอบอุ้มกันไปให้ผ่าน dps check เฮดีสจะกลับมาอีกรอบ
.
.
=Phase สาม ร่างที่แท้จริง=
.
ความรู้สึกแด่เฟสนี้...รอเปลี่ยนเฟสตั้งนานจะไวป์ตรงนี้ไม่ได้นะว้อยย เฮดีสจะกลับมาในร่างบิ๊กบอย แขนใหญ่บังจอเกือบมิด...พร้อมเสาเมเทโอให้แทงค์วิ่งรับ สร้างคุกขังฮีลเลอร์ต้องตีให้แตก เสร็จแล้วจะเล็งเรนจ์ยิงวงบลีดใส่ เรนจ์สองคนต้องไปล่อขอบฉากไม่ให้โดนคนอื่น ที่เหลือก็รวมกลุ่มไปรับลำแสงที่เล็งฮีลเลอร์
.
เรียกว่าทุกคนมีหน้าที่ต้องช่วยกันทำมาหากินพร้อมกับหลบแฉก AoE ไปด้วย...ฝรั่งเรียกว่าแมคคานิค too many shits happen แทบอยากจะใส่แว่นดำเล่น แสบตาโว้ย หมดตรงนี้ได้ก็จะเข้าช่วงสุดท้าย
.
.
=Last Phase ร่างที่แท้จริงของแท้จริงอีกที=
.
เฟสสุดท้ายสั้นง่ายได้ใจความพร้อมฉากอลังการแสงสีเสียง เฮดีสจะปล่อยเอ็กซาแฟลร์พร้อมกันสองข้างแบบดักควาย คือถ้ามัวแต่มองของฝั่งตัวเองจะโดนแฟลร์จากอีกฝั่งชนหน้า ใครหลบไม่เป็นจะปรากฏหลักฐานคือเป็นศพนอนกองอยู่ที่พื้น…
.
แถมด้วยแมคคานิคแทงค์อันสุดท้ายให้ยืนในเสารับแขนเฮดีสที่ทุบลงมา ไม่งั้นทุกคนจะไปเกิดใหม่ตามชาวอามูรอท ทั้งที่เฟสนี้สั้นๆแต่ก็น่าเศร้าที่ยังมีไวป์กันได้ เพราะเป็นฮีลเชครอบสุดท้ายด้วย

ผ่านมาถึงตรงนี้ หากตีไม่ทันก็เอนเรจ กลับไป ♫ The road that we walk…. was lost in the flooood~

========================
.
.
=ความท้าทาย=

ถือเป็นไพรมอลที่สนุกมากตัวนึง ความยากก็เป็นไพรมอล high tier แบบธอร์ดันหรือชินริวเอ็กซ์ตรีมตามที่โยชิพีบอก จะรู้สึกยากมากยากน้อยต่างกันนิดหน่อยขึ้นกับความถนัดส่วนบุคคล

