[爆卦]Hydroxyl group是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇Hydroxyl group鄉民發文沒有被收入到精華區:在Hydroxyl group這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 hydroxyl產品中有19篇Facebook貼文,粉絲數超過0的網紅,也在其Facebook貼文中提到, PEEL DA RENI CÓ CHỨA NHỮNG THÀNH PHẦN NÀO ⁉️⁉️⁉️ Peel dza là quá trình tác động của các hợp chất tự nhiên giúp loại bỏ tế bào chết, bụi bẩn kẹt sâu d...

 同時也有2部Youtube影片,追蹤數超過168萬的網紅Ketchup Jo,也在其Youtube影片中提到,การทดลองหลังบ้านครั้งนี้ ผมจะมาจุดไฟด้วยแอลกอฮอล์!!! หลายคนคงรู้แล้วว่า แอลกอฮอล์สามารถช่วยให้ติดไฟได้ แต่วันนี้ ผมจะมาจุดไฟในขวดแก้วที่มีแอลกอฮอล์!! ...

hydroxyl 在 Renee Ng ?? Content Creator Instagram 的最佳貼文

2020-11-02 12:55:16

女人对美肤的要求永远都是贪心的😛 Thanks @watsonsth for sending me Dr.Wu Mandelik Renewal Treatment Set ! • Every skin care routine should start from Face cleansing! 🔺...

hydroxyl 在 I’m inlove w/ Jaokha&Jaokhun ? Instagram 的最讚貼文

2020-05-11 13:22:17

วันนี้ได้เครื่องฆ่าเชื้อโรคที่ฆ่าได้ทั้งไวรัสและแบคทีเรีย ที่คิดค้นมาจากประเทศสเปน ดีมากเลยค่ะ ช่วงนี้โควิดระบาดยิ่งต้องดูแลตัวเองกันเป็นพิเศษเลยค่ะ ...

hydroxyl 在 Emica Thong, 童彤?? Instagram 的最佳解答

2020-05-03 00:27:13

🧡 G I V E A W A Y 🧡 It‘s a set of PRO’S skin care products & my skin is currently in love with it! 💕 . After using it for two weeks, my skin feels lik...

  • hydroxyl 在 Facebook 的最佳解答

    2021-09-11 08:46:25
    有 30 人按讚

    PEEL DA RENI CÓ CHỨA NHỮNG THÀNH PHẦN NÀO ⁉️⁉️⁉️

    Peel dza là quá trình tác động của các hợp chất tự nhiên giúp loại bỏ tế bào chết, bụi bẩn kẹt sâu dưới lỗ chân lông và thay mới làn dza bằng cách thúc đẩy tái tạo tế bào. Với Peel da Reni, có ba loại hợp chất chính được sử dụng:

    🔻 AHA (Alpha Hydroxy Acid): Là một trong nhóm các axit gốc tự nhiên trong các loại thực phẩm. AHA có công dụng khác nhau như tẩy tế bào chết, loại bỏ lớp tế bào trên cùng làm sáng và mịn da, hỗ trợ trị nám trị mụn, sẹo mụn,...

    🔻 BHA (Salicylic Acid): hay còn được gọi là Beta Hydroxyl Acid, là một dạng axit gốc dầu. BHA đặc biệt hiệu quả mạnh với vấn đề mụn, giảm sự tắc nghẽn bã nhờn nhằm cải thiện mụn đầu đen, đồng thời cải thiện cấu trúc da, tái tạo và se khít lỗ chân lông.

    🔻 PHA (Polyhydroxy Acid): Cũng là một nhân tố tẩy tế bào chết hiệu quả, PHA giảm sự kích ứng và phù hợp sử dụng với da nhạy cảm. Ngoài ra PHA còn có chức năng dưỡng ẩm, kháng khuẩn và bảo vệ da khỏi các tác nhân gây mụn.

    Được điều chế ở tỷ lệ an toàn, mặc dù có cả ba thành phần nổi trội trong khả năng tẩy tế bào chết hóa học.

    Bên cạnh đó, Peel da Reni lại dịu nhẹ với nồng độ thấp hơn những hãng khác để phù hợp sử dụng cho dza tổn thương, dza nhạy cảm.

