[爆卦]เนือย ภาษาใต้是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇เนือย ภาษาใต้鄉民發文沒有被收入到精華區:在เนือย ภาษาใต้這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 เนือย產品中有10篇Facebook貼文,粉絲數超過64萬的網紅Money Coach,也在其Facebook貼文中提到, ป้าหลงดีเจวัยใส “ไม่มีใครแก่ เกินแก้ปัญหาหนี้ อย่าเอาอายุมาเป็นข้ออ้าง ในการสร้างชีวิตใหม่ที่ดี” ถ้าวันนี้คุณอายุ 58 ปี มีหนี้อยู่หลายแสน เงินใช้จ่า...

 同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過31萬的網紅หนูหรี่ Nuree (NR music),也在其Youtube影片中提到,#ASMR #หนูหรี่ ช่วยกดติดตามและกดกระดิ่งด้วยน้า Follow ติดตามที่ Facebook page หนูหรี่ https://www.facebook.com/EreeePage Instagram Yourboy_Nureee ...

เนือย 在 ⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀?Yu-ii?® ยูอิ⠀⠀⠀⠀⠀⠀ Instagram 的最讚貼文

2020-08-11 11:44:21

I once was lost, but now am found. แคปชั่นนี้ไม่เกี่ยวกับรูป เราแค่อยากให้กำลังใจใครคนหนึ่ง เราเคยซึมเศร้า และรู้สึกเหมือนชีวิตไม่มีจุดหมาย ไม่รู้จ...

เนือย 在 ???Home Gym Fit Style??? Instagram 的精選貼文

2020-05-11 05:49:03

#throwback . #handstand (Practice, Still Not Good) . . บอกเล่าเฉยๆ ... วีคที่แล้ว อกล 3 วัน วีคนี้จะไม่ได้ อกล เลยจ้า ด้วยความซุ่มซ่ามตัวเอง เมื่อวานเ...

  • เนือย 在 Money Coach Facebook 的最佳解答

    2021-03-04 08:36:13
    有 10,562 人按讚

    ป้าหลงดีเจวัยใส

    “ไม่มีใครแก่ เกินแก้ปัญหาหนี้ อย่าเอาอายุมาเป็นข้ออ้าง ในการสร้างชีวิตใหม่ที่ดี”

    ถ้าวันนี้คุณอายุ 58 ปี มีหนี้อยู่หลายแสน เงินใช้จ่ายติดลบเดือนละเกือบหมื่นบาท เงินเก็บเกษียณในกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ก็มีหนี้สหกรณ์มารอเรียกเก็บ ชนิดที่เกษียณปุ๊บก็ตัดกันหมดแบบพอดิบพอดี คุณจะยังมีกำลังใจต่อสู้กับปัญหาการเงินหรือเปล่า

    ป้าหลงเป็นพนักงานในองค์กรหนึ่งที่ผมเข้าไปจัดทำโครงการอภินิหารความรู้การเงิน ซึ่งเป็นโครงการที่ผมและทีมงานเข้าไปให้คำปรึกษาการเงินเดือนละ 1 ครั้ง เป็นระยะเวลา 6 เดือนเต็ม

    สาเหตุที่ผมจำป้าหลงได้เป็นอย่างดี เพราะในวันที่ผมบรรยาย แกไม่ได้ตั้งใจฟังในสิ่งที่ผมสอนเลย แถมตกเย็นก่อนกลับบ้าน แกยังแอบกระซิบขอยืมเงินผม 30,000 บาทด้วย (ฮา)

    แล้วก็ไม่ใช่แค่ครั้งแรกครั้งเดียว ครั้งต่อมาแกก็มาเหมือนเสียไม่ได้ ทำกิจกรรมก็ดูไม่กระตือรือร้น ในสองครั้งแรกที่เจอกัน หลายคนในทีมแอบหมดหวังกับแกอยู่ไม่น้อย

    การพบกันครั้งที่ 3 หลังจากสอนหลักการแก้ปัญหา สอนทำงบการเงิน และสอนทำแผนการชำระคืนหนี้ไปแล้ว ก็มาถึงสัปดาห์ของการหารายได้เพิ่ม ผมและทีมงานพยายามดึงทักษะ ความสามารถ ประสบการณ์ งานอดิเรก ของผู้เข้าร่วมโครงการทีละคน เพื่อหาให้เห็นว่ามีโอกาสสร้างรายได้เพิ่ม โดยไม่ต้องลงทุนเยอะ ได้จากช่องทางไหนบ้าง

