雖然這篇โรคไข้หูดับ อาการ鄉民發文沒有被收入到精華區:在โรคไข้หูดับ อาการ這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章
在 โรคไข้หูดับ產品中有5篇Facebook貼文,粉絲數超過27萬的網紅อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์,也在其Facebook貼文中提到, วันก่อน ถูกสัมภาษณ์ออนไลน์เกี่ยวกับเรื่อง #โรคไข้หูดับ จากการบริโภคเนื้อหมู ซึ่งมีชาวบ้านที่อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา เสียชีวิตไปนับสิบราย ! โรค...
โรคไข้หูดับ 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最佳解答
วันก่อน ถูกสัมภาษณ์ออนไลน์เกี่ยวกับเรื่อง #โรคไข้หูดับ จากการบริโภคเนื้อหมู ซึ่งมีชาวบ้านที่อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา เสียชีวิตไปนับสิบราย !
โรคไข้หูดับ ยังเป็นโรคที่พบบ่อยครั้งในประเทศไทย ซึ่งสาเหตุหลักๆ ก็มาจากการบริโภคเนื้อหมูที่ไม่ได้ปรุงสุก ทำให้เชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรคนี้ยังมีชีวิต และทำอันตรายกับผู้บริโภคได้ โดยมีอันตรายสูงมาก ถึงแก่ชีวิตครับ
เลยเอาคลิปให้สัมภาษณ์มาแชร์ให้ฟังกันนะ รวมทั้งขอแชร์ข้อความข่าวจากไทยรัฐและไทยพีบีเอส ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับโรคไข้หูดับนี้ เพื่อเตือนให้ระมัดระวังกันด้วยนะครับ
--------
(รายงานข่าว ไทยรัฐ https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/2194158)
เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นายสานิตย์ ศรีทวี นายอำเภอเสิงสาง ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุข้อความว่า
#นอกจากโควิด19 ยังมีโรคไข้หูดับอีก #ขอให้หยุดกินหมูดิบในเขตอำเภอเสิงสางด่วนที่สุดครับ-วันนี้ได้รับรายงานว่าขณะนี้มีการแพร่ระบาดในพื้นที่อำเภอเสิงสางแล้ว 14 ราย และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย-ขอให้งดกินหมูดิบและสัมผัสหมูดิบ ซึ่งอาจจะติดเชื้อ โดยเฉพาะเขียงหมูที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่ได้รับอนุญาตจากทางราชการ (ลักลอบเชือด) -บ่ายนี้นายอำเภอเสิงสางจะเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องด่วนที่สุดครับ เพื่อกำหนดมาตรการบางอย่าง และอาจจะกระทบกับพี่น้องชาวเสิงสาง-จึงแจ้งมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
โดยมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นและแชร์ข้อความดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
ต่อมา ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่ว่าการอำเภอเสิงสาง จ.นครราชสีมา เพื่อสอบถามถึงข้อเท็จจริง และลงพื้นที่ตรวจสอบถึงกรณีดังกล่าว โดยนายสานิตย์ ศรีทวี นายอำเภอเสิงสาง เปิดเผยว่า
