雖然這篇Ergotamine dopamine鄉民發文沒有被收入到精華區:在Ergotamine dopamine這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章
在 ergotamine產品中有3篇Facebook貼文,粉絲數超過178萬的網紅ลงทุนแมน,也在其Facebook貼文中提到, ทำไม สวิตเซอร์แลนด์ จึงเป็นประเทศแห่ง ยารักษาโรค? /โดย ลงทุนแมน ในบรรดาปัจจัย 4 ของมนุษย์ ทั้งอาหาร เสื้อผ้า ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค “ยารักษาโรค” อ...
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
ergotamine 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
ทำไม สวิตเซอร์แลนด์ จึงเป็นประเทศแห่ง ยารักษาโรค? /โดย ลงทุนแมน
ในบรรดาปัจจัย 4 ของมนุษย์ ทั้งอาหาร เสื้อผ้า ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค
“ยารักษาโรค” อาจเป็นสินค้าที่เราเลือกเองได้ “น้อย” ที่สุด
ไม่มีใครอยากเจ็บไข้ได้ป่วย แต่เมื่อป่วยแล้ว ยิ่งเป็นโรคเรื้อรังที่ต้องใช้ยาราคาสูงมาก
หลายคนก็ยอมจ่าย หวังให้กลับมาหายเป็นปกติ
จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่อุตสาหกรรมยารักษาโรคจะสร้างรายได้อย่างมหาศาลให้แก่ประเทศผู้ผลิต
หนึ่งในนั้นก็คือสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศเล็กๆ ที่มีประชากรเพียง 8 ล้านคน
แต่กลับส่งออกยารักษาโรคมากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากเยอรมนี
อะไรที่ทำให้ประเทศเล็กๆ แห่งนี้ ก้าวขึ้นมามีบทบาทในอุตสาหกรรมที่เป็นความหวังของมนุษย์?
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ซีรีส์บทความ “Branding the Nation” ปั้นแบรนด์ แทนประเทศ
ตอน ทำไม สวิตเซอร์แลนด์ จึงเป็นประเทศแห่ง ยารักษาโรค?
╔═══════════╗
ชอบบทความแบบนี้ ต้องอ่านหนังสือเล่มนี้
เศรษฐกิจโลก 1,000 ปี พิมพ์ครั้งที่ 6
อยากรู้ความเป็นไปของเศรษฐกิจโลก ต้องเข้าใจอดีต
หนังสือเล่มนี้จะพูดถึงประวัติเศรษฐกิจโลกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1100 ไล่ยาวไปจนถึง ค.ศ. 2019
สั่งซื้อได้ที่ (ซื้อตอนนี้มีส่วนลด 10% จากราคาปก 350 บาท)
Lazada : https://www.lazada.co.th/products/1000-i714570154-s1368712682.html
Shopee : https://shopee.co.th/product/116732911/6716121161
╚═══════════╝
สวิตเซอร์แลนด์เป็นดินแดนที่ตั้งอยู่ใจกลางทวีปยุโรป ถูกรายล้อมไปด้วยเทือกเขาแอลป์
ไม่มีทางออกสู่ทะเล ทางเดียวที่จะเชื่อมกับโลกภายนอกได้ คือแม่น้ำไรน์
แม่น้ำไรน์เป็นแม่น้ำนานาชาติของยุโรปตะวันตก มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาแอลป์
ไหลผ่านสวิตเซอร์แลนด์ ก่อนจะไหลขึ้นทางเหนือเป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างฝรั่งเศสกับเยอรมนี ไหลผ่านเมืองใหญ่น้อยทางตะวันตกของเยอรมนี
ก่อนจะออกสู่ทะเลเหนือที่เนเธอร์แลนด์
แม่น้ำแห่งนี้เป็นเขตเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป เป็นเส้นทางการค้าตั้งแต่ยุคกลาง
พอถึงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม แม่น้ำไรน์ช่วงที่ผ่านเยอรมนี ก็เป็นแหล่งขนส่งแร่เหล็กและถ่านหิน
