[爆卦]anglo text font是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇anglo text font鄉民發文沒有被收入到精華區:在anglo text font這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 anglo產品中有129篇Facebook貼文,粉絲數超過178萬的網紅ลงทุนแมน,也在其Facebook貼文中提到, Sean Quinn มหาเศรษฐีรวยสุดในไอร์แลนด์ ล้มละลายใน 3 ปี /โดย ลงทุนแมน รู้หรือไม่ว่าเศรษฐกิจของประเทศไอร์แลนด์ เติบโตอย่างร้อนแรงในช่วงปี 1995 ถึง 2007 ...

 同時也有18部Youtube影片,追蹤數超過80萬的網紅果籽,也在其Youtube影片中提到,|山頂廣場—港島狗狗好去處 特色英印菜送狗小食 寵物放電草地+打卡位可任借道具 位於山頂的「Rajasthan Rifles」是香港少見的Anglo-Indian 英印餐廳,源自於歷史上英屬印度軍隊的飲食文化。有別於傳統印度菜,這裏的菜式濃味香口得來不會太辣,很適合香港人口味。招牌菜三文治混合烤...

anglo 在 Wilson Sim 沈斯涵 Instagram 的最讚貼文

2021-08-03 09:57:34

[Summer Palace, Beijing] The Stone Boat by Kunming Lake in the Summer Palace was built by Emperor Qianlong for a special purpose, in the “Imperial Rec...

anglo 在 Wilson Sim 沈斯涵 Instagram 的精選貼文

2021-08-02 05:53:35

[Summer Palace, Beijing] The Hall of Dispelling Clouds (排云殿, Pai Yun Dian) was the satisfying work done by Lei Tingchang (雷廷昌), the 7th generation suc...

  • anglo 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文

    2021-09-23 11:00:31
    有 5,955 人按讚

    Sean Quinn มหาเศรษฐีรวยสุดในไอร์แลนด์ ล้มละลายใน 3 ปี /โดย ลงทุนแมน
    รู้หรือไม่ว่าเศรษฐกิจของประเทศไอร์แลนด์ เติบโตอย่างร้อนแรงในช่วงปี 1995 ถึง 2007
    จนมีชื่อเรียกว่า “The Celtic Tiger” ซึ่งในช่วงเวลานั้น GDP ของไอร์แลนด์เติบโตขึ้นเกือบ 4 เท่า
    ในเวลาเพียง 12 ปี โดยเฉพาะระหว่างปี 1995 ถึง 2000 ที่ GDP เติบโตเฉลี่ยปีละ 9.4%

    นั่นจึงทำให้ไอร์แลนด์ กลายเป็นประเทศที่ประชากรโดยเฉลี่ยร่ำรวยติด 10 อันดับแรกของโลก
    และผู้ที่ร่ำรวยสุดในไอร์แลนด์ ในเวลานั้นก็คือชายที่ชื่อว่า “Sean Quinn”

    แต่เพียง 3 ปีหลังจากนั้น Sean Quinn กลับต้องกลายเป็นคนล้มละลาย
    แล้วชีวิตของ Sean Quinn พลิกจากคนรวยสุดในไอร์แลนด์
    จนไม่เหลืออะไรเลยใน 3 ปี ได้อย่างไร ?
    ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
    ╔═══════════╗
    Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
    ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
    แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
    Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    “Sean Quinn” เกิดที่ประเทศไอร์แลนด์ในปี 1947 ในครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะดี
    เขาจึงต้องออกจากโรงเรียนตอนอายุ 15 ปี เพื่อมาช่วยงานที่ฟาร์มเล็ก ๆ ของครอบครัว

    ปี 1973 คุณ Quinn ในวัย 26 ปี ก็ได้เริ่มค้าขายครั้งแรก หลังจากที่เขาพบว่าที่ดินตรงเนินเขาหลังบ้าน มีหินกรวดที่ใช้ก่อสร้างอยู่ เขาเลยยืมเงินจากเพื่อน 4,500 บาท หรือคือเป็นมูลค่าราว 55,000 บาทในปัจจุบัน เพื่อซื้อเครื่องจักรมาขุดหินและกรวดไปขาย

    แต่ในช่วงนั้นเศรษฐกิจของประเทศไอร์แลนด์ยังอยู่ในช่วงฟื้นฟูหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 การทำธุรกิจจึงยากลำบากมาก จนกระทั่งมาถึงปลายทศวรรษ 1980 ที่เศรษฐกิจไอร์แลนด์เริ่มฟื้นฟูและกลับเข้าสู่ช่วงเติบโตอีกครั้ง

    ปี 1989 คุณ Quinn ได้ต่อยอดมาทำธุรกิจซีเมนต์และคอนกรีต โดยใช้ชื่อว่า Quinn Cement ซึ่งได้กลายเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้ จนทำให้คุณ Quinn สร้างตัวขึ้นมาได้จนกลายเป็นเจ้าตลาดซีเมนต์ในประเทศ

