[爆卦]Ubermensch 中文是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇Ubermensch 中文鄉民發文沒有被收入到精華區:在Ubermensch 中文這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 ubermensch產品中有7篇Facebook貼文,粉絲數超過16萬的網紅Hero Athletes,也在其Facebook貼文中提到, ‘ข้อจำกัดของมนุษย์อยู่ที่ข้อจำกัดทางความคิด’ ช่วงมัธยมผมอ่านหนังสือเยอะมาก จุดกำเนิดมาจากคุณแม่ผมชอบสะสมหนังสือเต็มบ้านไปหมด ทำให้ผมติดนิสัยชอบอ่านจ...

 同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過120萬的網紅Phê Phim,也在其Youtube影片中提到,?? Đường link cho các bạn quan tâm tới chiếc áo Superman - Biểu tượng DC trong video: https://cinegoodies.vn/ao-thun-superman-dc-logo ?? Xem các mẫu á...

ubermensch 在 張韋怡GoGoCheung Instagram 的最佳解答

2020-07-03 05:03:13

人生受挫必備良方 自我克服(Selbstüberwindung) 相信不少人都非常熟悉「What doesn’t kill me makes me stronger」這句歌詞。它其實來自一位德國哲學家 —— 尼采(Nietzsche)。 終其一生,Nietzsche 都是個悲慘人物:他不斷被追求...

  • ubermensch 在 Hero Athletes Facebook 的最佳貼文

    2021-02-18 00:16:36
    有 807 人按讚

    ‘ข้อจำกัดของมนุษย์อยู่ที่ข้อจำกัดทางความคิด’

    ช่วงมัธยมผมอ่านหนังสือเยอะมาก จุดกำเนิดมาจากคุณแม่ผมชอบสะสมหนังสือเต็มบ้านไปหมด ทำให้ผมติดนิสัยชอบอ่านจากคุณแม่มาเต็มๆ และได้พบหนังสือของเฟรดิช นีทเช่ (Friedrich Nietzsche) นักปรัชญาชาวเยอรมันผู้ที่แนวคิดของเขาสุดโต่งและสุดล้ำลึก จนหนังสือบางเล่มของนีทเช่ถูกห้ามจำหน่ายในหลายๆประเทศเนื่องจากเป็นหนังสืออันตราย และมีอิทธิพลทางความคิดของผู้อ่านเป็นอย่างมาก

    ในบทคัดย่อตอนหนึ่งจากหนังสือ ‘God Is Dead, Thus Spoke Zarathustra’ นีทเช่ได้กล่าวถึงไอเดียและแนวคิดเรื่อง ‘อภิมนุษย์’

    ภาษาเยอรมันใช้คำว่า Übermensch หรือแปลอังกฤษง่ายๆคือ Superman หรือ กึ่งมนุษย์กึ่งเทพ ผู้ใช้ชีวิตโลดแล่นอยู่เหนือมนุษย์ ‘ทั่วไป’ ไม่มีอะไร ไม่มีพระเจ้าหรือศาสดาองค์ไหนสามารถสามารถหยุดหรือจำกัดบุคคลเหล่านี้ได้ (ซึ่งสุดท้าย Adolf Hitler ได้นำแนวคิดนี้ไปใช้ในทางไม่ดีนักและเป็นจุดประกายต้นแบบในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว - ถึงได้บอกว่าหนังสือของเขาถูกห้ามจำหน่ายในบางประเทศ!)

    โดยแนวคิดหลักคือ ‘ที่สุดของความเป็นมนุษย์’ ทั้งด้าน ‘สติปัญญา’ และ ‘ร่างกาย’ มันสมองเป็นเลิศ มองเกมขาดมองชีวิตขาดเป็นท่อน ร่างกายแข็งแรงกำยำในทุกๆด้าน ความอ่อนตัว ความอ่อนช้อย ความยืดหยุ่น เสน่ห์ รูปงาม มานะ มุ่งมั่น ขยัน อดทน แน่วแน่ ไม่ย่อท้อ ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ จิตใจดีงามโอบอ้อมอารี แต่ถึงเวลาแล้วต้องเด็ดขาด ดุดัน ในจุดที่ว่าถ้าเงื้อแล้วต้องฟัน ไม่มีผ่อนปรน

