[爆卦]เป็นลม ภาษาอังกฤษ是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇เป็นลม ภาษาอังกฤษ鄉民發文沒有被收入到精華區:在เป็นลม ภาษาอังกฤษ這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 เป็นลม產品中有108篇Facebook貼文,粉絲數超過0的網紅,也在其Facebook貼文中提到, ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ออกคำแนะนำการฉีดวัคซีนสำหรับเด็กครับ … ตอนนี้ให้ใช้ได้แค่ mRNA “ไฟเซอร์” เท่านั้น 1.เด็กอายุ 16-18 ปี แนะนำให้ฉีด...

 同時也有18部Youtube影片,追蹤數超過465萬的網紅Fun Family,也在其Youtube影片中提到,►Page : https://www.facebook.com/YouTube.FunFamily/ ►Instagram : https://www.instagram.com/YaiBour.FF/ ►Facebook : https://www.facebook.com/...

เป็นลม 在 ???Home Gym Fit Style??? Instagram 的精選貼文

2021-05-27 20:49:57

#stretching 🧘🏻 🧡 ช่วยยืดกล้ามเนื้อขาส่วนหลัง (Hamstring) และ กระดูกสันหลัง 🧡 ช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนเลือด 🧡 ช่วยกระตุ้นระบบย่อย . การยืดเหยียดกล้าม...

  • เป็นลม 在 Facebook 的最佳解答

    2021-09-08 00:15:49
    有 14,653 人按讚

    ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ออกคำแนะนำการฉีดวัคซีนสำหรับเด็กครับ …

    ตอนนี้ให้ใช้ได้แค่ mRNA “ไฟเซอร์” เท่านั้น

    1.เด็กอายุ 16-18 ปี แนะนำให้ฉีดทุกราย ทั้งเด็กแข็งแรง และมีโรคประจำตัวเสี่ยงอาการรุนแรง

    2.เด็กอายุ 12-16 ปี แนะนำให้ฉีดเฉพาะเด็กที่มีโรคเรื้อรังเสี่ยงอาการรุนแรง

    3.เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี และอายุ 12-16 ปีที่แข็งแรง ให้รอผลการศึกษาถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยก่อน

    “ … แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในเด็กและวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 16 ปี จนถึงน้อยกว่า 18 ปีทุกราย หากไม่มีข้อห้ามในการฉีด ทั้งเด็กที่ปกติแข็งแรงดีและที่มีโรคประจำตัวเรื้อรังที่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคโควิด-19 ที่รุนแรง เพราะเป็นกลุ่มอายุที่กำลังเดิบโตเป็นผู้ใหญ่ มีการดำเนินชีวิตใกล้เคียงกับผู้ใหญ่และมีข้อมูลเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคชีนป้องกันโรคโควิด-19 มากเพียงพอ

    สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป จนถึงน้อยกว่า 16 ปี แนะนำให้ฉีดวัคซีนในกรณีเป็นผู้ป่วยเด็กกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคเรื้อรัง ซึ่งจะทำให้เกิดโรคโควิด-19 รุนแรง ดังต่อไปนี้ …

    …สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป จนถึงน้อยกว่า 16 ปี ที่สุขภาพแข็งแรงดี และในเด็กอายุน้อยกว่า 12 ปี รวมทั้งการฉีดวัคชีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดอื่นๆ ในเด็ก ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการติดตามผลการศึกษาถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัย ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยจะมีคำแนะนำเพิ่มเติมในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในอนาคตต่อไป"

    #ร่วมแรงร่วมใจฝ่ามหันตภัยโควิด

    7 กย.64 : ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยและสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ออกประกาศ คำแนะนำการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับเด็กและวัยรุ่นที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปี ขึ้นไป (ฉบับที่ 2)

    "ข้อมูลของการติดโควิด-19 ในประเทศไทยในปัจจุบันพบว่า แม้จะพบการติดเชื้อโควิดในเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ในสัดส่วนสูงขึ้น แต่พบว่าส่วนใหญ่มักไม่รุนแรงและมีอัตราการเสียชีวิตน้อยมาก และพบการเสียชีวิตเกือบทั้งหมดในเด็กที่มีโรคประจำตัวเรื้อรังซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักที่ทำให้เกิดโรคโควิด-19 รุนแรง ร่วมกับมีข้อมูลเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สำหรับเด็กและวัยรุ่นมากขึ้น

