ขอบคุณมากครับ

10 หมอดูชื่อดังในตำนานของเมืองไทย

ศาสตร์แห่งการพยากรณ์ หรือการทำนายของผู้ที่เรียกว่า “หมอดู” นั้นมีหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็นการทำนายจากไพ่ทาโรต์ จากฮวงจุ้ย จากกราฟชีวิต จากศาสตร์แห่งดวงดาว จากศาสตร์แห่งฤกษ์ยาม และอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่ในวงการพยากรณ์นั้นมักจะมีการส่งต่อศาสตร์แห่งการพยากรณ์นี้กันรุ่นต่อรุ่น หรือศึกษาเล่าเรียนวิชาจากบรรดาครูบาอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีกระแสดราม่าในวงการหมอดูเกิดขึ้น เมื่อโหราจารย์ชื่อดัง “อรรถวิโรจน์ ศรีตุลา” ได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “หมอช้าง – ทศพร ศรีตุลา” ไม่ใช่ลูกหลานของตน เพียงใช้นามสกุลเดียวกัน และไม่เคยสอนวิชาโหราจารย์ให้แต่อย่างใด เกรงประชาชนคนสนใจการพยากรณ์จะเข้าใจผิด ซึ่ง “หมอช้าง – ทศพร ศรีตุลา” คือหนึ่งในหมอดูชื่อดังอันดับต้นๆ ของประเทศไทยที่หลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อเสียงของเขาเป็นอย่างดี โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะหมอช้าง และอาจารย์อรรถวิโรจน์ มีนามสกุล “ศรีตุลา” เหมือนกัน จนทำให้ผู้อื่นเกิดความเข้าใจผิด คิดว่าเป็นลูกหลานหรือญาติกันนั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีหมอดูอีกหลายท่านที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากการทำนายเหตุการณ์ต่างๆ ของบ้านเมือง รวมถึงทำนายเรื่องราวในวงการบันเทิงออกมาได้อย่างแม่นยำ สำนักข่าวปากต่อปากจึงได้รวบรวม 10 หมอดูของประเทศไทยที่เก่งกาจและมีชื่อเสียงโด่งดังมาฝากกัน

หมอกฤษณ์ คอนเฟิร์ม
เรียกได้ว่าไม่มีใครไม่รู้จักหมอดูชื่อดังคนนี้แน่นอน สำหรับ “หมอกฤษณ์ คอนเฟิร์ม” หรือ “ศุกฤษฎ์ ปทุมศรีวิโรจน์” หมดดูชื่อดังที่ได้ทำนายได้อย่าเฉียบคม ตรงเป้า โดยเขาโด่งดังมาจากการทำนายเรื่องราวในวงการบันเทิงได้อย่างแม่นยำตรงตามคำทำนาย ซึ่งคำพูดติดปากหลังการทำนายว่า คอนเฟิร์ม! ทำให้ผู้คนจดจำเขาได้ทันทีว่านี่คือ กฤษณ์ คอนเฟิร์ม!

หมอลักษณ์ ฟันธง
อีกหนึ่งท่านที่โด่งดังมาจากการทำนายเรื่องราวของดารานักแสดงและบุคคลในวงการบันเทิง สำหรับ “หมอลักษณ์ ฟันธง” ที่มาพร้อมท่าโบกสะบัดธงอันเป็นเอกลักษณ์พร้อมคำว่า “ฟันธง” เพื่อฟันธงผลการทำนายของเขา จนเป็นที่จดจำของผู้คนทั้งประเทศ โดยเฉพาะแฟนรายการ ศึก 12 ราศี ที่จะต้องคุ้นหน้าคุ้นตาหมอลักษณ์เป็นอย่างดีแน่นอน

