【Lexus UX 300e 日系豪華品牌純電車款新佈局】
(9/29)和泰汽車發表UX 300e
也是Lexus首款純電車款正式在台灣佈局
車型目前為單一等級販售
售價169.9萬元起
-
由於是基於原本的UX車型來搭載電動引擎
所以外觀上與UX大致上無差異
僅有電動車專屬17吋鋁圈
以及車側有Electric專屬銘牌
在車身左後方為DC的CHAdeMo快速充電孔
車身右後方為AC的J1772的充電孔
-
內裝部分也承襲原本UX的內裝配置
但在UX 300e的內裝有新增
排檔桿則是搭載LC樣式的線傳排檔桿
座椅配置雙前座通風/加熱座椅
手機QI無線充電
Smart Access智慧型車門啟閉系統
腳踢感應式電動尾門等便利性配備
-
動力部分UX 300e電動馬達
可輸出204匹馬力以及30.6公斤米的扭力
0-100km/h加速需要7.5秒
另外由於電池擺放位置置於車底
所以與一般UX相比重心更低了64mm
UXe的電池使用288顆鋰離子電池
而這288顆電池在經由不同電池模組
透過串聯及並聯組成
可以輕易的從車側看出底盤下方多出了電池空間
下面有用一層黑色塑膠材質的保護殼
在保護殼的內部則是
水平交叉的電池保護結構來避免受到外力破壞
另外電池也配備自動控溫系統以利高效運作
總電池容量為54.35kWh
NEDC續航里程為368公里
使用CHAdeMO充電可負荷最高電功率為50kW
0-75%充電時間約為50分鐘
-
在保固的部分
新車基本保固為4年12萬公里
電池保固為8年16萬公里
並推出電動車保養專屬套餐
每次定期保養都會針對電池相關系統
來進行電腦檢測診斷
若在保固期間內電池容量低於70%
可以透過電腦看出是哪個電池模組出問題
進而針對那個模組的電池進行更換
不過目前過保後電池價格尚未出爐
可能要等之後再告訴大家
-
這次台灣汽車龍頭和泰
終於推出了首款純電車款
與賓士的EQC都是使用現行車款
來進行純電化的改造
不過DC的快速充電孔
是目前台灣比較少見的CHAdeMo
而未來台灣目前的統一規劃走向
就是使用歐規的CCS1或CCS2
若是統一確定勢必要推出相應的轉接頭
不過可能因為目前日本市場統一為CHAdeMo
所以日本進口的UXe才會有這樣的配置
對於日系豪華品牌推出的首款純電車款
以及所推出169.9萬的售價你怎麼看呢
歡迎在下面留言吧
By熊子

#全民瘋車Bar #廖怡塵 #熊子 #陳韻羽
#新車發表 #純電車 #電動車 #Lexus
#UX300e #UXe #CHAdeMo

169.9萬Lexus UX 300e開賣 最便宜豪華純電休旅登台
Lexus首款純電休旅UX 300e正式在台上市，規劃單一車型，售價169.9萬！
●17吋低風阻鋁圈
●充電站與華成電能合作
●NEDC續航力368km
#8891汽車 #新車 #Lexus
https://c.8891.com.tw/news/lexus/ux/13737?utm_source=facebook&utm_medium=social&utm_campaign=daily+posts+promotion

︳賓利環保大先鋒 ︳

係咪一有啲關英國嘅事發生，就會嚟個英式天氣落一落雨？哦，原來係全新Bentley Bentayga Hybrid插電混能版今日登陸香港。呢位環保先鋒同上代一樣，配備咗E Motor同3.0L雙渦輪增壓V6汽油引擎，輸出449匹馬力，純電模式之下可以行到50公里（NEDC）。新一代Bentayga Hybrid除咗繼承賓利一貫嘅豪華同工藝，同上一代比較之下仲好似食完瀨尿牛丸咁，又大咗又靚咗呀！呢部車設有電動（EV）、混能（Hybrid）同保持（Hold）三個模式，配合駕駛者管理電池使用狀況。

想做英式環保大先鋒要幾錢？賓利香港－大昌行表示基本售價$3,665,000 起，介乎Bentayga V8同Bentayga S中間。係呢，依家車就launch完，想問啲雨停未......?