    ด้วยทราบว่าคนแต่ละคน ก็มีดีกันคนละแบบ ดังนั้นเราจึงให้เวลากับการช่วยคิดหาหนทางให้แต่ละคนโดยการตั้งคำถามเกี่ยวกับตัวผู้เข้าโครงการให้มากที่สุด

    เรียนจบอะไรมา
    เคยทำอะไรมาบ้าง
    ถนัดอะไร
    มีงานอดิเรกอะไร ที่พอจะเป็นรายได้ได้บ้างไหม
    มีคนใกล้ชิดที่ผลิตสินค้าอะไร พอนำมาขายได้บ้างหรือเปล่า
    มีไอเดียอยากค้าขายอะไรบ้าง
    ฯลฯ

    คำถามร้อยแปดประเคนใส่ผู้ร่วมโครงการแบบจัดเต็ม เพื่อหาให้ได้ว่า มีทางอะไรที่แต่ละคนจะสร้างเป็นรายได้เพิ่มได้บ้าง เพราะลำพังแค่ลดรายจ่าย คงจะออกจากปัญหาได้ยากหรือออกได้ช้า

    และก็เช่นเคย ป้าหลงของเราก็นั่งฟังอยู่ด้วย แต่ไม่ขยับตัวสักเท่าไหร่ ก็อย่างที่บอก หลายคนปล่อยวางกับแกไปแล้ว จึงไม่ได้พยายามบังคับป้าแกให้ลองคิดลองทำกิจกรรมสักเท่าไหร่ เรื่องแบบนี้เป็นความพยายามส่วนบุคคล ต้องคิดเองพยายามเอง บังคับกันไม่ได้ ผมเชื่ออย่างนั้น

    ผ่านไปอีก 1 เดือน ผมและทีมงานให้ผู้เข้าร่วมโครงการออกมาแชร์ข้อมูลว่า ใครเริ่มทำอาชีพเสริมกันบ้างแล้ว และผลลัพธ์เป็นอย่างไร ซึ่งผลค่อนข้างน่าประทับใจ เพราะแต่ละคนออกมาพรีเซ็นต์กันเต็มที่ ขาดอยู่คนเดียวที่ไม่มีอะไรมาแชร์กับคนอื่น คุณคงทายถูกแหละว่าใคร

    ครั้งที่ 5 ที่เจอกัน สิ่งที่พวกเราทีมงานไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เช้าวันที่พบกัน ป้าหลงเดินตรงมาหาผม แล้วบอกว่าอยากจะพรีเซ็นต์หน้าห้องเรื่องอาชีพเสริมบ้าง ผมเลยสอบถามไปว่า ป้าไปทำอะไรมา ลองเล่าให้ฟังหน่อย ปรากฎว่าเรื่องของป้าสร้างเซอร์ไพร์สให้ทุกคนต้องตกตะลึง เพราะอาชีพเสริมที่ป้าทำ ก็คือ ดีเจ ครับ

    ใครจะไปคิดว่าสมัยก่อน ป้าหลงแกทำหน้าที่พิธีกรในองค์กร ชอบพูดคุยสนทนากับคนหมู่มาก เคยทำงานรับจ้างเป็นพิธีกรมาแล้วแทบทุกแบบ แต่พอมีลูกก็ไม่มีเวลาทำ และก็ลืมไปเลยว่าตัวทำอาชีพนี้ได้

    ป้าหลงไปติดต่อสถานีวิทยุท้องถิ่น ขอเช่าเวลาจัดสัปดาห์ละครั้ง ซึ่งทางสถานีคิดค่าเช่า 3,000 บาทต่อเดือน จากนั้นป้าก็วิ่งหาสปอนเซอร์ โดยสปอนเซอร์ส่วนใหญ่ที่ป้าได้มา ก็คือ วัดที่กำลังจะจัดงานผ้าป่า กฐิน ฝังลูกนิมิต อะไรทั้งหลายนี่แหละครับ รับซองมาแจก 100 ซอง ก็รับเงินค่าประชาสัมพันธ์มาด้วย 3,000 ต่องาน เดือนหนึ่งรับมา 4 งาน ก็ 12,000 บาท กำไรเหลือเป็นค่าแรงทำงาน 9,000 บาทต่อเดือนเลยทีเดียว

