[爆卦]HoReCa ชีส รีวิว是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇HoReCa ชีส รีวิว鄉民發文沒有被收入到精華區:在HoReCa ชีส รีวิว這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 horeca產品中有31篇Facebook貼文,粉絲數超過503萬的網紅Starvingtime เรื่องกินเรื่องใหญ่,也在其Facebook貼文中提到, เค้กโคตรพีช!! พีชสดเป็นชิ้น ฉ่ำมาก #ทาสพีชต้องกรีดร้อง ✨จุดเด่น✨ โอ้ยอยากกรี้ดด! บอกเลยร้าน Horeca BKK ยืนหนึ่งเรื่อง เค้ก/ทาร์ต ท็อปผลไม้! คือร้านนี้...

 同時也有12部Youtube影片,追蹤數超過41萬的網紅K DIARY,也在其Youtube影片中提到,Đã có nhiều bạn yêu cầu mình làm vlog bằng tiếng Anh, vì vậy mình sẽ cho các bạn xem bình thường 1 ngày thứ 2 của mình diễn ra thế nào hii ?Gối trang...

  • horeca 在 Starvingtime เรื่องกินเรื่องใหญ่ Facebook 的最佳解答

    2021-09-21 17:30:56
    有 1,140 人按讚

    เค้กโคตรพีช!! พีชสดเป็นชิ้น ฉ่ำมาก
    #ทาสพีชต้องกรีดร้อง
    ✨จุดเด่น✨
    โอ้ยอยากกรี้ดด! บอกเลยร้าน Horeca BKK
    ยืนหนึ่งเรื่อง เค้ก/ทาร์ต ท็อปผลไม้!
    คือร้านนี้จะให้ผลไม้มาแบบพูนๆ ล้นๆ ตลอด
    และครั้งนี้เป็นพีชจ้าแม่🍑 #ไอเลิฟ

    Peachy Short Cake 🍰
    อื้อหือ เนื้อเค้กคือฟู นุ่ม ละมุน กินคู่กับครีมสดหอมๆ
    ท็อปด้วยพีชล้นๆ บอกเลยฉ่ำมาก หอมมาก😍

    Peachy Peachy Tart 🥧
    ฉ่ำเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือ ทาร์ตหอมเนยมาก
    กินรวมๆ แล้วละมุนสุดๆ เข้ากันมาก!!!!!

    ข้อสังเกต👀
    👉🏻ช่วงปลายฤดูพีช สีของพีชจะออกขาวหน่อยนะ
    แต่ฉ่ำ หอม เหมือนเดิม👍🏻

    💰: Peachy Peachy Tart 149 บาท
    Peachy Short Cake 289 บาท
    Facebook : Horeca By KanomTon in Bangkok
    Instagram : @horeca.bkk
    ID Line : @horeca.bkk

    #หนูเอง
    #Starvingtime #เรื่องกินเรื่องใหญ่

  • horeca 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文

    2020-05-07 10:49:00
    有 3,553 人按讚

    รู้จักแบรนด์กาแฟของอิตาลี ประเทศที่ไม่นิยม Starbucks /โดย ลงทุนแมน
    นอกจาก ออสเตรเลีย ที่ดูเหมือน Starbucks จะไม่ประสบความสำเร็จเท่าไร
    อิตาลี ก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เรียกได้ว่า Starbucks ยังไม่เป็นที่ยอมรับเท่าที่ควรสำหรับคอกาแฟในประเทศนี้ ทั้งๆ ที่ คุณ Howard Schultz ผู้ทำให้ Starbucks โด่งดังไปทั่วโลก ก็มีแรงบันดาลใจจากการไปนั่งร้านกาแฟที่อิตาลี

    และ Starbucks ต้องรอนานกว่า 47 ปี กว่าจะเปิดสาขาแรกที่มิลานได้ในปี 2018

    แล้วคนอิตาลีดื่มกาแฟแบรนด์ไหน?
    ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
    ╔═══════════╗
    Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์
    เจาะลึกแบบ deep content
    ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
    Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    สิ่งที่น่าสนใจของอิตาลี คือ
    อิตาลีไม่ได้เป็นประเทศที่ปลูกกาแฟเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
    แต่กลับกลายเป็นประเทศ ที่คิดค้นเครื่องทำกาแฟ Espresso ขึ้นมา

