雖然這篇Ivalice鄉民發文沒有被收入到精華區:在Ivalice這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章
在 ivalice產品中有3篇Facebook貼文,粉絲數超過90萬的網紅Team Secret,也在其Facebook貼文中提到, Congratulations to the Winners of our #SecretRift Scouting Grounds Tournament 🔥 🏆 GRAND CHAMPION - TEAM REBENGGA (azar, rebengga, ivalice, mirmoo, ...
同時也有2部Youtube影片,追蹤數超過4,250的網紅Basil Channel【山森バジル】,也在其Youtube影片中提到,Support the stream: https://streamlabs.com/kamayakipizza TwitterID:@pizza_game123 FF14...
-
ivalice 在 Basil Channel【山森バジル】 Youtube 的最讚貼文
2020-02-16 16:33:17Support the stream: https://streamlabs.com/kamayakipizza
TwitterID:@pizza_game123
FF14 -
ivalice 在 Basil Channel【山森バジル】 Youtube 的最佳貼文
2020-02-16 03:53:31Support the stream: https://streamlabs.com/kamayakipizza
TwitterID:@pizza_game123
FF14
ivalice 在 Team Secret Facebook 的最讚貼文
Congratulations to the Winners of our #SecretRift Scouting Grounds Tournament 🔥
🏆 GRAND CHAMPION - TEAM REBENGGA
(azar, rebengga, ivalice, mirmoo, xdxp)
🏆 2ND PLACE - EXOSEN AND FRIENDS
(trebor, yuri, exosen, chewy, ellsant)
🏆 3RD PLACE - PAYBTAWSAN ESPORTS
(naid, haachamachama, shes baited, jonesph, 100rjuqq)
🏆 4TH PLACE - TEAM NO PRACTICE
(izaac, chaaz, showmakerzzz, marky, orthos)
Thank you #SecretFam and to our sponsors' CORSAIR and Secretlab for supporting this event! 🏴
And to our awesome casters Sh1n Boo, GG Sphere and Asurai 🔥
Follow Secret Philippines for more updates!
#TeamSecret #WildRift
ivalice 在 Taepoppuri Facebook 的最佳解答
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
FF XII (Ivalice) & XIV
แม้ทั้งสองเกมไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันโดยตรง แต่ทั้งสถานที่และชื่อสำคัญจากภาค 12 (หรือภาคอื่นในจักรวาลอิวาลิซ) ก็โผล่มาหลายครั้ง วันนี้จะพูดถึงการอ้างอิงองค์ประกอบหลายๆอย่างจากภาค 12 ในภาค 14 ค่ะ
.
.
.
=Ascians=
สำหรับชื่อตำแหน่งและกลิฟ (glyph สัญลักษณ์สีแดงประจำตัวแต่ละตำแหน่ง) ของเหล่าแอสเซี่ยน เมื่อหลายปีก่อนในภาค ARR ตอนที่ผู้เล่นได้รู้จักลาฮาแบรครั้งแรก คนที่เล่นภาค 12 มาก็พอจะเดาได้ทันทีว่าแอสเซี่ยนสิบสองคนที่เหลือนั้นชื่ออะไร เพราะทั้งชื่อและกลิฟมีที่มาจากไซออนที่เป็นแอสเปอร์ (มนต์อสูร) ของภาคดังกล่าว
.
ในเนื้อหาของภาค 12 นั้น มีเผ่าเทพระดับสูงซึ่งคอยดูแลชี้นำมนุษย์ทั้งหมด เผ่านั้นมีนามว่า โอคิวเรีย เป็นสิ่งมีชีวิตลึกลับทรงภูมิปัญญา
.
ร่างกายพวกโอคิวเรียที่เราเห็นในเกม คือหมอกควันสีดำ มีเปลือกประดับลวดลายคล้ายเกราะ มีดวงตาเรืองแสง พูดเสียงก้องดังฟังยาก อาศัยอยู่ในกิรุเวกันบนฟ้า แทบไม่มีใครรู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของพวกโอคิวเรีย
.
โอคิวเรียสร้างเหล่าไซออนขึ้นมาทั้งฝั่งความมืดและแสงสว่าง พร้อมมอบพลังให้ แต่แล้วไซออนตนหนึ่งชื่อว่า อัลติม่า ก็ก่อกบฏ รวบรวมเหล่าไซออนแห่งความมืดตนอื่นๆเพื่อจะโค่นล้มโอคิวเรีย
.
