[爆卦]JobThai是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇JobThai鄉民發文沒有被收入到精華區:在JobThai這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 jobthai產品中有6篇Facebook貼文,粉絲數超過4,464的網紅TAS19 คำนวณผลประโยชน์พนักงาน โดยนักคณิตศาสตร์ประกันภัย ABS,也在其Facebook貼文中提到, JobThai เผยตลาดแรงงานครึ่งปีแรก โควิดกระทบ นักศึกษาจบใหม่ “ท่องเที่ยว-โรงแรม-การบิน” เตะฝุ่น . JobThai ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มหางาน, สมัครงาน และหาบุคลา...

 同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過68萬的網紅Ceemeagain,也在其Youtube影片中提到,เรื่องเด่นเย็นนี้ Weekly C3 onair 2014/08/10 ปีทองของการเล่นเกมส์บนมือถือ อุตสาหกรรมที่น่าจับตา สัมภาษณ์ผู้บริหารดิสนีย์ - TDRI เผยอุตสาหกรรมซอฟแวร์ไท...

jobthai 在 เฟื่องลดา Instagram 的最佳解答

2020-05-03 20:29:39

ขึ้นปีใหม่...อยากเปลี่ยนงานใหม่ 🙌🏻 JobThai พลิกโฉมเอาใจคนหางานทุกคนแบบคาดไม่ถึง! 😍📱 . เฟื่องมีโอกาสมาเป็นพิธีกรงานแถลงข่าวการพลิกโฉมใหม่ของJobThai และ...

jobthai 在 เฟื่องลดา Instagram 的精選貼文

2020-05-03 21:26:07

Do what you love, love what you do. Thanks for having me ka :) Jobthai เว็บไซต์หางาน/สมัครงานสัญชาติไทยแท้ เปิดบ้านให้สื่อมวลชนเยี่ยมชมครั้งแรก เล่าถ...

  • jobthai 在 TAS19 คำนวณผลประโยชน์พนักงาน โดยนักคณิตศาสตร์ประกันภัย ABS Facebook 的精選貼文

