[爆卦]Hydrogenation是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇Hydrogenation鄉民發文沒有被收入到精華區:在Hydrogenation這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 hydrogenation產品中有6篇Facebook貼文,粉絲數超過29萬的網紅CheckCheckCin,也在其Facebook貼文中提到, 【選對食用油】身體運作需要適量油脂 ⭐要懂得分辨好油壞油 ⭐按烹調方式選擇用哪種油 #星期四食材 認識健康油脂食物 有些女生為了減肥,視油脂為大敵,自煮時不添加油份,外出進食亦「走油」,以為這種飲食方法很健康,但久久未能成孕,最後發現原來因為飲食中缺少了油脂!膽固醇是合成多種荷爾蒙的重要原料,如...

 同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過0的網紅CarDebuts,也在其Youtube影片中提到,Isuzu ส่งรถกระบะปิกอัพ D-MAX Spacecab และเครื่องยนต์ Super Commonrail 2500 Ddi ทดสอบไบโอดีเซล จากต้นสบู่ดำ กลุ่มอีซูซุในประเทศไทย ได้มอบเงินสนับสนุนท...

hydrogenation 在 SYAZA HAMID Instagram 的最佳貼文

2020-05-09 13:13:32

I haven't sung enough praise on this facial oil when I really should. This squalane oil from @timelesshaskin is what I've been using every single day...

  • hydrogenation 在 CheckCheckCin Facebook 的最佳解答

    2021-05-20 18:03:12
    有 107 人按讚

    【選對食用油】身體運作需要適量油脂

    ⭐要懂得分辨好油壞油
    ⭐按烹調方式選擇用哪種油
    #星期四食材

    認識健康油脂食物
    有些女生為了減肥,視油脂為大敵,自煮時不添加油份,外出進食亦「走油」,以為這種飲食方法很健康,但久久未能成孕,最後發現原來因為飲食中缺少了油脂!膽固醇是合成多種荷爾蒙的重要原料,如果油脂攝取不足容易影響荷爾蒙分泌,造成不孕,所以不應盲目「走油」,宜認識哪些為健康油脂適量攝取,哪些壞油應該避免食用,市面上見到的油脂各有優缺點,最好是在家中常備2至3種油脂,每星期輪流使用或按烹調方式選擇。

    飽和脂肪酸:室溫時呈白色固體狀態,常見於豬油、牛油、動物性脂肪、芝士、忌廉、椰子油、棕櫚油等。
    優點:化學性質穩定,不易氧化變質。
    缺點:過量進食較容易患上血管硬化、中風、心臟病等疾病風險。
    適合用法:高溫且長時間烹煮的菜式

    單元不飽和脂肪:室溫時呈液體狀態,常見於橄欖油、苦茶油、花生油、堅果、牛油果。
    優點:含有Omega-9,有助提高好膽固醇及降低壞膽固醇。
    缺點:化學性質不穩定,容易受高溫影響產生氧化。
    適合用法:涼拌、低溫快炒

    多元不飽和脂肪:室溫時呈液體狀態,常見於粟米油、芝麻油、葵花油、亞麻籽油、菜籽油、大豆油、核桃油、三文魚、沙甸魚等。
    優點:含有人體無法自製的Omega-3及Omega-6,同時提高好膽固醇及降低壞膽固醇。
    缺點:化學性質不穩定,容易受高溫影響產生氧化。
    適合用法:一般煎炒菜式

    反式脂肪:植物油經過氫化程序會轉化成反式脂肪,常見於人造牛油、起酥油(Shortening)。
    優點:沒有
    缺點:令血液中的壞膽固醇上升,同時降低好膽固醇,過量進食有增加患上血管硬化、中風、心臟病等疾病風險。
    常見含反式脂肪食物:蛋撻、曲奇餅、酥皮食物、蛋糕、餅乾、椰絲奶油包、炸薯條、炸雞、菠蘿油、油炸鬼、奶精

    留言或按讚👍🏻支持一下我們吧!❤️ 歡迎 Follow 我們獲得更多養生資訊。

    Get to know healthy high-fat foods
    Some women view fats as their archnemesis when they wish to shed some pounds. They would either avoid using oil in their cooking or request restaurants to remove additional fats when ordering take-outs. They thought this is a healthy dietary practice, but the lack of fats in the body is one of the main reasons they cannot get pregnant!

    In fact, cholesterol is the precursor of many hormones. The lack of fats in the body would affect the secretion of hormones, leading to infertility. We should learn more about healthy fats, consume them in an appropriate quantity, and avoid fats that are bad for us. There are many types of fats and oils in the market, and each of them has their own pros and cons. It is best to prepare 2 to 3 different types of oils and use them interchangeably in cooking from time to time.