    หลังจากอ่านบทคัดย่อและซึมซับความหมายทางภาษาศาสตร์และบริบททางปรัชญาของ ‘อภิมนุษย์’ เข้าไปจนถึงกระดูกดำและสมองส่วนกลาง ผมค่อนข้างโชคดีที่ได้อ่านบทคัดย่อแปลเป็นภาษาอังกฤษที่แปลจากเยอรมันได้มิผิดเพี้ยนจากความเดิมมาก เฉกเช่นอ่านจากลายมือของนีทเช่และสัมผัสได้ถึงแรงกดปากกาผ่านตัวอักษร จึงค่อนข้างเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งมากว่าผมไม่ได้ต้องการเป็นเพียงแค่มนุษย์ ‘ทั่วไป’ แต่จุดของ ‘อภิมนุษย์’ นี้คือสิ่งที่เป็นเป้าหมายของชีวิต

    คนอื่นๆอาจจะอยากเป็นนักบัญชี นักกฏหมาย ผู้บริหาร แต่ผมกลับอยากเป็น ‘อภิมนุษย์’!!

    ย้อนกลับมาดูรอบๆ สภาพสังคม ระบบการศึกษา ที่ใช้ชีวิตอยู่ ณ ปัจจุบัน กลับสวนทางกับคำว่า ‘อภิมนุษย์’ อย่างสิ้นเชิง จนเกือบจะเป็น ‘อภิทาส’

    โดยในที่นี้เป็นทาสของระบบ ทาสของฟันเฟือง ทาสทางความคิด ทาสของสังคม ไม่มีใครมีความแตกต่างหรือมีความโดดเด่นใดๆในสังคม หรือมีความกล้าหาญที่จะแหกระบบออกมาเลย มีน้อยมากและโดนแรงกดดันจากทุกๆทางเสมอ

    ระบบการศึกษาสอนให้เราเป็นทาส มิได้สอนให้คิดหรือมองอะไรในมุมใหม่ๆ คำถาม กขค ลอกการบ้านก็เรียนจบได้ จบออกมาทำงานได้อย่างเดียว คณะเดียว ถ้ามีใครจบออกมาทำงานไม่ตรงสายจะต้องโดนเพื่อนที่ทำงานตั้งคำถามและล้อเป็นอย่างแรก

    ‘ทำไมจบมาไม่ตรงสาย?’ เหมือนมันเป็นความผิดมหันต์อันใหญ่หลวง

    ต้องทำงานที่สังคมยกย่องว่ามีเกียรติ ต้องจบตรงสาย ต้องใหญ่โตในบริษัท ถึงจะมีจุดยืนในสังคม ใช้ชีวิตตามแบบ ‘เค้าว่ามา’ ‘เค้าว่ามันดี’ ไร้ซึ่งการวิเคราะห์ ก้มหน้าก้มตาเดินตามรอยเดิม เงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็อายุ 60 กว่า ปลดเกษียณ ร่างกายไร้เรี่ยวแรง พร้อมคำถามชีวิตที่ว่า

    ‘นี่เราเป็นใคร? เราได้ใช้ชีวิตจริงๆแล้วเหรอ?’

    นีทเช่ไม่ได้เป็นแค่นักปราชญ์ แต่เป็นทั้ง นักเขียน เป็นศิลปิน นักโต้วาที นักการกุศล เป็นนักวิทยาศาสตร์ มีความรู้มีวิชาทางการแพทย์ มีความสามารถรอบด้านเหนือจรดใต้

    แต่บ้านเราส่วนใหญ่กลับทำงานอย่างเดียว อาชีพเดียว สร้างข้อจำกัดล่องหนขึ้นมาผูกคอตัวเองอย่างไร้ประโยชน์ หรือเมื่อมีเวลาว่างก็มิได้ขวนขวายกิจกรรมอื่นใด เนื่องจากเหน็ดเหนื่อยจากการเป็นคนในสังคม