    2021-07-30 19:37:14
    有 2 人按讚

    JobThai เผยตลาดแรงงานครึ่งปีแรก โควิดกระทบ นักศึกษาจบใหม่ “ท่องเที่ยว-โรงแรม-การบิน” เตะฝุ่น
    .
    JobThai ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มหางาน, สมัครงาน และหาบุคลากรออนไลน์
    เปิดเผยถึงข้อมูลการหางาน, สมัครงาน จากการรวบรวมข้อมูลในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564
    พบว่า ในเดือนมกราคม - มิถุนายน 2564 มีผู้ต้องการหางาน สมัครงาน เพิ่มขึ้นกว่าปี 2563
    โดยมีผู้ใช้งานสะสมมากกว่า 13 ล้านคน เติบโตขึ้น 17%
    และมีการสมัครงาน 9.6 ล้านครั้ง เติบโตขึ้น 8%
    ด้านองค์กร มีการเปิดรับพนักงานรวมทั้งหมด 772,145 อัตรา เพิ่มขึ้น 13.7%
    ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา หลายองค์กรมีการเปิดรับบุคลากรโดยสามารถทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) หรือทำงานทางไกล (Remote Working) 11,036 อัตรา เพิ่มขึ้น 18.7% จากไตรมาส 3 - 4 ปี 2563
    นอกจากนี้ องค์กร ยังมีมาตรการลดการแพร่ระบาดของโควิด โดยเปลี่ยนมาสัมภาษณ์งานทางออนไลน์มากถึง 78,101 อัตรา เพิ่มขึ้น 208.1% จากไตรมาส 3 - 4 ปี 2563
    .
    โควิด กระทบการจ้างงานนักศึกษาจบใหม่
    ในแต่ละปี จะมีนักศึกษาจบใหม่ เข้ามาในตลาดแรงงาน ซึ่งในปีนี้นักศึกษาจบใหม่ ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและผลกระทบจากโควิด
    .
    โดยใน JobThai มีบัญชีผู้ใช้งานที่เป็นนักศึกษาจบใหม่ 178,399 คน
    คิดเป็น 17.14% ของจำนวนผู้สมัครงานทั้งหมดในแพลตฟอร์ม
    ซึ่งมีข้อมูลที่น่าสนใจ ดังนี้
    .
    สายงานที่เปิดรับนักศึกษาจบใหม่มากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
    1. งานขาย 35,031 อัตรา
    2. งานช่างเทคนิค/อิเล็กทรอนิกส์ 14,074 อัตรา
    3. งานผลิต/ควบคุมคุณภาพ 11,332 อัตรา
    4. งานบริการ 8,777 อัตรา
    5. งานวิศวกร 7,677 อัตรา
    .
    สายงานที่มีนักศึกษาจบใหม่สมัครมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
    1. งานธุรการ/จัดซื้อ 60,780 คน
    2. งานผลิต/ควบคุมคุณภาพ 47,137 คน
    3. งานขาย 36,980 คน
    4. งานวิศวกร 30,565 คน
    5. งานขนส่ง-คลังสินค้า 28,344 คน
    .
    นักศึกษาจบใหม่ท่องเที่ยว / โรงแรม / การบิน เคว้ง
    ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น โรงแรม หรือการบิน ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด โดยตรง
    ทำให้องค์กรต่าง ๆ ไม่มีการจ้างงานในสายนี้เพิ่มมากนัก นักศึกษาจบใหม่ในสาขานี้ จึงได้รับผลกระทบไปด้วย
    โดยข้อมูลจากกลุ่มบนเฟซบุ๊ก “JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน” ซึ่งมีสมาชิกภายในกลุ่มกว่า 200,000 คน
    พบว่าประเด็นในการพูดคุยแลกเปลี่ยนปัญหาของเด็กจบใหม่ ในสาขาดังกล่าว มีดังนี้
    .
    •การหางานด้านท่องเที่ยว โรงแรมยาก ทำให้ว่างงานนานขึ้น
    •คนที่ทำงานด้านท่องเที่ยว โรงแรม เช่น ไกด์ พนักงานในโรงแรม พนักงานบริษัททัวร์ ถูกลดเงินเดือน ให้ลาไม่รับค่าจ้าง ตลอดจนถูกปลด เนื่องจากบริษัทต้องหยุดดำเนินกิจการชั่วคราวหรือถาวร
    •ต้องหางานข้ามสาย ซึ่งต้องแข่งขันกับคนที่จบมาตรงสาย
    .
    ด้านข้อมูลใน JobThai พบว่า 5 สายงานที่นักศึกษาจบใหม่ด้านท่องเที่ยว / โรงแรม สมัครมากที่สุด ได้แก่
    1. งานธุรการ/จัดซื้อ 11,590 ครั้ง
    2. งานบริการ 5,998 ครั้ง
    3. งานขาย 5,682 ครั้ง
    4. งานบุคคล/ฝึกอบรม 3,127 ครั้ง
    5. งานการตลาด 2,633 ครั้ง
    .
    ในสถานการณ์นี้ปฏิเสธไม่ได้ว่า นักศึกษาจบใหม่ในธุรกิจท่องเที่ยว / โรงแรม / การบิน ต้องเพิ่มโอกาสในการหางาน จนกว่าสถานการณ์เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทยจะฟื้นตัว โดยต้องนำทักษะที่มีไปต่อยอดใช้กับสายงานอื่น (Transferable Skills)
    อย่างคนที่มีทักษะความสามารถทางภาษา อาจมองหาโอกาสในสายงานดูแลลูกค้าหรือบริการ ในธุรกิจอื่น ๆ ที่ไม่ได้รับผลกระทบมาก หรือ งาน Account Executive ในเอเจนซี่ ซึ่งเป็นการใช้จุดแข็งทางด้านภาษาและการสื่อสารที่มีอยู่แล้ว
    และเพิ่มคอร์สเรียนเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ รวมทั้งการใช้ Social Media ก็จะทำให้โปรไฟล์เข้าตา HR มากขึ้นได้
    หรืออาชีพเสริมอื่น ๆ เช่น ติวเตอร์สอนภาษา เนื่องจากช่วงนี้นักเรียนต้องเรียนออนไลน์ ก็อาจเป็นโอกาสในการทำงานของเราได้
    .
    ข้อมูลจากเพจ: Market Think

