[爆卦]Kakaopage Webtoon是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇Kakaopage Webtoon鄉民發文沒有被收入到精華區:在Kakaopage Webtoon這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 kakaopage產品中有10篇Facebook貼文,粉絲數超過178萬的網紅ลงทุนแมน,也在其Facebook貼文中提到, คิมบอมซู ใช้เวลาแค่ 11 ปี ขึ้นมาเป็นคนรวยสุด ในเกาหลีใต้ /โดย ลงทุนแมน เมื่อไม่นานมานี้ การจัดอันดับมหาเศรษฐีในประเทศเกาหลีใต้ อ้างอิงจาก Bloomberg Bi...

 同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...

kakaopage 在 東村アキコ Instagram 的最佳貼文

2020-10-08 06:52:19

ピッコマで連載中の「ワタオボ」こと「私のことを憶えていますか」みなさま見ていただいてますでしょうかっ 遥かの記憶の彼は一体誰? そしてみんなのタイプは猫作? SORA? どちらでしょうか!?ちなみに私は‥フフフ‥秘密❤️ 5月11日深夜0時に更新される「ワタオボ」22話もお楽しみに! 카카오페이지...

kakaopage 在 東村アキコ Instagram 的最佳貼文

2020-10-08 06:52:19

4月29日新作「私のことを憶えていますか」の日韓同時連載が始まりました! 4/29の水曜日にオープンしましたが、「ワタオボ」は毎週月曜日に更新されます。 日本ではピッコマ、韓国ではカカオページにて読むことができるのでよろしくお願いします! 20話までオープンされているのでお楽しみに! 来週月曜日にま...

  • kakaopage 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文

    2021-08-18 20:00:52
    有 8,718 人按讚

    คิมบอมซู ใช้เวลาแค่ 11 ปี ขึ้นมาเป็นคนรวยสุด ในเกาหลีใต้ /โดย ลงทุนแมน
    เมื่อไม่นานมานี้ การจัดอันดับมหาเศรษฐีในประเทศเกาหลีใต้ อ้างอิงจาก Bloomberg Billionaires Index ผลปรากฏว่ามีผู้ที่สามารถแซงทายาท Samsung ขึ้นมาเป็นผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ นั่นคือ คุณคิมบอมซู

    เขาคือผู้ที่สร้างความมั่งคั่งจากการพัฒนา KakaoTalk แอปพลิเคชันแช็ตอันดับ 1 ของเกาหลีใต้ ที่ได้ขยายอาณาจักร Kakao ไปในหลายธุรกิจ จนปัจจุบันเป็นบริษัทที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศ ทั้ง ๆ ที่ก่อตั้งบริษัทขึ้นมาได้เพียง 11 ปี

    หากเรื่องราวนี้เกิดขึ้นในประเทศอื่นอาจไม่น่าตื่นเต้นสักเท่าไร แต่ไม่ใช่สำหรับในเกาหลีใต้ เพราะประเทศแห่งนี้เรียกได้ว่าเต็มไปด้วยมหาเศรษฐีจากกลุ่มแชโบล ซึ่งส่วนใหญ่ร่ำรวยจากการสืบทอดรับมรดก

    แล้วเส้นทางการสร้างความมั่งคั่งด้วยตัวเองของคุณคิมบอมซู เป็นมาอย่างไร ?
    ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
    ╔═══════════╗
    Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
    ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
    แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
    Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    แม้ในระยะหลังมานี้ประเทศเกาหลีใต้เริ่มมีมหาเศรษฐีที่สร้างความมั่งคั่งด้วยตัวเองเพิ่มมากขึ้น
    แต่ก็ยังคงคิดเป็นสัดส่วนที่น้อย เมื่อเทียบกับประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น หรือจีน

    เพราะคนเกาหลีใต้ที่ร่ำรวยส่วนใหญ่ จะมาจากการได้รับมรดก ซึ่งเป็นทายาทกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่
    หรือที่เรียกว่าแชโบล อย่างเช่น Samsung, Hyundai, LG และ Lotte

    นั่นจึงทำให้การก้าวขึ้นมาเป็นบุคคลที่ร่ำรวยสุดในเกาหลีใต้ของ “คิมบอมซู” ได้รับความสนใจ