    Saturated fatty acids: in white solid state at room temperature; can be found in lard, butter, animal fats, cheese, cream, coconut oil, and palm oil
    Pros: chemically stable, not easily oxidized
    Cons: excessive consumption can cause the hardening of the arteries (vascular sclerosis), stroke, and heart diseases
    Proper way of use: dishes to be cooked at high temperature and for a long period

    Monounsaturated fatty acids: liquid at room temperature; often seen in olive oil, camellia seed oil, peanut oil, nuts, and avocado
    Pros: contains Omega-9; can help increase the good cholesterols and reduce the bad cholesterol
    Cons: chemically unstable, oxidized easily when exposed to high temperature
    Proper way of use: cold dishes, and can be used for frying at low temperature

    Polyunsaturated fatty acids: liquid at room temperature, commonly found in corn oil, sesame oil, sunflower oil, linseed oil, rapeseed oil, soybean oil, walnut oil, salmon, and sardine
    Pros: contains Omega-3 and Omega-6, which humans could not produce; can help increase the good cholesterols and reduce the bad cholesterol
    Cons: chemically unstable, oxidized easily when exposed to high temperature
    Proper way of use: normal pan-fried dishes

    Trans-fatty acids: vegetable oils that have gone through hydrogenation; often seen in margarine and shortening
    Pros: none
    Cons: increase the bad cholesterol and reduce the good cholesterol in the blood; excessive consumption can cause the hardening of the arteries (vascular sclerosis), stroke, and heart diseases
    Common foods that contain trans-fatty acids: Egg tart, cookies, puff pastries, cakes, biscuits, coconut cream bun, fried chicken, pineapple bun, Chinese fried dough and creamer

    Comment below or like 👍🏻 this post to support us. ❤️ Follow us for more healthy living tips.

    #男 #女

  • hydrogenation 在 VIPS Station Facebook 的精選貼文

    2019-11-27 18:00:00
    有 5,169 人按讚

    ไขคำตอบสำหรับคนทำขนม...
    เนย VS มาการีน แตกต่างกันอย่างไร? 🥞
    .
    ในการทำขนมอบส่วนมากใส่ไขมันเพื่อเพิ่มสัมผัสความชุ่มฉ่ำให้กับเนื้อขนม ที่นิยมมากที่สุดคือ เนยสด แต่เนยเป็นไขมันที่ได้มาจากน้ำนม กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์มากๆ เนยแท้ๆจากนมเพียว จะราคาค่อนข้างแพง จึงมีการหาสิ่งทดแทนเนย นั้นก็คือ มาร์การีน (เนยเทียม) และเนยขาว ที่ได้จากกระบวนการทำให้น้ำมันเปลี่ยนโครงสร้างเป็นของแข็ง ราคาถูกกว่าเนยครึ่งต่อครึ่งเลยค่ะ จึงนิยมใส่เพื่อลดต้นทุนขนม ที่สพคัญทำให้ได้เนื้อสัมผัสขนมที่ดีขึ้น ปริมาตรสูงขึ้นด้วย
    .
    มาลองดูความแตกต่างของไขันแต่ละชนิดอย่างละเอียดกันจ้า
    .
    เนยสด (Butter) นิยมใช้ทำขนม เนยสดเป็นไขมันจากนม มีกลิ่นที่ดี ปริมาณไขมันเนย 80-82% ต้องเก็บในตู้เย็นตลอดเวลา ละลายง่ายมาก วางไว้ที่อุณหภูมิบ้านไทยนี่แทบจะละลาย ราคาค่อนข้างสูง และที่สำคัญหากทำเค้กเนย หรือคุกกี้ บางทีจะนิยมผสมกับเนยขาวเผื่อให้เค้กได้มีปริมาตรที่ดีขึ้น เพราะเนยสดเพียวอย่างเดียว ได้เค้กที่ไม่ค่อยฟูถ้าเทียบกับใส่เนยขาว ดังนั้นปัจจุบันจึงมีเนยอีกชนิดที่นิยมมาทำขนมมากๆนั้นคือ บัตเตอร์เบลนด์ (Butter blend) เป็นเนยสดที่ผสมกับไขมันพืช ช่วยเรื่องโครงสร้างของขนมที่ดีขึ้น และทำให้เนยมีราคาถูกลง
    .
    มาร์การีน (Margarine) ทำมาจากไขมันพืชที่ผ่านกระยวนการทำให้แข็งตัว มีการผสมสีและแต่กลิ่นให้เหมือนเนย ประกอบตัวไขมัน 80-85% มีความนุ่ม และมีคุณสมบัติความเป็นครีมสูง
    .
    เนยขาว (Shortening) ประกอบด้วยไขมัน 100% ไม่มีกลิ่น สี และรส ทำจากไขมันพืชผ่านกระบวนการทำให้แข็งตัวเหมือนมาร์การีน ใช้ผสมกับเนยสดเพื่อให้ได้ขนมที่สวยมากยิ่งขึ้น
    .
    โดยน้ำมันที่ผ่านกระบวนการทำให้แข็งตัว จะได้กรดไขมันชนิดหนึ่งที่ไม่ดีต่อร่างกาย นั้นคือ ไขมันทรานส์ (Trans fat) เป็นกรดไขมันเกิดจากกระบวนการแปรรูปกรดไขมันไม่อิ่มตัว หรือ กระบวนการ Hydrogenation ให้กลายเป็นกรดไขมันอิ่มตัวสูง รับประทานมากๆส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอล LDL ชนิดไม่ดีเพิ่มขึ้น ไขมันทรานส์สลายได้ยากกว่า ทำให้ร่างกายมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น เสี่ยงโรคต่างๆ เช่น โรคตับผิดปกติ โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดตีบ ความดันโลหิตสูง เบาหวานและ โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีการผลิตก็ทำให้ไขมันทรานส์ลดลงอย่างมากๆแล้ว ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
    .
    แต่ๆๆๆๆๆๆ
    .
    ด้วยความเป็นห่วง บริโภคแต่น้อย และออกกำลังกายเป็นประจำด้วยน้า
    ขนมอร่อยกินเป็นรางวัลชีวิต แต่กินเยอะๆก็เป็นโทษได้จ้า
    .......................................
    #VIPSStation #ทำอะไรกินดี #เนยกับมาการีนต่างกันยังไง #เนย #มาการีน