  • hydroxyl 在 Facebook 的最佳解答

    2021-07-16 09:19:17
    有 125 人按讚

    譚新強:維珍銀河開太空旅遊新時代 是福還是禍?
    文章日期:2021年7月16日

    【明報專訊】恭喜維珍創辦人布蘭森(Richard Branson,也預祝7月18日他的71歲生日快樂)創下太空旅遊壯舉,7月11日,乘坐他自己旗下維珍銀河(Virgin Galactic)的團結號(VSS Unity)飛船,成為了第一位進入「太空」的富豪(billionaire)!另一有太空夢的富豪馬斯克(Elon Musk),去了新墨西哥州(New Mexico)為布蘭森打氣兼送行;連輸了牙骱戰的另一富豪貝索斯(Jeff Bezos)也有發賀電,但他應該輸得有點不服氣;他也打算在7月20日,乘坐他的藍色起源(Blue Origin)火箭升空,只差9日,更氣憤的是他必認為布蘭森未有真正進入太空。國際標準以100公里高空的卡門線(Karman Line)為界(貝索斯計劃升穿),但美國標準只是50英里,約80公里高度,今次布蘭森的團結號,最高點只飛至約85公里,所以美國認可他已到過太空,但不符合國際標準(其實也不奇怪,美國在任何事情上,都慣性採取雙標)!

    隨着布蘭森今次的成功,正式打開太空旅遊(space tourism)的第一頁。整個旅程只1小時多,直上直落,未進入環繞地球軌道,無重狀態只歷時數分鐘,整個經驗其實較近似主題樂園的過山車!無論如何,布蘭森已號稱圓了人生之太空夢。况且這種極短的「差不多」太空旅程,最適合普羅大眾,毋須太多特殊訓練。乘客承受最大的壓力只約3g,比戰鬥機師高速轉向時承受的9g低很多,所以不需穿抗重力服(Anti-g suit)。

    富豪太空遊具帶頭作用 碳排放量恐大增
    維珍銀河收取的價錢也非常合理,只約25萬美元,全球能負擔此費用的人數以千萬計。布蘭森升空前,已收到約600名客人訂位,相信今次的成功後,必定客似雲來。YOLO(You Only Live Once,你只會活一次)心理驅使下,連我都有點心動!相對下,藍色起源的收費就昂貴很多,拍賣出一個將跟貝索斯同行的乘客座位,價錢竟高達2800萬美元!是否因為包含一個世界首富當伴遊溢價?

    有分析師估計,現在太空旅遊業的價值已約2500億美元,未來將高速增長,到2030年,將升至8000億美元。除現階段這類無聊的「Space trip to nowhere」外,SpaceX和維珍銀河等,都有計劃發展較具實際運輸用途的次軌道太空飛行(Sub-orbital Spaceflights),如成功,北京飛紐約只需兩小時(大家請記住,即是說,比洲際導彈需時更短,因不需減速降落)!

    太空旅遊當然吸引,但對地球有何影響?是否值得呢?布蘭森、貝索斯和尤其馬斯克,都自稱綠色戰士,支持環保和致力阻止氣候變化。但自從早前馬斯克大搞Bitcoin和Dogecoin等超秏能加密貨幣一役後,大家已知道他有點虛偽,經常自相矛盾和採取雙標。布蘭森自辯稱,他今次太空之旅的碳排放量,只約等如普通民航機來回倫敦及紐約,聽起來不算嚴重。但團結號今次航程200公里不到,倫敦及紐約來回距離約1萬公里,再者團結號只載6人,一般民航機載客近300人。有人計算過,團結號每乘客每英里的二氧化碳排放量為12kg,對比民航機,平均每位商務艙客人每英里的二氧化碳排放量只有0.2kg,差距60倍以上!另外,大家要知道,普通飛行已非常不環保,每位乘客來回倫敦及紐約一次的碳排放量,已約等如人均開私家車1年!3名富豪上太空數次,對氣候變化影響當然不大,但有不良帶頭作用。如太空旅遊變得普及化,影響就將大很多!

    題外話,最近看到一些有關郵輪污染空氣的驚人數據。原來一艘中型郵輪的懸浮粒子(particulate matter, PM)排放量,已等如100萬輛汽車!有個2019年歐洲研究報告顯示,只是一家嘉年華郵輪公司的47艘郵輪,二氧化硫(sulphur dioxide)的排放量,已是2.6億輛歐洲汽車總排放量的10倍!簡直難以置信!原來即使最優質的郵輪燃料,含硫磺量也比歐盟汽車燃油標準高100倍。所以有人形容郵輪為利用最骯髒燃料推動的海上城市。除此之外,郵輪亦已儼然成為傳播各種病毒,包括新冠病毒(COVID)和諾如病毒(Norovirus)等的最佳實驗室。但近日見到有郵輪公司以抽獎遊戲,鼓勵市民接種疫苗,我建議大家參加其他較環保的抽獎遊戲,如商場消費券。其實近日已有人開始呼籲立法禁止郵輪旅遊。

    火箭燃料噴出廢氣 臭氧層傷害難補救
    言歸正傳,太空旅遊除對全球暖化有影響外,若火箭燃料包含端羥基聚丁二烯(Hydroxyl-terminated polybutadiene,​HTPB)和一氧化二氮(Nitrous oxide),更可對臭氧層(Ozone layer)造成難以補救傷害。藍色起源自稱對比維珍銀河的另一優勢正是火箭燃料,他們用氫氣,噴出廢氣只是水蒸氣,而維珍銀河使用化石燃料對臭氧層傷害高百倍!但亦有人指出,製造氫氣的過程中,通常亦會製造大量碳排放。

    若然太空旅遊只是一種沒有實際用途的奢侈品,反而對氣候變化有害,那麼為科學而進行太空探索又值得嗎?我非常支持太空探索,像我經常說,如美中能合作尋找ET,若找到,人類肯定較團結。但不幸,美國不止無意跟中國合作,特朗普在數年前竟成立了全新的太空軍(Space Force)部隊,極可能是違反國際禁止太空軍事化條約的!

