The Sneak แอบย่องส่องอสังหาวันนี้ เราจะพาไปดู จุดเด่นของโครงการ THE STAGE Mindscape RATCHADA – HUAI KHWANG จาก Real Asset Development กันครับ

โครงการนี้ตั้งอยู่ติดกับถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ที่สามารถเดินไปที่รถไฟฟ้า MRT สถานีห้วยขวาง ระยะทางประมาณ 270 เมตรเท่านั้นครับ

ลักษณะโครงการจะเป็นคอนโดมิเนียม High Rise สูง 29 ชั้น 1 อาคาร บนที่ดินขนาดประมาณ 2 ไร่ จำนวนยูนิตพักอาศัย 477 ยูนิต สามารถจอดรถได้ 200 คันครับ

สำหรับห้องพักอาศัยของโครงการนี้ จะมี 2 ประเภทคือ 1 และ 2 ห้องนอน โดยมีขนาดตั้งแต่ 26 ตร.ม. ไปจนถึง 60 ตร.ม. กับราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาทครับ ส่วนของจริงจะเป็นยังไง ตามพวกเราไป Sneak กันเลยครับ

อ่านรีวิวเจาะลึก : https://wp.me/p1YZB1-2YW4

Official Website : https://www.realasset.co.th/en/condominium/THESTAGEMindscapeRATCHADA-HUAIKHWANG

ติดตามพวกเราเพิ่มเติมได้ที่

Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะครับ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย @thinkofliving

รู้จัก ลอตเตอรี่อเมริกัน ที่มีรางวัลใหญ่หลักหมื่นล้าน /โดย ลงทุนแมน
หากเราซื้อลอตเตอรี่ในไทย จะมีโอกาสถูกรางวัลที่ 1 คือ 0.0001% หรือก็คือมีโอกาสหนึ่งในล้านเท่านั้นและผู้โชคดีคนนั้นก็จะได้รับรางวัลมูลค่า 6 ล้านบาท

แต่รู้หรือไม่ว่าที่ประเทศสหรัฐอเมริกามีบริษัทลอตเตอรี่รายใหญ่ ที่นักเสี่ยงดวงมีโอกาสถูกรางวัลแจ็กพอตน้อยกว่ารางวัลที่ 1 ของไทยเป็นร้อยเท่า แต่เงินรางวัลที่ 1 ก็มากพอที่จะทำให้เรากลายเป็นมหาเศรษฐีหมื่นล้านได้เลยทันที

แล้วระบบลุ้นโชคแบบไหนที่ให้เงินรางวัลแจ็กพอตระดับหมื่นล้าน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จริง ๆ แล้ว ประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้ออกลอตเตอรี่ที่ถูกต้องตามกฎหมายหลายราย ซึ่งเกือบทุกรัฐจะมีการออกลอตเตอรี่ของตัวเอง ปัจจุบันมีผู้ออกลอตเตอรี่มากถึง 48 รายการครอบคลุม 45 รัฐ

ในปี 2020 ชาวอเมริกันมียอดซื้อลอตเตอรี่มากถึง 2.67 ล้านล้านบาท โดยการซื้อและรับเงินรางวัลของลอตเตอรี่แต่ละรัฐจะเกิดขึ้นภายในรัฐหรือเขตพื้นที่ของแต่ละรัฐเท่านั้น

จึงทำให้ต่อมา เกิดการรวมตัวของหน่วยงานที่ออกลอตเตอรี่ในแต่ละรัฐ เพื่อที่จะขยายพื้นที่ในการจัดจำหน่ายมากขึ้นและก่อให้เกิดลอตเตอรี่ประเภทใหม่ 2 ประเภทคือ “Mega Millions” และ “Powerball”

แล้วลอตเตอรี่ทั้ง 2 รายการนี้ ต่างกันอย่างไร ?