    นอกจากนี้ยังมีพวกร้านค้าในท้องถิ่น เช่น ร้านเครื่องไฟฟ้ามาขอลงโฆษณา นำสินค้าอย่าง พัดลม เครื่องเสียง มาจัดกิจกรรมแจกในรายการ บางทีป้าแกเลยได้ของใช้แบบฟรี ๆ ไปด้วย

    พอได้นั่งพูดคุยถามป้าว่า ทำไมก่อนหน้านี้ถึงเงียบ เข้าร่วมกิจกรรมก็ดูเฉย ๆ เนือย ๆ ป้าแกตอบว่า “ก็คนมันคิดไม่ออก แต่พอเห็นน้อง ๆ ค้าขายแล้วน่าสนุก เลยลองนึกดูว่าเราทำอะไรได้บ้าง”

    “เราทำอะไรได้บ้าง”

    หลายคนเวลาจะหาอาชีพเสริม ชอบไปถามคนอื่นว่า “ทำอะไรดี” ส่วนคนที่ถูกถามก็บ้าจี้ ตอบไปเฉยเลยว่าคนอื่นควรทำอะไร คนเราทักษะต่างกัน ชอบต่างกัน จะไปอยากทำเหมือนกันได้ยังไง ดังนั้นที่ถูกคือ การตั้งคำถามกับตัวเองว่า “เราหนะ! ทำอะไรได้บ้าง” แล้วค่อย ๆ คิดต่อยอด จากสิ่งที่คิดว่า จะหยิบสิ่งที่เคยทำ ทำได้ หรือมีอยู่ในตัวเอง ออกมาเป็นอาชีพได้อย่างไร

    กรณีของป้าหลง เตือนให้เราระมัดระวังว่า การปล่อยให้ชีวิตจมอยู่กับทุกข์การเงินนาน ๆ บางทีมันอาจกัดกร่อนความภูมิใจและความเชื่อมั่นในชีวิต จนทำให้เรามองข้ามความเก่งกาจ และความสามารถที่มีอยู่ในตัวไปก็ได้

    ทุกวันนี้ป้าหลางเองก็ยังไม่ได้หมดหนี้ แต่มีความสุขในชีวิตที่เพิ่มขึ้นมาก เพราะกระแสเงินสดไม่ติดลบแล้ว เงินพอใช้ทุกเดือนแล้ว ปัญหาหนี้ก็ค่อย ๆ แก้กันไป แต่เหนือสิ่งอื่นใด ก็คือ การดึงความมั่นใจในชีวิตกลับมา และใช้ชีวิตในแต่ละวันด้วยความภูมิใจ ไม่ต้องรู้สึกอับอายที่ต้องหยิบยืมคนอื่นทุกเดือน

    ผมเชื่อว่าคุณเอง ก็มีของดีที่ซ่อนอยู่ในตัวเหมือนกันกับป้าหลง

    ได้เวลาดึงมันออกมา เปลี่ยนหนี้เป็นอิสรภาพการเงินแล้วครับ

    #TheMoneyCoachTH

  • เนือย 在 Roundfinger Facebook 的最讚貼文

    2021-01-17 22:12:24
    有 6,011 人按讚

    พบว่าตัวเองไม่สามารถอยู่บ้านโดยไม่พบใครเลยเกินสามวัน เพราะวันที่สามจะเริ่มเหี่ยวเหมือนต้นไม้ไม่โดนรดน้ำ

    เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาอ่านหนังสือได้เยอะ แต่วันนี้สักช่วงบ่ายเริ่มเปื่อย เนือย หมดแรง ตกเย็นไปเดินเล่นกับชิงชิงในหมู่บ้านค่อยกระชุ่มกระชวยขึ้นหน่อย ไอติมแม็กนั่มหนึ่งแท่งเพิ่มความสำราญให้ชีวิต อืม ดีขึ้น