    ดังนั้น ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยจึงมีคำแนะนำเพิ่มเติมในการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับเด็กและวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป ดังนี้

    *แนะนำให้ฉีดวัคชีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ได้รับการรับรองให้ใช้ในเด็กและวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป โดยองค์การอาหารและยาเท่านั้น ซึ่งในขณะนี้ (ณ วันที่ 7 กันยายน 2564) มีเพียงชนิดดียวคือ วัคชีนชนิด mRNA ของ Pfizer-BioNTech

    *แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในเด็กและวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 16 ปี จนถึงน้อยกว่า 18 ปีทุกราย หากไม่มีข้อห้ามในการฉีด ทั้งเด็กที่ปกติแข็งแรงดีและที่มีโรคประจำตัวเรื้อรังที่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคโควิด-19 ที่รุนแรง เพราะเป็นกลุ่มอายุที่กำลังเดิบโตเป็นผู้ใหญ่ มีการดำเนินชีวิตใกล้เคียงกับผู้ใหญ่และมีข้อมูลเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคชีนป้องกันโรคโควิด-19 มากเพียงพอ

    *สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป จนถึงน้อยกว่า 16 ปี แนะนำให้ฉีดวัคซีนในกรณีเป็นผู้ป่วยเด็กกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคเรื้อรัง ซึ่งจะทำให้เกิดโรคโควิด-19 รุนแรง ดังต่อไปนี้

    1.บุคคลที่มีโรคอ้วน (ดัชนีมวลกายมากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร หรือ มีน้ำหนัก 70 กิโลกรัมขึ้นไป ในเด็กอายุ 12-13 ปี น้ำหนัก 80 กิโลกรัมขึ้นไปในเด็กอายุ 13-15 ปี น้ำหนัก 90 กิโลกรัมขึ้นไปในเด็กอายุ 15-18 ปี หรือเด็กอ้วนที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากภาวะทางเดินหายใจอุดกั้น)

    2.โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง รวมทั้งโรคหอบหืดที่มีอาการปานกลางหรือรุนแรง

    3.โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง

    4.โรคไตวายเรื้อรัง

    5.โรคมะเร็งและภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ

    6.โรคเบาหวาน

    7.กลุ่มโรคพันธุกรรมรวมทั้งกลุ่มอาการดาวน์ เด็กที่มีภาวะบกพร่องทางระบบประสาทอย่างรุนแรง อาทิ เด็กที่มีพัฒนาการช้า

    *แนะนำให้งดออกกำลังกายอย่างหนัก หรือการทำกิจกรรมอย่างหนักเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ภายหลังจากการฉีดวัดซีนป้องกันโรคโควิด-19 เนื่องจากมีรายงานการเกิดผลข้างเคียงกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ภายหลังการฉีดวัคชีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA ซึ่งพบในอัตราที่ต่ำมาก

    จึงแนะนำให้เด็กและวัยรุ่นทุกราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กและวัยรุ่นชายที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทั้งโดสที่ 1 และ 2 ควรงดการออกกำลังกาย หรือการทำกิจกรรมอย่างหนักเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ภายหลังจากการฉีดวัคชีน

    และในเวลาดังกล่าวนี้หากมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก หายใจเหนื่อยหรือหายใจไม่อิ่ม ใจสั่น หน้ามืด เป็นลม ควรรีบไปพบแพทย์ โดยหากแพทย์สงสัยภาวะกล้ามเนื้อหัวใจหรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ควรพิจารณาทำการตรวจค้นเพิ่มเติม

    สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป จนถึงน้อยกว่า 16 ปี ที่สุขภาพแข็งแรงดี และในเด็กอายุน้อยกว่า 12 ปี รวมทั้งการฉีดวัคชีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดอื่นๆ ในเด็ก ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการติคตามผลการศึกษาถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัย ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยจะมีคำแนะนำเพิ่มเติมในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในอนาคตต่อไป"