#Bentley
#Bentayga
#BentaygaHybrid

————————————————
Web - www.topgearhk.com
YouTube - www.youtube.com/c/topgearhongkong
電子雜誌（網站及iPad版）- bit.ly/3mF2yDD
電子雜誌（Android版）- bit.ly/32a2LVO

เผยโฉมตัวจริง ก่อนเปิดตัวในไทย ORA Black Cat (R1) 2021 ออร่า แบล็คแคท รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์แฮทช์แบ็ค 5 ประตู รุ่นเริ่มต้น ราคาดีไหม? 2021 Bangkok International Motor Show (BIMS) Thailand มอเตอร์โชว์

ในงาน Motor Show 2021 นอกจาก Great Wall Motors จะใช้ในการเปิดตัวรถเอสยูวียอดนิยม Haval H6 แล้ว บริษัทยังถือโอกาสจัดแสดงรถยนต์รุ่นต่างๆ ที่ทางบริษัท มีแผนในการทำตลาดในเมืองไทย หนึ่งในนั้นก็คือ ORA Black Cat รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์แฮทช์แบ็ค 5 ประตู ที่จะมีการเปิดตัวในไทย ในปลายปี 2021 นี้ ซึ่งจะเป็นช่วงหลังจากการเปิดตัว ORA Good Cat ไปแล้ว

ในงาน Motor Show ครั้งนี้ ORA Black Cat ที่นำมาจัดแสดง ยังเป็นเวอร์ชั่นจีน ที่อาจจะมีความแตกต่างจากเวอร์ชั่นไทยเล็กน้อย ในเรื่องคุณสมบัติด้านเทคนิค แต่ดีไซน์และภาพรวม ถือว่าจะมีความใกล้เคียงกัน นั่นทำให้เราเห็นภาพที่ชัดเจนว่า ORA Black Cat จะตอบโจทย์การใช้งาน ในเรื่องมิติตัวถัง การออกแบบ ได้มากน้อยแค่ไหน โดยรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ มีความยาว 3,495 มม กว้าง 1,660 มม และสูง 1,530 มม. ระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,475 มม.

ขุมพลังของ ORA Black Cat เป็นมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 48 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 125 นิวตัน-เมตร สำหรับรุ่นที่ใช้แบตเตอรี่ ขนาดความจุ 28.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง และ 30.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง แล่นได้ไกลสูงสุด 301 กิโลเมตร/ชาร์จ ตามมาตรฐาน NEDC

เปิดตัว ราคา 2022 Audi e-tron GT Thailand มี 3 รุ่นย่อย quattro / quattro Performance / RS

หลังจากที่วันก่อน เราได้นำเสนอข้อมูลเบื้องต้น ของ Audi e-Tron GT รถสปอร์ตซีดานพลังงานไฟฟ้า พร้อมเผยให้เห็นสายการผลิต ที่โรงงานในประเทศเยอรมนีไปแล้ว วันนี้ Audi ประเทศไทย ได้ทำการเปิดตัว Audi e-Tron GT เป็นครั้งแรกในอาเซียน โดยจะทำตลาดใน 3 รุ่นย่อย คือ e-tron GT quattro, e-tron GT quattro Performance และรุ่นสูงสุด RS e-tron GT quattro ในราคาเริ่มต้น 6,390,000 บาท ไปจนถึง 9,490,000 บาท