เป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมเหล็ก และโรงงานอุตสาหกรรมเคมี
องค์ความรู้ด้านเคมีมีต้นกำเนิดมาจากอังกฤษ ก่อนจะถูกต่อยอดโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน จนเมื่อเยอรมนีกลายเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเคมีในช่วงศตวรรษที่ 19 ซึ่งเริ่มมาจากการคิดค้นสีย้อมผ้า
แล้วการปฏิวัติอุตสาหกรรมก็ไหลทวนกระแสน้ำมาถึงสวิตเซอร์แลนด์
โดยมีเมืองสำคัญที่สุดที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ ก็คือ “บาเซิล”
บาเซิลเป็นเมืองการค้ามาตั้งแต่ยุคโรมัน และเป็นส่วนหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ในศตวรรษที่ 16
หลังจากนั้นเมืองนี้ได้กลายมาเป็นศูนย์กลางธนาคารและการค้าสิ่งทอ
ทำเลของบาเซิลตั้งอยู่ในจุดที่พรมแดนของ 3 ประเทศมาบรรจบกัน คือสวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และเยอรมนี บาเซิลจึงได้รับอิทธิพลจากทั้ง 2 ประเทศ โดยเฉพาะองค์ความรู้ด้านเคมี และอุตสาหกรรมการผลิตสีย้อม
แต่ข้อดีที่สุด ที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของอุตสาหกรรมเคมีของสวิตเซอร์แลนด์ก็คือ
“การไม่มีกฎหมายสิทธิบัตร”
เมื่อมีการผลิตงานวิจัยและองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์
ประเทศในยุโรป โดยเฉพาะ เยอรมนีและฝรั่งเศส ต่างออกกฎหมายสิทธิบัตรเพื่อคุ้มครองผลงานวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ของตัวเอง โดยเฉพาะองค์ความรู้ด้านการสังเคราะห์สีย้อมผ้า
นักวิทยาศาสตร์หลายคน ถึงแม้จะมีองค์ความรู้ แต่ติดในเรื่องสิทธิบัตร ทำให้ไม่สามารถวิจัยและพัฒนาต่อได้ สวิตเซอร์แลนด์จึงกลายเป็นสวรรค์ของนักวิจัย
โดยจุดหมายปลายทางก็อยู่ที่เมืองบาเซิล..
ด้วยทำเลที่ตั้งมีแม่น้ำใหญ่ไหลผ่าน เหมาะแก่การขนส่งและเป็นวัตถุดิบของโรงงาน
อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางการเงิน ธนาคารในบาเซิลมีเงินทุนมหาศาล
เมืองแห่งนี้จึงดึงดูดนักลงทุนมากมายให้มาตั้งโรงงานผลิตสีสังเคราะห์
ปี ค.ศ. 1859 นักวิจัยชาวฝรั่งเศส Alexandre Clavel, Louis Durand และ Etienne Marnas ได้อพยพมาเพื่อตั้งโรงงานผลิตสีสังเคราะห์ในบาเซิล ไม่นานก็สามารถสังเคราะห์สาร Fuchsine ที่ให้สีบานเย็นได้
โดยนักวิจัยทั้ง 3 นี้ได้ตั้งโรงงานชื่อว่า โรงงานเคมีแห่งบาเซิล หรือ Chemische Industrie in Basel ซึ่งถูกย่อว่า “CIBA”
ต่อมานักเคมีของ CIBA คือ Alfred Kern ได้ออกมาตั้งโรงงานของตัวเองร่วมกับนักธุรกิจ Eduard Sandoz ในปี ค.ศ. 1886 เกิดเป็นบริษัท “Sandoz” ในปี ค.ศ. 1886 ซึ่งได้สังเคราะห์สาร Auramine O ที่ให้สีเหลืองทอง
ไม่นาน สวิตเซอร์แลนด์ก็กลายเป็นหนึ่งในผู้นำด้านอุตสาหกรรมเคมี ส่งออกสีสังเคราะห์แข่งกับเยอรมนีและฝรั่งเศส จนทำให้นักธุรกิจของทั้ง 2 ประเทศ พากันเรียกสวิตเซอร์แลนด์ว่า
“ดินแดนแห่งนักปลอมแปลง”
ใครจะไปเชื่อว่า ครั้งหนึ่ง สินค้าที่ถูกส่งออกจากสวิตเซอร์แลนด์ จะถูกมองว่าเป็นของก๊อบปี้..
