雖然這篇ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต鄉民發文沒有被收入到精華區:在ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章
在 ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต產品中有4篇Facebook貼文,粉絲數超過329萬的網紅อายุน้อยร้อยล้าน,也在其Facebook貼文中提到, แม้คุณจะมั่นใจว่าสินค้าของคุณดีแค่ไหน ก็ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่า จะถูกใจลูกค้าจนเกิดการซื้อขายได้ ถ้าคุณไม่ได้มีเรื่องราวที่ช่วยให้ลูกค้ารู้จักสินค...
ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต 在 อายุน้อยร้อยล้าน Facebook 的最讚貼文
แม้คุณจะมั่นใจว่าสินค้าของคุณดีแค่ไหน ก็ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่า จะถูกใจลูกค้าจนเกิดการซื้อขายได้ ถ้าคุณไม่ได้มีเรื่องราวที่ช่วยให้ลูกค้ารู้จักสินค้าของคุณและช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อลูกค้า ซึ่ง “คอนเทนต์ที่ดี” เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การตลาดที่จะช่วยให้ลูกค้ารู้จักคุณมากขึ้น และทำให้คุณสามารถกอบโกยยอดขายและผลกำไรได้แบบมหาศาล แต่จะต้องเขียนอย่างไรล่ะ ? เพื่อให้ดึงดูดความสนใจแก่ลูกค้า จนเกิดการตัดสินใจซื้อ และสามารถปิดการขายได้ในที่สุด!
.
1.ก่อนสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจ ต้องรู้จักสินค้าตัวเองให้ดีก่อน เพื่อนำมาเขียนคอนเทนต์ได้ตรงเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
เพราะคอนเทนต์ที่ช่วยให้ขายได้ จำเป็นต้องสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจได้ง่าย ไม่ซับซ้อน และที่สำคัญคือดึงดูดให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ในทันทีหรือรวดเร็วที่สุด คุณจึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจในตัวสินค้าและสิ่งที่คุณต้องการนำมาเขียนก่อน ยิ่งเข้าใจมากเท่าไหร่ จะยิ่งช่วยให้เขียนได้ดีมากเท่านั้น และคนที่มาอ่านเองก็จะรับรู้ความรู้สึกของคุณ รวมถึงเข้าใจในสิ่งที่คุณต้องการสื่อสารมากขึ้น
.
2.เข้าใจเนื้อหาแล้ว ต้องเข้าใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมายด้วย ว่า “เขาคือใคร และมีความต้องการอย่างไร”
ต่อให้เขียนดีแค่ไหน แต่เนื้อหาไม่ตรงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการสื่อสารด้วย ก็จบ! ดังนั้น ถ้าต้องการส่งคอนเทนต์เพื่อกระตุ้นให้พวกเขาสนใจ ต้องทำความรู้จักและเข้าใจกลุ่มเป้าหมายด้วย ทั้งพฤติกรรม ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต การอ่าน ความต้องการ ปัญหา ข้อสงสัย และเงื่อนไขต่างๆ เช่น การเงิน เวลา สุขภาพ ถึงจะทำให้คุณสามารถวางแผนการทำคอนเทนต์ได้ดีขึ้น ยิ่งคุณให้คำตอบและเดาใจลูกค้าได้มากพอ ลูกค้าจะรู้สึกเสี่ยงน้อยลง ส่งผลให้กล้าซื้อสินค้ามากขึ้น
.
ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าต้องการรองเท้าดีๆ สักหนึ่งคู่ แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะซื้อร้านคุณดีไหม เพราะยังลังเลเรื่องของราคา เพราะฉะนั้น ก่อนลูกค้าเห็นราคา คุณต้องทำให้เขาเห็นก่อนว่ารองเท้าร้านคุณ
มีมูลค่าสูงขนาดไหน ดีต่อเท้าแค่ไหน ใส่แล้วสวย ใส่แล้วดูดี ใส่แล้วสบายเท้า ช่วยถนอมสุขภาพเท้า ก็จะทำให้ลูกค้า ยอมจ่ายเงินให้เพราะรู้สึกคุ้มค่ามากกว่าเสียดายเงิน
.