รายการที่ก่อตั้งขึ้นก่อนคือ Powerball เริ่มดำเนินการครั้งแรกในปี 1988
ภายใต้ชื่อ Lotto America แรกเริ่มมีการวางจำหน่ายใน 7 รัฐ

จนในภายหลัง ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Powerball ในปี 1992 โดยจะแบ่งการออกรางวัลเป็นสัปดาห์ละ 2 ครั้งคือวันพุธและวันเสาร์

สำหรับวิธีการออกรางวัลของ Powerball คือ ผู้เล่นจะจ่ายเงินจำนวน 60 บาท
เพื่อตั๋ว 1 ใบสำหรับการเล่น 1 ชุดตัวเลขและผู้เล่นจะต้องเลือกลูกบอลสีขาวมา 5 ลูกและสีแดง 1 ลูก

โดยลูกบอลสีขาวจะมีเลขให้เลือกตั้งแต่ 1-69 และสีแดงตั้งแต่ 1-26 ซึ่งเงื่อนไขในการถูกรางวัลก็มีตั้งแต่ สีแดง 1 ลูก ไปจนถึงสีขาว 5 ลูกสำหรับรางวัลที่ 1 และหากทายถูกทุกลูกก็ได้เงินรางวัลแจ็กพอต

ทั้งนี้ผู้เล่นสามารถจ่ายเงินเพิ่มตั้งแต่ 30-300 บาท หรือเรียกว่า Power Play สำหรับการเพิ่มมูลค่าเงินรางวัลที่จะได้รับเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 2 ถึง 10 เท่าของมูลค่าเริ่มต้น

ในขณะเดียวกัน ลอตเตอรี่ Mega Millions เริ่มครั้งแรกในปี 1996 ในชื่อ The Big Game
ซึ่งได้มีการปรับระบบการออกรางวัลจนมีลักษณะเหมือนกับ Powerball

แต่จุดที่แตกต่างกันจะอยู่ที่จำนวนลูกบอลสีขาวจะมี 70 หมายเลข และลูกบอลสีทองจะมี 25 หมายเลขและก็มีระบบ Megaplier ซึ่งมีหลักการเหมือน Power Play แต่เงินรางวัลสามารถเพิ่มได้สูงสุดที่ 5 เท่า

โดยที่ตั๋วของ Mega Millions จะถูกจำหน่ายอยู่ที่ใบละ 60 บาทเท่ากับ Powerball
และมีการออกรางวัลสัปดาห์ละ 2 ครั้งคือทุกวันอังคารและวันศุกร์

อีกหนึ่งจุดขายของลอตเตอรี่ดังกล่าว ก็คือรางวัลแจ็กพอตจะถูกทบต้นไปเรื่อย ๆ หากยังไม่มีใครถูกรางวัล
ซึ่งในปัจจุบันเงินรางวัลแจ็กพอตของ Powerball สูงถึง 4,500 ล้านบาท ในขณะที่ Mega Millions มีเงินรางวัลแจ็กพอต 3,500 ล้านบาท

แต่หากมีผู้ถูกรางวัลแจ็กพอตพร้อมกันในงวดนั้น เงินรางวัลทั้งหมดก็จะถูกหารตามจำนวนผู้ที่ถูกไปด้วย

จากระบบทั้งหมดนี้ ก็ถือเป็นแรงดึงดูดให้นักเสี่ยงโชคแห่กันเข้ามาเล่นลอตเตอรี่มากขึ้นเรื่อย ๆ ตามมูลค่าเงินรางวัลแจ็กพอตที่เพิ่มขึ้น

และถึงแม้ว่าเราจะเห็นโอกาสถูกรางวัลแจ็กพอตเพียงหนึ่งในหลายร้อยล้าน
แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เพราะในปี 2021 นี้ แจ็กพอตของ Powerball ก็มีผู้ชนะรางวัลไปแล้วถึง 3 ครั้ง
ในขณะที่ Mega Millions ก็แจ็กพอตแตกถึง 2 ครั้ง เช่นกัน

เงินรางวัลที่มากที่สุดในปีนี้ของ Powerball คือ 22,000 ล้านบาท
ในขณะที่ Mega Millions มีจำนวนมากถึง 31,500 ล้านบาท
ทั้ง 2 ครั้งเป็นการออกรางวัลที่ห่างกันเพียง 2 วันเท่านั้น

