[爆卦]Guillotine Cutter是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇Guillotine Cutter鄉民發文沒有被收入到精華區:在Guillotine Cutter這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 guillotine產品中有73篇Facebook貼文,粉絲數超過0的網紅,也在其Facebook貼文中提到, ROX CLASS 3 Coming Soon !! Rune Knight Mechanic Guillotine Cross Warlock Arch Bishop Ranger คลาส3 จะมาก่อน 2-2 จริงหรอเนี้ย หรือจะมาพร้อมกัน !?? #j...

 同時也有77部Youtube影片,追蹤數超過71萬的網紅VOGUE Taiwan,也在其Youtube影片中提到,#好家在我在家 #宅料理 5款水果神器 ►► https://smarturl.it/7wglmo 設計專家Dan Formosa再次評估和改進了5種早餐小工具,為了快速解決一天中最重要的一餐。 觀察他在測試每個設備的有效性和易用性時,衡量哪些可行,哪些無效以及為改進其設計所做的工作。 #早餐 #廚...

  • guillotine 在 Facebook 的最佳貼文

    2021-07-13 22:20:57
    有 184 人按讚

    ROX CLASS 3 Coming Soon !!

    Rune Knight
    Mechanic
    Guillotine Cross
    Warlock
    Arch Bishop
    Ranger

    คลาส3 จะมาก่อน 2-2 จริงหรอเนี้ย หรือจะมาพร้อมกัน !??

    #junqko

  • guillotine 在 People Persona Facebook 的最佳解答

    2021-04-26 11:00:44
    有 36 人按讚

    กิโยติน จากสัญลักษณ์แห่งความรุนแรงและนองเลือด
    สู่พิธีกรรมถวายเลือดเนื้อ

    หลังจากเกิดเหตุการณ์นำกิโยตินมาใช้งานในการตัดคอตัวเองถวายเป็นพุทธบูชา ความสนใจเกี่ยวกับสิ่งนี้ก็กลับมาอีกครั้ง ประกอบกับการใช้งานกิโยตินเป็นเครื่องประหารครั้งแรกก็เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 เมษายน 1792 จึงอยากจะหยิบยกเรื่องเกี่ยวกับสิ่งนี้ ว่าเหตุใดมันจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ในเชิงลบมากกว่าบวก หรือนำไปสู่การฆ่าตัวตายของพระได้อย่างไร

    รู้จักกับกิโยตินกับต้นกำเนิดแห่งความเมตตา

    กิโยติน(Guillotine) คือเครื่องประหารที่มีต้นกำเนิดมาจากฝรั่งเศส สร้างขึ้นเพื่อใช้บั่นคอนนักโทษหรือคนผิด ประกอบด้วยโครงไม้ที่แขวนใบมีดทรงสี่เหลี่ยมคางหมูน้ำหนัก 40 กก.ไว้บนสุด ข้างใต้จะเป็นแท่นให้นักโทษประหารวางศีรษะ และทันทีที่ปล่อยเชือกใบมีดจะพุ่งลงมาจากความสูง 2.3 เมตรลงเบื้องล่าง สะบั้นศีรษะของร่างที่อยู่ด้านล่างให้ขาดออกจากตัว เป็นอุปกรณ์ที่มีหลักการทำงานเรียบง่าย และถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์แห่งความหวาดกลัวในภายหลัง

    ผู้คิดค้นเครื่องประหารชนิดนี้คือนายแพทย์ อองตวน หลุยส์(Antoine Louis)ชาวฝรั่งเศส แต่ผู้ที่ทำให้เจ้าเครื่องนี้แพร่หลายคือ ดร.โฌแซ็ฟ-อีญัส กิยอแต็ง (Joseph-Ignace Guilloitin) นายแพทย์ชาวฝรั่งเศสอีกคน จนผู้คนเปลี่ยนชื่อเรียกเครื่องประหารนี้ตามนามสกุลเขา ทุกอย่างเริ่มจากการยุติการใช้งานวงล้อลงทัณฑ์(Breaking wheel)อุปกรณ์ในการประหารแบบเก่าในปี 1791 ด้วยความโหดร้ายทารุณและสยดสยองที่เกิดกับนักโทษมากเกิน นั่นทำให้พวกเขาต้องสรรหาอุปกรณ์ในการประหารชีวิตรูปแบบใหม่ ที่ทำให้นักโทษสามารถตายอย่างฉับพลัน เป็นความเห็นทางด้านมนุษยธรรมในฐานะหมอคนหนึ่ง