    แต่มารู้สึกมีพลังตอนไลฟ์คุยกับพี่ก๋วยเมื่อกี๊ ได้เล่าเรื่ องนู่นนี่ และคำถามของพี่ก๋วยก็ช่วยบริหารสมองทำให้มีกำลังวังชาขึ้นมา สดชื่น และสดใสพลัน

    คิดว่าตัวเองเป็น introvert แต่อาการจากการอยู่บ้านติดกันหลายวันทำให้รู้สึกว่า กระหายการสนทนากับผู้คน

    การคุยมีผลหลายอย่าง ซึมซับพลังงานจากคนอื่น, เข้าใจความคิดวนเวียนในหัวตัวเองผ่านการเล่าออกมา, ระบายอารมณ์ภายในหลายอย่าง, หัวเราะ (สิ่งที่ทำคนเดียวแล้วแปลกๆ), กระตุ้นสมองให้ทำงาน และได้ฟังความรู้สึกคนอื่น---ออกไปจากตัวเอง

    การจัดเรียงความคิดผ่านการคุยเป็นเรื่องจำเป็นมากสำหรับตัวเอง อยู่บ้านนานๆ ต้องคุยกับใครสักคนหรือหลายๆ คน

    การแลกเปลี่ยนความคิดกันคือการถ่ายโอนพลังให้กันด้วย การพูดคุยมิใช่แค่ทำให้เราเข้าใจคู่สนทนามากขึ้นเท่านั้น แต่ยังเข้าใจตัวเองมากขึ้นด้วย

    ทุกครั้งที่พูด เราได้ฟังตัวเอง

    อยู่เงียบๆ ก็ดี แต่นานไปก็ไม่ดี

  • เนือย 在 Pop Siwapat Facebook 的最佳貼文

    2020-02-07 20:28:43
    有 3,148 人按讚

    :: หัวข้อนี้มัน “ยากที่จะทำใจอ่าน” ::
    เพราะตอนเขียนก็ “ยากที่จะทำใจเขียน”
    แต่ถ้าได้อ่านจบคงพบตัวเองได้หลายมุม
    มาเช็คตัวเองกันทีว่า “ติดดี” กันไหม?

