雖然這篇tragic marker font鄉民發文沒有被收入到精華區:在tragic marker font這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章
在 tragic產品中有609篇Facebook貼文,粉絲數超過178萬的網紅ลงทุนแมน,也在其Facebook貼文中提到, รู้จักเรื่องราวของ Kildall ที่เสียโอกาสทองให้ Bill Gates ไปอย่างน่าเสียดาย /โดย ลงทุนแมน คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “Microsoft Windows” เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิ...
同時也有106部Youtube影片,追蹤數超過37萬的網紅六指淵 Huber,也在其Youtube影片中提到,立即加入頻道會員: https://66huber.cc/ytmb - 台灣綜藝素材: https://66huber.cc/twstocks - 想讓影片更吸睛更炫砲嗎? 讓我帶你學會影片特效的魔法! 《立即前往課程》: https://66huber.cc/pp/yb - 六六限量潮T、潮帽限量...
「tragic」的推薦目錄
- 關於tragic 在 岡田拓也|OkadaTakuya Instagram 的最讚貼文
- 關於tragic 在 DABOYWAY Instagram 的最佳解答
- 關於tragic 在 ★ ᗩKI | アキ ★ Instagram 的最佳解答
- 關於tragic 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於tragic 在 Facebook 的最讚貼文
- 關於tragic 在 Milton Goh Blog and Sermon Notes Facebook 的精選貼文
- 關於tragic 在 六指淵 Huber Youtube 的最佳貼文
- 關於tragic 在 台灣1001個故事 Youtube 的最佳解答
- 關於tragic 在 Aisho Nakajima Youtube 的最讚貼文
tragic 在 岡田拓也|OkadaTakuya Instagram 的最讚貼文
2021-09-24 15:14:53
銀色のやつきたよ〜! 「みんなのおかげです、ありがとう!」 とハッピー100%で言いたいところやねんけど、ちょっと聞いて欲しい話が... 先日こいつ到着したんけど、嬉しくなっていい感じの写真とか撮ったりしてたんよね↑ ほんで嬉々とスタンド購入して部屋に飾ったのも束の間。 夏の大掃除中、一時...
tragic 在 DABOYWAY Instagram 的最佳解答
2021-09-17 10:39:40
20 years ago on the morning of Sept 11th, i woke up to move the car cause it was alternate side parking. Half awake, half a sleep i turned on HOT97 a...
tragic 在 ★ ᗩKI | アキ ★ Instagram 的最佳解答
2021-09-10 21:17:37
Summer 2021, what memories will stay with us? For me: ⠀ ☔️ a summer so rainy we could hardly ride⠀ 🧍🏻♀️my girl starting to wear my shoe size⠀ 🏕...
-
tragic 在 六指淵 Huber Youtube 的最佳貼文
2021-09-25 18:00:01立即加入頻道會員:
https://66huber.cc/ytmb
-
台灣綜藝素材:
https://66huber.cc/twstocks
-
想讓影片更吸睛更炫砲嗎?
讓我帶你學會影片特效的魔法!
《立即前往課程》: https://66huber.cc/pp/yb
-
六六限量潮T、潮帽限量販售中
https://66stuff.com/
-
六指淵秘密教學社團 https://www.facebook.com/groups/huberstudents/
-
《機密》六指淵拍攝設備
https://hubermovie.com/equipment
六指淵 Huber 官方粉絲專頁 ☞ https://goo.gl/B1GrKn
聯絡信箱 leader@hubermovie.com
官方網站 https://hubermovie.com/
六指淵 Huber 相關社群
官方Instagram ☞ https://goo.gl/XfCyqQ
官方粉絲團 ☞ https://goo.gl/B1GrKn
官方美拍 ☞ http://goo.gl/YYvWRt
Challenge to create 5 kinds of tragic scenes with special effects combined with Slime! -
tragic 在 台灣1001個故事 Youtube 的最佳解答
2021-08-10 20:00:05The first nature documentary series on global endangered species in Taiwan, 《Orphans of the Earth》presents three new episodes in 2021 《Elves of Taiwan》,that reach out to the sky, the sea and the grasslands only to reveal precocious footages of the endangered endemic species that are known for extreme rarity, minimal sighting rate and videotaping challenges—Taiwan Grass Owls, the Taiwanese Humpback Dolphins, and the Formosan pangolins.