    หลังจากประสบความสำเร็จในขั้นแรกแล้ว คุณ Quinn ก็ได้ขยายธุรกิจไปสู่อุตสาหกรรมอื่น ๆ อย่างเช่น

    โรงงานแก้วและพลาสติก ที่ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็วจนสามารถขยายโรงงานไปได้ทั่วยุโรป
    รวมถึงกิจการโรงแรมอย่าง Quinn Hotel ที่เป็นเจ้าของโรงแรมหรู 7 แห่งทั่วยุโรป

    ต่อมาในปี 1996 บริษัท Quinn ก็เริ่มให้บริการทางการเงินอย่างประกัน โดยตั้งเป็นบริษัท Quinn Insurance จนกลายเป็นบริษัทประกันที่มีลูกค้ามากเป็นอันดับ 3 ในไอร์แลนด์ในเวลา 10 ปี

    ก่อนที่ในปี 2007 Quinn Insurance ก็ขยายใหญ่ขึ้นไปอีก จากการเข้าซื้อกิจการ Bupa Ireland ซึ่งเป็นบริษัทประกันสุขภาพที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของไอร์แลนด์ในขณะนั้น

    อาณาจักรธุรกิจของคุณ Quinn ที่ขยายไปในหลายอุตสาหกรรม มีชื่อเรียกรวมกันว่า “Quinn Group” ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเครือบริษัทที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในไอร์แลนด์

    Quinn Group ครอบคลุมกิจการหลากหลาย ทั้งโรงงานวัสดุก่อสร้างและบรรจุภัณฑ์ ประกัน โรงแรม อสังหาริมทรัพย์ ผับ ร้านอาหาร และอื่น ๆ อีกมากมาย จนเมืองที่เป็นที่ตั้งของบริษัท Quinn Group ถูกเรียกว่า “ประเทศ Quinn”

    นอกจากนี้ คุณ Quinn ยังถูกยกย่องให้เป็นฮีโรของชาวเมือง เพราะการลงทุนมหาศาล ได้ช่วยพลิกฟื้นจากเมืองที่ไม่มีอะไรเลย ให้กลายเป็นเมืองอุตสาหกรรม ที่สำคัญก็คือช่วยให้เกิดการจ้างงานมากกว่า 8,000 คน

    และความสำเร็จของ Quinn Group ก็ทำให้ในปี 2007 คุณ Quinn ในวัย 60 ปีและครอบครัวของเขา มีทรัพย์สิน 1.95 แสนล้านบาท ถูกจัดอันดับจาก Forbes ว่าเป็นคนที่รวยสุดในไอร์แลนด์และรวยเป็นอันดับที่ 164 ของโลก

    แต่นอกจากการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจให้อาณาจักร Quinn Group แล้ว
    คุณ Quinn ได้เข้าไปซื้อหุ้นของธนาคาร Anglo Irish Bank อย่างลับ ๆ ด้วย

    Anglo Irish Bank เป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่มีสาขาทั่วยุโรปและในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 1964 จากการปล่อยสินเชื่อให้ภาคธุรกิจและอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก

    ด้วยความที่คุณ Quinn ทำธุรกิจและยังมีกิจการที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์มากมาย เขาเลยตั้งใจที่จะเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Anglo Irish Bank โดยเริ่มเข้าซื้อหุ้น Anglo Irish Bank ในปี 2007

    แต่ผ่านไปเพียง 1 ปี การครอบครอง Anglo Irish Bank กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้สิ่งที่คุณ Quinn สร้างมาทั้งชีวิต ต้องจบลง..

    ช่วงครึ่งหลังของปี 2008 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาเกิดภาวะฟองสบู่แตก ทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ร่วงลงอย่างรุนแรงและรวดเร็ว จนกลายเป็นวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของโลก
    ซึ่งก็ลามมาถึงประเทศไอร์แลนด์ด้วย

    Anglo Irish Bank ที่ปล่อยสินเชื่อให้ภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก ก็แน่นอนว่าได้รับผลกระทบหนัก จนทำให้ราคาหุ้นร่วงหนัก

    ซึ่งในระหว่างนั้นคุณ Quinn ไม่ได้ตัดสินใจตัดขาดทุน แต่เขากลับมองว่าเป็นโอกาสในการเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้น Anglo Irish Bank เพราะหวังว่าเมื่อราคาหุ้นฟื้นกลับมาจะทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ

    แต่ด้วยสภาพคล่องของเงินที่คุณ Quinn มีในตอนนั้นไม่เพียงพอ เขาเลยใช้เงินที่ยืมมา อย่างเช่นเงินกู้ เงินของบริษัท Quinn Insurance และที่สำคัญก็คือใช้เครื่องมือทางการเงินที่ทำให้ตัวเขาเองมีอำนาจในการเพิ่มมูลค่าเงินลงทุนมากกว่าเงินทุนของเขา หรือที่เรียกกันว่าการ “Leverage”

    ทำให้คุณ Quinn มีสัดส่วนการถือหุ้นของ Anglo Irish Bank เพิ่มขึ้นจาก 5% ไปเป็นกว่า 25%

    แต่สุดท้ายแล้วคุณ Quinn ก็คิดผิด เพราะ Anglo Irish Bank โดนผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจจนดำเนินกิจการต่อไม่ไหว รัฐบาลจึงต้องเข้ามาช่วยเหลือในเดือนมกราคม ปี 2009 และ Anglo Irish Bank ก็ได้กลายเป็นธนาคารของรัฐนับแต่นั้นมา

    เรื่องดังกล่าว ส่งผลให้ราคาหุ้น Anglo Irish Bank นับจากจุดสูงสุดในปี 2007 จนถึงต้นปี 2009 ลดลงกว่า 98%

    ซึ่งถ้าการลงทุนนี้ มาจากเงินของคุณ Quinn เองทั้งหมด เขาจะแค่เงินหายในส่วนของการลงทุนใน Anglo Irish Bank แต่เงินที่เขาใช้ในการเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้น ดันเป็นเงินที่เขายืมมา

    สุดท้ายแล้ว คุณ Quinn และบริษัทจึงเป็นหนี้กับ Anglo Irish Bank 9.24 หมื่นล้านบาท และเป็นหนี้กับเจ้าหนี้รายอื่นอีกกว่า 3 หมื่นล้านบาท

    เงินส่วนหนึ่งที่คุณ Quinn เตรียมนำมาใช้หนี้ ถูกพบว่าเป็นเงินที่มาจากบริษัท Quinn Insurance ราว 1 หมื่นล้านบาท คุณ Quinn และบริษัท Quinn Insurance จึงถูกปรับราว 130 ล้านบาท และคุณ Quinn ต้องออกจากตำแหน่งบริหารใน Quinn Insurance ไป

    แต่นอกจากการนำเงินไปช่วยใช้หนี้แล้ว บริษัท Quinn Insurance ยังมีสัดส่วนการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์สูงมาก นั่นจึงทำให้ในปี 2009 Quinn Insurance ขาดทุนจากการดำเนินงานเกือบ 2.5 หมื่นล้านบาท และยังส่งผลให้ Quinn Group ขาดทุนจากการดำเนินงานกว่า 3.4 หมื่นล้านบาท

    สถานะทางการเงินที่ย่ำแย่นี้ ก็ทำให้ในเดือนมีนาคม ปี 2010 หน่วยงานที่กำกับดูแลเลยมีคำสั่งให้ Quinn Insurance ขายกิจการให้กับ Anglo Irish Bank และบริษัทประกันของสหรัฐอเมริกาที่ชื่อ Liberty Mutual

    ต่อมาในเดือนเมษายน ปี 2011 Anglo Irish Bank จึงเข้าควบคุมกิจการทั้งหมดของ Quinn Group โดยมีคำสั่งให้คุณ Quinn และครอบครัวไม่มีอำนาจบริหารและพ้นจากการเป็นเจ้าของ ส่วนเหล่าผู้บริหารก็ถูกไล่ออก และแต่งตั้งทีมบริหารที่เป็นคนนอกเข้ามาแทน

    จนกระทั่งปลายปี 2011 คุณ Quinn ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอเป็นบุคคลล้มละลาย แต่ในระหว่างขั้นตอนถูกยึดทรัพย์ เขากลับพยายามทยอยแบ่งขายสินทรัพย์ที่มีค่า เพื่อเก็บเป็นเงินสดก่อนที่จะถูกยึด ซึ่งผิดกฎหมาย เขาจึงถูกศาลตัดสินจำคุก 9 สัปดาห์ ตอนปลายปี 2012

    จนถึงปัจจุบันคุณ Quinn ในวัย 74 ปี ได้อาศัยอยู่กับครอบครัวในเมืองเกิดของเขา โดยที่ไม่ได้เป็นมหาเศรษฐีเหมือนเดิมแล้ว แต่เรื่องนี้ก็เป็นบทเรียนให้กับทุกคนได้ดี

    เรื่องราวของคุณ Quinn ที่เริ่มทำธุรกิจในจังหวะที่เติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจของไอร์แลนด์ และใช้กลยุทธ์ขยายกิจการไปสู่อุตสาหกรรมอื่น ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยง ไม่ให้พึ่งพากับอุตสาหกรรมก่อสร้างเพียงอย่างเดียว ถือเป็นความสำเร็จที่น่ายกย่อง