    ผู้ที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงนั้น ผมสังเกตุมาหลายครั้งหลายคราวว่าเขาเหล่านั้น มิได้ทำงาน ทำอาชีพเดียว เก่งอย่างเดียว แต่เก่งรอบด้านเก่งทุกด้าน เก่งไปหมด ทำงานเก่ง ร่างกายแข็งแรง ตรงตามแบบ ‘อภิมนุษย์’ ที่ผมเข้าใจ

    แต่บุคคลเหล่านี้ที่ได้ชื่อว่าเป็นอภิมนุษย์ มิใช่เป็นกันง่ายๆหรือเป็นได้ทุกคน เพราะต้องผ่านแรงกดดันรอบข้าง แรงกดดันจากครอบครัว จากสังคม บททดสอบกายและใจอย่างมาก สิ่งหนึ่งที่อภิมนุษย์เหล่านี้มีเหมือนกันคือ ‘วิสัยทัศน์และความเชื่อมั่นในตนเอง’ ที่สูงจนไม่มีอะไรมาหยุดได้

    ผมต้องการจะสืบต่อไอเดียนี้และเผยแพร่ให้ได้มากที่สุดเพราะสิ่งที่ผมได้ซึมซับรับรู้มานั้นมันช่างมีพลังและมีประโยชน์มากมายเหลือเกิน

    ปัจจุบันผมเลิกจำกัดตัวเองว่ามีอาชีพอะไรไปแล้ว แต่ทำให้ได้ทุกอย่าง มีความรู้ให้ได้ทุกแบบ ออกกำลังกายฝึกให้ได้ทุกกีฬา เก่งให้ได้ทุกทักษะ ความแข็งแรง ความยืดหยุ่น การทรงตัว ความรวดเร็ว หน้าที่การงานทำทุกขั้นตอนให้หมดในองค์กร ตั้งแต่ล้างจานยันลงทุน ไม่รู้อะไรให้เรียนรู้ ไม่ปฏิเสธไปก่อน เรียนรู้และใช้ชีวิตให้ถึงที่สุด เก่งให้รอบด้าน เพราะสิ่งที่ผมยังเชื่ออยู่ทุกวันก็คือ

    ‘ข้อจำกัดของมนุษย์อยู่ที่ข้อจำกัดทางความคิด’

    คุณจำกัดอะไรอยู่ ?
    ใครจำกัดอะไรคุณอยู่ ?
    ใครบอกคุณไม่ให้ทำสิ่งที่คุณอยากทำล่ะ ?
    ใครห้ามล่ะ ?
    ใครห้ามไม่ให้คุณเป็นสิ่งที่คุณอยากจะเป็นล่ะ ?

    ...ก็ไม่มีนี่
    มีเหรอ ?
    มีจริงๆเหรอ ?
    หรือคิดขึ้นมาเอง ?
    จับที่ข้อเท้าดู ก็ไม่ทีอะไรล่ามเอาไว้นี่

    อยากเป็น ‘อภิมนุษย์’ เป็นกึ่งมนุษย์กึ่งเทพเป็นพระเจ้าโลดแล่นในสังคม ใช้ชีวิตอย่างมองเกมขาด

    หรืออยากเป็น ‘อภิทาส’ เป็นทาสระบบ เป็นหนูถีบจักร แล้วลืมตาขึ้นมาตอนอายุ 60 พร้อมคำถามว่า

    ‘นี่เราเป็นใคร? เราได้ใช้ชีวิตจริงๆแล้วเหรอ?’

    ก็เลือกเอา

    ไม่มีใครห้าม

    ถ้าให้กลับไปเลือกได้
    ผมก็ยังกลับไปเลือกอ่านหนังสือเล่มนี้
    ...ของแม่ผมอยู่ดี

    #heroathletes
    #ubermensch
    #nietzsche

  • ubermensch 在 Hero Athletes Facebook 的精選貼文

    2020-11-08 12:13:41
    有 393 人按讚

    ‘ข้อจำกัดของมนุษย์อยู่ที่ข้อจำกัดทางความคิด’