ตนได้รับรายงานว่า ในพื้นที่อำเภอเสิงสางมีประชาชนเจ็บป่วยด้วยโรคหูดับ เริ่มตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.-9 ก.ย. จำนวนทั้งสิ้น 15 ราย และเสียชีวิตด้วยโรคดังกล่าวจำนวน 3 ราย โดยผู้เสียชีวิตทั้ง 3 รายได้เสียชีวิตก่อนที่ผลตรวจจะออกมาว่าเป็นโรคหูดับ ทราบว่า 2 ใน 3 อยู่ในพื้นที่บ้านโคกสูง ม.3 ต.สระตะเคียน และบ้านซับ ม.4 ต.สิงสาง ทั้ง 2 รายได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา
นายสานิตย์ ศรีทวี นายอำเภอเสิงสาง กล่าวถึงมาตรการแก้ไขสถานการณ์ว่า จะเร่งให้มีการประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้ทราบถึงโทษของการรับประทานอาหารที่เป็นหมูดิบ รวมถึงการสัมผัสหมูที่อาจจะติดเชื้อของโรคหูดับ โดยหากบุคลดังกล่าวมีบาดแผลแล้วไปสัมผัสหมูที่ติดเชื้อเชื้อโรค อาจจะเข้าทางกระแสเลือดได้
พร้อมทั้งจะมีการจัดระบบสำหรับผู้ประกอบการเลี้ยงหมูในพื้นที่ให้ถูกต้องตามกฎหมายและถูกสุขอนามัย ได้ประสานไปยังปศุสัตว์จังหวัด จากนี้จะมีหนังสือเกี่ยวกับแนวทางในการดำเนินการในการเชื่อมโยงผู้ประกอบการในพื้นที่ที่จะสามารถนำหมูเข้าสู่โรงฆ่าสัตว์ได้อย่างถูกต้อง
โดยในพื้นที่อำเภอเสิงสางมีโรงฆ่าสัตว์ขนาดเล็กเพียงแห่งเดียว จึงทำให้มีกลุ่มลักลอบค้าหมูยังไม่ถูกต้อง จึงเกิดปัญหาหมูติดโรคหลุดรอดเข้ามาในพื้นที่ เชื่อว่ากลุ่มที่ค้าหมูที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายก็จะได้เข้ามาอยู่ในระบบที่ถูกต้อง จากนั้นได้มอบหมายให้กับ อปท.ในพื้นที่ร่วมกับปศุสัตว์อำเภอและสาธารณสุขอำเภอ ลงพื้นที่ตรวจสอบและสำรวจโรงฆ่าสัตว์ หรือโรงชำแหละ เพื่อจัดทำทะเบียนและควบคุมสอบสวนโรค พร้อมทั้งการติดตามได้ง่ายในอนาคตต่อไป
ด้านนายแพทย์มงคล เกิดแปลงทอง นายแพทย์ประจำโรงพยาบาล ประธานองค์กรแพทย์โรงพยาบาลเสิงสาง ตัวแทนผู้อำนวยการโรงพยาบาลเสิงสาง ซึ่งเป็นผู้เก็บรวบรวมข้อมูลโรคหูดับในพื้นที่ เปิดเผยว่า
ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมมีผู้ป่วย 1 รายในพื้นที่ได้เดินทางเข้ามาทำการรักษาภายในโรงพยาบาลเสิงสาง โดยมีอาการของโรคปอดติดเชื้อ ก่อนที่ทีมแพทย์จะตรวจพบเชื้อของโรคหูดับในกระแสเลือด
ต่อมาในต้นเดือนกันยายน พบว่า มีผู้ป่วยจำนวน 4-5 รายเดินทางเข้ามาทำการรักษาด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือดรุนแรง จนถึงขั้นมีอาการไตวายและระบบการหายใจล้มเหลว ทีมแพทย์ต้องใส่ท่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
ต่อมามีผู้ป่วยเดินทางเข้ามารักษาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยอาการดังกล่าว พร้อมทั้งมีอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบ อาการหูดับตามมาเพิ่ม หลังจากนั้นแพทย์ได้รอผลการเพาะเชื้อในเลือดประมาณ 3-5 วัน ปรากฏพบว่าติดเชื้อ “สเตรปโตคอคคัส ซูอิส” (Streptococcus Suis) โดยเป็นเชื้อที่ต้องเฝ้าระวังเพราะเป็นการติดต่อจากการกินหมูดิบ หรือการสัมผัสเนื้อหมูที่เชื้อโรคสามารถติดต่อได้บาดแผล
ขณะนี้พบผู้ป่วยในพื้นที่อำเภอเสิงสางเข้าข่ายติดเชื้อทั้งหมด 15 ราย มีการยืนยันว่าติดเชื้อแล้ว 13 ราย และเสียชีวิตจากการติดเชื้อในกระแสเลือด ตับวาย ไตวาย และระบบการหายใจล้มเหลวจำนวน 3 ราย
