[爆卦]scuttlebutt synonym是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇scuttlebutt synonym鄉民發文沒有被收入到精華區:在scuttlebutt synonym這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 scuttlebutt產品中有6篇Facebook貼文,粉絲數超過0的網紅,也在其Facebook貼文中提到, 從入行開始,老闆就常常提醒我,不要只讀書,不然就容易活在自己想象中的世界 Fred Liu 最近在一個訪談中被問到有沒有推薦書時他說:書對於學習投資基礎、投資哲學有幫助,對於永恆的智慧有幫助。但問題是很多投資書都在說差不多的東西,所以他已經很久沒唸投資書了。另外很多書都是幾年前寫的,對於了解基...

 同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...

  • scuttlebutt 在 Facebook 的最佳解答

    2021-07-11 20:44:25
    有 199 人按讚

    <跳脫書本的研究>

    從入行開始,老闆就常常提醒我,不要只讀書,不然就容易活在自己想象中的世界

    Fred Liu 最近在一個訪談中被問到有沒有推薦書時他說:書對於學習投資基礎、投資哲學有幫助,對於永恆的智慧有幫助。但問題是很多投資書都在說差不多的東西,所以他已經很久沒唸投資書了。另外很多書都是幾年前寫的,對於了解基礎很有幫助,但對於最新的東西就含蓋不了,所以他目前大多數時間都以閱讀公司資料、網路文章、聽 podcast 來學習

    另外提到每一天大概會進行 1-3 個對話,每個對話可能一小時,有時候一個小時只聽到一個點,但由於是之前不知道的東西,所以對他也是非常有幫助。然後他就會每季靜下來,透過寫股東信的方式,把這些在腦袋中流竄的知識整理整裡

    過去一段時間自己在研究上也有類似的經歷

    今年以來,從頭到尾讀完的書只有 11 本,投資書只有複習了價值以及快速讀了

    在電話聊天上有大幅進展,雖然沒辦法一天進行 1-3 個,但過去一周也扎扎實實完成三次,各一個多小時,與產業人士的電話會議,每一次都有很多收穫

    想一下巴菲特是怎麼設計他每日的研究,應該早上 3-4 份報紙(在今天就會是你訂閱的 25 個部落格以及 Twitter)接著讀公司的 filings,下午應該花很多時間拿起電話到處閒聊

    總結可以是 Random 的閱讀+目的性閱讀(公司文件)+Scuttlebutt

    感覺是一個還不錯的研究節奏

    說了這麼多,還是要繼續徵半導體產業的前輩,希望能跟你線上聊聊請益。過去謝謝 Alex、宗翰、Wayne、York、George、Ethan,跟你們聊我收穫很大,謝謝你們

    Ps.感謝陸陸續續很多朋友都有填置頂文的產業專家表單,你們的回覆我都有看到,若未來我準備好,研究到您所在的產業,會再聯繫你們,謝謝你們的幫忙

  • scuttlebutt 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答

    2021-05-24 11:00:01
    有 1,074 人按讚

    “Scuttlebutt” กลยุทธ์หาหุ้นเด้ง จากคำซุบซิบนินทา /โดย ลงทุนแมน
    ข้อมูล Inside หรือข้อมูลวงในของหุ้น เป็นสิ่งที่ใครหลายคนต้องการ
    เพราะหากข้อมูลเหล่านี้เป็นความจริง มันก็จะทำให้เราได้เปรียบ
    ในการลงทุนซึ่งนำไปสู่โอกาสในการได้ผลตอบแทนที่ดี

    และถ้าถามว่าใครมีข้อมูลเหล่านี้มากที่สุด
    ก็คงไม่พ้นมาจากเหล่าผู้บริหารและนักบัญชีของบริษัท
    แต่ข้อมูลจากกลุ่มคนเหล่านี้ หากยังไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ
    ก็จะถือว่ามีความผิดต่อกฎของ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

    อย่างไรก็ตาม มีวิธีหนึ่งที่เราจะสามารถหาข้อมูลวงในได้โดยไม่ผิดกฎ
    โดยวิธีนี้มีชื่อว่า “Scuttlebutt” หรือแปลเป็นไทยคือ คำซุบซิบนินทา

    คำนี้ถูกคิดโดยคุณฟิลลิป ฟิชเชอร์ ผู้ที่ได้รับฉายาว่าเป็นบิดาแห่งหุ้นเติบโต
    และเป็นต้นตำรับในการหาหุ้นที่สร้างผลตอบแทนหลายเด้ง

