คำถามถึงเทวดา, พญานาค, พระภูมิเจ้าที่,
สัตว์เดรัจฉาน, เปรต, สัตว์ในนรก และ..มนุษย์
.
.
คำถามเดียวกัน แต่ต่างคำตอบ ต่างภพภูมิ ต่างวาระ ต่างบารมี ต่างคว...
คำถามถึงเทวดา, พญานาค, พระภูมิเจ้าที่,
สัตว์เดรัจฉาน, เปรต, สัตว์ในนรก และ..มนุษย์
.
.
คำถามเดียวกัน แต่ต่างคำตอบ ต่างภพภูมิ ต่างวาระ ต่างบารมี ต่างความคิด ต่างการกระทำ และ ต่างจุดมุ่งหมาย คำถามที่ว่าคือ
.
.
" ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์อยากจะทำอะไร? "
.
.
เทวดา ตอบว่า.. "เราจะพิจารณาธรรม เพราะมนุษย์มีกายสังขาร ที่เหมาะกับการพิจารณาธรรมมาก ร่างกายของมนุษย์เป็นเครื่องมือที่ใช้พิจารณาธรรมได้ดีที่สุด น่าอิจฉาพวกมนุษย์จริงๆ"
.
.
พญานาค ตอบว่า.. "บวชสิ..ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์ เราจะบวช...เป็นพญานาคมีฤทธิ์มากก็จริง แต่บวชไม่ได้ พ้นทุกข์ไม่ได้ ไม่เหมือนมนุษย์ พระพุทธเจ้าไม่อนุญาตให้นาคบวช แต่มนุษย์บวชได้ มนุษย์สร้างบุญใหญ่ไปสวรรค์ชั้นสูง ไปแดนนิพพานได้ แสนประเสริฐจริงๆ"
.
.
พระภูมิเจ้าที่ ตอบว่า.. "ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง คราวนี้เราจะไปทำบุญใส่บาตรทุกวัน ไม่ต้องมานั่งรอคนอุทิศส่วนกุศลมาให้เราอีก ไปทำเองเลย เพิ่มบารมีได้เร็วทันใจดี"
.
.
สัตว์เดรัจฉาน ตอบว่า.. "ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์ เราจะสงเคราะห์สัตว์ตัวอื่นๆ เป็นสัตว์นั้นทุกข์มาก พูดก็ไม่ได้ คิดอะไรฉลาดๆ ก็ไม่ได้ เป็นมนุษย์มีสมองมีปัญญา เราจะใช้ปัญญาของมนุษย์ทำให้ตัวเองไม่ต้องมาเป็นสัตว์อีก"
.
.
เปรต ตอบว่า.. "เราไม่อยากมีหน้าตาน่าเกลียด ไม่อยากมีปากเท่ารูเข็ม มีรูปร่างสูงเหมือนต้นตาล ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์ เราจะถือศีล จะได้ไม่ต้องมาเป็นเปรตผู้หิวโหย อดๆ อยากๆ ทนทุกข์ทรมานแบบนี้"
.
.
สัตว์นรกในอเวจี ตอบว่า.. "ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์ เราจะทำความดี จะไม่ผิดศีล ๕ อีก จะปฏิบัติธรรม เพราะนรกมันร้อนมันโหดร้าย อยู่แล้วมีแต่ความเจ็บปวด ทุรนทุราย ถ้าข้ามีโอกาสอีกครั้ง เราจะไม่ทำเลว เราไม่อยากทรมาน ไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นสัตว์นรกอีกแล้ว..."
.
.
และเมื่อถามคำถามเดียวกัน กับมนุษย์
มนุษย์ ตอบว่า.. "อยากสมหวังในความรัก, อยากร่ำรวยมหาศาล, อยากมีตำแหน่งสูง, อยากมีอำนาจให้คนอื่นกลัวเกรง แม้ต้องผิดศีลบ้าง ใส่ร้ายผู้อื่น ทุจริตเงินทอง แอบอ้างว่าจะสร้างบุญกุศล แต่กลับเบียดบังทรัพย์ไปเป็นของตน ...ฯ ล ฯ .
.
อนิจจาใครหนอ..น่าสงสารที่สุด!
มนุษย์ผู้ที่อยากแต่ทรัพย์สมบัติภายนอกที่ยึดถือได้ชั่วคราว
ทั้งที่มีโอกาสจะทำบุญกุศลมากกว่าเพื่อน ..
.
.