แรงกดดันของการเป็นนักก๊อบปี้มีมากขึ้นเรื่อยๆ
จนรัฐบาลเยอรมันขู่ว่าจะยกเลิกสนธิสัญญาการค้าระหว่าง 2 ประเทศ
ทำให้ในที่สุด รัฐบาลสวิสจำเป็นต้องออกกฎหมายสิทธิบัตรอย่างเป็นทางการ ในปี ค.ศ. 1907
แต่อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมเคมีก็ได้ฝังรากอย่างแข็งแกร่งที่บาเซิลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่การถูกมองว่าเป็นนักก๊อบปี้
ทำให้เหล่านักธุรกิจและนักวิจัยชาวสวิส จำเป็นต้องหาทางต่อยอดจากการผลิตสีสังเคราะห์
ชาวสวิสขยันขันแข็ง มีหัวการค้า และเป็นระบบระเบียบอยู่เป็นทุนเดิม
การขาดแคลนทรัพยากรทำให้มุ่งเน้นการผลิตสินค้าขนาดเล็กมาเนิ่นนาน
สินค้าที่ขนส่งง่าย มีกรรมวิธีการผลิตที่ซับซ้อน มีนวัตกรรมเฉพาะตัว และมีราคาสูงพอที่จะคุ้มทุน
ซึ่งตัวอย่างที่ดีที่สุดก็คือ นาฬิกา
องค์ความรู้ด้านเคมี สามารถนำมาต่อยอดได้หลากหลาย
หนึ่งในผลผลิตที่น่าสนใจ ก็คือ “ยารักษาโรค”
ถึงแม้จะมาทีหลังในอุตสาหกรรมสีสังเคราะห์ แต่สำหรับยารักษาโรค อุตสาหกรรมนี้ยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อีกมาก
ด้วยองค์ความรู้ด้านเคมีที่มีอยู่แล้ว
บวกกับระบบการศึกษาของสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้รับอิทธิพลมาจากระบบเยอรมัน
ที่เน้นการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ แล้วนำมาประยุกต์ให้เข้ากับภาคอุตสาหกรรม
จึงเกิดเป็นงานวิจัยร่วมกันระหว่างนักวิชาการ กับนักธุรกิจในแวดวงอุตสาหกรรม
นักธุรกิจชาวสวิสจึงตัดสินใจลงทุนในอุตสาหกรรมยา
ปี ค.ศ. 1896 นักธุรกิจ Fritz Hoffmann - La Roche ตัดสินใจก่อตั้งบริษัทเคมีภัณฑ์ F. Hoffmann-La Roche โดยตั้งแผนกเพื่อมุ่งเน้นการวิจัยยารักษาโรคโดยเฉพาะ
ด้วยองค์ความรู้และการวางแผนอย่างเป็นระบบ
ในที่สุด หัวหน้าฝ่ายวิจัย Carl Schaerges ก็ได้ค้นพบ ไอโอดีน ในการรักษาโรคไทรอยด์ได้เป็นผลสำเร็จ กลายเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนายารักษาโรคไทรอยด์ในเวลาต่อมา
เช่นเดียวกับบริษัทอื่นๆ ที่เคยผลิตสีย้อมผ้า ต่างก็หันมาเพิ่มแผนกใหม่ เพื่อวิจัยและพัฒนายารักษาโรคโดยเฉพาะ
ปี ค.ศ. 1900 บริษัท CIBA สามารถสังเคราะห์สาร Salen ซึ่งเป็นสารตั้งต้นทางยาตัวแรก
ซึ่งเป็นโครงสร้างที่จะถูกพัฒนาต่อมาเป็นยารักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