    ช่วงมัธยมผมอ่านหนังสือเยอะมาก จุดกำเนิดมาจากคุณแม่ผมชอบสะสมหนังสือเต็มบ้านไปหมด ทำให้ผมติดนิสัยชอบอ่านจากคุณแม่มาเต็มๆ และได้พบหนังสือของเฟรดิช นีทเช่ (Friedrich Nietzsche) นักปรัชญาชาวเยอรมันผู้ที่แนวคิดของเขาสุดโต่งและสุดล้ำลึก จนหนังสือบางเล่มของนีทเช่ถูกห้ามจำหน่ายในหลายๆประเทศเนื่องจากเป็นหนังสืออันตราย และมีอิทธิพลทางความคิดของผู้อ่านเป็นอย่างมาก

    ในบทคัดย่อตอนหนึ่งจากหนังสือ ‘God Is Dead, Thus Spoke Zarathustra’ นีทเช่ได้กล่าวถึงไอเดียและแนวคิดเรื่อง ‘อภิมนุษย์’ ภาษาเยอรมันใช้คำว่า Übermensch หรือแปลอังกฤษง่ายๆคือ Superman หรือ กึ่งมนุษย์กึ่งเทพ ผู้ใช้ชีวิตโลดแล่นอยู่เหนือมนุษย์ ‘ทั่วไป’ ไม่มีอะไร ไม่มีพระเจ้าหรือศาสดาองค์ไหนสามารถสามารถหยุดหรือจำกัดบุคคลเหล่านี้ได้ (ซึ่งสุดท้าย Adolf Hitler ได้นำแนวคิดนี้ไปใช้ในทางไม่ดีนักและเป็นจุดประกายต้นแบบในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว - ถึงได้บอกว่าหนังสือของเขาถูกห้ามจำหน่ายในบางประเทศ!)

    โดยแนวคิดหลักคือ ‘ที่สุดของความเป็นมนุษย์’ ทั้งด้าน ‘สติปัญญา’ และ ‘ร่างกาย’ มันสมองเป็นเลิศ มองเกมขาดมองชีวิตขาดเป็นท่อน ร่างกายแข็งแรงกำยำในทุกๆด้าน ความอ่อนตัว ความอ่อนช้อย ความยืดหยุ่น เสน่ห์ รูปงาม มานะ มุ่งมั่น ขยัน อดทน แน่วแน่ ไม่ย่อท้อ ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ จิตใจดีงามโอบอ้อมอารี แต่ถึงเวลาแล้วต้องเด็ดขาด ดุดัน ในจุดที่ว่าถ้าเงื้อแล้วต้องฟัน ไม่มีผ่อนปรน

    หลังจากอ่านบทคัดย่อและซึมซับความหมายทางภาษาศาสตร์และบริบททางปรัชญาของ ‘อภิมนุษย์’ เข้าไปจนถึงกระดูกดำและสมองส่วนกลาง ผมค่อนข้างโชคดีที่ได้อ่านบทคัดย่อแปลเป็นภาษาอังกฤษที่แปลจากเยอรมันได้มิผิดเพี้ยนจากความเดิมมาก เฉกเช่นอ่านจากลายมือของนีทเช่และสัมผัสได้ถึงแรงกดปากกาผ่านตัวอักษร จึงค่อนข้างเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งมากว่าผมไม่ได้ต้องการเป็นเพียงแค่มนุษย์ ‘ทั่วไป’ แต่จุดของ ‘อภิมนุษย์’ นี้คือสิ่งที่เป็นเป้าหมายของชีวิต คนอื่นๆอาจจะอยากเป็นนักบัญชี นักกฏหมาย ผู้บริหาร แต่ผมกลับอยากเป็น ‘อภิมนุษย์’!!

    ย้อนกลับมาดูรอบๆ สภาพสังคม ระบบการศึกษา ที่ใช้ชีวิตอยู่ ณ ปัจจุบัน กลับสวนทางกับคำว่า ‘อภิมนุษย์’ อย่างสิ้นเชิง จนเกือบจะเป็น ‘อภิทาส’ โดยในที่นี้เป็นทาสของระบบ ทาสของฟันเฟือง ทาสทางความคิด ทาสของสังคม ไม่มีใครมีความแตกต่างหรือมีความโดดเด่นใดๆในสังคม หรือมีความกล้าหาญที่จะแหกระบบออกมาเลย มีน้อยมากและโดนแรงกดดันจากทุกๆทางเสมอ

