[爆卦]เจ้าของ คลี น. ฟาร์ม是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇เจ้าของ คลี น. ฟาร์ม鄉民發文沒有被收入到精華區:在เจ้าของ คลี น. ฟาร์ม這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 เจ้าของ產品中有736篇Facebook貼文,粉絲數超過178萬的網紅ลงทุนแมน,也在其Facebook貼文中提到, BREAKING: ยูนิคอร์นตัวที่ 2 ของประเทศไทย เจ้าของ TrueMoney Wallet ล่าสุดมีข่าวว่า เจ้าของ TrueMoney Wallet ชื่อบริษัท Ascend Money ระดมทุนซีรีส์ C ได้...

 同時也有200部Youtube影片,追蹤數超過15萬的網紅Katheryn Lee,也在其Youtube影片中提到,พาไปทานโอมากาเซะสไตล์ edomae ที่ร้าน Sushi Satoshi ย้านเรียบทางด่วน หัวละ 6,500บาท กินไปเผาแฟนไป แฟนขู่จะปิดช่อง Katheryn Lee แล้วว IG : KATHERYN_LE...

เจ้าของ 在 Piya Sawetpikul Instagram 的最佳解答

2021-09-10 19:42:53

เปิดกรุของขลัง หาชมยาก ของ คุณป๊อบ อัศวิน เจ้าของ "ปั้นเหน่งย่านาค "ของจริงชิ้นเดียวที่ตกทอดมาจากอดีตอันลึกลับของแม่นาค พระโขนง พร้อม สัมผัสของทนสิทธิ...

เจ้าของ 在 ???Home Gym Fit Style??? Instagram 的最讚貼文

2021-09-03 15:50:59

#Multipotentialite 🦆 คิดมาตลอด เป็นคนไม่เก่ง ไม่มีความสามารถอะไรเลย เวลานั่งมองคนอื่นเค้าประสบความสำเร็จ แล้ว รู้สึกอิจฉาเบาๆ ตั้งคำถามกับตัวเองเสมอ 🔹...

  • เจ้าของ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文

    2021-09-27 23:15:18
    有 9,072 人按讚

    BREAKING: ยูนิคอร์นตัวที่ 2 ของประเทศไทย เจ้าของ TrueMoney Wallet
    ล่าสุดมีข่าวว่า เจ้าของ TrueMoney Wallet ชื่อบริษัท Ascend Money ระดมทุนซีรีส์ C ได้ Valuation ระดับยูนิคอร์น (สตาร์ตอัป ที่ถูกประเมินว่ามีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) นับว่าเป็นยูนิคอร์นตัวที่ 2 ของประเทศไทย ต่อจากบริษัท Flash Express..

  • เจ้าของ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文

    2021-09-27 20:00:18
    有 3,070 人按讚

    เศรษฐีรวยสุดในเอเชีย มีน้องชาย เป็นบุคคลล้มละลาย ได้อย่างไร ? /โดย ลงทุนแมน
    หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า Mukesh Ambani เจ้าของ Reliance Industries กลุ่มธุรกิจที่ใหญ่สุดในอินเดียและเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในเอเชีย มีน้องชายชื่อ Anil Ambani

    สำหรับน้องชายของมหาเศรษฐีคนนี้ ก็เป็นเจ้าของธุรกิจที่แยกตัวออกมาจาก Reliance Industries ของพี่ชาย มีชื่อบริษัทว่า Reliance ADA Group

    ในปี 2008 Mukesh Ambani มีทรัพย์สิน 1.4 ล้านล้านบาท รวยเป็นอันดับ 5 ของโลก
    ในขณะที่ Anil Ambani ตามมาติด ๆ ด้วยทรัพย์สิน 1.37 ล้านล้านบาท และรวยเป็นอันดับ 6 ของโลก

    โดยในปีนั้น เศรษฐี 4 อันดับแรกของโลก ได้แก่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ (อเมริกัน), คาร์ลอส สลิม (เม็กซิโก),
    บิลล์ เกตส์ (อเมริกัน) และลักษมี นิวาส มิตตัล (อินเดีย)

    หลังจากผ่านไป 13 ปี Mukesh Ambani มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านล้านบาท
    กลายมาเป็นมหาเศรษฐีรวยสุดในอินเดียและเอเชีย และรวยเป็นอันดับ 10 ของโลก