เปรียบเทียบกับตัวอื่น ตอน blind prog ไฟต์นี้นี่โหดมากกว่าตัวอื่นโขเลย เพราะแมคคานิค instant wipe เยอะ แต่พอผ่านหมดเข้าใจแมคคานิคแล้ว เรารู้สึกว่าไฟต์นี้ง่ายกว่าชินริวเยอะด้วยสองสาเหตุ
.
1.เล่นช่วงแรก คนมาลง aim to clear มีแต่พวกฮาร์ดคอร์ โอเวอร์เกียร์ ถืออาวุธเอเดนทุกคน ถ้ามาแบบ ilv450 โล้นๆทั้งตี้เลยนี่คงหืดขึ้นคอ เพราะ dps check, heal check บ่อย
.
2.ฐานผู้เล่นประสบการณ์เยอะขึ้น พูดง่ายๆคือคนเล่นเกมนี้เล่นเก่งขึ้นน่ะแหล่ะ แมคคานิคเดียวกัน เอามาให้เล่นตอนนี้กับให้เล่นสองปีก่อนผลลัพธ์ต่างกันแน่ ไฟต์นี้ให้เอาไปเล่นตอนเฮฟเว่นสวาร์ดคงจะโดนคนด่าว่ายากไป กลับกันตอนนี้ย้อนไปเล่นคอนเทนต์เก่าทำไมมันง๊ายง่ายจังฟะ ทีเมื่อก่อนไวป์เอาๆ
.
.
.
สรุปรวมๆแล้วเราว่ายากกว่า E1S แต่ไม่เท่า E2S ถ้าใครไม่เคยลงซาเวจแต่ลังเลอยากลงไพรมอลเอ็กซ์ก็อยากให้ไปลองดูค่ะ สนุกในระดับที่ไม่ได้สิ้นหวัง ศึกษาไฟต์แล้วรู้หน้าที่ตัวเองคนทั่วไปก็เล่นได้ นอกจากของดรอปที่ถือว่าคุ้มแล้วฉากกับบอสก็ออกแบบมาอลังการสวยงามดี
.
.
อีกอย่างที่ชอบมากคือไฟต์นี้ดรอปโทเค่นสองอัน! จะฟาร์มอาวุธหรือฟาร์มมังกรก็ไวกว่าเดิม ถึงไฟต์จะยาว ประมาณสิบสามนาที แต่เทียบกับไพรมอลอื่นที่ยาวเก้านาทีแล้วดรอปอันเดียว สัดส่วนเวลาที่เล่นต่อโทเค่นก็ไวกว่าเยอะ
.
.
.
ป.ล. ชื่อ Hades ต้นฉบับออกเสียงเฮดีส ก็พยายามจะเขียนคำอ่านให้ใกล้เคียงและถูกต้องที่สุด แม้จะชินกับฮาเดสมากกว่า

ป.ล.2 ทำไมลาฮาแบรตัวปลอม เก่งกว่าตัวจริงวะ…กวีโยชิพีเล่าได้เว่อวังมาก กลายเป็น The revenge of Lahabrea ไปเลย ทำตี้ฝึกพังยับทั้งใน RF และ PF เป็นหนึ่งในเหตุที่รีบผ่านรีบเก็บของที่อยากได้ดีกว่า กลัวเหมือนชินริวที่พอไปอยู่ใน DF แล้วกลายเป็น hopeless land มีแต่ความสิ้นหวัง 😱

#FFXIV #Shadowbringers

FFXIV Shadowbringers
โคลงกำสรวลของเฮดีส
.
‘Primal Extreme’ ถือเป็นคอนเทนต์ความยากระดับสูงกว่าปรกติ ถึงจะไม่ยากเท่าเหรดซาเวจชั้นท้ายๆ แต่ก็ท้าทายสมชื่อ ‘เอ็กซ์ตรีม’ นั่นแหล่ะ

สำหรับไพรมอลเอ็กซ์ตรีมใน 5.1 นี้ ก็ตามธรรมเนียมแพทช์ใหญ่แพทช์แรกหลังออก expansion ที่จะต้องเป็นลาสบอสของภาคนั้นๆ ในครั้งนี้ก็คือ ‘เฮดีส’!
.
ตามเนื้อหาในเกม WoL ไม่อาจชนะได้เลยหากไม่ได้ใช้ศิลาอูราไซต์ บวกพลังของไซออนทุกคน บวกพลังของนักรบแห่งแสงจากมิติอื่นอีกเจ็ดคน บวกพลังของไลท์วาร์เดนที่ดูดซับมาทั้งหกตน และบวกเสี้ยววิญญาณของอาร์ดเบิร์ต บวกเยอะเหลือเกิน….
.
แต่นั่นมันก็แค่ใน narrative การเล่นจริงมันคนละเรื่อง~ สำหรับเฮดีสโหมดสามัญในเนื้อเรื่องนั้น เน้นความอลังการแต่ไม่ได้ยากไม่ได้ลำบากอะไรนัก ถือว่าง่ายกว่าชินริวแบบนอร์มอล ก็คิดว่าแบบเอ็กซ์ตรีมก็คงจะไม่ยากไปกว่าชินริวเอ็กซ์ล่ะนะ
.
.
…หรือเปล่า?
.
.
มาดูคำบรรยาย Minstrel's Ballad กันก่อนดีกว่า