    และรู้หรือไม่ว่าเขาคนนี้ยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้วอร์เรน บัฟเฟตต์
    เปลี่ยนแนวทางการลงทุนจากที่แต่เดิมหาเฉพาะหุ้นราคาถูก
    ให้หันมาลงทุนในหุ้นที่มีกิจการที่แข็งแกร่งอีกด้วย
    แล้วเราจะไปหา Scuttlebutt ได้จากที่ไหน ?
    ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
    ╔═══════════╗
    Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
    ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
    แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
    Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    Scuttlebutt หรือ คำซุบซิบนินทา เป็นวิธีการหาข้อมูลวงในจากการตามแกะรอยกิจการ

    โดยแกะรอยในที่นี้ ก็คือการที่เราเข้าไปหามุมมองต่อสินค้าหรือบริการทั้งจากบริษัทที่เราสนใจ
    หรือแม้แต่ไปตามหาเอาจากบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน

    ซึ่งเราก็จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ประกอบการดูงบการเงิน เสพข่าว หรือการฟังการรายงานจากผู้บริหาร เพื่อนำไปตรวจสอบว่าข้อมูลเหล่านี้ เป็นจริงมากน้อยเพียงใด

    คำถามที่ตามมาก็คือ
    แล้วเราจะไปฟังคำซุบซิบนินทา
    หรือไปสืบข้อมูลเหล่านี้ จากใครได้บ้าง ?

    วิธีที่ 1 สืบเสาะผ่านการซุบซิบกับพนักงานบริษัท

    นั่นก็เพราะว่า พนักงาน คือผู้ที่อยู่หน้างาน
    ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะเห็นพฤติกรรมของลูกค้าโดยตรงเสมอ
    และพอคาดการณ์ได้ว่ายอดขายของสินค้าหรือบริการกำลังไปทิศทางใด

    นอกจากนี้ เรายังสามารถล้วงไปจนถึงกระบวนการทำงานภายในขององค์กรอีกด้วย
    และแน่นอนว่าข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่เราไม่มีวันหาอ่านได้จากงบการเงิน

    ในขณะที่ข้อมูลจากอดีตพนักงานที่เคยทำงานในบริษัทที่เราสนใจก็ถือว่าเป็นประโยชน์ เช่นกัน
    ดังนั้น เราจึงควรหาคนรู้จักที่เป็นพนักงาน หรือไม่ก็สร้างความสัมพันธ์กับเหล่าพนักงาน
    เพราะพวกเขาเป็นหนึ่งในแหล่งข้อมูลชั้นยอด
    ที่มีโอกาสสร้างความได้เปรียบให้กับการลงทุนของเรา

    วิธีที่ 2 สืบเสาะผ่านคู่ค้า

    แหล่งข้อมูลชั้นดีอีกหนึ่งแห่ง คือ คู่ค้าของกิจการ
    เพราะผลประกอบการของบริษัทเอง มักจะสะท้อนไปยังคู่ค้าเช่นกัน

    เช่น บริษัทผลิตอาหารและเครื่องดื่ม สามารถรู้แนวโน้มผลประกอบการได้
    จากพ่อค้าแม่ค้าคนกลาง หรือก็คือร้านค้าปลีกและค้าส่ง

    เซเว่น อีเลฟเว่นในบ้านเรา เป็นตัวอย่างหนึ่ง
    ที่เราสามารถเช็กว่าสินค้าใดบ้างที่ขายดี
    โดยการดู “ป้ายสินค้าตรงมุมขวาล่าง”

    ซึ่งมีสัญลักษณ์ตั้งแต่ T1, T2, T3 หรือ T4
    โดยสินค้าที่ขายดีมากมีสัญลักษณ์คือตัว T1
    และไล่ลงมาจนขายไม่ดี คือไม่มีตัวอักษรเลย

    จุดนี้ ก็สามารถช่วยให้เรานำไปประกอบการวิเคราะห์และนำไปคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัทได้

    ยกตัวอย่าง เช่น เครื่องดื่มของบริษัทไหนถ้ามีสัญลักษณ์ T1 เราก็อาจจะคาดเดาได้ว่าเครื่องดื่มของบริษัทนั้นขายดี

    หรือแม้แต่เหล่าร้านจัดจำหน่ายสมาร์ตโฟน ที่นอกจากเราจะดูได้จากปริมาณลูกค้าในร้านแล้ว
    เราก็ยังสามารถสอบถามพนักงานได้ว่าสินค้าไหนที่ขายดี
    และแตกต่างจากแบรนด์อื่นอย่างไร

    จากข้อมูลดังกล่าว ก็จะยิ่งทำให้เราตัดสินใจได้ว่าผู้ผลิตสมาร์ตโฟนรายไหน เช่น Apple, Xiaomi หรือ Samsung มาแรงกว่ากัน

