雖然這篇โดยที่ ภาษาอังกฤษ鄉民發文沒有被收入到精華區:在โดยที่ ภาษาอังกฤษ這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章
在 โดยที่產品中有349篇Facebook貼文,粉絲數超過178萬的網紅ลงทุนแมน,也在其Facebook貼文中提到, รู้จักเรื่องราวของ Kildall ที่เสียโอกาสทองให้ Bill Gates ไปอย่างน่าเสียดาย /โดย ลงทุนแมน คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “Microsoft Windows” เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิ...
同時也有656部Youtube影片,追蹤數超過23萬的網紅OverclockZoneTV,也在其Youtube影片中提到,อีกสาเหตุนึงที่ Microsoft เปิดตัว Windows 11 นอกจากจะปรับปรุงในเรื่องของหน้าตาและฟีเจอร์ให้ทันสมัยมากขึ้นแล้ว เรื่องประสิทธิภาพภายในก็สำคัญไม่แพ้กัน โ...
「โดยที่」的推薦目錄
- 關於โดยที่ 在 GamingDose Instagram 的最讚貼文
- 關於โดยที่ 在 GamingDose Instagram 的最讚貼文
- 關於โดยที่ 在 GamingDose Instagram 的精選貼文
- 關於โดยที่ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於โดยที่ 在 BorntoDev Facebook 的精選貼文
- 關於โดยที่ 在 Facebook 的最佳解答
- 關於โดยที่ 在 OverclockZoneTV Youtube 的精選貼文
- 關於โดยที่ 在 NotebookSPEC Youtube 的最佳解答
- 關於โดยที่ 在 KP l KhuiPhai Youtube 的最讚貼文
โดยที่ 在 GamingDose Instagram 的最讚貼文
2021-09-15 23:34:14
เป็นเวลาสักพักหลังเปิดตัว ที่เราไม่ได้ยินข่าวความคืบหน้าของเกมใหม่อย่าง Star Wars: Hunters แต่ล่าสุดก็ดูเหมือนจะมีข้อมูลหลุดออกมาแล้วเรียบร้อยบนโลกอิน...
โดยที่ 在 GamingDose Instagram 的最讚貼文
2021-09-10 01:09:48
หลังจากมีข่าวลืออย่างหนาหูในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ในที่สุดทีมงาน Remedy Entertainment ก็ประกาศเปิดตัว Alan Wake ฉบับ Remastered ออกมาแล้วเป็นที่เรียบร้...
โดยที่ 在 GamingDose Instagram 的精選貼文
2021-09-03 14:39:41
Donnie Yen นักแสดงสายบู๊ชื่อดัง เผยกับสื่อ Collider ว่าเขายังคงมีหวังจะได้เห็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากเกมอย่าง Sleeping Dogs เกิดขึ้นจริงอยู่ . เรื่องน...
-
โดยที่ 在 OverclockZoneTV Youtube 的精選貼文
2021-06-23 20:32:30อีกสาเหตุนึงที่ Microsoft เปิดตัว Windows 11 นอกจากจะปรับปรุงในเรื่องของหน้าตาและฟีเจอร์ให้ทันสมัยมากขึ้นแล้ว เรื่องประสิทธิภาพภายในก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยที่ Hardware Scheduler ตัวใหม่ของ Windows 11 นี้จะออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลของ Hardware ให้ดีขึ้นไปอีก โดยเฉพาะกับ Processor แบบ Hybrid รุ่นใหม่ๆที่คาดว่าจะเปิดตัวปลายปีนี้ (Intel Gen 12) .. งานนี้ต้องรีบออกมาแล้วหล่ะ ก่อนที่ Mac M1 จะกินตลาดไปเยอะกว่านี้
-
โดยที่ 在 NotebookSPEC Youtube 的最佳解答
2021-06-04 15:00:06Intel NUC11 คอมจิ๋วที่เป็นชุดคิท ไซส์กระทัดรัด ที่มีซีพียู Intel และกราฟิก พร้อมเมนบอร์ดมาในตัว ผู้ใช้เพียงติดตั้งแรมและ Storage อย่างเช่น SSD มาติดตั้งเพิ่มเติม ก็ใช้งานได้ทันที โดยที่ NUC11PAHi5 รุ่นนี้มาพร้อมขุมพลัง Intel Core i5-1135G7 ความเร็วสัญญาณนาฬิกา 4.20GHz และทำงานในแบบ 4 core/ 8 thread มีสล็อตแรม DDR4 มาบนเมนบอร์ดให้ติดตั้งแรมแบบ SODIMM ได้สูงสุด 64GB และใช้งาน SSD ได้ในแบบ M.2 slot PCIe พร้อมพอร์ต Thunderbolt และต่อจอได้อีก 4 จอพร้อมกัน ทำงาน บันเทิง พกพา จบครบในราคา หมื่นต้นๆ เท่านั้น