อีกเรื่องที่น่าสนใจก็คือวิธีการให้รางวัล ที่บอกแบบนั้นก็เพราะว่ามันมีเงื่อนไขอยู่ว่า หากเราอยากรับเงินรางวัลเต็มจำนวน เราก็จะได้รับเป็นการแบ่งจ่ายเงินรางวัลออกเป็นปี ปีละ 1 งวด ทั้งหมดมี 30 งวด

แต่ถ้ารับทีเดียวทั้งก้อนทันที เราก็จะได้รับเงินรางวัลเพียง 1 ใน 3 ของมูลค่าทั้งหมด

ทีนี้ก็น่าจะมีคนสงสัยว่าแล้วเงินที่ได้จากการขายลอตเตอรี่จำนวนมหาศาลนี้ถูกเอาไปทำอะไร ?

หลังจากหักค่าใช้จ่ายทุกอย่างแล้ว เงินที่เหลือจะถูกส่งมอบให้กับส่วนกลางของแต่ละรัฐ
โดยแบ่งตามสัดส่วนยอดขายที่แต่ละรัฐทำได้ ซึ่งเงินดังกล่าวจะถูกนำไปใช้เพื่อสาธารณประโยชน์
เช่น สร้างถนน ปรับปรุงโรงเรียน สนับสนุนกองทุนต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมของรัฐ
หรือแม้แต่การสนับสนุนโครงการบำบัดผู้ที่ติดการพนัน

ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รางวัลแจ็กพอตใหญ่สุดที่เคยมีผู้ได้รับเป็นของรายการ Powerball ในปี 2016 ด้วยมูลค่ากว่า 47,500 ล้านบาท แต่กลับมีผู้ถูกรางวัลถึง 3 คน จาก 3 รัฐ ทำให้ต้องแบ่งเงินรางวัลเป็น 3 ส่วน เท่า ๆ กัน..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.powerball.com/
-https://www.megamillions.com/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Powerball#cite_note-7
-https://en.wikipedia.org/wiki/Mega_Millions
-https://www.statista.com/statistics/388238/sales-of-lotteries-by-state-us/
-https://money.cnn.com/2016/05/01/news/largest-lottery-jackpots/index.html
-https://abcnews.go.com/US/mega-millions-lottery-lottery-money-states/story?id=58661412

มีคำถามมาเยอะมากเกี่ยวกับพัดลมคอม ฮิตซิงค์หรือว่าตัวขุดน้ำ ใช้แบบไหน ระบายความร้อนดี ??

แถมหน้าตาเหมือนๆกัน ขนาดพอๆกัน ทำไมมีราคาต่างกันเยอะจัง ?

วันนี้เดียวจะมาสอนวิธีดูกัน โดยจริงๆแล้วพวกนี้จะมีเขียนเอาไว้ที่ข้างกล่องเลยว่ามีสเปคการระบายความร้อนได้กี่ TDP เลขยิ่งเยอะ ยิ่งรองรับ CPU ตัวแรงๆ ตรงนี้สามารถดูสเปค cpu ของเราว่ากี่ W และซื้อฮิตซิงค์ให้จำนวน W ของ TDP เยอะกว่าตัว CPU แค่นี้ก็จะไม่เจอปัญหา Overheat หรือถ้าใครอยาก Overclock ตัว cpu เพิ่มก็ต้องเพิ่มขึ้นไปอีก

ในส่วนของตัวพัดลมเคสก็เช่นเดียวกันจะมีค่าแรงลมกับค่าแรงดันลมบอกเอาไว้ข้างกล่อง

มันจะแยกได้ 2 ประเภทคือ พัดลมใช้ระบายความร้อนตัวเคส เอาไว้ติดกับเคส พวกนี้เน้น ค่า Air Flow เยอะๆ เพราะมันจะกวาดลมออกไปนอกเคสหรือเอามาเติมอากาศในเคสได้เยอะนั้นเอง