*Minstrel หรือกวีพเนจร คือตัวละครที่เป็นตัวแทนของผู้กำกับโยชิพี จะมีข้อความมาบอกกับเราในเหตุการณ์สำคัญต่างๆ หรืออีเวนท์ครบรอบวันเกิดเกมแต่ละปี อาทิ มาบอกคำขอบคุณเวลาจบเกมแต่ละภาค คำใบ้ของเนื้อเรื่องหลักที่จะมาถึง และเล่าเรื่องของดิวตี้ระดับเอ็กซ์ตรีมกับอัลติเมท
.
.
.
===========
Hades’s Elegy
===========

“โคลงกำสรวลที่กวีพเนจรจะขับขานบทนี้
เป็นเพลงส่งวิญญาณของ’ผู้กล้า’คนหนึ่ง

ชายผู้มีชีวิตมานับร้อยพัน ยึดเหนี่ยวความหวังอันล่องลอยรางเลือน มิเคยทอดทิ้งภาระซึ่งสาบานแก่ผองเพื่อนที่จากไปแสนนาน

ชายผู้ยืนหยัดอย่างภาคภูมิ และได้เปล่งนามของตนในการต่อสู้ที่ศัตรูจะปลิดชีพเขา เหมือนเงามืดที่ถูกดับลงด้วยแสงสว่าง

กวีพเนจรขอหยิบยืมพิธีส่งวิญญาณมาจากเหล่านักรบพรแห่งราตรี และบรรจงแต่งเพลงอาลัยนี้เพื่อเป็นเกียรติแก่ศัตรูผู้กล้าคนนั้น…
ตำนานแห่งชัยชนะแสนโศก
และการต่อสู้ที่จะไม่มีวันถูกลืมเลือน”
.
.
.
ความคิดแรก : ในที่สุดโคจิฟอกซ์ก็ยอมแพ้! ชื่อเควสไม่ลงท้ายด้วยสระเอ(น)แล้วว้อย ที่ผ่านมาไพรมอลเอ็กซ์หลักตัวสำคัญจะชื่อคล้องกัน เช่น อัลติม่าส์เบน ธอร์ดันส์เรน นิดฮอกเรจ ชินริวโดเมน ทสึคุโยมิเพน เวพ่อนส์รีเฟรน
.
ความคิดที่สอง : งวดนี้มาแปลกดี เป็นครั้งแรกนะเนี่ยจัดงานศพให้ตัวร้าย กวีบอกว่ายืมพิธีระลึกนี้มาจากนักรบแห่งพรราตรี (ไนท์เบลส) งานศพเอเม็ทผู้ sassy ตัวพ่อ แน่นอนว่าทุกคนโยนความสำรวมทิ้งไป แต่งตัวกันเต็มที่ กองทัพ2Bชุดกบเกิบหัวปลาดุกตัวมูเกิ้ล หมดทุกเฉดสีแพนโทน ลุงจะดีใจหรือเสียใจวะเนี่ยย
.
ความคิดที่สาม : งานศพใครกันแน่คะ เราว่างานศพไอ้แปดตัวที่คิวเข้าดิวตี้มาเจอกันโดยไม่รู้จักมักจี่เนี่ยแหล่ะ มาดูแมคคานิคและประสบการณ์การเล่นแบบ pug กัน
.
.
.
=เฮดีส เอ็กซ์ตรีม=