หากมนุษย์มุ่งเน้นสร้างบุญกุศลเป็นนิตย์
มนุษย์จะมีอริยทรัพย์ คือ.. "ทรัพย์อันประเสริฐ" เป็นของติดตัวไปทุกภพภูมิ มี ๗ สิ่ง คือ ศรัทธา, ศีล, หิริ, โอตตัปปะ, พาหุสัจจะ, จาคะ และ ปัญญา
อ่านอีกครั้งนะครับจะรู้ว่า "มันดีมาก" " วันพระ "
วันเสาร์ที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๑
ขึ้น ๘ ค่ำ เดือนอ้าย (๑) ปีจอ
โอตตัปปะ 在 หมอแพมชวนอ่าน Facebook 的最佳解答
#ภัยพิบัติในโลกความจริง_ไม่เคยเตือนล่วงหน้า
#สร้างGPSที่ถูกต้องวันนี้_ไม่ต้องตามแก้ไขในวันหน้า
.
เหตุการณ์สมมติ...ที่พ่อแม่ต้องมีประสบการณ์ร่วม
.
ไปอาบน้ำได้แล้วลูก (เสียง Level 1)....เฉย
ไปอาบน้ำได้แล้วลูก (เสียง Level 2)....เฉย
แม่ให้ อีก 5 นาทีเท่านั้นนะ...ค่า (หน้าไม่ได้หันมามอง ยังหมกมุ่นกับของเล่น)
หมดเวลาแล้วลูก ไปอาบน้ำได้แล้ว....เฉย
ไปอาบน้ำ....เดี๋ยวนี้ (เสียง Level สุด)....ค่ะ...
พร้อมท่าเดินอ้อยอิ่ง..ให้เราเจ็บใจเล่น😅
.
เด็กเกิดมาเพื่อทดสอบ “ภาวะความเป็นพ่อแม่”
หน้าที่หลัก คือ
#นักทดสอบวุฒิภาวะทางอารมณ์ของพ่อแม่
เด็กเค้าจะเรียนรู้จาก ท่าทาง น้ำเสียง สีหน้า
กลิ่นของอารมณ์ของคุณแม่ ได้อย่างรวดเร็ว
และก็เลือกช่วงเวลา
เป้าหมายของเค้าในการทดสอบนี้คือ
ทำอย่างไร เค้าจะได้ในสิ่งที่ต้องการ”นาน”ที่สุด
หมอเรียกพฤติกรรมแบบนี้ว่า
#ทำในวินาทีสุดท้าย
.
พฤติกรรมไม่พึงประสงค์ของลูก มีเบื้องหลังเสมอ
อยู่ที่เราจะ มองเห็นและเข้าใจ หรือไม่
.
มีหลายๆเหตุการณ์ของผู้ใหญ่
ที่ทำให้หมอคิดถึงพฤติกรรม
#ทำในวินาทีสุดท้ายของลูก
.
นักศึกษามาโอดครวญว่า
เค้าไม่รู้ว่ารายงานผู้ป่วยฉบับนี้จะเก็บคะแนน
เพราะ #ไม่มีใครบอก ว่าฉบับแรกเก็บคะแนนด้วย
“อาจารย์ครับ ฉบับนี้ผมไม่ได้ตั้งใจเขียนเท่าไหร่
เพราะผมคิดว่าไม่เก็บคะแนน”
“แล้วปัญหามันอยู่ตรงไหนจ๊ะ”
“ผมอยากขอกลับไปเขียนใหม่”
“อาจารย์คิดว่าเธอจะตั้งใจเต็มที่ในทุกๆฉบับซะอีก
เก็บคะแนนหรือไม่เก็บคะแนน แต่รายงานผู้ป่วยทุกฉบับ ก็ต้องเขียนอย่างเต็มที่นะคะ”....
หรือ
ลูกจ้าง โกรธนายจ้าง
ที่เชิญให้ออกจากงาน เพราะมาสายบ่อย
เค้าโกรธเพราะ #ไม่มีใครเตือนเค้าว่ามาสายกี่ครั้ง
ถึงจะถูกไล่ออก
หรือ
ถ้าเราขับฝ่าไฟแดง
เราประเมินว่าตอนเราฝ่า มัน”น่าจะ”ปลอดภัย
แล้วเราก็ทำซ้ำอีก...