ส่วนถ้าหาพัดลมไปใช้งานกับฮิตซิงค์หรือโดยเฉพาะหม้อน้ำนั้นต้องเน้นค่า Air Pressure เป็นหลัก เพราะว่าตัวหม้อน้ำมีตัวฟินระบายความร้อนค่อนข้างถี่มาก ถ้าซื้อพัดลมที่เน้นแค่ AirFlow จะไม่สามารถให้อากาศทะลุผ่านออกไปได้ แต่ถ้าได้ค่า Air Pressure สูงๆ จะทำให้ลมนั้นทะลุผ่านฟินของหม้อน้ำไปได้

ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นวิธีเลือกซื้อเล็กๆน้อยๆ ไม่จำเป็นต้องหาพัดลม RPM สูงๆ เพื่อเอาลมเยอะๆแถมเสียงดัง แต่พัดลมดีๆออกแบบดีๆ ก็ได้แรงลมไม่แพ้กัน

รีวิว โบรกเกอร์ Eightcap ก่อตั้งมา 11 ปี มีสัญชาติออสเตรเลีย license Asic

โบรกเกอร์ EightCap ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 ที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย โดยมีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านตลาดการเงินโลก ทาง EightCap นั้นมีการแยกเงินทุนของลูกค้าออกจากบัญชีของบริษัทโดยเงินทุนของลูกค้าจะถูกจัดเก็บแยกไว้จากเงินทุนประเภทธุรกิจ กับสถาบันการเงินของประเทศออสเตรเลียระดับ Tier-1 และทาง EightCap นั้นก็ยังมีการซื้อประกันเพิ่มเติมเพื่อคุ้มครองทางการเงินของลูกค้าโดยการซื้อและรักษานโยบายการประกันค่าสินไหมทดแทน




ใบอนุญาตโบรกเกอร์ EightCap
โบรกเกอร์ EightCap จดทะเบียนกับ Australian Securities and Investments Commission (ASIC) และเป็นผู้ถือ Australian Financial Services License เลขที่ 391441 นักลงทุนทุกท่านจึงสามารถมั่นใจได้ในเรื่องความมั่นคงและความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ EightCap

แพลตฟอร์มการเทรด
โบรกเกอร์ EightCap ให้บริการการเทรด Forex ดัชนี โลหะ และ สินค้าโภคภัณฑ์ ผ่านทางแพลตฟอร์ม MT4 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่นิยมใช้งานมากที่สุดในโลก


ประเภทบัญชีเทรด
โบรกเกอร์ EightCap มีประเภทบัญชีเทรดทั้งหมด 2 ประเภทคือ ประเภทบัญชี Standard และ ประเภทบัญชี RAW โดยรายละเอียดของทั้งสองประเภทบัญชีก็จะแตกต่างกันตามตารางด้านล่าง

อ่าน เพิ่มเติม : https://traderider.com/index.php/topic,22172.msg306301.html#msg306301

IC Markets ก่อตั้งขึ้นในปี 2007 ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย โดยมีจุดเด่นคือการส่งคำสั่งซื้อขายที่รวดเร็ว มีค่าสเปรดและค่าคอมมิชชันที่จัดได้ว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆในตลาด จึงทำให้โบรกเกอร์ IC Markets นั้นตอบโจทย์เทรดเดอร์และนักเกร็งกำไรระยะสั้นเป็นพิเศษ อีกทั้งโบรกเกอร์ IC Markets นั้นถือได้ว่าเป็นโบรกเกอร์ Forex ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรเลียอีกด้วยและยังติดอันดับ 1 ใน 5 ในด้านการเติบโตอย่างรวดเร็ว

โบรกเกอร์ IC Markets มีผู้สอบบัญชีอิสระจากภายนอกเพิ่มเติมจากกระบวนการในการดำเนินงานเพื่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนว่าเงินลงทุนนั้นจะมีความปลอดภัยอย่างแน่นอน อีกทั้งยังมีการควบคุมและติดตามการถ่ายโอนข้อมูลที่เป็นความลับและข้อมูลสำคัญของลูกค้าอย่างเหมาะสมทั้งภายในและภายนอก