  • jobthai 在 อายุน้อยร้อยล้าน Facebook 的最佳解答

    2021-02-02 11:00:00
    有 2,009 人按讚

    จากปีที่แล้วทั่วทั้งโลกเพิ่งผ่านมรสุมอย่างหนักมา ส่งผลให้ตลาดแรงงานนั้นได้รับผลกระทบมีคนตกงานจำนวนมากรวมถึงธุรกิจหลายเจ้าที่ต้องปิดตัวลง สำหรับในปีที่สถานการณ์อาจจะยังไม่ได้ดีขึ้นมากนั้น แต่ทุกคนก็เริ่มที่จะสามารถปรับตัวให้ใช้ชีวิตกันได้ลงตัวมากยิ่งขึ้น แล้วแนวโน้มของตลาดแรงงานไทยในปี 2564 นี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ทาง JobThai ได้ทำรวบรวมผลสำรวจตลาดแรงงานไทย จากทั้งฝั่งองค์กร พนักงาน/แรงงาน รวมถึงเด็กจบใหม่ ทำให้ได้ข้อมูลที่น่าสนใจมาดังนี้
    .
    “เวิร์คฟอร์มโฮมมีจริงหรือ?” หลายองค์กรมีนโยบายให้พนักงาน work from home หรือการทำงานที่บ้านเพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการติดต่อรวมถึงลดอัตราเสี่ยงการแพร่กระจายของโรคระบาด แต่ถึงอย่างนั้นกลับพบว่าในช่วงล็อกดาวน์ที่ผ่านมามีผู้ที่ได้ทำงานที่บ้านเพียงแค่ 34.1% เท่านั้น เมื่อเทียบกับผู้ที่ยังต้องเดินทางไปทำงานตามปกติอยู่ที่ 65.9%
    .
    ในส่วนของค่าตอบแทนนั้น องค์กรส่วนใหญ่มีแผนปรับเงินขึ้นเงินเดือนตามปกติถึง 48.2% และปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย 28.9% , ไม่มีแผนปรับขึ้นเงินเดือน 18.1% ยังไม่ได้ข้อสรุป 3.2% ส่วนปรับเงินลดลงอยู่ที่ 1.6% ทั้งนี้หลายบริษัทมีแผนที่จะปรับเพิ่มสวัสดิการเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์การทำงานมากขึ้น เช่น ให้พนักงานสามารถทำงานที่ไหนก็ได้โดยที่ไม่ต้องเข้าออฟฟิศ ยืดหยุ่นเวลาการทำงาน สวัสดิการการกู้ เป็นต้น ถึงอย่างนั้นก็จะมีการลดสวัสดิการในส่วนอื่นลงเช่นกัน
    .
    81% ของพนักงาน มีแผนในการหางานใหม่! โดยแบ่งออกเป็น หางานใหม่อย่างจริงจัง 26.4% เปิดโอกาสสำหรับงานใหม่ 55.4% และไม่ต้องการงานใหม่ 18.2% โดยเรื่องของ “เงินเดือน” เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ต้องการเปลี่ยนงาน ตามาด้วย เรื่องความก้าวหน้า สวัสดิการ สภาพแวดล้องและวัฒนธรรมองค์ รวมถึงความท้าทายในตัวงาน ซึ่งจากผลสำรวจพบว่า พนักงานที่ต้องการเปลี่ยนงานแต่ลังเล เนื่องจากไม่แน่ใจว่าที่ทำงานใหม่จะดีกว่าที่เดิมหรือไม่ในทุกๆ ด้าน
    .
    เด็กจบใหม่หางานยาก? ผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้เกิดอัตราการว่างงานสูง ประกอบกับนักศึกษาที่พึ่งจบออกมาในปีที่แล้ว ทำให้สภาวะ“การแข่งขันในตลาดแรงงานสูงขึ้น”ตามมา จากผลสำรวจนั้นพบว่ามีนักศึกษาถึง 44% ที่หางานมาแล้ว 1-3 เดือน , 31.9% หางานมาแล้ว 4-6 เดือน และ 9.8% หางานน้อยกว่า 1 เดือน โดยไม่โดนเรียกสัมภาษณ์เลยถึง 36.2%, และได้รับการสัมภาษณ์แล้วแต่ไม่ผ่าน 35.4%
    .
    ซึ่งทักษะที่องค์กรพิจารณาในเด็กจบใหม่นั้นประกอบไปด้วย 1.การเรียนรู้และเปิดรับสิ่งใหม่ 2. การทำงานร่วมกับผู้อื่น 3.การสื่อสารและการถ่ายทอด 4. ความคิดสร้างสรรค์ 5. ความสามารถในการวิเคราะห์ ประเมิน และวิพากษ์สิ่งต่าง ๆ
    .
    สำหรับสายงานที่เปิดรับนักศึกษาจบใหม่มากที่สุด ได้แก่ งานขาย งานช่างเทคนิค งานบริการลูกค้า งานผลิต/ควบคุมคุณภาพ และ งานวิศวกรรม
    .
    โดยที่ในปีนี้การสรรหาบุคลากรเข้ามาทำงานในองค์กรนั้นมีความเข้มข้นมากขึ้น เนื่องจากบริษัทจำนวนมากมีมาตรการที่จะลดค่าใช้จ่ายลงโดยการ ปลดพนักงาน ลดสวัสดิการ ส่งผลให้จำนวนคนว่างงานที่มากขึ้นพร้อมทั้งอัตราการรับสมัครงานที่น้อยลง ดังนั้นสำหรับคนที่กำลังมองหางานอยู่ควรที่จะต้องเตรียมตัวและพร้อมปรับตัวอยู่ตลอดเวลา ในเรื่องของการทำเรซูเม่ผลงานให้โดดเด่นและน่าสนใจ บุคลิกภาพเมื่อไปสัมภาษณ์งาน การอธิบายประสบการณ์ให้เข้ากับสายงานที่ไปสมัคร และสิ่งสำคัญคือต้องหมั่นฝึกฝนเพื่อเพิ่มทักษะใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ให้กับตนเอง เพื่อที่วันนึงมีการนัดสัมภาษณ์งานเกิดขึ้น คุณจะพร้อมและสามารถคว้าเอาโอกาสนั้นมาได้
    .
    ที่มา : https://bit.ly/3j5v9jG
    #อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan #อายุน้อยร้อยล้านNEWS #โควิด #แรงงาน #เศรษฐกิจ #ประเทศไทย #ตกงาน #สมัครงาน #หางาน #นักศึกษาจบใหม่ #ว่างงาน #คนว่างงาน