ความเสี่ยงตี้ล่ม ★★★★
ความชอบโดยรวม ★★★★★

การสู้กับเหล่าบอสใน FFXIV นอกจากโรเตชั่นของแต่ละจ๊อบรวมไปถึงการตีหลังตีข้างที่ต้องเล่นเป็นเองอยู่แล้วเนี่ย เราแบ่งของเราเองว่าลักษณะแมคคานิคในเกมนี้แบ่งเป็นสองขั้นคือ
.
1.เน้นรีเฟลกซ์ คณิตคิดไว ใช้ความเร็วของการตอบสนอง เช่นพวกหลบท่า AoE หันหน้าหลบตาหิน วิ่งหาจุดยืนล้างดีบัฟ เป็นต้น ไอ้พวกนี้ไม่ถือว่ายากเท่าไหร่ ถ้าเข้าใจวิธีรับมือแล้วก็ปร๋อ เหมือนขี่จักรยานเป็นครั้งเดียวก็ ez gg
.
2.เน้นมัลติทาสก์ มายากเอาตรงนี้ล่ะ มันคือไอ้ข้างบนหลายอย่างพร้อมกัน หรือต้องทำอะไรติดๆกัน ต้องใช้ทั้งความจำและสมาธิ เช่น บอสไม่ขึ้นวง AoE ใบ้ให้ ต้องจำเอาเอง หรือขึ้นชื่อท่ามาทีเดียวแต่ออกเป็นชุด เป็นต้น
.
แมคคานิคพวกนี้มองในกระดาษเหมือนจะง่าย แต่จะยากตอนต้องทำ เพราะพอเกิดอะไรหลายๆอย่างพร้อมกันคนเล่นมักจะสติไม่มาปัญญาเตลิด...บางแมคคานิคเจอแล้วก็เกิดคำถาม คุณจะเรียกร้องอะไรจากฉันเยอะแยะหาาา เหมือนให้ทำกับข้าวพร้อมปั่นจักรยานล้อเดียว นี่แหล่ะคือความยากของระดับเอ็กซ์ตรีมและซาเวจ
.
แน่นอนว่าในแต่ละบอสไฟต์จะมีมิติความซับซ้อนที่ต่างกันตามความใจร้ายของคนออกแบบไฟต์นั้นๆ บางตัวเน้นสติแต่ไม่ต้องรีบ บางตัวเน้นรีบด้วยจำด้วย บลาๆ สำหรับคนเล่นก็เช่นกันว่าแต่ละคนถนัดไม่เหมือนกัน
.
มาถึงเฮดีส เป็นไฟต์ที่เน้นสติ ถึงจะมีทรานสิชั่นเยอะมีคัทซีนเยอะ บอสพูดมากพูดนาน แกะหนมกินรอได้เลย แต่พอถึงจุดที่ต้องสู้แล้วทุกอย่างเกิดขึ้นไวว่องจนหัวหมุน เพราะแมคคานิคมาต่อๆกันเป็นชุด
.
จุดเด่นของไฟต์นี้อย่างแรกเลยคือ เฟสเยอะมาก(กกก) น่าจะเป็นไพรมอลที่เฟสเยอะที่สุด มีหลายร่างและมีลูกน้อง (add phase) ซึ่งปกติลูกน้องในไฟต์อื่นมักๆจะเป็นกระสอบทราย แต่ในไฟต์นี้ลูกน้องเองก็มีแมคคานิคที่สามารถไวป์ทั้งปาร์ตี้ได้ทุกตัว และแมคคานิคไม่ลูป ขึ้นเฟสใหม่ก็เปลี่ยนแมค พูดง่ายๆคือเป็นไฟต์ที่ซับซ้อน
.
จุดเด่นอย่างที่สองคือ มีเอนเรจ’ทุกเฟส’ สู้ๆไปถ้ามีคนตายบ่อยดาเมจไม่ถึง ลุงจะรำคาญพวกเอ็งทำอะไรกันชักช้าร่ำไรแล้วระเบิดเป็นผงยกวง ไปเริ่มใหม่ที่เฟสแรก
.
ที่ผ่านมา ไพรมอลเอ็กซ์ส่วนมากนั้นคนทำผิดแมคคานิคบ้างก็ไม่ถึงกับตายยกตี้ ถูๆไถๆไปได้ มีแค่จุดพีคๆในไฟต์อันสองอันที่ห้ามพลาดเด็ดขาด