    วิธีที่ 3 สืบเสาะผ่านคู่แข่งในอุตสาหกรรม

    เป็นธรรมดาที่การทำธุรกิจ เราต้องทำการวิเคราะห์คู่แข่ง
    ซึ่งนอกจากเราจะดูภาพในเชิงตัวเลขอย่างส่วนแบ่งการตลาด
    หรือแนวโน้มการเติบโตของแต่ละแบรนด์ในอุตสาหกรรมเดียวกันที่ผ่านมาแล้ว

    เราก็สามารถใช้ข้อมูลของผู้เล่นรายอื่นในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน
    มาประกอบการตัดสินใจในธุรกิจที่เรากำลังสนใจได้

    ยกตัวอย่างเช่น ถ้าบริษัทไหนมีปัญหาในการขนส่งล่าช้า เราก็อาจไปสอบถามจากพนักงานของแต่ละร้านว่าสินค้าตัวเดียวกันของบริษัทอื่นมีของในสต็อกพร้อมไหม

    ซึ่งเราก็สามารถนำไปใช้ประกอบการวิเคราะห์ความพร้อมของแต่ละบริษัท หรือการบริหารคลังสินค้าเบื้องต้นได้ เช่นกัน

    หรือแม้แต่ในการรายงานผลประกอบการของผู้บริหารในประเทศไทย
    หรือที่รู้จักกันในชื่อ Oppday ที่มีช่วงที่ให้ผู้เข้าฟังสอบถามผู้บริหาร
    ที่เป็นคู่แข่งกับบริษัทที่เราสนใจ เราก็สามารถยิงคำถาม
    เกี่ยวกับจุดแข็งและจุดอ่อนของแต่ละบริษัท เมื่อเทียบกับคู่แข่งได้

    ข้อดีของวิธีการนี้ คือส่วนใหญ่บริษัทคู่แข่งจะระบุข้อเสียของบริษัทอื่นได้ดีกว่าที่บริษัทบอกเอง
    หรือหากคู่แข่งยอมรับในจุดแข็งของบริษัทอื่นที่เราสนใจ จุดแข็งนั้นจะถือว่ามีความน่าเชื่อถือ

    วิธีที่ 4 สืบเสาะผ่านกลุ่มลูกค้า

    หากเป็นสมัยก่อน
    การหารีวิวจากกลุ่มลูกค้าอาจจะค่อนข้างทำได้ยาก
    หรือไม่ก็สอบถามได้จากเพียงแค่คนรู้จักหรือคนกลุ่มน้อยเท่านั้น

    แต่ปัจจุบันเราสามารถค้นหาความคิดเห็นของลูกค้านับหมื่นคน ได้จากเว็บไซต์ต่าง ๆ
    เช่น รีวิวสินค้าตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ อย่าง Amazon, Lazada หรือ Shopee
    ในขณะที่รีวิวโรงแรม เราก็สามารถดูได้จากรีวิวบน Agoda
    หรือร้านอาหาร ก็ Wongnai และ Tripadvisor

    ซึ่งรีวิวของคนกลุ่มนี้ก็ทำให้เห็นว่า สิ่งที่ผู้บริหารคิดกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นจริง
    มีโอกาสเป็นไปได้และเป็นความจริงมากน้อยขนาดไหน

    หากเป็นสินค้าหรือบริการสำหรับธุรกิจ หรือที่เรียกว่า B2B
    สามารถสอบถามผ่านพนักงานของบริษัทนั้น ๆ แทนก็ได้

    เช่น อุปกรณ์การแพทย์ แน่นอนว่าเราไม่สามารถถามผู้บริหารของบริษัทที่ซื้อได้ก็จริง
    แต่เราสามารถรู้ความคิดเห็นเกี่ยวกับสินค้านี้ได้จากพนักงาน หรือแพทย์และพยาบาล
    เพราะเป็นผู้ที่ใช้งานโดยตรง และข้อมูลนี้อาจดีกว่ามาจากผู้บริหารเอง

    สำหรับวิธีสุดท้ายก็คือ สืบจากการใช้งานจริงของ “ตัวเราเอง” หรือบุคคลใกล้ชิด

    ปีเตอร์ ลินซ์ ผู้จัดการกองทุนระดับโลก
    ใช้วิธีการนี้ในการหาธุรกิจที่สร้างผลตอบแทนหลายเด้ง
    โดยการสังเกตจากสินค้าและบริการที่ครอบครัวตนเองใช้

    อย่างเช่น ภรรยาของเขาที่ชอบใช้ถุงน่องแบรนด์ L'eggs
    ซึ่งอยู่ภายใต้บริษัทที่ชื่อว่า HanesBrands

