[爆卦]Aetherial Reduction是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇Aetherial Reduction鄉民發文沒有被收入到精華區:在Aetherial Reduction這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 aetherial產品中有1篇Facebook貼文,粉絲數超過1萬的網紅Taepoppuri,也在其Facebook貼文中提到, บทแปลเรื่องสั้น Tales from the shadows ตอน ‘Through His Eyes’ #1 เป็นซีรีส์เรื่องสั้นของ FFXIV Shadowbringers บอกเล่าเรื่องราวเพิ่มเติมจากเนื้อหาหลั...

 同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...

  • aetherial 在 Taepoppuri Facebook 的精選貼文

    2019-09-28 20:06:48
    有 104 人按讚

    บทแปลเรื่องสั้น Tales from the shadows
    ตอน ‘Through His Eyes’ #1

    เป็นซีรีส์เรื่องสั้นของ FFXIV Shadowbringers
    บอกเล่าเรื่องราวเพิ่มเติมจากเนื้อหาหลักของเกม วันนี้แปลบทที่เราว่าน่าสนใจมาให้อ่านกัน

    *แน่นอนว่าสปอยล์อย่างหนักหน่วง
    .
    .
    .
    ==================

    ในห้วงเวลาที่ถูกลืมเลือนไปนานแล้ว มนุษย์และพระเจ้าก็คือสิ่งเดียวกัน และบนดาวดวงนั้นก็คือบ้านของพวกเขาและเธอ ผู้คนปกครองดูแลโลกใบนั้นที่มีมิติเอเธอร์เรียล แม้มันจะถูกเรียกขานด้วยชื่อต่างๆในหลากหลายยุคสมัย แต่ในจุดเริ่มต้นนั้นพวกเขารู้จักมันในฐานะ ‘อันเดอร์เวิลด์’

    ที่ๆซึ่งวิญญาณจะกลับไปเมื่อหมดสิ้นอายุขัย เหมือนกับน้ำที่ไหลลงทะเล และระเหิดขึ้นท้องฟ้า ก่อนจะกลับลงมาเป็นสายฝนอีกครั้ง อันเดอร์เวิลด์ เป็นหนึ่งในรากฐานของวงจรชีวิต

    แม้เหล่ามนุษย์จะมีพลังมากล้น แต่พวกเขาก็ไม่อาจควบคุมวงจรนี้ได้ มันเป็นสถานที่ที่พวกเขารู้ว่ามีอยู่จริงและให้ความเคารพ ต่อให้ฉลาดเพียงไร ก็อาจจะได้สัมผัสกับมิตินั้นแค่พริบตา ได้หยิบยืมพลังนั้นแค่เบาบาง ไม่อาจขัดขวางต่อต้านกระแสธารชีวิตนั้นได้

    กระนั้นเอง ในโลกยุคนั้น ก็มีผู้ถูกเลือกบางคน ที่ได้รับความรักใคร่จากอันเดอร์เวิลด์เป็นพิเศษ และหนึ่งในนั้น ก็ยืนอย่างองอาจ…

    -------------------------

    ยามเย็นแสนสงบสุขและงดงามพาดผ่านอามูรอท ประชาชนในชุดคลุมดำเดินสวนกันอย่างสบายอารมณ์บนท้องถนนของเมืองหลวงอันงดงาม บางคนเดินกลับบ้านเพื่อเข้านอน บางคนสนทนากับเพื่อนรู้ใจ

    แต่เขาเลือกที่จะอยู่คนเดียวบนสนามกลางสวน นอนพาดบนสนามหญ้าที่ถูกตัดแต่งเรียบร้อย หมวกของชุดคลุมตกไปข้างหลังทำให้เห็นปอยผมขาวกับหน้ากากสีแดงครึ่งหน้า สิ่งเดียวบนเครื่องแต่งกายนี้ที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาผู้เดียว