แต่สำหรับเฮดีส จุดที่พลาดแล้ววินาศสันตะโรยกตี้ทันทีทันใจมีเยอะมาก (Instant wipe) และแจกจ่ายความชิหัยได้ทั่วถึงกันทุกโรล จะ dps, healer, tank มีจุดทำพังได้หมด ว่าแล้วก็มาดูแมคคานิคคร่าวๆ

========================

=Phase แรก เฮดีส=
.
ร่างแรกคล้ายกับนอร์มอล เพิ่มเติมคือเบิ้ลท่า เฮดีสจะเสกบัฟดับเบิ้ลใส่ตัวเอง ทุกท่าที่ออกมาจะออกติดกันสองรอบ รวมไปถึงท่าสุดหรรษาอย่าง Bad Faith คือวง AoE ขาวๆหน้าตาเหมือนแผ่นโรตีหรือพิซซ่านาโปลีจะหล่นลงมารอบฉาก สุ่มสลับที่กันไปทั้งหมด ปกติมี 8+1 อัน แต่เพราะมีบัฟดับเบิ้ลเลยกลายเป็น 18 อัน
.
ทุกคนก็จะวิ่งหนีตายจ้าละหวั่น หาได้มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันไม่ คือไปทางไหนก็ได้ที่ไม่โดนวงโรตี ...เกิดเป็นคำถามว่าแบลคเมจเล่นไงวะคะ เอาเวลาที่ไหนไปยืนร่าย แต่ช่างเถอะ เป็นมีลีชีวิตก็ลำบากพอกัน กดเข้าไปทรูนอร์ธ เพราะบอสจะหันตามแทงค์หมุนเป็นเบย์เบลด ทำโพสิชั่นยากมาก
.
เฟสนี้ไม่ยากอะไรแต่ก็มีเอนเรจ...ใช่แล้ว มีเอนเรจตั้งแต่เฟสแรกเนี่ยล่ะ บอสต้องเลือดลดถึง 10% หลังจบแทงค์บัสเตอร์ครั้งที่สอง ไม่งั้นลุงจะส่งพวกเราไปคุยกับรากมะม่วง ส่วนใหญ่ถ้าติดเอนเรจตรงนี้กันก็ยุบตี้เลย เฉกเช่นจะไปฮาล์ฟมาราธอนแต่แค่เดินไปเซเว่นหน้าบ้านก็เหนื่อย จงล้มเลิกแผนการซะเถอะ
.
.
=Phase สอง ตัวแทนหมู่บ้าน=
.
เฟสนี้บอสจะเรียกตัวแทนหมู่บ้านมาให้สู้ แอนเชี่ยนตัวแรกคือ นาบริเอเลส ใช้แมคคานิคจากไครซาลิส แทงค์ต้องวิ่งไปรับเมเทโอที่ตกลงมา เพิ่มเติมคือมีผีปอบมายืนเล็ง dps สี่คน ยิงดีบัฟใส่ ซึ่งเหล่า dps ต้องเล็งให้ดีบัฟหันไปสาดทางอื่นที่ไม่โดนแทงค์ ไม่งั้นแทงค์จะโดนเมเทโอทับขี้แตกตาย และถ้ารับเมเทโอไม่ทัน ทุกคนก็ไวป์
.
ต่อมาเป็นคู่หูติงต๊อง ลาฮาแบร กับ อิเกยอร์ม จุดอันตรายคือ ‘ห้ามเอามันสองคนมาใกล้กัน’ ถ้าเขาและเธอได้ลิงค์กันเมื่อไหร่คูลดาวน์ทั้งตี้ก็เอาไม่อยู่ เพราะพี่แกจะตบทีละสามแสน ต้องแทงค์แยกเท่านั้น ไม่งั้นก็ไวป์อีกแหล่ะ
.
