[爆卦]nickel-metal hydride是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇nickel-metal hydride鄉民發文沒有被收入到精華區:在nickel-metal hydride這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 nickel-metal產品中有1篇Facebook貼文,粉絲數超過66萬的網紅Otosaigon.com,也在其Facebook貼文中提到, Pin nhiên liệu giá rẻ ghê - Mercedes-Benz S400 Hybrid (W222) 🤣 Lithium-Ion battery (nickel-metal hydride) ...

 同時也有5部Youtube影片,追蹤數超過0的網紅CarDebuts,也在其Youtube影片中提到,เปิดตัวในไทย ราคา All-New Lexus LM300h 2020 Thailand รีวิว เลกซัส แอลเอ็ม 300เอช รถตู้สุดหรูพลังไฮบริด 4 และ 7 ที่นั่ง เลกซัสกรุ๊ป โดยบริษัท โตโยต้า ...

  • nickel-metal 在 Otosaigon.com Facebook 的精選貼文

    2019-07-02 11:58:34
    有 763 人按讚


    Pin nhiên liệu giá rẻ ghê - Mercedes-Benz S400 Hybrid (W222) 🤣
    Lithium-Ion battery (nickel-metal hydride)

  • nickel-metal 在 CarDebuts Youtube 的最讚貼文

    2020-03-10 19:32:44

    เปิดตัวในไทย ราคา All-New Lexus LM300h 2020 Thailand รีวิว เลกซัส แอลเอ็ม 300เอช รถตู้สุดหรูพลังไฮบริด 4 และ 7 ที่นั่ง

    เลกซัสกรุ๊ป โดยบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำที่สุดแห่งยนตรกรรมหรูระดับผู้นำ ลักซ์ชัวรี่แวนรุ่นใหม่ล่าสุดของเลกซัส "The All-New Lexus LM…A New Space for Luxury” เปิดตัวเป็นประเทศแรก ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค

    The All-New Lexus LM ได้รับการพัฒนา ภายใต้แนวคิด จาก 3 องค์ประกอบหลักคือ 1) การออกแบบด้านนวัตกรรมล้ำสมัย (Lexus Innovation)
    2) ความประณีตของชิ้นงาน (Craftsmanship)
    3) วัฒนธรรมการต้อนรับ และดูแลเอาใจใส่ แบบ Omotenashi ของญี่ปุ่น

    ทำให้ Lexus LM เป็นลักซ์ชัวรี่แวน ที่ไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่เป็นยานยนต์ที่มีการออกแบบได้อย่างโดดเด่น ด้วยกระจังหน้าแบบ “Spindle Grille” และไฟท้าย ที่ลากยาวตลอดความกว้างของรถ สะท้อนเอกลักษณ์ของเลกซัสได้เป็นอย่างดี พร้อมมอบความเป็นส่วนตัว ด้วยภายในห้องโดยสารที่ออกแบบอย่างประณีต พิถีพิถัน ดูหรูหรา เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ และฟังก์ชันการใช้งานที่ก้าวล้ำ ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมเบาะนั่ง ซึ่งได้นำวัสดุโฟมยูรีเทน มาใช้เป็นครั้งแรกของโลก มอบความสะดวกสบาย ตลอดการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาทางธุรกิจ หรือพักผ่อนแบบส่วนตัว Lexus LM ถือเป็นนิยามใหม่ของยนตรกรรม ที่ตอบรับไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิตระดับผู้นำอย่างแท้จริง

    “The All-New Lexus LM รุ่นใหม่ล่าสุด ได้ถูกออกแบบ เพื่อยกระดับนิยามแห่งความหรูหรา แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ผ่านแนวคิดในการสื่อสาร คือ “A New Space for Luxury” ซึ่ง Lexus LM มี 4 จุดขายหลัก ดังนี้