    คนที่เดินผ่านไปมาอาจจะเห็นว่าเขานอนดูดาวหรือแสงไฟจากหอคอยสูงเทียมฟ้าอย่างเกียจคร้าน แท้จริงแล้วสิ่งที่ปรากฏขึ้นในสายตาเขา มีน้อยคนนักจะได้เห็นภาพนั้น

    เขากำลังมองเอเธอร์ที่ประกอบขึ้นเป็นสิ่งต่างๆ ตั้งแต่ใต้พื้นยันชั้นบรรยากาศ แสงนั้นเปล่งประกายแสนเจิดจ้าไปด้วยชีวิต ชีวิตที่โชติช่วงและได้ทำหน้าที่ของมันเสร็จสมบูรณ์แล้ว ต่างก็ล่องลอยไปบนกระแสธารนั้น ก่อนจะกลับสู่อันเดอร์เวิลด์ในที่สุด

    มีบางคนที่มีสายตามองภาพเหล่านี้ แต่น้อยคนนักจะมีพรสวรรค์เท่าเขาในการจำแนกสีของวิญญาณ ด้วยสายตาที่แน่วแน่และการตั้งสมาธิเฉียบคม เขาสามารถบอกได้ถึงเฉดสีที่ต่างกันเพียงเล็กน้อยของหัวใจแห่งชีวิตของแต่ละคน

    ความสามารถเหนือธรรมดานี้ ทำให้ผู้คนมักเปรียบเปรยราวกับว่าเขาเป็นคนของอันเดอร์เวิลด์

    เขามองแสงเอเธอร์ร่ายระบำไปมาพร้อมปล่อยใจคิดล่องลอย แต่แล้วก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเบาๆย่ำต้นหญ้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เขาหลับตาแน่นราวกับว่าอยากจะให้เสียงรบกวนทั้งหลายเงียบไป แต่เสียงฝีเท้าก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆจนเจ้าของฝีเท้าเปล่งเสียงขึ้น

    ‘ข้าได้ยินข่าวแล้ว! ยินดีด้วยจริงๆนะ เฮดีส โอ๊ะ หรือต้องบอกว่าท่านเอเม็ทเชลค์ผู้มีเกียรติแห่งสภาทั้งสิบสี่กันนะ?’

    ถ้าแกล้งหลับ เจ้านี่จะปล่อยข้าไว้เฉยๆไหมนะ ..เขาหวังลมๆแล้งๆไปอย่างนั้นเอง และก็อย่างที่คาด เจ้าของเสียงนั้นไม่มีท่าทีว่าจะยอมไปไหน สักพักเขาก็ยันตัวขึ้นมาประจันหน้ากับเจ้าคนยิ้มแป้นแล้น และตอบด้วยน้ำเสียงเจืออารมณ์บูดอย่างเปิดเผย

    ‘ไม่มีอะไรต้องยินดีทั้งนั้น ข้าก็แค่มาเสียบตำแหน่งที่ว่าง ซึ่งมันว่างก็เพราะ”เจ้า”ไม่รับตำแหน่งยังไงล่ะ’

    ‘ไม่เอาน่า ตำแหน่งนี่ตกไปให้ผู้ที่เหมาะสมที่สุดอยู่แล้ว เจ้าใช้พรสวรรค์ให้เกิดประโยชน์ได้จริง ต่างจากข้าที่แค่ชอบมองสิ่งต่างๆไปเรื่อยเท่านั้น’

    ‘แล้วไอ้การทำแบบนั้น มันเหมาะสมกับตำแหน่งของเจ้าในสำนักงานผู้สรรค์สร้างรึไง ข้าจะยื่นเรื่องนี้เข้าหอประชุมโต้วาทีซะดีมั้ย’

    เขาพูดพร้อมจ้องเขม็งทะลุหน้ากากออกไป แต่ก็รู้อยู่แก่ใจทั้งคู่นั่นแหล่ะว่าเจ้านี่ต้องหัวเราะคิกคัก ในชุดคลุมดำพร้อมหน้ากากขาวอาจจะดูไม่น่าจดจำ แต่เพื่อนสนิทของเขา ‘ไฮธโลดีอุส’ ก็เหมือนกันกับเฮดีส มีพรสวรรค์ในการมองมิติอันเดอร์เวิลด์

