雖然這篇โทรทัศน์ปัจจุบัน鄉民發文沒有被收入到精華區:在โทรทัศน์ปัจจุบัน這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章
在 โทรทัศน์ปัจจุบัน產品中有1篇Facebook貼文,粉絲數超過22萬的網紅2how,也在其Facebook貼文中提到, หลังจากที่มนุษย์ค้นพบว่า สามารถเอาภาพนิ่งมาดูต่อกันเร็วๆ มันจะกลายเป็นภาพเคลื่อนไหวได้ ก็เกิดระบบภาพยนตร์กับวิดีโอขึ้นมา ในเวลาที่ห่างกันไม่มาก ...
โทรทัศน์ปัจจุบัน 在 2how Facebook 的最佳貼文
หลังจากที่มนุษย์ค้นพบว่า
สามารถเอาภาพนิ่งมาดูต่อกันเร็วๆ
มันจะกลายเป็นภาพเคลื่อนไหวได้
ก็เกิดระบบภาพยนตร์กับวิดีโอขึ้นมา
ในเวลาที่ห่างกันไม่มาก
(นับจากตอนเฟื่องฟู ดูได้ทั่วไปอ่ะนะครับ)
แล้วจำนวนภาพต่อหนึ่งวินาที
มันต้องมากน้อยแค่ไหนหล่ะ
ถึงจะเกิดเป็นภาพเคลื่อนไหวที่ราบรื่นได้
จากการศึกษาพบว่าต้องใช้จำนวนภาพ
ประมาณ 16 เฟรมต่อวินาทีขึ้นไป
จึงเกิดเป็น frame rate ขึ้นมา เป็นสิ่งแรก
แต่นั่นก็ไม่ใช่ทั้งหมด
เพราะถึงแม้จะเคลื่อนไหวราบเรียบ
คือไม่ดูเป็นภาพนิ่งเรียงต่อกันแบบสะดุดๆแล้ว
flickering ยังเป็นอีกเรื่องที่ต้องพิจารณา
คือไม่กระพริบรัวๆจนรู้สึกไม่สบายตา
เมื่อต้องดูต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ
ดังนั้นนอกจาก frame rate แล้ว
เลยต้องมี refresh rate เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งอย่าง
ที่ยิ่งสูงก็ยิ่งดี ดูสบายตา ไม่กระพริบ
(โทรทัศน์ปัจจุบัน 100Hz)
แต่การจะใช้ refresh rate เป็น frame rate
มันจะสิ้นเปลืองมาก ค่าฟิล์มเปลืองสามเท่าก็ไม่ไหว
หรือถ้าเป็นระบบวิดีโอ bandwidth ก็จะสูงมาก
จนโทรทัศน์มีราคาแพงเกินไป
ทั้งระบบวิดีโอและฟิล์ม เลยต้องไปหาทางออกของตัวเอง
#ระบบฟิล์ม เลือกใช้ frame rate เท่ากับ 24 fps เป็นมาตรฐาน
แล้วจึงใช้ refresh rate ที่เครื่องฉายภาพยนตร์
ฉายภาพบนฟิล์ม 1 ภาพซ้ำลงบนจอ 2-3 ครั้ง
เพื่อเพิ่ม refresh rate เป็น 48Hz หรือ 72Hz
แล้วแต่ความสามารถของเครื่องฉาย
#ระบบโทรทัศน์ ทำแบบฟิล์มไม่ได้ เพราะโทรทัศน์สมัยก่อน
คือการออกอากาศสด ยังไม่มีวิดีโอเทป
ยังไม่มีอุปกรณ์ใดๆที่จะช่วยเก็บภาพไว้ชั่วคราว
สำหรับการรีเฟรชภาพซ้ำหลายๆรอบได้
จึงไม่มีทางอื่น นอกจากใช้ frame rate ที่สูงกว่าภาพยนตร์
คือเป็นการทำให้ frame rate เป็น refresh rate ไปเลย
นั่นก็คือ 50fps กับ 60fps ตามระบบไฟบ้านของประเทศนั้นๆ
แต่การใช้ frame rate 50/60 fps
ก็ใช้ bandwidth มากเกินไป
ซึ่งเราก็ได้ทราบแล้วว่า แค่ 25/30 fps
ก็ได้การเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่องแล้ว
ระบบโทรทัศน์ก็เลยนำเสนอ
รูปแบบการสแกนแบบ interlaced
เกิดเป็นระบบ 50i กับ 60i ขึ้นมา
คือเป็นการบันทึก 50/60 fps แบบสลับเส้น
ระหว่าง odd field กับ even field
ช่วยลด bandwidth ลงได้ครึ่งหนึ่ง
ได้เนื้อภาพเทียบเท่ากับการบันทึกเป็น 25p/30p
และได้ refresh rate เท่ากับ 50Hz/60Hz
ระบบโทรทัศน์เลยเป็น interlaced มานานแสนนาน
จนเมื่ออะไรๆทันสมัยขึ้น มีระบบวิดีโอเทปเข้ามา
และเกิดความต้องการทำ vfx และอื่นๆ
เทคนิคการสแกนแบบ interlaced สลับเส้น
จึงไม่เป็นที่ปราถนา อีกต่อไป
การสแกนแบบ progressive
เลยถูกเพิ่มเข้าไปในระบบวิดีโอในภายหลัง
ดังที่เราเห็นค่า setting ในการทำงาน
เป็น 50i 60i 25p 30p เยอะแยะไปหมด
แต่ก็อย่าลืมว่า อุปกรณ์วิดีโอ ระบบออกอากาศ
ก็ยังเป็น interlaced สืบทอดกันมา
จะให้เปลี่ยนทั้งหมดเป็น progressive นั้นยากมาก
(แต่ก็เริ่มจะไม่ยากละหละ หลังจากมี streaming
และ smart TV เกิดขึ้นมา )
ดังนั้นเลยมีระบบ Psf
หรือ Progressive Segmented Frame เกิดขึ้นมา
คือเป็นการทำงานกับภาพแบบ progressive
บนอุปกรณ์แบบ interlaced เดิม
เป็นการพบกันครึ่งทาง คือเนื้อภาพจะไม่เป็นเส้นๆ
แต่ยังใช้อุปกรณ์แบบเดิมได้
###################################
สรุปคือ ระบบฟิล์มไม่มี progressive/interlaced
แต่ลักษณะการบันทึกและแสดงผลของฟิล์ม
มันเทียบเท่ากับระบบ progressive ของวิดีโอ
ระบบการบันทึกในกล้องวิดีโอ ระบบวิดีโอเทป
ระบบตัดต่อ และการแสดงผลของจอ braodcast
รุ่นเก่าๆจะเป็น interlaced รุ่นใหม่ๆจะรองรับได้
ทั้งแบบ progressive และ interlaced
เมื่อทั้งสองระบบหลอมรวมเข้าด้วยกัน
เลยเกิดการปะทะทางวัฒนธรรมขึ้นเล็กน้อย
สมมุติว่าเราจะทำซีรีส์ จะใช้แบบไหน
จะมองว่าเป็นฟิล์ม หรือจะมองเป็นวิดีโอ?