สำหรับโรคไข้หูดับสามารถติดเชื้อโดยตรงจากการที่ผู้ป่วยรับประทานหมูดิบและสามารถติดเชื้อจากการสัมผัสหมูโดยตรงหากมีบาดแผลบริเวณร่างกายเข้าสู่กระแสเลือด แม้จะไม่ได้รับประทานหมูก็ตาม
นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยบางราย จากการสอบถามไม่มีพฤติกรรมในการรับประทานหมูดิบ แต่ชอบรับประทานหมูกระทะเป็นประจำ จึงตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะย่างหมูไม่สุกดี และใช้ตะเกียบอันเดียวกันที่ใช้คีบหมูดิบ และตะเกียบที่ใช้ย่างหมูรับประทาน ทำให้เชื้อปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกายได้
ส่วนอีกกรณีผู้ที่ทำงานในเขียงหมู อาจจะไม่ได้รับประทานหมูดิบ แต่เป็นผู้ที่สัมผัสหมูโดยตรง หากมีบาดแผลก็สามารถติดเชื้อโรคดังกล่าวผ่านผิวหนังได้
ส่วนอาการของผู้ติดเชื้อโรคหูดับ หลังจากได้รับเชื้อภายใน 3 ชั่วโมง หรือไม่เกิน 3 วัน จะพบอาการเบื้องต้นมีไข้ ถ่ายเหลว และปวดหัว หากติดเชื้อแล้วไม่ได้ทำการรักษาโดยเร็ว เมื่อเชื้อขึ้นไปถึงสมองอาจจะทำให้เสียชีวิต หรือหูดับได้
สำหรับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคหูดับมี 3 ส่วนด้วยกัน โดยต้องเริ่มจากผู้เลี้ยงหมูและผู้ขายหมู ต้องดูแลเรื่องสุขภาพอนามัยให้ดีสำหรับการเลี้ยงหมู และไม่จำหน่ายหมูป่วยให้กับผู้บริโภค
ส่วนที่ 2 คือ ผู้ที่ประกอบอาหารหากมีบาดแผลต้องสวมถุงมือเพื่อป้องกันเชื้อ ส่วนที่ 3 คือ ผู้บริโภคไม่ควรรับประทานหมูดิบ เช่น เมนูลาบดิบ ก้อยดิบ หากจะรับประทานหมูควรปรุงให้สุก โดยใช้ความร้อนอย่างน้อย 10 นาทีขึ้นไป เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเชื้อดังกล่าว.
---------
(รายงานข่าว ไทยพีบีเอส https://news.thaipbs.or.th/content/307921)
เมื่อวันที่ 14 ก.ย.2564 นายสานิตย์ ศรีทวี นายอำเภอเสิงสาง จ.นครราชสีมา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
อ.เสิงสาง 2 สัปดาห์พบผู้ป่วย 14 คน เสียชีวิต 3 คน และหูหนวกถาวร 2 คน โดยเกิดจากการรับประทานหมูดิบ ทั้งเมนูลาบดิบ ก้อยดิบ ตับลวก ตับหวาน ส้มหมู แหนมหมู หมูกระทะ และเชื้อจากหมูผ่านผิวหนังที่เป็นแผล
#สำหรับอาการที่พบ
ในระยะเวลาหลังรับประทาน 3 ชั่วโมง ไม่เกิน 3 วันจะมีอาการ 1 ใน 3 อย่าง ให้รีบไปโรงพยาบาลเพื่อรักษา ได้แก่ 1.ไข้ 2.อาเจียน,ถ่ายเหลว 3.ปวดศีรษะ หากมาช้าเกิน 3 วันอาจเกิดอาการชัก หูหนวกถาวร และเสียชีวิตได้
#วิธีป้องกัน คนเลี้ยงหมูต้องสะอาดทั้งคอกและเขียง คนปรุงต้องสวมถุงมือก่อนจับหมู และคนบริโภคห้ามรับประทานหมูดิบ หรือสุก ๆ ดิบ ๆ หมูกระทะต้องแยกตะเกียบย่างกับกะเกียบกิน
ในวันเดียวกัน นายอำเภอเสิงสางพร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงพยาบาลเสิงสาง สาธารณสุขอำเภอเสิงสาง ปศุสัตว์อำเภอเสิงสาง ตำรวจ ปลัดฝ่ายมั่งคง กำนัน ได้จัดประชุมปรึกษาหารือแนวทางการป้องกันโรคระบาดสเตรปโตคอกคัส ซูอิส (โรคไข้หูดับ) เพื่อกำหนดมาตรการงดกินหมูดิบและสัมผัสหมูดิบ
ทั้งนี้ เนื่องจากอาจจะติดเชื้อ โดยเฉพาะเขียงหมูที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่ได้รับอนุญาตจากทางราชการ ล่าสุด พบผู้ป่วยไข้หูดับ จำนวน 15 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 คน
#สถิติคนไทยป่วยโรคไข้หูดับ
ก่อนหน้านี้ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลสถานการณ์ของโรคไข้หูดับ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. -11 มิ.ย.2564 พบผู้ป่วยแล้ว 243 คน เสียชีวิต 11 คน
ส่วนภาคที่มีอัตราป่วยที่สุดคือ ภาคเหนือ (พบผู้ป่วย 162 คน คิดเป็นร้อยละ 66 ของผู้ป่วยทั้งหมด) จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก คือ ลำปาง พะเยา อุตรดิตถ์ นครราชสีมา และสุโขทัย ตามลำดับ ขณะที่ปี 2563 พบผู้ป่วยโรคไข้หูดับ 342 คน เสียชีวิต 12 คน
#รู้จักอาการโรคไข้หูดับ
สำหรับโรคไข้หูดับ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย สเตร็พโตค็อกคัส ซูอิส (Streptococcus suis) โดยเชื้อนี้จะอยู่ในทางเดินหายใจของหมู และอยู่ในเลือดของหมูที่กำลังป่วย สามารถติดต่อได้ 2 ทาง คือ
1. เกิดจากการบริโภคเนื้อและเลือดหมู ที่ปรุงแบบดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ
2. การสัมผัสกับหมูที่ติดเชื้อทั้งเนื้อหมู เครื่องใน และเลือดหมูที่เป็นโรค จากทางบาดแผล รอยขีดข่วนตามร่างกายหรือทางเยื่อบุตา หรือสัมผัสเลือดของหมูที่กำลังป่วย
หลังจากได้รับเชื้อ 3-5 วัน ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะอย่างรุนแรง เวียนศีรษะจนทรงตัวไม่ได้ อาเจียน คอแข็ง หูหนวก ท้องเสีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หากพบว่ามีอาการดังกล่าว ขอให้รีบพบแพทย์ทันที และแจ้งประวัติการกินหมูดิบและสัมผัสเนื้อหมูให้ทราบเพราะหากมาพบแพทย์และวินิจฉัยได้เร็ว จะช่วยลดอัตราการเกิดหูหนวกและการเสียชีวิตได้
ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ติดสุราเรื้อรัง ผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดัน ไต มะเร็ง หัวใจ ผู้ที่เคยตัดม้ามออก เป็นต้น หากติดเชื้อจะมีอาการป่วยรุนแรงเนื่องจากร่างกายมีภูมิต้านทานโรคต่ำ
#2วิธีป้องกันโรคไข้หูดับ
ทั้งนี้ วิธีการป้องกันโรคไข้หูดับ คือ
1.ควรบริโภคอาหารที่ปรุงสุกด้วยความร้อน ทำสดใหม่ โดยเฉพาะเนื้อหมู ควรเลือกซื้อเนื้อหมูจากตลาดสดหรือห้างสรรพสินค้าที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานจากกรมปศุสัตว์ ไม่ซื้อเนื้อหมูที่มีกลิ่นคาว สีคล้ำ ขอให้แยกอุปกรณ์ที่ใช้หยิบเนื้อหมูสุกและดิบออกจากกัน ไม่ใช้เขียงของดิบและของสุกร่วมกัน
2.ไม่สัมผัสเนื้อหมูและเลือดดิบด้วยมือเปล่า โดยเฉพาะผู้เลี้ยงหมู ผู้ที่ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ ผู้ที่ชำแหละเนื้อหมู สัตวบาล สัตวแพทย์ ควรสวมรองเท้าบู๊ทยาง สวมถุงมือ รวมถึงสวมเสื้อที่รัดกุมระหว่างทำงาน หากมีบาดแผลต้องปิดแผลให้มิดชิด และล้างมือหลังสัมผัสกับหมูทุกครั้ง