    และอันที่จริง สายตาของเจ้านี่ก็อาจจะแหลมคมกว่าเขาด้วยซ้ำ ถึงเป็นสาเหตุให้ไฮธโลดีอุสมีคุณสมบัติจะครองตำแหน่งสูงสุดในสำนักงานผู้สร้าง แถมมาด้วยนิสัยยิ้มแป้นแล้นไม่เลิกนี่

    เขาเอือมระอากับความดี๊ด๊าของเจ้าเพื่อนตัวดี ‘งั้นเจ้ามีธุระอะไรอีก?’ แล้วก็ต้องเสียใจที่ถามออกไปเพราะเจ้านั่นยังยิ้มได้กว้างมากขึ้นกว่าเดิม

    ‘มีสิๆ เจ้าไปบอกข่าวการแต่งตั้งนี้กับ’คนๆนั้น’หรือยัง’

    ‘ไม่เห็นต้องบอกเลย ถ้าไม่ใช่ว่าป่านนี้ลือกันไปให้ทั่วแล้วล่ะก็ เดี๋ยวประกาศก็ออกแล้ว’

    ‘แต่ถ้าถามข้า ข้าว่าเรื่องใหญ่แบบนี้ต้องไปบอกกับเจ้าตัวเองด้วยปากนะ ให้ข้าช่วยหาเพื่อนของเราคนนั้นมั้ยล่ะ? รับรองว่าแพลบเดียวเท่านั้นแหล่ะ’

    ‘...ข้ายังไม่ได้ถามความเห็นเจ้าเลยว้อย แล้วก็ไม่ได้ขอให้ช่วยด้วย ไม่ใช่ว่าเจ้ามีธุระด่วนรึไง’

    รอยยิ้มของไฮธโลดีอุสจางลงเล็กน้อย พร้อมเอียงหัวสงสัยว่าเขารู้ได้ยังไงกัน เฮดีสถอนใจก่อนจะอธิบายในสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามใคร่ถาม

    ‘เมื่อไม่นานนี้ เจ้าไปพบกับผู้มาเยือนที่สำนักสุนทรพจน์ของลาฮาแบร แปลว่าเจ้าถูกมอบหมายให้ไปพินิจเรื่องสำคัญอะไรบางอย่าง ซึ่งก็ไม่น่าจะมีเวลามาร่อนเร่แถวนี้ การที่เจ้ามาหาข้าเนี่ยก็เพราะจะมาปรึกษาเรื่องชวนปวดหัว หรือมาขอร้องอะไรสักอย่างน่ะสิ’

    สักพักที่ไฮธโลดีอุสเงียบไป เหมือนจะแก้ตัวไม่ถูก แต่แล้วก็หัวเราะจนไหล่กระเพื่อม

    ‘เจ้าทำร้ายจิตใจข้านะ เพื่อนยาก! ข้าแค่บังเอิญมาเห็นเจ้านอนกลิ้งอยู่ตรงนี้ก็เลยอยากแสดงความยินดีเท่านั้นเอง’ แล้วก็เริ่มพูดต่อด้วยรอยยิ้มก่อกวน ‘แล้วด้วยตำแหน่งใหม่นี่ เจ้าน่าจะมีเวลาว่างน้อยกว่าข้าอีกไม่ใช่รึไง แต่ก็งี้แหล่ะน๊า แต่ไหนแต่ไรไม่เคยเห็นเจ้าจะตื่นได้เองซะที เว้นแต่จะมีเรื่องที่เจ้าคิดว่าน่าสนใจ’

    ถึงจะรู้ว่าเพื่อนแค่แหย่เล่น แต่ไอ้การสังเกตสังกาแบบไม่ได้ขอนั้นก็ไม่ช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นเลย ‘เอาล่ะ เจ้ามายินดีกับข้าเสร็จแล้ว’ เขาพูดอย่างอดทน ‘ถ้าไม่มีอะไรจริงๆ ข้าก็ไปล่ะ’ พอหันหลังจะเดินจากไป ไฮธโลดีอุสก็พูดตามมาอย่างร้อนรน