The production crew of “Elves of Taiwan” partakes in perhaps the most difficult animal rescue operations in line with conservation efforts and the most dignified science-based survey projects. The program unveils diversified local landscapes and endemic species completed by various angles and perspectives—from aerial rescues, ocean investigations, to underground bone excavations; it is indeed a brutally honest series that documents the conservation and restoration of the terrestrial, oceanic, and airborne endemic species in Taiwan.
The film crew participates in Taiwan humpback dolphin surveys by Ocean Conservation Administration on the sea, captures a rare humpback dolphin group, and explores root causes behind their dwindling populations. Also, we document the largest pygmy killer whale rescue effort by 2,000 people over 56 days. We follow researchers to Orchid Island, an outer islet of Taiwan, to uncover the bones of a baby sperm whale, and record the tragic deaths of stranded melon-headed whales and blue whales. Their survivals and deaths are symptomatic of a deteriorating marine environment.
■台灣1001個故事 說不完的故事
每周日晚間9點,請鎖定東森新聞【台灣1001個故事】唷!
更多精彩內容鎖定《台灣1001個故事》
https://www.youtube.com/user/ettvtaiwan1001
#台灣的精靈 #地球的孤兒 #台灣白海豚 #白心儀 #台灣1001個故事 #海洋保育署 #成大鯨豚研究中心 #四草鯨豚搶救站 #台大獸醫系 #蘭嶼 #小虎鯨救援 #自然科學紀實節目 -
tragic 在 Aisho Nakajima Youtube 的最讚貼文
2021-07-07 19:00:35Aisho Nakajima “Needed”
“Needed” on Spotify : https://open.spotify.com/artist/73TJEwnZTYd2p0qRbn2Pi3
“Needed” on Apple Music : https://music.apple.com/us/artist/aisho-nakajima/1503461433
MV credits
film director - MATHEUS KATAYAMA (W)
director of photography - Yuki Yamaguchi
assistant director - Yui Nogiwa
camera assistant - Ali Yokota
on-set photographer - Haruki Koyama
hair cut/colored - Ryo
hair & makeup - Aisho Nakajima
nails - Aisho Nakajima
wardrobe styling - Aisho Nakajima
Aisho’s Instagram : https://www.instagram.com/aishonakajima/?hl=en
Aisho’s Twitter : https://twitter.com/aishooo74?lang=en
‘Needed’
Written by Aisho Nakajima
Produced by ELI
Recorded/ Mixed by Aisho Nakajima
Mastering by Wax Alchemy
Lyrics -
“Want you”
Skin on skin on crescent moon
I wanna hear you say “I love you”
Why is it so hard to say it, hard to play it
All the private shit I ask why
Whole lot of complicated shit on ur mind
“You can do you”
Needed that from you
Why is everything so secretive
My mind is always over weighted
Tell me how u got me, got me, got me to
Convince me that I’m crazy, crazy.
Tell me how’s the view
The walls you built around me
Tell me why don’t you love me
I’m tired of the separation
it’s time to have this conversation
ohh
Traumatized, you just don’t know it
All my issues, you still don’t get it
Act like ain’t nothing wrong
You made me feel I don’t belong
Ashes, tragic, if you only took in action
Tired of crying
Tired of fighting
Childish games
But I always was the one to blame
It wasn’t worth it
U weren’t just messing around
Whole lot of anxiety
All I wanted was a family
Years without you
Been in my head since u left me
Tell me how u got me, got me, got me to
Convince me that im crazy, crazy.