    แต่ในปี 2019 Ambani คนน้องกลับมีทรัพย์สิน เพียง 5.6 หมื่นล้านบาท
    จนล่าสุด มีหลายคนกล่าวว่าความมั่งคั่งตอนนี้ของ Ambani คนน้อง ลดลงจนเกือบเป็นศูนย์
    แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับน้องชาย ของคนที่รวยสุดในเอเชีย ?
    ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
    ╔═══════════╗
    Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
    ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
    แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
    Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    ย้อนกลับไปในปี 1948 หรือเมื่อ 73 ปีก่อน ชายชาวอินเดียวัย 16 ปี
    ที่ชื่อ Dhirubhai Ambani ได้ตัดสินใจเดินทางออกจากบ้านเกิดไปทำงานที่ประเทศเยเมน

    ผ่านไป 10 ปี Dhirubhai กลับมาที่อินเดียพร้อมกับเงินเก็บ เพื่อมาเริ่มสร้างธุรกิจเอง

    Dhirubhai เริ่มจากการนำเข้าเส้นใยสังเคราะห์และส่งออกเครื่องเทศ ก่อนจะเริ่มทำธุรกิจสิ่งทอ ซึ่งก็เติบโตอย่างรวดเร็ว จน Dhirubhai ได้ขยายกิจการไปในอุตสาหกรรมอื่น และเปลี่ยนมาใช้ชื่อบริษัทว่า “Reliance Industries” ในปี 1973

    Reliance Industries สามารถ IPO ได้ในปี 1977 ซึ่งหุ้นของบริษัทก็มีชาวอินเดียสนใจลงทุนเป็นจำนวนมาก ถึงขนาดเคยจัดประชุมผู้ถือหุ้นที่สเตเดียม

    ตั้งแต่ที่กิจการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว Dhirubhai ก็เริ่มให้ลูกชายทั้ง 2 คนของเขา เข้ามาช่วยบริหารงานที่บริษัท

    Mukesh Ambani ลูกชายคนโต เป็นประธาน
    Anil Ambani ลูกชายคนรอง เป็นกรรมการผู้จัดการ

    แต่แล้วในปี 2002 Dhirubhai ได้เสียชีวิตลงและได้ทิ้งกิจการ Reliance Industries ไว้กับลูกชายทั้ง 2 คน

    Dhirubhai ที่จากโลกนี้ไปไม่ได้ทำพินัยกรรมและข้อตกลงแบ่งกิจการให้กับลูกแต่ละคนไว้ ซึ่งเขาก็คงไม่คิดว่า จะเกิดปัญหาตามมา

    โดยปัญหาที่ว่านั้นเริ่มเกิดขึ้นเพราะลูกชายทั้ง 2 คน ที่เริ่มเข้าทำงานและมีบทบาทในบริษัทมาพร้อม ๆ กัน
    กลับตกลงกันไม่ได้ว่าใครจะเป็นเจ้าของและใครจะดูแลและรับผิดชอบบริษัทไหนบ้าง

    สุดท้ายแล้ว ในช่วงปี 2004 ถึง 2005 ผู้เป็นแม่ต้องเข้ามาช่วยแก้ปัญหา
    โดยการจ้างบุคคลที่ 3 ให้เข้ามาจัดการเรื่องการแยกบริษัทออกจากกันไปเลย

    Mukesh Ambani คนพี่ได้ธุรกิจหลักคือปิโตรเลียม ซึ่งเขามีบทบาทสำคัญในการขยายกิจการในส่วนนี้มาตั้งแต่แรก และยังได้ธุรกิจอื่น ๆ อย่างเช่นปิโตรเคมี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจยุคเก่า โดยกลุ่มบริษัทของ Mukesh ใช้ชื่อว่า Reliance Industries

    Anil Ambani คนน้องได้ธุรกิจหลักคือ Reliance Communications ธุรกิจโทรคมนาคมที่เพิ่งเริ่มกิจการได้ไม่นาน แต่ก็กลายเป็นบริษัทเทเลคอมที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในอินเดีย ซึ่งแม้ว่า Mukesh จะมีบทบาทสำคัญมาตั้งแต่ต้น แต่ Anil ก็อยากได้ธุรกิจนี้เช่นกัน