ถ้าวันที่โชคไม่เข้าข้างเราล่ะ
เราก็ถึงตาย...และทำให้คนที่ทำตามกฎได้รับอันตรายไปด้วย
หรือ
เคยมีคนเตือนว่า เสพยาเสพติดมันไม่ดี
แต่สัก 3-4 ครั้งแรก ก็ไม่เป็นไรหรอกน่า
มีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ป้องกัน...แค่ครั้งเดียว
ไม่ท้องหรอกน่า
.
etc.
.
ไม่ว่าเราจะชอบวิธีการที่พ่อแม่เลี้ยงเรามาหรือไม่
แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือ
สิ่งที่เราเป็นในวันนี้ วันที่เป็นผู้ใหญ่ จนกระทั่งมีลูกของตัวเอง
มีพื้นฐานจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่ของเราเป็นสำคัญ
.
ถ้าตอนเราเป็นเด็ก
เราสามารถฝ่าฝืนกฎได้จนกระทั่งแม่ปรี๊ด...
เราใช้จุดนี้ เป็นสัญญาณว่าตัวเองจะเดือดร้อน
(ถึงจุดที่ปรี๊ด ก็ไม่ได้เกิดการเรียนรู้กันทั้งแม่และลูก
เมื่อเหตุการณ์วนซ้ำ เพราะไม่ได้เกิดการเรียนรูว่าสิ่งไหนที่ต้องแก้ไข
มันก็จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำๆ วน loop อยู่เช่นนั้น)
เด็กคนนั้นจะเป็นผู้ใหญ่ ที่ต้องรอให้คนอื่นเตือนซ้ำๆซากๆ
.
นั่นคงไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ
เพราะเราอยากให้ลูก มีสัญญาณเตือนในตัวเอง
.
“ผลของการกระทำ ในโลกความเป็นจริง
เกิดขึ้นโดยไม่เตือนล่วงหน้า”
เราจะทำอย่างไร ให้ลูกเรียนรู้ที่จะตัดสินใจทำสิ่งที่ถูกต้อง ได้ตั้งแต่”ครั้งแรก”
เราจะทำอย่างไร ให้เค้ามี
“หิริ” ให้เค้า #ละอายที่จะทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
“โอตตัปปะ” ให้เค้า #เกรงกลัว ว่าหากทำสิ่งไม่ดี จะส่งผลเสีย จนเค้าไม่กล้าทำสิ่งนั้น
พ่อแม่จะสร้างให้เป็น GPS ในใจเค้าได้อย่างไร
.
เริ่มจากวัยเด็กก่อน
เค้าควรได้เรียนรู้ว่า การตัดสินใจที่ผิดของเค้าเอง
ส่งผลเสียให้เค้าได้ตั้งแต่"ครั้งแรก"
.
👉[ขั้นที่ 1 ]ตกลงกติกากับลูกอย่างชัดเจนเสียก่อน
(ในเรื่องที่เราอยากปรับปรุงพฤติกรรมของเค้า)
หากยังเล็ก ความจำยังไม่เพียงพอ เราสามารถวาดเป็นภาพ
ติดไว้ในจุดที่เค้ามองเห็นได้ง่าย เพื่อให้เค้าเชื่อมโยงกับข้อตกลงที่เคยทำกันไว้
👉[ขั้นที่ 2] ส่งสัญญาณเพียงครั้งเดียว
หรืออาจจะตกลงกันล่วงหน้า ว่าเราจะมีการเตือนได้แค่เพียง 1 ครั้ง
👉[ขั้นที่ 3]ทำตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด...
#โดยปราศจากอารมณ์โกรธ สำคัญ และย้ำคำว่า “เคร่งครัด”
หมายถึง ตัวคุณพ่อคุณแม่เอง ที่ต้องเคร่งครัดกับคำพูดของตัวเอง
ไม่ต้องพูดมาก พูดด้วยน้ำเสียงปกติ..ไม่ไต่ระดับ เพียงครั้งเดียว
.
“แม่จะเตือนให้ลูกไปอาบน้ำเมื่อถึงเวลา
ถ้าแม่เตือน เกิน 3 ครั้ง แม่ก็อาบน้ำก่อน และเข้านอน งดอ่านนิทานก่อนนอนนะ”
“ตกลงค่ะ”
บ้านนี้ เขียนป้ายติดไว้ด้วยค่ะ
.