    ระบบการศึกษาสอนให้เราเป็นทาส มิได้สอนให้คิดหรือมองอะไรในมุมใหม่ๆ คำถาม กขค ลอกการบ้านก็เรียนจบได้ จบออกมาทำงานได้อย่างเดียว คณะเดียว ถ้ามีใครจบออกมาทำงานไม่ตรงสายจะต้องโดนเพิ่อนที่ทำงานตั้งคำถามและล้อเป็นอย่างแรก ‘ทำไมจบมาไม่ตรงสาย?’ เหมือนมันเป็นความผิดมหันต์อันใหญ่หลวง

    ต้องทำงานที่สังคมยกย่องว่ามีเกียรติ ต้องจบตรงสาย ต้องใหญ่โตในบริษัท ถึงจะมีจุดยืนในสังคม ใช้ชีวิตตามแบบ ‘เค้าว่ามา’ ‘เค้าว่ามันดี’ ไร้ซึ่งการวิเคราะห์ ก้มหน้าก้มตาเดินตามรอยเดิม เงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็อายุ 60 กว่า ปลดเกษียณ ร่างกายไร้เรี่ยวแรง พร้อมคำถามชีวิตที่ว่า

    ‘นี่เราเป็นใคร? เราได้ใช้ชีวิตจริงๆแล้วเหรอ?’

    นีทเช่ไม่ได้เป็นแค่นักปราชญ์ แต่เป็นทั้ง นักเขียน เป็นศิลปิน นักโต้วาที นักการกุศล เป็นนักวิทยาศาสตร์ มีความรู้มีวิชาทางการแพทย์ มีความสามารถรอบด้านเหนือจรดใต้

    แต่บ้านเราส่วนใหญ่กลับทำงานอย่างเดียว อาชีพเดียว สร้างข้อจำกัดล่องหนขึ้นมาผูกคอตัวเองอย่างไร้ประโยชน์ หรือเมื่อมีเวลาว่างก็มิได้ขวนขวายกิจกรรมอื่นใด เนื่องจากเหน็ดเหนื่อยจากการเป็นคนในสังคม

    ผู้ที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงนั้น ผมสังเกตุมาหลายครั้งหลายคราวว่าเขาเหล่านั้น มิได้ทำงาน ทำอาชีพเดียว เก่งอย่างเดียว แต่เก่งรอบด้านเก่งทุกด้าน เก่งไปหมด ทำงานเก่ง ร่างกายแข็งแรง ตรงตามแบบ ‘อภิมนุษย์’ ที่ผมเข้าใจ

    แต่บุคคลเหล่านี้ที่ได้ชื่อว่าเป็นอภิมนุษย์ มิใช่เป็นกันง่ายๆหรือเป็นได้ทุกคน เพราะต้องผ่านแรงกดดันรอบข้าง แรงกดดันจากครอบครัว จากสังคม บททดสอบกายและใจอย่างมาก สิ่งหนึ่งที่อภิมนุษย์เหล่านี้มีเหมือนกันคือ ‘วิสัยทัศน์และความเชื่อมั่นในตนเอง’ ที่สูงจนไม่มีอะไรมาหยุดได้

    ผมต้องการจะสืบต่อไอเดียนี้และเผยแพร่ให้ได้มากที่สุดเพราะสิ่งที่ผมได้ซึมซับรับรู้มานั้นมันช่างมีพลังและมีประโยชน์มากมายเหลือเกิน

    ปัจจุบันผมเลิกจำกัดตัวเองว่ามีอาชีพอะไรไปแล้ว แต่ทำให้ได้ทุกอย่าง มีความรู้ให้ได้ทุกแบบ ออกกำลังกายฝึกให้ได้ทุกกีฬา เก่งให้ได้ทุกทักษะ ความแข็งแรง ความยืดหยุ่น การทรงตัว ความรวดเร็ว หน้าที่การงานทำทุกขั้นตอนให้หมดในองค์กร ตั้งแต่ล้างจานยันลงทุน ไม่รู้อะไรให้เรียนรู้ ไม่ปฏิเสธไปก่อน เรียนรู้และใช้ชีวิตให้ถึงที่สุด เก่งให้รอบด้าน เพราะสิ่งที่ผมยังเชื่ออยู่ทุกวันก็คือ