Tell me how’s the view
The walls you built around me
Tell me why don’t you love me
I’m tired of the separation
it’s time to have this conversation
tragic 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
รู้จักเรื่องราวของ Kildall ที่เสียโอกาสทองให้ Bill Gates ไปอย่างน่าเสียดาย /โดย ลงทุนแมน
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “Microsoft Windows” เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก โดยมีส่วนแบ่งการตลาด ที่มากถึง 83%
นวัตกรรมดังกล่าว กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผู้ก่อตั้งบริษัท Microsoft อย่าง “Bill Gates” กลายเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐี ที่รวยที่สุดในโลกมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันเขามีทรัพย์สินมากถึง 4.4 ล้านล้านบาท
โดยจุดเริ่มต้นของ Microsoft Windows เกิดจากการที่บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่สุดในโลกขณะนั้นอย่าง IBM เริ่มผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือ PC และกำลังตามหาบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาระบบปฏิบัติการ ซึ่ง IBM ก็ได้เลือกทำสัญญากับบริษัท Microsoft ที่ในตอนนั้นเพิ่งก่อตั้งมาได้ 5 ปี
แต่รู้หรือไม่ว่านอกจาก Bill Gates แล้ว ยังมีนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์อัจฉริยะอีกคน ที่เกือบได้เป็นผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ให้กับ IBM และอาจจะกลายมาเป็นแบบ Bill Gates ในทุกวันนี้
แล้วเขาคนนั้น คือใคร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
อัจฉริยะที่เกือบได้เป็น Bill Gates คนนั้น มีชื่อว่า “Gary Kildall”
Kildall เกิดในปี 1942 ที่เมืองซีแอตเทิล ประเทศสหรัฐอเมริกา
แต่เดิม Kildall ตั้งใจว่าเมื่อเรียนจบมาจะเป็นอาจารย์สอนคณิตศาสตร์ แต่ระหว่างเรียนระดับปริญญาตรีเขาเริ่มสนใจเรื่องเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ Kildall จึงเรียนต่อจนถึงระดับปริญญาเอกในสาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์
ในปี 1971 ช่วงที่ Kildall กำลังเรียนปริญญาเอก เขาได้ยินมาว่า Intel จะเปิดตัว ไมโครโพรเซสเซอร์ตัวแรกของโลกที่ชื่อว่า “Intel 4004”
ไมโครโพรเซสเซอร์ ก็คือชิปขนาดเล็กที่มีแผงวงจรรวมจำนวนมหาศาล
ซึ่งนวัตกรรมนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คอมพิวเตอร์ ซึ่งแต่เดิมมีขนาดใหญ่ นิยมใช้กันแต่ในองค์กร มีขนาดเล็กลง จนเป็นไมโครคอมพิวเตอร์และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในเวลาต่อมา
ด้วยความที่ Kildall สนใจเรื่องราวของไมโครโพรเซสเซอร์เป็นอย่างมาก เขาจึงตัดสินใจเข้าไปทำงานพาร์ตไทม์เป็นที่ปรึกษาให้กับ Intel ซึ่งหลัก ๆ แล้ว Kildall จะพัฒนาและเขียนโปรแกรมที่ใช้งานร่วมกับไมโครโพรเซสเซอร์ของ Intel ได้
จากจุดเริ่มต้นนี้ Kildall ก็ได้ต่อยอดจนสามารถพัฒนาซอฟต์แวร์
ที่ชื่อว่า “CP/M” ที่นับว่าเป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์แรกของโลก
โดยก่อนหน้าที่จะมี CP/M คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องบนโลกจะต้องใช้ซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นมาของใครของมัน แต่ Kildall ได้พัฒนา CP/M ให้เป็นระบบปฏิบัติการกลาง ซึ่งสามารถนำไปใช้งานได้กับคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง
แรงผลักดันในการพัฒนา CP/M และผลงานอื่น ๆ ของ Kildall เกิดขึ้นจากความหลงใหลในคอมพิวเตอร์
เพราะจริง ๆ แล้ว Kildall ไม่เคยสนใจเรื่องธุรกิจเลย แต่ภรรยาของเขาก็ได้โน้มน้าวให้จัดตั้งบริษัทเพื่อจดสิทธิบัตรระบบปฏิบัติการและทำธุรกิจจัดจำหน่ายซอฟต์แวร์ ทั้งคู่เลยร่วมกันก่อตั้งบริษัทที่ชื่อว่า “Digital Research”
ลูกค้าที่เลือกใช้ CP/M ของ Digital Research ก็เช่น IMSAI 8080 ไมโครคอมพิวเตอร์ชื่อดัง ที่เปิดตัวในปี 1975 ซึ่งทำออกมาแข่งกับไมโครคอมพิวเตอร์รุ่นตำนานอย่าง Altair 8800 ของบริษัท MITS
โดย Altair 8800 ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านั้น 1 ปี ยังใช้ซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นมาใช้เฉพาะรุ่น ชื่อว่า BASIC ซึ่งซอฟต์แวร์นี้เองก็เป็นผลิตภัณฑ์แรก ๆ ของบริษัทซอฟต์แวร์น้องใหม่ที่ก่อตั้งโดยชายวัย 20 ปี ที่ชื่อว่า “Bill Gates” ซึ่งเขาได้ลาออกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดแล้วชวนเพื่อนมาตั้งบริษัท “Microsoft”
มาถึงในปี 1976 บริษัท Apple ก็ได้ปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์ด้วยการเปิดตัวคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะรุ่นแรก ๆ ของโลกที่ชื่อว่า Apple I ก่อนที่ในปีถัดมาจะประสบความสำเร็จจาก Apple II ซึ่งบริษัท Apple เรียกว่าเป็น Home Computer ที่คนทั่วไปใช้งานได้ที่บ้าน ไม่จำเป็นต้องเป็นโปรแกรมเมอร์
นั่นเลยทำให้ Apple II ได้รับความนิยมสูงมากและสามารถลบคำสบประมาทที่คนมักเถียงกันว่าคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก เป็นเพียงอุปกรณ์สำหรับคนที่คลั่งไคล้ในคอมพิวเตอร์เท่านั้น คนทั่วไปคงไม่สนใจซื้อมาใช้งาน
ความสำเร็จของ Apple ก็ทำให้บริษัทเทคโนโลยีอันดับหนึ่งของโลกในขณะนั้นอย่าง IBM อยากเข้ามาร่วมในตลาดคอมพิวเตอร์สำหรับคนทั่วไปบ้าง
ในปี 1980 IBM จึงได้เริ่มออกแบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเรียกว่า Personal Computer หรือ PC แทน Home Computer แบบ Apple เพราะ IBM ไม่ได้มองว่าคอมพิวเตอร์จะต้องใช้แค่ที่บ้าน แต่จะถูกใช้งานให้เกิดประโยชน์ได้มากกว่านั้น อย่างเช่นการนำไปใช้งานตามออฟฟิศ
IBM ต้องการทำให้ PC เริ่มวางขายได้เร็วที่สุด IBM จึงโฟกัสที่การออกแบบฮาร์ดแวร์โดยใช้ชิปของ Intel ส่วนซอฟต์แวร์อย่างระบบปฏิบัติการ ทางบริษัทจะจ้างบริษัทขนาดเล็กพัฒนาแทน โดยหนึ่งในบริษัทที่ IBM ติดต่อไปก็คือ Microsoft ซึ่งในตอนนั้นเพิ่งก่อตั้งมาได้เพียง 5 ปี
IBM เดินทางไปที่ออฟฟิศของ Microsoft ซึ่งเมื่อไปถึง IBM ได้ให้ Gates เซ็นสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูล เพราะ IBM ต้องการเก็บเรื่องที่กำลังพัฒนา PC ไว้เป็นความลับ
หลังจากนั้น IBM ก็ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ Gates ฟัง
แต่โชคร้ายที่ตอนนั้น Microsoft ยังไม่ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์
Gates จึงได้แนะนำกับ IBM ว่าให้ไปหา Kildall แห่งบริษัท Digital Research ที่พัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ไว้แล้ว IBM ตัดสินใจเดินทางไปพบ Kildall ที่ซีแอตเทิลทันที
Gates โทรไปบอก Kildall ว่าจะมีคนสำคัญมากไปพบ ให้ปฏิบัติกับพวกเขาดี ๆ
แต่ Gates เล่ารายละเอียดให้ฟังไม่ได้เพราะติดสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูลกับ IBM
Kildall ไม่รู้เลยว่ากลุ่มคนที่กำลังมาพบเขา จะมาจากบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่สุดในโลก