วันถัดมา
หลังจากเตือน เรื่องเวลาอาบน้ำครบตามข้อตกลงยืนดูพฤติกรรมลูก 1 นาที
พบว่าเธอกำลังติดพัน
และรอสัญญาณเสียงไล่ระดับของแม่อยู่
หมอเลยอาบน้ำ...ปิดไฟ และเข้านอน
“แม่จ๋าาาาาา.....แง....หนูขอโทษ
หนูสำนึกผิดแล้วค่ะ...บลาๆๆ”
ครั้งแรกก็อย่างนี้ล่ะค่ะ...ดราม่าเล็กน้อย
(ให้เรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง)
แต่หลังจากนั้น เรื่องอาบน้ำ
หมอไม่เคยต้องพูดไล่ระดับเสียงอีกเลย
ประหยัดแรง ประหยัดเวลา...เอาไว้อ่านนิทานได้อีกหลายเล่มเลยค่ะ
.
(เรื่องอื่นก็ต้องทยอยฝึกกันเรื่อยๆ)
หมอแพม
ปล.rewrite ให้กระชับขึ้น...เอ๊ะ หรือยังยาว
โอตตัปปะ 在 อ.นันท์ ผ่ากรรม สื่อวิญญาณ Facebook 的最佳解答
#อ่านให้จบนะ..ดีมากๆ เลย
คำถามถึงเทวดา, พญานาค, พระภูมิเจ้าที่, สัตว์เดรัจฉาน, เปรต, สัตว์ในนรก และมนุษย์
คำถามเดียวกัน แต่ต่างคำตอบ ต่างภพภูมิ ต่างวาระต่างบารมี ต่างความคิด ต่างการกระทำ ต่างจุดมุ่งหมาย
"ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์อยากจะทำอะไร"
#เทวดา ตอบว่า
"เราจะพิจารณาธรรม เพราะมนุษย์มีกายสังขาร ที่เหมาะกับการพิจารณาธรรมมาก ร่างกายของมนุษย์เป็นเครื่องมือที่ใช้พิจารณาธรรมได้ดีที่สุด น่าอิจฉาพวกมนุษย์จริงๆ"
#พญานาค ตอบว่า
"บวชสิ ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์ เราจะบวช... เป็นพญานาคมีฤทธิ์มากก็จริง แต่บวชไม่ได้ พ้นทุกข์ไม่ได้ ไม่เหมือนมนุษย์ พระพุทธเจ้าไม่อนุญาตให้นาคบวช แต่มนุษย์บวชได้ มนุษย์สร้างบุญใหญ่ไปสวรรค์ชั้นสูง ไปแดนนิพพานได้ แสนประเสริฐ"
#พระภูมิเจ้าที่ ตอบว่า
"ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง คราวนี้เราจะไปทำบุญใส่บาตรทุกวัน ไม่ต้องมานั่งรอคนอุทิศส่วนกุศลมาให้เราอีก ไปทำเองเลย เพิ่มบารมีได้เร็วทันใจดี"
#สัตว์เดรัจฉาน ตอบว่า
"ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์ เราจะสงเคราะห์สัตว์ตัวอื่นๆ เป็นสัตว์นั้นทุกข์มาก พูดก็ไม่ได้ คิดอะไรฉลาดๆ ก็ไม่ได้ เป็นมนุษย์มีสมองมีปัญญา เราจะใช้ปัญญาของมนุษย์ทำให้ตัวเองไม่ต้องมาเป็นสัตว์อีก"
#เปรต ตอบว่า
"เราไม่อยากมีหน้าตาน่าเกลียด ไม่อยากมีปากเท่ารูเข็ม มีรูปร่างสูงเหมือนต้นตาล ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์ เราจะถือศีล จะได้ไม่ต้องมาเป็นเปรตผู้หิวโหย อดๆ อยากๆ ทนทุกข์ทรมานแบบนี้"
#สัตว์นรกในอเวจี ตอบว่า
"ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์ เราจะทำความดี จะไม่ผิดศีล 5 อีก จะปฏิบัติธรรม เพราะนรกมันร้อนมันโหดร้าย อยู่แล้วมีแต่ความเจ็บปวด ทุรนทุราย ถ้าข้ามีโอกาสอีกครั้ง เราจะไม่ทำเลว เราไม่อยากทรมาน ไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นสัตว์นรกอีก"
แต่... เมื่อถามคำถามเดียวกัน
มนุษย์ตอบว่า "อยากสมหวังรัก, อยากรวย, อยากมีตำแหน่งสูง, อยากมีอำนาจ แม้ต้องผิดศีล ทำร้ายใครก้อจะทำ"
อนิจจาใครหนอ... น่าสงสารที่สุด!