    คุณคิมบอมซู หรือชื่อเล่นเป็นภาษาอังกฤษว่า Brian Kim คือผู้ก่อตั้งบริษัท Kakao
    ผู้พัฒนา KakaoTalk แอปพลิเคชันแช็ตที่ชาวเกาหลีใต้กว่า 3 ใน 4 ใช้งาน

    นับตั้งแต่ต้นปี 2021 ราคาหุ้น Kakao ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 90% นั่นจึงทำให้ความมั่งคั่งของคุณคิม เพิ่มขึ้นเกือบ 2 แสนล้านบาท มาอยู่ที่ราว 4.5 แสนล้านบาท มากกว่าทรัพย์สินของทายาทรุ่นที่ 3 และรองประธานกรรมการบริหารของ Samsung ที่ชื่อคุณอีแจยง ที่มีทรัพย์สินราว 4.1 แสนล้านบาท

    โดยเรื่องราวชีวิตของคุณคิม ก็นับว่าเป็นผู้สร้างความมั่งคั่งด้วยตัวเองมาอย่างแท้จริง

    คุณคิมเกิดและเติบโตในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อปี 1966 โดยเขาเป็นลูกคนที่ 3 จากพี่น้องทั้งหมด 5 คน

    ด้วยความที่พ่อแม่ของเขาเรียนจบเพียงระดับประถมศึกษา งานที่ทำจึงมีรายได้ไม่มากนัก พ่อแม่ของเขาจึงต้องทำงานหนัก ทำให้ลูก ๆ ทั้ง 5 คนถูกเลี้ยงดูโดยคุณยายเป็นหลัก ซึ่งสมาชิกทั้ง 8 คนของครอบครัวนี้ อาศัยอยู่ด้วยกันในห้องพักที่มีขนาด 1 ห้องนอน ในย่านยากจนของกรุงโซล

    คุณคิมเลยคิดว่าการเรียนเก่งและได้เข้ามหาวิทยาลัยชื่อดัง คือทางเดียวที่จะทำให้ครอบครัวมีฐานะที่ดีขึ้นได้ และเขาก็เป็นเพียงคนเดียวในบรรดาพี่น้อง ที่เรียนต่อมหาวิทยาลัย โดยหาเงินค่าเทอมมาจากการรับสอนพิเศษ

    ซึ่งคุณคิมก็สามารถสอบติดมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของประเทศอย่าง Seoul National University ในสาขาวิศวกรรมอุตสาหการได้สำเร็จ ก่อนที่จะเรียนต่อปริญญาโทด้านวิศวกรรมจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน

    พอเรียนจบ คุณคิมที่ตั้งใจว่าจะเลือกทำงานในที่ที่มีคอมพิวเตอร์ จึงเลือกสมัครเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ที่บริษัท Samsung SDS ในปี 1992

    คุณคิมเล็งเห็นถึงการเติบโตและศักยภาพของอินเทอร์เน็ต เขาจึงตัดสินใจลาออกหลังจากทำงานไปได้ 5 ปี เพื่อเปิดร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟในปี 1997

    พร้อมกับทำซอฟต์แวร์สำหรับผู้ประกอบการอินเทอร์เน็ตคาเฟขาย รวมถึงเริ่มพัฒนาสิ่งที่เขาชอบมากที่สุดอย่าง “เกมออนไลน์”

    ผ่านไป 1 ปี คุณคิมก็ได้เปิดบริษัทเกมออนไลน์ที่ชื่อว่า Hangame ในปี 1998 ที่มีจุดเด่นเป็นเกมแนวกาสิโนที่เล่นง่าย และมีภาพกราฟิกคุณภาพสูง ซึ่งก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว

    ในระหว่างนั้น เพื่อนร่วมรุ่นสมัยมหาวิทยาลัยและยังเริ่มทำงานที่ Samsung SDS มาพร้อมกัน ที่ชื่อว่า อีแฮจิน ก็ได้พัฒนาและเปิดตัวเว็บไซต์ Naver ในปี 1999 ซึ่งเป็นเว็บพอร์ทัลที่มีเซิร์ชเอ็นจิน คล้ายกับ Yahoo! และ Google