    ‘ข้อจำกัดของมนุษย์อยู่ที่ข้อจำกัดทางความคิด’

    คุณจำกัดอะไรอยู่ ?
    ใครจำกัดอะไรคุณอยู่ ?
    ใครบอกคุณไม่ให้ทำสิ่งที่คุณอยากทำล่ะ ?
    ใครห้ามล่ะ ?
    ใครห้ามไม่ให้คุณเป็นสิ่งที่คุณอยากจะเป็นล่ะ ?

    ...ก็ไม่มีนี่
    มีเหรอ ?
    มีจริงๆเหรอ ?
    หรือคิดขึ้นมาเอง ?
    จับที่ข้อเท้าดู ก็ไม่ทีอะไรล่ามเอาไว้นี่

    อยากเป็น ‘อภิมนุษย์’ เป็นกึ่งมนุษย์กึ่งเทพเป็นพระเจ้าโลดแล่นในสังคม ใช้ชีวิตอย่างมองเกมขาด

    หรืออยากเป็น ‘อภิทาส’ เป็นทาสระบบ เป็นหนูถีบจักร แล้วลืมตาขึ้นมาตอนอายุ 60 พร้อมคำถามว่า

    ‘นี่เราเป็นใคร? เราได้ใช้ชีวิตจริงๆแล้วเหรอ?’

    ก็เลือกเอา

    ไม่มีใครห้าม

    ถ้าให้กลับไปเลือกได้
    ผมก็ยังกลับไปเลือกอ่านหนังสือเล่มนี้
    ...ของแม่ผมอยู่ดี

    #heroathletes
    #ubermensch
    #nietzsche

  • ubermensch 在 Hero Athletes Facebook 的最佳解答

    2020-07-26 09:14:23
    有 117 人按讚


    ‘ข้อจำกัดของมนุษย์อยู่ที่ข้อจำกัดทางความคิด’

    ช่วงมัธยมผมอ่านหนังสือเยอะมาก จุดกำเนิดมาจากคุณแม่ผมชอบสะสมหนังสือเต็มบ้านไปหมด ทำให้ผมติดนิสัยชอบอ่านจากคุณแม่มาเต็มๆ และได้พบหนังสือของเฟรดิช นีทเช่ (Friedrich Nietzsche) นักปรัชญาชาวเยอรมันผู้ที่แนวคิดของเขาสุดโต่งและสุดล้ำลึก จนหนังสือบางเล่มของนีทเช่ถูกห้ามจำหน่ายในหลายๆประเทศเนื่องจากเป็นหนังสืออันตราย และมีอิทธิพลทางความคิดของผู้อ่านเป็นอย่างมาก

    ในบทคัดย่อตอนหนึ่งจากหนังสือ ‘God Is Dead, Thus Spoke Zarathustra’ นีทเช่ได้กล่าวถึงไอเดียและแนวคิดเรื่อง ‘อภิมนุษย์’

    ภาษาเยอรมันใช้คำว่า Übermensch หรือแปลอังกฤษง่ายๆคือ Superman หรือ กึ่งมนุษย์กึ่งเทพ ผู้ใช้ชีวิตโลดแล่นอยู่เหนือมนุษย์ ‘ทั่วไป’ ไม่มีอะไร ไม่มีพระเจ้าหรือศาสดาองค์ไหนสามารถสามารถหยุดหรือจำกัดบุคคลเหล่านี้ได้ (ซึ่งสุดท้าย Adolf Hitler ได้นำแนวคิดนี้ไปใช้ในทางไม่ดีนักและเป็นจุดประกายต้นแบบในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว - ถึงได้บอกว่าหนังสือของเขาถูกห้ามจำหน่ายในบางประเทศ!)