    1. ติดปิติไหม?
    ติดเคลิ้ม ๆ เยิ้ม ๆ เสมือนว่าอิ่มเอิบตลอดเวลา
    ต้องคอยบิวท์ตัวเองให้ดูเยิ้ม ดูแช่มชื่นตลอดหรือไม่?
    จนไม่สามารถพบปัญญาว่าสุขทุกข์ก็เกิดดับได้
    ถ้าใช่ คือติดดี
    .
    .
    2. ติดเป็นผู้รู้ไหม?
    รู้ไปหมด ใครถามอะไร ตอบได้หมด รู้เยอะ
    บางทีไม่รู้ก็ทำเหมือนว่ารู้อีก รู้จิตรู้ใจคนไปเรื่อย
    วิเคราะห์ วิจารณ์ไปหมด
    จนไม่สามารถพบปัญญาว่าความรู้นั้นไม่เที่ยง
    ถ้าใช่ คือ ติดดี
    .
    .
    3. ติดสว่างไหม?
    รู้สึกใจสว่าง มองอะไรก็สว่าง
    ทำสมาธิหัวสว่าง จิตสว่างไปหมด
    จนไม่สามารถพบปัญญาว่าทุกสิ่งเปลี่ยนไป
    ถ้าใช่ คือ ติดดี
    .
    .
    4. ติดสงบไหม?
    ชอบสงบ รักจะสงบ รั้งความสงบ
    ไม่ยอมให้อะไรมาทำลายความสงบ
    จนไม่สามารถพบปัญญาว่าทุกสิ่งเปลี่ยนได้
    ถ้าใช่ คือ ติดดี
    .
    .
    5. ติดเชื่อคนง่ายไหม?
    อะไรก็เชื่อหมด เชื่อไม่พอ ศรัทธาซะกล้าแกร่ง
    ใครมาแย้งต้องหัวร้อน ต้องปกป้อง ต้องขึ้นไปหมด
    จนไม่สามารถพบว่าความเชื่อนั้นไม่เที่ยง
    ถ้าใช่ คือ ติดดี
    .
    .
    6. ติดเพียรไหม?
    เอะอะก็พุ่งไปปฏิบัติธรรมอย่างเวอร์ ๆ นั่งสมาธิอย่างเวอร์ ๆ
    โอกาสไหน อันใดก็เพียรฝึงเกินเบอร์ เยอะสิ่งไปหมด
    ต้องสงบ ต้องสุขทุกขณะให้ได้ ถ้าไม่ได้จะเป็นจะตาย
    ถ้าไม่ได้ฝึกเดี๋ยวเสียหน้าว่าไม่ใช่นักปฏิบัติอีก
    จนไม่สามารถเห็นว่าทุกสิ่งแปเปลี่ยนไปเสมอ
    ถ้าใช่ คือ ติดดี
    .
    .
    7. ติดเฉยไหม?
    ชอบวางตัวสงบ ๆ เนิบๆ ช้า ๆ เนือย ๆ
    เห็นใครทำอะไรเร็ว ๆ แล้วจะเป็นจะตาย
    เอะอะต้องเนือย ๆ นาบ ๆ เรื่อย ๆ
    ทำตัวกลางเกินคำว่า “สายกลาง”
    มักติดปากว่าไม่คิดอะไร ไม่รู้สึกอะไร
    ทั้งที่ใจมันคิด แต่ติดกลางไว้ก่อน กลัวดูไม่ดี
    จนไม่เห็นปัญญาว่าสภาวะเฉยก็เสื่อมได้
    ถ้าใช่ คือ ติดดี
    .
    .
    8. ติดเป็นยอดมนุษย์ไหม?
    ชอบคิดว่าตัวเองเหนือคนอื่น
    คิดว่าตัวเองรู้เห็นเข้าใจบางสิ่งได้ถ่องแท้
    คิดว่าตัวเองเหนือธรรมชาติเป็นโน่นนี่นั่น
    จนไม่เห็นปัญญาว่าทุกสิ่งติดดินเท่าเทียมไม่มีอะไรเหนืออะไร
    ต้องเกิดแก่ เจ็บ ตายกันทั้งหมดทั้งสิ้น
    ถ้าใช่ คือ ติดดี
    .
    .
    สุดท้ายที่อันตรายมาก
    9. ติดสุขไหม?
    จะทำอะไรก็ดูสุข ๆ เวอร์ไปหมด
    โหยหาความสุข ทุกข์ไม่ได้
    เอาคิดบวกมาต้านลบจนสุขแบบปลอม ๆ เสมอ
    จนไม่สามารถเห็นปัญญาว่าความสุขก็ไม่เที่ยง
    ถ้าใช่ คือ ติดดี

    .
    .
    การเห็นชีวิตด้วยปัญญาคือการรู้ว่า
    “ทุกสิ่งเกิดดับ แปรเปลี่ยน ไม่เที่ยง คุมไม่ได้”
    เราไม่สามารถนิยามตัวเองว่าเป็นอะไรหรือไม่เป็นอะไรได้
    ไม่สามารถบอกว่าเราเป็นคนมีความสุข หรือ เป็นคนทุกข์ได้
    เพราะทุกสภาวะของชีวิตแปรเปลี่ยนเสมอ ไม่เที่ยงแท้เสมอ
    เหมือนกับร่องเรือในกระแสน้ำ
    บางช่วงก็ราบเรียบ บางช่วงก็มีคลื่น
    บางทีก็มีโขดหิน มาทีก็ดอกไม้ร่วงลงมา
    เราคาดเดาอะไรไม่ได้
    จะฝืนธรรมชาติให้ทุกสิ่งคงอยู่ตลอดไม่ได้
    .
    .
    ที่ต้องมาพูดเรื่องติดดี เพราะ การติดดีอาจทำให้เราทำเลวโดยไม่รู้ตัว
    และเป็นการทำเลวในคราบของนักบุญ หรือ คนดีอีก
    เช่น มโนว่าตัวเราดี แล้วไปด่าว่าสั่งสอนวิจารณ์คนอื่น
    มโนว่าตัวเองบรรลุธรรม แล้วแบ่งแยกดูถูกคนอื่น
    มโนว่าตัวเองวิเศษวิโส แล้วเหยียบย่ำคนอื่น
    มโนว่าตัวเองมีอิทธิฤทธิ์ แล้วสอนศาสตร์แปลกประหลาดมอมเมาคน