    นอกจากธุรกิจเทเลคอมแล้ว กิจการอื่นที่ Anil Ambani ได้รับไปดูแลอีกก็อย่างเช่น ธุรกิจพลังงาน และบริการทางการเงิน ซึ่งส่วนมากจะเป็นธุรกิจยุคใหม่ โดยกลุ่มธุรกิจของ Anil Ambani ใช้ชื่อว่า “Reliance ADA Group”

    หลังจากจบเรื่องการแบ่งธุรกิจแล้ว แต่ละคนก็เริ่มต่อยอดธุรกิจตามเส้นทางของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น

    Mukesh Ambani เริ่มทำธุรกิจค้าปลีกในปี 2006 จน Reliance Retail กลายมาเป็นธุรกิจค้าปลีกที่ใหญ่สุดในอินเดีย

    ในขณะที่ Anil Ambani ก็ได้ต่อยอดทำธุรกิจบันเทิง อย่างเช่นในปี 2005 ได้ซื้อบริษัท Adlabs Films ที่เป็นเจ้าของโรงภาพยนตร์ Big Cinemas ซึ่งกลายมาเป็นโรงภาพยนตร์ที่มีสาขามากสุดในอินเดียในอีก 3 ปีถัดมา

    ในปี 2008 Reliance Entertainment ของ Anil Ambani ก็ได้เซ็นสัญญากับบริษัทผลิตภาพยนตร์ DreamWorks ของผู้กำกับ Steven Spielberg ซึ่งได้ร่วมผลิตภาพยนตร์ที่ได้รางวัลมากมาย อย่างเช่น The Help และ Lincoln

    และปีเดียวกันนี้ Anil Ambani ก็ได้นำบริษัทพลังงานอย่าง Reliance Power จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ด้วยมูลค่าการระดมทุนที่สูงเป็นประวัติการณ์ในขณะนั้น

    ผ่านไป 6 ปีหลังจากการเสียชีวิตของ Dhirubhai
    ดูเหมือนว่าลูกชายของเขาทั้งคู่ก็ต่อยอดกิจการไปได้อย่างสวยงาม
    จนทำให้ในปี 2008 Mukesh มีทรัพย์สิน 1.4 ล้านล้านบาท รวยเป็นอันดับ 5 ของโลก และ Anil มีทรัพย์สิน 1.37 ล้านล้านบาท รวยเป็นอันดับ 6 ของโลก

    แต่หลังจากนั้น เส้นทางความมั่งคั่งของพี่น้องคู่นี้ กลับเริ่มมีทิศทางที่สวนทางกัน
    คนพี่รวยขึ้น ส่วนคนน้องความมั่งคั่งหายไปเกือบหมด

    แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ?

    เรื่องทั้งหมดมีจุดเริ่มต้นมาจากเงินที่บริษัท Reliance Power ของ Anil Ambani ได้มาจากการ IPO มีแผนจะใช้สร้างโรงไฟฟ้าที่ส่วนใหญ่จะผลิตจากก๊าซ

    โดยก๊าซที่ Reliance Power ใช้ ก็มาจากบริษัทก๊าซธรรมชาติในเครือ Reliance Industries ของ Mukesh นั่นเอง

    ซึ่งในตอนที่แยกบริษัทกัน สองพี่น้องก็ได้เซ็นสัญญาว่าบริษัทก๊าซของ Mukesh Ambani จะขายก๊าซให้โรงไฟฟ้าของน้องชายที่ราคาหนึ่ง

    แต่ในวันที่โรงไฟฟ้าสร้างใกล้จะเสร็จและถึงเวลาที่พี่ชายจะขายก๊าซให้กับน้อง ราคาก๊าซในตลาดโลกกลับเพิ่มสูงขึ้นไปเกือบเท่าตัว

    Anil Ambani จึงต้องการซื้อก๊าซในราคาที่ตกลงกัน เพื่อที่จะไม่ต้องเผชิญต้นทุนก๊าซที่สูงขึ้น
    แต่ทาง Mukesh Ambani ไม่สามารถขายก๊าซตามราคาที่ตกลงกันไว้ได้เพราะบริษัทของเขาจะขาดทุน

    แต่แทนที่จะเจรจาตกลงกัน Anil Ambani กลับเลือกที่จะยื่นฟ้องบริษัทพี่ชายในปี 2010 เพื่อให้ซื้อก๊าซได้ในราคาเดิมที่เคยตกลงกัน