    อย่างไรก็ตาม คุณ Quinn กลับตัดสินใจทุ่มเงินลงทุนด้วยความเสี่ยงที่สูงมาก ซึ่งไม่ต่างจากการพนันใน Anglo Irish Bank แบบหมดหน้าตัก แถมยังใช้เงินที่กู้ยืมมา ก็ถือเป็นความผิดพลาดขั้นรุนแรง
    ที่ได้ทำให้อาณาจักรธุรกิจและความมั่งคั่งที่คุณ Quinn สร้างมากว่า 35 ปี หายวับไปกับตา
    ในเวลาเพียง 3 ปี เท่านั้น..
    ╔═══════════╗
    Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
    ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
    แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
    Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    ติดตามลงทุนแมนได้ที่
    Website - longtunman.com
    Blockdit - blockdit.com/longtunman
    Facebook - facebook.com/longtunman
    Twitter - twitter.com/longtunman
    Instagram - instagram.com/longtunman
    Line - page.line.me/longtunman
    YouTube - youtube.com/longtunman
    Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
    Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
    Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
    References:
    -https://www.bloomberg.com/features/2020-sean-quinn-ireland/
    -https://www.ft.com/content/9d61e078-927b-11e3-8018-00144feab7de
    -https://www.forbes.com/forbes/2011/0509/focus-sean-quinn-group-anglo-irish-bank-biggest-loser.html?sh=66279e4d71fa
    -https://www.bbc.com/news/uk-northern-ireland-49754980
    -https://www.bbc.com/news/uk-northern-ireland-19063419
    -https://www.bbc.com/news/world-europe-58075623
    -https://www.thejournal.ie/sean-quinn-anglo-bankrupt-671638-Nov2012/
    -https://www.thejournal.ie/quinn-group-reports-operating-loss-of-e888m-for-2009-144756-May2011/?utm_source=businessetc
    -https://www.irishtimes.com/business/quinn-and-family-buying-15-of-anglo-irish-bank-1.945177
    -https://en.wikipedia.org/wiki/Mannok
    -https://www.investopedia.com/terms/c/celtictiger.asp
    -https://data.worldbank.org/indicator/NY.GDP.MKTP.CD?locations=IE

  • anglo 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答

    2021-09-17 11:00:17
    有 2,445 人按讚

    กรณีศึกษา Nestlé บริษัทอาหารและเครื่องดื่ม ใหญ่สุดในโลก /โดย ลงทุนแมน
    Nestlé นับเป็นหนึ่งในเครือธุรกิจ ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์ที่เรารู้จักมากมาย
    ไม่ว่าจะเป็นเนสกาแฟ คอฟฟีเมต ไมโล ไปจนถึงซอสปรุงรสแม็กกี้

    แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า Nestlé เติบโตมาจากการรวมตัวกันของ 2 บริษัท
    ที่มีจุดเริ่มต้นเหมือนกัน นั่นก็คือ “นมวัว” และ “ประเทศสวิตเซอร์แลนด์”

    ปัจจุบัน Nestlé ดำเนินธุรกิจมากว่า 150 ปี มีมูลค่า 11 ล้านล้านบาท
    ซึ่งนับเป็นบริษัทใหญ่สุดในสวิตเซอร์แลนด์และใหญ่เป็นอันดับที่ 24 ของโลก

    แล้วจุดเริ่มต้นของ Nestlé เป็นอย่างไร ?
    ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
    ╔═══════════╗
    Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
    ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
    แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
    Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    บริษัทแรกที่เป็นจุดเริ่มต้นนั้น เกิดจาก Charles และ George Page สองพี่น้องชาวอเมริกัน

    พวกเขาต้องการสร้างโรงงานผลิตนมข้นหวานซึ่งเป็นสินค้าขายดีในประเทศสหรัฐอเมริกาและวางแผนที่จะส่งไปวางจำหน่ายยังประเทศอังกฤษเพราะเป็นตลาดใหม่สำหรับนมข้นหวาน

    ทั้งสองจึงเลือกตั้งโรงงานที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เพราะเป็นแหล่งผลิตนมวัวคุณภาพสูง และให้ผลผลิตปริมาณมาก

    โดยทั้งคู่ก็ได้ก่อตั้งบริษัท Anglo-Swiss Condensed Milk ขึ้นในปี 1866 และได้วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมข้นหวานไปทั่วยุโรปและสหรัฐอเมริกา

    ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง Henri Nestlé ผู้อพยพชาวเยอรมันซึ่งมีอาชีพเป็นผู้ช่วยเภสัชกร มีความคิดที่จะแก้ไขปัญหาอัตราการเสียชีวิตของเด็กทารกในยุโรป ที่ไม่สามารถดื่มนมแม่ได้

    เขาจึงผลิตอาหารสำหรับทารกที่มีคุณค่าทางโภชนาการด้วยการผสมนมและธัญพืช ภายใต้ชื่อ Farine Lactée