    โดยแนวคิดหลักคือ ‘ที่สุดของความเป็นมนุษย์’ ทั้งด้าน ‘สติปัญญา’ และ ‘ร่างกาย’ มันสมองเป็นเลิศ มองเกมขาดมองชีวิตขาดเป็นท่อน ร่างกายแข็งแรงกำยำในทุกๆด้าน ความอ่อนตัว ความอ่อนช้อย ความยืดหยุ่น เสน่ห์ รูปงาม มานะ มุ่งมั่น ขยัน อดทน แน่วแน่ ไม่ย่อท้อ ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ จิตใจดีงามโอบอ้อมอารี แต่ถึงเวลาแล้วต้องเด็ดขาด ดุดัน ในจุดที่ว่าถ้าเงื้อแล้วต้องฟัน ไม่มีผ่อนปรน

    หลังจากอ่านบทคัดย่อและซึมซับความหมายทางภาษาศาสตร์และบริบททางปรัชญาของ ‘อภิมนุษย์’ เข้าไปจนถึงกระดูกดำและสมองส่วนกลาง ผมค่อนข้างโชคดีที่ได้อ่านบทคัดย่อแปลเป็นภาษาอังกฤษที่แปลจากเยอรมันได้มิผิดเพี้ยนจากความเดิมมาก เฉกเช่นอ่านจากลายมือของนีทเช่และสัมผัสได้ถึงแรงกดปากกาผ่านตัวอักษร จึงค่อนข้างเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งมากว่าผมไม่ได้ต้องการเป็นเพียงแค่มนุษย์ ‘ทั่วไป’ แต่จุดของ ‘อภิมนุษย์’ นี้คือสิ่งที่เป็นเป้าหมายของชีวิต

    คนอื่นๆอาจจะอยากเป็นนักบัญชี นักกฏหมาย ผู้บริหาร แต่ผมกลับอยากเป็น ‘อภิมนุษย์’!!

    ย้อนกลับมาดูรอบๆ สภาพสังคม ระบบการศึกษา ที่ใช้ชีวิตอยู่ ณ ปัจจุบัน กลับสวนทางกับคำว่า ‘อภิมนุษย์’ อย่างสิ้นเชิง จนเกือบจะเป็น ‘อภิทาส’

    โดยในที่นี้เป็นทาสของระบบ ทาสของฟันเฟือง ทาสทางความคิด ทาสของสังคม ไม่มีใครมีความแตกต่างหรือมีความโดดเด่นใดๆในสังคม หรือมีความกล้าหาญที่จะแหกระบบออกมาเลย มีน้อยมากและโดนแรงกดดันจากทุกๆทางเสมอ

    ระบบการศึกษาสอนให้เราเป็นทาส มิได้สอนให้คิดหรือมองอะไรในมุมใหม่ๆ คำถาม กขค ลอกการบ้านก็เรียนจบได้ จบออกมาทำงานได้อย่างเดียว คณะเดียว ถ้ามีใครจบออกมาทำงานไม่ตรงสายจะต้องโดนเพื่อนที่ทำงานตั้งคำถามและล้อเป็นอย่างแรก

    ‘ทำไมจบมาไม่ตรงสาย?’ เหมือนมันเป็นความผิดมหันต์อันใหญ่หลวง

    ต้องทำงานที่สังคมยกย่องว่ามีเกียรติ ต้องจบตรงสาย ต้องใหญ่โตในบริษัท ถึงจะมีจุดยืนในสังคม ใช้ชีวิตตามแบบ ‘เค้าว่ามา’ ‘เค้าว่ามันดี’ ไร้ซึ่งการวิเคราะห์ ก้มหน้าก้มตาเดินตามรอยเดิม เงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็อายุ 60 กว่า ปลดเกษียณ ร่างกายไร้เรี่ยวแรง พร้อมคำถามชีวิตที่ว่า

    ‘นี่เราเป็นใคร? เราได้ใช้ชีวิตจริงๆแล้วเหรอ?’