    เรียกได้ว่า แค่นี้ก็แสดงให้เห็นถึงความชื่นชอบการดื่มกาแฟของคนอิตาลีแล้วว่ามากแค่ไหน

    วัฒนธรรมการกินกาแฟที่ค่อยๆ เริ่มขึ้นในอิตาลีตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1500
    และปัจจุบันอิตาลีก็กลายเป็นต้นแบบของร้านกาแฟ สไตล์คาเฟ่ ที่นิยมไปทั่วโลก

    จริงๆ แล้ว อิตาลีก็มีแบรนด์กาแฟของตัวเองที่โด่งดังไม่แพ้ Starbucks
    และบางเชนก็ก่อตั้งขึ้นมานานนับร้อยปี

    ถ้านับตลาด HoReCa หรือ โรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ่
    ปัจจุบันนี้จะมีเจ้าใหญ่อยู่ 3 แบรนด์ด้วยกัน ก็คือ
    1. Lavazza
    2. illycaffè
    3. Segafredo Zanetti

    เริ่มต้นกันที่ Lavazza
    แบรนด์นี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1895
    โดยเริ่มต้นมาจากร้านขายของชำ และโด่งดังจาก Coffee Blend หรือกาแฟที่มีส่วนผสมของเมล็ดกาแฟหลายๆ สายพันธุ์รวมกัน

    นอกจากจะเป็นแบรนด์ที่เก่าแก่แล้ว
    Lavazza ยังถือเป็น แบรนด์กาแฟ ที่ทำรายได้มากที่สุดในอิตาลีด้วย
    โดยในปี 2017 นั้น ทำรายได้ไปถึง 50,900 ล้านบาท
    ห่างจากที่ 2 อย่าง illycaffè ประมาณเกือบ 4 เท่า

    มาต่อกันที่ illycaffè
    หลายคนอาจจะเคยเห็นป้าย สีแดง ขาว เขียนว่า “illy” แปะอยู่ตามหน้าร้านต่างๆ
    นั่นก็คือโลโก้ของ illycaffè นั่นเอง และก็หมายความว่า ร้านเหล่านั้น กำลังใช้เมล็ดกาแฟของ illycaffè ในกาแฟของพวกเขาอยู่

    และรายได้ของ illycaffè นั้น หากเทียบกับผู้นำอย่าง Lavazza นั้นก็ถือว่าห่างกันอยู่มาก โดยในปี 2017 ทำรายได้ไปประมาณ 13,400 ล้านบาท

    และร้านสุดท้ายก็คือ Segafredo Zanetti
    ผู้ที่มีรายได้เป็นอันดับ 3 และถือว่าเป็นน้องเล็กที่สุดในบรรดา 3 แบรนด์นี้
    ถึงแม้ว่าจะเป็นน้องใหม่ แต่ก็ถือว่ามีเป้าหมายที่ใหญ่ เพราะ Segafredo นั้น มีจุดประสงค์ที่จะเผยแพร่วัฒนธรรมกาแฟสไตล์อิตาลีให้กับคนทั่วโลก ซึ่งร้านนี้ก็มีสาขาอยู่ที่เมืองไทยด้วยเช่นกัน

    รายได้ของบริษัทในปี 2017 อยู่ที่ 3,460 ล้านบาท

    ถึงแม้ว่าทั้ง 3 แบรนด์ จะไม่ได้มีสาขากระจายไปทั่วโลกแบบ Starbucks
    แต่ก็ยังเป็นแบรนด์โปรดของใครหลายๆ คน แม้กระทั่งในยุโรป หรือสหรัฐอเมริกา เพราะมีความเป็นต้นตำรับแบบอิตาลีนั่นเอง

    และนอกจาก 3 แบรนด์นี้ ถ้าเรานับตลาด Retail ซึ่งคนอิตาลีนิยมการซื้อกาแฟมาทำกินเองที่บ้าน ยังมีอีกแบรนด์ชื่อ Kimbo ซึ่งแบรนด์นี้จะครองตลาดเป็นอันดับ 2 ของประเทศ ใหญ่กว่า illycaffè และ Segafredo Zanetti