    1) “การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์” (Signature Styling): โดดเด่นด้วยกระจังหน้า Spindle Grille ขนาดใหญ่ ที่บ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์ของเลกซัส มาพร้อมกับไฟหน้า LED แบบ 3-eye ดูคมเข้ม ไฟท้าย LED ลากยาวตลอดความกว้างของรถ เสริมให้ตัวรถดูกว้าง และมั่นคง และไฟเลี้ยวแบบ Sequential Turning Lamps ช่วยแสดงให้เห็นทิศทางการเลี้ยวได้อย่างชัดเจน

    2) "ความสะดวกสบายที่เหนือกว่า และความบันเทิงระดับพรีเมียม” (Exceptional Ride Comfort and Entertainment): หัวใจสำคัญของการพัฒนา The All-New Lexus LM คือมุ่งมั่นที่จะยกระดับ ความสะดวกสบายที่เหนือกว่า ไปให้ถึงขีดสุด อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยมุุมมองใหม่และแนวคิดที่แตกต่าง ทำให้ Lexus LM เป็นลักซ์ชัวรี่แวนสำหรับผู้นำที่ครบครัน ทั้งความสะดวกสบาย และความเป็นส่วนตัว

    นอกจากนี้ ยังนำนวัตกรรมเบาะนั่งโฟมยูรีเทน AdaptiPedic โดย Woodbridge มาใช้เป็นครั้งแรกของโลก ซึ่งจะช่วยดูดซับแรงสั่นสะเทือน จากพื้นผิวถนนอีกชั้นหนึ่ง นอกจากนี้ Lexus LM ยังมาพร้อมกับสุดยอดเครื่องเสียง จาก Mark Levinson กับหน้าจอขนาดใหญ่บน Partition พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่ครบครัน มอบประสบการณ์ทั้งความหรูหรา ส่วนตัว และความสุนทรีย์สูงสุด เพื่อให้มั่นใจว่า ทุกช่วงเวลาบนรถคันนี้ คือช่วงเวลาคุุณภาพระดับผู้นำ

    3) “ความประณีต และความพิถีพิถัน” (Takumi Craftsmanship): ความประณีตพิถีพิถัน ถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้ Lexus แตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพการเย็บ ฝีเข็มต่างๆ ที่เกิดจากช่างชำนาญการของเลกซัส ที่เรียกว่า Takumi ซึ่งช่างเหล่านี้ ใช้เวลาฝึกฝนนานกว่า 60,000 ชั่วโมง และตัวอย่างที่เห็นได้ชัด สำหรับ Lexus LM คือการนำลายไม้แบบใหม่ ที่เรียกว่า Gin Sui Boku มาใช้เป็นครั้งแรก โดยลายไม้นี้ ได้แรงบันดาลใจ มาจากหมึกวาดสีเงิน สะท้อนความประณีต และช่วยเสริมให้ห้องโดยสาร มีอัตลักษณ์ที่โดดเด่น

    4) เทคโนโลยีความปลอดภัยเหนือระดับ Lexus Safety System Plus: ทีมวิศวกร Lexus LM ได้ศึกษาเรื่องความปลอดภัยในทุกด้านอย่างลึกซึ้ง เพื่อให้ได้มา ซึ่งเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ดีที่สุด โดยคำนึงถึงทั้งผู้โดยสาร เพื่อนร่วมทาง และคนเดินถนน เพื่อสร้างความอุ่นใจ และมั่นใจตลอดการเดินทาง

    The All-New Lexus LM 300h มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร ไฮบริด รหัส 2AR-FXE ให้กำลังสูงสุด 152 แรงม้าที่ 5700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 206 นิวตันเมตร ที่ 4400-4800 รอบ/นาที ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม อีกทั้งประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าหน้า-หลัง ที่เป็นแบบ Permanent Magnet Motor โดยด้านหน้า ให้กำลังสูงสุด 143 กิโลวัตต์ หรือ 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลัง ให้กำลังสูงสุด 68 กิโลวัตต์ หรือ 50 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 139 นิวตันเมตร โดยแบตเตอรี่สำรองไฟ เป็นแบบ nickel metal hydride มาพร้อมระบบส่งกำลัง E-CVT และระบบขับเคลื่อน E-Four