เช่นเดียวกับบริษัท Sandoz ได้ตั้งแผนกเภสัชกรรมในปี ค.ศ. 1917 เพื่อพัฒนายารักษาโรค
จนสามารถสังเคราะห์สาร Ergotamine ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของยารักษาโรคไมเกรน
ไม่นาน เมืองบาเซิลก็กลายมาเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมด้านการแพทย์และเภสัชกรรมของโลก
โดยมีสถาบันการศึกษาอย่าง University of Basel และ Friedrich Miescher Institute in Basel เป็นผู้ผลักดันงานวิจัยอย่างต่อเนื่อง
จากสารตั้งต้นหนึ่งตัว ก็ถูกต่อยอดจนกลายเป็นยารักษาโรค
เมื่อมีโครงสร้างของยาหนึ่งตัว ก็มีการพัฒนายาตัวใหม่จากโครงสร้างเดิมต่อกันไปเรื่อยๆ
และจากอุตสาหกรรมยา ก็ถูกต่อยอดจนเกิดเป็นอุตสาหกรรมไบโอเทคโนโลยี
ปัจจุบัน CIBA และ Sandoz ได้ควบรวมกันเป็นบริษัท “Novartis” และก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทยาชั้นนำ ควบคู่กับ F. Hoffmann-La Roche
โดยทั้ง 2 บริษัท ต่างก็มียอดขายอยู่ในระดับ Top 5 ของโลก
F. Hoffmann-La Roche เป็นผู้นำในการพัฒนายาที่ใช้รักษาโรคเรื้อรัง
เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคพาร์กินสัน และโรคมะเร็ง รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์
อุปกรณ์ตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด ACCU-CHEK
ส่วน Novartis เป็นผู้นำในการพัฒนายารักษาโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคทางระบบประสาท ไปจนถึงยาใช้ภายนอกอย่างยาทาแก้ปวด Voltaren ที่หลายคนอาจจะคุ้นเคยชื่อนี้..
ถึงแม้จะมีจุดเริ่มต้นของการลอกเลียนแบบ สวิตเซอร์แลนด์ก็ได้ต่อยอด และพัฒนาเทคโนโลยี “เฉพาะทาง” จนกลายเป็นประเทศที่เป็นผู้นำในวงการเภสัชกรรม มีสิทธิบัตรยา
และงบประมาณด้านการวิจัยและพัฒนาสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
มาถึงตรงนี้ การที่ชาวสวิสร่ำรวยเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
ไม่ใช่เพราะสร้างสินค้าที่ทำตามความต้องการของลูกค้าและตลาด
แต่ก้าวนำลูกค้าด้วยนวัตกรรม และคุณภาพของสินค้าที่เหนือใคร
จนสามารถส่งออกและสร้างรายได้มหาศาลให้แก่ประเทศ
ซึ่ง “ยารักษาโรค” คือตัวอย่างที่ดีที่สุดของเรื่องนี้
ทั้งหมดนี้ ก็น่าจะสรุปได้ว่า การไม่มีทางออกทะเลอาจไม่ใช่ปัญหาของชาวสวิส
เพราะพวกเขามีอีกทางออกหนึ่งอยู่แล้ว ที่เรียกว่า นวัตกรรม..