มนุษย์ผู้ที่อยากแต่ทรัพย์สมบัติภายนอกที่ยึดถือได้ชั่วคราว ทั้งที่มีโอกาสจะทำบุญกุศลมากกว่าเพื่อน ทำให้มีอริยทรัพย์คือ
ทรัพย์อันประเสริฐเป็นของติดตัวไปทุกภพภูมิ อยู่ภายในใจ มี ๗ สิ่งคือ ศรัทธา ศีล หิริ โอตตัปปะ พาหุสัจจะ จาคะ ปัญญา
อ่านอีกครั้งจะรู้ว่า "มันดีมาก"
Cr.ขอบคุณผู้เขียนบทความนี้
ขอบคุณผู้วาดภาพนี้
ขอบคุณที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์
โอตตัปปะ 在 หมอแพมชวนอ่าน Facebook 的最讚貼文
#ภัยพิบัติในโลกความเป็นจริง_ไม่เคยเตือนล่วงหน้า
.
ใครที่มีลูกอายุ 2-6 ปี
คงเคยประสบเหตุการณ์เดียวกันนะคะ
.
ไปอาบน้ำได้แล้วลูก (เสียง Level 1)....เฉย
ไปอาบน้ำได้แล้วลูก (เสียง Level 2)....เฉย
แม่ให้ อีก 5 นาทีเท่านั้นนะ...ค่า (หน้าไม่ได้หันมามอง ยังหมกมุ่นกับของเล่น)
หมดเวลาแล้วลูก ไปอาบน้ำได้แล้ว....เฉย
ไปอาบน้ำ....เดี๋ยวนี้ (เสียง Level สุด)....ค่ะ...
พร้อมท่าเดินอ้อยอิ่ง..ให้เราเจ็บใจเล่น😅
.
เด็กฉลาดนะคะ
แม่ก็ต้องการปลูกฝังระเบียบวินัย
ลูกก็เป็นนักทดสอบกฎ
อาชีพของลูกคือ
#นักทดสอบวุฒิภาวะทางอารมณ์ของแม่
เด็กเค้าจะเรียนรู้ ท่าทาง น้ำเสียง สีหน้า
กลิ่นของอารมณ์ของคุณแม่ ได้อย่างรวดเร็ว
และก็เลือกช่วงเวลา
ที่เค้าจะได้ในสิ่งที่ต้องการ”นาน”ที่สุด
หมอเรียกพฤติกรรมแบบนี้ว่า
#ทำในวินาทีสุดท้าย
.
การมีลูก ทำให้เราได้เห็นเบื้องหลังพฤติกรรมของคนคนหนึ่งอย่างใกล้ชิด เพราะฉะนั้น
พฤติกรรมไม่พึงประสงค์ของลูก มีเบื้องหลังเสมอ
อยู่ที่เราจะ มองเห็นและเข้าใจ หรือไม่
.
มีหลายๆเหตุการณ์ของผู้ใหญ่
ที่ทำให้หมอคิดถึงพฤติกรรม
#ทำในวินาทีสุดท้ายของลูก
นักศึกษามาโอดครวญว่า
เค้าไม่รู้ว่ารายงานผู้ป่วยฉบับนี้จะเก็บคะแนน
เพราะ #ไม่มีใครบอก ว่าฉบับแรกเก็บคะแนนด้วย
“อาจารย์ครับ ฉบับนี้ผมไม่ได้ตั้งใจเขียนเท่าไหร่
เพราะผมคิดว่าไม่เก็บคะแนน”
“แล้วปัญหามันอยู่ตรงไหนจ๊ะ”
“ผมอยากขอกลับไปเขียนใหม่”
“อาจารย์คิดว่าเธอจะตั้งใจเต็มที่ในทุกๆฉบับซะอีก
เก็บคะแนนหรือไม่เก็บคะแนน แต่รายงานผู้ป่วยทุกฉบับ ก็ต้องเขียนอย่างเต็มที่นะคะ”....
หรือ
ลูกจ้าง โกรธนายจ้าง
ที่เชิญให้ออกจากงาน เพราะมาสายบ่อย
เค้าโกรธเพราะ ไม่มีใครเตือนเค้าว่ามาสายกี่ครั้ง
ถึงจะถูกไล่ออก
หรือ
ถ้าเราขับฝ่าไฟแดง
เราประเมินว่าตอนเราฝ่า มัน”น่าจะ”ปลอดภัย
แล้วเราก็ทำซ้ำอีก...