    ‘เดี๋ยวซี่ อย่างที่เจ้าว่านั่นแหล่ะ ข้ามาขอคำปรึกษา... และก็จะขอร้องอะไรนิดหน่อย จะไม่ช่วยข้าจริงๆเหรอ ท่านเอเม็ทเชลค์ผู้สูงส่ง?’
    .
    .
    .
    (To be continued)

    ตอนจบ
    facebook.com/taepoppuri/photos/a.1394794957266616/2525107544235346
    ==================
    .
    .
    .
    จุดสังเกต&ขยายความ

    =อันเดอร์เวิลด์/มิติเอเธอร์=

    หรือทะเลเอเธอร์เรียล (Aetherial sea) มีพูดถึงบ่อยครั้งในเกม เป็นแนวความคิดคู่ซีรีส์ FF มานานแล้ว คล้ายกับ Lifestream ของภาค 7, Farplane ของภาค 10 หรือ Unseen realm ของ 13

    สำหรับในภาค 14 นี้ ตัวเอกของเรา(WoL) ก็เคยไปเห็นมาแล้วแว่บๆในเกม อาทิ ที่ๆไฮเดลีนอยู่ และในดันเจี้ยน Antitower แต่ในยุคปัจจุบันคนและชนเผ่าทั่วไปไม่ได้มีความรู้เรื่องเอเธอร์เรียล (ถึงได้เรียกไพรมอลกันรัวๆจนเป็นพิษต่อดวงดาว)

    จะมีพวกไซออนที่ศึกษาธรรมชาติของเอเธอร์อย่างลึกซึ้งถึงจะรู้จัก และใช้ประโยชน์จากมันได้บ้าง เช่น ใช้กระแสเอเธอร์วาร์ปจากเสาเอเธอร์หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง ในเกมคือคนปรกติวาร์ปไม่ได้นะ ความรู้พวกนี้มีพื้นฐานมาจากนักปราชญ์รัฐชาร์เลียน (Sharlayan-รัฐที่เป็นบ้านของลุยซัวส์ อัลฟินอด อลิเซ่) เสาวาร์ปทั้งหลายที่ตั้งๆอยู่ในเกมก็นำเข้ามาจากชาร์เลียน (แต่ละเมืองมันถึงมาเก็บค่าวาร์ปเราไงล่ะจ๊ะ)

    =ยุคโบราณ=

    แต่สำหรับคนยุคอามูรอท มิติเอเธอร์หรือที่เขาเรียกว่าอันเดอร์เวิลด์ เป็นเรื่องที่คนรู้กันทั่วไป และมีความเข้าใจลึกซึ้งกว่าคนยุคนี้มาก เพราะพวกเขามีพลังสรรค์สร้าง (Creation magic) เป็นพลังเวทที่ติดตัวชาวอามูรอททุกคนแต่เกิด คือการที่สร้างอะไรขึ้นมาจากจินตนาการก็ได้

    โลกยุคโบราณที่สมบูรณ์ยังไม่ถูกแยกเสี่ยงโดยไฮเดลีนนั้น มีหลากหลายประเทศหรือแว่นแคว้นเหมือนกัน แต่อามูรอทเป็นประเทศที่เจริญและทรงปัญญาที่สุด เดาว่าน่าจะเป็นเพราะวิทยาการจากพลังการสร้างนี้เอง

    =For the greater good=

    ถึงจะรุ่งเรืองที่สุดแต่อามูรอทไม่เคยใช้ความได้เปรียบในการคุกคามเพื่อนบ้าน พูดภาษาบ้านๆคือเป็นพวกเนิร์ด บ้าความรู้ ปรัญชา ไม่ยุ่งเรื่องต่อสู้หรือทะเลาะเบาะแว้ง และมีมายด์เซ็ตเหมือนๆกันหมดว่าจะใช้ความสามารถเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ไม่ใช่อยากเด่นดังในฐานะปัจเจกชน

