อนาคต...มนุษย์อาจโกงความตาย
ตายไปแล้ว กลับฟื้นขึ้นมาใหม่ได้
.
มารู้จักกับ Cryonics การแช่แข็งมนุษย์
ช่วยรักษาและดูแลร่างกายของคนได้หลายสิบปี
.
รอเทคโนโลยีในอนาคตมารักษาและฟื้นชีพอีกครั้ง
“ร้อยปีค่อยตื่นขึ้นมาใหม่” อาจทำได้จริงก็ได้ค่ะ

#Cryonics #การแช่แข็งมนุษย์ #เทคโนโลยีในอนาคต
#FasterFuture #FutureIsFun #FaungldaLDA

ครอบครัวที่ตัดสินใจแช่แข็งร่างของลูกเอาไว้
โดยหวังว่าในอนาคตจะมียาและเทคโนโลยีที่รักษาลูกของพวกเขาไว้ได้
.
Hope Frozen สารคดีที่ใครหลายคนอาจจะได้ดูแล้วทาง Netflix
.
สารคดีเรื่องจริงและเกิดขึ้นในประเทศไทยเมื่อ10 ปีที่แล้ว สารคดีบอกเล่าเรื่องราวลูกสาวคนเล็กของบ้านป่วยเป็นมะเร็งซึ่งนวัฒกรรมทางการแพทย์ในสมัยนั้นยังไม่มีทางรักษา...จนกระทั่งมาถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีทางรักษา...พวกเขาจึงตัดสินใจแช่แข็งลูกสาวของพวกเขาเอาไว้...เพื่อหวังว่าสักวันนึงลูกสาวของเขาจะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
.
ครอบครัว “เนาวรัตน์พงษ์” ประกอบด้วย สหธรณ์ ผู้เป็นพ่อ , นารีรัตน์ ผู้เป็นแม่ , และ เเมทริกซ์ ลูกชายคนโต เรื่องราวทั้งหมดเริ่มมาจาก “เเมทริกซ์” อยากมีน้องเพิ่มอีกคน...ไม่นานนักครอบครัวเนาวรัตน์ก็ได้กำเนิด “ไอนส์” ขึ้นมาด้วยความรักของทุกคนในบ้าน...ซึ่งคำว่า “ไอนส์” มีที่มาจากคำว่า Ai (愛) เป็นภาษาจีนและภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า “ความรัก” เด็กหญิงที่เป็นทั้งความรัก ความสุข และเป็นความสดใสของบ้าน
.
ไม่นานนักฝันร้ายมาถึง…ไอนส์ป่วยเป็นมะเร็งในสมองระดับรุนแรง และน้องอาจจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินสองขวบ...จากวินิจฉัยของแพทย์
.
แต่ทุกคนก็ไม่หมดหวัง...ด้วยความรู้ด้านวิทยาศาสร์ของคุณพ่อ...คุณพ่อทำการศึกษาวิจัยเพื่อลูกยืดชีวิตลูกอย่างดีที่สุด...ไอนส์ถูกส่งตัวไปผ่าตัดกว่า 12 ครั้งด้วยกัน...ไม่ว่าจะเป็นยาที่ดีที่สุดเท่าที่จะหาได้ในไทย...จนกระทั่งสุดทางรักษาแล้ว
.
เมื่อยอมรับว่าสุดทางด้านวิทยาศาสตร์แล้วจริงๆ...คุณพ่อจึงนำน้องไอนส์ไปทำการ “ไครออนิกส์” (Cryonics) ซึ่งเป็นเทคนิคการแช่เเข็งมนุษย์ทั้งร่าง หรือเอาบางส่วนไปแช่แข็งไว้ในอุณหภูมิที่ต่ำ โดยทุกอย่างทุกกระบวนการที่ทำได้ผ่านการตัดสินร่วมกันของคนในครอบครัวแล้ว (โดยเนื้อหาของโครงการขอสงวนไว้ และสามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ใน Hope Frozen ทาง Netflix ค่ะ)
.
หลังจากที่ครอบครัวเนาวรัตน์ตัดสินใจทำการ “ไครออนิกส์” ทำให้ครอบครัวของเขาโดนจับตามองเป็นอย่างมาก บ้างก็ว่าพวกเขาบ้า...บ้างก็ว่าพวกเขาคือคนคลั่งวิทยาศาสตร์...แต่การตัดสินใจทั้งหมดทั้งหมดมวลที่กล่าวมาล้วนทำเพราะความรัก และความคาดหวังที่ลูกของเขาจะได้กลับมาใช้ชีวิตอีกครั้ง
.
หลังจากที่ได้ดูสารคดีเรื่องนี้จบครบถ้วนก็มีความคิดที่ตกตะกอนได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะในแง่ของความรัก ความหวัง. และวิทยาศาสตร์
.
“ความรัก”
ความรักเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก... ความรักคือสิ่งที่ทรงพลังที่สุด...ความรักคือพลังในการทำสิ่งที่เราไม่เคยทำมาก่อน
.
“ความหวัง”
ทุกคนอยู่ได้ด้วยความหวัง...ความหวังทำให้มนุษย์อย่างเราสามารถทำทุกอย่างได้...แม้เป็นแต่สิ่งที่ยากที่สุด
.
“วิทยาศาสตร์”
ต่อให้วิทยาการทางวิทยาศาสตร์จะดีมากแค่ไหน...แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครอยู่เหนือโรคภัยไปได้
.
Hope Frozen สอนให้เรายอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้สอนให้เรายอมแพ้และสิ้นหวัง
.
#fftudy
#HopeFrozen
#Peoplepersona