เมื่อพวกกบฏพ่ายแพ้จึงถูกส่งไปผนึกไว้ที่เดอะมิสต์ จนอาเช่และพวกไปพบกลิฟของเจ้าพวกนี้ตอนหลังและเรียกมาใช้งานในฐานะแอสเปอร์ คร่าวๆก็ประมาณนี้
.
โดยเหล่าแอสเซี่ยนในภาค 14 ใช้ชื่อตามไซออนแห่งแสงของภาค 12 เมื่อก่อนก็งงกันว่าตัวร้ายทำไมไม่ใช้ชื่อของไซออนฝั่งความมืด หรือว่าทีมงานไม่อยากใช้ซ้ำกับแอสเปอร์ภาค 12?
.
พอจบ Shadowbringers ก็มีเหตุผลให้เข้าได้ใจได้เพิ่มว่าแต่เดิมเหล่าแอสเซี่ยนเป็นผู้นำดวงดาว เคยเป็นฝ่าย’ดี’มาก่อน.. อันที่จริงเอเม็ทเคยบอกว่าแสงสว่างกับความมืดไม่ได้มีขั้วดีหรือไม่ดี คนชอบตีความไปเอง แต่ประเด็นนั้นไว้วันหลังเดี๋ยวจะยาว
.
และจุดที่น่าสนใจคือ ฉายาหรือราศีของแอสเปอร์แต่ละตัวในภาค 12 บางทีก็มีการนำมาใช้ประกอบบทบาทในภาค 14 ด้วยเช่นกัน ลองดูตัวอย่าง
.
ลาฮาแบร
ขั้วตรงข้ามของมนตร์อสูร มาทีอุส
ฉายา Abyssal Celebrant ตามบทบาทของลาฮาแบรที่พยายามจะสร้างหายนะทำให้โลกตกอยู่ในก้นบึ้งความโกลาหล ส่วนธาตุประจำตัวคือน้ำแข็ง แต่ในภาค 14 เราต้องมีบัฟน้ำแข็งถึงจะตีลาฮาแบรเข้านะ lol
.
นาบริเอเลส
ขั้วตรงข้ามของ คูคาเลนน์
ฉายา The Majestic ..ในเรื่องและลอร์บุคบอกว่านาบริเอเลสมีพลังน่าเกรงขามเลยชอบทำอะไรบุ่มบ่ามย่ามใจ สุดท้ายตายเพราะประมาทไม่คาดคิดว่าพวกมินฟิเลียจะหาวิธีขังวิญญาณแอสเซี่ยนแล้วทำลายได้ (เนื้อเรื่องแพทช์ 2.x) นอกจากนี้ทั้งคูคาเลลน์กับนาบริเอสมีราศีพิจิก หากสังเกตที่หน้ากากของนาบริเอเลสจะเห็นว่ามีลักษณะคล้ายแมงป่องด้วย
.
เอเม็ทเซลค์
ขั้วตรงข้ามของ ซาเลร่า
ฉายา Angel of Truth มาบอกความจริงที่มนุษย์ไม่อยากฟัง ธาตุประจำตัวคือความตาย ตรงกับประเด็นหลักของตัวละครเอเม็ทเช่นกัน ความตายของเพื่อนพ้อง&ดวงดาวเก่า สุดท้ายคือราศีคนแฝด นอกจากเป็นตัวละครที่มีบุคลิกสองแบบ ยิ้มยวนกวนประสาท / หดหู่ซึมเศร้า สังเกตว่าร่างเฮดีส เอเม็ทมีหน้ากากเด่นสองอัน อันนึงหน้ายิ้ม อันนึงหน้าร้องไห้ (สัญลักษณ์ราศีเจมินี่)
.
.
สำหรับโซดิอาร์ค ในภาค 12 เป็นไซออนที่ไม่ได้กบฏกับเขาแต่โดนปิดผนึกเพราะทรงพลังมากเกินไปจนเป็นอันตราย ส่วนเอลิดิบัส ไม่ได้มาจากภาค 12 แต่มาจากภาคแทคติกส์ เป็นบอสลับที่มีท่าซัมมอนโซดิอาร์ค เพราะแบบนี้เอง ก่อนหน้านี้จึงแฟนๆเดากัน(มาหลายปี)ว่าเอลิดิบัสใน 14 น่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับโซดิอาร์คเป็นพิเศษมากกว่าแอสเซี่ยนตนอื่น จากเมนเควสแพทช์ล่าสุด...ก็โป๊ะเชะแล้ว มายังประเด็นถัดไป
** Warning - สปอยล์เนื้อเรื่องหลักแพทช์ 5.2 มากมาย**
.