    จะเพศไหนอายุเท่าไหร่ก็ใส่ชุดคลุมแบบเดียวกันเพื่อให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ต่างแค่ที่หน้ากากเอาไว้แยกแยะว่าใครเป็นใคร ไม่โฟกัสที่รูปร่างหน้าตาแต่ยกย่องกันที่ปัญญาและความใฝ่รู้ (คนขี้เกียจท่าทางจะอยู่ยากนะนิ)

    พวกนี้อายุขัยยาวนานมากเมื่อเทียบกับมนุษย์ปัจจุบัน พยายามก้าวไปสู่สังคมอุดมคติ (Utopia) จากบริบทต่างๆจะรู้สึกได้ว่าชาวอามูรอทภูมิใจในศักดิ์ศรีตรงนี้มาก เป็นยุคที่ไม่มีเทพ ศรัทธาในความสามารถของตนเอง คิดว่าพวกตนเป็นตัวแทนที่ต้องดูแลรักษาดวงดาวให้คนยุคต่อๆไป

    =สำนักงานผู้สรรค์สร้าง=

    ในเกมเรียก Bureau of the Architect คือที่ๆเราไปนั่งรอเจ้าหน้าที่ผีขานชื่อ และเงาไฮธโลดีอุสโผล่มาคุยกับเรา อย่างที่บอกว่าชาวอามูรอทมีพลังสร้างอะไรขึ้นมาจากจินตนาการก็ได้ แต่ก็ต้องฝึกฝนสมาธิในการดึงเอเธอร์มาใช้ถึงจะสร้างอะไรยากๆซับซ้อนได้

    อย่างเช่นชาวอามูรอทที่ไม่ชำนาญพลังการสร้าง อาจจะจินตนาการอยากสร้างโคตรพ่อเรือสำราญสักลำ แต่สมาธิไม่ถึง ขาดความเชี่ยวชาญ ก็อาจจะออกมาเป็นเรือพายง่อยๆลำนึง

    เลยมีการตั้ง Bureau of the Architect ขึ้นมา คือที่รวบรวมแนวความคิดการสร้างต่างๆ ถึงทำเองไม่ได้แต่คิดอะไรเจ๋งๆได้ ก็ไปจดทะเบียนไว้ ให้คนอื่นเอาไปต่อยอดต่อไป ตามทัศนคติใช้ความสามารถเพื่อประโยชน์สุขของคนส่วนใหญ่

    =Convocation of Fourteen=

    ระบบการปกครองของชาวอามูรอท ใช้วิธีเลือกคนที่มีความสามารถที่สุดขึ้นมาเป็นผู้นำสิบสี่คน สิบสี่คนนี้จะครองชื่อตำแหน่งต่างๆ และร่วมกันตัดสินใจเรื่องสำคัญของนครอามูรอท แต่ละคนเป็นปราชญ์ที่มีความสามารถคนละด้าน เท่าที่เคยบอก นอกจากตำแหน่งเอเม็ทเชลค์ที่น่าจะเป็น The Architect ก็มีลาฮาแบร The Speaker และ เอลิบิดัส The Emissary เป็นต้น

    ใน Akademia Anyder มีพูดถึงมิตรอน กับฮาลมารุท ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรชีวภาพของสัตว์น้ำกับพืช ตามลำดับ ถ้าให้เทียบแบบ irl มันคือรมต.ประมงกับเกษตรหรือเปล่านะ…

    =Certain someone คนๆนั้น=

    บทอวยให้สงสัยมาขนาดนี้ จะเป็นใครไปไม่ได้ 'คนๆนั้น' ที่ไฮธโลแหย่เฮดีสให้ไปบอกข่าว ก็คือ WoL ของเรานั่นเอง เป็นตัวตนที่วิญญาณครบสมบูรณ์สมัยโลกยังไม่แตก ในนิยายฉบับ eng นี้ใช้คำว่า Certain someone แต่ในบางภาษาจะเปลี่ยนสรรพนามตามเพศตัวละครของเราเลยให้เข้าใจง่ายๆ