    ฟังดูตลกแต่ใช่ ความตั้งใจแรกในการนำกิโยตินมาใช้งานเป็นแบบนั้น เนื่องจากวิธีประหารยุคเก่าค่อนข้างสร้างความทรมานให้กับเหยื่อ ตั้งแต่วงล้อลงทัณฑ์ที่กล่าวถึง ไปจนการแขวนคอ ตัดหัวด้วยดาบหรือขวาน ที่หลายครั้งเกิดผิดพลาดเหยื่อไม่ตายในทันทีจะสร้างความเจ็บปวดทรมานอย่างมาก ทีแรกดร.กิโยตินอยากให้ยกเลิกโทษประหารด้วยซ้ำ แต่เขาก็รู้ตัวว่าไม่สามารถทำได้จึงเปลี่ยนมาเป็นบรรเทา เขาเป็นตัวตั้งตัวตียกเลิกวิธีการลงโทษแบบเก่าที่สร้างความทรมานให้นักโทษ มาสู่ความคิดเรื่องเครื่องประหารที่จะคร่าชีวิตของผู้คนที่ต้องการไปในเวลาเพียงพริบตา

    เครื่องตัดคอ(ตอนนั้นยังไม่ถูกเรียกว่ากิโยติน) คืออุปกรณ์ที่เขานำเสนอออกมาเพื่อไปให้ถึงจุดนั้น ด้วยแนวคิดที่อยากให้การจบชีวิตนักโทษเป็นไปอย่างเรียบง่ายและเจ็บปวดน้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ โดยไม่เกี่ยงว่าจะเป็นชนชั้นใดก็ล้วนแล้วแต่ใช้งานเครื่องประหารนี้ได้ และเมื่อโอกาสมาถึงในปี 1791 เขาก็นำเสนอเครื่องมือชนิดนี้จนได้รับอนุมัติการสร้าง และถูกนำมาใช้งานในวันที่ 25 เมษายน 1792 และเหยื่อรายแรกของเครื่องประหารชิ้นนี้คือ นิโคลาร์ ชัก เปติเยร์(Nicolas J. Pelletier) โจรปล้นฆ่าที่ถูกตัดสินประหารชีวิต และทำให้ชาวฝรั่งเศสได้ประจักษ์ยุคใหม่แห่งการลงทัณฑ์จากปากเสียงของประชาชนไปพร้อมกัน

    จากจุดเริ่มต้นอันสวยงามสู่หนทางการนองเลือดอันไม่สิ้นสุด

    โชคร้ายที่ถึงกิโยตินจะถูกสร้างมาด้วยเจตนาดี ด้วยการผ่อนผันความทรมานที่เกิดยามลงทัณฑ์นักโทษก็จริง แต่ยุคสมัยที่มันถูกเปิดตัวและนำมาใช้งานคือช่วงเปลี่ยนผ่านและปฏิวัติฝรั่งเศส ทุกอย่างเริ่มต้นนับแต่ปี 1789 การทำลายคุกบาสตีย์ที่เป็นสัญลักษณ์อย่างที่รู้กัน แต่นั่นไม่ใช่จุดสิ้นสุดแล้วความเปลี่ยนแปลงจะมาเยือน กลับเป็นแค่จุดเริ่มต้นแห่งความวุ่นวายเหมือนกล่องแพนโดร่าที่ถูกเปิดฝา ความเปลี่ยนแปลงและการสูญเสียทำให้ผู้คนเกิดการลุกฮือตามกัน จากฝูงชนที่โกรธาและเก็บกดมานานปี พวกเขาบุกเข้าเข่นฆ่า กวาดล้าง เผาทำลายทุกอย่างตามอำเภอใจ ด้วยเข้าใจว่านี่คือการตอบโต้และเอาคืนชนชั้นปกครอง หลังจากกดขี่และขูดรีดพวกเขามานานปีอย่างไร้การควบคุม

    นั่นทำให้ภายในฝรั่งเศสเต็มไปด้วยการจลาจลลุกฮือของฝูงชนที่สนับสนุนแนวคิดการประท้วงรายวัน ตามมาด้วยกลุ่มขั้วอำนาจเก่าที่ไม่ปรารถนาจะสูญเสียอำนาจต้องการทวงสิ่งที่เคยเป็นของตนคืน กลายเป็นกองกำลังต่อต้านการปฏิวัติที่มีแรงสนับสนุนจากภายนอก ทับซ้อนปัญหาให้หนักหนากลายเป็นความขัดแย้งบานปลายไม่จบสิ้น