    หลังจากวางจำหน่ายได้เพียง 8 ปี ผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับเด็กของ Henri Nestlé ก็วางจำหน่ายไปทั่วยุโรปและสหรัฐอเมริกา

    ต่อมาในปี 1877 Charles และ George Page ได้เห็นโอกาสในตลาดอาหารสำหรับเด็ก ทำให้ทั้งคู่ได้ผลิตอาหารสำหรับเด็ก ซึ่งสำหรับ Henri Nestlé แล้วเรื่องนี้ถือเป็นการประกาศสงครามทางการค้าระหว่างกัน

    ทำให้หลังจากนั้นไม่นาน Henri Nestlé ได้ผลิตนมข้นหวานเป็นของตัวเองเช่นกันเพื่อโต้ตอบ Charles และ George Page ที่เข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดอาหารเด็ก

    ด้วยความที่ไม่มีใครยอมใคร ทำให้การแข่งขันดังกล่าวกินเวลายาวนานเกือบ 30 ปี
    และถึงแม้ทั้ง 2 บริษัทจะสามารถเติบโตต่อไปได้ แต่จากการแข่งขันระหว่างกันก็ส่งผลกระทบต่อกำไรของทั้งคู่อย่างมาก เพราะต้องทำราคาและโปรโมชันแข่งกันอยู่ตลอดเวลา

    จนกระทั่งในปี 1905 เมื่อผู้ก่อตั้งบริษัททั้ง 3 คนได้เสียชีวิตไปหมดแล้ว
    กรรมการของทั้ง 2 บริษัทจึงตัดสินใจควบรวมกิจการกันเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการบุกตลาดโลกและไม่ต้องมาเสียเวลากับการแข่งขันกันเอง

    หลังจากควบรวมกิจการกันได้ไม่นาน ภายใต้ชื่อ Nestlé and Anglo-Swiss Condensed Milk หรือ Nestlé
    ก็สามารถวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของตัวเองไปยังทุกทวีปทั่วโลก

    เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้นในปี 1914 ก็ทำให้ผลิตภัณฑ์อาหารจากนมของ Nestlé กลายเป็นที่ต้องการอย่างมากในช่วงสงคราม โดยเฉพาะนมข้นหวานเพราะสามารถเก็บไว้ได้นานและใช้บริโภคได้หลากหลายรูปแบบ

    แต่ภาวะสงครามที่กินระยะเวลานานก็ทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบอย่างหนัก ส่งผลให้โรงงานของบริษัททั้ง 20 แห่งต้องหยุดการผลิตลง

    เรื่องดังกล่าวทำให้ Nestlé ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อให้กิจการยังดำเนินต่อไปได้แม้ในช่วงวิกฤติ
    Nestlé จึงได้ขยายการผลิตด้วยการไปตั้งโรงงานที่สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของ Nestlé

    กำลังการผลิตของ Nestlé เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดย Nestlé มีจำนวนโรงงานเพิ่มขึ้นจาก 20 โรงงานในปี 1914 เป็น 80 โรงงานในปี 1921 และในช่วงนี้เองที่ Nestlé ได้ขยายโรงงานไปยังเอเชียและลาตินอเมริกา

    และด้วยการขยายฐานการผลิตจำนวนมาก ทำให้ Nestlé สามารถรอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ หรือ Great Depression ได้ในปี 1930 เพราะมีฐานลูกค้าและโรงงานกระจายอยู่ทั่วโลก

    และจากการที่มีฐานการผลิตอยู่ในหลายประเทศ รวมถึงประเทศบราซิล
    เป็นที่มา ที่ทำให้บริษัทได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ นั่นก็คือ “Nescafé”

    จริง ๆ แล้ว Nescafé เกิดขึ้นจากการที่รัฐบาลบราซิล ได้ขอให้ Nestlé ช่วยแก้ปัญหาผลผลิตเมล็ดกาแฟล้นตลาด โดยในตอนแรกไอเดียของรัฐบาลคือการทำกาแฟอัดก้อน แล้วให้ Nestlé เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่าย

    แต่ Nestlé เลือกที่จะผลิตเป็นผงกาแฟที่สามารถละลายน้ำได้ ซึ่งในอีกแง่หนึ่งก็ถือเป็นการทำในสิ่งที่เชี่ยวชาญ เพราะ Nestlé มีประสบการณ์จากการผลิตเครื่องดื่มชนิดผงอยู่ก่อนแล้ว อย่างเช่น นมผงสำหรับเด็ก หรือเครื่องดื่มไมโล

    Nescafé ออกวางจำหน่ายไม่นานก็เป็นที่นิยมและขายดีอย่างมาก โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่ง Nescafé ใช้เวลาเพียงปีเดียว ก็กลายเป็นผลิตภัณฑ์กาแฟที่ขายดีที่สุดในประเทศ