ใบอนุญาต IC Markets

โบรกเกอร์ IC Markets อยู่ภายใต้การกำกับควบคุมและดูแลโดย ASIC ประเทศออสเตรเลีย , FSA ประเทศ Seychelles และ CySec ประเทศไซปรัส จึงทำให้นักลงทุนทุกท่านสามารถมั่นใจได้ว่าโบรกเกอร์ IC Markets นั้นมีความน่าเชื่อถือสูง และมีความมั่นคงปลอดภัยอย่างแน่นอน

แพลตฟอร์มการเทรด

โบรกเกอร์ IC Markets ให้บริการซื้อขาย Forex , สินค้าโภคภัณฑ์ , ดัชนี , พันธบัตร , เงินดิจิตอล , หุ้น , ฟิวเจอร์ส ผ่านแพลตฟอร์ม MT4 , MT5 , Ctrader และ WebTrader รองรับทั้งระบบปฏิบัติการ android , ios และ pc อีกทั้งยังมีระบบ MAM/PAMM ใว้ให้นักลงทุนได้ใช้งานอีกด้วย


ประเภทบัญชีเทรด IC Markets

โบรกเกอร์ IC Markets มีประเภทบัญชีเทรดหลักๆอยู่ 3 ประเภทคือ cTrader Raw Spread , Raw Spread และ Standard โดยแต่ละประเภทบัญชีก็จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไปตามแต่นักลงทุนจะเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับการลงทุนของแต่ละท่าน

อ่านเพิ่มเติม : https://traderider.com/index.php/topic,21625.0.html

Lot คือ อะไร ในการเทรด Forex

Lot คือ ปริมาณการซื้อขายในตลาด Forex หากเปรียบเทียบกับการซื้อขายหุ้นก็เปรียบเสมือนจำนวนหุ้นนั่นเอง โดย 1 Lot ใน Forex ก็จะเปรียบเหมือนการซื้อหุ้นจำนวน 1 หุ้น โดยประเภทของ Lot นั้นจะมีอยู่ 4 ประเภทคือ Standard Lot , Mini Lot , Micro Lot และ Nano Lot ประเภท Lot แต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไรลองมาดูกัน


Standard Lot
1 Standard Lot จะมีมูลค่าเท่ากับ 100,000 unit ของหน่วยสกุลเงินหลัก ตัวอย่างเช่น หากเปิด Buy คู่เงิน EURUSD ที่ราคา 1.5000 ขนาด 1 Lot ที่ Leverage 1:1 เท่ากับว่าคุณกำลังเข้าซื้อค่าเงิน EUR จำนวน 100,000 EUR หรือหากคิดเป็นจำนวนเงิน USD จะเท่ากับ

(Contract Size * ราคาที่เข้าซื้อ) / levarage = จำนวนเงินทุนที่ต้องใช้

ก็จะเท่ากับ

(100,000 * 1.50000) / 1 = 150,000usd



นั่นหมายความว่าหากท่านจะเปิด Buy ในคู่เงิน EURUSD ที่ราคา 1.50000 ที่ขนาด 1 LOT ท่านจะต้องมีเงินในบัญชีอย่างน้อย 150,000 usd จึงจะเปิดออเดอร์ได้ แต่ในปัจจุบันนั้นโบรกเกอร์ที่ให้บริการเทรด Forex นั้นมีในเรื่องของ Leverage เข้ามาช่วย ทำให้เราสามารถใช้เงินที่น้อยลงในการเปิดออเดอร์ในขนาด Lot ที่ใหญ่ได้ ซึ่งเราจะมาพูดกันในหัวข้อถัดไปว่า Leverage คืออะไร



Mini Lot
1 Mini Lot จะมีมูลค่าเท่ากับ 10% ของ 1 Standard Lot หรือ เท่ากับ 1 Standard Lot / 10 นั่นเอง โดยขนาด 1 Mini Lot นั้นจะมีมูลค่าเท่ากับ 10,000 unit ของสกุลเงินหลัก



