[爆卦]Regus 新竹是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇Regus 新竹鄉民發文沒有被收入到精華區:在Regus 新竹這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 regus產品中有18篇Facebook貼文,粉絲數超過178萬的網紅ลงทุนแมน,也在其Facebook貼文中提到, ทำไม KTBSTMR REIT คือช่องทางลงทุนอสังหาฯ ที่ดี ในช่วงเวลานี้ ถ้าพูดถึงการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในช่วงเวลานี้ ต้องยอมรับว่า หลายคนเลือกที่จะมองข้ามไป เพ...

 同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過105萬的網紅玖壹壹,也在其Youtube影片中提到,詞:廖建至/洪瑜鴻/陳皓宇 曲:陳皓宇 編曲:陳皓宇 配唱製作人:葛子毅/陳皓宇 製作人: 陳皓宇/葛子毅 混音師: 葛子毅 ( Mimicker Studio ) 錄音師:葛子毅 ( Mimicker Studio ) 工作人員名單 導演/剪輯 周法薷 副導 蔡維陽 ...

regus 在 Lynn D Instagram 的最佳解答

2020-04-23 08:16:43

Most of you may already know this, today is my last day in Under Armour Malaysia. And yes this is not a joke. It is my last day (so let that sink in.....

  • regus 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文

    2021-09-28 13:00:00
    有 1,976 人按讚

    ทำไม KTBSTMR REIT คือช่องทางลงทุนอสังหาฯ ที่ดี ในช่วงเวลานี้

    ถ้าพูดถึงการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในช่วงเวลานี้
    ต้องยอมรับว่า หลายคนเลือกที่จะมองข้ามไป
    เพราะกลัวขาดทุน กลัวความเสี่ยง และกลัวว่าลงทุนแล้วจะไม่เติบโต

    รู้หรือไม่ว่า.. ความกลัวเหล่านี้จะหายไป
    หากเราเลือกลงทุนในกอง REIT ที่ดี
    มีการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง
    และยังมีแผนการเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินกอง REIT
    จาก 3,015 ล้านบาท ไปสู่ 20,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปีข้างหน้า
    แล้วช่วงนี้ยังถือเป็นจังหวะที่ดีที่จะลงทุนกอง REIT เป็นส่วนหนึ่งของพอร์ต เพื่อกระจายความเสี่ยงในการลงทุนอีกด้วย

    กอง REIT ที่ว่านี้ คืออะไร ?
    แล้วเราจะลงทุนในกอง REIT นี้ได้อย่างไร ?
    ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง..

    อย่างที่ทราบกันว่า..
    การรักษาเงินต้น การกระจายความเสี่ยง และการสร้างการเติบโต
    คือ หลักการพื้นฐานในโลกการลงทุน
    แม้จะฟังดูง่าย แต่กลับยากเมื่อลงมือปฏิบัติจริง

    หลายคนจึงเลือกลงทุนทรัพย์สินที่ตนเองสนใจ
    ในรูปแบบที่จะมีผู้เชี่ยวชาญในทรัพย์สินนั้น ๆ คอยดูแลบริหารการลงทุนให้
    อย่างเช่นการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ผ่านรูปแบบของกอง REIT

    REIT ย่อมาจาก Real Estate Investment Trust
    หรือก็คือ กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบต่าง ๆ
    เช่น สิทธิการเช่าศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน โกดังคลังสินค้า

    หนึ่งในกอง REIT ที่น่าสนใจในขณะนี้..
    ก็คือ กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เคทีบีเอสที มิกซ์
    หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า KTBSTMR REIT

    แล้ว KTBSTMR REIT น่าสนใจอย่างไร ?

    ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เคทีบีเอสที มิกซ์
    หรือ KTBSTMR REIT เป็นกอง REIT อิสระกองแรกในประเทศไทย
    ที่มีการลงทุนในสิทธิการเช่าระยะยาว 30 ปี ใน 3 ประเภทอสังหาริมทรัพย์
    แถมยังมีการจดจำนองหลักประกันซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง นั่นคือ

    1. ประเภทคลังสินค้า/โรงงาน 64.53% ของสินทรัพย์รวม

    มีพื้นที่ให้เช่ารวมประมาณ 121,619.67 ตารางเมตร อัตราการเช่าเฉลี่ยของทั้ง 3 โครงการอยู่ที่ 85%
    ประกอบด้วย

    -อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 1 โครงการ คือ Rich Asset
    ที่มีอัตราการเช่า 90% คือมีผู้เช่าแล้ว 38 จากทั้งหมด 41 คลังสินค้า/โรงงาน
    พร้อมรองรับผู้เช่า SME ขนาดเล็ก-กลาง ที่ต้องการเก็บสินค้า
    และผู้ผลิตขนาดเล็ก ตอบรับเทรนด์ธุรกิจ E-commerce ในอนาคต

    -อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ 1 โครงการ
    คือ เอสที บางบ่อ ที่มีอัตราการเช่า 63% คือมีผู้เช่าแล้ว 6 จากทั้งหมด 9 คลังสินค้า/โรงงาน
    พร้อมรองรับกลุ่มผู้เช่าขนาดกลาง กลุ่มผู้ผลิต และส่งออกอะไหล่ขนาดกลาง ซึ่งในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2564 มีผู้เช่าหมดสัญญา จากนั้นมีผู้เช่าเข้ามาเพิ่มเติม ทำให้โครงการ ST Bang Bo มีอัตราการเช่า ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2564 ขึ้นมาอยู่ที่ 80%

    -อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 1 โครงการ
    คือ เอสที บางปะอิน ที่มีอัตราการเช่า 100% จากผู้เช่ารายใหญ่รายเดียว
    คือ LF Logistics ตัวแทนขนส่งสินค้าตามจุดสาขาทั่วประเทศ
    ให้กับธุรกิจหลากหลายประเภท เช่น ธุรกิจอาหาร เสื้อผ้า เครื่องดื่ม ให้กับบริษัทชั้นนำ
    และมีการจดทะเบียนสิทธิการเช่าถึงธันวาคม 2573 (สัญญาเช่าเหลืออีกประมาณ 10 ปี)

    ที่น่าสนใจคือ ทั้ง 3 โครงการ ล้วนเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เหมาะแก่การเป็นศูนย์การกระจายสินค้าที่ดี

    นอกจากนี้ ยังตั้งอยู่บนทำเลที่จะมีเส้นทางสัญจรใหม่ ๆ เกิดขึ้น อาทิ
    -ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองถนนมอเตอร์เวย์ หมายเลข 6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา ได้เปิดให้ประชาชนทดลองใช้เดินทาง
    -ถนนวงแหวนรอบนอก ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการ

    ทั้งหมดนี้ หากมีการเปิดใช้เต็มรูปแบบ ย่อมส่งเสริมให้การคมนาคมของโครงการคลังสินค้า/โรงงานทั้งหมดของ KTBSTMR REIT สะดวกสบายมากขึ้นได้

    2. ประเภทอาคารสำนักงาน 13.85% ของสินทรัพย์รวม

    คือ อาคาร Summer Hub อยู่ติดกับ BTS สถานีพระโขนง
    รองรับกลุ่มธุรกิจไทยและต่างชาติ ขนาดเล็ก-กลาง
    ด้วยพื้นที่ให้เช่ารวมประมาณ 5,147 ตารางเมตร
    และมีอัตราการเช่า 93.3% โดยมีจำนวนผู้เช่า 15 ยูนิตจากทั้งหมด 17 ยูนิต