    จากเรื่องทั้งหมดนี้ จึงไม่แปลกที่ Starbucks ต้องทำการบ้านหนักไม่น้อยก่อนที่จะมาเปิดที่อิตาลี เพราะที่นั่นมีคู่แข่งท้องถิ่นที่แข็งแกร่ง และมีวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนใคร

    การเปิด Starbucks ในอิตาลีครั้งนี้ จึงไม่ได้มาเต็มสูตรสไตล์อเมริกัน เพราะคนอิตาลีสามารถหากาแฟอร่อยๆ ทานได้แทบทุกหัวมุมถนน

    แต่ Starbucks ตั้งใจเข้ามาเพื่อเติมเต็ม ไลฟ์สไตล์ของคนอิตาลีมากขึ้น โดย Starbucks จะวางตัวเองเป็นสถานที่นั่งพัก ทำงาน ส่งอีเมล และเน้นการตกแต่งที่ถือว่าเป็นหนึ่งในสาขาที่สวยที่สุดในโลก ส่วนเรื่องสินค้า ก็มีการนำเมล็ดกาแฟท้องถิ่นมาจำหน่าย เพื่อเอาใจคนอิตาลีมากขึ้น

    ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า Starbucks จะประสบความสำเร็จในประเทศอิตาลีหรือไม่

    แต่จุดแข็งของ Starbucks ที่โดดเด่นมากที่สุดคงเป็นเรื่องของการรักษามาตรฐานได้ดีที่สุดเชนหนึ่งของโลกเลยทีเดียว ไม่ว่าเราจะเข้า Starbucks สาขาใดในโลกนี้ เราก็จะพบกับรสชาติที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน

    ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ

    รู้หรือไม่ว่า คุณ Howard Schultz เจ้าของ Starbucks ในปัจจุบัน ผู้ที่ขยายอาณาจักร Starbucks ไปทั่วโลก เคยเป็นพนักงาน Starbucks มาก่อน

    คุณ Howard Schultz ได้มีโอกาสไปที่อิตาลี ทำให้เขาเกิดแรงบันดาลใจ อยากเปลี่ยน Starbucks ให้เป็นร้านแบบคาเฟ่ แต่ความเห็นที่ไม่ตรงกันกับเจ้าของเดิมทำให้เขาตัดสินใจลาออกไปเปิดร้านของตัวเอง

    จนสุดท้าย เขาก็สามารถกลับไปซื้อ Starbucks มาจากเจ้าของเดิม และขยาย Starbucks ในรูปแบบที่เขาตั้งใจไว้ในที่สุด..
    ╔═══════════╗
    Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์
    เจาะลึกแบบ deep content
    ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
    Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    ติดตามลงทุนแมนได้ที่
    Website - longtunman.com
    Blockdit - blockdit.com/longtunman
    Facebook - ลงทุนแมน
    Twitter - twitter.com/longtunman
    Instagram - instagram.com/longtunman
    Line - page.line.me/longtunman
    YouTube - youtube.com/longtunman
    References
    -https://www.statista.com/statistics/994597/leading-coffee-companies-by-revenues-italy/
    -https://www.illy.com/en-us/company/store-events/press/press-releases/illycaffe-profitability-at-record-level-and-net-profit-significantly-growing-in-2018
    -https://www.brandbuffet.in.th/2018/09/first-starbucks-in-italy-the-most-beautiful-store/
    -https://www.britannica.com/topic/Starbucks
    -https://www.forbes.com/sites/jennawang/2018/09/13/why-it-took-starbucks-47-years-to-open-a-store-in-italy/#66ef2f34fc00
    -https://www.brandbuffet.in.th/2018/09/first-starbucks-in-italy-the-most-beautiful-store/
    -https://stories.starbucks.com/emea/stories/2019/starbucks-celebrates-one-year-in-milan-plans-to-open-in-more-italian-cities/
    -https://www.lifeinitaly.com/lifestyle/starbucks-in-italy
    -http://rossiwrites.com/italy/italy-for-foodies/coffee-in-italy-italian-coffee-culture/
    -รายได้รวบรวมโดยเว็บไซต์ Competitive Data ในรายงานเรื่องธุรกิจเกี่ยวกับกาแฟปี 2019