อ่านซีรีส์บทความ “Branding the Nation” ปั้นแบรนด์ แทนประเทศ
ในตอนก่อนหน้าทั้งหมดได้ที่แอป Blockdit blockdit.com/download
╔═══════════╗
ชอบบทความแบบนี้ ต้องอ่านหนังสือเล่มนี้
เศรษฐกิจโลก 1,000 ปี พิมพ์ครั้งที่ 6
อยากรู้ความเป็นไปของเศรษฐกิจโลก ต้องเข้าใจอดีต
หนังสือเล่มนี้จะพูดถึงประวัติเศรษฐกิจโลกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1100 ไล่ยาวไปจนถึง ค.ศ. 2019
สั่งซื้อได้ที่ (ซื้อตอนนี้มีส่วนลด 10% จากราคาปก 350 บาท)
Lazada : https://www.lazada.co.th/products/1000-i714570154-s1368712682.html
Shopee : https://shopee.co.th/product/116732911/6716121161
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://www.bs.ch/en/Portrait/cosmopolitan-basel/history.html
-https://www.aiche.org/sites/default/files/cep/20131231_2.pdf
-https://irp-cdn.multiscreensite.com/bcb8bbe3/files/uploaded/Basel%20Pharma%20Cluster.pdf
-https://www.pharmaceutical-technology.com/features/formula-success-inside-swiss-pharma/
-https://www.novartis.us/about-us/who-we-are/company-history
-https://www.roche.com/about/history.htm
ergotamine 在 Drama-addict Facebook 的最讚貼文
จากข่าวที่มีคนไข้เสียชีวิต แล้วทางครอบครัวเขาสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับยาแก้ปวดไมเกรนที่เขาซื้อมากินเองบ่อยๆรึเปล่า เรื่องสาเหตุการเสียชีวิต ต้องรอทางหมอที่รักษาเป็นผู้วินิจฉัย อันนี้รอความคืบหน้ากันไป
แต่ถามว่า ยาไมเกรนที่กินๆกันเต็มบ้านเต็มเมือง มันอันตรายขนาดนั้นหรือ. ก็ตอบว่า เออ มีผลข้างเคียงได้ถึงขั้นเสียชีวิตเลยล่ะ ดังนั้นต้องใช้ในการดูแลของหมอ แต่ทำไมคนไทยหาซื้อยาตัวนี้ง่ายเหลือเกินฟะ
ยาแก้ปวดไมเกรนที่ว่าคือยา ergotamine ในไทยมีขายหลายยี่ห้อ ซึ่งโดยกลไกของมัน จะไปออกฤทธิ์กระตุ้นตัวรับสารสื่อประสาท เกี่ยวกับการหดตัวของเส้นเลือด ทำให้มันลดอาการปวดในคนไข้ที่ปวดไมเกรนได้. แต่มันมีผลข้างเคียงได้ ผลข้างเคียงมีตั้งแต่ คลื่นไส้อาเจียน ความดันสูง ปลายมือปลายเท้าเย็น หรือกลายเป็นสีดำ เพราะเส้นเลือดหดตัวจนเลือดไม่ไปเลี้ยง เส้นเลือดหัวใจหดตัว จนกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน เสียชีวิต
และยิ่งในคนไทยที่ซื้อยาตัวนั้มาใช้ง่ายมากๆ กินกันเหมือนขนมเลย แถมกินผิดวิธี บางคนไปกินแบบพาราเซตามอล กินทุกสี่ทุกหกชั่วโมงก็มี (อูยขนลุก) หรือบางคน ไปกินยาตัวนี้ ในขณะที่กินยาตัวอื่นๆ เช่น ยาฆ่าเชื้อรา ยาฆ่าเชื้อ บลาๆ ซึ่งยาหลายๆตัวมันออกฤทธิ์ตีกันกับยาแก้ปวดไมเกรนตัวนี้ ทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ง่าย
ดังนั้นตามที่อธิบายมา ยาไมเกรน จึงเป็นยาที่ควรใช้ในการดูแลของแพทย์และเภสัชเท่านั้น เพราะถ้าใช้ไม่ถูกวิธี โอกาสเกิดอันตรายสูง แต่ทำไมที่ผ่านมายาตัวนี้มันถึงหาซื้อง่ายขายคล่องกันขนาดนี้วะ ขนาดว่าคนที่ปวดหัวเพราะสาเหตุอื่นๆ ยังซื้อยาตัวนี้มากินกันง่ายๆ เพราะคิดว่าตัวเองปวดหัวจากไมเกรนเลย จริงๆการปวดหัว มันมีหลายสาเหตุมากกว่าไมเกรนเยอะ ใครมีปัญหานี้ อย่าซื้อยากินเอง ไปหาหมอเหอะว่ะ
ergotamine 在 小小藥罐子 Facebook 的最讚貼文
【藥事知多D】假設性問題:Venom會不會患上……?