    ถ้านั่นว่าเลวร้ายภายนอกยังมีท่าทีไม่พอใจของนานาประเทศ จากการลุกฮือของฝรั่งเศสที่จบลงด้วยการตัดคอพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารีอังตัวเนต สั่นคลอนเสถียรภาพของระบอบกษัตริย์โดยรวมเป็นอย่างมาก ไหนจะการที่ฝรั่งเศสเผยแพร่แนวคิดปฏิวัติให้ชาติอื่น สิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ย่อมเป็นความขัดแย้งขนานใหญ่ ประกอบกับความกระด้างกระเดื่องของอาณานิคม จากภัยที่เข้ามาประชิดจากรอบด้านและความรุนแรงที่พบเห็นอยู่ทุกวัน ทับถมกลายเป็นความหวาดกลัวที่ปูทางไปหาความรุนแรงจนเกินขีดจำกัด

    การนองเลือดแผ่ขยายเป็นวงกว้างและไม่มีทีท่าจะจบลง เกิดการบุกเข้าไปสังหารกลุ่มอภิสิทธิ์ชน ทั้งขุนนาง ครอบครัวเจ้าของที่ดิน ไปจนพระ โดยไม่มีหลักเกณฑ์หรือกฎหมายมาตัดสินอาศัยเพียงศาลเตี้ย ใช้การรุมประชาทัณฑ์ไปจนการทารุณกรรมตามอำเภอใจ ทุกอย่างวุ่นวายกลายเป็นความหวาดกลัวครั้งใหญ่ ด้วยประชาชนหวาดกลัวการถูกยึดคืนและสูญเสียอำนาจที่มีในวันนี้จึงพากันคลุ้มคลั่งไม่เลิกรา ภาพความโหดร้ายทารุณเกิดกันทุกหย่อมหญ้าไม่เว้นแต่ละวันอีกทั้งไม่มีทีท่าจะจบลง นำไปสู่รัฐบาลปัจจุบันที่ต้องหาวิธีแก้ไขปัญหา

    ตรงนี้เองที่กิโยตินจึงถูกหยิบยกเข้ามามีบทบาทอีกครั้ง อาศัยศีรษะของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 มากรุยทาง กิโยตินกลายเป็นเครื่องประหารที่เป็นสัญลักษณ์รวมศูนย์ความรุนแรงจากรอบด้าน กลายเป็นสิ่งควบคุมความรุนแรงจากฝูงชนที่คลุ้มคลั่ง ด้วยกิโยตินนั้นไม่ได้มีการทรมานหรือใช้ความรุนแรงเกินจำเป็น สิ่งที่เกิดขึ้นมีเพียงศีรษะที่หลุดกระเด็นไปจากตัว จบชีวิตของผู้ที่รับโทษทัณฑ์ได้เห็นภาพและรวดเร็ว อาศัยนามของปวงชนไต่สวนนักโทษไปตามกระบวนการยุติธรรม แล้วลากเอาทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความรุนแรงมารับโทษ ใช้กิโยตินเป็นเครื่องมือกวาดล้างความรุนแรงด้วยการให้ตำรวจเข้าจับกุม นำตัวกลุ่มนอกกฎหมายมาบั่นคอเรียงตัว นำไปสู่การตัดหัวของผู้คนไปกว่า 20 ,000 คน ไม่เว้นแม้แต่แม็กซีมิเลี่ยน โรเบสปิแอร์(Maximilien Robespierre) ผู้นำเอาสิ่งนี้มาเป็นสัญลักษณ์ความหวาดกลัวที่ต้องถูกตัดหัวไปตามกัน

    อีกครั้งที่มันฟังดูน่าตลกและใช่ การใช้งานครั้งนี้มองในทางหนึ่งอาจเป็นตามความตั้งใจของผู้นำเสนอมันมาแต่แรก ทำให้กิโยตินเข้าไปแทนที่จนกลายเป็นสัญลักษณ์การประหารแบบอื่น ยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้นในยุคนั้นทางหนึ่งคือกฎระเบียบที่เด็ดขาด และภายใต้บ้านเมืองที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายในตอนนั้น นี่ถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ

    แน่นอนผมไม่ได้บอกว่าการที่เขาตัดสินใจกวาดล้างผู้คน สังหารไปเป็นผักปลาอย่างที่ทำเพื่อยุติความวุ่นวายเป็นเรื่องถูก อีกทั้งการตัดสินประหารเองก็ย่อมมีส่วนผสมความหวาดกลัวจากผู้ตัดสินเองอยู่ในนั้น แต่ที่เราปฏิเสธไม่ได้เช่นกันคือ หลังจากนั้นความเข้มงวดของกฎระเบียบทำให้ทุกอย่างเริ่มกลับสู่สันติ แม้จะบ่มเพาะความเกลียดชังที่มีต่อเขาและคณะตามมามากมายนับจากนั้นนำไปสู่จุดจบอันน่าสังเวช แต่แท้จริงนั่นก็เป็นอีกครั้งที่คนเราพ่ายแพ้ในเกมการเมือง และสำหรับยุคสมัยอันโหดร้ายตอนนั้นจุดจบของเขาย่อมไม่มีทางสวยงามขึ้นมาได้ ใครจะมองเป็นกรรมตามสนองก็ได้ แต่จะมองเป็นเรื่องธรรมดาของโลกเราก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

    การตายของโรเบสปิแอร์นับเป็นการสิ้นสุดสมัยความหวาดกลัวและการนองเลือดจากกิโยติน แต่ถามว่าเจ้าสิ่งนี้หายไปจากโลกหรือเปล่า? อย่างเดียวที่ตอบได้คือไม่ รอยแผลและสิ่งที่เกิดขึ้นกับกิโยตินฝังลึกลงไปในความทรงจำของผู้คน ดังคำขวัญฝรั่งเศส เสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพของโรเบสปิแอร์ที่ยังตราตรึงและใช้งานจนปัจจุบัน กิโยตินยังคงมีการใช้งานในฐานะเครื่องประหารมาอย่างยาวนาน เป็นผลให้ตระกูลกิโยตินตัดสินใจเปลี่ยนนามสกุลตัวเองเพื่อไม่ให้ซ้ำกับเครื่องประหารอันนองเลือด เพื่อหลีกหนีความเกี่ยวข้องเกี่ยวกับสัญลักษณ์เปื้อนเลือดอันนี้

    อดีตสู่ปัจจุบันสู่การสะบั้นศีรษะในวันนี้ มรดกอันน่าขนลุกจากลัทธิอนาคตวงศ์

    อีกสาเหตุที่กิโยตินถูกนำกลับมาพูดถึงอีกครั้งคือเหตุการณ์พระตัดคอตัวเองด้วยกิโยติน สิ่งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนและความหวาดกลัวให้กับผู้คนที่ได้เห็นหรืออ่านข่าว อาจสร้างความไม่สบายใจแก่ผู้ที่ได้รับสาร แต่ก็น่าจะทำให้ผู้คนเกิดความสงสัยเช่นกันว่าสิ่งใดผลักดันให้คนเราทำแบบนั้น

    คำตอบคือในอดีตมีหลักฐานอ้างอิงว่ามีการทำแบบนี้เกิดขึ้นจริง ถวายเลือดเนื้อให้แก่ศาสนาเพื่อสนองตอบการเป็นพุทธบูชา เราเรียกแนวคิดนี้ว่าลัทธิอนาคตวงศ์ ที่แพร่หลายกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จากคัมภีร์ที่มีชื่อว่า “ทสโพธิสัตตุนิทเส” หรือ “ทศโพธิสัตตุปัตติกถา” เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า 10 พระองค์ ที่บำเพ็ญกุศลโดยอาศัยเลือดและความรุนแรง นำไปสู่ความเชื่อในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ที่มีนายบุญเรืองและนายนก ชายสองคนเข้ามาเผาตัวเองตายที่วัดอรุณถือเป็นพุทธบูชา ถึงขนาดมีการสร้างหินสลักและจารึกไว้บันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เรียกว่าเป็นกระแสนิยมพุทธศาสนาในช่วงนั้น ก่อนการเข้ามาของธรรมยุติกนิกายจากรัชกาลที่ 4 เริ่มเข้ามาทดแทน แนวคิดเหล่านี้จึงเบาบางแต่ยังหลงเหลือตามท้องที่ต่างๆ