  • hydrogenation 在 PHOLFOODMAFIA - พลพรรคนักปรุง Facebook 的最佳貼文

    2019-05-06 12:00:01
    有 581 人按讚

    ไขมันทรานส์ (Transfat) เป็นวิวัฒนาการทางอุตสาหกรรมอาหาร จากการที่พยายามลดการกินไขมันอิ่มตัว เช่น ลดการกินเนย จึงมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทำน้ำมันเปลี่ยนรูปให้เป็นมาการีน เป็นกระบวนการทำให้ของเหลวแปรสภาพ โดยเติมไฮโดรเจน ที่เราเรียกว่า ไฮโดรจิเนชั่น (Hydrogenation) ทำให้โครงสร้างของไขมันมันบิดไป
    จาก cis-form เป็น trans-form นั่นคือที่มาของชื่อ transfat

    สังเกตได้จากการที่ผลิตภัณฑ์นั้นๆ มีระบุว่า Partially Hydrogenated ถ้ามีคำนี้ระบุอยู่ ก็หมายความว่ามี Transfat หลังจากที่มีผลิตภัณฑ์ที่มี Transfat ออกมาสักพัก ก็จึงเริ่มตระหนักถึงผลเสียบางอย่าง ในปัจจุบัน เราไม่ควรบริโภคไขมันทรานส์ เพราะจะว่าไป มันแย่กว่าไขมันอิ่มตัวเสียอีก เพราะมันกระทบคอเลสเตอรอลตัวดี (HDL) ทำให้ลดลง

    ถ้าจะใช้มาการีนที่มีไขมันทรานส์ เลือกใช้เนยที่มีไขมันอิ่มตัวก็ยังดีกว่า เช่น ครัวซองค์ในท้องตลาด หลายๆ ผู้ผลิตจะมีสูตรเนย และสูตรมาการีนให้เลือก ก็ควรเลือกสูตรเนย แม้จะแพงกว่าก็ตาม

    เรื่องของไขมันทรานส์เป็นเรื่องที่ถูกห้ามจำหน่ายแล้วในบ้านเรา ถือว่าผิดกฎหมาย แต่เราก็ยังอาจจะเห็นบางที่ขายมาการีนที่บรรจุในลังกระดาษ ตักชั่งขายถูก ก็เป็นสิ่งที่เราต้องระวัง

    ในปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดเริ่มใช้ประโยชน์จากเรื่องของปราศจากไขมันทรานส์ ระบุว่าสินค้าบริโภคของตนนั้น Transfat Free ซึ่งอาจจะทำให้เราเข้าใจผิดว่า จะทานเท่าไรก็ได้ ปลอดภัย แต่เราต้องไม่ลืมว่าไขมันอิ่มตัวก็เป็นสิ่งที่เราต้องระวัง

    เราต้องกินอย่างมีสติ รู้ว่าในอาหารที่เรากินมีอะไร ถ้าเราจะกินครัวซองค์ที่ทำจากเนย เราก็ต้องรู้ตัวว่าเรากำลังจะกินไขมันอิ่มตัว มื้ออาหารในวันนั้นของเรา ก็ไม่ควรที่จะเป็นขาหมูหรือไก่ทอด แค่เรารู้จักทางสายกลาง บริโภคอย่างรู้เท่าทัน เราก็จะมีสุขภาพที่ดีขึ้น