  • เป็นลม 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最讚貼文

    2021-09-07 20:20:08
    有 2,068 人按讚

    เห็นด้วยตามนั้นครับ หวังว่าวัคซีนไฟเซอร์ ที่จะมาเดือนตุลาคมนี้ ขอให้ priority คือเอาไปฉีดเด็กๆ ก่อนนะครับ ผู้ใหญ่อย่าพึ่งแย่งกัน
    -------
    (รายงานข่าว)
    เมื่อวันที่ 7 กันยายน ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยและสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ออกคำแนะนำการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับเด็กและวัยรุ่นที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปี ขึ้นไป (ฉบับที่ 2) ความว่า

    "ข้อมูลของการติดโควิด-19 ในประเทศไทยในปัจจุบันพบว่า แม้จะพบการติดเชื้อโควิดในเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ในสัดส่วนสูงขึ้น แต่พบว่าส่วนใหญ่มักไม่รุนแรงและมีอัตราการเสียชีวิตน้อยมาก และพบการเสียชีวิตเกือบทั้งหมดในเด็กที่มีโรคประจำตัวเรื้อรังซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักที่ทำให้เกิดโรคโควิด-19 รุนแรง ร่วมกับมีข้อมูลเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สำหรับเด็กและวัยรุ่นมากขึ้น

    ดังนั้น ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยจึงมีคำแนะนำเพิ่มเติมในการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับเด็กและวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป ดังนี้

    – แนะนำให้ฉีดวัคชีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ได้รับการรับรองให้ใช้ในเด็กและวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป โดยองค์การอาหารและยาเท่านั้น ซึ่งในขณะนี้ (ณ วันที่ 7 กันยายน 2564) มีเพียงชนิดดียวคือ วัคชีนชนิด mRNA ของ Pfizer-BioNTech

    – แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในเด็กและวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 16 ปี จนถึงน้อยกว่า 18 ปีทุกราย หากไม่มีข้อห้ามในการฉีด ทั้งเด็กที่ปกติแข็งแรงดีและที่มีโรคประจำตัวเรื้อรังที่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคโควิด-19 ที่รุนแรง เพราะเป็นกลุ่มอายุที่กำลังเดิบโตเป็นผู้ใหญ่ มีการดำเนินชีวิตใกล้เคียงกับผู้ใหญ่และมีข้อมูลเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคชีนป้องกันโรคโควิด-19 มากเพียงพอ

    – สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป จนถึงน้อยกว่า 16 ปี แนะนำให้ฉีดวัคซีนในกรณีเป็นผู้ป่วยเด็กกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคเรื้อรัง ซึ่งจะทำให้เกิดโรคโควิด-19 รุนแรง ดังต่อไปนี้

    1.บุคคลที่มีโรคอ้วน (ดัชนีมวลกายมากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร หรือ มีน้ำหนัก 70 กิโลกรัมขึ้นไป ในเด็กอายุ 12-13 ปี น้ำหนัก 80 กิโลกรัมขึ้นไปในเด็กอายุ 13-15 ปี น้ำหนัก 90 กิโลกรัมขึ้นไปในเด็กอายุ 15-18 ปี หรือเด็กอ้วนที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากภาวะทางเดินหายใจอุดกั้น)

    2.โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง รวมทั้งโรคหอบหืดที่มีอาการปานกลางหรือรุนแรง

    3.โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง

    4.โรคไตวายเรื้อรัง

    5.โรคมะเร็งและภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ

    6.โรคเบาหวาน

    7.กลุ่มโรคพันธุกรรมรวมทั้งกลุ่มอาการดาวน์ เด็กที่มีภาวะบกพร่องทางระบบประสาทอย่างรุนแรง อาทิ เด็กที่มีพัฒนาการช้า

    – แนะนำให้งดออกกำลังกายอย่างหนัก หรือการทำกิจกรรมอย่างหนักเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ภายหลังจากการฉีดวัดซีนป้องกันโรคโควิด-19 เนื่องจากมีรายงานการเกิดผลข้างเคียงกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ภายหลังการฉีดวัคชีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA ซึ่งพบในอัตราที่ต่ำมาก

    จึงแนะนำให้เด็กและวัยรุ่นทุกราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กและวัยรุ่นชายที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทั้งโดสที่ 1 และ 2 ควรงดการออกกำลังกาย หรือการทำกิจกรรมอย่างหนักเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ภายหลังจากการฉีดวัคชีน