    นีทเช่ไม่ได้เป็นแค่นักปราชญ์ แต่เป็นทั้ง นักเขียน เป็นศิลปิน นักโต้วาที นักการกุศล เป็นนักวิทยาศาสตร์ มีความรู้มีวิชาทางการแพทย์ มีความสามารถรอบด้านเหนือจรดใต้

    แต่บ้านเราส่วนใหญ่กลับทำงานอย่างเดียว อาชีพเดียว สร้างข้อจำกัดล่องหนขึ้นมาผูกคอตัวเองอย่างไร้ประโยชน์ หรือเมื่อมีเวลาว่างก็มิได้ขวนขวายกิจกรรมอื่นใด เนื่องจากเหน็ดเหนื่อยจากการเป็นคนในสังคม

    ผู้ที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงนั้น ผมสังเกตุมาหลายครั้งหลายคราวว่าเขาเหล่านั้น มิได้ทำงาน ทำอาชีพเดียว เก่งอย่างเดียว แต่เก่งรอบด้านเก่งทุกด้าน เก่งไปหมด ทำงานเก่ง ร่างกายแข็งแรง ตรงตามแบบ ‘อภิมนุษย์’ ที่ผมเข้าใจ

    แต่บุคคลเหล่านี้ที่ได้ชื่อว่าเป็นอภิมนุษย์ มิใช่เป็นกันง่ายๆหรือเป็นได้ทุกคน เพราะต้องผ่านแรงกดดันรอบข้าง แรงกดดันจากครอบครัว จากสังคม บททดสอบกายและใจอย่างมาก สิ่งหนึ่งที่อภิมนุษย์เหล่านี้มีเหมือนกันคือ ‘วิสัยทัศน์และความเชื่อมั่นในตนเอง’ ที่สูงจนไม่มีอะไรมาหยุดได้

    ผมต้องการจะสืบต่อไอเดียนี้และเผยแพร่ให้ได้มากที่สุดเพราะสิ่งที่ผมได้ซึมซับรับรู้มานั้นมันช่างมีพลังและมีประโยชน์มากมายเหลือเกิน

    ปัจจุบันผมเลิกจำกัดตัวเองว่ามีอาชีพอะไรไปแล้ว แต่ทำให้ได้ทุกอย่าง มีความรู้ให้ได้ทุกแบบ ออกกำลังกายฝึกให้ได้ทุกกีฬา เก่งให้ได้ทุกทักษะ ความแข็งแรง ความยืดหยุ่น การทรงตัว ความรวดเร็ว หน้าที่การงานทำทุกขั้นตอนให้หมดในองค์กร ตั้งแต่ล้างจานยันลงทุน ไม่รู้อะไรให้เรียนรู้ ไม่ปฏิเสธไปก่อน เรียนรู้และใช้ชีวิตให้ถึงที่สุด เก่งให้รอบด้าน เพราะสิ่งที่ผมยังเชื่ออยู่ทุกวันก็คือ

    ‘ข้อจำกัดของมนุษย์อยู่ที่ข้อจำกัดทางความคิด’

    คุณจำกัดอะไรอยู่ ?
    ใครจำกัดอะไรคุณอยู่ ?
    ใครบอกคุณไม่ให้ทำสิ่งที่คุณอยากทำล่ะ ?
    ใครห้ามล่ะ ?
    ใครห้ามไม่ให้คุณเป็นสิ่งที่คุณอยากจะเป็นล่ะ ?

    ...ก็ไม่มีนี่
    มีเหรอ ?
    มีจริงๆเหรอ ?
    หรือคิดขึ้นมาเอง ?
    จับที่ข้อเท้าดู ก็ไม่ทีอะไรล่ามเอาไว้นี่

    อยากเป็น ‘อภิมนุษย์’ เป็นกึ่งมนุษย์กึ่งเทพเป็นพระเจ้าโลดแล่นในสังคม ใช้ชีวิตอย่างมองเกมขาด

    หรืออยากเป็น ‘อภิทาส’ เป็นทาสระบบ เป็นหนูถีบจักร แล้วลืมตาขึ้นมาตอนอายุ 60 พร้อมคำถามว่า

    ‘นี่เราเป็นใคร? เราได้ใช้ชีวิตจริงๆแล้วเหรอ?’

    ก็เลือกเอา

    ไม่มีใครห้าม

    ถ้าให้กลับไปเลือกได้
    ผมก็ยังกลับไปเลือกอ่านหนังสือเล่มนี้
    ...ของแม่ผมอยู่ดี

    #heroathletes
    #ubermensch
    #nietzsche