#NBS #NotebookSPEC
--------------------------------------
อ่านรีวิวเต็ม & ดูสเปคและราคา
→ https://notebookspec.com
ค้นหาโน้ตบุ๊คเล่นเกม
→ http://bit.ly/NBGaming
ค้นหาโน้ตบุ๊ครุ่นล่าสุด
→ http://bit.ly/NBSearch
จัดสเปคพีซี สเปคคอมเล่นเกม
→ http://bit.ly/NBSspecpc
--------------------------------------
► ติดตามเราได้ที่ ◄
Youtube : https://www.youtube.com/c/notebookspec
Facebook : https://www.facebook.com/notebookspec
Twitter : https://twitter.com/notebookspec
Line: @NotebookSPEC
ติดต่อโฆษณา/รีวิว : [email protected] -
โดยที่ 在 KP l KhuiPhai Youtube 的最讚貼文
2021-05-27 19:19:05#iPadPro2021
#iPadProM1
#iPadPro2021M1
#iPadPro
#Apple
iPad Pro 2021 M1 ตัวนี้ถือว่าเป็นตัวที่มีความก้าวกระโดดที่สุดในตระกูล iPad Pro เลยก็ว่าได้ครับผม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหน้าจอ iPad Pro 2021 M1 หรือว่าจะเป็นเรื่อง Performance เองครับผม แต่ส่วนตัวผมมองว่า iPad Pro 2021 M1 มี Hardware ที่ยังทรงพลังเกินไปกับ iPadOS 14 ตัวนี้ครับผม เหตุผลเป็นเพราะว่า iPad Pro 2021 M1 ยังไม่ได้มี Professional Application รองรับครับผม iPad Pro 2021 M1 เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสีตรงของหน้าจอที่สุดครับผมในรุ่น 12.9 นิ้วที่ใช้จอ Mini LED ครับผม iPad Pro 2021 M1 ให้สีที่ค่อนข้างจะตรงครับผม ตรงกว่าจอ iMac อีกครับผม อย่างไรก็ดีความที่ iPad Pro 2021 M1 มี Local Dimming Zone ค่อนข้างเยอะอาจจะเกิดอาการ Glowing ได้ใน Extreme Condition ครับผมแต่ว่าiPad Pro 2021 M1 ก็ให้การแสดงผลที่ดีมากๆเมื่อเทียบกับทุกๆรุ่นในตลาดตอนนี้ครับผม การที่ iPad Pro 2021 M1 มีแรมมากที่สุดถึง 16 GB ทำให้ไม่ต้องกลัวว่า iPad Pro 2021 M1 จะมีการ Refresh ของแอพค่อนข้างน้อยครับผม ถ้าไม่ได้ใช้งา iPad Pro 2021 M1 หนักๆเช่น Application Google Drive อย่างที่ผมใช้ครับผม ซึ่งส่วนตัวผมมองว่า iPad Pro 2021 M1 สามารถทำได้เหมือนกับ Macbook รุ่นอื่นๆครับ เหลือแต่ Software ที่มันยังตามตัว Hardware ไม่ทันครับผม ผมหวังว่าในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า iPad Pro 2021 M1 จะได้รับการอัพเกรดในเรื่อง iPadOS ในงาน WWDC ครับผม ซึ่งจะทำให้ iPad Pro 2021 M1 มีความดุดันเทียบชั้นกับตระกูล Mac ได้เป็นครั้งแรกครับผม โดยที่ iPad Pro 2021 M1 ไม่ได้ใช้ MacOS ครับ คลิปหน้าผมจะเอา iPad Pro 2021 M1 มาเทียบกับ iPad Pro 2020 ให้ทุกท่านได้เห็นภาพชัดขึ้นครับผม iPad Pro 2021 M1 ตัวนี้ผมซื้อมาเพราะเรื่อง Future Proof เป็นหลักเลยครับผม แต่อย่างที่ผมว่าไปครับว่าถ้างบเป็นปัญหากับทุกท่านจริงๆ iPad Pro 2021 M1ตัวนี้มาซื้ออีกปีหนึ่งผมว่ามันก็ยังไม่สายครับผม เพราะว่า iPad Pro 2021 M1 ถูกออกแบบมาให้ใช้ตั้งแต่คนเริ่มต้นไปยัน Professional ได้สบายๆเลยครับผม iPad Pro 2021 M1 ตัวนี้ทำมาได้ดีครับผม แต่ยังไม่สามารถดึงศักยภาพจริงๆออกมาได้แค่นั้นเองครับผม
.
