[爆卦]เข้าฝัก หมายถึง是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇เข้าฝัก หมายถึง鄉民發文沒有被收入到精華區:在เข้าฝัก หมายถึง這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 เข้าฝัก產品中有2篇Facebook貼文,粉絲數超過105萬的網紅Roundfinger,也在其Facebook貼文中提到, มนุษย์ทำให้มนุษย์น้ำตาไหล -\-\- 1 "มีไลฟ์สดไหมครับ" "มีคลิปไหมคะ" , ดูเหมือนจะเป็นคำพูดติดปากของคนในยุคสมัยนี้เมื่อได้เห็นข่าวสารของงานกิจกรรมต่าง...

  • เข้าฝัก 在 Roundfinger Facebook 的最佳貼文

    2019-11-02 12:28:39
    有 911 人按讚


    มนุษย์ทำให้มนุษย์น้ำตาไหล
    -\-\-
    1
    "มีไลฟ์สดไหมครับ" "มีคลิปไหมคะ" , ดูเหมือนจะเป็นคำพูดติดปากของคนในยุคสมัยนี้เมื่อได้เห็นข่าวสารของงานกิจกรรมต่างๆ ทั้งงานพูด งานเพลง งานเสวนา ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบถามในใจว่า "พอจบงานแล้วมีคลิปให้ดูไหม" และดูเหมือนว่าเราจะชาชินกับการเสพสิ่งต่างๆ ผ่านทางหน้าจอไปแล้วจริงๆ ซึ่งก็เข้าใจได้เพราะมันสะดวกสบายกว่าการไปยังสถานที่จริงทุกประการ กระนั้นก็น่าตั้งคำถามว่า-\-\เหตุใดบางคนจึงชอบไปชม 'ของจริง' กันอยู่

    2
    เมื่อวานผมมีโอกาสได้ไปนั่งชมละครเวที "ชายกลาง เดอะมิวสิคัล" ที่เสียงชื่นชมล้นหลามจนกลับมารีสเตจหรือเล่นใหม่อีกครั้ง แล้วก็พบว่าละครเรื่องนี้สนุกซึ้งสมคำร่ำลือ เนื้อหา การแสดง แสงเสียง เพลง ฉาก ทำงานกับทั้งสมองและหัวใจ ได้ทั้งความคิดและความรู้สึก

    3
    ทีมงาน "โต๊ะกลม" ทำละครเวทีคุณภาพดีขึ้นเรื่อยๆ กระชับขึ้น คมขึ้น ตัดความย้วยและความงกมุกตลกที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องซึ่งมักจะมีเยอะในช่วงปีแรกๆ ออกไปจนทำให้เรื่องดำเนินไปอย่างรวดเร็ว กระนั้นก็ไม่ได้ขำน้อยลงเลย เมื่อวานนี้ผมน่าจะอายุยืนขึ้นอีกเป็นสิบปี เพราะหัวเราะตัวโยกนับครั้งไม่ถ้วน จาก "โหมโรง" มาถึง "ชายกลาง" ดูเหมือนทีมโต๊ะกลมทำละครได้ "เข้าฝัก" และ "เก๋า" มาก เหมือนนักบอลมากประสบการณ์ที่ไม่ต้องขยับตัวเยอะ แต่ทุกดอกมีผลต่อเกม

    4
    สิ่งที่ชอบในละครเวทีเรื่องนี้คือการโฟกัสอยู่ที่แก่นเรื่องซึ่งแข็งแรงมาก ทำให้ไม่ต้องเน้นฉากอลังการดาวล้านดวง ผมคิดถึงหนังเล็กๆ โลเคชั่นหลักแค่สองแห่ง คือบ้านนักเขียนกับคฤหาสน์ท่านชาย แล้วบอกเล่าเรื่องราวโลกคู่ขนานไปตลอดทาง โดยมีฉากน่ารักอย่างฉากขี่จักรยานมาชวนยิ้ม (ฉากนี้เหมือนหนังญี่ปุ่น) และฉากที่ผมชอบที่สุดคือฉากที่ภักดีร่ายเพลง "จังหวะจักรวาล" ใช้การออกแบบแสงง่ายๆ แต่ได้อารมณ์และสื่อสารเนื้อความได้ยอดเยี่ยม

    5
    เพลงทุกเพลงไพเราะ มีเสน่ห์ เต้นสนุก เพลงที่เนื้อร้องฮาก็ฮาเต็มสิบ เพลงปิดท้าย "ดั่งนิยาย" ของแสตมป์ก็ซึ้งชวนน้ำตาไหล เหมือนได้นั่งอยู่ในคอนเสิร์ตที่มีตัวละครมาเล่น MV สดให้ดูตรงหน้า สวยงามและโรแมนติกมาก การเต้น ร้องแร็ป ขยับร่างอย่างมีพลังของนักแสดงหลักและทีมเต้นก็ส่งพลังออกมาได้เต็มเปี่ยม