ซึ่งสองตัวนี้จะมีบัฟไฟกับน้ำแข็งตามลำดับ คนเล่นก็จะมีบัฟติดตัวเช่นกัน โดยต้องตีตัวที่บัฟตรงข้ามกับเราถึงจะตีเข้า เพิ่มความวุ่นวายอีกนิดด้วยการที่บอสจะสลับบัฟเล่นๆระหว่างสู้ทำให้แทงค์ต้องผลัดตัวกัน ระหว่างนี้จะมีลิงค์ไฟกับน้ำแข็งด้วย ก็เห็นแก่ชีวิตเพื่อนร่วมตี้ วิ่งไปตัดเส้นให้เขาด้วย
.
พอตีสองตัวจนน่วม ลาฮาแบรกับอิเกยอร์มก็จะร่วมร่างเฮนชิน กลายเป็นแอสเชี่ยนไพรม์ พร้อมกับแมคคานิคที่วันแรกๆนั้นทำตี้ล่มเยอะที่สุดคือ Universal Manipulation ...อธิบายยาก รวบรัดตัดความเอาเป็นว่าแทงค์กับฮีลเลอร์ต้องยืนตามตำแหน่งให้วง AoE รอบตัวไปทับ dps แบบพอเหมาะพอเจาะ
.
และในขณะเดียวกันทั้งตี้ต้องไม่มองหน้ากันมิงั้นเป็นหิน ...โอ่ย ปัญหาเยอะเหลือเกิน ไอ้นี่ยืนเบี้ยว AoE ไปทับตรีนอีกคน ไอ้นี่หันช้าตัวแข็งตาย ไอ้นี่ยืนห่างไปกระเด็นตกเหว ก็โอบอุ้มกันไปให้ผ่าน dps check เฮดีสจะกลับมาอีกรอบ
.
.
=Phase สาม ร่างที่แท้จริง=
.
ความรู้สึกแด่เฟสนี้...รอเปลี่ยนเฟสตั้งนานจะไวป์ตรงนี้ไม่ได้นะว้อยย เฮดีสจะกลับมาในร่างบิ๊กบอย แขนใหญ่บังจอเกือบมิด...พร้อมเสาเมเทโอให้แทงค์วิ่งรับ สร้างคุกขังฮีลเลอร์ต้องตีให้แตก เสร็จแล้วจะเล็งเรนจ์ยิงวงบลีดใส่ เรนจ์สองคนต้องไปล่อขอบฉากไม่ให้โดนคนอื่น ที่เหลือก็รวมกลุ่มไปรับลำแสงที่เล็งฮีลเลอร์
.
เรียกว่าทุกคนมีหน้าที่ต้องช่วยกันทำมาหากินพร้อมกับหลบแฉก AoE ไปด้วย...ฝรั่งเรียกว่าแมคคานิค too many shits happen แทบอยากจะใส่แว่นดำเล่น แสบตาโว้ย หมดตรงนี้ได้ก็จะเข้าช่วงสุดท้าย
.
.
=Last Phase ร่างที่แท้จริงของแท้จริงอีกที=
.
เฟสสุดท้ายสั้นง่ายได้ใจความพร้อมฉากอลังการแสงสีเสียง เฮดีสจะปล่อยเอ็กซาแฟลร์พร้อมกันสองข้างแบบดักควาย คือถ้ามัวแต่มองของฝั่งตัวเองจะโดนแฟลร์จากอีกฝั่งชนหน้า ใครหลบไม่เป็นจะปรากฏหลักฐานคือเป็นศพนอนกองอยู่ที่พื้น…
.
แถมด้วยแมคคานิคแทงค์อันสุดท้ายให้ยืนในเสารับแขนเฮดีสที่ทุบลงมา ไม่งั้นทุกคนจะไปเกิดใหม่ตามชาวอามูรอท ทั้งที่เฟสนี้สั้นๆแต่ก็น่าเศร้าที่ยังมีไวป์กันได้ เพราะเป็นฮีลเชครอบสุดท้ายด้วย