    另外,即使要探索太空,技術層面上,人類航天員可說是多餘的,大大增加成本,甚至阻手阻腳。維持生命的系統非常昂貴和複雜,需要氧氣、食物和洗手間等,更麻煩的是太空人需要返回地球,對太空旅程的時間和距離都有極大掣肘(人類駕駛戰鬥機也面對同樣問題)。無人太空探測器(space probe)簡單和成本低很多,更可一去不返,探索太陽系以外的銀河系,科學價值高很多。數十年前,美國的穿梭機,雖曾風摩全球一段時間(周星馳都是靠它走紅!),但最後的結論是浪費了大量資源和好幾條人命,反而剝削了其他更有科學價值的無人太空探測計劃。諾貝爾得獎物理學家溫伯格(Steven Weinberg)甚至認為這是美國停止在得州興建超導超大型加速器(Superconducting Super Collider,SSC)的主因之一,亦自此把實驗物理學的領導地位,拱手相讓給了歐洲核子研究組織(CERN​)。

    探索火星 為人類延續買保險
    我唯一稍為支持的是人類探索火星,不是為了滿足人類的原始探險和征服宇宙欲望,真正出發點是為人類延續買個保險。如人類逆轉不了全球氣候變化,導致大量動植物絕種,和不斷出現各種新型病毒,威脅人類生存,或更簡單,美國繼續盲目攻擊和抹黑中國,最終發生大規模核戰,地球受到嚴重輻射污染,到最後可能真的只可寄望移民火星。

    這計劃的成功機會極微,科學和技術挑戰實在很多。去火星的距離比月球遠得多,旅程最少半年以上,途中很大機會遇上閃焰(solar flares),如太激烈,可能輻射屏蔽(radiation shielding)也沒用,足以殺死航天員。即使成功抵達火星,回程問題更大,因為雖然火星比地球小,但地心吸力為地球的38%,所以要頗大火箭動力才能脫離火星的地心吸力。最可行的計劃是另外發射火箭,把一大堆製造燃料的機器預送到火星,希望能夠利用在火星上的二氧化碳和水,提煉成為甲烷(methane)作火箭燃料,推動太空船回航之甪!佩服此計劃的想像力,但成功機會有多少?

    若想長期留在火星殖民,如何火星地球化(Terraform Mars),是個更大雖題。火星大氣層稀薄,亦缺乏氧氣,表面溫度亦太低,有人科幻式建議利用太陽能(或核彈),把火星的極地冰蓋(polar ice cap)融化,製造大量二氧化碳,或更誇張地找方法把火星其中一個月亮推向火星,利用此撞擊製造大量二氧化碳!這些都是天方夜譚吧!

    發達國家 應訂更進取負碳排放目標
    即使能做到,需時最少數百甚至數千年。但美國似乎冥頑不靈,仍不斷把世界推向第三次世界大戰邊緣,亦有可能美國對氣候變化不負責任,甚至再次退出《巴黎氣候協定》。其實對發達國家而言,2050年碳中和目標是不足夠的,因為發展中國家缺乏能力支付各種技術的「綠色溢價」(Green Premium),亦不應不公道地阻止他們遲起步的發展,所以發達國家應訂下更進取的負碳排放目標。面對這些巨大威脅,人類在地球上,還有多少時間呢?誰也不知道……

    中環資產投資行政總裁
    [譚新強 中環新譚]

    https://www.mpfinance.com/fin/columnist2.php?col=1463481132098&node=1626376778390&issue=20210716

  • hydroxyl 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的精選貼文

    2020-10-27 05:57:10
    有 2,264 人按讚

    "ข่าวใหญ่ด้านอวกาศ : นาซาพบหลักฐานว่ามี "น้ำ" อยู่บนดวงจันทร์"

    หลังจากลุ้นกันว่า นาซ่าจะประกาศข่าวอะไรเมื่อคืน เกี่ยวกับการค้นพบครั้งใหม่ที่ "ดวงจันทร์" คำตอบที่เกินคาดก็คือ มีหลักฐานยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า บนดวงจันทร์ก็มี "น้ำ" อยู่เช่นกัน และจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการไปตั้งถิ่นฐานบนดวงจันทร์ในอนาคต