    6
    เนื้อเรื่องขออนุญาตไม่เล่า เพราะอยากชวนให้ไปดูกัน นี่คือบทละครเวทีที่ดีมากเรื่องหนึ่ง บอกสั้นๆ ว่านี่ไม่ใช่ละครเรื่องชายกลางกับพจมานในบ้านทรายทอง หากคือเรื่องเล่าที่ชวนกันขบคิดถึงชีวิตจริงอันเจ็บปวดรวดร้าวกับโลกพาฝันอันงดงามเกินจริงราวกับวิ่งในทุ่งลาเวนเดอร์ ว่าถึงที่สุดแล้วสองโลกนี้เป็นหนึ่งเดียวกันอย่างไร ด้วยกลวิธีการเขียนบทที่สลับซับซ้อนและหักมุมราวกับโค้งถนนแม่ฮ่องสอน

    7
    นักแสดงทุกคนบนเวทีเล่นได้อย่างน่ารัก หมายถึงทำให้เรารักตัวละครที่พวกเขาสวมบทบาท กระทั่งตัวร้ายเราก็หลงรักในการแสดงที่ทำให้เราหัวเราะหัวเขย่า ที่ชอบเป็นพิเศษคือคาแรกเตอร์ "แม่นางเอก" ซึ่งบุคลิกคล้าย "แม่ชี" เสียมากกว่า และที่ประทับใจในการแสดงคือคนที่เล่นบทคนรับใช้ประจำบ้าน และพี่ภักดีซึ่งออกมาแต่ละทีทำให้ละครกลายเป็นหนังเวนิซได้ทุกครั้ง

    8
    ในช่วงท้ายการแสดง ผมปรบมือระรัวและน้ำตาไหลออกมาไม่รู้ตัว ไม่ใช่เพราะความซาบซึ้งกับเรื่องราวที่เรียกน้ำตาออกมา หากเป็น "พลัง" ของการแสดงสดซึ่งมักทำให้ผมน้ำตาไหลเสมอในโชว์ที่สร้างความประทับใจแบบเข้มข้น ความเข้นข้นที่ว่าเกิดขึ้นจาก "พลัง" ของมนุษย์ซึ่งเป็นทีมทำละครทุกคน ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง เราสัมผัสพลังนั้นได้ผ่าน "ผลงาน" ที่ปรากฏตรงหน้า

    9
    เพลงทุกเพลงที่ได้ยิน มันผ่านการแก้เกลาเหลาเนื้อและทำนองมาไม่รู้กี่ครั้ง คนแต่งเพลง เล่นดนตรี นักร้องที่ต้องหัดร้อง การเต้นที่พร้อมเพรียงนั้นผ่านการซ้อมมาไม่รู้กี่เดือน คิวไฟ ซาวนด์เอฟเฟ็กต์ที่แม่นเป๊ะมันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ การแสดงที่ส่งรับกันจนทำให้เราหัวเราะร่าน้ำตารินนั้นผ่านการแก้ตัดดัดเปลี่ยนมาไม่รู้กี่ร้อยหน ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในวันที่เราไปนั่งชมการแสดงมันเป็นเพียงผลลัพธ์จากการบ่มเพาะของความมุ่งมั่นตั้งใจยาวนานจากผู้คนนับร้อย ไม่แปลกเลยที่มันจะมี "พลัง" ผมเชื่อเสมอว่าพลังของความมุ่งมั่นตั้งใจของมนุษย์ส่งถึงมนุษย์เสมอ

    10
    และสิ่งนี้เองที่เป็นคำตอบว่า ทำไมเราจึงควรไปดู "ของจริง" สิ่งนี้เองคือ "พลัง" ของการแสดงสด การไปอยู่ "ที่นั่น" ทำให้เราได้รับหลายสิ่งที่ไม่ใช่แค่ "เนื้อหา" หากมันคือ "พลังงาน" ที่เกิดจากความมุ่งมั่นตั้งใจของมนุษย์ผู้หลงรักในสิ่งที่ตัวเองทำ

    11
    "พลัง" เช่นนี้ไม่ได้มอบแค่ความบันเทิงเริงใจ หากมันอัดฉีด "พลัง" เข้าไปในตัวเราด้วยเช่นกัน มันทำให้เราอยากลุกขึ้นมาทุ่มเทพลังของตัวเองใส่ลงไปในผลงานที่เราทำให้ดีที่สุดบ้าง กระบวนการเช่นนี้เกิดขึ้นกับผมตลอดเวลาที่ได้ดูโชว์ดีๆ