หมอช้าง - ทศพร ศรีตุลา
เป็นซินแสชื่อดังที่เน้นการดูดวงตามหลักโหราศาสตร์ โดย “หมอช้าง - ทศพร ศรีตุลา” นั้นขึ้นชื่อเรื่องการดูดวงจากกราฟชีวิต ฮวงจุ้ย และมักจะมาทำนายเมื่อเกิดเหตุการณ์ดวงดาวย้ายราศีอยู่เสมอ ซึ่งเขาไม่ได้โด่งดังแค่ในประเทศไทยเท่านั้น ในต่างประเทศก็เป็นที่รู้จักไม่แพ้กัน ทำให้หมอช้างต้องบินไปดูดวงในหลายๆ ประเทศ อาทิ ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ เกาหลี เป็นต้น

หมอไพศาล ซอยพิบูลเวศม์
โหราจารย์อาวุโสแห่งวงการโหรเมืองไทย “หมอไพศาล ซอยพิบูลเวศม์” ถือเป็นหมอดูชื่อดัง ที่มีชื่อเสียงยาวนานมากว่า 30 ปี โดยใช้จุดเด่นของโหราศาสตร์จีนและตะวันตกมาผนวกกันในการดูดวง

อ.อรรถวิโรจน์ ศรีตุลา
โหรการเมืองชื่อดังของไทย “อาจารย์อรรถวิโรจน์ ศรีตุลา” มีความชำนาญในเรื่องโหราศาสตร์ไทยและศาสตร์แห่งตัวเลขมากที่สุด จนประสบความสำเร็จในวงการมาอย่างยาวนาน

ซินแสภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล
เป็นทั้งนักธุรกิจและหมอดูที่มีชื่อเสียง โดยซินแส “ภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล” อีกหนึ่งท่านที่เก่งกาจในเรื่องหลักฮวงจุ้ยแบบจีน ผ่านการดูดวงมาหลากหลายแวดวง ทั้งเซเลบ นักการเมือง ข้าราชการ และนักธุรกิจ จนเป็นที่รู้จักและที่นับถือจากบุคคลหลากหลายวงการ

อ.คฑา ชินบัญชร
มีความเชี่ยวชาญในศาสตร์ของการดูไพ่ยิปซีเป็นอย่างมากสำหรับ อ.คฑา ชินบัญชร ทั้งยังเป็นที่รู้จักมาอย่างยาวนานจนเรียกได้ว่าเป็นนักพยากรณ์ไพ่ยิปซีอันดับหนึ่งของเมืองไทยเลยทีเดียว

อ.โสรัจจะ นวลอยู่
เริ่มต้นมาจากการศึกษาตำราโหราศาสตร์ด้วยตนเองจากตำราที่แปลมาจากจากภาษาอียิปต์ จากนั้น “อ.โสรัจจะ นวลอยู่” จึงได้เริ่มศึกษาโหราศาสตร์ทางดวงดาว โดยเฉพาะดวงโหราศาสตร์ไทย จนโด่งดังจากการเป็นนักพยากรณ์ในนิตยสารแพรวนั่นเอง

หมอแมน การิน
จากนักแสดงหนุ่มที่ผันตัวมาศึกษาทางด้านศาสตร์แห่งตัวเลข จนกลายมาเป็น “หมอแมน การิน” นักออกแบบตัวเลข ที่ดูดวงจากเลขเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งดาราหลายๆ คนก็ให้หมอแมนช่วยดูเลขที่เหมาะสม และทำการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ตามคำบอกกล่าวของหมอแมนเพื่อให้ชีวิตดีขึ้นกว่าเดิม

ริว จิตสัมผัส
มีความสามารถในการทำนายทายทัก และโด่งดังมาจากการหยั่งรู้ชะตาชีวิตคน จนได้ชื่อว่า “ริว จิตสัมผัส” และยิ่งมีชื่อเสียงมากขึ้นจากการร่วมเป็นพิธีกรรายการคนอวดผีนั่นเอง

แต่ละท่านล้วนมีความสามารถและความถนัดในศาสตร์ที่แตกต่างกัน แต่นับได้ว่ามีความแม่นยำสูงในการทำนาย และถือว่าเป็นหมอดูคิวทองกันแทบทั้งนั้น