ซึ่งเขากลับคิดว่าคนที่ Gates เล่าถึงจะเป็นเพียงกลุ่มคนที่มาจากบริษัทขนาดเล็ก
เขาจึงไม่ได้สนใจมากนักและเขาก็ได้ขับเครื่องบินส่วนตัวไปอีกเมือง ซึ่งจนถึงตอนนี้ ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าเขาไปขับเครื่องบินเล่นเพื่อหลีกเลี่ยงการพูดคุยหรือไปติดต่องานทางธุรกิจกันแน่
นั่นจึงทำให้เมื่อ IBM ไปถึงออฟฟิศบริษัท Digital Research ทีมงานจึงได้เจอแต่เพียงภรรยาของ Kildall ซึ่งก่อนที่ทีมงานจาก IBM จะแนะนำตัวและเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการให้ฟัง
ทาง IBM ก็ได้ขอให้ภรรยาของ Kildall เซ็นสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูลก่อนเหมือนกับที่ให้ Gates เซ็น แต่ภรรยาของ Kildall ยังไม่ยอมเซ็นสัญญา
ซึ่งสาเหตุที่เธอไม่ได้เซ็นก็เพราะว่าเธอรู้สึกเหมือนโดนบังคับ
รวมถึงเธอก็อยากรอ Kildall กลับมาพูดคุยเองมากกว่า
ส่วนทาง IBM ก็เริ่มหัวเสียที่เธอไม่ยอมเซ็นสัญญา ทีมงานจาก IBM ก็รอต่อไปไม่ไหว
สุดท้ายแล้ว IBM จึงเดินทางกลับไปโดยยังไม่ทันได้เล่ารายละเอียดเรื่องระบบปฏิบัติการให้ฟัง..
หลังจากนั้น IBM เลยติดต่อไปหา Gates อีกครั้ง
Gates เห็นว่าโปรเจกต์ PC ของ IBM กำลังจะเปลี่ยนตลาดคอมพิวเตอร์ทั่วโลกครั้งใหญ่ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้คอมพิวเตอร์ของเราให้มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายมากขึ้นแบบก้าวกระโดด
Gates เลยบอก IBM ไปว่า Microsoft สามารถทำระบบปฏิบัติการให้ได้
ทั้งที่ความจริงแล้ว ในตอนนั้น Microsoft ยังไม่มีอะไรเลย
ทางออกเดียวที่ Microsoft จะมีระบบปฏิบัติการไปเสนอให้ IBM ได้ทันเวลาก็คือ การควานหาผู้ที่พัฒนาระบบปฏิบัติการไว้แล้วและไปซื้อต่อมา
Microsoft ไปเจอว่ามีโปรแกรมเมอร์ที่ชื่อว่า Tim Paterson ซึ่งทำงานในบริษัทเล็ก ๆ ที่ชื่อ Seattle Computer ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการที่ชื่อว่า Q-DOS
หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft จึงเดินทางไปพบ Paterson เพื่อเจรจาขอซื้อ Q-DOS และดึงตัว Paterson มาเพื่อดัดแปลง Q-DOS ให้เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์เพื่อขายให้ IBM
โดยใช้ชื่อว่า “MS-DOS” โดยที่ Microsoft ไม่รู้ว่า Q-DOS เป็นระบบปฏิบัติการที่ Paterson เลียนแบบและดัดแปลงมาจาก CP/M ของ Kildall
IBM ตกลงซื้อ MS-DOS ของ Microsoft แต่แทนที่ Microsoft จะขายระบบปฏิบัติการแบบครั้งเดียวจบ Gates เสนอกับทาง IBM ว่าให้ Microsoft ได้รับส่วนแบ่งจากทุกเครื่อง PC ที่ทาง IBM ขายได้ ซึ่งเป็นวิธีที่ Gates เคยใช้มาแล้วตอนเขียนซอฟต์แวร์ให้ไมโครคอมพิวเตอร์ Altair 8800
ความนิยมของ PC จาก IBM ก็เป็นไปตามที่ Gates คาด เพราะหลังจากที่ “IBM PC” เปิดตัวในเดือนสิงหาคม ปี 1981 ผ่านไป 2 ปีแรก IBM PC สามารถขายได้กว่า 2 ล้านเครื่อง เกินกว่าที่คาดการณ์เอาไว้เกือบ 10 เท่า
และด้วยความที่ IBM PC มีราคา คิดเป็นเพียง 2 ใน 3 ของ Apple จึงทำให้อุปกรณ์ชิ้นนี้ได้กลายเป็นคอมพิวเตอร์ที่ถูกนำไปใช้กันทั่วไปในสำนักงาน จน IBM สามารถเอาชนะ Apple และกลายมาเป็นผู้ผลิต PC ที่ใหญ่สุดในโลกได้
แต่จุดอ่อนของ IBM PC ก็คือตัวเครื่องไม่มีอะไรซับซ้อนและเลียนแบบได้ง่าย
จึงทำให้ในเวลาต่อมา แบรนด์อื่นอย่างเช่น Compaq และ HP ซึ่งก็เป็นผู้พัฒนาคอมพิวเตอร์เหมือนกันสามารถทำตามได้ ในขณะที่เจ้าของซอฟต์แวร์อย่าง Microsoft ก็ไม่เคยตกลงว่าจะขายระบบปฏิบัติการให้ IBM เจ้าเดียว..