    ระบบ โซเฟีย หรือ Stratospheric Observatory for Infrared Astronomy (หอดูดาวที่ชั้นบรรยากาศระดับสตราโตสเฟียร์ เพื่อดาราศาสตร์แสงอินฟราเรด SOFIA โซเฟีย) ได้ยืนยันเป็นครั้งแรกว่า เจอน้ำ จากพื้นผิวดวงจันทร์ด้านที่ถูกแสงแดดส่องกระทบ การค้นพบนี้แสดงว่าอาจจะมีน้ำกระจายอยู่ทั่วไป ไม่ใช่มีแต่เฉพาะตรงบริเวณที่เป็นเงามืดหนาวเย็น-ไม่ถูกแดดส่อง เท่านั้น

    ระบบ SOFIA ซึ่งเป็นโครงการร่วมกันระหว่างนาซ่ากับศูนย์การบินอวกาศประเทศเยอรมนี ได้ตรวจพบโมเลกุลของน้ำที่เครเตอร์ (หลุมอุกกาบาต) เคลวิอุส Clavius Crater ซึ่งเป็นหนึ่งในเครเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดบนดวงจันทร์ที่มองเห็นจากโลก โดยอยู่ทางซีกล่างของดวงจันทร์

    ก่อนหน้านี้ เคยมีการค้นพบโมเลกุลของธาตุไฮโดรเจนบ้างแล้ว แต่ไม่อาจจะแยกแยะได้ว่าเป็นน้ำ (H2O) หรือเป็นโมเลกุลของไฮดรอกซิล (hydroxyl, OH) กันแน่

    แต่ข้อมูลจากการค้นพบนี้ระบุว่า ที่สมดังกล่าวมีน้ำอยู่ในความเข้มข้น 100 - 412 ส่วนในล้านส่วน เทียบเท่ากับมีน้ำขวด ประมาณ 355 มิลลิลิตร ฝังอยู่ในดินขนาด 1 ลูกบาศก์เมตร กระจายอยู่บนพื้นผิวของดวงจันทร์ ซึ่งผลการค้นพบเหล่านี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Nature Astronomy

    หรือถ้าจะเปรียบเทียบกันง่ายๆ ทะเลทรายซาฮาร่านั้นมีน้ำอยู่มากกว่าที่ SOFIA ตรวจพบจากดินของดวงจันทร์ประมาณ 100 เท่า แต่ถึงแม้จะมีน้อย การค้นพบครั้งนี้ได้นำไปสู่คำถามใหญ่ว่า มีน้ำเกิดขึ้นบนดวงจันทร์ได้อย่างไร และทำไมมันถึงยังคงอยู่บนพื้นผิวที่ไม่มีอากาศเช่นนั้น

    น้ำ เป็นทรัพยากรอันมีค่ายิ่งยวดในอากาศ แล้วเป็นองค์ประกอบสำคัญของสิ่งมีชีวิต (ในรูปแบบที่เรารู้จัก) ถึงแม้ว่าเรายังไม่รู้ว่าจะสามารถนำน้ำที่ SOFIA ค้นพบนี้มาใช้ได้โดยง่ายหรือไม่ แต่ก็หวังว่ามันจะมีส่วนช่วยเหลือโครงการ Artemis อาร์ทีมิส ของนาซ่า ที่จะส่งนักบินอวกาศหญิงคนแรก และนักบินอวกาศชายคนต่อไป ไปลงยังดวงจันทร์อีกครั้งในปี ค.ศ. 2024 นี้ เพื่อเตรียมการในการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์บนดวงจันทร์อย่างยั่งยืนในช่วงปลายของทศวรรษนี้

    ผลที่ได้จาก SOFIA นี้ เป็นการต่อยอดผลการศึกษาในอดีตถึงการค้นหาน้ำบนดวงจันทร์ เช่น เมื่อนักบินอวกาศของยานอพอลโล Apollo ได้กลับมาจากดวงจันทร์เมื่อปี 1969 นั้นเป็นที่เชื่อกันว่าดวงจันทร์แห้งสนิท ไม่มีน้ำอยู่เลย

    แต่โครงการอื่นๆ ที่ไปโคจรหรือลงกระแทกบนดวงจันทร์ ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เช่นโครงการ Lunar Crater Observation and Sensing Satellite ได้ยืนยันว่าพบน้ำแข็งที่อยู่อย่างถาวร ในหลุมเครเตอร์ซึ่งไม่ถูกแสงแดดส่อง แถวๆ ขั้วโลกของดวงจันทร์

