[爆卦]Omni-channel meaning是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇Omni-channel meaning鄉民發文沒有被收入到精華區:在Omni-channel meaning這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 omni-channel產品中有55篇Facebook貼文,粉絲數超過2,514的網紅Code For Marketing,也在其Facebook貼文中提到, [🔥 Podcast 行銷用聽的- 什麼是omni channel🔥] omni channel 你可能聽過,但你知道omni channel到底在說什麼嗎?10 分鐘,簡單分享一下omni channel 的概念! PodCast 連結 https://blog.codeformarketi...

 同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過15萬的網紅Thanh Thịnh Bùi,也在其Youtube影片中提到,Bán hàng đa kênh: Làm sao để bán hàng đa kênh hiệu quả Bán hàng đa kênh đang là xu hướng bán hàng online tại Việt Nam và thế giới. Nếu bạn không mu...

omni-channel 在 ?ℊ☆✰ⅆiiĘ (กู๊ดดี้)? Instagram 的最佳貼文

2021-03-30 22:51:15

🛍 ปลุกอินเนอร์นักช้อปในทุกสายอาชีพ กับ “Central Midnight Sale” ในคอนเซ็ปต์ “เป็นใครก็ต้องช้อป” ลดสูงสุด 70% และเปิดตัวครั้งแรก! Midnight Market ตอบโจท...

omni-channel 在 Darunphat Rattanakornopakul Instagram 的最佳貼文

2021-03-30 12:44:52

ปลุกอินเนอร์นักช้อปในทุกสายอาชีพ “Central Midnight Sale” ในคอนเซ็ปต์ “เป็นใครก็ต้องช้อป” ลดสูงสุด 70% และเปิดตัวครั้งแรก! Midnight Market ตอบโจทย์ลูกค...

  • omni-channel 在 Code For Marketing Facebook 的最佳解答

    2021-09-29 21:29:15
    有 0 人按讚

    [🔥 Podcast 行銷用聽的- 什麼是omni channel🔥]

    omni channel 你可能聽過,但你知道omni channel到底在說什麼嗎?10 分鐘,簡單分享一下omni channel 的概念!

    PodCast 連結
    https://blog.codeformarketing.co/mktlogic/

    加入Line 好友:
    https://lin.ee/sQbBYER

    查看更多行銷知識
    https://blog.codeformarketing.com

  • omni-channel 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文

    2021-09-29 20:30:23
    有 739 人按讚

    Beryl8 Plus บริษัท Digital Transformation ของคนไทยหนึ่งเดียวในอาเซียนที่ Salesforce บริษัทยักษ์ใหญ่เข้าร่วมลงทุน
    Beryl8 Plus x ลงทุนแมน

    ทุกวันนี้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมในแทบทุกแง่มุมของชีวิต
    ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสารกับเพื่อนผ่าน Social media แทนการโทรศัพท์ การสั่งซื้อสินค้าผ่าน E-Commerce แทนการไปที่ร้าน การทำธุรกรรมการเงินผ่านทาง Internet Banking แทนการไปธนาคาร และการเรียนผ่าน Video Conference แทนการเจอตัว ไปจนถึงการทำงาน ที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลก ก็สามารถทำได้ตลอด

    เทคโนโลยีอยู่กับเราตลอดเวลาและมีอิทธิพลต่อผู้คนบนโลกที่ทำให้ชีวิตสะดวก และรวดเร็วขึ้น

    เช่นเดียวกับในฝั่งของผู้ประกอบการและองค์กรธุรกิจก็จำต้องปรับตัวให้ทันกับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป พัฒนาองค์กรไปสู่จุดที่แข็งแกร่งกว่าเดิม รวมไปถึงการปลดล็อกวิธีการทำงานในรูปแบบเดิม สู่การเพิ่มศักยภาพ และขีดความสามารถทางการแข่งขันด้วยเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ระดับโลก

    สำหรับวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Transformation อย่าง บมจ. เบริล 8 พลัส หรือ BE8 ผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการทำ Digital Transformation ให้แก่องค์กรชั้นนำมาแล้วมากมาย

    แล้วบริษัทฯ แห่งนี้ทำธุรกิจอะไรบ้าง
    ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง…

    บริษัท เบริล 8 พลัส ก่อตั้งเมื่อปี 2552 ด้วยความเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีจะเป็นพื้นฐานของทุกธุรกิจในอนาคต โดยเป็นบริษัทไทยรายแรก ๆ ที่นำเสนอ Cloud Technology ผ่านการเป็นพันธมิตรกับ Salesforce บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นผู้นำด้าน CRM Software ที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงที่สุดในโลก

    บริษัทฯ ให้บริการด้าน Digital Transformation แบบครบวงจรและมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษด้านการบริหารจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Analytics) และ การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยบริษัทจะทำงานร่วมกับลูกค้าเพื่อวางแผนกลยุทธ์ด้าน Digital รวมถึงการออกแบบและพัฒนาระบบต่าง ๆ ไปจนถึงดูแลการใช้งานจริง เพื่อให้ตอบโจทย์ด้านกลยุทธ์ทางธุรกิจของแต่ละองค์กรลูกค้า

    บริษัทเบริล 8 พลัส มีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเกือบ 200 คน รองรับลูกค้าองค์กรที่ต้องการทำ Digital Transformation โดยมีซอฟต์แวร์ชั้นนำระดับโลกสนับสนุนการให้บริการเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าองค์กร ด้วยประสบการณ์ของทีมผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องเทคโนโลยี

    และ การทำ Digital Transformation ทำให้บริษัทก้าวมา เป็นที่ปรึกษาชั้นนำด้าน Digital Transformation ให้บริการลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ภายในระยะเวลาเพียง 10 ปี

    แล้วกลุ่มลูกค้าทางธุรกิจของ เบริล 8 พลัส มีใครบ้าง
    ทำไมถึงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าที่เป็นองค์กรชั้นนำมากมาย

    ลูกค้าของเบริล 8 พลัส มีหลากหลายธุรกิจ เช่น สถาบันการเงิน, บริษัทประกัน, บริษัทพลังงาน, บริษัทอสังหาริมทรัพย์, บริษัทค้าปลีก, บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคและบริโภค, บริษัทโลจิสติกส์

    โดยให้บริการลูกค้าบริษัทชั้นนำทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็กกว่า 100 ราย ผ่านกว่า 250 โปรเจกต์ทั้งในและต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม เป็นต้น

    การที่บริษัทฯ มีกลุ่มลูกค้าที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่หลายราย สะท้อนถึงศักยภาพการทำงานแบบมืออาชีพด้วยมาตรฐานระดับสากล ที่คู่แข่งลอกเลียนแบบได้ยาก เพราะบริษัทมีทั้งความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีและความเข้าใจในการทำงานของแต่ละอุตสาหกรรม จากการที่บริษัทฯ ได้จับมือกับพันธมิตรที่เป็นซอฟต์แวร์ระดับโลก อย่าง Salesforce บริษัทที่พัฒนา CRM สำหรับธุรกิจ และองค์กร ทำให้บริษัทฯ มีโซลูชันที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ ๆ สำหรับบริการพัฒนาซอฟต์แวร์ ให้แก่ลูกค้า

    Salesforce เป็นซอฟต์แวร์ที่บริษัทฯ ชั้นนำหลายแห่งในไทยเลือกใช้บริการ โดยเป็นซอฟต์แวร์ด้านบริหารความสัมพันธ์ของลูกค้า หรือ CRM จากสหรัฐอเมริกา ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดอันดับ 1 ของโลก

    ซึ่งเบริล 8 พลัส เป็นพันธมิตรรายแรก ๆ กับ Salesforce ในประเทศไทยและได้รับเลือกเป็นพันธมิตร Summit ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ผ่านการทดสอบทั้งในด้านของความเชี่ยวชาญและความสามารถในการบริหารโครงการให้ประสบความสำเร็จ

    นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังเป็นพันธมิตรกับ Tableau แพลตฟอร์มการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบของ Data Visualization ที่เป็นการนำซอฟต์แวร์มาใช้วิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ ให้แสดงผลออกมาในรูปแบบภาพ แผนภูมิกราฟ และอื่น ๆ ทำให้องค์กรสามารถเห็น Insight และใช้ข้อมูลในการตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที

    รวมถึง Snowflake บริษัท Cloud Data Warehouse ระดับโลก ที่ให้บริการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ โดยเฉพาะข้อมูลที่มีจำนวนมหาศาล กระจายอยู่หลายแหล่ง และยังมีระบบการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ไว้คอยให้บริการอีกด้วย

    MuleSoft ผู้นำด้าน Integration Platform ที่ให้บริการนำระบบ แอปพลิเคชัน และฐานข้อมูลต่าง ๆ มาเชื่อมต่อถึงกันแบบไร้รอยต่อ ทำให้สามารถหยิบนำเครื่องมือทางเทคโนโลยีมาสร้างประสบการณ์และบริการใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล

    และยังมีอีกหลายแพลตฟอร์มชั้นนำระดับอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ เบริล 8 พลัส พร้อมให้บริการ อาทิ Google Workspace ที่เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้การทำงานร่วมกันในองค์กรเกิดความต่อเนื่อง

    นอกจากนี้ เบริล 8 พลัส ยังพัฒนานวัตกรรมด้านซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันขึ้นเองเพื่อต่อยอดการให้บริการแก่ลูกค้า

    เช่น ซอฟต์แวร์ BE8 Loyalty Management รองรับการสะสมคะแนนเพื่อทำโปรแกรม CRM, ซอฟต์แวร์ BE8 Corporate Banking Solution สำหรับธนาคารเพื่อใช้บริหารความสัมพันธ์กับลูกค้านิติบุคคล,โปรแกรม Omni Channel Package สามารถรวมการทำงานของตัวแทนบริการลูกค้าในพื้นที่การทำงานทั้งหมดไว้ในคอนโซลเดียว

    สำหรับรายได้ของ เบริล 8 พลัส มาจากการให้คำปรึกษา ให้บริการด้านซอฟต์แวร์ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายและที่พัฒนาขึ้นเอง รวมถึงการดูแลระบบและบริการหลังการขายต่าง ๆ ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ จะมีรายได้ทั้งจากการทำโครงการและรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Revenues) จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายสิทธิ์การใช้ซอฟต์แวร์และบริการสนับสนุน เช่น ดูแลหลังการขาย แก้ไขปัญหาด้านเทคโนโลยี จัดหาบุคลากรด้านไอที เป็นต้น

    เบริล 8 พลัสยังมีโอกาสเติบโตไปอย่างก้าวกระโดด เพราะมีกลุ่มนักลงทุนที่มีชื่อเสียง อย่าง Salesforce Ventures เข้าร่วมลงทุน ซึ่ง Salesforce Ventures เป็นบริษัทด้านการลงทุนของ Salesforce ที่เลือกลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพชั้นนำทั่วโลกมากมาย การร่วมลงทุนของ Salesforce Ventures จะทำให้เบริล 8 พลัส มีช่องทางการเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ของทั้ง Salesforce เองและบริษัทเทคโนโลยีในเครืออีกกว่า 400 บริษัททั่วโลก รวมทั้งจะช่วยสนับสนุนให้บริษัทขยายธุรกิจและการทำ Digital Transformation ในภูมิภาคได้อย่างแข็งแกร่ง

    ที่น่าสนใจคือ เบริล 8 พลัส เป็นบริษัทคนไทยที่เข้าไปปักธงขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน โดยขยายธุรกิจจัดตั้งสำนักงานในเวียดนามเมื่อปี 2562 นับเป็นอีกก้าวหนึ่งของบริษัทไทยที่สามารถนำธงไทยไปโบกสะบัดในระดับภูมิภาค