  • horeca 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答

    2020-04-12 10:49:00
    有 4,658 人按讚

    ธุรกิจ MAKRO กับ COVID-19 /โดย ลงทุนแมน
    นับจากต้นปีดัชนี SET ลดลงไปแล้ว 23% ขณะที่มูลค่าตลาดลดลงไป 3.7 ล้านล้านบาท หุ้นของหลายบริษัทมีราคาลดลง แต่มีหุ้นอยู่ตัวหนึ่งที่ราคายังเพิ่มขึ้น นั่นคือหุ้นของ MAKRO

    ที่เป็นแบบนี้ เพราะนักลงทุนบางส่วนอาจคิดว่า วิกฤติ COVID-19 คงไม่มีผลกระทบอะไรมากต่อ MAKRO เนื่องจากบริษัทขายสินค้าจำเป็น

    ในทางกลับกันอาจจะส่งผลดีต่อ MAKRO ด้วยซ้ำจากปรากฏการณ์คนจำนวนมากไปแย่งกันซื้อของเพื่อตุนเอาไว้

    อย่างไรก็ตาม ถ้าวิกฤตินี้ลากยาวไปเรื่อยๆ
    เราอาจต้องกลับมาคิดเรื่องนี้ใหม่ ว่า MAKRO ได้ประโยชน์จริงหรือไม่
    ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
    ╔═══════════╗
    Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์
    เจาะลึกแบบ deep content
    ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
    Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    MAKRO เป็นศูนย์จำหน่ายสินค้าแบบชำระเงินสดและบริการตนเอง (Cash and Carry) ในประเทศไทยนั้นมี MAKRO บริษัทเดียวที่ดำเนินธุรกิจลักษณะนี้ โดยสินค้าส่วนใหญ่ที่ MAKRO ขายนั้นเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น

    MAKRO เปิดสาขาแรกในประเทศไทยในปี 2532 และขยายสาขามาอย่างต่อเนื่องนับจากนั้น โดยในปัจจุบัน MAKRO มีลูกค้าสมาชิกมากกว่า 3.0 ล้านราย

    สิ้นปี 2562 MAKRO มีสาขาในประเทศไทย 134 สาขา โดย 26% จะอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และ 74% จะตั้งอยู่ในต่างจังหวัด

    ขณะที่ MAKRO มีสาขาอยู่ในต่างประเทศจำนวน 7 สาขาคือ ที่กัมพูชา อินเดีย และจีน

    อย่างที่หลายคนรู้ ในปี 2556 นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ MAKRO เมื่อ CPALL ผู้ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อ 7-11 ได้เข้ามาซื้อหุ้นจากบริษัท SHV จากเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิม มูลค่าการซื้อกิจการในครั้งนั้นสูงถึง 1.8 แสนล้านบาท และนับเป็นหนึ่งในดีลประวัติศาสตร์การซื้อกิจการในประเทศไทยเลยทีเดียว

    ที่ผ่านมารายได้ของ MAKRO มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามการขยายสาขา

    รายได้และกำไรของ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)
    ปี 2560 รายได้ 186,754 ล้านบาท กำไร 6,178 ล้านบาท
    ปี 2561 รายได้ 192,930 ล้านบาท กำไร 5,941 ล้านบาท
    ปี 2562 รายได้ 210,627 ล้านบาท กำไร 6,244 ล้านบาท

    การที่ธุรกิจของ MAKRO มีการเติบโตนอกจากการขยายสาขาแล้วนั้น อีกส่วนยังเกิดจากการขยายตัวของภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ และการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เรียกว่า HORECA (โฮเรก้า)

    ลูกค้ากลุ่มนี้หมายถึง ลูกค้าในกลุ่มธุรกิจโรงแรม (Hotel) ร้านอาหาร (Restaurant) รวมไปถึง การจัดเลี้ยง (Catering)

    รู้ไหมว่า ปัจจุบัน ลูกค้ากลุ่ม HORECA มีสัดส่วนประมาณ 27% ของรายได้ของ MAKRO หรือเกือบ 57,000 ล้านบาท

    แน่นอนว่า หลายปีที่ผ่านมา การเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ ทำให้ตลาดลูกค้ากลุ่ม HORECA เติบโตขึ้นเรื่อยๆ แต่แล้วการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่กำลังไปได้ดี กลับต้องมาสะดุดครั้งใหญ่ เพราะการระบาดของ COVID-19..