    หลังจากนั้น ยานอวกาศอื่นๆ เช่น โครงการแคสซินี่ Cassini และโครงการ Deep Impact ของนาซ่า รวมไปถึงโครงการ จันทรายาน-1 Chandrayaan-1 ขององค์การอวกาศประเทศอินเดีย ตลอดจนระบบกล้องโทรทัศน์แสงอินฟราเรด (Infrared Telescope Facility) บนภาคพื้นดินของนาซ่า ได้ศึกษาพื้นผิวบนดวงจันทร์และพบหลักฐานของโมเลกุลที่มีไฮโดรเจนในบริเวณที่มีแสงส่องกระทบมากกว่าที่ขั้วของดวงจันทร์ แต่โครงการเหล่านั้นยังไม่สามารถจะแยกแยะได้อย่างชัดเจนว่า มันอยู่ในรูปของ H2O หรือ OH กันแน่

    ระบบ SOFIA ทำให้เรามีวิธีการใหม่ที่จะใช้ศึกษาดวงจันทร์ ด้วยการนำเอาเครื่องบินโบอิ้ง 747SP ที่ติดกล้องโทรทรรศน์ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 106 นิ้ว (2.7 เมตร) ขึ้นบินที่ความสูง 45,000 ฟุต (13.716 กิโลเมตร) เพื่อให้สูงเกินกว่าไอน้ำถึง 99% ของชั้นบรรยากาศโลก เราจะได้เห็นภาพของอวกาศในช่วงแสงอินฟราเรดได้ดีขึ้น ซึ่งจากกล้องโทรทัศน์พิเศษ ที่ชื่อว่า Faint Object infraRed CAmera for the SOFIA Telescope (FORCAST ฟอร์แคสต์) ระบบ SOFIA สามารถตรวจจับความยาวคลื่นที่จำเพาะต่อโมเลกุลของน้ำ คือ 6.1 ไมครอนได้ แล้วจึงทำให้สามารถค้นพบน้ำจากเครเตอร์เครเวียสได้ในที่สุด

    คำถามที่ตามมาก็คือ ปกติแล้ว เมื่อไม่มีชั้นบรรยากาศที่หนาแน่น น้ำที่อยู่บนพื้นผิวของดวงจันทร์สาดส่องก็ควรจะสลายหายไปเมื่อถูกแสงอาทิตย์สาดส่อง แล้วอะไรล่ะที่ทำให้มีน้ำเกิดขึ้นและถูกเก็บเอาไว้บนดวงจันทร์ได้

    อาจเป็นไปได้ว่า พวกอุกกาบาตขนาดจิ๋ว (micrometeorite) จำนวนมากที่ตกลงสู่ผิวดวงจันทร์เหมือนห่าฝน ได้นำเอาน้ำปริมาณเล็กน้อยมาด้วย ทำให้เกิดการสะสมของน้ำบนพื้นผิวของดวงจันทร์หลังจากตกกระทบ

    หรืออาจจะเกิดจาก 2 ขั้นตอน ที่กระแสลมสุริยะ (solar wind) จากดวงอาทิตย์ได้นำเอาไฮโดรเจนมาสู่พื้นผิวดวงจันทร์ แล้วเกิดปฏิกิริยาเคมีกับแร่ธาตุในดิน ที่มีออกซิเจนอยู่ เกิดเป็นโมเลกุลของไฮดรอดซิลเกิดขึ้น จากนั้นรังสีที่เกิดขึ้นจากห่าฝนของอุกกาบาตจิ๋วที่มาปะทะดวงจันทร์ อาจจะสามารถเปลี่ยนไฮดรอกซิลให้กลายเป็นน้ำได้

    แล้วน้ำถูกกับเก็บอยู่บนนั้นได้อย่างไร ? น้ำอาจจะถูกกักเก็บอยู่ในโครงสร้างขนาดจิ๋วคล้ายเม็ดลูกปัดที่อยู่ในดิน ซึ่งเกิดขึ้นจากความร้อนสูงเมื่ออุกกาบาตจิ๋วตกกระทบดวงจันทร์ หรืออาจเป็นไปได้ว่าน้ำนั้นแทรกตัวอยู่ระหว่างเม็ดดินทรายบนดวงจันทร์ และถูกปกป้องเอาไว้จากแสงอาทิตย์ (ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ จะทำให้เอาน้ำออกมาใช้ได้ง่ายกว่ากรณีที่น้ำถูกจับอยู่ในโครงสร้างคล้ายลูกปัด)

    จริงๆ แล้ว SOFIA ถูกออกแบบมาให้ใช้ในการศึกษาเทหวัตถุที่อยู่ไกลโพ้นและมีแสงน้อยมาก ดังเช่น หลุมดำ กระจุกดาว และกาแล็คซี่ โดยอาศัยดวงดาวต่างๆ เป็นเครื่องนำทาง ระบุตำแหน่งในการทำให้กล้องอยู่นิ่ง