    แต่ในเวลาต่อมา สงครามโลกครั้งที่ 2 ก็เกิดขึ้น
    ซึ่งสำหรับบริษัท Nestlé ก็เรียกได้ว่าแทบจะเป็นการฉายหนังซ้ำ
    โดยในช่วงเริ่มแรกของสงคราม สินค้าจาก Nestlé ได้กลายเป็นที่ต้องการอย่างมาก

    แต่เนื่องจากผลกระทบของสงครามที่เกิดขึ้นไปทั่วโลกมีความรุนแรงและกินระยะเวลายาวนานกว่าที่คิด

    ทำให้ถึงแม้จะมีการขยายโรงงานผลิตไปยังประเทศต่าง ๆ โรงงานหลายแห่งของ Nestlé ก็ยังคงประสบปัญหาในการผลิต ทั้งการขาดแคลนวัตถุดิบ การขาดแคลนแรงงาน จนสุดท้ายโรงงานจำนวนมากต้องปิดตัวลง

    แต่ด้วยฐานการผลิตที่สหรัฐอเมริกา ไม่ได้รับผลกระทบจากสงคราม และเนื่องจากสินค้ายอดนิยมอย่าง Nescafé กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับกองทัพ ทำให้ Nestlé ได้รับสัญญามูลค่ามหาศาลจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา

    ทำให้ผลประกอบการของ Nestlé ในช่วงนั้นกลับกลายเป็นได้กำไรจำนวนมาก ในขณะที่บริษัทอื่น ๆ ได้รับผลกระทบ

    จุดนี้เองที่ทำให้ Nestlé ตัดสินใจปรับกลยุทธ์การขยายกิจการจากเดิมที่มุ่งเน้นการตั้งโรงงานใหม่และเพิ่มกำลังการผลิต เป็นการไล่ซื้อกิจการอื่น ๆ แทน

    โดยเมื่อสงครามสิ้นสุดลง Nestlé ได้เริ่มการไล่ซื้อบริษัทเล็ก ๆ ในยุโรปที่ได้รับผลกระทบจากช่วงสงคราม และการไล่ซื้อกิจการตั้งแต่จบสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ทำให้ Nestlé ได้แบรนด์สินค้าชื่อดังรวมถึงองค์ความรู้และเทคโนโลยีจากหลากหลายแบรนด์เข้ามาเป็นของบริษัท

    อย่างเช่น

    - Maggi ผู้ผลิตเครื่องปรุงรสอาหาร
    - Friskies อาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง
    - KitKat ช็อกโกแลตแบบแท่งที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก

    นอกจากการซื้อกิจการแล้ว Nestlé ก็ยังออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ มาสู่ท้องตลาดอยู่เสมอ
    อย่างเช่น ชาผงพร้อมดื่ม Nestea และช็อกโกแลตชนิดผงพร้อมดื่ม Nesquik
    ซึ่งต่างก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วไม่ต่างจาก Nescafé

    สำหรับในประเทศไทยเอง Nestlé ก็ได้เข้ามาดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ปี 1893 หรือในปี พ.ศ. 2436 โดยเริ่มต้นจากผลิตภัณฑ์นมข้นหวานบรรจุกระป๋องที่มาจากฝั่งของสองพี่น้อง Charles และ George Page โดยใช้ชื่อไทยว่านมข้นหวานตรา “แหม่มทูนหัว” และตั้งโรงงานผลิตในไทยแห่งแรกในปี 1967 หรือในปี พ.ศ. 2510

    ปัจจุบัน Nestlé ก็ขยายกิจการจนมีแบรนด์สินค้า กว่า 2,000 แบรนด์
    วางจำหน่ายใน 190 ประเทศทั่วโลก และมีมูลค่าบริษัทกว่า 11 ล้านล้านบาท

    ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าจากวันแรก ที่บริษัทของ Charles และ George Page กับ Henri Nestlé เป็นคู่แข่งขัน จะถูกควบรวมกันจนกลายมาเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่ดำเนินธุรกิจมายาวนานเป็นร้อยปี

    จนปัจจุบัน Nestlé ได้กลายมาเป็นบริษัทที่ใหญ่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ และใหญ่สุดในบริษัทอาหารและเครื่องดื่มของโลกเลยทีเดียว..
    ╔═══════════╗
    Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
    ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
    แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
    Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    ติดตามลงทุนแมนได้ที่
    Website - longtunman.com
    Blockdit - blockdit.com/longtunman
    Facebook - facebook.com/longtunman
    Twitter - twitter.com/longtunman
    Instagram - instagram.com/longtunman
    Line - page.line.me/longtunman
    YouTube - youtube.com/longtunman
    Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
    Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
    Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
    References:
    -https://www.Nestle.co.th/th/aboutus/history
    -https://www.youtube.com/watch?v=MYGZZKTA2qI&t=14s
    -https://www.companieshistory.com/Nestle/
    -https://www.cleverism.com/the-history-of-Nestle/
    -https://www.Nestle.com/sites/default/files/2021-03/2020-annual-review-en.pdf