    หากต้องการคำตอบว่านี่คือหนทางทำให้เป็นพระปัจเจกตามความเชื่อในตำราหรือไม่ ผู้เขียนคงไม่สามารถตอบหรือให้ความเห็นเรื่องนี้ได้ แต่ถามว่านี่เป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือเปล่าก็บอกได้เต็มปากว่าไม่ เพราะตำรานี้แท้จริงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 18 คัมภีร์ถูกแต่งขึ้นในอินเดียใต้ โดยพระมหากัสสปะแห่งโจฬะ แน่นอนมันไม่ได้เป็นเรื่องที่มีส่วนอยู่ในพระไตรปิฎกแต่แรก เป็นแค่เรื่องเล่าที่ถูกแต่งเติมขึ้นมาในยุคหลังอย่างแท้จริง

    ในส่วนของผู้แต่งหากมาจากโจฬะ นั่นคือดินแดนที่เคยอยู่ในสมัยยุคกลางแถบอินเดียทางตอนใต้ และศาสนาที่ได้รับการเชิดชูที่นั่นคือฮินดู เริ่มเห็นภาพแล้วใช่ไหมครับว่าความเชื่อแนวนี้มันมาจากไหน? ใช่ มันปะปนมากับความพยายามกลืนศาสนาของฮินดู ที่พยายามหลอมรวมเอาทุกความเชื่อและความแตกต่างที่เคยมีไปเป็นส่วนหนึ่ง กร่อนความเชื่อทางศาสนาพุทธที่มีแก่นอยู่ที่ปัญญาและการแก้ปัญหา ให้เหลือแค่แนวทางในการปฏิบัติและทำตัวอย่างฮินดูเท่านั้นเอง

    อีกทั้งพระชั้นผู้ใหญ่ นักวิชาการ และนักประวัติศาสตร์หลายแขนงต่างออกมายืนยันเป็นเสียงเดียวกันแล้วว่า คัมภีร์ที่ลัทธิอนาคตวงศ์ยึดถือคือเรื่องที่ไม่เคยมีหรือเกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธ ทุกสิ่งเป็นหลักความเชื่อที่แพร่หลายแต่เข้าใจกันผิดๆ อาศัยความเชื่อเรื่องการทำตามคัมภีร์ ยอมตัดคอของตัวเองเพื่อให้ไปถึงการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ต่อไป ถึงจะเป็นด้านตรงข้ามแต่อย่างนั้นจะต่างอะไรกับการใช้งานกิโยตินอย่างหวาดกลัว บั่นศีรษะของคนรอบข้างจากความเชื่อแบบผิดๆ เพื่อสยบความหวาดกลัวและวุ่นวายเสียเท่าไหร่กัน? และถ้ามันแพร่หลายเป็นที่นิยมจะต้องทำให้เกิดการนองเลือดและสูญเสียอีกแค่ไหน?

    ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้อ่านและคนทั่วไปมาตัดสินแล้วกระมัง ว่าเราจะยังยึดถือเรื่องราวจากวันเก่าที่มีข้อบกพร่องและโต้แย้งมากมาย ทำตามพิธีโบราณที่เราเองก็รู้แก่ใจว่าไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของรากฐานทางศาสนา เป็นสิ่งที่ทำให้ความน่านับถือและเลื่อมใสที่เรามีแปดเปื้อน และทำให้เราห่างไกลจากแก่นที่เป็นเนื้อแท้ของศาสนาพุทธไปมากกว่านี้ไหม
    #peoplepersona
    #เขย่งก้าวกระโดด

    ที่มา
    https://www.dailynews.co.th/regional/837853
    https://www.silpa-mag.com/history/article_65952
    https://www.blockdit.com/posts/5ed9828e7113a30ca69b441a
    https://www.blockdit.com/posts/606e90385b13d40c49d442e3
    https://www.silpa-mag.com/history/article_65907
    https://www.dailynews.co.th/regional/838099
    https://thaistudentsoverseas.wordpress.com/2019/06/29/robespierre-and-the-french-revolution/
    https://thepeople.co/maximilien-robespierre/

  • guillotine 在 Engadget Facebook 的最佳解答

    2021-04-12 17:28:46
    有 9 人按讚

    Users will be directed to the Shopping website.

你可能也想看看

搜尋相關網站