เริ่มจากรุ่น Audi e-tron GT quattro ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้น กับราคาค่าตัว ที่ 6,390,000 บาท มาพร้อมระบบ electric quattro ที่จะช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ การทรงตัว และออกตัวในลักษณะเร่งแซง ที่มีประสิทธิภาพ ก้าวล้ำกับนวัตกรรมไฟหน้า Matrix LED with Laser light ลำแสงคมชัด ทัศนวิสัยกว้างไกล ซึ่งให้ระยะการส่องสว่างของไฟสูง ได้ไกลกว่าไฟ LED ถึงสองเท่า สามารถลดการกระจายแสงรบกวนต่อเพื่อนร่วมทาง ทั้งรถที่สวนทาง และรถคันที่อยู่ด้านหน้า ส่งผลทำให้ผู้ขับขี่ ได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น ไฟท้าย LED มาพร้อมเอฟเฟกต์ Light staging เมื่อปลดล็อค หลังคาพาโนรามิค ช่วยให้แสงเข้าสู่ตัวรถได้มากขึ้น เสริมสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารให้ดูสว่างและกว้างขวาง โดยมีการผสานเทคโนโลยีอันทันสมัย ที่ช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดด เข้าสู่ภายในห้องโดยสารได้เป็นอย่างดี ล้ออัลลอยเป็นขนาด 20 นิ้ว ดิสก์เบรกสี่ล้อ พร้อมคาลิเปอร์เบรกสีดำ

Audi e-tron GT quattro ถูกขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลังสูงสุด 530 แรงม้า ใน Boost Mode แรงบิดสูงสุด 630 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน Boost Mode ได้ภายในเวลา 4.1 วินาที ความเร็วสูงสุด อยู่ที่ 245 กม./ชม. มาพร้อมแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน ขนาดความจุ 93.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะทางสูงสุด อยู่ที่ 540 กิโลเมตรต่อชาร์จ ตามมาตรฐาน NEDC มีการใช้เทคโนโลยี e-sound สร้างเสียงสังเคราะห์แบบ Sports เพื่อเพิ่มสุนทรียภาพในการขับขี่

ส่องสายการผลิตและประกอบ Mercedes-Benz EQA 2021-2022 เมอร์เซเดส เบนซ์ อีคิวเอ รถเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นเริ่มต้น และมีขนาดเล็กที่สุดของบริษัท

Electric athlete in the successful format of the GLA:

EQA is the name of the new entry-level model to the all-electric world of Mercedes-EQ vehicles. The dynamic design of its SUV body is an indicator of the driving enjoyment to be found on board. Offering an excellent compromise between performance, costs and time to market, the EQA is the first all-electric member of the compact car vehicle from Mercedes-Benz. A close relation of the GLA, it delivers all the thrilling characteristics of that vehicle, combined in this case with an efficient electric power train. Prices in Germany start at 47,540.50 euros[1].

Efficient driving pleasure:

The EQA is being launched as the EQA 250 (combined electrical consumption: 15.7 kWh/100 km; combined CO2 emissions: 0 g/km) with 140 kW and a range according to NEDC of 486 kilometres[2][3][4]. Further variants to meet specific customer requirements will follow. These will include on the one hand a series of even more athletic all-wheel-drive models with an additional electric powertrain (eATS) and an output of 200 kW or more, and on the other hand a version with a range of more than 500 kilometres (WLTP)4. Mercedes-EQ sees the key to a bigger range not in ever-larger batteries, but in systematic improvement in the efficiency of all vehicle components.

Automatic anticipatory driving:

Navigation with Electric Intelligence calculates as a matter of course the route that will get you to your destination fastest, taking into account charging times, thus taking the stress out of route planning for the driver. On the basis of continual range simulations, the system makes allowance for any necessary charging stops as well as for numerous other factors, such as the topography and the weather. It is also able to react dynamically to changes, for instance in the traffic situation or personal driving style.

Convenient charging and payment:

With Mercedes me Charge, customers have access to what is currently the world's biggest charging network: this currently comprises more than 450,000 AC and DC charging points across 31 countries. Mercedes me Charge allows customers convenient use of the charging stations of various providers, even when travelling abroad. By registering just once, they can benefit from an integrated payment function with a simple billing process.

Green Charging:

Mercedes me Charge enables customers to charge at more than 175,000 public charging points throughout Europe; Mercedes-Benz ensures a subsequent offset with green power.