    เขาก็ได้ทดลองนำถุงน่องคู่แข่งอีกแบรนด์มาให้ภรรยาเปรียบเทียบกัน
    และได้ข้อสรุปว่าถุงน่องของคู่แข่งไม่สามารถมาแทนได้
    เพราะใส่ไม่สบายเท่าแบรนด์ L'eggs

    ซึ่งหลังจากทดลองไปไม่นาน
    ผลประกอบการต่อมาก็เป็นไปตามคาด
    ยอดขายถุงน่องแบรนด์ L'eggs เติบโตพุ่งทะยาน
    ส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นเป็นหลายเท่า

    จากเรื่องนี้ทำให้เห็นว่า หุ้นที่ดีอาจใกล้ตัวเรากว่าที่คิด
    และบางธุรกิจอาจจะอยู่ในชีวิตประจำวันของเรามากกว่าที่เราคิด
    เพียงแต่เราไม่ได้นึกถึง

    ยกตัวอย่างให้เห็นได้ชัดเลยก็คงหนีไม่พ้น
    Apple ที่บุกเบิกสมาร์ตโฟนเป็นเครื่องแรกของโลก
    หากลงทุนตั้งแต่ที่ iPhone เริ่มเข้าประเทศไทยช่วงแรก
    จะสามารถสร้างผลตอบแทนให้ถึง 42 เท่า

    หรือแม้แต่โปรแกรมแต่งภาพอย่าง Adobe
    ที่เติบโตตามงานกราฟิก ที่ไม่ว่าเราจะทำคอนเทนต์อะไร
    ก็มักจะต้องใช้โปรแกรมนี้สร้างขึ้นแทบจะทั้งนั้น
    หากเราลงทุนตั้งแต่เราเริ่มใช้ Adobe ก็จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างมหาศาลเช่นกัน

    แต่การใช้วิธีนี้ ต้องระวังอคติ
    ที่เกิดขึ้นจากสินค้าหรือบริการที่เราใช้เองด้วย
    เพราะบางครั้งเราอาจมองโลกในแง่ดีหรือร้ายจนเกินไป

    อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์คำซุบซิบนินทา หรือ Scuttlebutt
    ก็เป็นหนึ่งในไอเดียการหาข้อมูลประกอบการวิเคราะห์หุ้นที่น่าสนใจ

    เพราะหากเราทำอย่างสม่ำเสมอ มันก็ถือเป็นวินัยที่ดีของนักลงทุน
    ที่จะทำให้เรารู้ลึก รู้จริง และรู้มากกว่าตัวเลขรายได้กำไรในอดีต
    ที่เผยแพร่ต่อสาธารณะ ที่ไม่ว่าใคร ก็รู้เหมือน ๆ กับเรา..
    ╔═══════════╗
    Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
    ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
    แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
    Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    ติดตามลงทุนแมนได้ที่
    Website - longtunman.com
    Blockdit - blockdit.com/longtunman
    Facebook - facebook.com/longtunman
    Twitter - twitter.com/longtunman
    Instagram - instagram.com/longtunman
    Line - page.line.me/longtunman
    YouTube - youtube.com/longtunman
    Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
    Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
    Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
    References
    -หนังสือ Common Stocks and Uncommon Profits โดย ฟิลลิป ฟิชเชอร์
    -หนังสือ One Up on Wall Street โดย ปีเตอร์ ลินซ์
    -http://www.scuttlebuttinvestor.com/blog/2018/11/19/the-scuttlebutt-method
    -https://finance.yahoo.com/quote/AAPL?p=AAPL&.tsrc=fin-srch
    -https://finance.yahoo.com/quote/ADBE?p=ADBE&.tsrc=fin-srch
    -https://finance.yahoo.com/quote/COM7.BK?p=COM7.BK&.tsrc=fin-srch

  • scuttlebutt 在 湛昆峰 Facebook 的最佳解答

    2018-04-16 15:26:18
    有 6 人按讚


    1946年4月,中華民國接管臺灣約半年,原本已絕跡的各式傳染病又開始盛行。布袋庄(今嘉義布袋)爆發霍亂,政府派警員在庄內各路口佈署機槍禁止出入以隔離疫情,造成民眾恐慌。

    仰賴外界民生物資的小鎮遭封鎖隔離,居民只能等死,部分居民僅能靠金錢行賄才能自封鎖區外採買物資,不想坐以待斃的人嘗試衝出封鎖線竟遭機槍掃射。

    #scuttlebutt #backup http://j.mp/2IYvGAE

  • scuttlebutt 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的精選貼文

    2021-10-01 13:19:08

  • scuttlebutt 在 大象中醫 Youtube 的精選貼文

    2021-10-01 13:10:45

  • scuttlebutt 在 大象中醫 Youtube 的最佳貼文

    2021-10-01 13:09:56

你可能也想看看

搜尋相關網站