Cr. ขอบคุณเจ้าของภาพนะคะ

สำนักข่าวปากต่อปากรายงาน
#ปากต่อปาก #paktorpak #jingjaicreation #paktorpaknews #ปากต่อปากนิวส์ #สำนักข่าวนิสัยดี #เป็นมิตรกับทุกคน
Contact:
📧:info@paktorpaknews.com
FB:@paktorpaknews
IG: pak_tor_paknews
Twitter: Paktorpak_news

"ขันติที่สมบูรณ์ ต้องมีโสรัจจะประกอบอยู่ด้วย"

" .. สีลสมาธิคุณานํ ขนฺติ ปธานการณํ สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมา ขนฺตฺยาเยว วฑฺฒนฺติ เต" พระพุทธศาสนสุภาษิต บทนี้แปลความว่า "ขันติเป็นประธาน เป็นเหตุ แห่งคุณคือศีลและสมาธิ กุศลธรรมทั้งปวงย่อมเจริญ เพราะขันติเท่านั้น"

"ขันติ" ความอดทนความทนทาน อย่างสามัญ อย่างสามัญที่มีความอดกลั้นเป็นลักษณะ เรียกว่า "อธิวาสนขันติ" ขันติคือความอดกลั้น เช่น ทนตรากตรำต่อ หนาว ร้อน หิว กระหาย เป็นต้น ทนลำบากต่อทุกขเวทนาในเวลาเจ็บไข้ได้ป่วย ทนต่อความเจ็บใจ ต่อถ้อยคำ จาบจ้วงล่วงเกิน

เพราะสิ่งที่อดทนเหล่านี้มีเกิดขึ้นอยู่ที่กาย ใจ ปรากฎมีหนาว ร้อน หิว กระหาย มีทุกขเวทนา มีความเจ็บใจ จึงอดกลั้นไว้ หนาว ร้อน หิว กระหาย ก็อดกลั้นตามที่ควรอดกลั้น เจ็บปวดก็อดกลั้นไม่ร้องทุรนทุราย เจ็บใจก็อดกลั้นไม่แสดงอาการโกรธร้ายแรงทางกาย วาจา อดกลั้นให้อยู่ในใจและพิจารณาระบายออก ทำให้ผ่อนคลาย ไม่ให้เครียด ให้สงบ ใจจึงแจ่มใสแช่มชื่น กายก็สงบเป็นปกติ

อาการดังนี้เรียกว่า "โสรัจจะ" ที่แปลว่าความเสงี่ยมคือสงบปกติ "ขันติที่สมบูรณ์จึงต้องมีโสรัจจะประกอบอยู่ด้วย" การหัดอดกลั้นและทำใจให้สงบ เป็นปกติในเวลาต้องอนิฏฐารมณ์ คือเรื่องที่ไม่ชอบ ย่อมยากในตอนแรก

แต่เมื่อหัดปฏิบัติบ่อยเข้า ก็จะง่ายขึ้น จนถึงทำจิตให้สงบเป็นปกติได้ มีอาการมั่นคง มีอารมณ์อะไรมากระทบกระทั่งก็ไม่กระเทือน ขันติก็เลื่อนขึ้นเป็นมีความทนทานเป็นลักษณะ เรียกว่า "ตีติกขาขันติ" ขันติคือ ความทนทาน ดังที่ตรัสไว้ในโอวาทปาฎิโมกข์ว่า "ขนฺติ ปรมํ ตโป ตีติกฺขา" ขันติ คือความทนทานเป็นตบะอย่างยิ่ง

"ขันติเป็นอลังการวิเศษ"อำนวยผลแก่ผู้ที่มีอยู่ทุกคน เพราะผู้ที่มีจิตใจเข็มแข้งอดทนสงบอยู่เป็นปกติ ทนทานได้ทุกสถานการณ์ ย่อมชื่อว่าได้ที่ตั้งรับอันมั่นคง เป็นผู้ชนะในขั้นที่ตั้งรับแล้ว ทำให้สามารถปฎิบัติกิจหน้าที่ให้สำเร็จ .. "

สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก