น้อง ทิมมี่ Timothée Chalamet แต่งตัวไปงาน Golden Globe ได้ดีเกินเบอร์ คนอื่นเขาใส่สูทธรรมดา แต่หนูใส่ harness ของ Louis Vuitton มาเปรี้ยวขนาดนั้น ถึงแม้จะชวดรางวัลที่หนูได้เข้าชิงจาก Beautiful Boy ในสาขานำชายแต่หนูก็ชนะใจพี่ด้วยความเท่ห์แบบไม่แคร์ใครของหนูจริง ๆ

จริง ๆ อยากดูเรื่องนี้ตั้งแต่เห็นเทรเลอร์แล้ว นอกจากจะเป็นผลงานของทิมมี่ต่อจาก Call Me By Your Name แล้ว ยังเป็นบทที่ท้าทายความสามารถเขาไปอีกขั้นด้วยการรับบทเป็นเด็กที่อนาคตไกลแต่ชีวิตต้องพังเพราะหลงไปติดยาเสพติดกว่า 10 ปี มีแต่พ่อเขาเท่านั้นที่จะช่วยให้ชีวิตกลับมาเหมือนเดิม ฟังดูน้ำเน่า แต่เรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงและเป็นเล่าจากบทบันทึกจากทั้งฝั่งพ่อและฝั่งของลูกชายด้วย ซึ่งทิมมี่ของเราก็ลงทุนลดน้ำหนักให้ดูสมจริงสมกับเป็นเด็กติดยา หนูทุ่มเทขนาดนี้พี่ต้องสนับสนุนแล้วอ่ะ แล้วที่อยากดูมาก ๆ คือการได้ประกบกับ Steve Carrel จาก The Office ซึ่งช่วงหลังทิ้งบทตลกมาเอาจริงกับบทซีเรียสแล้วไปไกลถึงขั้นชิงออสการ์มาแล้วตอน Foxcatcher คราวนี้มารับบทเป็นพ่อผู้เสียสละต้องทำความเข้าใจลูกติดยากับทิมมี่คือเคมีดีมาก ๆ

นี่ดูตัวอย่างแล้วรู้ว่าต้องเป็นหนังพาน้ำตาแตกแน่ ๆ แล้วเป็นคนแพ้หนังประเด็นเรื่องพ่อด้วยอ่ะ นักแสดงสองคนที่ชอบมาก ๆ อีก เตรียมทิชชู่ไปเลย

หนังจะเข้าไทยวันที่ 17 มกราคมนี้ แต่จะมีรอบพิเศษจันทร์ที่ 14 มกราคม เดี๋ยวเรามีบัตรมาแจกให้ด้วย

ลองไปดูเทรเลอร์กันก่อนเลย

https://youtu.be/RB_NB7wodKw

世界首位做頭顱移植動物實驗的研究者，可能因此與諾貝爾獎錯身而過。

「Charles Claude Guthrie, who performed such a procedure on May 21, 1908. Unfortunately for him, doing this may well have cost him a Nobel Prize. Guthrie collaborated heavily with French physician Alexis Carrel in vascular surgery research- research that Carrel would in 1912 win a Nobel Prize in Physiology and Medicine for, despite that some argue it was Guthrie who should have been given primary credit. It has been proposed that Guthrie’s controversial decision to work on head transplants is why he was ignored by the Nobel Prize committee.」

#不過是具屍體

【 法國電影推薦-Le Redoutable】法語有兩個形容詞我覺得很美，一個是「Épanoui」，意思是「神彩飛揚」「青春洋溢」，如果在後面加上"r" 就是動詞，代表「綻放（花朵）」、「使快樂、幸福、喜悅」，很春天的一個詞。

另一個就是「Mélancolique 」，這字代表鬱鬱感傷、多愁善感，很適合蕭瑟深秋有氛圍的巴黎。

昨晚看了一部Louis Garrel主演，諷刺法國新浪潮導演高達Jean-Luc Godard的喜劇電影「Le Redoutable 」，故事藉當年高達具爭議的左派電影「中國姑娘La Chinoise」拍攝過程，穿插1967年法國學運前社會反動的背景來描述他與美女演員妻子Anne Wiazemsky之間吵吵鬧鬧，從「Épanoui」到「Mélancolique 」的愛情故事。

電影拍得藝術、流暢、喜感反諷深度兼俱，比最近看過的一些法國名人傳記電影如：「高更」、「羅丹」、「塞尚」耐人尋味、養眼好看多了...（謎之音：帥哥Louis Carrel在片中有正面全裸，但其造型印証頭髮對顏值來說，真的太重要了！）

說了這麼多，只是想到影片裡一向嚴肅無趣、自傲、自私、目中無人口無遮攔的電影大師高達，如何讓崇拜自己、柔情似水的妻子從自以爲那就是幸福的公主，落到愁雲裊繞被先生言詞污辱的怨婦，尤其在法國這些年看過那麼多失敗的怨偶後，愈發贊同王爾德的婚姻言論：「愛自己，是一生浪漫的開始...。」

因為只有了解自己生命的價值與內心底層的感受，別人才會尊重珍惜你，一味地曲意奉承、委曲求全只是白白的折磨自己...隨著時間過去只會變本加厲，還不如見不妙感緊就說拜拜～不要輕易結婚啊～!