กล้อง: Sony A7III
เลนส์: Sony 16-35 f/2.8 GM
ไมโครโฟน: Saramonic UWmic 10
ขาตั้ง: Zhiyun Crane 3S / Joby Glorilla Pod 5K
.
*******************************************************************
Social
Facebook: ขุยไผ่ไงจะใครล่ะ
ลิ้งค์: https://www.facebook.com/KhuiPhai/
Youtube: KP | KhuiPhai
ลิ้งค์: https://www.youtube.com/c/KPlKhuiPhai
*******************************************************************
ติดต่องานได้ที่
Email: KhuiPhai@gmail.com
Tel: 0929978082
*******************************************************************
ขอบคุณทุกคนที่รับชมครับ
โดยที่ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
รู้จักเรื่องราวของ Kildall ที่เสียโอกาสทองให้ Bill Gates ไปอย่างน่าเสียดาย /โดย ลงทุนแมน
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “Microsoft Windows” เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก โดยมีส่วนแบ่งการตลาด ที่มากถึง 83%
นวัตกรรมดังกล่าว กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผู้ก่อตั้งบริษัท Microsoft อย่าง “Bill Gates” กลายเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐี ที่รวยที่สุดในโลกมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันเขามีทรัพย์สินมากถึง 4.4 ล้านล้านบาท
โดยจุดเริ่มต้นของ Microsoft Windows เกิดจากการที่บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่สุดในโลกขณะนั้นอย่าง IBM เริ่มผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือ PC และกำลังตามหาบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาระบบปฏิบัติการ ซึ่ง IBM ก็ได้เลือกทำสัญญากับบริษัท Microsoft ที่ในตอนนั้นเพิ่งก่อตั้งมาได้ 5 ปี
แต่รู้หรือไม่ว่านอกจาก Bill Gates แล้ว ยังมีนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์อัจฉริยะอีกคน ที่เกือบได้เป็นผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ให้กับ IBM และอาจจะกลายมาเป็นแบบ Bill Gates ในทุกวันนี้
แล้วเขาคนนั้น คือใคร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
อัจฉริยะที่เกือบได้เป็น Bill Gates คนนั้น มีชื่อว่า “Gary Kildall”
Kildall เกิดในปี 1942 ที่เมืองซีแอตเทิล ประเทศสหรัฐอเมริกา
แต่เดิม Kildall ตั้งใจว่าเมื่อเรียนจบมาจะเป็นอาจารย์สอนคณิตศาสตร์ แต่ระหว่างเรียนระดับปริญญาตรีเขาเริ่มสนใจเรื่องเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ Kildall จึงเรียนต่อจนถึงระดับปริญญาเอกในสาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์
ในปี 1971 ช่วงที่ Kildall กำลังเรียนปริญญาเอก เขาได้ยินมาว่า Intel จะเปิดตัว ไมโครโพรเซสเซอร์ตัวแรกของโลกที่ชื่อว่า “Intel 4004”
ไมโครโพรเซสเซอร์ ก็คือชิปขนาดเล็กที่มีแผงวงจรรวมจำนวนมหาศาล
ซึ่งนวัตกรรมนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คอมพิวเตอร์ ซึ่งแต่เดิมมีขนาดใหญ่ นิยมใช้กันแต่ในองค์กร มีขนาดเล็กลง จนเป็นไมโครคอมพิวเตอร์และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในเวลาต่อมา
ด้วยความที่ Kildall สนใจเรื่องราวของไมโครโพรเซสเซอร์เป็นอย่างมาก เขาจึงตัดสินใจเข้าไปทำงานพาร์ตไทม์เป็นที่ปรึกษาให้กับ Intel ซึ่งหลัก ๆ แล้ว Kildall จะพัฒนาและเขียนโปรแกรมที่ใช้งานร่วมกับไมโครโพรเซสเซอร์ของ Intel ได้
จากจุดเริ่มต้นนี้ Kildall ก็ได้ต่อยอดจนสามารถพัฒนาซอฟต์แวร์
ที่ชื่อว่า “CP/M” ที่นับว่าเป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์แรกของโลก
โดยก่อนหน้าที่จะมี CP/M คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องบนโลกจะต้องใช้ซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นมาของใครของมัน แต่ Kildall ได้พัฒนา CP/M ให้เป็นระบบปฏิบัติการกลาง ซึ่งสามารถนำไปใช้งานได้กับคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง
แรงผลักดันในการพัฒนา CP/M และผลงานอื่น ๆ ของ Kildall เกิดขึ้นจากความหลงใหลในคอมพิวเตอร์
เพราะจริง ๆ แล้ว Kildall ไม่เคยสนใจเรื่องธุรกิจเลย แต่ภรรยาของเขาก็ได้โน้มน้าวให้จัดตั้งบริษัทเพื่อจดสิทธิบัตรระบบปฏิบัติการและทำธุรกิจจัดจำหน่ายซอฟต์แวร์ ทั้งคู่เลยร่วมกันก่อตั้งบริษัทที่ชื่อว่า “Digital Research”
ลูกค้าที่เลือกใช้ CP/M ของ Digital Research ก็เช่น IMSAI 8080 ไมโครคอมพิวเตอร์ชื่อดัง ที่เปิดตัวในปี 1975 ซึ่งทำออกมาแข่งกับไมโครคอมพิวเตอร์รุ่นตำนานอย่าง Altair 8800 ของบริษัท MITS
โดย Altair 8800 ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านั้น 1 ปี ยังใช้ซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นมาใช้เฉพาะรุ่น ชื่อว่า BASIC ซึ่งซอฟต์แวร์นี้เองก็เป็นผลิตภัณฑ์แรก ๆ ของบริษัทซอฟต์แวร์น้องใหม่ที่ก่อตั้งโดยชายวัย 20 ปี ที่ชื่อว่า “Bill Gates” ซึ่งเขาได้ลาออกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดแล้วชวนเพื่อนมาตั้งบริษัท “Microsoft”
มาถึงในปี 1976 บริษัท Apple ก็ได้ปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์ด้วยการเปิดตัวคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะรุ่นแรก ๆ ของโลกที่ชื่อว่า Apple I ก่อนที่ในปีถัดมาจะประสบความสำเร็จจาก Apple II ซึ่งบริษัท Apple เรียกว่าเป็น Home Computer ที่คนทั่วไปใช้งานได้ที่บ้าน ไม่จำเป็นต้องเป็นโปรแกรมเมอร์
นั่นเลยทำให้ Apple II ได้รับความนิยมสูงมากและสามารถลบคำสบประมาทที่คนมักเถียงกันว่าคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก เป็นเพียงอุปกรณ์สำหรับคนที่คลั่งไคล้ในคอมพิวเตอร์เท่านั้น คนทั่วไปคงไม่สนใจซื้อมาใช้งาน
ความสำเร็จของ Apple ก็ทำให้บริษัทเทคโนโลยีอันดับหนึ่งของโลกในขณะนั้นอย่าง IBM อยากเข้ามาร่วมในตลาดคอมพิวเตอร์สำหรับคนทั่วไปบ้าง
ในปี 1980 IBM จึงได้เริ่มออกแบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเรียกว่า Personal Computer หรือ PC แทน Home Computer แบบ Apple เพราะ IBM ไม่ได้มองว่าคอมพิวเตอร์จะต้องใช้แค่ที่บ้าน แต่จะถูกใช้งานให้เกิดประโยชน์ได้มากกว่านั้น อย่างเช่นการนำไปใช้งานตามออฟฟิศ
IBM ต้องการทำให้ PC เริ่มวางขายได้เร็วที่สุด IBM จึงโฟกัสที่การออกแบบฮาร์ดแวร์โดยใช้ชิปของ Intel ส่วนซอฟต์แวร์อย่างระบบปฏิบัติการ ทางบริษัทจะจ้างบริษัทขนาดเล็กพัฒนาแทน โดยหนึ่งในบริษัทที่ IBM ติดต่อไปก็คือ Microsoft ซึ่งในตอนนั้นเพิ่งก่อตั้งมาได้เพียง 5 ปี
IBM เดินทางไปที่ออฟฟิศของ Microsoft ซึ่งเมื่อไปถึง IBM ได้ให้ Gates เซ็นสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูล เพราะ IBM ต้องการเก็บเรื่องที่กำลังพัฒนา PC ไว้เป็นความลับ
หลังจากนั้น IBM ก็ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ Gates ฟัง
แต่โชคร้ายที่ตอนนั้น Microsoft ยังไม่ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์