    ที่น่าสนใจคือ ย่านพระโขนง ถือว่าเป็น New CBD ที่ค่อย ๆ ได้รับการพัฒนา
    และ Summer Hub ยังเป็นโครงการที่มีคู่แข่งในอนาคตต่ำ
    เพราะเป็นอาคารสำนักงานใหม่แห่งเดียว (อายุเพียง 2 ปี) ที่อยู่ติดกับ BTS สถานีพระโขนง

    3. ประเภทอาคารศูนย์การค้า 21.62% ของสินทรัพย์รวม

    คือ อาคาร Summer Hill อยู่ติดกับ BTS สถานีพระโขนง
    แวดล้อมไปด้วยคอนโดมิเนียม 14 โครงการ ในระยะ 1 กิโลเมตร
    พร้อมรองรับกลุ่มผู้อยู่อาศัยที่มีศักยภาพการจับจ่ายระดับกลาง-บน ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
    ด้วยพื้นที่ให้เช่ารวมประมาณ 5,138 ตารางเมตร
    และมีอัตราการเช่า 93.9% โดยมีจำนวนผู้เช่า 16 ยูนิตจากทั้งหมด 18 ยูนิต

    โดยขณะนี้ Summer Hill มีผู้เช่ารายใหญ่ทั้งหมด 3 แบรนด์ ประกอบด้วย
    -Regus ในนามสเปซเซส ซัมเมอร์ ฮิลล์ ให้บริการพื้นที่ทำงานแบบ Co-working Space
    พื้นที่เช่า 37.35% ของพื้นที่เช่าทั้งหมด
    -Fitness24Seven ฟิตเนสเปิด 24 ชั่วโมง พื้นที่เช่า 18.44% ของพื้นที่เช่าทั้งหมด
    -Tops Daily พื้นที่เช่า 5.06% ของพื้นที่เช่าทั้งหมด

    ที่น่าสนใจคือ โครงการ Summer Hill มียูนิตไม่มาก
    ทำให้หาผู้เช่าเต็มพื้นที่ได้ไม่ยาก จึงมีโอกาสรับรายได้จากการเช่าแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยนั่นเอง

    จะเห็นได้ว่า KTBSTMR REIT มีการกระจายความเสี่ยงที่ดี
    ลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงรายได้จากธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งได้
    ทั้งในแง่ของประเภทอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มผู้เช่า และทำเลที่ตั้ง
    จึงช่วยให้มีโอกาส “จ่ายเงินปันผล” อย่างสม่ำเสมอได้

    ที่น่าสนใจคือ KTBSTMR REIT ยังมีการรับประกันรายได้ปีแรก จากเจ้าของทรัพย์สินที่มีความน่าเชื่อถือ
    นั่นคือ

    -บริษัท เอสที พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ โลจิสติกส์ จำกัด (STPL) ทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และให้บริการเกี่ยวกับงานโลจิสติกส์ เป็นบริษัทในกลุ่ม STPI และ STEC

    -กลุ่มบริษัท ริช แอสเซ็ท ผู้มีประสบการณ์ด้านการดูแลสินทรัพย์ประเภทโรงงานและคลังสินค้าในพื้นที่บางพลี มากว่า 20 ปี และได้พัฒนาโครงการมาแล้วกว่า 200,000 ตารางเมตร รวม 81 แห่ง
    และยังเป็นผู้บริหารทรัพย์สินในส่วนของตนให้กับกองทรัสต์อีกด้วย
    จึงมั่นใจได้ว่า การบริหารจัดการทรัพย์สินจะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

    จุดนี้เองที่ทำให้ KTBSTMR REIT คาดว่าจะสามารถจ่ายอัตราผลตอบแทนแก่นักลงทุนได้ 7.02% ในปีแรก
    ขณะที่ค่าเฉลี่ยผลตอบแทนตลาด อยู่ที่ 5.47%

    นอกจาก “การกระจายความเสี่ยงที่ดี” และ “การรับประกันรายได้ปีแรก”
    จะทำให้ KTBSTMR REIT มีอัตราผลตอบแทนที่น่าสนใจแล้ว