Hope Frozen : A Quest To Live Twice พาเรามาให้รู้จักกับความรักในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งมันพามนุษยชาติมาไกลเหลือเกิน
.
คนเราตายแล้วก็คือตายนะครับ ตายแล้วจริงๆมันก็จบเลย คนตายน่ะจบแต่ที่ไม่จบก็คือคนที่ยังอยู่นี่แหละ กายสังขารเราที่ยังอยู่ที่รอการสูญสลายแต่กลับถูกเหนี่ยวรั้งเอาไว้ด้วยความอาลัยอาวรณ์จากคนที่ยังอยู่นี่แหละ รังแต่จะทำให้ทุกข์ทรมานใจและจิตใจมันจะจมอยู่กับกองทุกข์นี่คือความเชื่อของผมนะครับ
.
แต่สำหรับครอบครัวของ ดร.สหธรณ์ เนาวรัตน์พงษ์ นักวิทยาศาสตร์ผู้สูญเสียน้องไอนส์ ลูกสาววัยสามขวบจากโรงมะเร็ง เค้ายังคงมีความหวังเสมอหลังจากที่ลูกสาวหมดลมหายใจ เค้านำสมองของลูกสาวไปผ่านกระบวนการ “ไครโอนิกส์” (Cryonics) หรือการเก็บรักษาเซลล์ด้วยการแช่แข็งร่างในอุณหภูมิ -196 องศา โดยมีความหวังว่าในอนาคตหากวิทยาการก้าวหน้า เค้าอาจจะสามารถฟื้นคืนชีพน้องไอนส์กลับมาได้ แน่นอนว่ามันฟังดูแล้วมันก็เหมือนเรื่องราวของนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องที่คนอย่างผมและอีกหลายๆคนก็คงมองว่ามันเป็นเรื่องไร้สติ และตัวเค้าเองก็ยอมรับว่าเค้ายังยึดติดและยังคิดถึงลูกสาวอยู่เสมอ
.
แนวความคิดไม่ได้อยู่แค่เพียงฝ่ายพ่อเท่านั้น แต่มันยังเป็นแรงบันดาลใจให้ เมเทริกซ์ ลูกชายคนโต ซึ่งเป็นพี่ชายของน้องไอนส์พยายามที่จะเรียนและศึกษาวิทยาศาสตร์และเดินทางไปอเมริกาเพื่อคุยกับนักวิทยาศาสตร์ที่เพิ่งทำการทดลองแช่แข็งสมองกระต่ายและสามารถฟื้นฟูสมองกลับมาได้อีกครั้ง มันทำให้เค้าจุดประกายความหวังที่จะได้เห็นน้องสาวของเค้าอาจจะกลับมาหาเค้าในเวลาที่เร็วกว่าเดิม
.
คือเรามองว่าไร้สาระ บางคนมองว่าบ้าด้วยซ้ำ แต่สำหรับนักวิทยาศาสตร์แล้ว เรื่องราวมากมายมันก็มาจากการตั้งสมมุติฐานและ Passion ที่มันไม่มีความเป็นไปได้ให้มันเป็นไปได้ทั้งสิ้น สมัยก่อนใครจะไปเชื่อว่ามนุษย์จะบินได้ จนสร้างเครื่องบินมาแล้ว ส่วนตัวผมเองก็บอกเลยว่าไม่เคยเชื่อเลยว่าคนตายไปแล้วมันจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้
.