    แต่การนำมาศึกษาดวงจันทร์นั้น เป็นเรื่องที่ยากลำบาก เพราะมันอยู่ใกล้โลกและมีแสงสว่างมาก ทำให้ใช้ดวงดาวต่างๆ เป็นเครื่องบอกตำแหน่งไม่ได้ง่ายๆ จึงนำไปสู่การทดลองหาวิธีบินศึกษาดวงจันทร์เป็นครั้งแรก ในเดือนสิงหาคม ปี 2018 แต่ผลที่ได้ออกมานี้ (ที่ค้นพบน้ำ) เกินกว่าที่คาดไปมหาศาลมากนัก

    ในเที่ยวบินรอบต่อๆ ไปของ SOFIA จะพยายามค้นหาน้ำบนผิวดวงจันทร์บริเวณอื่นๆ และในช่วงเวลาข้างขึ้นข้างแรมอื่นๆ เพื่อศึกษาเพิ่มว่า น้ำถูกสร้างขึ้น เก็บไว้ และเคลื่อนที่ไปบนดวงจันทร์ได้อย่างไร ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปรวมกับโครงการศึกษาดวงจันทร์อื่นๆ ในอนาคต เช่น ยานโรเวอร์ Volatiles Investigating Polar Exploration Rover (VIPER ไวเปอร์) เพื่อสร้างแผนภูมิทรัพยากรน้ำบนดวงจันทร์ ขึ้นเป็นครั้งแรก สำหรับการสำรวจอวกาศของมนุษย์ในอนาคต

    ในวารสาร Nature Astronomy ฉบับเดียวกันนี้ ยังมีการตีพิมพ์บทความวิจัยที่ใช้แบบจำลองต่างๆ ทางทฤษฎี และข้อมูลจากยาน Lunar Reconnaissance Orbiter ของนาซ่า มาระบุว่ามีน้ำถูกกักเก็บเอาไว้ภายในเงามืดเล็กๆ ซึ่งมีอุณหภูมิต่ำระดับเยือกแข็ง กระจายอยู่ทั่วดวงจันทร์ มากกว่าที่เคยคาดกันไว้

    การค้นพบน้ำบนดวงจันทร์นี้มีความสำคัญมาก เพราะเป็นที่ทราบดีว่า น้ำเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่ามาก ถ้าเราสามารถนำน้ำบนดวงจันทร์มาใช้ได้ ก็แปลว่าในการไปสำรวจดวงจันทร์ครั้งต่อๆ ไป เราก็จะจำเป็นต้องขนน้ำไปจากโลกด้วย ในปริมาณที่น้อยลง แล้วทำให้เราสามารถขนอุปกรณ์ไปศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ได้มากขึ้น

    ดูคลิปวีดีโอประกอบการค้นพบ ได้ที่ https://go.nasa.gov/2TnDWSd

    ภาพและข้อมูลจาก https://www.nasa.gov/press-release/nasa-s-sofia-discovers-water-on-sunlit-surface-of-moon/

  • hydroxyl 在 Ketchup Jo Youtube 的最佳貼文

    2018-10-12 18:17:09

    การทดลองหลังบ้านครั้งนี้ ผมจะมาจุดไฟด้วยแอลกอฮอล์!!! หลายคนคงรู้แล้วว่า แอลกอฮอล์สามารถช่วยให้ติดไฟได้ แต่วันนี้ ผมจะมาจุดไฟในขวดแก้วที่มีแอลกอฮอล์!! มาดูกันว่าจะสวยแค่ไหน ในสโลโมชั่น!!

    #การทดลองหลังบ้าน #DIY #KetchupJo

    ผมลงคลิปใหม่ทุกอาทิตย์นะครับ ?
    Make sure to subscribe! ◆ https://www.youtube.com/KetchupJo
    ถ้าคุณชอบคลิปนี้ อย่าลืมกดติดตามนะครับ ◆ https://www.youtube.com/KetchupJo

    Don't forget to follow me on Facebook, Instagram
    and subscribe on Youtube
    อย่าลืมติดตามผมในเฟสบุ๊ค อินสตาแกรม และ ยูทูป
    Facebook ► https://www.facebook.com/ketchupjow/
    Instagram ► ketchup_jo

    สนใจติดต่อเรื่องการลงโฆษณาหรือการร่วมงานเท่านั้น กรุณาติดต่อ
    ► Email: ketchupjow@gmail.com

    For business or stock footage inquires ONLY contact me via
    Email: ketchupjow@gmail.com

    Music: The Only Girl - Silent Partner, WATEVA - Ping Pong Party

    ?????คำเตือน ?????