    รู้หรือไม่ว่า KTBSTMR REIT ยังเรียกจดจำนองหลักประกันทรัพย์สิน
    ซึ่งมีมูลค่ารวมสูงกว่ามูลค่าสิทธิการเช่า 30 ปี อีกด้วย

    พูดง่าย ๆ ว่า หากทรัพย์สินข้างต้น ผิดสัญญาที่ให้ไว้กับกอง REIT ในระยะเวลาใดเวลาหนึ่งระหว่างอายุสัญญาเช่า และส่งผลให้ REIT ไม่สามารถจัดหาประโยชน์บนทรัพย์สินที่เช่าได้ครบ 30 ปี

    เจ้าของทรัพย์สินจะต้องคืนเงินค่าเช่าตามมูลค่าสิทธิการเช่าคงเหลือ ณ ขณะนั้น
    ซึ่งจะคำนวณตามวิธีเส้นตรง ให้แก่กอง REIT
    หากไม่ชำระ กอง REIT สามารถบังคับหลักประกัน และบังคับขายสินทรัพย์
    ซึ่งมูลค่าของหลักประกันจะครอบคลุมมูลค่าสิทธิการเช่า (คงเหลือ) ตลอดอายุการลงทุน

    จึงสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้ว่า..
    การลงทุน KTBSTMR REIT ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์เลวร้ายใดก็ตาม
    นักลงทุนจะได้รับ “เงินค่าเช่าตามมูลค่าสิทธิการเช่าคงเหลือ” อย่างแน่นอน

    แล้วการเติบโตของ KTBSTMR REIT ในอนาคตเป็นอย่างไร ?

    สำหรับทรัพย์สินประเภทคลังสินค้าและโรงงาน
    ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    ปกติแล้วจะมีการปรับขึ้นค่าเช่าเฉลี่ย 5-10% ต่อรอบสัญญาทุก ๆ 3 ปี
    ทำให้ผลตอบแทนของกอง REIT มีแนวโน้มสูงขึ้นในอนาคต

    ขณะเดียวกัน ทรัพย์สินประเภทอาคารสำนักงานและศูนย์การค้า
    ที่ตั้งอยู่ติดกับ BTS สถานีพระโขนง ก็ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก
    จากการขยายตัวของความเจริญจากสุขุมวิท
    และแปลงที่ดินที่มีจำกัด ยากจะขึ้นโครงการใหม่ ๆ
    ประกอบกับราคาค่าเช่าที่ต่ำกว่าราคาตลาด ทำให้มีโอกาสที่ค่าเช่าในอนาคตจะปรับตัวสูงขึ้นได้

    ที่น่าสนใจคือ KTBSTMR REIT ยังมีอิสระในการเลือกลงทุนทรัพย์สินใหม่ ๆ
    เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคตได้ ไม่จำกัดว่าต้องเลือกทรัพย์สินจากเจ้าของเจ้าใดเจ้าหนึ่ง

    ซึ่งภายใน 5 ปีนับจากนี้..
    KTBSTMR REIT มีแผนจะสร้างการเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินกอง REIT
    จาก 3,015 ล้านบาท ไปสู่ 20,000 ล้านบาท
    โดยมีการศึกษาโครงการต่าง ๆ มากกว่า 40 โครงการ
    เพื่อคัดสรรทรัพย์สินที่เหมาะสมที่สุด มาอยู่ในกอง REIT อีกด้วย

    มาถึงตรงนี้ คงเห็นแล้วว่า..