    แต่ศาลก็ได้มีคำสั่งให้ Anil Ambani ซื้อก๊าซในราคาใกล้เคียงกับราคาตลาดโลก ซึ่งเป็นไปตามนโยบายราคาก๊าซของประเทศ

    สุดท้ายแล้ว Anil Ambani ที่ต้องแบกรับต้นทุนก๊าซเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว จึงไม่สามารถจัดหาก๊าซเพื่อไปใช้ผลิตไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าที่สร้างรอไว้แล้วได้

    Reliance Power จึงกลายเป็นบริษัทที่มีหนี้มหาศาล จนต้องขายทรัพย์สินและกิจการบางส่วนออกไป เพื่อเอามาใช้หนี้ ซึ่งรวมถึงกิจการโรงภาพยนตร์ Big Cinemas ที่ซื้อมาเมื่อปี 2008 ด้วย

    แต่ความผิดพลาดทางธุรกิจของ Anil Ambani ยังไม่ได้จบลงแค่นี้ เพราะเรื่องราวที่ร้ายแรงกว่านั้น เกิดขึ้นกับธุรกิจโทรคมนาคมอย่าง Reliance Communications (RCom)

    ในปี 2002 ซึ่งเป็นช่วงที่ RCom เพิ่งเริ่มทำธุรกิจ RCom เลือกใช้เทคโนโลยีการสื่อสารที่เรียกว่า CDMA ซึ่งใช้เงินลงทุนน้อยกว่า ขณะที่บริษัทคู่แข่งอย่างเช่น Airtel เลือกใช้เทคโนโลยีที่ชื่อ GSM

    แม้เทคโนโลยีทั้ง 2 แบบจะใช้ได้ดีกับ 2G และ 3G เหมือนกัน แต่ปัญหาก็คือ CDMA ที่ RCom เลือกใช้ ไม่สามารถรองรับ 4G และ 5G ได้แบบ GSM ที่เหล่าคู่แข่งเลือกใช้

    นั่นจึงทำให้ช่วงเวลาที่ทั่วโลกเปลี่ยนผ่านจาก 3G มาเป็น 4G อย่างรวดเร็ว RCom เลยตามคนอื่นไม่ทัน จน RCom กลายเป็นบริษัทที่เริ่มมีหนี้มากขึ้น

    และจุดพลิกผันครั้งใหญ่ของ RCom รวมไปถึงทั้งอุตสาหกรรมเทเลคอมของอินเดีย ก็เกิดขึ้นในปี 2016

    เมื่อ Mukesh Ambani ได้ก่อตั้งบริษัทย่อยของ Reliance Industries ในชื่อ “Jio” ซึ่งเป็นบริษัท
    ที่เน้นบริการด้านเทคโนโลยี รวมถึงการให้บริการโทรคมนาคมแบบเดียวกับ RCom ด้วย

    ด้วยชื่อเสียงของ Reliance Industries ก็ทำให้ Jio มีจำนวนผู้ใช้งานเครือข่ายโทรศัพท์เพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้กำไรของบริษัทที่เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดอย่าง Airtel ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และทำให้อีก 2 บริษัทที่มีส่วนแบ่งตลาดรองลงมาอย่าง Vodafone และ Idea ต้องควบรวมกิจการกัน

    ในเวลาต่อมาบริษัท Jio ของ Mukesh Ambani ก็กลายมาเป็นบริษัทเทเลคอมที่ใหญ่สุดในอินเดีย ส่วน RCom ของ Anil ที่ย่ำแย่อยู่แล้ว ก็หายไปจากการแข่งขันในตลาดเทเลคอม จนทำให้บริษัทขาดทุนและกลายเป็นหนี้มหาศาล

    RCom ต้องยอมขายสินทรัพย์ของกิจการบางส่วนให้กับ Jio เพื่อลดหนี้
    แต่นั่นก็ยังไม่ช่วยให้สถานการณ์ของ RCom ดีขึ้น

    ย้อนกลับไปเมื่อปี 2013 RCom ได้ทำข้อตกลงกับ Ericsson โดยจ้างให้ Ericsson มาเป็นผู้บริหารเครือข่ายในบริเวณทางเหนือและตะวันตกของอินเดีย แต่ผลจากการขาดทุนต่อเนื่องก็ทำให้ RCom ไม่มีเงินจ่ายให้ Ericsson ตั้งแต่ปี 2016