ถ้าวันที่โชคไม่เข้าข้างเราล่ะ
เราก็ถึงตาย...และทำให้คนที่ทำตามกฎได้รับอันตรายไปด้วย
หรือ
เคยมีคนเตือนว่า เสพยาเสพติดมันไม่ดี
แต่สัก 3-4 ครั้งแรก ก็ไม่เป็นไรหรอกน่า
มีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ป้องกัน...แค่ครั้งเดียว
ไม่ท้องหรอกน่า
.
etc.
.
อย่างที่บอก พฤติกรรมของมนุษย์ มีที่มาเสมอ
พ่อแม่ เป็นผู้ที่มีอิทธิพลในพฤติกรรมในวัยผู้ใหญ่ของเรา
.
ถ้าตอนเราเป็นเด็ก
เราสามารถฝ่าฝืนกฎได้จนกระทั่งแม่ปรี๊ด...
เราใช้จุดนี้ เป็นสัญญาณว่าตัวเองจะเดือดร้อน
.
เด็กคนนั้นจะเป็นผู้ใหญ่
ต้องรอให้คนอื่นเตือนซ้ำๆซากๆ
.
นั่นคงไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ
เพราะเราอยากให้ลูก มีสัญญาณเตือนในตัวเอง
.
“ผลของการกระทำ ในโลกความเป็นจริง
เกิดขึ้นโดยไม่เตือนล่วงหน้า”
เราไม่สามารถ ตามไปเตือนลูกซ้ำๆได้ในอนาคต
เราจะทำอย่างไร ให้ลูกเรียนรู้ที่จะตัดสินใจทำสิ่งที่ถูกต้อง ได้ตั้งแต่”ครั้งแรก”
เราจะทำอย่างไร ให้เค้ามี
“หิริ” ให้เค้า #ละอายที่จะทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
“โอตตัปปะ” ให้เค้า #เกรงกลัว ว่าหากทำสิ่งไม่ดี จะส่งผลเสีย จนเค้าไม่กล้าทำสิ่งนั้น
พ่อแม่จะสร้างให้เป็น GPS ในใจเค้าได้อย่างไร
.
เริ่มจากวัยเด็กก่อน
เค้าควรได้เรียนรู้ว่า การตัดสินใจที่ผิดของเค้าเอง
ส่งผลเสียให้เค้าตั้งแต่"ครั้งแรก"
.
ขั้นที่ 1 ตกลงกติกากับลูกอย่างชัดเจนเสียก่อน
(ในเรื่องที่เราอยากปรับปรุงพฤติกรรมของเค้า)
ขั้นที่ 2 ส่งสัญญาณเพียงครั้งเดียว
ขั้นที่ 3 ทำตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด...
#โดยปราศจากอารมณ์โกรธนะคะ
ไม่ต้องพูดมาก พูดด้วยน้ำเสียงปกติ..ไม่ไต่ระดับ เพียงครั้งเดียว
.
“แม่จะเตือนให้ลูกไปอาบน้ำเมื่อถึงเวลา
ถ้าแม่เตือน เกิน 3 ครั้ง แม่ก็อาบน้ำก่อน และเข้านอน งดอ่านนิทานก่อนนอนนะ”
“ตกลงค่ะ”
บ้านนี้ เขียนป้ายติดไว้ด้วยค่ะ
.
วันถัดมา
หลังจากเตือน เรื่องเวลาอาบน้ำครบตามข้อตกลงยืนดูพฤติกรรมลูก 1 นาที
พบว่าเธอกำลังติดพัน
และรอสัญญาณเสียงไล่ระดับของแม่อยู่
หมอเลยอาบน้ำ...ปิดไฟ และเข้านอน
“แม่จ๋าาาาาา.....แง....หนูขอโทษ
หนูสำนึกผิดแล้วค่ะ...บลาๆๆ”
ครั้งแรกก็อย่างนี้ล่ะค่ะ...ดราม่าเล็กน้อย
(ให้เรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง)
แต่หลังจากนั้น
หมอไม่เคยต้องพูดไล่ระดับเสียงอีกเลย
.
ประหยัดแรง ประหยัดเวลา...เอาไว้อ่านนิทานได้อีกหลายเล่มเลยค่ะ
.
หมอแพม
ปล.rewrite ให้กระชับขึ้น...เอ๊ะ หรือยังยาว🤣