    สามารถทำความเร็วสูงสุด ได้ที่ 180 กม/ชม มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย ที่ 15.6 กิโลเมตร/ลิตร รองรับมาตรฐานการปล่อยมลพิษ Euro4

  • nickel-metal 在 CarDebuts Youtube 的精選貼文

    2018-11-22 10:12:06

    รีวิว All-New Toyota Camry 2019 (โตโยต้า คัมรี่ / แคมรี่) ทั้ง 4 รุ่นย่อย 2.0G 2.5G 2.5HV และ 2.5HV Premium พร้อม ราคา (จากงานเปิดตัว)

    เลือกเป็นเจ้าของ The All-New 2019 Toyota CAMRY 4 รุ่น และ 7 สี พร้อมสีภายในสองสี (คือสีดำ และสีเบจ) โดยมีราคาจำหน่ายดังนี้

    Toyota Camry 2019 รุ่น 2.5 HV Premium เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,799,000 บาท
    Toyota Camry 2019 รุ่น 2.5 HV เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,639,000 บาท
    Toyota Camry 2019 รุ่น 2.5G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,589,000 บาท
    Toyota Camry 2019 รุ่น 2.0G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,445,000 บาท
    (สำหรับสีพิเศษ Platinum White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท)

    สำหรับขุมพลังของ Camry ใหม่ จะมี 3 รุ่นเครื่องยนต์

    โดย 2 รุ่นไฮบริด จะมาพร้อม ระบบไฮบริดเจนเนอเรชั่นที่ 4 (4th Generation Hybrid) ที่ได้รับการพัฒนาแบตเตอรี่ใหม่ ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อความทนทาน และประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น

    เครื่องยนต์เบนซินใหม่ รหัส A25A-FXS 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว D-4S VVT-iE ความจุ 2487 ซีซี เทคโนโลยีระดับผู้นำ ด้วยระบบการเผาไหม้ Atkinson Cycle ประหยัดเชื้อเพลิง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า PS ที่ 5700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 221 นิวตันเมตรที่ 3600-5200 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 88 แรงม้า PS แรงบิดสูงสุด 202 นิวตันเมตร ให้กำลังสูงสุดสุดรวม 211 แรงม้า PS รองรับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง E20

    เกียร์ E-CVT...ชุดระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ ที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวลต่อเนื่อง

    PCU (Power Control Unit)…พัฒนาให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้น ช่วยให้การคุมเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
    Ž
    แบตเตอรี่ไฮบริด Ni-MH (Nickel-Metal Hydride)…แบตเตอรีใหม่มีขนาดเล็กลง เก็บประจุไฟฟ้าได้เร็วขึ้น และสามารถจ่ายไฟฟ้าให้แก่มอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมพัฒนาระบบระบายความร้อนใหม่ ให้ทนทานและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น

    สำหรับรุ่น 2.5G จะเป็นเครื่องยนต์เบนซินรหัส A25A-FKB 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว D-4S VVT-iE ความจุ 2487 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 209 แรงม้า PS ที่ 6600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่ 5000 รอบ/นาที รองรับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทั้ง E20 และ E85 จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด

    ส่วนรุ่นเริ่มต้นอย่าง 2.0G ขุมพลังจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน รหัส 6AR-FBS 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว D-4S VVT-iW ความจุ 1998 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 167 แรงม้า PS ที่ 6500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 199 นิวตันเมตรที่ 4600 รอบ/นาที รองรับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทั้ง E20 และ E85 จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

    ระบบที่เชื่อมต่อรถและผู้ใช้รถให้เป็นหนึ่งเดียว (T-CONNECT TELEMATICS) ที่มีเฉพาะในรุ่นไฮบริด