    RCom ติดหนี้ Ericsson 2.46 พันล้านบาท ซึ่ง RCom ก็ไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ตามกำหนด และขอเลื่อนเวลาการจ่ายหนี้ออกไปเรื่อย ๆ ซึ่งสุดท้ายแล้ว RCom จ่ายหนี้ได้เพียง 528 ล้านบาท นำไปสู่การถูกฟ้องร้องในเวลาต่อมา

    ศาลสูงสุดจึงมีคำตัดสินว่า ถ้าภายใน 1 เดือน RCom ยังจ่ายหนี้ให้ Ericsson ไม่ได้ Anil จะต้องถูกจำคุก 3 เดือน

    สุดท้ายแล้วพี่ชายของ Anil Ambani อย่าง Mukesh ก็เข้ามาช่วย
    โดยการจ่ายหนี้ที่เหลือ มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาทให้
    ในขณะที่ บริษัท RCom ก็ต้องยื่นล้มละลาย

    แต่เรื่องราวยังไม่จบแค่นั้น เพราะ RCom ยังมีหนี้ก้อนใหญ่อีกก้อน ที่กู้ยืมมาจาก 3 ธนาคารขนาดใหญ่ของจีน ทั้ง ICBC, China Development Bank และ EXIM Bank of China เป็นมูลค่า 2.3 หมื่นล้านบาท

    ทั้ง 3 ธนาคารจึงยื่นฟ้อง RCom และ Anil Ambani..

    ช่วงต้นปี 2020 ที่ผ่านมา ซึ่ง Anil ได้พูดระหว่างพิจารณาคดีออนไลน์กับศาลของประเทศอังกฤษว่า เขาไม่มีเงินใช้หนี้ เพราะความมั่งคั่งของเขาตอนนี้ใกล้จะเป็นศูนย์แล้ว.. ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าเขาจะหาเงินจากไหนมาใช้หนี้

    จากความขัดแย้งเพื่อแย่งกิจการกันเองในครอบครัว บวกกับการบริหารธุรกิจที่ผิดพลาด การทุ่มเงินลงทุนขนาดใหญ่แต่ได้ผลลัพธ์แย่กว่าที่คาด ทำให้บริษัทก่อหนี้ก้อนโต

    ทั้งหมดนี้ก็ได้ส่งผลไปยังทรัพย์สินของผู้ที่เคยรวยติดอันดับ 6 ของโลกอย่าง Anil Ambani ได้หายไปเกือบหมด ในขณะที่พี่ชายที่เติบโตมาพร้อมกัน กลับเดินสวนทางกัน เพราะประสบความสำเร็จในธุรกิจอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นเศรษฐี ที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย นั่นเอง

    ถ้าใครเชื่อว่าชีวิตของเราถูกกำหนดมาแล้วตั้งแต่เกิด
    เกิดมาในครอบครัวที่รวย ก็ย่อมมีแรงส่งให้พวกเขารวยขึ้น
    ซึ่งมันก็เป็นจริงในหลายกรณี
    แต่ในบางกรณี มันก็อาจเป็นตรงกันข้าม
    ซึ่งอย่างน้อย มันก็เกิดขึ้นแล้วกับ Anil Ambani น้องชายของ มหาเศรษฐี ที่รวยสุดในเอเชีย นั่นเอง..
    ╔═══════════╗
    Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
    ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
    แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
    Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    ติดตามลงทุนแมนได้ที่
    Website - longtunman.com
    Blockdit - blockdit.com/longtunman
    Facebook - ลงทุนแมน
    Twitter - twitter.com/longtunman
    Instagram - instagram.com/longtunman
    Line - page.line.me/longtunman
    YouTube - youtube.com/longtunman
    Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
    Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
    Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
    References:
    -https://www.businessinsider.in/thelife/personalities/news/anil-ambanis-journey-from-42-billion-net-worth-to-claiming-poverty/articleshow/74028627.cms
    -https://www.scmp.com/magazines/style/celebrity/article/3093874/mukesh-vs-anil-why-did-one-ambani-brother-go-bankrupt
    -https://economictimes.indiatimes.com/industry/telecom/telecom-news/from-glory-to-dust-an-ambani-brands-journey-to-bankruptcy/articleshow/67837769.cms?from=mdr
    -https://www.businesstoday.in/latest/economy-politics/story/anil-ambani-road-to-bankruptcy-how-the-brother-of-indias-richest-man-lost-his-way-271119-2020-08-25
    -https://www.moneycontrol.com/news/business/a-timeline-of-reliance-communications-versus-ericsson-case-3661261.html
    -https://youtu.be/dBH0E20kc30
    -https://www.forbes.com/forbes/2008/0324/080.html?sh=3e185f910f2e
    -https://en.wikipedia.org/wiki/Reliance_Industries
    -https://en.wikipedia.org/wiki/Reliance_Group