Gates จึงได้แนะนำกับ IBM ว่าให้ไปหา Kildall แห่งบริษัท Digital Research ที่พัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ไว้แล้ว IBM ตัดสินใจเดินทางไปพบ Kildall ที่ซีแอตเทิลทันที
Gates โทรไปบอก Kildall ว่าจะมีคนสำคัญมากไปพบ ให้ปฏิบัติกับพวกเขาดี ๆ
แต่ Gates เล่ารายละเอียดให้ฟังไม่ได้เพราะติดสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูลกับ IBM
Kildall ไม่รู้เลยว่ากลุ่มคนที่กำลังมาพบเขา จะมาจากบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่สุดในโลก
ซึ่งเขากลับคิดว่าคนที่ Gates เล่าถึงจะเป็นเพียงกลุ่มคนที่มาจากบริษัทขนาดเล็ก
เขาจึงไม่ได้สนใจมากนักและเขาก็ได้ขับเครื่องบินส่วนตัวไปอีกเมือง ซึ่งจนถึงตอนนี้ ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าเขาไปขับเครื่องบินเล่นเพื่อหลีกเลี่ยงการพูดคุยหรือไปติดต่องานทางธุรกิจกันแน่
นั่นจึงทำให้เมื่อ IBM ไปถึงออฟฟิศบริษัท Digital Research ทีมงานจึงได้เจอแต่เพียงภรรยาของ Kildall ซึ่งก่อนที่ทีมงานจาก IBM จะแนะนำตัวและเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการให้ฟัง
ทาง IBM ก็ได้ขอให้ภรรยาของ Kildall เซ็นสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูลก่อนเหมือนกับที่ให้ Gates เซ็น แต่ภรรยาของ Kildall ยังไม่ยอมเซ็นสัญญา
ซึ่งสาเหตุที่เธอไม่ได้เซ็นก็เพราะว่าเธอรู้สึกเหมือนโดนบังคับ
รวมถึงเธอก็อยากรอ Kildall กลับมาพูดคุยเองมากกว่า
ส่วนทาง IBM ก็เริ่มหัวเสียที่เธอไม่ยอมเซ็นสัญญา ทีมงานจาก IBM ก็รอต่อไปไม่ไหว
สุดท้ายแล้ว IBM จึงเดินทางกลับไปโดยยังไม่ทันได้เล่ารายละเอียดเรื่องระบบปฏิบัติการให้ฟัง..
หลังจากนั้น IBM เลยติดต่อไปหา Gates อีกครั้ง
Gates เห็นว่าโปรเจกต์ PC ของ IBM กำลังจะเปลี่ยนตลาดคอมพิวเตอร์ทั่วโลกครั้งใหญ่ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้คอมพิวเตอร์ของเราให้มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายมากขึ้นแบบก้าวกระโดด
Gates เลยบอก IBM ไปว่า Microsoft สามารถทำระบบปฏิบัติการให้ได้
ทั้งที่ความจริงแล้ว ในตอนนั้น Microsoft ยังไม่มีอะไรเลย
ทางออกเดียวที่ Microsoft จะมีระบบปฏิบัติการไปเสนอให้ IBM ได้ทันเวลาก็คือ การควานหาผู้ที่พัฒนาระบบปฏิบัติการไว้แล้วและไปซื้อต่อมา
Microsoft ไปเจอว่ามีโปรแกรมเมอร์ที่ชื่อว่า Tim Paterson ซึ่งทำงานในบริษัทเล็ก ๆ ที่ชื่อ Seattle Computer ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการที่ชื่อว่า Q-DOS
หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft จึงเดินทางไปพบ Paterson เพื่อเจรจาขอซื้อ Q-DOS และดึงตัว Paterson มาเพื่อดัดแปลง Q-DOS ให้เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์เพื่อขายให้ IBM
โดยใช้ชื่อว่า “MS-DOS” โดยที่ Microsoft ไม่รู้ว่า Q-DOS เป็นระบบปฏิบัติการที่ Paterson เลียนแบบและดัดแปลงมาจาก CP/M ของ Kildall
IBM ตกลงซื้อ MS-DOS ของ Microsoft แต่แทนที่ Microsoft จะขายระบบปฏิบัติการแบบครั้งเดียวจบ Gates เสนอกับทาง IBM ว่าให้ Microsoft ได้รับส่วนแบ่งจากทุกเครื่อง PC ที่ทาง IBM ขายได้ ซึ่งเป็นวิธีที่ Gates เคยใช้มาแล้วตอนเขียนซอฟต์แวร์ให้ไมโครคอมพิวเตอร์ Altair 8800
ความนิยมของ PC จาก IBM ก็เป็นไปตามที่ Gates คาด เพราะหลังจากที่ “IBM PC” เปิดตัวในเดือนสิงหาคม ปี 1981 ผ่านไป 2 ปีแรก IBM PC สามารถขายได้กว่า 2 ล้านเครื่อง เกินกว่าที่คาดการณ์เอาไว้เกือบ 10 เท่า