  • jobthai 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文

    2020-12-17 20:59:23
    有 7,891 人按讚

    Kerry Express X ลงทุนแมน
    กรณีศึกษา เบื้องหลังการเติบโตของ Kerry Express
    เราคงได้ยินข่าวว่า Kerry Express กำลังเตรียม IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์ในเมืองไทย
    โดยใช้ชื่อย่อหุ้นว่า KEX มีจำนวน 300 ล้านหุ้น
    ซึ่งมีราคาเสนอขายอยู่ที่หุ้นละ 28 บาท

    ซึ่งนั่นหมายความว่าเมื่อ Kerry Express เปลี่ยนจากคำว่าบริษัท “จำกัด” มาใช้คำว่า “มหาชน”
    บริษัทนี้จะมีมูลค่าราวๆ 48,800 ล้านบาท

    ขณะเดียวกันในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา Kerry Express ก็มีรายได้เติบโตก้าวกระโดด
    ปี 2560 มีรายได้ 6,673 ล้านบาท
    ปี 2561 มีรายได้ 13,668 ล้านบาท
    ปี 2562 มีรายได้ 19,895 ล้านบาท
    คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยปีละ 72.7% เลยทีเดียว

    ตัวเลขการเติบโตนี้กำลังบอกกับเราว่าจำนวนคนใช้บริการส่งพัสดุ Kerry Express กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี
    จนวันนี้มียอดส่งพัสดุเฉลี่ยอยู่ที่ 1 ล้านชิ้นต่อวัน
    คำตอบของการเติบโต ก็น่าจะเป็นเรื่องของการสร้างบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าทั่วประเทศ นั่นเอง

    แล้วเคยรู้หรือไม่ว่าแต่ละบริการที่ Kerry Express คิดค้นขึ้นมานั้นมีเรื่องราว
    และแต่ละเรื่องราวนั้น สนุกและน่าสนใจแค่ไหน
    ลงทุนแมน จะเล่าให้ฟัง

    Kerry Express เริ่มต้นธุรกิจในเมืองไทยในปี 2006 หรือเมื่อ 14 ปีที่แล้ว
    โดยเริ่มต้นธุรกิจแบบ B2B หรือการขนส่งสินค้าระหว่างองค์กร
    จำกัดพื้นที่เฉพาะในกรุงเทพฯ โดยหากส่งวันนี้ ก็จะถึงมือผู้รับในวัดถัดไป
    ด้วยจุดขายนี้เองเลยทำให้ Kerry Express มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในกลุ่มบริษัทต่างๆ