    ภายใต้ช่วงเวลาวิกฤติ ก็สามารถเป็นโอกาสในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ดีได้
    หากการลงทุนอสังหาริมทรัพย์นั้น.. ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี

    เช่นเดียวกัน KTBSTMR REIT ที่ถูกออกแบบเพื่อรองรับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์
    ที่สร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุน ครบทั้ง 3 ประการ นั่นคือ

    -มีหลักประกันเป็นการจดจำนอง
    -ลดความเสี่ยง สร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอ ด้วยการกระจายการลงทุนอสังหาริมทรัพย์หลากหลายรูปแบบ
    -เป็นการลงทุนที่มีการเติบโตในอนาคต

    KTBSTMR REIT จึงกลายเป็นหนึ่งโอกาสลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ดี ภายใต้วิกฤติโควิด 19 นี้ นั่นเอง..

    สำหรับใครที่สนใจลงทุนในกอง KTBSTMR REIT
    สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ktbstmr.com หรือ www.ktbstreit.co.th

    โดยจะเปิดให้จองซื้อในวันที่ 19-29 ตุลาคม 2564 นี้ สามารถติดต่อจองซื้อได้ที่ 02-351-1800 กด 5 หรือสามารถลงทะเบียนจองซื้อ KTBSTMR ได้ที่ http://bit.ly/3bSk1oy
    ที่สำคัญ เปิดพอร์ตกับบริษัทหลักทรัพย์ใดก็สามารถจองซื้อได้ แต่หากยังไม่มีพอร์ตสามารถเปิดบัญชีออนไลน์ ยืนยันตัวตนด้วย NDID กับ KTBST SEC ได้เลย

    คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนก่อนการตัดสินใจลงทุน
    ที่มา: หนังสือชี้ชวนเสนอขายหน่วยทรัสต์ เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เคทีบีเอสที มิกซ์ ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2564

  • regus 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文

    2021-09-15 11:00:49
    有 1,269 人按讚

    ทำไมบริษัทต่างธุรกิจ จึงหันมาลงทุน ในอสังหาริมทรัพย์ /โดย ลงทุนแมน
    หลายคนคงคุ้นเคยกับชื่อของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้
    แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, แสนสิริ, ศุภาลัย หรือพฤกษา ซึ่งเป็นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ อันดับต้น ๆ ของไทย
    ที่มีโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยว อยู่ทั่วประเทศ

    แต่กลับมีบางบริษัทต่างสาขาธุรกิจ ที่เริ่มสนใจเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
    ก้าวเข้ามาเป็นหน้าใหม่ ร่วมแข่งขันกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์
    ซึ่งแม้ว่าบริษัทเหล่านั้นจะประสบความสำเร็จ และมีกำไรเติบโตจากธุรกิจของตนอยู่แล้ว

    จึงทำให้เกิดคำถามที่ว่า..
    ทำไม ? บริษัทที่เชี่ยวชาญในสายธุรกิจเดิมเหล่านี้ เริ่มหันมาลงทุนเพิ่มในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
    และมีจำนวนไม่น้อยที่ประสบความสำเร็จไม่แพ้บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อีกด้วย
    ลงทุนแมนจะวิเคราะห์ให้ฟัง
    ╔═══════════╗
    Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
    ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
    แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
    Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    หากลองสังเกตในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
    จะเริ่มเห็นโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ให้เช่า หรือบริหารโครงการหลายแห่ง
    ที่มีเจ้าของเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในสายธุรกิจอื่น เพิ่มจำนวนมากขึ้น

    ตัวอย่าง สิงห์ เอสเตท บริษัทในเครือของบุญรอดบริวเวอรี่
    ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นอันดับต้น ๆ ของไทย
    เจ้าของแบรนด์เครื่องดื่มที่คนไทยรู้จักดีอย่าง สิงห์และลีโอ

    ซึ่งจากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
    เครือบุญรอดฯ นับว่ามีเม็ดเงินจากธุรกิจแอลกอฮอล์มากมาย

    บริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด
    - ปี 2561 มีรายได้รวม 106,209 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิ 1,762 ล้านบาท
    - ปี 2562 มีรายได้รวม 114,124 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิ 2,187 ล้านบาท
    - ปี 2563 มีรายได้รวม 107,370 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิ 2,468 ล้านบาท

    แต่เครือบุญรอดฯ ยังเลือกที่จะต่อยอดธุรกิจในด้านอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น
    โดยมองว่า การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ จะเปิดโอกาสที่มาของรายได้จากทรัพย์สิน Passive Income ตัวอย่างเช่น รายได้ที่เป็น ค่าเช่า ต่างจากรายได้ของธุรกิจหลักที่เป็นรายได้จากการขายสินค้าแบบ Active Income

    แต่เดิมเครือบุญรอดฯ เคยลงทุนในหลายโครงการร่วมกับบริษัทผู้พัฒนาอื่น ๆ
    ก่อนจะควบรวมกิจการกับ “รสา พร็อพเพอร์ตี้” ที่มีผลงานเป็นโครงการที่อยู่อาศัย สำนักงานเช่า และโรงแรมรีสอร์ต และเปลี่ยนชื่อมาเป็น “สิงห์ เอสเตท” เข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มตัว

    โดยบริษัทเคยชนะประมูลการเช่าที่ดินระยะเวลา 50 ปี บริเวณหัวมุมถนนอโศกมนตรีและเพชรบุรีตัดใหม่
    จึงพัฒนาโครงการสิงห์ คอมเพล็กซ์ ที่มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 120,000 ตารางเมตร
    ซึ่งแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2561 กลายมาเป็น Mixed-Use โครงการแรกของบริษัท

    นอกจากนี้ ยังเปิดตัวแบรนด์คอนโดมิเนียม The ESSE และ The Extro
    และยังมีโครงการ S Oasis สำนักงานเช่าบนถนนวิภาวดีรังสิต คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2565
    ยังไม่นับรวมการลงทุนในกลุ่มโรงแรม และอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศอีกมากมาย

    อีกบริษัทที่มีมุมมองในการขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์
    ก็คือ AIA ซึ่งเป็นที่รู้จักในสายธุรกิจประกันชีวิตในไทยกว่า 83 ปี
    โดยเลือกที่จะพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบสำนักงานปล่อยเช่า บนทำเลศักยภาพต่าง ๆ

    นอกจากจะได้ครอบครองแปลงที่ดินบนทำเลศักยภาพแล้ว
    ก็ยังจะได้รับผลตอบแทนในรูปของค่าเช่า ซึ่งได้พัฒนาอาคารสำนักงานเช่าไปแล้ว 2 โครงการ คือ

    - อาคาร AIA Capital Center บนถนนรัชดาภิเษก แล้วเสร็จปี 2557
    เป็นอาคารสำนักงานเกรดเอ ที่มีอัตราค่าเช่าเฉลี่ย 1,000 บาทต่อตารางเมตร
    และยังมีกลุ่ม Regus เข้าไปทำธุรกิจพื้นที่เช่า Co-Working Space อีกด้วย

    - อาคาร AIA Sathorn Tower บนถนนสาทรใต้ แล้วเสร็จปี 2558
    เป็นอาคารสำนักงานเกรดเอ ที่มีอัตราค่าเช่าเฉลี่ย 1,000 บาทต่อตารางเมตร

    และกำลังจะมีโครงการแห่งที่ 3 คือ อาคาร AIA East Gateway
    ที่เรียกได้ว่าเป็น อาคารสำนักงานพรีเมียมเกรดเอแห่งแรก บนถนนบางนา-ตราด
    ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2565

    นอกจากธุรกิจอื่น ๆ จะเข้าสู่วงการอสังหาริมทรัพย์
    ในรูปแบบของการลงทุนพัฒนา เพื่อเป็นเจ้าของโครงการเองแล้ว
    เรายังพบในลักษณะของการถือครองหุ้น หรือเข้าไปร่วมบริหารองค์กร อีกด้วย

    ตัวอย่าง บริษัท เคพีเอ็น แลนด์ สายธุรกิจย่อยในด้านอสังหาริมทรัพย์
    ในเครือของเคพีเอ็น กรุ๊ป ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับสยามกลการ และเครือสยามมอเตอร์
    ซึ่งโดดเด่นในสายธุรกิจรถจักรยานยนต์และเครื่องดนตรี ร่วมกับแบรนด์ Yamaha

    เดิมที เคพีเอ็น แลนด์ เคยมีผลงานโครงการคอนโดมิเนียมมาแล้ว 3 โครงการ ได้แก่
    - แบรนด์ The Diplomat จำนวน 2 โครงการ
    - แบรนด์ The Capital จำนวน 1 โครงการ

    จากนั้นจึงเข้ามามีส่วนร่วมในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อว่า ไรมอน แลนด์
    โดยปัจจุบัน เคพีเอ็น แลนด์ คือผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ที่มีสัดส่วน 23.97%
    ขณะเดียวกันนั้น นายกรณ์ ณรงค์เดช จาก KPN ยังเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (CEO) ของไรมอน แลนด์ อีกด้วย

    มาถึงตรงนี้ เราจะเริ่มเห็นได้ว่า..
    หลายบริษัทที่เริ่มต้นธุรกิจในด้านอื่น ๆ และประสบความสำเร็จมาแล้วถึงจุดหนึ่ง
    จะเริ่มก้าวเข้ามาร่วมแข่งขัน หรือร่วมลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

    ถ้าถามถึงเหตุผลว่า ทำไมบริษัทเหล่านี้ จึงหันมาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ก็คงจะมีหลายเหตุผล เช่น

    1. ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีขนาดตลาดที่ใหญ่เป็นหลักล้านล้านบาท เพราะยุ่งเกี่ยวกับชีวิตของคนทุกคนในเรื่อง ที่อยู่อาศัย การทำงาน และการใช้ชีวิต

    เมื่อธุรกิจมีกระแสเงินสดมาจากธุรกิจหลัก ก็สามารถนำเม็ดเงินเหล่านี้ไปลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีความต้องการมหาศาลมาดูดซับได้ ตัวอย่างเช่น การสร้างหนึ่งตึกในสมัยนี้ก็มีมูลค่าโครงการหลักพันล้านบาทแล้ว

    2. ตลาดอสังหาริมทรัพย์มี Barriers to Entry น้อย ผู้เล่นเดิมจะไม่ได้เปรียบผู้เล่นหน้าใหม่เหมือนอุตสาหกรรมอื่น เพราะผู้ลงทุนสามารถจ้างผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องมาทำแทนได้ ตั้งแต่ การออกแบบ การรับเหมา การทำตลาด การจัดการ ดังนั้นเราจึงจะเห็นได้ว่าบริษัทหน้าใหม่สามารถสร้างโครงการ หรืออาคารได้สำเร็จ ไม่แพ้ผู้เล่นหน้าเก่าเลย สิ่งที่สำคัญที่สุดของตลาดนี้ก็คือ “เงินทุน”

    3. ลักษณะของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะให้ผลตอบแทนที่พอจะคาดการณ์ได้ และสามารถเปลี่ยนมือได้ นั่นหมายความว่าผู้ลงทุนสามารถซื้อสินทรัพย์ หรือซื้อหุ้นต่อจากผู้เล่นรายอื่นได้ โดยดูผลตอบแทนที่คาดการณ์ไม่ว่าจะเป็น Yield หรือ IRR ว่าจะยอมจ่ายเงินเพื่อลงทุนที่ราคาเท่าไร ดังนั้นถ้าผู้เล่นหน้าใหม่อยากเข้ามาก็สามารถซื้อต่อจากผู้เล่นเดิมได้ง่าย

    ทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลเบื้องต้นว่าทำไมบริษัทต่างธุรกิจ จึงหันมาลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กันได้ง่าย ถ้าจะให้สรุปคำตอบง่าย ๆ ก็คือ บริษัทเหล่านั้นมีเงินทุน และตลาดอสังหาริมทรัพย์มีขนาดใหญ่ที่ผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาได้ไม่ยาก นั่นเอง

    ก็น่าติดตามต่อไปว่า แล้วจะมีกลุ่มธุรกิจใดที่จะก้าวเข้ามาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
    จนกลายเป็นคู่แข่งคนสำคัญ ที่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เดิม ต้องจับตามองกันบ้าง..
    ╔═══════════╗
    Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
    ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
    แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
    Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    ติดตามลงทุนแมนได้ที่
    Website - longtunman.com
    Blockdit - blockdit.com/longtunman
    Facebook - facebook.com/longtunman
    Twitter - twitter.com/longtunman
    Instagram - instagram.com/longtunman
    Line - page.line.me/longtunman
    YouTube - youtube.com/longtunman
    Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
    Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
    Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
    References:
    -https://www.singhaestate.co.th/th/#intro
    -https://www.prachachat.net/property/news-745384
    -https://datawarehouse.dbd.go.th/
    -https://positioningmag.com/1297091
    -https://www.reuters.com/article/aia-thailand-idUSL4E7MM15O20111122

  • regus 在 姫路の種 Facebook 的最佳解答

    2019-11-18 12:23:47
    有 57 人按讚


    レンタルオフィス、コワーキングスペース「リージャス姫路」が南町に11月1日にオープンしています。
    運営をてがける株式会社ティーケーピーは日本国内では札幌から沖縄まで145拠点にレンタルオフィスを持つ専門企業で、ここ姫路が兵庫県では初進出になるようです。
    1~4階がオフィスフロア「リージャス姫路駅前センター」、5階が会議室フロア「TKP姫路会議室」になっているようです。
    姫路駅から徒歩2~3分、大手前通りと十二所前線が交差する白銀交差点からすぐという便利で分かりやすい場所ですね。https://budou-chan.jp/open-regus/

  • regus 在 玖壹壹 Youtube 的精選貼文

    2016-06-18 21:09:03

    詞:廖建至/洪瑜鴻/陳皓宇 曲:陳皓宇 編曲:陳皓宇
    配唱製作人:葛子毅/陳皓宇
    製作人: 陳皓宇/葛子毅
    混音師: 葛子毅 ( Mimicker Studio )
    錄音師:葛子毅 ( Mimicker Studio )


    工作人員名單

    導演/剪輯 周法薷
    副導 蔡維陽
    製片 謝焜宏
    執行製片 李姵靜
    生活製片 張琇媛
    生活製片 林宜岑
    攝影 高興萱
    攝影大助 鍾佳育
    攝助 買銘傑
    攝助 陳聰敏
    燈光 曾威浩
    燈大助 李南逸
    燈助 呂正平
    燈助 施承緯
    造型 Craz Cee
    梳畫助理 JC Jessica U
    造型 王麂皮
    髮型協力 蔡葵
    造型助理 霓娜
    服裝 張瑋哲
    服裝助理 黃盈華
    服裝助理 賴宥甯
    美術 王呈豪
    美術助理 余名齊
    吳宗叡
    洪佳伶
    美術協力 郭棋逸
    林韋辰
    2D動畫師 李青霖
    劇照師 Johnny Shie
    廖俊凱

    感謝
    混血娛樂工作室
    賴慈泓
    光復新村
    秋山宅有限公司
    LUZ studio專業攝影棚
    攝手座
    金聲武藝協會
    利達數位影音科技公司
    攝影楊哥、後期雷經理
    吉陽租車

    台中市政府新聞局
    台中市政府新聞局 羅詩苓

    臺中民俗公園 陳先生

    霧峰林家宮保第園區
    吳執行長
    林先生
    鍾先生

    昱祈救護車事業有限公司 Regus