  • เจ้าของ 在 JUST ดู IT. Facebook 的最佳解答

    2021-09-26 20:00:36
    有 1,851 人按讚

    #รีบรีวิว Kena: Bridge of Spirits เกมแฟนตาซีสุดตระการตา การสร้างเยี่ยม เล่นเพลิน

    ออกนำทางวิญญาณผู้เศร้าโศก สวมหน้ากาก ค้นหาภูตจิ๋ว Roth คืนชีพป่าจากเงื้อมมือของ Toshi

    Kena: Bridge of Spirits เกมแฟนตาซีน่าจับตา พร้อมงานภาพสุดตระกาลตาจาก Ember Labs อบอวลด้วยกลิ่นอายแบบเอเชียพร้อมพาผู้เล่นสวมบทบาทเป็น Kena ผู้นำทางวิญญาณ ที่หวังจะช่วยเหลือเหล่าวิญญาณผู้หลงทาง ให้ไปสู่สุคติ

    อีกหนึ่งผลงานที่ วิค–วันชนะ อินทรสมบัติ หรือ Victorior เจ้าของ Studio Kun นักวาดภาพประกอบชาวไทยที่ก่อนหน้านี้ พึ่งมีผลงานในแอนิเมชันเรื่องเยี่ยมขวัญใจชาวไทยจาก Netflix อย่าง Dragon Wish ร่วมเป็นหนึ่งในทีมสร้าง รับหน้าที่ในการออกแบบงานศิลป์ ตั้งแต่คาแรกเตอร์ ไปจนถึงฉากต่าง ๆ ในเกม ที่เรียกได้ว่า แค่เห็น Kena, Beni, Saiya และ เหล่าภูตจิ๋ว Roth หน้าคนวาดลอยมาเลย

    แม้จะไม่ใช่เกมจากค่ายใหญ่ แต่ Kena: Bridge of Spirits ก็คุณภาพคับเกมตั้งแต่งานภาพที่จัดไลท์ติงสวยงามราวกับอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง คัตซีนที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดูแอนิเมชั่นเรื่องเยี่ยม คาแรกเตอร์ดีไซน์ที่น่ารัก น่าหยิก ในขณะเดียวกัน ตัวร้ายก็ให้ความรู้สึกน่ากลัวและน่าเกรงขามได้ดี และดนตรีประกอบที่ละมุนหูมีกลิ่นอายแบบงานของ โจ ฮิซาอิชิ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกของ Studio Ghibli

    ในส่วนของเกมเพลย์ระบบการเล่น หยิบยืมจากเกม Action RPG ในยุคหลัง ๆ มาปรับใช้ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากการเล่น Tomb Raider, God of War, Spider-Man ที่มาพร้อมการอัปสกิลใหม่เพื่อปลดล็อคท่าโจมตีรูปแบบใหม่ ๆ การปีนป่าย ไปจนถึงการ interact กับฉากต่าง ๆ เสริมความสนุกขึ้นอีกขั้นด้วย DualSense ที่ช่วยความหน่วงในการยกอาวุธระหว่างฟัน ให้ความรู้สึกสมจริงมากขึ้นระหว่างการต่อสู้

    แม้ระบบเกมและรูปแบบการเล่นจะคล้ายเกม Action RPG อื่น ๆ ทั่วไปแต่ Kena: Bridge of Spirits ก็มีลูกเล่นเฉพาะตัวอย่างการควบคุม Roth เพื่อช่วยในการทำภารกิจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการยกของ การไขปริศนา ไปจนถึงการเป็นตัวช่วยระหว่างต่อสู้