  • anglo 在 GamingDose Facebook 的最讚貼文

    2021-09-16 13:39:44
    有 83 人按讚

    ทีมพัฒนาเกม Ubisoft ประกาศว่า Assassin's Creed Valhalla จะเตรียมเพิ่มฟีเจอร์ Discovery Tour ซึ่งเป็นเนื้อหาสารคดีให้เหล่าเกมเมอร์เรียนรู้ประวัติความเป็นมาของไวกิ้ง และวัฒนธรรม Anglo-Saxon ในวันที่ 19 ตุลาคมนี้
    .
    คอนเทนต์ดังกล่าวจะมีชื่อว่า "Discovery Tour: Viking Age" เป็นเนื้อหาที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้เพลเยอร์เข้าถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมโบราณของไวกิ้ง โดย Ubisoft จับมือร่วมกับนักประวัติศาสตร์ และนักโบราณคดีหลายคน เพื่อทำการค้นคว้ากับมอบข้อมูลความรู้ที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือ
    .
    นอกจากนี้ ทีมงานสัญญาว่าวิธีการเล่าเรื่องใน Discovery Tour ของ AC Valhalla จะมีการเปลี่ยนแปลงจากภาค Origins ให้เนื้อหามีความน่าตื่นเต้น สนุกสนาน และไม่น่าเบื่อเหมือนกำลังฟัง "ไกด์นำเที่ยว"
    .
    Discovery Tour: Viking Age ปล่อยให้ดาวน์โหลดฟรีสำหรับคนที่มีเกม Assassin's Creed Valhalla อยู่แล้ว และจะวางจำหน่ายเป็นสินค้าแยกในราคา 20 เหรียญฯ ผ่าน Ubisoft Store, Epic Games Store
    .
    ที่มา: https://www.pcgamer.com/uk/explore-the-real-world-of-vikings-in-assassins-creed-valhallas-discovery-tour-coming-in-october/
    .
    #ข่าวเกม #GamingDose #AssassinsCreedValhalla

  • anglo 在 果籽 Youtube 的最佳貼文

    2020-12-09 06:30:01

    |山頂廣場—港島狗狗好去處 特色英印菜送狗小食 寵物放電草地+打卡位可任借道具
    位於山頂的「Rajasthan Rifles」是香港少見的Anglo-Indian 英印餐廳,源自於歷史上英屬印度軍隊的飲食文化。有別於傳統印度菜,這裏的菜式濃味香口得來不會太辣,很適合香港人口味。招牌菜三文治混合烤雞、奄列、芝士及各式香料,口感豐富惹味。印度菜必吃的naan(烤餅)亦是誠意之作,蒜味濃郁,單吃亦不會太寡。很多印度餐廳的Tikka(烤肉)都會弄得較老,這裏的烤雞倒是出奇地嫩滑。

    影片:
    【我是南丫島人】23歲仔獲cafe免費借位擺一人咖啡檔 $6,000租住350呎村屋:愛這裏互助關係 (果籽 Apple Daily) (https://youtu.be/XSugNPyaXFQ)
    【香港蠔 足本版】流浮山白蠔收成要等三年半 天然生曬肥美金蠔日產僅50斤 即撈即食中環名人坊蜜餞金蠔 西貢六福酥炸生蠔 (果籽 Apple Daily) (https://youtu.be/Fw653R1aQ6s)
    【這夜給惡人基一封信】大佬茅躉華日夜思念 回憶從8歲開始:兄弟有今生沒來世 (壹週刊 Next) (https://youtu.be/t06qjQbRIpY)
    【太子餃子店】新移民唔怕蝕底自薦包餃子 粗重功夫一腳踢 老闆刮目相看邀開店:呢個女人唔係女人(飲食男女 Apple Daily) https://youtu.be/7CUTg7LXQ4M)
    【娛樂人物】情願市民留家唔好出街聚餐 鄧一君兩麵舖執笠蝕200萬 (蘋果日報 Apple Daily) (https://youtu.be/e3agbTOdfoY)

    果籽 :http://as.appledaily.com
    籽想旅行:http://travelseed.hk
    健康蘋台: http://applehealth.com.hk
    動物蘋台: http://applepetform.com