    โดย Naver ก็ถูกก่อตั้งขึ้นมาเพื่อมาแข่งกับเว็บพอร์ทัลอันดับ 1 ของเกาหลีใต้ในขณะนั้น ที่ชื่อว่า Daum ซึ่งเปิดตัวก่อน 2 ปี

    ทั้งคุณคิมและคุณอี ต่างก็มีเป้าหมายที่คล้ายกัน คือต้องการขับเคลื่อนโลกอินเทอร์เน็ตในประเทศเกาหลีใต้ และบริษัทของทั้งคู่ก็กำลังไปได้สวย พวกเขาจึงตัดสินใจควบรวม Hangame กับ Naver ในปี 2000 และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “NHN”

    ในปี 2005 คุณคิมเดินทางไปที่ซิลิคอนแวลลีย์ เพื่อเตรียมนำบริษัทเกมขยายไปสู่ตลาดสหรัฐอเมริกา แต่กลายเป็นว่าไม่ประสบความสำเร็จ

    ความล้มเหลวในครั้งนี้ บวกกับการอยากลองเริ่มเส้นทางใหม่ของตัวเอง ทำให้คุณคิมตัดสินใจลาออกจาก NHN ในปี 2007

    คุณคิมซึ่งในขณะนั้นยังอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ได้สร้างทีมขนาดเล็กกับบริษัทสตาร์ตอัปที่ชื่อว่า IWILAB แต่ยังไม่รู้ว่าจะพัฒนาผลิตภัณฑ์อะไรดี

    ซึ่งในปี 2007 นี้เอง บริษัท Apple ก็ได้แนะนำให้โลกได้รู้จักกับ iPhone เป็นครั้งแรก คุณคิมตื่นเต้นกับสิ่งนี้มาก และเมื่อเขาได้ซื้อมาลองใช้ เขาก็รู้เลยว่านี่คือสิ่งที่จะเปลี่ยนโลกไปตลอดกาล

    และนั่นก็ทำให้คุณคิมตัดสินใจพาทีม IWILAB กลับมาที่เกาหลีใต้ เพื่อเริ่มคิดค้นและพัฒนาแอปพลิเคชันใน iPhone ก่อนที่ iPhone จะเริ่มวางขายที่เกาหลีใต้ในอีก 2 ปีถัดมา

    คำถามสำคัญก็คือว่า พวกเขาจะพัฒนาแอปพลิเคชันอะไรดี

    ทีมงานระดมความคิดและได้ข้อสรุปว่า แก่นของสมาร์ตโฟนก็คือการสื่อสาร พวกเขาจึงแบ่งทีมงานออกเป็น 3 กลุ่ม เพื่อลองพัฒนาแอปพลิเคชันที่เกี่ยวกับการให้บริการข้อความ ในแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งก็ได้แก่

    KakaoTalk แอปพลิเคชันแช็ตแบบระหว่างบุคคล
    KakaoAgit แอปพลิเคชันการสนทนาแบบกลุ่ม
    KakaoSuda แอปพลิเคชันโซเชียลเน็ตเวิร์ก

    หลังจากทดลองแอปพลิเคชันทั้งหมดนี้ไป 2 เดือน ผลสรุปคือ “KakaoTalk” มีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุด

    ในช่วงเวลานั้น WhatsApp ที่เพิ่งเปิดตัวในปี 2009 ที่สหรัฐอเมริกา ก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว
    เรื่องดังกล่าวจึงยิ่งทำให้คุณคิม มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์แรกของเขาควรเป็นแอปพลิเคชันแช็ต

    และในเดือนพฤศจิกายน ปี 2009 iPhone ก็ได้เริ่มวางขายในประเทศเกาหลีใต้
    ซึ่ง KakaoTalk ก็สามารถพัฒนาได้ทัน จนพร้อมเปิดตัวในอีก 4 เดือนหลังจากนั้น