    ทั้งหมดนี้น่าจะทำให้เห็นถึงบริการการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของธุรกิจลูกค้าหรือการดิสรัปชันตัวเองด้วย Digital Transformation กันมากขึ้น

    และทำให้ในวันนี้ เบริล 8 พลัส ก้าวขึ้นเป็นบริษัทชั้นนำด้าน Digital Transformation แบบครบวงจรในประเทศไทย ซึ่งวันนี้ได้ก้าวสู่การขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนเป็นที่เรียบร้อย..

    References
    -https://www.beryl8.com/th/home
    -ข้อมูลจาก Beryl8 FactSheet
    -https://www.brandbuffet.in.th/2020/09/depa-forcasts-thai-digital-industries-2022-value-to-reach-8-billion-baht/
    - https://today.line.me/th/v2/article/JmVy7y

  • omni-channel 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文

    2021-08-25 21:30:22
    有 2,028 人按讚

    สรุปประเด็นสำคัญจากงาน Thailand Focus 2021 /โดย ลงทุนแมน
    ผู้นำภาครัฐและเอกชน มองและปรับตัวอย่างไร ในยุคหลังโควิด

    วันนี้ทาง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้จัดงาน Thailand Focus 2021 ที่จะมาพูดคุยกันในเรื่อง “Thriving in the Next Normal” ที่จะครอบคลุมตั้งแต่ประเด็นเกี่ยวกับ การรับมือกับสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา, การปรับตัวในช่วงหลังโควิด ไปจนถึงความสำคัญของการทำธุรกิจแบบยั่งยืน

    โดยมีแขกรับเชิญ จากทางฝั่งภาครัฐ และนักธุรกิจแนวหน้าของเมืองไทย ที่จะมาแบ่งปันมุมมอง, ประสบการณ์ และการปรับตัว เพื่อรองรับ Next Normal ที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งจะแบ่งหัวข้อย่อย ออกเป็น 6 หัวข้อด้วยกัน

    แล้วมีประเด็นอะไรที่น่าสนใจบ้าง ? ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง..

    1. หัวข้อ Shaping Thailand’s Readiness for Post COVID-19 Economic Opportunities
    โดย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

    โดยกล่าวถึงการสร้างความพร้อมประเทศไทย สู่โอกาสทางเศรษฐกิจหลังโควิด 19

    สำหรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทางรัฐบาลมีแผนที่จะสนับสนุนการเปิดเศรษฐกิจหลายด้าน เช่น

    - เดินหน้าลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ ถนน, ทางรถไฟ, การบิน และพลังงานสะอาด

    - ลดก๊าซเรือนกระจก สนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า และออกพันธบัตรที่สนับสนุนการเติบโตแบบยั่งยืน

    - สนับสนุนอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น ศูนย์ข้อมูลและดิจิทัล, สมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ และชีวเคมี

    - สถานที่สำหรับการระดมทุน ที่โปร่งใส เท่าเทียม ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย

    ซึ่ง LiVE Platformคือหนึ่งในโปรเจกต์ที่ประสบความสำเร็จมาก ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการเป็นตัวกลางที่จะช่วยให้ SME และ Startup เข้าถึงแหล่งเงินทุน

    2. หัวข้อ From Resiliency to Recovery and Beyond : Central Bank Policies for an Uncertain World
    โดย ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจไว้ 3 ประเด็น

    1) ภาพรวมเศรษฐกิจไทย

    เศรษฐกิจไทย ฟื้นตัวจากพิษโควิดได้ช้า และไม่สม่ำเสมอ เพราะว่าภาคการท่องเที่ยว ที่คิดเป็น 11% ของ GDP มีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าภาคเศรษฐกิจอื่น รวมถึงภาคการบริการอื่น ๆ ที่ยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่
    อีกทั้งการระบาดของโควิดระลอก 3 และการกระจายวัคซีนที่ช้ากว่าประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค

    อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังคงมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เนื่องจากมีทุนสำรองระหว่างประเทศ อยู่ในกลุ่มที่สูงที่สุดในโลก ในขณะที่หนี้ต่างประเทศ ยังอยู่ในระดับต่ำ

    2) สิ่งที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการเพื่อตอบสนองต่อวิกฤติ

    ซึ่งเน้นใช้วิธีที่ยืดหยุ่นและปฏิบัติได้จริง เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น

    3) สิ่งที่ธนาคารแห่งประเทศไทย จะดำเนินการต่อไปในอนาคต

    ในระยะสั้น ทาง ธปท. ต้องการผลักดันให้ธนาคาร หันมาใช้มาตรการปรับโครงสร้างหนี้กันมากขึ้น โดย ได้อำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ เพื่อจูงใจให้ธนาคารหันมาใช้มาตรการนี้

    ส่วนในระยะยาว ทาง ธปท. อยากให้โลกหลังโควิด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งประเทศไทย ก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวให้เห็นกันบ้างแล้ว เรื่องของความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม
    ทาง ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็เริ่มมีการจัดอันดับบริษัทที่ทำธุรกิจอย่างยั่งยืน หรือ ESG Index

    3. หัวข้อ Living in Next Normal : COVID-19 Lessons Learned and Future Directions

    ตอนนี้การระบาดในประเทศไทยได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว การติดเชื้อของผู้คนชะลอตัวลง และอัตราการเสียชีวิต ก็เริ่มเห็นสัญญาณการลดตัวลงอย่างเห็นได้ชัด จากการกระจายวัคซีน

    ตอนนี้ประมาณ 30% ของคนไทยได้รับวัคซีนเข็มแรก และประมาณ 10% ได้รับเข็มสองไปเป็นที่เรียบร้อย
    ซึ่งคาดว่า ภูมิคุ้มกันหมู่ จะสามารถเกิดขึ้นได้ภายใน 4 เดือนข้างหน้า

    สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจไทยปีที่แล้วนั้น อยู่ในจุดที่ต่ำแล้ว
    ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยได้รับแรงหนุนจากการส่งออกสินค้าที่แข็งแกร่ง
    การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทำได้ดีกว่าคาด ใน 1-2 ไตรมาสแรกของปีนี้ การส่งออกเป็นตัวช่วยในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศไทย ทำให้สามารถเติบโตได้ 7.5% ในช่วงครึ่งปีแรก มากกว่าที่ตลาดวิเคราะห์ไว้ที่ 6.4%

    โมเมนตัมการเติบโตน่าจะแข็งแกร่งในปีหน้า ด้วยโครงการ การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
    นักลงทุนควรมองข้ามสถานการณ์โควิด ซึ่งรัฐบาลคาดว่า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวเต็มที่ภายในปีหน้า

    และอีกปัจจัยหลักในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย คือ การที่คนทั่วโลกได้รับวัคซีนเร็วที่สุด ไทยจึงสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวได้เหมือนเคย

    4. หัวข้อ How Thai Business Adapt to Current Crisis

    ระบบธนาคารต้องปรับตัวอย่างมาก โดยให้ความสำคัญด้านสุขภาพและความปลอดภัยต่อบุคลากรและลูกค้า ซึ่งธนาคารบางสาขาถูกปิดทำการชั่วคราว และให้บุคลากร Work From Home (WFH)
    จึงใช้ช่องทางออนไลน์เป็นหลักในการทำงาน และได้เพิ่มทางเลือกการทำธุรกรรมใหม่ เช่น Website, E-Marketplace และ Social Media เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน

    รวมถึงการให้กู้ยืมเงินทุนหมุนเวียน ให้ทุกธุรกิจก้าวข้ามผ่านปัญหาเศรษฐกิจครั้งนี้

    สำหรับ SCG ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ซึ่งทางบริษัทก็ได้มีการปรับตัวมาโดยตลอด เริ่มตั้งแต่การปรับให้พนักงานมาทำงานแบบ WFH หรือการแบ่งพนักงานโรงงาน ออกเป็นสองกลุ่ม เพื่อลดความเสี่ยงการระบาด

    การปรับผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการมากขึ้น โดยการสังเกตพฤติกรรมผู้บริโภค อย่างเช่น การ WFH ทำให้คนหันมาปรับปรุงบ้านมากขึ้น ก็ได้มีการบริการด้านการปรับปรุงตกแต่งบ้านเพิ่มเข้าไปด้วย

    ส่วนในอนาคต ทาง SCG ก็พยายามเน้นในเรื่องของนวัตกรรมให้มากขึ้น และจะหันไปพัฒนาด้านอีคอมเมิร์ซสำหรับธุรกิจก่อสร้าง โดยจะยังคงให้ความสำคัญในเรื่องของความยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

    ส่วนกลุ่มธุรกิจในเครือ CRC นั้นได้รับผลกระทบหลายภาคส่วน ตั้งแต่ภาคการโรงแรม, รีเทล และอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทก็ได้เริ่มปรับตัวมาตั้งแต่ช่วงปี 2017 ที่เริ่มให้ความสำคัญกับธุรกรรมออนไลน์มากขึ้น โดยมีการพัฒนาส่วนของ Omni Channel ที่เชื่อมประสบการณ์ช็อปปิงออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกัน

    ทั้งนี้ การจะฝ่าวิกฤติไปได้ หลายฝ่ายต้องช่วยกัน ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ
    อย่างตัวซัปพลายเออร์ของทางเซ็นทรัล รีเทลเอง ก็ต้องไปจับมือกับธนาคารเพื่อเข้าไปช่วยเหลือด้านสภาพคล่อง

    ซึ่งเชื่อว่าหลังโควิด ผู้บริโภคจะให้ความสำคัญกับ 3 สิ่งมากขึ้น คือ สุขภาพ, ประสบการณ์ และความยั่งยืน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเริ่มมีการรีเซตกลยุทธ์ทางธุรกิจใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เข้ากับธีมเหล่านี้มากขึ้น

    5. หัวข้อ Thailand Innovative Business

    - aCommerce นั้นอยากที่จะเป็นผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซอันดับหนึ่งในอาเซียน
    โดยบริษัทเป็นผู้ให้บริการ ทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน ตั้งแต่การจัดการ การตลาด ไปถึงโลจิสติกส์ แก่ผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซ เช่น ร้านค้า

    ซึ่งการที่เราจะประสบความสำเร็จในธุรกิจได้ เราต้องมีวิสัยทัศน์ที่ไกล และมีทีมผู้บริหารที่แข็งแกร่ง
    บริษัทควรสร้างผลิตภัณฑ์ที่สามารถเติบโต และเป็นที่ต้องการของประชากรในประเทศนั้น
    รวมถึงต้องมีการตัดสินใจให้ทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อย่างเด็ดขาด

    ที่สำคัญในประเทศไทย มีบริษัทชั้นนำที่เกี่ยวข้องกับอีคอมเมิร์ซ เข้ามาลงทุนเยอะมาก เช่น JD, Lazada
    ทำให้บริษัทสามารถสร้างพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจกับบริษัทเหล่านี้ได้

    - NR Instant Produce คือบริษัทอาหาร ที่ผลิตอาหารและส่วนผสม ที่มีโปรตีนเป็นส่วนประกอบ
    การผลิตอาหารของบริษัทนั้น ได้ลดการปล่อยคาร์บอนฯ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
    ซึ่งบริษัทเน้นย้ำในแนวคิด ESG ที่ส่งผลเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม, สังคม และธรรมาภิบาลที่ดี

    บริษัทประสบความสำเร็จในการดำเนินการได้ เพราะมีทีมผู้บริหารที่แข็งแกร่ง
    มีผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจน และเรามีนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อทำให้สินค้าของเราแตกต่างจากคู่แข่ง

    - Pomelo Fashion เป็นแพลตฟอร์มแฟชั่นดิจิทัล ชั้นนำในอาเซียน
    บริษัทให้บริการด้าน Omni Channel สำหรับลูกค้า และมีสินค้าให้เลือกมากกว่า 37,000 รายการ

    กุญแจสำคัญที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ คือ เรารู้ว่าทุกภาคส่วน จะต้องผ่านการเปลี่ยนแปลงทางด้านดิจิทัล ซึ่งแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ก็คือหนึ่งในอุตสาหกรรมที่จะเติบโตได้อีกมาก

    โดยการประสบความสำเร็จในธุรกิจได้ เราต้องเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ ผู้ที่เคยมีประสบการณ์ในด้านนี้มาก่อน
    ถ้าเราเรียนรู้ข้อผิดพลาดของเขาได้ เราจะสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน

    ซึ่งเมืองไทยมีพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจที่สำคัญเยอะมาก เช่น บริษัทเซ็นทรัล ที่มาเป็นพาร์ตเนอร์กับทางบริษัท
    การมีพาร์ตเนอร์ดี ๆ จะทำให้เราเรียนรู้ระบบจากเขาได้

    ทั้งนี้ ประเทศไทยควรเน้นเรื่องการวิจัยและพัฒนา โดยสอนเด็กรุ่นใหม่ เรื่องการเปลี่ยนแปลงทางด้านดิจิทัล เพราะเมืองไทยยังขาดคนที่มีความเชี่ยวชาญด้านไอที ซึ่งส่วนนี้อาจทำให้เราสู้ประเทศคู่แข่งไม่ได้

    - YGGDrazil Group เป็นผู้ให้บริการเอฟเฟกต์ภาพเสมือนจริงแก่ผู้ให้บริการเกมออนไลน์
    และบริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับ Virtual Production หรือการผสมกันระหว่าง Live Footage และภาพ Digital เพื่อสร้างคอนเทนต์แบบเรียลไทม์

    สำหรับองค์ประกอบสำคัญในการสร้างสรรค์นวัตกรรม คือ การมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล และมีพันธกิจที่แข็งแกร่ง
    การสื่อสารระหว่างผู้บริหารและผู้ร่วมทุน เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการดำเนินงานให้ประสบความสำเร็จ

    ซึ่งบริษัทควรสร้างวัฒนธรรมของคนในองค์กร ที่สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว

    นอกจากนี้ หากต้องการส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมภายในประเทศ
    ภาครัฐ ควรเพิ่มมาตรการช่วยเหลือเหล่า SME และ Startup ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น
    และอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจในด้านต่าง ๆ

    6. หัวข้อ Accelerating Sustainable Investing in Thai Capital Market

    ในมุมมองของนักลงทุนสถาบัน อย่าง กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)
    ESG นั้นถือเป็นปัจจัยสำคัญในการคัดเลือกการลงทุน แต่ก็ต้องคำนึงถึงทั้งด้านความเสี่ยงและผลตอบแทน
    บางครั้งบริษัทที่มีคะแนน ESG ดี ก็ไม่ได้หมายความว่า จะสร้างผลตอบแทนได้ดี
    ดังนั้น เราต้องเน้นในเรื่องการเข้าไปทำ Due Diligence อย่างละเอียด และคอยติดตามว่าบริษัทนั้น ได้ทำ ESG อย่างจริงจังแค่ไหน

    ส่วนในมุมของธุรกิจและองค์กรเอง ในเวลานี้ก็ได้มีการปรับตัวเข้าหา ESG กันมากขึ้น
    อย่าง PTTGC ที่เป็นบริษัทด้านเคมีภัณฑ์ ที่ได้ปรับมาใช้แนวทาง ESG และกำลัง Perform ได้ดี
    ก็ได้ตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยคาร์บอนฯ ให้เหลือ 0% ภายในปี 2050 โดยเน้นที่การปรับกลยุทธ์ทั้งระบบ รวมไปถึงการกระจายการลงทุน ไปยังผลิตภัณฑ์ที่ผลิตคาร์บอนฯ ในปริมาณต่ำ

    สำหรับธุรกิจธนาคาร ESG นั้นก็หมายถึง จรรยาบรรณในการประกอบธุรกิจด้วย
    แน่นอนว่าการทำธุรกิจต้องคำนึงถึงทั้งสองฝ่าย คือผู้ถือหุ้น และลูกค้า
    ซึ่งทาง TTB ก็ได้เน้นในเรื่อง Financial Well Being หรือ การสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีให้กับลูกค้า โดยให้ความสำคัญในการพัฒนาชีวิตด้านการเงินของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น

    สุดท้ายนี้ การทำ ESG Report เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะไม่ใช่แค่เรื่องของความโปร่งใส หรือการบอกให้คนรู้
    แต่การแบ่งปันข้อมูลจะช่วยให้บริษัทอื่น ๆ ได้เรียนรู้และพัฒนาไปพร้อม ๆ กันด้วย
    ซึ่งเรื่องนี้ยังเป็นเรื่องที่ใหม่ และหลายฝ่ายยังต้องปรับปรุงไปพร้อม ๆ กัน

    ส่วนอนาคตของ ESG ยังมีแนวโน้มไปในทางที่ดี และควรที่จะทำให้อยู่ในกระบวนการดำเนินงานของบริษัทจริง ๆ เพราะการทำ ESG ไม่ใช่แค่เรื่องของสิ่งแวดล้อม แต่ยังทำให้การทำงานมีความหมาย
    สร้างผลตอบแทนระยะยาวให้กับผู้ถือหุ้น และยังทำให้โลกดีขึ้นด้วย

    และนี่ก็คือการสรุปเนื้อหาจากงาน Thailand Focus 2021 ที่ได้พูดคุยกันในเรื่อง “Thriving in the Next Normal” ซึ่งเราก็น่าจะได้รับข้อมูล และมุมมองที่น่าสนใจจาก ผู้นำภาครัฐและเอกชน หลายองค์กร โดยเราสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในการรับมือกับสถานการณ์โควิด เตรียมพร้อมปรับตัวในช่วงหลังโควิด และได้แนวคิดในการทำธุรกิจได้แบบยั่งยืน ในอนาคต..

    ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือ ดู Presentation และชม Clip ย้อนหลังได้ที่ www.set.or.th/thailandfocus

  • omni-channel 在 Thanh Thịnh Bùi Youtube 的最佳貼文

    2019-08-23 22:00:10

    Bán hàng đa kênh: Làm sao để bán hàng đa kênh hiệu quả

    Bán hàng đa kênh đang là xu hướng bán hàng online tại Việt Nam và thế giới.

    Nếu bạn không muốn bị đối thủ bỏ xa, nhất định phải xem video này của Thịnh nhé.

    ► Đăng ký kênh Youtube của mình để xem video bổ ích MIỄN PHÍ: https://thanhthinhbui.com/subyoutube

    —————
    Tác giả: Blogger Thanh Thịnh Bùi
    Facebook cá nhân: https://www.facebook.com/thanhthinhbuicom
    Fanpage: https://www.facebook.com/thanhthinhbuidotcom

    Xem thêm kiến thức về Online Marketing tại https://thanhthinhbui.com

    HÃY ĐỂ LẠI THẮC MẮC CỦA BẠN Ở KHUNG BÌNH LUẬN, MÌNH SẼ GIẢI ĐÁP TRONG 24 GIỜ.

    #thanhthinhbui #banhangdakenh

你可能也想看看

搜尋相關網站