    #山頂 #山頂廣場 #印度菜 #狗狗 #維港
    #果籽 #StayHome #WithMe #跟我一樣 #宅在家

  • anglo 在 果籽 Youtube 的最讚貼文

    2020-10-28 03:30:00

    |山頂廣場—港島狗狗好去處 特色英印菜送狗小食 寵物放電草地+打卡位可任借道具
    位於山頂的「Rajasthan Rifles」是香港少見的Anglo-Indian 英印餐廳,源自於歷史上英屬印度軍隊的飲食文化。有別於傳統印度菜,這裏的菜式濃味香口得來不會太辣,很適合香港人口味。招牌菜三文治混合烤雞、奄列、芝士及各式香料,口感豐富惹味。印度菜必吃的naan(烤餅)亦是誠意之作,蒜味濃郁,單吃亦不會太寡。很多印度餐廳的Tikka(烤肉)都會弄得較老,這裏的烤雞倒是出奇地嫩滑。


    室外設有數十個座位可帶狗狗一起用餐,位置可俯瞰無敵香港景色,大大加分。入場狗隻大小沒有限制,這裏雖然沒有寵物餐單,不過餐廳會免費送上食水及狗餅乾給每位狗狗客人,狗狗不用齋坐陪食。山頂廣場本身亦是寵物友善商場,可免費借用寵物手推車($500按金/3小時)。頂樓觀景台位置可以讓毛孩放放電,又可飽覽美景。商場內亦有毛孩專屬打卡位,提供小道具,滿足港媽為狗狗拍照的慾望。

    影片:
    【我是南丫島人】23歲仔獲cafe免費借位擺一人咖啡檔 $6,000租住350呎村屋:愛這裏互助關係 (果籽 Apple Daily) (https://youtu.be/XSugNPyaXFQ)
    【香港蠔 足本版】流浮山白蠔收成要等三年半 天然生曬肥美金蠔日產僅50斤 即撈即食中環名人坊蜜餞金蠔 西貢六福酥炸生蠔 (果籽 Apple Daily) (https://youtu.be/Fw653R1aQ6s)
    【這夜給惡人基一封信】大佬茅躉華日夜思念 回憶從8歲開始:兄弟有今生沒來世 (壹週刊 Next) (https://youtu.be/t06qjQbRIpY)
    【太子餃子店】新移民唔怕蝕底自薦包餃子 粗重功夫一腳踢 老闆刮目相看邀開店:呢個女人唔係女人(飲食男女 Apple Daily) https://youtu.be/7CUTg7LXQ4M)
    【娛樂人物】情願市民留家唔好出街聚餐 鄧一君兩麵舖執笠蝕200萬 (蘋果日報 Apple Daily) (https://youtu.be/e3agbTOdfoY)

    果籽 :http://as.appledaily.com
    籽想旅行:http://travelseed.hk
    健康蘋台: http://applehealth.com.hk
    動物蘋台: http://applepetform.com

    #果籽 #山頂 #山頂廣場 #印度餐廳 #狗狗 #打卡位 #StayHome #WithMe #跟我一樣 #宅在家

  • anglo 在 JEN & the little travelers Youtube 的精選貼文

    2020-07-03 23:32:25

    Building history:
    The original building of 1926 Heritage Hotel was built in 1926, the property once a home to British colonial immigration officers and local administrators of Penang.

    Location:
    1926 Heritage Hotel is conveniently located in the heart of the historic city of Georgetown, founded in 1786 by Captain Francis Light.
    Listed as a UNESCO heritage city, Georgetown is a one of a kind melting pot of cultures, heritage, foods and festivals from diverse communities.

    Exterior and interior
    Located off Imigresen Road and Burma Road, 1926 Heritage Hotel occupies 24 heritage link houses beautifully restored to its former glory
    In 1999 The State Government of Penang invested a significant amount of funds to refurbish this colonial property as a heritage hotel with most of its Anglo-Malay architectural essence still intact. Surrounded by spacious rooms, wooden interiors, long corridors, balmy balconies, beautiful Victorian windows as well as pictures of the old Penang, a sense of nostalgia can be felt throughout the property.

    Amenities
    The 1926 Heritage Hotel has just refurbished all the rooms and changed all furniture and bedding. The hotel also provides amenities such as LCD TVs, tea and coffee making and mini fridge. Free wi-fi is standard feature in all rooms and in the public areas. There is also a swimming pool and kids pool for guests to take a dip in sunny day.

    Every second we spent in 1926 Heritage Hotel was filled with nostalgia of the British colonial era. We also loved the convenient location of the hotel as most of our favorite Penang street foods are well within reach.

    #cuticutimalaysia #cuticutipenang #penangheritage

    ****************************************************************************************************
    If you like my video, please subscribe to our channel and turn on the notification bell.
    如果您喜欢我的视频,请点击subscribe订阅我们的频道和打开notification的小铃铛。

    Like and Follow
    Facebook : http://bit.ly/imjenniferlai
    Instagram: http://bit.ly/imjenniferIG

你可能也想看看

搜尋相關網站