    หยิบอาวุธให้พร้อม แล้วออกเดินทางปลดปล่อยวิญญาณหลงทางไปพร้อมกับ Kena และเหล่าภูตจิ๋ว
    Kena: Bridge of Spirits
    เล่นได้แล้ววันนี้ บน PS5, PS4 และ PC (บน Epic Game)
    (มีกำหนดวางจำหน่ายแผ่นในช่วงเดือนพฤศจิกายน)

    #จดอ #JUSTดูIT #KenaBridgeOfSpirits #PS5 #Playstation

  • เจ้าของ 在 Katheryn Lee Youtube 的最讚貼文

    2021-06-19 20:00:12

    พาไปทานโอมากาเซะสไตล์ edomae ที่ร้าน Sushi Satoshi ย้านเรียบทางด่วน หัวละ 6,500บาท กินไปเผาแฟนไป แฟนขู่จะปิดช่อง Katheryn Lee แล้วว

    IG : KATHERYN_LEE

  • เจ้าของ 在 Katheryn Lee Youtube 的最佳貼文

    2021-06-12 20:00:19

    ตอนนนี้เทรนด์ Wellness กำลังมา หลายๆคนอยากรู้ว่าถ้าไป wellness center ที่มีราคาสูง เค้าทำอะไรกันบ้าง แคทตี้ไปรีวิวมาให้ค่ะ ฟื้นฟูร่างกาย จะได้เตรียมพร้อมมีลูก อิอิ

    IG : katheryn_lee

  • เจ้าของ 在 Gapthanavate Youtube 的精選貼文

    2021-05-30 10:16:56

    Design fun:D : Sit & Talk with designer
    POEM (Part 1)
    มานั่งคุยกับ ฌอน - ชวนล ไคสิริ เจ้าของ POEM แบรนด์เสื้อผ้าที่มีรากมาจากความเป็นสถาปนิก...
    เห็นฌอนมาตั้งแต่อยู่ที่คณะสถาปัตย์ จุฬาฯ แต่ไม่ค่อยได้คุยกับน้องเท่าไหร่ในตอนนั้น มาได้คุยกันก็ช่วงหลังๆ นี่แหละครับ
    สิ่งที่น่าสนใจจากการได้คุยกับฌอนในคลิปนี้ คือ ณอนบอกว่าวิธีการที่เค้าสร้างและพัฒนาแบรนด์นี้มาจาก วิธีการคิดแบบเต็ค หรือสถาปนิกที่เค้าได้เรียนมาจากคณะเลย
    วิธีการคิดแบบเต็คที่ว่าคืออะไร ? และทำไมมันถึงแตกต่างจากแบรนด์แฟชั่นอื่นๆ จนกลายเป็น Identity ของแบรนด์จนถึงทุกวันนี้ได้ เราไปฟังแนวคิดของน้องณอนในคลิปนี้ซึ่งเป็น part 1 กันครับ มี part 2 ต่ออาทิตย์หน้านะฮะ ?
    ... จริงๆ แล้วรายการ Design fun:D ตอนแรกเราเน้นพูดคุยกับสถาปนิก พาทุกคนไปดูบ้านสวยๆ งานสถาปัตยกรรมเจ๋งๆ
    แต่ผมมีความคิดตั้งแต่ตอนเริ่มทำ channel นี้แล้วว่า อยากทำ content ที่เกี่ยวกับงานออกแบบหลายสาขา ไม่ใช่แค่สถาปัตยกรรมอย่างเดียว ทุกคนจะได้เห็นแนวความคิดของนักออกแบบในหลายแง่มุมด้วยครับ...

    ขอบคุณ
    ณอน - ชวนล ไคสิริ (Sean - Chavanon Caisiri)
    poembangkok.com

    ขอบคุณสถานที่ถ่ายทำ
    ร้าน DUKE
    https://www.facebook.com/duke.gaysorn

    #designfunD #gapthanavate #POEM #ณอนPOEM #poemmenswear #วิธีคิดแบบเต็ค #fashiondesign #design #อยากขึ้นยานแม่ต้องแวร์โพเอ้ม #ชอนpoem

    Facebook : http://www.facebook.com/gapthanavate​​
    Instagram : http://www.instagram.com/gapthanavate​​
    Subscribe : http://bit.ly/Youtube_Gapthanavate​​
    ติดต่องานช่อง Gapthanavate : gaptect@gmail.com, 084 114 2400, 088 175 0077​