Microsoft เลยสามารถขาย MS-DOS ให้กับคู่แข่งของ IBM ได้ทั้งหมด
ซึ่ง Microsoft ก็ยังใช้วิธีเดิมคือคิดส่วนแบ่งจาก PC ทุกเครื่องที่ขายได้
แต่สุดท้ายแล้ว ของเลียนแบบก็คือของเลียนแบบ
เพราะในภายหลัง MS-DOS ที่ดัดแปลงมาจาก Q-DOS ถูกพบว่าเป็นของที่เลียนแบบมาจาก CP/M ของ Kildall
พอ Kildall รู้ เลยจะฟ้องร้อง IBM และ Microsoft ว่าลอกเลียนแบบผลงาน
IBM ไม่อยากให้เรื่องบานปลาย เลยยอมวางขายระบบปฏิบัติการทั้ง 2 ยี่ห้อไปพร้อมกัน Kildall ดีใจได้เพียงไม่นาน ก็ต้องพบว่าราคาขาย CP/M ของเขา แพงกว่า MS-DOS ถึง 6 เท่า
ของคล้ายกันที่ใช้ทดแทนกันได้ แต่มีราคาต่างกันถึง 6 เท่า แถมคนส่วนใหญ่ได้รู้จักและลองใช้ MS-DOS มาก่อนจึงเริ่มคุ้นเคยและไม่ได้รู้สึกว่าจำเป็นที่ต้องลองอีกยี่ห้อหนึ่ง สุดท้ายแล้ว CP/M จึงหายไปจากตลาด
Microsoft จึงกลายเป็นผู้ชนะไป ซึ่งในเวลาต่อมา MS-DOS ก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “Microsoft Windows” ที่ได้เปิดตัวในปี 1983 ก่อนที่จะเริ่มวางขายจริงในปี 1985
หลังจากพลาดโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตของ Kildall เขาได้หย่ากับภรรยา และใช้ชีวิตอยู่กับความสิ้นหวัง จนท้ายที่สุด เขาก็ได้จบลงที่กลายเป็นคนติดแอลกอฮอล์ตั้งแต่นั้นมา
ส่วนบริษัท Digital Research ก็ถูกขายให้กับบริษัท Novell ในปี 1991
จนกระทั่งในปี 1994 Kildall ในวัย 52 ปี ก็เสียชีวิตลง จากเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทในบาร์ ซึ่งเป็นเวลาเพียง 1 ปีก่อนที่ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows 95 จะเปิดตัวและดังระเบิดไปทั่วโลก
ซึ่งก็น่าคิดเหมือนกันว่าหากวันนั้น Kildall ใส่ใจในสิ่งที่ Bill Gates พูดสักนิด
เรื่องราวที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ จะมีเส้นทางที่ต่างจากเดิมมากแค่ไหน
Kildall อาจกลายเป็นมหาเศรษฐีคล้าย Bill Gates
Bill Gates อาจจะไม่ได้โปรเจกต์นั้น และ Windows คงไม่เกิดขึ้น
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม
เส้นทางที่เป็นไปแล้วก็คือ ทุกคนรู้จัก Windows และไม่รู้จัก CP/M..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2004-10-24/the-man-who-could-have-been-bill-gates
-https://www.forbes.com/forbes/1997/0707/6001336a.html?sh=65404ead140e
-https://www.theguardian.com/technology/blog/2004/oct/16/themanwhocou
-https://www.embedded.com/was-dos-copied-from-cp-m/
-https://medium.com/@Harasees_Singh/gary-kildall-the-inventor-of-operating-system-ccae7bb50e46
-https://bookjelly.com/the-tragic-story-of-gary-kildall/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Gary_Kildall
tragic 在 Facebook 的最讚貼文
挑戰用特效結合史萊姆製造5種悲劇現場!【六指淵 Huber】
Challenge to create 5 kinds of tragic scenes with special effects combined with Slime!