โรคไข้หูดับ 在 หมอแล็บแพนด้า Facebook 的最佳貼文
เรื่องกินหมูดิบๆนี่เตือนไปแล้วหลายรอบ ส่วนใหญ่ชอบหามกันไปโรงพยาบาลหลังจากไปกินหมูดิบๆเป็นหมู่คณะ พูดง่ายๆก็คือตั้งวงนะแหละครับ มีกับแกล้มเป็น หมูดิบ ทำลาบ ทำหลู้กินกัน เจ็บป่วยกันไปตามๆกัน 3 โรคที่เจอบ่อยๆตามนี้เลยครับ
1. โรคไข้หูดับ ไม่ใช่หูดำนะ 55555 เพราะหมูพวกนี้มันติดเชื้อที่ชื่อว่า เสตร็ปโตคอคคัส ซูอิส(S. suis) พูดแบบfloor houseก็คือหมูมันป่วยอยู่ ถ้าเราไปสัมผัสหมู หรือกินหมูแบบดิบๆ เราก็จะติดโรคมา อาการจะเริ่มจากไข้สูง เวียนหัว คอแข็ง บ้างก็อาเจียน และหูดับ พูดง่ายๆก็คือว่าที่หนวกถาวรครับ
2. โรคพยาธิตืดหมู(Taeniasis)หรือเป็นซีสต์ขึ้นสมองไปเลย อันนี้สังเกตไม่ยาก เราจะมองเห็นเป็นเหมือนเม็ดสาคูแทรกอยู่ตามเนื้อหมู ถ้าเราเผลอไปกินเม็ดสาคูนี้ ซึ่งในนั้นจะมีตัวอ่อนพยาธิอยู่มันจะไปโตในลำไส้เรา แต่ถ้าเราเผลอไปกินไข่พยาธิ พยาธิมันจะฟักไข่เป็นตัวแล้วไปแทรกตามกล้ามเนื้อทั่วร่างกายเราได้เลย
3. โรคพยาธิทริคิโนซิส(Trichinosis) ที่เจอพยาธิแทรกตามกล้ามเนื้อผู้ป่วยหลังจากกินหมูดิบนั่นแหละครับ สัปดาห์แรกจะท้องเสีย คลื่นไส้อาเจียน สัปดาห์ต่อมาจะเริ่มปวดตามกล้ามเนื้อ เพราะพยาธิมันไชไปเรื่อยยังไงล่ะครับ กินยาถ่ายพยาธิก็ไม่ได้
เมื่อก่อนผมก็เคยกินนะ(ปัจจุบันเลิกขาด) หันมากินเนื้อวัวดิบแทน จะบ้าเรอะ!! 555555555 อะไรที่ดิบๆมีเชื้อโรคทั้งนั้นแหละค้าบ
โรคไข้หูดับ 在 女子@清邁—ในเชียงใหม่ Facebook 的最佳貼文
【訊息轉發】關於生食肉類與榴槤 เตือนคนเหนือชอบกินลาบ และ บุฟเฟต์ทุเรียน
好啦,這兩項食物硬湊起來有點怪,但就這兩天的新訊息一起分享給大家。
先前當跟屁蟲,隨泰國朋友到清邁郊區的牛市走跳,然後因為想試試也因為很愛吃 ลาบ laab,就點了 ลาบควายดิบ 泰北流的辣拌生牛肉,或許是冬季氣候涼也或許是就近取材,新鮮味美,沾著糯米飯吃的很香。後來這事件竟變成泰國朋友跟新朋友介紹我時的開場白:「就是那個敢吃 ลาบดิบ 的外國人啦!」
好了,新聞來了,熱季別碰生肉嘿。
根據《Chiangmai News》報導,疾病管制局統計自今年 1 月至 3 月 28 日,全泰國共有 93 位病患因為吃辣拌生牛肉而感染 โรคไข้หูดับ 也就是豬鏈球菌感染症(Streptococcus suis),其中 12 位病患死亡,患病者年齡多落在 65 歲以上,接續是 55 ~ 64 歲以及 45 ~ 54 歲。病患多數居住泰北,以患病人數最多的是在中部的那空沙旺府,再來是北部的程逸府 อุตรดิตถ์、烏泰他尼府 อุทัยธานี 以及楠府 น่าน。
豬鏈球菌感染症是人畜共通疾病,會造成成人腦膜炎以及敗血症等症狀。正逢熱季,就算再好奇,肉類食物別大膽生食,尤其在路邊小店,各類肉食煮熟為佳。此外,切好的裝袋水果挑選時也要多留心。
其實在那回離開牛市之後,到其他店家也是都點 ลาบคั่ว 或 ลาบเมือง,再怎麼敢嘗鮮也不想頂著老身拼命。
第二則就比較不嚇人:榴槤節來了!榴槤節又擱來了!
清邁 Central Festival 商場將於 5 月 15 ~ 19 日在商場 G 層舉辦「ทุเรียนเลิฟเวอร์ 榴槤吃到飽」每人 450 泰銖,平日每天有四輪、週日有五輪場次,並於現場供提供各種品種的榴槤,讓愛吃榴槤的朋友吃好吃滿吃飽飽。有興趣的朋友請參考:https://pse.is/GK8H3
想到路邊水果攤買個現剖榴槤,感覺比較新鮮?!現正榴槤熱賣價格好,有些攤商為了多賺點,想空想乓的騙點重量,日前泰國政府祭出重罰,若被公務人員查到有欺騙情事,賣家最高可罰 3 年牢刑、罰金最高 6 萬泰銖。如果對自己挑榴槤的判斷沒把握,又實在很想很想吃,直接去商場狂嗑吧。
*新聞來源:
《Chiangmai News》
https://pse.is/FE8NU
https://pse.is/HR4BU
*關於清邁牛市
https://pse.is/HQX2E
*關於 ลาบ
https://pse.is/FEQFZ