    วิดีโอที่คุณกำลังชมนี้ทำขึ้นเพื่อจุดประสงค์สำหรับ"ความบันเทิง”เท่านั้น
    เนื้อหาต่างๆที่ทำขึ้น เพื่อให้ผู้ชมสามารถนำเอาไปต่อยอดเพื่อการเรียนรู้
    โดยไม่ใช่บทสรุปหรือข้ออ้างอิงทางวิทยาศาสตร์แต่อย่างใด
    แต่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่เกิดจากการลองผิดลองถูกส่วนตัว
    หากผู้ใดนำไปทดลองหรือทำตามแล้วเกิดความเสียหายใดๆ
    ทาง Ketchup Jo จะไม่มีส่วนในความรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น

    โปรดรับชมด้วยวิจารณญาณ
    และให้คำแนะนำแก่บุตรหลานของท่านในการรับชม

  • hydroxyl 在 Channel RL Youtube 的精選貼文

    2017-12-15 20:06:33

    กด Subscribe ติดตามทาง YouTube ช่วยแชร์ด้วยบอกต่อเล่าต่อ เขียน comment มาคุยกันบ้าง

    A1 151260 ยาแก้ไอ ไอวอริน ปริมาณสุทธิ 60 ml
    ยาแก้ไอ
    การไอถือเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เนื่องจากเป็นกลไกในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมออกจากหลอดอาหารหรือระบบทางเดินหายใจ แต่อาการไอที่เกิดจากคอแห้ง และการระคายคอมักทำให้เกิดอาการเจ็บปวด และก่อให้เกิดความรำคาญ รวมถึงอาการไอแบบมีเสมหะที่มีอาหารไออย่างต่อเนื่อง และรุนแรง อาจทำให้เกิดการปวดเจ็บ และการอักเสบของหลอดลม และหลอดอาหารได้ ดังนั้น ผู้ป่วยส่วนใหญ่จึงมักซื้อยามารับประทานเพื่อลดอาการไอ และกำจัดเสมหะที่เป็นสาเหตุขอการไอให้น้อยลง

    สรรพคุณยาแก้ไอ
    – บรรเทาอาการไอ ทำให้ชุ่มคอ ช่วยละลายเสมหะ และขับเสมหะ สำหรับผู้ป่วยที่ไอแบบมีเสมหะ
    – บรรเทาอาการไอ และทำให้ชุ่มคอ สำหรับผู้ป่วยที่ไอแบบไม่มีเสมหะ จากสาเหตุต่างๆ เช่น หลอดลมอักเสบ ไอจากโรคหวัด ไอจากวัณโรค เป็นต้น

    ชนิดยาแก้ไอ
    โดยทั่วไปตัวยาที่เป็นส่วนประกอบของยาแก้ไอ ได้แก่
    1. ยากดอาการไอ (cough suppressant)
    2. ยาขับเสมหะ (expectorant)
    3. ยาละลายเสมหะ (mucoregulator หรือ mucolytic)

    kei

    ยาแก้ไอ แบ่งตามลักษณะการออกฤทธิ์ แบ่งเป็น 2 แบบ คือ
    1. ยากดอาการไอ
    ตัวยาออกฤทธิ์กดอาการไอ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ
    1.1 ยาแก้ไอที่ออกฤทธิ์ทำให้เสพติด (Narcotic Antitussives)
    เป็นยาแก้ไอที่ออกฤทธิ์กดอาการไอ หากใช้ในระยะเวลานาน และต่อเนื่องจะทำให้เกิดการเสพติด สารที่ใช้เป็นส่วนประกอบในการออกฤทธิ์ ได้แก่ Codeine, Opium (ในรูป camphorated opium tincture) และ Hydrocodone เป็นต้น

    1.2 ยาแก้ไอที่ไม่ออกฤทธิ์ทำให้เสพติด (Non-Narcotic Antitussives)
    เป็นยาแก้ไอที่ออกฤทธิ์กดอาการไอ เมื่อใช้ในระยะเวลานาน และต่อเนื่องจะไม่ทำให้เกิดการเสพติดเหมือนยาในกลุ่ม Narcotic Antitussives สารที่ใช้เป็นส่วนประกอบในการออกฤทธิ์ ได้แก่ Dextromethorphan, Benzonatate และ Noscapine เป็นต้น

    2. ยากำจัดเสมหะ
    ตัวยาออกฤทธิ์ลด และกำจัดเสมหะ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ
    2.1 ยาขับเสมหะ (Expectorant)
    เป็นยาแก้ไอที่ออกฤทธิ์กระตุ้นให้เซลล์เยื่อบุทางเดินหายใจบริเวณหลอดลมหลั่งสารคัดหลั่งมากขึ้น หรือออกฤทธิ์กระตุ้นประสาทรับความรู้สึกที่กระเพาะอาหารเกิดกลไกการตอบสนองให้มีการหลั่งน้ำ และเมือกมากขึ้น เพื่อช่วยให้เสมหะลดความเหนียวลง และกระตุ้นการหดตัวของกล้ามเนื้อบริเวณทรวงอก และหน้าที่เพื่อผลักดันเสมหะให้ออกทางช่องปากได้ง่ายขึ้น ยาที่ใช้ในกลุ่มนี้ ได้แก่ Guaiphenesin, Hydriodic Acid, Ammonium Chloride, Potassium Iodine, Ipecacuanha และ Iodinate Glycerol เป็นต้น