.
.
=Venat=
เวนาท์ ตัวละครสำคัญในภาค 12 เป็นโอคิวเรียตนหนึ่งที่คิดว่าเผ่าโอคิวเรียไม่ควรมาคอยดูแลชี้นำประวัติศาสตร์ของคน จึงขัดแย้งกับเกรุน (ผู้นำโอคิวเรีย) และแยกตัวออกจากกลุ่มมาหาฝ่ายมนุษย์
.
ความสำคัญของเวนาท์คือ
มันเป็นตัวร้าย! (?)
แรงจูงใจของเวนาท์ผู้เขียนปล่อยไว้ให้ตีความได้หลายแบบ ข้อมูลที่ปรากฏในเกมบอกแค่ว่า สำหรับเวนาท์ เผ่าโอคิวเรียไม่ได้อยู่อาศัยร่วมมิติเดียวกับมนุษย์ ก็ไม่ควรจะมาคอยควบคุมอยู่เบื้องหลัง ควรปล่อยให้ชะตากรรมตกเป็นผลของการกระทำของคนเอง
.
บางคนบอกว่าเวนาท์เป็นเทพมาโปรด แต่บางคนก็บอกว่าเวนาท์ยึดอุดมการณ์ที่จะตัดสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และโอคิวเรียเป็นหลัก ไม่ได้ทำไปเพราะความหวังดีหรือสงสารมนุษย์
.
เพราะการที่เวนาท์ไปร่วมมือกับเวย์นโซลิดอร์ที่เป็นผู้นำจักรวรรดิในภาคนั้นก็ทำให้มีผู้คนล้มตายมากมายมหาศาล ประเทศต่างๆถูกรุกราน โดยไม่ได้สนใจว่ามนุษย์ในยุคสงครามนี้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไร และเวนาท์ก็ไม่ได้เชื่อคำพูดของเวย์นสักนิด ที่อ้างว่าจักรวรรดิควรจะเป็นชาติที่นำมนุษย์ไปสู่ความรุ่งเรือง เป็นแผนซ้อนแผนที่ทำให้อาเช่เคลื่อนไหวไปหาความจริงจากเกรุน
.
ซึ่งสุดท้ายอาเช่และพวกก็ทำลายศิลาแสงอาทิตย์สำเร็จ (โดนพี่เหม่งขโมยซีน) ทำให้โอคิวเรียไม่มีอิทธิพลต่อชะตากรรมของมนุษย์อีกต่อไป เป็นผลลัพธ์เดียวกันกับที่เวนาท์ต้องการ แต่วิธีการและแรงจูงใจต่างกัน
.
เมื่อมนุษย์ปกครองกันเองอยู่กันเอง ก็ทำให้โลกอิวาลิซเข้าสู่การเสื่อมสลายลงอย่างช้าๆ ไล่ไทม์ไลน์ไปจากภาค 12 > Tactics > Vagrant Story ความเจริญรุ่งเรืองกลายเป็นอดีต เทคโนโลยีถดถอยลง ศาสตร์แห่งเวทสูญหายไป ชวนให้ครุ่นคิดว่าสุดท้ายแล้วการตัดขาดจากโอคิวเรียเป็นเรื่องที่ส่งผลเสียหรือผลดีมากกว่ากัน
.
.
สำหรับภาค 14 เนื้อเรื่องหลักเพิ่งเปิดเผยว่ามีชาวโบราณที่ชื่อว่าเวนาท์ มาดูบทพูดในคัทซีนสำคัญของ 5.2 กันก่อน
.
.