เราต้องนับถือในความรักของครอบครัวนักวิทยาศาสตร์ครอบครัวนี้นะครับว่าเค้าเอาความรักมาเป็นแรงขับเคลื่อนให้กล้าที่จะทำและกล้าที่จะทดลองทำอะไรขึ้น ท่ามกลางคนทั่วไปบนโลกไปนี้ที่มองว่าเค้าอาจจะบ้า แต่สำหรับเค้า เค้าบอกว่า มันคือความรักของครอบครัววิทยาศาสตร์ที่เค้าเชื่อและจะทำต่อไป
.
แต่ในความคิดของผม ผมมองว่า คนตายไปแล้วก็คือร่างกายดับสูญแตกสลายไปแล้ว เหลือแค่จิตนี่แหละที่มันจะล่องลอยไปไหนก็ไม่รู้ มันคงเหมือนเราฝันไป ผมเชื่อด้วยว่าถ้าเราตายไป ดวงจิตของเรามันยังอยู่ มันเหมือนนามธรรมครับ เพราะตราบใดที่เรายังมีกิเลสความอยาก จิตของเรามันก็จะยังปรารถนาไม่จบไม่สิ้น และในสารคดีนี้มันจะมีอยู่ช่วงนึงที่บอกว่า ในอนาคนเราอาจจะฟื้นฟูจิตของเราจากเซลส์ให้มันฟื้นคืนชีพมาได้ แต่อาจจะกลับมาในรูปแบบดิจิตอล แต่เราก็จะเอากลับมาไม่หมด เอาจริงๆมันเหมือนตอนที่เรานอนหลับและฝันไปน่ะครับ คือพอเราตื่นเราก็แทบจะจำความฝันอะไรไม่ได้เลย เรื่องจิตวิญญาณมันเป็นเรื่องซับซ้อนมาก แม้จะเป็นเรื่องธรรมชาติก็เถอะ แต่มันยากมากเลยครับ มีคนบอกว่าถ้าเราระงับความอยากจนสามารถทำจิตให้ว่างได้ ทางพุทธเค้าบอกว่ามันคือการบรรลุอรหันต์อะไรทำนองนั้น มันก็จะทำเราไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดได้อีก มันเป็นเรื่องที่เราพูดๆเนี่ยเหมือนจะเข้าใจนะครับ แต่ทำจริงๆโคตรยากเลย แต่นั่งให้นิ่งๆไม่คิดอะไรให้ได้ชั่วขณะ แก่จนป่านนี้ยังทำกันไม่ได้เลย
.
คนเราเนี่ยพอมันยึดติดกับร่างกาย มันก็ปล่อยไม่ได้ มันเลยติดอยู่กับร่างแบบนี้แหละ นี่ลูกฉัน ร่างเค้ายังอยู่ในแคปซูลนะ รอให้เค้ากลับมา แต่จริงๆดวงจิตของน้องเค้าอาจจะไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ดีไม่ดีเค้าจำเราไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ คนที่ยังอยู่นี่แหละที่ยังยึดติดผูกพัน ถ้าเอาความผูกพันมาจุดประกายสร้างเป็นความหวัง และสร้างสรรค์ในการศึกษาวิทยาศาสตร์ดี น้องไอนส์อาจจะไม่ได้ฟื้นคืนชีพกลับมา แต่ระหว่างทางกระบวนการคิดแบบวิทยาศาสตร์มันอาจจะพาเราไปค้นพบกับวิทยาการใหม่ๆที่ช่วยมนุษยชาติก็ได้ วิทยาศาสตร์กับพุทธศาสนามันไปด้วยกันและมันอยู่ร่วมกันมาตลอด จนเรานึกไม่ถึงและมองข้ามนะครับ