3.ดึงจุดเด่นของสินค้าที่จะช่วยแก้ปัญหา หรือข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้า แทนการขายแบบยัดเยียดให้เขาต้องซื้อเพียงอย่างเดียว
ต่อให้คุณต้องจะการขายมากแค่ไหน แต่อย่าทำจนเขารู้สึกว่ากำลังถูกยัดเยียด แทนที่จะสนใจ อาจเกิดการต่อต้านและเลื่อนผ่านในที่สุด ดังนั้น ถ้าต้องการขายให้ได้ นอกจากเขียนคอนเทนต์เพื่อขาย คุณอาจต้องใส่ความเป็นกูรูผู้เชี่ยวชาญทั้งตัวสินค้า และเข้าใจปัญหาของลูกค้า โดยดึงจุดเด่นหรือสรรพคุณของสินค้าที่จะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ให้เขาได้ หรือจะเป็นการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ให้ลูกค้าสามารถนำไปต่อยอดใช้ในชีวิตประจำวันได้ ก็จะยิ่งสร้างความน่าเชื่อถือให้สินค้า ทั้งยังเป็นการซื้อใจลูกค้าได้อีกด้วย
.
4.เพิ่ม Call to action หรือคำที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจ มีลูกเล่นลูกชน ที่ไม่ใช่การขายแบบดื้อๆ หรือเป็นคำทื่อๆ ทางการมากเกินไป
“คารมเป็นต่อ รูปหล่อเป็นรอง” สำนวนนี้ไม่ได้ใช้แค่กับคนเท่านั้น แต่ยังใช้ได้กับสินค้า และคอนเทนต์ อย่างที่บอกว่าสินค้าดีมีคุณภาพไม่ได้ช่วยให้คุณขายได้ แต่คอนเทนต์และการนำเสนอเรื่องราวที่ดีจะช่วยให้คุณขายได้แน่นอน
ดังนั้น คุณต้องเพิ่มเสน่ห์ให้คอนเทนต์ ด้วยการใช้คารมคมคาย มีลูกเล่นลูกชนเข้าสู้ หยอกนิด หยอกหน่อย หรือใช้คำที่กำลังเป็นกระแสในช่วงนั้น ๆ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกสนใจ และมีส่วนร่วมกับคอนเทนต์ หรือคุณอาจจะแอบใส่ Q&A ลงไปในคอนเทนต์ แต่เป็นคุณที่ถามและตอบเอง ประหนึ่งว่าเป็นคำถามจากลูกค้า ก็จะช่วยทำให้เขารู้สึกว่า คุณเดาใจเขาออก รู้ว่าเขากำลังสงสัยอะไร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งข้อที่ช่วยลดความสงสัย และให้เขากล้าตัดสินใจซื้อ
.
5.ส่งท้ายด้วยประโยคหรือคำที่ว่า “ทำไมต้องเลือกสินค้าคุณ เลือกแล้วจะได้อะไร เลือกแล้วดีอย่างไร” ยังไม่พอคุณยังสามารถ “โปรโมทโพสต์” เพิ่มเติมเพื่อให้คนเห็นมากขึ้นได้ด้วย
ก่อนคอนเทนต์จะจบลง คุณต้องทำอย่างไรก็ได้ให้ลูกค้ารู้สึกคล้อยตาม และเลือกสินค้าของคุณ เช่นการใช้คำที่กินใจ เข้าใจปัญหา ความต้องการเขา และทำให้เขารู้สึกว่าเราเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาของเขาได้ แล้วถ้าคุณมั่นใจว่าคอนเทนต์ของคุณดีจริง อย่าปล่อยให้มันเป็นแค่คอนเทนต์ขายของที่มีคนอ่านไม่กี่คน แต่จงโปรโมทออกไปให้คนเห็นเลยว่า มันดีแค่ไหน ซึ่งเมื่อคนเห็นมากขึ้น เท่ากับเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสในการมีลูกค้ามากขึ้นด้วย
.