    หลังจากเปิดตัวในเดือนมีนาคม ปี 2010 KakaoTalk ก็มีผู้ใช้งานแตะ 10 ล้านคนภายในปีแรก
    หรือคิดเป็นเกือบ 20% ของจำนวนประชากรเกาหลีใต้ในขณะนั้น

    การเติบโตอย่างรวดเร็วของ KakaoTalk มีส่วนสำคัญจากการให้บริการฟรี ไม่ต้องเสียค่าบริการส่งข้อความเหมือน SMS หรือแม้แต่แอปพลิเคชันแช็ตคู่แข่งอย่าง WhatsApp ก็ยังมีการคิดค่าธรรมเนียมรายปี 0.99 ดอลลาร์สหรัฐในสมัยนั้น

    ความสำเร็จของ KakaoTalk ในเกาหลีใต้ ก็ได้ทำให้บริษัทที่คุณคิมเคยร่วมก่อตั้งมาอย่าง NHN เริ่มเล็งเห็นถึงพลังของแอปพลิเคชันแช็ต

    NHN จึงเริ่มพัฒนาแอปพลิเคชันแช็ตที่ชื่อว่า LINE แต่แทนที่จะโฟกัสในเกาหลีใต้ ซึ่งต้องเริ่มต้นจากการตามหลัง KakaoTalk ทาง NHN จึงทุ่มเทศึกษาตลาดในประเทศเพื่อนบ้านอย่างญี่ปุ่นแทน

    แม้ว่า KakaoTalk ก็เลือกเจาะตลาดที่นั่นด้วยเช่นกัน แต่กลับกลายเป็นว่าการใช้กลยุทธ์การส่งข้อความฟรีแบบในเกาหลีใต้ ไม่ประสบความสำเร็จในประเทศญี่ปุ่น นั่นก็เพราะว่าคนญี่ปุ่นยังนิยมส่งข้อความกันด้วยอีเมลซึ่งฟรีอยู่แล้ว

    ในขณะเดียวกัน NHN ที่ได้ศึกษาพฤติกรรมชาวญี่ปุ่นมาก่อน จึงเลือกจุดขายให้กับ LINE ที่เปิดตัวในปี 2011 ด้วยฟังก์ชัน โทรออนไลน์แบบไม่เสียเงิน LINE จึงกลายเป็นผู้ชนะสงครามแอปพลิเคชันแช็ตที่ประเทศแห่งนี้

    KakaoTalk ที่เจาะตลาดญี่ปุ่นไม่สำเร็จ ก็หันมาตั้งความหวังไว้กับประเทศจีนแทน
    ซึ่งก็ดูมีโอกาสเป็นไปได้สูง เพราะหนึ่งในผู้ลงทุนหลักของ KakaoTalk ก็คือ Tencent

    แต่กลายเป็นว่า ระหว่างนั้นทาง Tencent ก็เปิดตัวแอปพลิเคชันแช็ตของตัวเองชื่อ WeChat ในปี 2011 เช่นกัน KakaoTalk จึงต้องผิดหวังอีกครั้ง

    ฝั่ง NHN ก็กำลังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากจะเอาชนะ KakaoTalk ในญี่ปุ่นได้แล้ว
    เว็บไซต์ Naver ยังสามารถเอาชนะ Daum จนกลายเป็นเว็บพอร์ทัลอันดับ 1 ของเกาหลีใต้

    และเพื่อต้องการขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้นไปอีก ในปี 2013 NHN จึงแยกบริษัทออกเป็น บริษัทเกมออนไลน์โดยใช้ชื่อเดิมว่า NHN และบริษัทเว็บพอร์ทัลรวมถึงบริการดิจิทัลอื่นที่ใช้ชื่อว่า Naver ซึ่งมี LINE เป็นบริษัทในเครือ

    ส่วน KakaoTalk ที่บุกตลาดต่างประเทศไม่สำเร็จ ก็กลับมาโฟกัสการเติบโตในประเทศเกาหลีใต้อีกครั้ง

    ซึ่งนี่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้ Kakao เติบโตอย่างก้าวกระโดดในเกาหลีใต้..