และด้วยความที่ IBM PC มีราคา คิดเป็นเพียง 2 ใน 3 ของ Apple จึงทำให้อุปกรณ์ชิ้นนี้ได้กลายเป็นคอมพิวเตอร์ที่ถูกนำไปใช้กันทั่วไปในสำนักงาน จน IBM สามารถเอาชนะ Apple และกลายมาเป็นผู้ผลิต PC ที่ใหญ่สุดในโลกได้
แต่จุดอ่อนของ IBM PC ก็คือตัวเครื่องไม่มีอะไรซับซ้อนและเลียนแบบได้ง่าย
จึงทำให้ในเวลาต่อมา แบรนด์อื่นอย่างเช่น Compaq และ HP ซึ่งก็เป็นผู้พัฒนาคอมพิวเตอร์เหมือนกันสามารถทำตามได้ ในขณะที่เจ้าของซอฟต์แวร์อย่าง Microsoft ก็ไม่เคยตกลงว่าจะขายระบบปฏิบัติการให้ IBM เจ้าเดียว..
Microsoft เลยสามารถขาย MS-DOS ให้กับคู่แข่งของ IBM ได้ทั้งหมด
ซึ่ง Microsoft ก็ยังใช้วิธีเดิมคือคิดส่วนแบ่งจาก PC ทุกเครื่องที่ขายได้
แต่สุดท้ายแล้ว ของเลียนแบบก็คือของเลียนแบบ
เพราะในภายหลัง MS-DOS ที่ดัดแปลงมาจาก Q-DOS ถูกพบว่าเป็นของที่เลียนแบบมาจาก CP/M ของ Kildall
พอ Kildall รู้ เลยจะฟ้องร้อง IBM และ Microsoft ว่าลอกเลียนแบบผลงาน
IBM ไม่อยากให้เรื่องบานปลาย เลยยอมวางขายระบบปฏิบัติการทั้ง 2 ยี่ห้อไปพร้อมกัน Kildall ดีใจได้เพียงไม่นาน ก็ต้องพบว่าราคาขาย CP/M ของเขา แพงกว่า MS-DOS ถึง 6 เท่า
ของคล้ายกันที่ใช้ทดแทนกันได้ แต่มีราคาต่างกันถึง 6 เท่า แถมคนส่วนใหญ่ได้รู้จักและลองใช้ MS-DOS มาก่อนจึงเริ่มคุ้นเคยและไม่ได้รู้สึกว่าจำเป็นที่ต้องลองอีกยี่ห้อหนึ่ง สุดท้ายแล้ว CP/M จึงหายไปจากตลาด
Microsoft จึงกลายเป็นผู้ชนะไป ซึ่งในเวลาต่อมา MS-DOS ก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “Microsoft Windows” ที่ได้เปิดตัวในปี 1983 ก่อนที่จะเริ่มวางขายจริงในปี 1985
หลังจากพลาดโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตของ Kildall เขาได้หย่ากับภรรยา และใช้ชีวิตอยู่กับความสิ้นหวัง จนท้ายที่สุด เขาก็ได้จบลงที่กลายเป็นคนติดแอลกอฮอล์ตั้งแต่นั้นมา
ส่วนบริษัท Digital Research ก็ถูกขายให้กับบริษัท Novell ในปี 1991
จนกระทั่งในปี 1994 Kildall ในวัย 52 ปี ก็เสียชีวิตลง จากเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทในบาร์ ซึ่งเป็นเวลาเพียง 1 ปีก่อนที่ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows 95 จะเปิดตัวและดังระเบิดไปทั่วโลก
ซึ่งก็น่าคิดเหมือนกันว่าหากวันนั้น Kildall ใส่ใจในสิ่งที่ Bill Gates พูดสักนิด
เรื่องราวที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ จะมีเส้นทางที่ต่างจากเดิมมากแค่ไหน
Kildall อาจกลายเป็นมหาเศรษฐีคล้าย Bill Gates
Bill Gates อาจจะไม่ได้โปรเจกต์นั้น และ Windows คงไม่เกิดขึ้น
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม
เส้นทางที่เป็นไปแล้วก็คือ ทุกคนรู้จัก Windows และไม่รู้จัก CP/M..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2004-10-24/the-man-who-could-have-been-bill-gates
-https://www.forbes.com/forbes/1997/0707/6001336a.html?sh=65404ead140e
-https://www.theguardian.com/technology/blog/2004/oct/16/themanwhocou
-https://www.embedded.com/was-dos-copied-from-cp-m/
-https://medium.com/@Harasees_Singh/gary-kildall-the-inventor-of-operating-system-ccae7bb50e46
-https://bookjelly.com/the-tragic-story-of-gary-kildall/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Gary_Kildall
โดยที่ 在 BorntoDev Facebook 的精選貼文
ปัจจุบันเทคโนโลยี IoT นั้นได้มีบทบาทเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตของเรามากยิ่งขึ้น เราอาจจะพบเห็นได้บ่อย ๆ ในชีวิตของเราเอง 🏠
.