    หลายคนเดาว่าตำแหน่งที่ 14 ของผู้นำอามูรอทคือ WoL ในอดีต จากคำบอกเล่าของเงาไฮธโลดีอุส ตอนที่อัญเชิญโซดิอาร์คเหลือแค่ 13 คน เพราะตำแหน่งที่ 14 เพิ่งว่างไป

    จะตีความว่าเราเพิ่งมาจอยตำแหน่งว่างนั้นทีหลังจากอัญเชิญโซดิอาร์คไปแล้ว เราเลยไม่โดนโซดิอาร์คครอบงำ หรือเราที่เป็นคนที่ 14 ที่ไม่เห็นด้วยเลยออกจากกลุ่มไปเพื่ออัญเชิญไฮเดลีน ก็เป็นได้ทั้งสองทาง

    ในเกมก็ใบ้อยู่ว่าเราคนเก่านั้นสนิทกับเอเม็ทและไฮธโลดีอุส และเอเม็ทดูจะมองเราเป็นคนพิเศษ (หมายถึงมีความสามารถ เป็นคนเก่ง) จากนิยายตอนนี้ก็จะเข้าใจได้ว่าเพราะเขาเห็นวิญญาณของเราสีแปลกไม่เหมือนคนอื่นด้วย แม้ในยุคปัจจุบันที่เขาลองเข้ามาหาพวกไซออนในเดอะเฟิร์สต์แต่แรก ก็เพราะจำสีวิญญาณของเพื่อนเก่าได้ (ลองย้อนกลับไปดูคัทซีนแรกที่เขาแอบมองเราบนยอดฟอร์ตจ็อบบ์นะ)

    แต่พอเราล้มเหลวในการเก็บแสงของไลท์วาร์เด็นหลังปราบวอลธรีย์ เขาเลยฟิวส์ขาด ผิดหวังที่สุดท้ายเราก็เป็นแค่เศษวิญญาณ ทั้งไม่ใช่และไม่อาจเทียบได้กับเราคนเดิม ส่วนเราเองจำอะไรไม่ได้เลย กระซวกพุงเพื่อนเก่าไปเต็มข้อ เดี๋ยวคงมีย้อนอดีตให้ระลึกชาติกัน

    ป.ล. ในนิยายมีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเยอะ ใครชอบก็ลองไปอ่านต้นฉบับดูค่ะ นอกจากเก็บตกบุคลิกตัวละครได้ดี แล้วจะอธิบายบางจุดได้ด้วย เช่น ทำไมเงาของไฮธโลถึงมองเห็นอาร์ดเบิร์ตที่ไม่มีใครเห็นเลยได้ ถึงไฮธโลจะบอกว่าเห็นจางมาก แต่เขาไม่มีวันลืมสีวิญญาณของเรา
    .
    .
    .
    ตอนต่อไป ตามไปดูว่าไฮธโลพาเอเม็ทไปเจออะไร

    แปลบทสนทนากับไฮธโลดีอุส ย้อนกลับไปดูยิ่งเห็นสองคนนี้มันสนิทกันแบบนี้แล้วก็แซด 'ถ้าเป็นไฮธโลดีอุส ต้องรู้ตัวแน่'
    facebook.com/taepoppuri/photos/a.1394794957266616/2439774089435359

    ลิงค์เต็มของนิยายแต่ละตอนและเรื่องย่อ
    facebook.com/taepoppuri/photos/a.1394794957266616/2488217271257707

    #FFXIV #Shadowbringers

  • aetherial 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的最佳解答

    2021-10-01 13:19:08

  • aetherial 在 大象中醫 Youtube 的精選貼文

    2021-10-01 13:10:45

  • aetherial 在 大象中醫 Youtube 的精選貼文

    2021-10-01 13:09:56

你可能也想看看

搜尋相關網站