    KakaoTalk ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันแช็ตอันดับ 1 ในเกาหลีใต้ ได้ตัดสินใจควบรวมกิจการกับ Daum
    เว็บพอร์ทัลอันดับ 2 ในปี 2014 และใช้ชื่อบริษัทว่า Daum Kakao ก่อนเปลี่ยนมาเป็น Kakao

    และนี่คือจุดเริ่มต้นที่ Kakao กับ Naver กลายมาเป็นคู่แข่งกันในทุกประเภทผลิตภัณฑ์มาจนถึงปัจจุบัน
    ซึ่งส่วนใหญ่ Kakao ก็มักจะเป็นผู้ริเริ่มในหลายบริการ จนมีผู้ใช้งานมากที่สุดในเกาหลีใต้ ยกตัวอย่างเช่น

    ปี 2014 เปิดตัว KakaoPay กระเป๋าเงินดิจิทัลที่ผูกกับบัญชีใน KakaoTalk
    ปี 2015 เปิดตัว KakaoTaxi แอปพลิเคชันเรียกรถแท็กซี่ ที่ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น KakaoT
    ปี 2016 เปิดตัว KakaoMap ที่พัฒนาต่อจาก Daum Map และให้บริการแผนที่ 3 มิติเจ้าแรกของประเทศ
    ปี 2017 เปิดตัว KakaoBank ธนาคารดิจิทัล ซึ่งสามารถทำกำไรได้ภายใน 2 ปี

    นอกจากนี้ Kakao ก็ยังขยายบริการไปในกลุ่มสื่อบันเทิง อย่างเช่น KakaoGame และ KakaoPage
    ที่มีเว็บตูน ซึ่งก็ได้ควบรวมกับ KakaoM และเปลี่ยนชื่อเป็น Kakao Entertainment

    โดย KakaoM ยังเป็นเจ้าของ Melon แพลตฟอร์มสตรีมเพลงออนไลน์ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในประเทศ
    รวมถึงค่ายเพลง เช่น EDAM ที่เป็นต้นสังกัดของศิลปินหญิงเดี่ยว IU และบริษัทต้นสังกัดนักแสดงชื่อดังอีกมากมาย เช่น Management SOOP ต้นสังกัดของพระเอกกงยู

    บริการทั้งหมดในเครือ Kakao จึงเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของชาวเกาหลีใต้แทบจะทุกลมหายใจ
    ถึงขนาดที่ว่าใครที่ต้องไปใช้ชีวิตในเกาหลีใต้ ถ้าไม่มี Kakao จะลำบากมาก..

    ในปีนี้ Kakao ก็เตรียมนำ KakaoBank และ KakaoPay จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เกาหลีใต้ ต่อจาก KakaoGame ที่เพิ่งเข้าตลาดไปเมื่อปลายปี 2020

    รวมถึงยังมีแผนจะนำบริษัทย่อยอื่นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เช่นกัน ซึ่งก็จะยิ่งทำให้ความมั่งคั่งของคุณคิมเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

    ปัจจุบันคุณคิมในวัย 55 ปี เป็นประธานกรรมการ Kakao และถือหุ้นในกลุ่ม Kakao รวมกว่า 24%

    ซึ่งคุณคิมก็ได้ผันตัวมาทุ่มเทเวลาและเงินไปกับการเป็นผู้ให้มากขึ้น ทั้งการลงทุนและสนับสนุนสตาร์ตอัปรุ่นใหม่ผ่านการก่อตั้ง Venture Capital รวมถึงการบริจาคเงินเพื่อการกุศลจำนวนมาก

    ทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวการสร้างตัวของคุณคิมบอมซู ที่นับว่ามีไม่มากนักในประเทศเกาหลีใต้
    ทำให้ปัจจุบัน คุณคิมนอกจากจะขึ้นแท่นเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในประเทศเกาหลีใต้แล้ว

    เขายังได้กลายเป็นอีกหนึ่งในบุคคลต้นแบบ ที่ก่อร่างสร้างความสำเร็จด้วยฝีมือ ของตัวเอง..
    ╔═══════════╗
    Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
    ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
    แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
    Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    ติดตามลงทุนแมนได้ที่
    Website - longtunman.com
    Blockdit - blockdit.com/longtunman
    Facebook - ลงทุนแมน
    Twitter - twitter.com/longtunman
    Instagram - instagram.com/longtunman
    Line - page.line.me/longtunman
    YouTube - youtube.com/longtunman
    Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
    Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
    Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
    References:
    -https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-07-29/tycoon-s-6-billion-surge-unseats-samsung-heir-as-richest-korean
    -https://www.ft.com/content/1c3fbdb6-9f1d-11e5-85ae-8fa46274f224
    -http://m.theinvestor.co.kr/view.php?ud=20160905000937
    -https://charactermedia.com/how-kakaotalk-founder-became-skoreas-rarest-billionaire/
    -http://m.koreaherald.com/view.php?ud=20160628000667
    -https://www.forbes.com/sites/davidyin/2013/08/08/korean-internet-company-nhn-splits-to-battle-kakao/?sh=1abac598227b
    -https://www.forbes.com/sites/ryanmac/2015/03/02/kakaotalk-billionaire-brian-kim-mobile-messaging-global-competition/?sh=35832f46fdd3

  • kakaopage 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文

    2021-04-08 10:50:00
    有 857 人按讚

    KakaoTalk แอปแช็ตอันดับ 1 ของคนเกาหลีใต้ /โดย ลงทุนแมน
    หากพูดถึงแอปพลิเคชันที่ใช้ติดต่อสื่อสาร
    คนไทยส่วนใหญ่คงนึกถึง LINE

    ซึ่งหลายคนน่าจะเคยได้ยินว่า บริษัทแม่ของ LINE คือ Naver Corporation ที่เป็นบริษัทสัญชาติเกาหลีใต้
    แต่รู้ไหมว่า จริง ๆ แล้วคนเกาหลีกลับไม่ได้ใช้ LINE คุยกัน

    เพราะแอปแช็ตที่ได้รับความนิยมสูงสุดในเกาหลีใต้
    คือ “KakaoTalk”

    แล้ว KakaoTalk ทำอย่างไร ถึงครองใจคนเกาหลีได้ ?
    ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
    ╔═══════════╗
    เปิดบ้านเยี่ยมชมโรงเรียนนานาชาติ St. Stephen’s Open Days วันที่ 12 - 14 พฤษภาคม 2564
    ลงทะเบียนที่ https://bit.ly/3rgUud0 โทร. 091-7372165 หรือ www.sis.edu/bangkok
    ╚═══════════╝
    เจ้าของแอปพลิเคชัน KakaoTalk คือ Kakao Corp.
    บริษัทเทคโนโลยี สัญชาติเกาหลีใต้ ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2010 โดยคุณ Kim Beom-soo

    แต่ก่อนหน้านี้ เขาเคยเป็น CEO ของบริษัท NHN ผู้พัฒนาแอปแช็ต LINE
    ซึ่งในภายหลัง มีการแยกบริษัทออกเป็น Naver Corp. โดยนำเอา LINE ไปอยู่ภายใต้การบริหารด้วย

    ซึ่งต่อมา คุณ Kim Beom-soo ได้ลาออกมาตั้งบริษัท Kakao
    เพื่อพัฒนาแอปแช็ตของตัวเองขึ้นมา นั่นคือ “KakaoTalk”

    และในปัจจุบัน KakaoTalk ก็กลายเป็นแอปแช็ตที่คนเกาหลีใช้กันทั่วบ้านทั่วเมือง
    มีผู้ใช้งานภายในประเทศ 46 ล้านบัญชีต่อเดือน จากประชากรทั้งหมด 51 ล้านราย

    โดยคนเกาหลี มักเรียกชื่อย่อแอป แทนการนัดหมายเพื่อคุยกันทางออนไลน์ว่า “เดี๋ยว KaTalk ไปหา”
    คล้าย ๆ กับกรณีของคนไทย ที่พูดกันติดปากว่า “เดี๋ยว LINE ไปหา”

    ซึ่งความนิยมดังกล่าว ส่งผลให้บริษัท Kakao สร้างรายได้ค่าโฆษณาสูงถึง 30,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดโฆษณาออนไลน์ในเกาหลีใต้ ประมาณ 15%

    แล้วทำไมคนเกาหลีถึงใช้แอป KakaoTalk เยอะขนาดนี้ ?