ผ่านมาถึงตรงนี้ หากตีไม่ทันก็เอนเรจ กลับไป ♫ The road that we walk…. was lost in the flooood~

========================
.
.
=ความท้าทาย=

ถือเป็นไพรมอลที่สนุกมากตัวนึง ความยากก็เป็นไพรมอล high tier แบบธอร์ดันหรือชินริวเอ็กซ์ตรีมตามที่โยชิพีบอก จะรู้สึกยากมากยากน้อยต่างกันนิดหน่อยขึ้นกับความถนัดส่วนบุคคล

เปรียบเทียบกับตัวอื่น ตอน blind prog ไฟต์นี้นี่โหดมากกว่าตัวอื่นโขเลย เพราะแมคคานิค instant wipe เยอะ แต่พอผ่านหมดเข้าใจแมคคานิคแล้ว เรารู้สึกว่าไฟต์นี้ง่ายกว่าชินริวเยอะด้วยสองสาเหตุ
.
1.เล่นช่วงแรก คนมาลง aim to clear มีแต่พวกฮาร์ดคอร์ โอเวอร์เกียร์ ถืออาวุธเอเดนทุกคน ถ้ามาแบบ ilv450 โล้นๆทั้งตี้เลยนี่คงหืดขึ้นคอ เพราะ dps check, heal check บ่อย
.
2.ฐานผู้เล่นประสบการณ์เยอะขึ้น พูดง่ายๆคือคนเล่นเกมนี้เล่นเก่งขึ้นน่ะแหล่ะ แมคคานิคเดียวกัน เอามาให้เล่นตอนนี้กับให้เล่นสองปีก่อนผลลัพธ์ต่างกันแน่ ไฟต์นี้ให้เอาไปเล่นตอนเฮฟเว่นสวาร์ดคงจะโดนคนด่าว่ายากไป กลับกันตอนนี้ย้อนไปเล่นคอนเทนต์เก่าทำไมมันง๊ายง่ายจังฟะ ทีเมื่อก่อนไวป์เอาๆ
.
.
.
สรุปรวมๆแล้วเราว่ายากกว่า E1S แต่ไม่เท่า E2S ถ้าใครไม่เคยลงซาเวจแต่ลังเลอยากลงไพรมอลเอ็กซ์ก็อยากให้ไปลองดูค่ะ สนุกในระดับที่ไม่ได้สิ้นหวัง ศึกษาไฟต์แล้วรู้หน้าที่ตัวเองคนทั่วไปก็เล่นได้ นอกจากของดรอปที่ถือว่าคุ้มแล้วฉากกับบอสก็ออกแบบมาอลังการสวยงามดี
.
.
อีกอย่างที่ชอบมากคือไฟต์นี้ดรอปโทเค่นสองอัน! จะฟาร์มอาวุธหรือฟาร์มมังกรก็ไวกว่าเดิม ถึงไฟต์จะยาว ประมาณสิบสามนาที แต่เทียบกับไพรมอลอื่นที่ยาวเก้านาทีแล้วดรอปอันเดียว สัดส่วนเวลาที่เล่นต่อโทเค่นก็ไวกว่าเยอะ
.
.
.
ป.ล. ชื่อ Hades ต้นฉบับออกเสียงเฮดีส ก็พยายามจะเขียนคำอ่านให้ใกล้เคียงและถูกต้องที่สุด แม้จะชินกับฮาเดสมากกว่า

ป.ล.2 ทำไมลาฮาแบรตัวปลอม เก่งกว่าตัวจริงวะ…กวีโยชิพีเล่าได้เว่อวังมาก กลายเป็น The revenge of Lahabrea ไปเลย ทำตี้ฝึกพังยับทั้งใน RF และ PF เป็นหนึ่งในเหตุที่รีบผ่านรีบเก็บของที่อยากได้ดีกว่า กลัวเหมือนชินริวที่พอไปอยู่ใน DF แล้วกลายเป็น hopeless land มีแต่ความสิ้นหวัง 😱

#FFXIV #Shadowbringers