    จากทำเลแค่ในกรุงเทพฯ ก็ขยายไปสู่ทั่วประเทศ เมื่อทีมผู้บริหารได้เดินทางไปต่างจังหวัด
    พร้อมกับมีโอกาสได้พูดคุยกับแม่ค้าที่ทำธุรกิจขายน้ำพริกที่มีรสชาติอร่อยลูกค้าต่างชื่นชอบในรสชาติ

    แต่...ปัญหามันอยู่ที่ว่าการจะขนส่งน้ำพริกแต่ละครั้งเพื่อไปขายในตัวเมือง
    ต้องรอให้มียอดออเดอร์มากพอจนเต็มคันรถ ถึงจะคุ้มกับค่าน้ำมันที่ต้องเดินทางหลายร้อยกิโลเมตร
    และไม่ใช่แค่ธุรกิจน้ำพริกเจ้าเดียว แต่ยังมีพ่อค้าแม่ค้าจำนวนมาก
    ที่ต้องเผชิญปัญหานี้ ซึ่งทำให้เสียโอกาสในการขายสินค้า

    ก็เลยทำให้ผู้บริหารตัดสินใจทยอยเปิดสาขาในต่างจังหวัด เพื่อมาแก้ปัญหาเรื่องนี้
    ซึ่งก็ได้ผลเมื่อเจ้าของธุรกิจเล็กๆ ต่างเดินทางมาใช้บริการ Kerry Express เพื่อส่งสินค้าไปยังที่ต่างๆ
    เป็นการทำลายข้อจำกัดในการขายสินค้าได้ดีเลยทีเดียว

    จากนั้นสาขา Kerry Express ก็ค่อยๆ กระจายไปยังจังหวัดต่างๆ จนครบ 77 จังหวัด
    และทำให้คนที่อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองได้มีโอกาสซื้อสินค้าคุณภาพ
    ถือเป็นการช่วยลดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนในตัวเมืองกับคนนอกเมือง

    ที่นี้ก็มาถึง “จุดเปลี่ยน” สำคัญที่ทำให้คนไทยได้รู้จักแบรนด์นี้ทั่วประเทศ
    เมื่อความเร็วของ Internet บนมือถือ ได้ทำให้โลกธุรกิจ E-Commerce แจ้งเกิดเต็มตัว
    สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือเราได้เห็นคนทั่วไปจนถึง SME ขนาดเล็กที่ไม่มีหน้าร้าน เกิดขึ้นมากมาย
    เพราะทุกคนมองว่านี้คือ “โอกาส” ของตัวเอง

    เพียงแต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า ณ เวลานั้น
    ตลาดขนส่งพัสดุแบบ C2C หรือ จากคนขายทั่วไปสู่ลูกค้ามีตัวเลือกค่อนข้างจำกัด

    แน่นอนหากเราเป็น Kerry Express ก็ย่อมเห็นโอกาส เข้ามาตอบโจทย์เทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้น
    ก็เลยทำให้ในปี 2013 ได้เปิดสาขาแรกย่าน อโศก เพื่อบริการลูกค้า C2C
    จากนั้นก็ค่อยๆ ขยายสาขาตามอัตราการใช้บริการที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต่อเนื่อง
    จนในที่สุด Kerry Express ก็มี 15,000 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ

    ความน่าสนใจอีกอย่างคือ Kerry Express รับรู้ถึง PainPoint ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างดีลการตกลงซื้อขาย
    แล้วปัญหานั้นมันคืออะไร?

    สิ่งที่ทำให้พ่อค้าแม่ค้าหน้าใหม่ขายสินค้าได้ยากก็คือ ลูกค้ากลัวโดนโกงโอนเงินไปแล้วไม่ได้รับสินค้า
    แน่นอน สิ่งที่ลูกค้าต้องการก็คืออยากจะจ่ายเงินเมื่อสินค้ามาอยู่ในมือตัวเอง

    Kerry Express จึงทลายกำแพงขนาดใหญ่นี้ เพื่อให้เกิดดีลซื้อ-ขายง่ายขึ้นกว่าเดิม
    ด้วยเทคโนโลยีที่ชื่อว่า COD เก็บเงินปลายทางมาใช้เป็นรายแรกๆ
    ผลที่ตามมา ดีลซื้อขายประสบความสำเร็จเพิ่มมากขึ้น เพราะลูกค้ามั่นใจว่าจะไม่โดนโกง