-
觀看Youtube高清完整版
https://youtu.be/18WFcIwt8tk
tragic 在 Milton Goh Blog and Sermon Notes Facebook 的精選貼文
The Tragedy of “Almost”
“For the king knows of these things, to whom also I speak freely. For I am persuaded that none of these things is hidden from him, for this has not been done in a corner. King Agrippa, do you believe the prophets? I know that you believe.” Agrippa said to Paul, “With a little persuasion are you trying to make me a Christian?” Paul said, “I pray to God, that whether with little or with much, not only you, but also all that hear me today, might become such as I am, except for these bonds.” The king rose up with the governor, and Bernice, and those who sat with them.” (Acts 26:26-30 WEB)
The passage above records a very tragic moment. King Agrippa was on the verge of believing in Jesus as Lord, but he hardened his heart and stood up, rejecting the free gift of eternal life.
His actions are essentially saying this, “Stop it. I don’t want to hear anymore. I refuse to accept Jesus Christ as Lord.”
Other translations render Agrippa’s words like this:
“Then Agrippa said to Paul, “In a short time [and with so little effort] you [almost] persuade me to become a Christian.”” (Acts 26:28 AMP)
The word “almost” is the great tragedy.
It is like coming so close to the finish line in a race but fainting and being disqualified when you are just a hair’s breadth away.
Hell contains many souls who are “almosts”.
“I should have responded when that preacher asked for us to place our faith in Jesus. Why did I harden my heart? I almost got saved, but now it is too late...”
“Therefore, even as the Holy Spirit says, “Today if you will hear his voice, don’t harden your hearts, as in the rebellion, like as in the day of the trial in the wilderness, where your fathers tested me by proving me, and saw my deeds for forty years. Therefore I was displeased with that generation, and said, ‘They always err in their heart, but they didn’t know my ways;’ as I swore in my wrath, ‘They will not enter into my rest.’”” (Hebrews 3:7-11 WEB)
It is possible to know with the mind that Jesus is the Son of God and everything that He claims to be, and yet not be saved.
A person has to believe and confess Him as Lord. If you just believe that He is the Son of God but don’t receive Him as Lord, you are not saved.
Even the demons believe that God is real, but they don’t submit to Him as Lord.
The Holy Spirit convicts the hearts of unbelievers about their sinfulness and woos them to receive Jesus Christ as Lord. But they can choose to reject it. Every individual must choose to accept or reject the gift of eternal life.
Yet, it is God’s will for all to hear the Gospel and to be saved. No matter how dark someone’s past is, he can freely receive forgiveness of sins when he places his faith in Jesus as Lord!
If you are already a born-again believer, through faith in Jesus, you have entered God’s rest—the rest of your conscience and also rest from works-based justification.
You are a saint who is already sanctified, justified, saved, holy, righteous, pure, and blameless. The next time you read these words in the Bible, don’t feel condemned or shrink away. These words describe who you already are in Christ.
“Beware lest anyone cheat you through philosophy and empty deceit, according to the tradition of men, according to the basic principles of the world, and not according to Christ. For in Him dwells all the fullness of the Godhead bodily; and you are complete in Him, who is the head of all principality and power.” (Colossians 2:8-10 NKJV)
Dear brethren, you are not an “almost”. You are complete in Christ.
Let someone know the Gospel so that they are not almost, but fully saved through faith in Jesus Christ!
If you are blessed by the daily teachings/devotionals I share freely on this page, you can become a patron on Patreon if you want to receive an additional daily Bible Study teaching, as well as all my eBooks! Your patronage supports this ministry and enables us to “reach more and teach more” in the body of Christ: http://Patreon.com/miltongohblog