說到Venom,曾經看過《蜘蛛俠》的看倌,應該不會感到陌生。
Venom 不僅擁有蜘蛛俠的異能,而且能夠避過蜘蛛俠的蜘蛛感應(Spider Sense),所以一直是蜘蛛俠其中一個最棘手的頭號強敵。
不過Venom原來還是有弱點的。
這便是聲音。
對,只要音量夠大夠吵耳,Venom便會捧頭掩耳,好像頭痛欲裂般痛苦萬分,然後Symbiote更會開始跟宿主「分體」,逐漸脫離宿主的身體。
這便是Venom最大的弱點。
不過說歸說,當時Venom其實會不會是偏頭痛(Migraine)發作呢?
為什麼?
哦,因為畏聲(Phonophobia)往往是偏頭痛的其中一個症狀。
好,在繼續討論前,藥罐子首先不妨在這裡跟各位看倌一同簡單認識一下偏頭痛吧!
顧名思義,偏頭痛其實是一種頭痛,不過跟頭痛不同,偏頭痛大多呈單邊性,所以稱為「偏頭痛」,同時還可能會出現噁心、嘔吐、畏光(Photophobia)的症狀,一般往往可以持續4至72小時,足以影響患者的日常作息。
當然還有畏聲。
至於其中一類常用的偏頭痛藥,主要是Triptans,例如Sumatriptan、Zolmitriptan。
在藥理上,Triptans既是一種5HT1B受體致效劑(5HT1B Receptor Agonists),又是一種5HT1D受體致效劑(5HT1D Receptor Agonists),主要透過收縮大腦動脈(Cerebral Arteries),同時抗衡顱部的血管舒張,從而紓緩偏頭痛的症狀。
相較Sumatriptan而言,Zolmitriptan的親脂性較大,血腦障壁(Blood-brain Barrier)的穿透性較高,生體可用率(Bioavailability)一般較大。
話雖如此,不過兩者的藥效一般沒有明顯的差異。[1][2][3]
Sumatriptan、Zolmitriphan一般主要建議用來KO 18至65歲人士的偏頭痛,不過未必適用於預防偏頭痛,同時一般不建議用於孕婦、授乳人士使用。
至於如果患上一些心血管病症的話,例如冠心病(Ischemic Heart Disease)、心肌梗塞(Myocardial Infarction, MI),同樣不建議使用。因為這可能會增加冠狀動脈痙攣(Coronary Vasospasm)的風險,從而可能會誘發心絞痛(Angina)。[4]
在用法上,一般建議在偏頭痛發作後盡快服用。如果偏頭痛在2小時後復發的話,一般建議可以再次服用。
一般而言,在24小時內不宜服用超過兩次建議劑量。
在副作用上,主要是刺痛感、灼熱感,還可能會出現眩暈、噁心、嘔吐的副作用。
在使用上,服藥後一般建議在24小時內避免服用其他Triptans或者Ergot Alkaloids這類偏頭痛藥,例如Ergotamine、Dihydroergotamine。因為這類偏頭痛藥同樣可能會收縮血管,從而可能會誘發血管痙攣(Vasospasm)。[4]
同時一般建議避免跟選擇性血清素再回收抑制劑(Selective Serotonin Reuptake Inhibitors, SSRIs)同服,因為這可能會誘發血清素症候群(Serotonin Syndrome)。
所以如果實情真的是這樣的話,Venom隨時便可能需要隨身攜帶這些偏頭痛藥傍身,以備不時之需。
咦?慢著……藥罐子豈不是幫Venom克服這個弱點?糟糕了!糟糕了!這樣子,蜘蛛俠會不會有危險?
不過根據《日內瓦宣言(Declaration of Geneva)》,「我將不容許有任何年齡、疾病、殘疾、信仰、國族、性別、國籍、政見、種族、地位或性向的考慮介於我的職責和病人間。」
所以說到用藥治病,並沒有好人、壞人,只有病人。
雖說藥罐子並不是醫學界的一員,不過這句話還是行得通的。
再說,說到偏頭痛,畏聲只是症狀,不是成因,簡單說,畏聲是「果」不是「因」。
所以這極其量只是一種臆測而已,還是不能百分百肯定Venom是否真的患上偏頭痛。
#毒魔 #venom #symbiote #eddiebrock