= ภาพบันทึกโบราณ =
‘ขอบคุณพวกเจ้าทั้งหลายที่มารวมตัวกัน ในสถานการณ์ที่ยากลำบากยิ่ง…’
‘การที่โซดิอาร์คถูกอัญเชิญ หายนะถูกเลื่อนออกไป
กระนั้นมันก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงชะตากรรมในที่สุดของผองเราได้’
‘ถูกต้อง หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ชะตากรรมของเราก็ยังต้องมีอันเป็นไปในที่สุด’
‘ข้าได้บอกเหล่าสมาชิกผู้นำเช่นนั้น แต่พวกเขาเมินเฉยต่อคำเตือนของข้า..ช่างตื้นเขินและดื้อรั้น’
‘ข้าเองคาดหวังให้’ผู้แปรพักตร์’ มาเข้าร่วมกับเรา... แต่คำเชิญชวนที่เราส่งไป หาได้รับการตอบกลับแต่อย่างใด’
‘เราจะเดินหน้าต่อไปอย่างไรดี เวนาท์?
ขอเพียงท่านนำทาง พวกเราพร้อมติดตาม’
‘...
ข้าจะไม่ว่าร้ายเหล่าผู้นำ
พวกเขา..ก็เหมือนเรา
ใฝ่หาหนทางเพื่ออนาคตของดวงดาวเช่นกัน’
‘แต่ก็เห็นได้ว่า พวกเขาไม่พร้อมจะเลือกทางแก้ไขที่ยั่งยืน เมื่อเป็นเช่นนั้น.. พวกเจ้าต้องถามตนเอง ว่าพร้อมแล้วหรือ? ต่อให้หนทางข้างหน้า...จักถูกประณามจากพี่น้องผองเราชั่วนิรันดร์’
‘หากพวกเจ้าพร้อมแล้ว.. ก็เริ่มกันเถิด’
‘พวกเราจะนำพาแสงสว่างมา
แสงที่จะคอยคอนอำนาจความมืดไปตลอดกาล’
.
.
.
‘เวนาท์ ทำไมต้องเป็นเจ้า..จะเป็นใครอื่น ใครก็ได้ในหมู่เรา ท่านเป็นผู้นำของเรา ไม่มีใครแทนท่านได้’
‘เจ้ารู้ดี ว่าเหล่าผู้ที่เชื่อมั่นในวิถีของพวกเรามีน้อย น้อยกว่าเหล่าผู้เชื่อมั่นในโซดิอาร์คมากนัก หากจะทำให้ไฮเดลีนมีอำนาจทัดเทียมกับเขาได้ ก็มีเพียงข้าเท่านั้น ที่จะพอจะคู่ควรกับการเป็นหัวใจของไฮเดลีน’
‘อย่าห่วงไปเลย ใช่ว่าข้าจะหายจากไปจนหมดสิ้นเสียหน่อย รูปลักษณ์ที่ข้าเลือก ก็จะยังคงเป็นการตัดสินใจของข้าอยู่’
‘...หากเจ้ายืนยันหนักแน่นแล้ว
ข้าก็ไม่ขัด…
แต่จงรู้ไว้ว่าเราจะคิดถึงเจ้ามาก..’
‘อา..เหล่าผู้นำก็รู้สึกเช่นนี้หรือเปล่า
ตอนที่ต้องเสียสละอิลิดิบัส …’
.
.
.
ก่อนหน้านี้เอเม็ทเซลค์เคยเล่าว่า ไฮเดลินถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นเหมือนโซ่ตรวนของโซดิอาร์ค และเนื้อเรื่องก็เคยบอกว่าทั้งสองเทพเคยดำรงอยู่เคียงคู่กัน ไม่ใช่ไฮเดลินเกิดมาก็กระโดดถีบทันที เลยคิดว่าเหตุการณ์ The Sundering ไฮเดลินแยกส่วนโซดิอาร์คและโลกเป็นสิบสี่ส่วนไปพร้อมกันนั้นเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิด
.
แต่จากที่เวนาท์บอกว่า ‘ต่อให้หนทางข้างหน้า...จักถูกประณามจากพี่น้องผองเราชั่วนิรันดร์’..ชวนให้สงสัยว่า พวกเวนาท์รู้และเจตนาอยู่แล้วหรือเปล่าว่าจะเกิด The Sundering?
.
ซึ่งจากคัทซีนสองฉากดังกล่าว จะรู้สึกได้บทบาทล้อไปกับบทดั้งเดิมในภาค 12 พอสมควร
คือเธอให้น้ำหนักกับอิสระของมนุษย์สูงสุด แม้จะต้องอยู่ในสภาพที่ไม่รุ่งเรืองเหมือนเดิม ในที่นี้ก็คือ อยู่แบบเศษเสี้ยววิญญาณและไปเริ่มต้นอารยธรรมใหม่โดยไร้ความทรงจำเดิม ยังดีกว่าอยู่โดยมีอิทธิพลจากโซดิอาร์ค
.