    สัมผัสที่สุดของความล้ำหน้า กับโลกที่คุณควบคุมทุกอย่าง ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
    - GEO-FENCING...ระบบแจ้งเตือน เมื่อรถเคลื่อนตัวออกจากบริเวณที่กำหนด
    - FIND MY CAR...เช็คตำแหน่งรถ ผ่านแอพพลิเคชั่น
    - PARKING ALERT…ระบบแจ้งเตือนผ่าน Notification เมื่อรถถูกสตาร์ท หรือเคลื่อนที่
    - STOLEN VEHICLE TRACKING…ระบบตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์ เมื่อถูกโจรกรรม
    - OPS (OPERATOR SERVICE)...ผู้ช่วยค้นหาเส้นทางตลอด24ชั่วโมง พร้อมบริการจองร้านอาหารชั้นนำ
    - SOS EMERGENCY SERVICE ประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง*
    (*อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ในบางกรณี)
    - PAY AS YOU DRIVE...ประกันภัย "ขับน้อย จ่ายน้อย"
    - NAVIGATOR…ระบบนำทาง พร้อมแสดงข้อมูลจราจร
    - MY TOYOTA WI-FI...เชื่อมต่อทุกความบันเทิง ได้พร้อมกันสูงสุดถึง 9 อุปกรณ์*
    (*ตามเงื่อนไขที่กำหนดในแพ็คเกจ)

  • nickel-metal 在 CarDebuts Youtube 的最佳貼文

    2018-09-09 18:30:25

    รีวิว All-New 2019 Toyota Corolla (Altis) Hatchback (โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส)

    Toyota Corolla hatchback ใหม่ ทำตลาดในประเทศออสเตรเลียใน 3 รุ่นย่อยหลัก คือ รุ่นเริ่มต้น Ascent Sport รุ่น SX และรุ่นท็อปสุด ZR โดยแบ่งย่อยลงไปอีก เป็น 7 รุ่น ตามประเภทระบบขับเคลื่อน และระบบส่งกำลังที่ใช้ ซึ่งโดยรวม มีราคาเฉลี่ยสูงขึ้นกว่าโฉมก่อน โดยเริ่มต้นที่ 22,870 เหรียญออสเตรเลีย หรือประมาณ 533,000 บาท ในรุ่น Ascent Sport เครื่องยนต์เบนซิน เกียร์ธรรมดา แต่ก็แลกมาด้วยพละกำลังที่มากขึ้น เทคโนโลยีที่ครบครันกว่าเดิม นอกเหนือไปจากความสดใหม่

    Toyota อ้างว่า มีการติดตั้งระบบความปลอดภัยมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน มากกว่าที่มีในรถระดับเดียวกัน อาทิ ระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบเตือนการเปลี่ยนเลน มาพร้อมระบบช่วยควบคุมพวงมาลัย และมีเฉพาะในรุ่นเกียร์ CVT คือระบบ active cruise control

    นอกจากนั้น ยังมีระบบเตือนก่อนการชน pre-collision ที่ตรวจจับคนเดินถนน ในเวลากลางคืน และนักปั่นจักรยานในเวลากลางวัน กล้องที่ติดตั้งบริเวณกระจกหน้ารถ ยังสามารถตรวจจับป้ายจำกัดความเร็วได้ด้วย ซึ่งด้วยระบบต่างๆเหล่านี้ ทำให้ Corolla hatchback ได้เรตติ้งระดับ 5 ดาวจาก ANCAP ประเทศออสเตรเลีย

    ระบบความปลอดภัยมาตรฐานอื่นๆได้แก่ ระบบไฟสูงอัตโนมัติ กล้องมองถอยหลัง ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง และจุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก isofix สำหรับเบาะหลัง 2 จุด ในขณะที่รุ่นบนอย่าง SX และ ZR จะมีการเพิ่มระบบเตือนจุดอับสายตา blind-spot monitoring เข้าไป

    Corolla ใหม่มาพร้อมขุมพลังที่ใหญ่กว่าเดิม และพละกำลังที่มากขึ้น โดยเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลังสุงสุด 168 แรงม้า มากกว่าเดิม 21.3 % แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร สูงขึ้น 15.6% จากเครื่องยนต์เดิม ความจุ 1.8 ลิตร ส่วนอัตราการบริโภคน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 16.67 กิโลเมตร/ลิตร ในรุ่นเกียร์ CVT และที่ 15.87 กิโลเมตร/ลิตร ในรุ่นเกียร์ธรรมดา