    กลยุทธ์ที่ทำให้ Kakao ประสบความสำเร็จในการขยายฐานลูกค้า
    คือการเชื่อมต่อบัญชีแอปแช็ต ไปยังแพลตฟอร์มอื่น ๆ อีกมากมายของบริษัท

    โดยเจ้าของบัญชี KakaoTalk จะสามารถเข้าถึงสินค้าหรือบริการออนไลน์ต่าง ๆ ตามที่ต้องการได้อย่างสะดวกสบาย รวมทั้งอาจมีสิทธิพิเศษเพิ่มเติมเข้ามาอีกด้วย

    เรามาลองดูตัวอย่างธุรกิจอื่นของ Kakao นอกเหนือจากบริการแช็ต

    - Kakao Commerce แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ที่ผู้ซื้อผู้ขายติดต่อกันผ่าน KakaoTalk ได้ โดยปัจจุบันมีผู้ใช้งานอยู่ 10.2 ล้านบัญชีต่อเดือน

    - Daum เว็บไซต์ Portal ที่รวบรวมและให้บริการค้นหาข้อมูล ซึ่งควบรวมกิจการกับ Kakao เมื่อปี 2014

    - Kakao T แพลตฟอร์มเรียกรถ ที่มีรถแท็กซี่ให้บริการในเครือกว่า 16,000 คัน และมีผู้ใช้บริการแอป 27 ล้านบัญชี

    - KakaoPay ระบบชำระเงินออนไลน์ ที่มีผู้ใช้งาน 20 ล้านบัญชีต่อเดือน และมีการทำรายการมูลค่ารวมกว่า 1,800,000 ล้านบาท เมื่อปีที่แล้ว

    - KakaoBank แพลตฟอร์มธนาคารออนไลน์ ที่มีฐานลูกค้า 13 ล้านบัญชี โดยล่าสุดมียอดเงินฝากมูลค่า 630,000 ล้านบาท และยอดปล่อยเงินกู้กว่า 550,000 ล้านบาท

    - Kakao Games ผู้ให้บริการเกมออนไลน์มากกว่า 1,100 เกม โดยหนึ่งในเกมชื่อดังที่บริษัทได้รับสิทธิ์ให้ทำตลาดและจัดจำหน่ายในเกาหลีใต้ คือ PlayerUnknown's Battlegrounds หรือ PUBG รวมทั้งบางเกมก็เปิดให้เล่นเฉพาะผู้ที่มีบัญชี KakaoTalk อีกด้วย

    - Melon แพลตฟอร์มสตรีมมิงเพลงยอดนิยมของเกาหลีใต้ ที่มีสมาชิกแบบจ่ายเงินอยู่ 5.1 ล้านบัญชี

    - Kakao M ธุรกิจสื่อบันเทิง เช่น KakaoTV แพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิง ที่ผลิตออริจินัลคอนเทนต์กว่า 240 รายการ, 1theK ช่อง YouTube เกี่ยวกับวงการ K-POP ที่มีผู้ติดตาม 26 ล้านบัญชี รวมไปถึงธุรกิจค่ายศิลปิน ที่มีนักร้องนักแสดงในสังกัดกว่า 240 ราย

    - KakaoPage แพลตฟอร์มรวมคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็น การ์ตูน นิยาย หรือบทความ ซึ่งบางเรื่องได้รับความนิยมสูงมาก จนถูกนำไปสร้างเป็นซีรีส์ เช่น Itaewon Class

    จะเห็นได้ว่า ผู้ใช้งานแอป KakaoTalk จะได้รับประโยชน์มากมาย จากการใช้บริการด้านอื่น ๆ ในชีวิตประจำวันไปพร้อมกับการแช็ต