API นั้นเปรียบเสมือนดั่งท่อข้อมูลสำหรับส่งข้อมูลไปมาในโลกอินเตอร์เน็ต ที่ทำให้ Mobile Application ของเรา สามารถทำอะไรได้หลายอย่างมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การทำงานแบบอัตโนมัติ, การใช้คำสั่งเสียง
.
บทบาทของ API ใน IoT นั้นช่วยให้เหล่าผู้พัฒนาสามารถสร้าง Mobile Application ที่มีปฏิสัมพันธ์กับโลกแห่งความเป็นจริงได้เลยไม่ใช่แค่เพียงบน UI เท่านั้น เพื่อที่จะให้รองรับกับการเป็น IoT จึงจำเป็นต้องมี API หลายประเภทเข้าช่วยด้วย
.
ประเภทของ API ที่ใช้กับ IoT นั้นแบ่งได้ออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
.
✨ 1.SOAP - เป็นช่องทางที่ใช้สื่อสารกันระหว่าง Server กับ Client ที่ข้อมูลจะถูกส่งแบบ XML
.
✨ 2.JSON กับ XML - เป็น Method ที่เก่าแก่กว่า SOAP เสียอีก แต่ก็มีการถ่ายโอนข้อมูลที่เรียบง่าย และค่อนข้างใช้ Bandwidth น้อยด้วย
.
✨ 3.REST - มีความเป็น Architecture มากกว่า Protocol โดยที่ Feature บางอย่างนั้นจำเป็นต้องใช้ REST Service เข้าร่วมด้วย
.
ซึ่ง API สำหรับทำ IoT บน Mobile Application นั้นมีอยู่เป็นร้อย ๆ ตัวเลย อาจจะทำให้เลือกไม่ถูกว่าจะใช้ตัวไหนดี วันนี้แอดมินเลยจะมาแนะนำ Top API ยอดฮิตที่หลาย ๆ ที่นิยมใช้งานกัน
.
🔹 1.Google Assistant API - ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถที่จะสื่อสารกับอุปกรณ์ IoT ต่าง ๆ ได้โดยใช้คำสั่งเสียงในการสั่งใช้งาน ทำให้ Application สามารถเข้าใจภาษาพูดของเราได้
.
🔹 2.Garmin Health API - ใครที่ทำ App สายสุขภาพ ตัวนี้นี่ห้ามพลาดเลย สามารถทำให้ App ของเรานั้นสามารถสื่อสารกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ของ Garmin ได้ ไม่ว่าจะเป็น จำนวนก้าว, แคลอรี่, การนอน, อัตราการเต้นหัวใจ ต่าง ๆ นานา
.
🔹 3.Withings API - เป็น API ที่ไว้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์วัดต่าง ๆ ของ Withings แล้วส่งข้อมูลให้ App ไม่ว่าจะเป็นอ่านค่าความดัน น้ำหนัก อัตราการเต้นหัวใจ ที่สามารถส่งข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ตได้เลย
.
🔹 4.Apple HomeKit API - ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเรียกใช้ Siri เพื่อควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ด้วยเสียงของเรา
.
🔹 5.Home Assistant API - เป็น API ที่ช่วยให้เราสามารถติดต่อสื่อสารกับอุปกรณ์ IoT ต่าง ๆ ในบ้านได้ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุม รับค่า อ่านค่าเป็นต้น
.