    อ่านฉบับเต็มได้ที่ : http://bit.ly/2Y3rSph
    #pholfoodmafia #pholfoodmafianetwork #gooddiet

  • hydrogenation 在 CarDebuts Youtube 的精選貼文

    2018-10-31 19:44:40

    Isuzu ส่งรถกระบะปิกอัพ D-MAX Spacecab และเครื่องยนต์ Super Commonrail 2500 Ddi ทดสอบไบโอดีเซล จากต้นสบู่ดำ

    กลุ่มอีซูซุในประเทศไทย ได้มอบเงินสนับสนุนทุนวิจัย พร้อมรถปิกอัพ “อีซูซุดีแมคซ์ สเปซแค็บ รุ่นใหม่” และเครื่องยนต์อีซูซุ ซูเปอร์คอมมอนเรล 2500 ดีดีไอ แก่ทีมวิจัยโครงการ “นวัตกรรมไบโอดีเซลทางเลือกใหม่ จากพืชที่ไม่ใช่อาหาร” ซึ่งเป็นความร่วมมือทางวิชาการไทย - ญี่ปุ่น รวมทั้งช่วยเหลือด้านการทดสอบรถและเครื่องยนต์ ซึ่งอีซูซุมีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างสูง เพื่อให้เกิดความมั่นใจสูงสุด ตามมาตรฐานของอีซูซุ

    นอกจากนี้ กลุ่มอีซูซุยังจัดเตรียมห้องปฏิบัติการทดสอบสารมลพิษ สำหรับการประเมินผลรถที่ใช้ไบโอดีเซลทางเลือกใหม่ จากพืชที่ไม่ใช่อาหารอีกด้วย ซึ่งบริษัทหวังว่า การวิจัยน้ำมันไบโอดีเซลทางเลือกใหม่จากสบู่ดำนี้ จะมีศักยภาพที่จะนำมาใช้งานเชิงพาณิชย์ได้ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความมั่นคง และเสถียรภาพทางด้านพลังงานของประเทศไทยในอนาคตอันใกล้

    ต้นสบู่ดำนี้ เป็นพืชที่มีอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศไทย เติบโตง่าย มีความทนทานต่อความแห้งแล้งและแมลงได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญ ไม่ไปกระทบห่วงโซ่อุปทานของอาหาร เพราะเป็นพืชที่ไม่สามารถนำมาใช้รับประทานได้ ไบโอดีเซลทางเลือกใหม่จากสบู่ดำ ซึ่งผ่านกระบวนการ Partial Hydrogenation นี้ ทำให้สามารถผสมกับน้ำมันดีเซลได้ ในสัดส่วนมากกว่า 5% (B5) ซึ่งเป็นสัดส่วนการผสมของเชื้อเพลิงดีเซลทั่วไปในท้องตลาดปัจจุบัน

    ไบโอดีเซลสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ได้ หากแต่ปัจจุบัน ต้นทุนการผลิตยังมีราคาแพงกว่าดีเซลจากปิโตรเลียม แต่ละประเทศจะใช้วัตถุดิบในการผลิตที่แตกต่างกัน ตามลักษณะภูมิอากาศและภูมิประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นวัตถุดิบที่เกี่ยวเนื่องกับอาหาร เช่น ประเทศไทย ผลิตไบโอดีเซลจากปาล์มเป็นหลัก ดังนั้น “ต้นสบู่ดำ” ซึ่งเป็นพืชที่ไม่สามารถใช้เป็นอาหารได้ จึงได้รับความสนใจในฐานะพืชพลังงาน ที่สามารถนำมาผลิตไบโอดีเซลเพื่อความยั่งยืนในอนาคต

    ความร่วมมือทางวิชาการไทย - ญี่ปุ่นในโครงการ “นวัตกรรมไบโอดีเซลทางเลือกใหม่จากพืชที่ไม่ใช่อาหาร” จึงเป็นอีกหนึ่งความหวังใหม่ เพื่อผลิตไบโอดีเซลที่มีคุณภาพที่สูงขึ้น และมีศักยภาพในการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากมีต้นทุนการสร้างโรงงานหรือต้นทุนการผลิตอื่นๆที่ไม่สูงนัก อีกทั้งสามารถปรับเปลี่ยนจากโรงงานผลิตไบโอดีเซลอยู่เดิมได้ ซึ่งชุมชนต่างๆ ยังคงใช้ประโยชน์จากโรงงานแบบเดิมไว้ได้

你可能也想看看

搜尋相關網站