Micro Lot
1 Micro Lot จะมีมูลค่าเท่ากับ 10% ของ 1 Mini Lot หรือ เท่ากับ 1 Mini Lot / 10 นั่นเอง โดยขนาด 1 Micro Lot นั้นจะมีมูลค่าเท่ากับ 1,000 unit ของสกุลเงินหลัก



Nano Lot
1 Nano Lot จะมีมูลค่าเท่ากับ 10% ของ 1 Micro Lot หรือ เท่ากับ 1 Micro Lot / 10 นั่นเอง โดยขนาด 1 Nano Lot นั้นจะมีมูลค่าเท่ากับ 100 unit ของสกุลเงินหลัก



ตารางเปรียบเทียบมูลค่าของ Lot แต่ละประเภท

Lot คือ อะไร ตารางเปรียบเทียบ Lot


ในปัจจุบันนั้นประเภทบัญชีเทรดที่ทางโบรกเกอร์ส่วนใหญ่มีให้นักลงทุนได้เลือกใช้งานกันก็จะมีหลักๆอยู่ประมาณ 3 ประเภทคือ ประเภทบัญชี ECN , ประเภทบัญชี Standard และ ประเภทบัญชี cent ซึ่งประเภทบัญชี cent นั้นก็จะแตกต่างจากบัญชี ECN และ Standard คือหน่วยของเงินในบัญชีเทรด



ตัวอย่างเช่น

หากเราฝากเงินเข้าไปในบัญชีเทรดประเภท Standard หรือ บัญชี ECN จำนวน $100usd ยอดเงินในส่วนของ Balance ก็จะแสดงเป็นตัวเลข 100usd ให้เราเห็น แต่สำหรับบัญชี Cent นั้น หากเราฝากเงินเข้าไป $100usd ยอดเงินในบัญชีเทรดของเราจะแสดงเป็นหน่วย cent คือ 10,000 cent แทน หากว่าเรากดเปิด Buy ในคู่เงิน EURUSD ที่ขนาด 1 lot ในบัญชี Cent หากกราฟวิ่งขึ้นไป 10pip หรือ 100point เราก็จะได้กำไร $100cent แทน



Lot คือ อะไร ตารางเปรียบเทียบกำไร



จากตัวอย่างข้างต้นนี้บางโบรกเกอร์ก็อาจจะมีหน่วยสกุลเงินของบัญชี Cent ที่แตกต่างจากโบรกเกอร์อื่นอยู่บ้างอย่างเช่น โบรกเกอร์ XM ที่ประเภทบัญชี Micro นั้นจะมีหน่วยสกุลเงินของบัญชีเทรดแสดงให้เราเห็นแปลงเป็นหน่วย USD ให้เราเลยดังนั้นหากจะเทรดในบัญชี cent ของโบรกเกอร์ที่ต่างกันก็แนะนำให้ลองตรวจสอบสกุลเงินบัญชีเทรดหรือ contract size ก่อนเสมอ เพื่อจะได้ไม่ผิดพลาดในการคำนวนเงินในการเทรดครับ

อ่านเพิ่มเติม : https://traderider.com/forex/education/lot-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD/?fbclid=IwAR0fXemg-VcWycDpv13QnxEdVarg13iSPgcCbA0Knv2NWyHw7NpS4ckYU1A

#xm,#traderider
สนับสนุนเราง่ายๆ เพียง เปิดบัญชีเทรด กับ XM #Click : https://clicks.pipaffiliates.com/c?c=422742&l=th&p=2
การเปิดบัญชีเพิ่ม Forex กับ XM.COM สำหรับผู้ที่มีบัญชีอยู่แล้ว สามารถเปิดได้สูงสุด 8 บัญชี ต่อคน แถมได้ Rebate เงินคืน 3$/ 1 Lot ทุกการเทรด Link การเปิดบัญชี XM.com : https://clicks.pipaffiliates.com/c?c=422742&l=th&p=2 กับ www.traderider.com

การเพิ่มบัญชีเทรด forex XM.com จากบัญชีเดิมที่มี : http://traderider.com/index.php/topic...
แจ้งตรวจสอบบัญชีเทรด : http://traderider.com/index.php/topic...

facebook Fanpage : https://www.facebook.com/traderidergroup