เวนาท์ที่เป็นแกนหลักในการต่อต้านโซดิอาร์ค จนสุดท้ายกลายเป็นหัวใจของไฮเดลีน ก็จะเป็นแกนหลักของพล็อตในอนาคตต่อไป
บางคนเดาว่าไอ้คนฮู้ดขาวที่ไปเข้ากับเซนอสแล้วยุให้เซนอสไปจัดการโซดิอาร์ค คือเวนาท์ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง แต่ส่วนตัวเราคิดว่ายังไม่เข้าแก๊ปนัก (มีคนแงะหน้าตาใต้ฮู้ดมาให้ดูแล้วก็เอ่อ...ทำม๊ายย)
.
แล้วก็ได้ข้อมูลใหม่อีกข้อ ก่อนหน้านี้เข้าใจว่า WoL ในยุคโบราณคือคนอัญเชิญไฮเดลิน แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว โดย ‘คนแปรพักตร์’ ที่ลูกทีมเวนาท์พูดถึง ก็คือ WoL ในอดีต ที่ไม่เข้าฝ่ายไหนเลย (แล้วเอ็งทำอะไรฟะ)
.
สุดท้ายคือ เอลิดิบัส คือปูมานานนนนมากกก สปอตไลท์เริ่มจะมาจับ (อย่าแป๊กนะเว้ย) เสียสละเป็นหัวใจของโซดิอาร์ค เกิดเป็นข้อสงสัยว่า แล้วเอลิดิบัสตัวที่เรารู้จักคืออะไร พวกไซออนสันนิษฐานว่าหรือเป็นผู้สืบทอดชื่อตำแหน่ง แต่ยาชโตล่าบอกว่าไม่น่าใช่
.
.
.
สุดท้ายแล้วเวนาท์ในภาค 14 จะดำเนินบทบาทเป็นตัวร้ายตามภาค 12 หรือไม่? แผนของเอลิดิบัสคนปัจจุบันคืออะไร แล้วเมื่อไหร่จะย้อนอดีต WoL ซะที เก๊าะ please looking forward to it, SQEX style ค่ะ
ป.ล. เวนาท์ใน 14 เดาว่าเป็นผู้หญิงจากเสียง ของภาค 12 เวนาท์ก็เสียงเพศหญิงเหมือนกัน (แต่อันที่จริงโอคิวเรียไม่มีเพศนะ)
#FF14 #Shadowbringers
ivalice 在 Taepoppuri Facebook 的最佳貼文
FINAL FANTASY XIV STORMBLOOD
อัพเดตข้อมูลจากงานFan Fest ที่ Tokyo
.
วางจำหน่ายวันที่ 20 มิถุนายน 2560 จะเปิดให้พรีออร์เดอร์ได้ในวันที่ 24 เดือนมกราคมที่จะถึงนี้
.
หนึ่งในอาชีพใหม่ เร้ดเมจ !
.
เป็นRanged DPS อาวุธคือเรเปียร์และคริสตัล ผสมผสานการใช้เวทย์กับการโจมตีด้วยดาบ เป็นคลาสที่มีสกิลซัพพอร์ตด้วย ตามคอนเซป แบลคแมจ+ไวท์เมจ ไฮบริด
.
Collector's Edition แบบกล่องจะมีฟิกเกอร์ของZenos (ผู้นำกองทัพฝ่ายจักรวรรดิ) อาร์ตบุค แผนที่ผ้า ส่วนแบบดิจิตอลจะแถมมิเนี่ยนบาร์ทซ์ ตัวเอกจากภาค5 และmountใหม่ ซิลดร้า (ไฮดร้าจากภาค5)
.
หนึ่งในไพรมอลใหม่ พระลักษมี เป็นเทพประจำเผ่าอนันตา (มนุษย์งู)
.
เหรดเอ็นด์เกมในภาคนี้คือ โอเมก้า
.
เหรด 24คนคือ Ivalice! ได้รับความร่วมมือช่วยเขียนเนื้อหาจาก ยัตสึมิ มิสุโนะ ผู้สร้างซีรีย์ในโลกของอิวาลิซเองเลย (ผกก. FFTactic, FFXII)