อยากให้ลองไปดูสารคดี Hope Frozen : A Quest To Live Twice ใน Netflix นะครับ มันอาจจะทำให้เราได้คิดอะไรเกี่ยวกับชีวิตของเราก็ได้ ชีวิตคนเราเหมือนจะยืนยาวไป 70-80-90 หรืออาจะ 100 ปีได้ เหมือนนานนะครับ เรามีโอกาสแล้วนะครับที่จะทำอะไรให้ตัวเองหลุดพ้นได้ ผ่านการลองทำจิตให้ว่าง แต่เรายังไม่ได้เริ่มกันเลย มันไม่ง่ายนะครับ แต่เราต้องลองครับ...

อนาคต...มนุษย์อาจโกงความตาย
ตายไปแล้ว กลับฟื้นขึ้นมาใหม่ได้
.
มารู้จักกับ Cryonics การแช่แข็งมนุษย์
ช่วยรักษาและดูแลร่างกายของคนได้หลายสิบปี
.
รอเทคโนโลยีในอนาคตมารักษาและฟื้นชีพอีกครั้ง
“ร้อยปีค่อยตื่นขึ้นมาใหม่” อาจทำได้จริงก็ได้ค่ะ

#Cryonics #การแช่แข็งมนุษย์ #เทคโนโลยีในอนาคต
#FasterFuture #FutureIsFun
-------------------------------------------------------------
ABOUT US
Instagram: http://www.instagram.com/ldaworld
Facebook: http://www.facebook.com/LDAworld
Twitter: http://twitter.com/ldaworlds
Blog: http://www.ldaworld.com

PODCAST
Spotify : https://spoti.fi/2v8nNY9
Apple Podcast : https://apple.co/35NteJc
Podbean : https://ldapodcast.podbean.com

ติดต่องาน/ลงโฆษณา : contact@flourish.co.th
โทร : 086-363-6683

HOPE FROZEN: A Quest to Live Twice ภาพยนตร์สารคดีที่จะพาทุกคนตามติดชีวิตของนักวิทยาศาสตร์ชาวไทยและครอบครัว ที่ตัดสินใจแช่แข็งลูกน้อยที่กำลังจะเสียชีวิตด้วยกระบวนการไครโอนิกส์ นี่คือสารคดีดราม่าจับใจที่ติดตามการเดินทางของพวกเขา

พร้อมชม..เบื้องหลังแนวคิดการตัดต่อภาพยนตรต์สารคดีเรื่องแรกในชีวิตของ ลี ชาตะเมธีกุล นักลำดับภาพอันดับต้นของเมืองไทย เจ้าของผลงานอย่าง ลุงบุญมีระลึกชาติ, ภวังค์รัก และ Where We Belong

HOPE FROZEN: A Quest to Live Twice
ความหวังแช่แข็ง: ขอเกิดอีกครั้ง
15 กันยายน บน Netflix เท่านั้น

#จดอ #JUSTดูIT #Netflix #HopeFrozen #ความหวังแช่เข็ง

ติดตามเพจของเรา https://facebook.com/JustDooItTH

หายนะที่มาพร้อมการประสบความสำเร็จ ...
---------------------------------------------------------------------------------------------
#คืนชีพ #ประวัติ #หลอนสุดสัปดาห์
ติดต่องาน/โฆษนา : antfte02@gmail.com
เอฟอมตีน 30/6/2562