    ตอนนี้ ลูกค้ากลุ่ม HORECA กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก
    ซึ่งเป็นผลจากการที่จำนวนนักท่องเที่ยว 2 เดือนแรกของปีนี้ ลดลงอย่างน่าใจหาย

    จำนวนนักท่องเที่ยว 2 เดือนแรกปี 2562 เท่ากับ 7.3 ล้านคน
    จำนวนนักท่องเที่ยว 2 เดือนแรกปี 2563 เท่ากับ 5.8 ล้านคน

    แค่ 2 เดือนแรก นักท่องเที่ยวลดลงไปแล้วกว่า 1.5 ล้านคน หรือประมาณ 20% แต่หลังจากเดือนมีนาคม ที่รัฐบาลประกาศปิดหลายพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร รวมถึงการประกาศเคอร์ฟิวในเดือนเมษายน ตัวเลขนักท่องเที่ยวจะลดลงไปอีกอย่างไม่ต้องสงสัย

    พอเรื่องเป็นแบบนี้ จึงทำให้โรงแรมหลายแห่งไม่มีนักท่องเที่ยวมาพัก

    งานอาหารและจัดเลี้ยงต้องถูกยกเลิก เนื่องจากไม่ต้องการให้มีการชุมนุมของคนจำนวนมาก

    ร้านอาหารหลายแห่งที่ไม่มีบริการจัดส่งเริ่มขายลำบากมากขึ้น เนื่องจากลูกค้าไม่ออกจากบ้าน

    แน่นอนว่า ตลอด 31 ปีที่ผ่านมา MAKRO ฝ่าฟันวิกฤติมานับครั้งไม่ถ้วน
    ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติต้มยำกุ้ง วิกฤติการเมืองในประเทศไทย วิกฤติโรคระบาดอย่างซาร์สและไข้หวัดนก ซึ่งทั้งหมดส่งผลต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยทุกครั้ง

    จนมาครั้งนี้ วิกฤติเศรษฐกิจจาก COVID-19 ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีท่าทีจะจบลงง่ายๆ

    ซึ่งถ้าสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ต่อไป
    ก็น่าคิดว่า แล้ว MAKRO จะฝ่าวิกฤติในครั้งนี้ไปได้ดีเหมือนครั้งอื่นๆ ที่ผ่านมาได้แค่ไหน

    ตอนนี้ยังไม่มีตัวเลขที่แน่ชัดว่า
    การเพิ่มขึ้นจากการกักตุนสินค้าที่จำเป็น
    กับการหายไปของลูกค้ากลุ่ม HORECA
    อย่างไหนจะมีน้ำหนักมากกว่ากัน

    เรื่องนี้เป็นสิ่งที่น่าคิด และเราจะได้เห็นตัวเลขกันเร็วๆ นี้ว่า MAKRO จะได้ประโยชน์ หรือได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้กันแน่..
    ╔═══════════╗
    Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์
    เจาะลึกแบบ deep content
    ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
    Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    ติดตามลงทุนแมนได้ที่
    Website - longtunman.com
    Blockdit - blockdit.com/longtunman
    Facebook - ลงทุนแมน
    Twitter - twitter.com/longtunman
    Instagram - instagram.com/longtunman
    Line - page.line.me/longtunman
    YouTube - youtube.com/longtunman
    References
    -แบบฟอร์ม 56-1 บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)
    -รายงานประจำปี บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)
    -แบบฟอร์ม 56-1 บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
    -https://www.mots.go.th/more_news_new.php?cid=599

你可能也想看看

搜尋相關網站