ซึ่งถ้าเพื่อน ๆ คนไหนมี API ดี ๆ ไว้ใช้สำหรับ IoT ก็สามารถมาแนะนำให้กับเพื่อน ๆ คนอื่นให้รู้จักได้ด้วยนะ
.
borntoDev - 🦖 สร้างการเรียนรู้ที่ดีสำหรับสายไอทีในทุกวัน
#IoT #API #BorntoDev
โดยที่ 在 Facebook 的最佳解答
หน้ามือเป็นหลังมือ !! 'โอบา' เผยนักเตะจับเข่าคุยส่งผลฟอร์มสุดปัง 'พี่ต้า' มอบชัยสุดหอมหวานให้แฟนๆ
- พรีเมียร์ลีกเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา "ปืนใหญ่" เปิดบ้านเอาชนะท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 3-1 โดยที่ โอบาเมย็อง เป็นหนึ่งในผู้ทำประตู
- ทำให้พวกเขาชนะในลีก 3 นัดติดต่อกันพร้อมกับขึ้นไปรั้งที่ 10 ของตาราง หลังจากก่อนหน้านี้ออกสตาร์ทฤดูกาลแพ้รวด 3 นัดแรกและหล่นไปเป็นบ๊วย
- นับตั้งแต่บุกไปแพ้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 5-0 เมื่อปลายเดือนที่แล้ว ตอนนี้อาร์เซนอลทำผลงานชนะ 4 นัดติดทุกรายการ ยิง 8 ประตูและเสียแค่ลูกเดียว
โอบาเมยอง พูดถึงเรื่้องนี้ว่า :
"ผมว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ในช่วงที่ดีนะ หลังจากเกมกับซิตี้พวกเราได้มีการพูดคุยระหว่างนักเตะด้วยกันเอง และนี่คือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น"
"เราต้องการก้าวไปข้างหน้าและคว้าชัยชนะ เกมนี้มันสำคัญกับเรามากในการทำให้อะไรๆมันชัดเจนขึ้น และตอนนี้ผมคิดว่าเรากำลังทำได้ดีเลยง มันรู้สึกดีมากๆ"
เกี่ยวกับแฟนบอลที่หนุนหลัง
"มันมีความหมายที่สุดเลย วันนี้เรามอบทุกอย่างให้พวกเขา(แฟนบอล) ผมไม่สามารอธิบายได้ มันเป็นความรู้สึกที่วิเศษมากเวลาที่คุณลงเล่นและมีแฟนบอลแบบนี้ มันเหลือเชื่อกมากๆ"
- ฤดูกาลนี้กองหน้าทีมชาติกาบองลงเล่นไปแล้ว 6 นัดทุกรายการ ผลงานยิง 5 จ่าย 1
- มิเกล อาร์เตต้า กุนซืออาร์เซนอล มอบชัยชนะที่สุดหอมหวานเหนือทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ 3-1 ให้แฟนบอลปืนใหญ่ที่เข้ามาเสพความสุขในเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
อาร์เตต้า กล่าวหลังเกม :
"ผมคิดว่าในชีวิตคุณต้องรู้จักแสดงความขอบคุณ คนเหล่านี้ยืนหยัดอยู่ข้างๆสโมสรและผู้เล่น ชัยชนะครั้งนี้สำหรับพวกเขา"
"เมื่อคุณพายามสร้างทีมขึ้นมาใหม่ พยายามทำสิ่งที่ถูกต้อง คุณต้องรักษาคุณค่าของคุณเอาไว้, ตอนนี้เรากำลังสร้างความสัมพันธ์กับเหล่าแฟนบอล"
"เรามีความมุ่งมั่น มีพลังงานที่ยอมเยี่ยม มีคุณภาพที่ยอดเยี่ยม ผมเอ็นจอยกับมันมากจริงๆ ผมได้เห็นความเชื่อจากตัวลูกทีมกับสิ่งที่เราทำ (ในการซ้อม) พวกเขามีคุณภาพ"
"มันสำคัญที่พวกเขาทำให้กันและกันดีขึ้น มันเกี่ยวกับการยกระดับในทีมและการซ้อม ถ้าหากพวกเขาทุกคนมีความคิดแบบนี้ จากนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ก็จะเกิดขึ้นต่อไป"
#เกมละกู #พรีเมียร์ลีก #PremierLeague #พรีเมียร์ลีกอังกฤษ #อาร์เซน่อล #Arsenal #ปืนใหญ่ #ARS