เพราะการเขียนคอนเทนต์เพื่อ ”ปิดการขาย” ให้คนอ่านกลายมาเป็นลูกค้า ไม่ใช่แค่เขียนให้ผ่านๆ ไป หรือเขียนเพื่อขายอย่างเดียว แต่คุณต้องเขียนให้เขารู้สึกอยากมีส่วนร่วมไปกับคอนเทนต์ และให้เขารู้สึกว่าต้องการสินค้าของเรามากแค่ไหน แต่เพราะความต้องการของพวกเขาไม่เคยหยุดนิ่ง แบรนด์ใดที่คิดไม่ทันใจลูกค้า ผลิตสินค้าล้าหลัง หรือทำคอนเทนต์ออกมาไม่โดนใจลูกค้า ก็อาจส่งผลให้ลูกค้าค่อยๆ ทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆ ได้
.
เพื่อโน้มน้าวใจ และให้ลูกค้าจดจำแบรนด์สินค้าของคุณได้ จนเกิดการตัดสินใจซื้อ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษา และทำความเข้าใจลูกค้าเสมอ พร้อมกับใช้ “หลักจิตวิทยา” เข้าช่วยในการเล่าเรื่อง นำเสนออย่างไรให้ลูกค้ารู้ว่าเราทำการบ้านมาอย่างดี ตอบได้ทุกข้อสงสัย แม้ลูกค้ายังไม่ได้ถาม เหมือนกับว่าเรารู้สิ่งที่พวกเขากำลังคิดอยู่ แต่เหนือสิ่งอื่นใด คุณต้องอย่าลืมดึงจุดเด่นและตัวตนของแบรนด์ออกมาให้ได้ ซึ่งคุณอาจต้องให้เวลากับมันก่อน อย่ารีบร้อนจะขาย ถ้ายังไม่เข้าใจสินค้าและลูกค้าดีพอ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณเข้าใจและถ่ายทอดมันออกมาได้อย่างดี รับรองว่าคอนเทนต์นั้นจะทำให้คุณ “ปิดการขาย” ได้อย่างมืออาชีพแน่นอน!
.
ที่มา : https://bit.ly/3smcbJ5
https://bit.ly/3bFDCae
.
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#Content #คอนเทนต์ #ปิดการขาย #โน้มน้าวใจ #มืออาชีพ #เทคนิคเขียนคอนเทนต์ #สินค้า #ลูกค้า
ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต 在 EarthPatravee Facebook 的最佳解答
หน้าคุ้นๆๆ
Look familiarTranslated
[ ALIVE TALK ]
กลับมาแล้วกับ 'ALIVE TALK' รายการที่จะให้คุณสัมผัสตัวตน ความชอบ ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต และแนวทางการหาแรงบันดาลใจต่างๆ
จากชาว ALIVE
.
สำหรับ EP2 นี้ มาพบกับ 'เอิ๊ต - ภัทรวี ศรีสันติสุข' EarthPatravee หรือที่เรารู้จักกันในนาม WishesOnTheEarth นักร้องนักแต่งเพลงจากค่าย Muzik Move Records ที่จะมาแชร์ประสบการณ์ของเอิ๊ตในหนึ่งวันกับพวกเรา
เตรียมตัวพบกับเรื่องราวดี ๆ กับเอิ๊ตได้ที่นี่เร็ว ๆ นี้
.
#ALiveAholic
#ALIVETALK
#singhaexperience
ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต 在 Club Gig Facebook 的最佳解答
ปรึกษาปัญหาความรักฟรี หรือพูดคุยกับผม เชิญที่ไลน์
https://line.me/R/ti/p/%40clubgig
หลายคนมักจะมาปรึกษาว่า อายุเยอะ 40-50 แล้ว ชีวิตนี้คงหมดสิทธิ์เจอใครแล้ว คงแก่ตายอย่างเดียวดาย ในขณะที่บางคนอายุ60 กว่า มาปรึกษาเรื่องความรักครั้งใหม่ สิ่งที่ต่างกันอย่างเห็นได้ขัดก็คือ ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต คนที่ยังมีกิจกรรม สนุกสนาน ใช้ชีวิตเป็น มีงานอดิเรก เฮฮา คิดบวก จะเจอคนใหม่ได้เรื่อยๆไม่รู้จบ ส่วนพวกนั่งบ่น ส่วนมากจะนั่งอยู่บ้านหายใจทิ้งไปวันๆ จริงๆแล้วมันอยู่ที่การใช้ชีวิต ถ้าวันๆนั่งเ...
See More