    2.2 ยาละลายเสมหะ (Mucolytic)
    เป็นยาแก้ไอที่ออกฤทธิ์ทำลายแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลในเสมหะ ทำให้เสมหะไม่เหนียวข้นหรือไม่จับตัวกันเป็นก้อน เสมหะมีลักษณะเหลวใส สามารถเคลื่อนออกจากหลอดลมได้ง่ายขึ้น หรือสามารถไอผลักดันเสมหะออกได้ง่ายขึ้น ยาในกลุ่มนี้ ได้แก่ Bromhexine, Acetylcysteien, Ambroxol และ Methylcysteien เป็นต้น (กรอุมา ลาภานุพัฒน์, 2554.)(1)

    ยาแก้ไอชนิดผสม Codeine
    ยาแก้ไอที่มีส่วนผสมของสาร Codeine จัดเป็นกลุ่มยาแก้ไอที่เกิดอาการเสพติดของผู้รับประทานได้ เนื่องจากสาร Codeine เป็นสารอัลคาลอยด์ที่สกัดได้จากฝิ่น เพราะสารชนิดนี้ไม่มีการผลิตสังเคราะห์ขึ้น เนื่องจากมีการใช้อย่างจำกัด และใช้ในปริมาณน้อยมากจึงไม่คุ้มค่าสำหรับการผลิต จำเป็นต้องใช้สารที่สกัดได้จากฝิ่นแทน ซึ่งปัจจุบัน Codeine ที่ใช้ในวงการแพทย์ส่วนใหญ่จะมาจากการสกัดจากฝิ่น ด้วยวิธี Methylation ใน Phenolic hydroxyl group ของมอร์ฟีน กระบวนการสกัดมีการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างโมเลกุลน้อยทำให้ Codeine ออกฤทธิ์เหมือนมอร์ฟีน

    Codeine ที่ใช้เป็นส่วนผสมเป็นสารในกลุ่มโอปิออยด์ (opioid) ใช้ออกฤทธิ์ระงับอาการปวด และระงับอาการไอ สารนี้สามารถถูกทำลายที่ตับ และขับออกทางปัสสาวะ บางส่วนสามารถเปลี่ยนเป็นมอร์ฟีนได้เมื่อเข้าสู่ร่างกายจึงมักตรวจพบมอร์ฟีนในปัสสาวะสำหรับผู้ที่รับประทานยาแก้ไอชนิดนี้

    Codeine จัดเป็นสารเสพติดชนิดที่ 2 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ที่ออกฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง จึงนิยมนำมาใช้ในทางการแพทย์ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ผสมในยาแก้ไอทั้งยาชนิดแคปซูล ยาชนิดเม็ด และยาชนิดน้ำ เพื่อระงับอาการปวดหรือระงับอาการไอ

    ข้อควรระวัง
    1. การใช้ยาแก้ไอชนิดที่ผสม Codeine ต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดการดื้อยาจนทำให้ต้องใช้ในปริมาณที่สูงขึ้น เป็นผลทำให้เกิดการเสพติดยาตามมา ดังนั้น การรับประทานยาแก้ไอชนิดที่มีส่วนผสม Codeine จึงไม่ควรใช้ติดต่อกันนานเกิน 7 วัน
    2. การใช้ยาแก้ไอ โดยเฉพาะชนิดที่ผสม Codeine อาจทำให้เกิดอาการง่วงซึม จึงควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะหรือทำงานใกล้กับเครื่องกลหนัก ทำงานในที่สูงหรือเสี่ยงกับสารเคมีหลังการรับประทานยาแก้ไอ
    3. ไม่ควรรับประทานยาแก้ไอร่วมกับอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้เกิดการง่วงซึมเพิ่มมากขึ้น
    4. หลีกเลี่ยงการใช้ยาแก้ไอกับหญิงตั้งครรภ์ และเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี อย่างเด็ดขาด
    5. หลีกเลี่ยงการใช้ยาแก้ไอกับผู้ป่วยที่เป็นโรคหอบหืดหรือมีอาการหายใจลำบาก




    ยาแก้ไอ, ยาแก้ไอแพง, ยาแก้ไอมะตูม, ยาแก้ไอฝาแดง, ยาแก้ไอมะขามป้อม, ยาแก้ไอbm, ยาแก้ไอตัวใหม่, ยาแก้ไอสมุนไพร, ยาแก้ไอน้ําดํา, ยาแก้ไอปลอม

你可能也想看看

搜尋相關網站