    ระบบเกียร์แปรผัน Direct Shift CVT 10 สปีด ที่มาพร้อมระบบปล่อยตัว ซึ่ง Toyota อ้างว่าเป็นครั้งแรกของโลกที่นำมาใช้กับรถยนต์นั่ง ลูกค้าต้องจ่ายเพิ่มอีก 1,500 เหรียญ ในรุ่นเริ่มต้นอย่าง Ascent Sport แต่จะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่นอื่นๆ ส่วนระบบนำทางผ่านดาวเทียม ก็จะเป็นอ็อปชั่นที่ต้องเพิ่มเงินอีก 1,000 เหรียญสำหรับรุ่นเริ่มต้น แต่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่นอื่น

    และเป็นครั้งแรกเช่นกัน ที่มีระบบขับเคลื่อนเบนซินไฮบริดใน 3 รุ่นย่อยให้เลือก โดยขุมพลังเป็นเครื่องยนต์เบนซิน Atkinson Cycle ความจุ 1.8 ลิตร 96.5 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 53 kw ให้กำลังรวมสูงสุด 90kw หรือ 120.7 แรงม้า โดยชุดแบตเตอรี่ Nickel Metal Hydride ถูกติดตั้งไว้ใต้เบาะหลัง ซึ่งระบบมอเตอร์ไฟฟ้า ช่วยให้ได้อัตราการบริโภคน้ำมันที่ 23.8 กิโลเมตร/ลิตร

    Toyota Corolla รุ่นเริ่มต้น Ascent Sport มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว หน้าจอแสดงผลระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ระบบมัลติมีเดีย ลำโพง 6 ตัว มาพร้อมระบบควบคุมเสียง Toyota Link ผ่าน Bluetooth หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 4.2 นิ้ว ระบบปรับอากาศ เบาะนั่งคนขับปรับระดับได้ และกระจกมองข้าง ติดระบบทำความร้อน โดยรุ่น Ascent Sport hybrid มาพร้อมระบบปรับอากาศแบบ dual zone และระบบ keyless smart entry & start

    ส่วนรุ่นที่สูงขึ้นมาอย่าง SX มีการเพิ่มฟีเจอร์ต่างๆเข้ามา เช่น ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย ระบบวิทยุดิจิตอล ไฟตัดหมอกหน้า paddle shifter พวงมาลัยแบบมัลติฟังค์ชั่น กระจกแบบ privacy และช่อง USB สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

    โดยรุ่นท็อปสุดอย่าง ZR จะมีการเพิ่มระบบ head-up display แบบสีขนาดใหญ่เข้าไป ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ไฟหน้าแบบ bi-LED เบาะนั่งด้านหน้าสไตล์สปอร์ตหุ้มหนังแท้ ตกแต่งด้วยหนังกลับ พร้อมระบบทำความร้อน ชุดเครื่องเสียงระดับพรีเมี่ยมจาก JBL พร้อมลำโพง 8 ตัว จอสีแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว ไฟแอมเบียนท์สร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร และกระจกมองหลังแบบ electro chromatic ปรับแสงอัตโนมัติ

    ฟีเจอร์ใหม่อื่นๆได้แก่ ไฟท้ายแบบ LED ระบบช่วยเข้าโค้งแบบ active ที่จะทำการเบรคไปยังล้อซ้าย หรือขวา ในขณะเข้าโค้งที่ความเร็วสูง เพื่อลดอาการ understeer

    Toyota Corolla hatchback ใหม่ มีความยาวมากกว่าโฉมก่อน 45 มม ต่ำลง 40 มม และกว้างกว่าเดิม 30 มม และเป็นรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในออสเตรเลีย 5 ปีซ้อน

你可能也想看看

搜尋相關網站