    เห็นไหมว่า ติดชั่ว นี่ยังดูไร้เดียงสากว่าติดดีหลายเท่า
    ติดชั่ว คือ อยากฆ่าก็ฆ่าเลย ไม่ซับซ้อน
    แต่ติดดี บางทีก็เป็นฆ่าที่เลือดเย็น
    คือไม่เห็นว่าเป็นการฆ่าเพราะอ้างตนว่าดี
    มีสิทธิจะทำ อ้างเมตตา อ้างเลศย์เล่ห์เหลี่ยมสารพัด
    สุดท้ายก็ตกอยู่กิเลส ตัณฆา อัตตาตัวเองทั้งนั้น
    มันแนบเนียนละเอียดมาก เลือดเย็นมากทีเดียว
    .
    .
    .
    ส่วนตัวผม เคยเป็นมาทุกรูปแบบ
    บางข้อเคยเป็นหนักมาก ๆ
    หากไม่มีครูบาอาจารย์กัลยานิมิตรดี ๆ ก็หลงได้เหมือนกัน
    เป็นบุญที่รอบกายมีคนพร้อมจะตักเตือนและดึงกลับเข้าที่เข้าทาง
    และขอบคุณตัวเองที่พร้อมฟัง น้อมนำ ปฏิบัติตามเหมาะสม
    ทุกวันนี้หากจับได้ว่าความติดดีเหล่านี้กำลังจะมาจะดับทันที
    มันมีแหละ มาแว่บ ๆ ถ้ารู้ทันก็ดับได้
    บางทีรู้ไม่ทัน ดันทำบางอย่างไปแล้วก็จะรีบดึงตัวเองกลับ
    ใช้การฝึกเยอะเหมือนกัน เพราะสันดานมันเคยชินติดดี

    สิ่งที่ใช้กับตัวเองบ่อย ๆ มีหลายอย่าง

    1. การมองปัญญา (อนิจจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา)
    การเห็นทุกสิ่งเกิดดับเสมอนะ มันเปลี่ยนแปลงเสมอนะ
    มันไม่เที่ยง มันไม่ยั่งยืนหรอก จะไปอะไรกับมันนักหนา

    2. การเมตตา
    มองให้รู้ว่าทุกคนก็ทุกข์ว่ะ
    บางทีเขาก็ไม่รู้ในสิ่งที่ทำว่าจะทำร้ายเรา
    หากเขารู้คงไม่ทำ และตัวเราก็ใช่ว่าไม่เคยพลาด
    เราก็เคยผิด เคยพลาดเหมือนกัน เจ๊า ๆ กันไป

    ผมว่าอาวุธ 2 อย่างนี้ดึงให้ผมมา “ปกติ” ได้มากขึ้น
    สละการ “ติดดี” มากขึ้น มาทบทวนตัวเองมากขึ้น
    .
    .
    บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อทบทวนการเรียนรู้ของตัวเอง
    หากจะเป็นประโยชน์กับผู้ใดก็ขอแสดงความยินดีด้วยครับ

    #Siwapat #WhiteRoad
    ติดต่องานบรรยาย อบรม โค้ชชิ่ง : 0813196936
    Siwapat Line : https://lin.ee/apVXTfv
    Siwapat Ig : www.instagram.com/siwapatnow
    Siwapat Youtube : www.youtube.com/siwapatnow

  • เนือย 在 หนูหรี่ Nuree (NR music) Youtube 的最讚貼文

    2019-03-14 19:33:34

    #ASMR #หนูหรี่ ช่วยกดติดตามและกดกระดิ่งด้วยน้า
    Follow ติดตามที่
    Facebook page หนูหรี่
    https://www.facebook.com/EreeePage

    Instagram Yourboy_Nureee https://www.instagram.com/yourboy_nureee/

    Facebook Profile ส่วนตัว yourboyz thawatchai
    https://www.facebook.com/Yourboyz35

    #asmr
    #asmrthai
    #asmrthailand
    #mukbang
    #asmrไทย
    #eatingshow
    #eatingsounds
    #asmrcommunity
    #asmrกินโชว์
    eat sound

    ติดต่องาน for work 091-7167085
    Email yourboyz@live.com

你可能也想看看

搜尋相關網站