    นอกจากนั้น บริษัท Kakao ยังได้ข้อมูลของลูกค้าจากทุกแพลตฟอร์ม มาพัฒนาคุณภาพบริการให้ดียิ่งขึ้น
    รวมทั้งเมื่อคิดค้นอะไรใหม่ ๆ ก็จะสามารถเสนอให้ลูกค้าหลายสิบล้านบัญชีได้ทันที โดยไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์เหมือนรายอื่น ซึ่งก็คล้ายกับวิธีที่ Facebook ใช้อยู่บ่อย ๆ

    ด้วยเหตุนี้ ฐานผู้ใช้งาน KakaoTalk และแพลตฟอร์มอื่น ๆ จึงเติบโตขึ้นต่อเนื่อง
    จนทำให้ Kakao กลายเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของเกาหลีใต้ และเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Naver บริษัทแม่ของแอป LINE อดีตบริษัทที่คุณ Kim Beom-soo เคยบริหาร

    ผลประกอบการของ Kakao Corp.
    ปี 2018 รายได้ 65,000 ล้านบาท กำไร 400 ล้านบาท
    ปี 2019 รายได้ 83,000 ล้านบาท ขาดทุน 9,200 ล้านบาท
    ปี 2020 รายได้ 112,000 ล้านบาท กำไร 4,500 ล้านบาท

    โดยรายได้ของบริษัทนั้นมาจาก
    - ธุรกิจแพลตฟอร์มติดต่อสื่อสาร 27%
    - ธุรกิจเพลง 15%
    - ธุรกิจแพลตฟอร์มอื่น เช่น เรียกรถและระบบชำระเงิน 13%
    - ธุรกิจคอนเทนต์ 13%
    - ธุรกิจเกม 12%
    - ธุรกิจเว็บไซต์ข้อมูล 11%
    - ธุรกิจอื่น ๆ 9%

    ทั้งนี้ Kakao จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เกาหลีใต้
    ปัจจุบันมีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ประมาณ 1,100,000 ล้านบาท

    เรื่องราวของ Kakao ถือเป็นตัวอย่างที่ดีว่า

    การมี Ecosystem หรือระบบนิเวศทางธุรกิจ ที่แต่ละด้านคอยส่งเสริมซึ่งกันและกัน
    จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้บริษัทเติบโตแบบยั่งยืนในระยะยาว

    เพราะเมื่อผู้บริโภคเข้ามาอยู่ในระบบนิเวศของเรา และใช้บริการต่าง ๆ เป็นประจำแล้ว
    มันก็คงเป็นเรื่องยาก ที่จะก้าวออกไปจากความคุ้นชินเหล่านั้นได้

    เหมือนกับที่คนเกาหลี กำลังวนเวียนอยู่กับแพลตฟอร์มของ Kakao ในขณะนี้…
    ╔═══════════╗
    เปิดบ้านเยี่ยมชมโรงเรียนนานาชาติ St. Stephen’s Open Days วันที่ 12 - 14 พฤษภาคม 2564 เวลา 9.00 - 12.00 น. “Great Learning in a Caring Community” สำหรับนักเรียนอายุ 2 - 18 ปี
    ลงทะเบียนที่ https://bit.ly/3rgUud0 โทร. 091-7372165 หรือ www.sis.edu/bangkok
    ╚═══════════╝
    References
    -https://en.wikipedia.org/wiki/Kakao
    -https://t1.kakaocdn.net/kakaocorp/admin/ir/results-announcement/4998.pdf
    -https://www.wired.kr/news/articleView.html?idxno=1094

  • kakaopage 在 Inside 硬塞的網路趨勢觀察 Facebook 的精選貼文

    2021-03-08 22:14:03
    有 36 人按讚

    擁有爆紅韓劇「梨泰院 CLASS 」、「金秘書為何那樣」版權的 Kakao Page 悄悄來台,低調潛伏在台北信義區練兵一年多。

    這家韓國最大內容製作公司全力展開在地化、挖掘人才,準備在台灣的網路漫畫市場大展拳腳。

    #KakaoTalk #KakaoPage #梨泰院

  • kakaopage 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的最佳貼文

    2021-10-01 13:19:08

  • kakaopage 在 大象中醫 Youtube 的最佳解答

    2021-10-01 13:10:45

  • kakaopage 在 大象中醫 Youtube 的最佳解答

    2021-10-01 13:09:56