    และในเวลาดังกล่าวนี้หากมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก หายใจเหนื่อยหรือหายใจไม่อิ่ม ใจสั่น หน้ามืด เป็นลม ควรรีบไปพบแพทย์ โดยหากแพทย์สงสัยภาวะกล้ามเนื้อหัวใจหรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ควรพิจารณาทำการตรวจค้นเพิ่มเติม

    สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป จนถึงน้อยกว่า 16 ปี ที่สุขภาพแข็งแรงดี และในเด็กอายุน้อยกว่า 12 ปี รวมทั้งการฉีดวัคชีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดอื่นๆ ในเด็ก ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการติคตามผลการศึกษาถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัย ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยจะมีคำแนะนำเพิ่มเติมในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในอนาคตต่อไป"

  • เป็นลม 在 Mmy Amalawan Facebook 的最佳貼文

    2021-08-07 11:09:13
    有 21 人按讚

    มันเหมือนถูกบีบหัวใจ
    ทุกอย่างมันเร็วมากจนตั้งรับไม่ทัน

    #เอ็มมี่ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยนะคะ

    เป็นลม แล้วเอ็มมี่ผิดร๋อคะ มันแค่ 1 วันจิงๆแล้วเอ็มมี่รับมือไม่ได้ ตั้งรับไม่ทัน เอ็มมี่ผิดร๋อคะ

    #ไม่เอาเข้าข้างใคร
    #ผิดก้ว่าไปตามผิด
    #แต่ขอให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย
    #แล้วแต่ดุลพินิจของศาล
    #นี่คือสิ่งที่เอ็มมี่ต้องการ

    ได้โปรดเข้าใจและเห็นใจในมุมของเอ็มมี่บ้างนะคะ
    สำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึงที่ต้องรับมือกับเหตุการณ์ที่มันหนักมากขนาดนี้

    ได้โปรด อย่าใช้คำว่าหิวแสงกับเอ็มมี่เลย
    #หิวแสง ใช้กับเอ็มมี่ไม่ได้ ไม่เคยต้องการชื่อเสียง เพราะที่มีอยู่มันก้มากพอแล้ว #ได้โปรดเข้าใจกันบ้าง นะคะ

    หลายคนถามว่าเอ็มมี่ไปทำไม แต่มีใครรู้มั้ย มือถือเอ็มมี่จะระเบิดตั้งแต่ตี5 พี่ๆสื่อมวลชนโทรหา
    เพราะ #ไอจีและเฟสบุคน้องลงชื่อและเบอร์โทรเอ็มมี่ ว่า #เป็นผู้จัดการ

    เอ็มมี่ไปในนามของผู้จัดการ
    เอ็มมี่ไปในนามผู้บริหารบริษัท
    เอ็มมี่ไปในนามพี่ที่ที่ต้องดูแลน้อง

    แต่สิ่งที่เอ็มมี่ถูกกดดันกับคำหยาบคายของพวกคุณมันคืออะไรร๋อ #เอ็มมี่ก้เจ็บปวดเหมือนกัน คะ

    ขอบอกไว้ตรงนี้ ว่า คุณด่าเอ็มมี่หยาบคายได้ตามสบายนะคะ แต่เราเคยบอกกันหลายครั้งแล้วว่า
    #ถ้าเราต้องขอโทษกัน รู้นะคะ ว่าเอ็มมี่ต้องการอะไร (แล้วอย่ามาว่าเอ็มมี่หน้าเงินเลยนะคะเพราะคอมเม้นของพวกคุณมันทำร้ายชีวิตเอ็มมี่จิงๆ)

    เอ็มมี่ผิดมากมั้ยคะที่จะปกป้องตัวเอง
    เอ็มมี่ผิดมากมั้ยคะที่จะปกป้องบริษัท
    เอ็มมี่ผิดมากมั้ยคะที่จะปกป้องพี่ๆน้องทีมผู้บริหารของเอ็มมี่

    กราบขอบพระคุณ #ทนายเจมส์ นะคะ
    กราบขอบพระคุณ #แฟนคลับที่เข้าใจและให้กำลังใจกันเสมอมานะคะ

    การให้ที่ดีที่สุด คือ #การเม้นแบบให้เกีรยติกันบ้างนะคะ

    สุดท้ายนี้
    #เอ็มมี่แม๊กซิม
    #แรงแต่ไม่เลว

你可能也想看看

搜尋相關網站