    ส่วนปัญหาหนึ่งอีกหนึ่งอย่างก็คือ “หากฉันโอนไว ก็ต้องได้ของไว้”
    เชื่อว่าทุกคนที่ซื้อของออนไลน์ก็ต้องการสิ่งนี้
    ก็เลยทำให้ Kerry Express คิดค้นบริการ Same day ที่สามารถส่งพัสดุในวันเดียวถึงในพื้นที่กรุงเทพฯ
    จากนั้นก็เริ่มขยายโมเดลนี้ไปยัง 77 จังหวัดทั่วประเทศ

    การจะทำแบบนี้ได้นอกจากการมีศูนย์กระจายสินค้าครอบคลุมทุกพื้นที่
    การวางแผนเส้นทางเดินรถจะต้องประมวลข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำ

    แล้วรู้หรือไม่ เวลานี้เราใช้บริการ Kerry Express โดยไม่ต้องใช้เงินสดก็ได้
    ซึ่งเป็นไปตามเทรนด์ของโลก เมื่อวันนี้ เราหยิบเงินสดน้อยลงกว่าในอดีต
    ก็เลยทำให้เวลานี้เราจ่ายค่าบริการ Kerry Express นอกจากเงินสดแล้ว ก็ยังสามารถจ่ายผ่าน QR Payment
    Rabbit Line Pay บัตรเครดิตและเดบิต เป็นต้น

    ถึงตรงนี้ก็ต้องยอมรับว่า หากไม่มีสารพัดบริการของ Kerry Express มาปิดช่องโหว่การซื้อขายออนไลน์
    ตลาด E-Commerce เมืองไทยคงไม่โตระเบิดเหมือนอย่างในวันนี้

    แล้วเราได้เรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้
    หากเราทำธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง สิ่งสำคัญที่สุดคือการมองถึงความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
    จากนั้นเมื่อเรามองเห็น ก็สร้างสินค้าและบริการมาแก้ปัญหาและตอบโจทย์ลูกค้า

    หากเราทำได้ วันหนึ่งเราอาจสร้างธุรกิจจนประสบความสำเร็จ
    เหมือนอย่าง Kerry Express ก็เป็นไปได้

    ปิดท้ายข้อมูลที่น่าสนใจ: Kerry Express เริ่มต้นธุรกิจในเมืองไทย ด้วยพนักงานไม่ถึง 200 คน ปัจจุบันมีพนักงานกว่า 20,000 คน โดยพนักงานส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่อายุเฉลี่ยประมาณ 28 ปี
    โดยข้อมูลจาก Jobthai ยังเปิดเผยว่าในปี 2020 ที่ผ่านมา บริษัทแห่งนี้ติด 1 ใน 5 บริษัทที่มีคนสมัครงานมากที่สุด

  • jobthai 在 Ceemeagain Youtube 的最佳解答

    2014-08-15 02:45:20

    เรื่องเด่นเย็นนี้ Weekly C3 onair 2014/08/10 ปีทองของการเล่นเกมส์บนมือถือ อุตสาหกรรมที่น่าจับตา สัมภาษณ์ผู้บริหารดิสนีย์
    - TDRI เผยอุตสาหกรรมซอฟแวร์ไทยโตต่อเนื่อง
    - งาน Echelon 2014 แอพถามครู คว้ารางวัล 20 ล้านบาท
    - Facebook ปล่อยคลิปโปรโมทท่องเที่ยวไทยยอดคนกดไลค์ทะลุแสนไลค์
    - Jobthai รุกตลาดมือถือ เปิดตัวแอพหางาน

    ติดตาม Weekly C3 ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ในรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ เวลาประมาณ 17.30 น. ทางช่อง 3 หรือย้อนหลังผ่านช่องทางนี้
    Please Subscribe:http://Youtube.com/chatpawee
    http://Facebook.com/chatpawee
    http://Twitter.com/ceemeagain
    http://Google.com/+ceemeagainchatpawee
    ติดต่อโฆษณากับรายการ : Sociallab.co.ltd 091-819-7925

    --------------------------------------------------

你可能也想看看

搜尋相關網站