    12
    ผมรู้สึก "อิ่ม" และเข้าใจความหมายของคำว่า "อิ่มใจ" คือใจที่มันได้รับสารอาหารเข้าไปเต็มที่ แล้วพร้อมจะส่งพลังใจแบบเดียวกันต่อไปให้คนอื่นๆ ผ่านการทำงานของเรา

    13
    เคยกินอาหารที่อร่อยมากแล้วน้ำตาจะไหลไหมครับ ผมเคย, และผมคิดว่านั่นคือความรู้สึกอยากขอบคุณคนปรุงอาหารที่ทุ่มเทฝึกฝนจนทำอาหารได้อร่อยขนาดนี้ให้เรากิน การแสดงดีๆ ก็ให้ผลลัพธ์คล้ายกันครับ เราไม่ได้น้ำตาไหลเพราะเศร้าใจกับเรื่องราวในละคร แต่น้ำตามันไหลออกมาเพราะอยากขอบคุณในทุกความทุ่มเทที่สร้างสรรค์ "อาหารใจ" ที่อร่อยขนาดนี้ให้สัมผัส

    14
    และสิ่งนี้คือ "พลัง" ของการแสดงสด คือพลังที่มนุษย์ส่งมอบให้กันได้เมื่อเราอยู่ "ตรงหน้า" ของกันและกัน

    15
    ทุกครั้งที่ได้เห็นโชว์ดีๆ ผมมักคิดเสมอว่า ถ้าเมืองไทยมีโชว์เจ๋งๆ ที่หลากหลายคงจะดีมากเลย เพราะเป็นกำไรของคนดูอย่างเราที่จะได้เลือกชมได้มากมายหลายรสชาติ แต่เมื่อได้พูดคุยกับคนทำโชว์ก็พบว่า มันไม่ง่ายนักที่จะขายบัตรหรือชวนคนออกจากบ้านมาดูโชว์ สถานการณ์ละครเวทีและการแสดงอีกหลายแขนงจึง "ไม่ง่าย" นัก ในฐานะของคนดูที่อยากเห็นโชว์ดีๆ ผมคิดว่าคนดูแบบเราๆ สามารถเป็นส่วนสนับสนุนให้บ้านเรามีโชว์คุณภาพได้เช่นกัน คือไปดูกันเยอะๆ แล้วบอกต่อญาติมิตร เมื่อคนทำอยู่ได้ เราก็จะมีของดีดูกันเยอะขึ้น

    16
    เวลาไปประเทศที่มีวัฒนธรรมการดูละครเวที ดูโชว์ดนตรี หรือการแสดงศิลปะที่แข็งแรงก็มักรู้สึกอิจฉา อยากให้บ้านเราเป็นแบบนั้นบ้าง ซึ่งผมว่าแค่อิจฉาเขามันไม่พอ เราน่าจะช่วยกันสนับสนุนผลงานของผู้สร้างสรรค์เหล่านี้ถ้ารู้สึกชอบและประทับใจ, อยากชวนไปดูละคร "ชายกลาง เดอะมิวสิคัล" กันเยอะๆ รวมถึงโชว์อื่นๆ ที่ตั้งใจสร้างสรรค์กันด้วยครับ

    17
    และทั้งหมดที่เขียนมาอาจจะคล้ายกับคำขอบคุณที่มอบให้พ่อครัวแม่ครัวทุกคนที่ปรุง "อาหารตา" และ "อาหารใจ" ให้ผมได้ "อิ่มใจ" จนน้ำตาคลอเมื่อวานนี้ ขอบคุณทีมงานและนักแสดงทุกคนที่สร้างสรรค์ผลงานดีๆ ที่ตั้งใจทำแบบนี้ออกมา

    18
    ในยุคที่เราใช้เวลากับหน้าจอเยอะขึ้นทุกวัน ความท้าทายของคนทำการแสดงสดก็คือ คนอาจไม่รู้สึกอยากไปดู "ของจริง" กันสักเท่าไร แต่โอกาสสำหรับคนดูที่อยากสนับสนุนก็คือ เราสามารถ "บอกต่อ" ผลงานดีๆ กันได้ ผมว่าสิ่งนี้เป็นความสัมพันธ์ที่น่ารักระหว่าง "ผู้สร้าง" กับ "ผู้เสพ" ผลงาน

    19
    ขอชวนไปรับพลังจากมนุษย์ผู้มีความมุ่งมั่นตั้งใจกันครับ

    20
    และสำหรับคำถามในตอนต้น ขอตอบสั้นๆ ว่า "งานนี้ไม่มีคลิปครับ" ส่วนเหตุผลว่าทำไมเราไม่ควรเสพละครเวทีผ่านทางหน้าจอ ผมคิดว่าทุกท่านอาจต้องไปหาคำตอบเองด้วยการชม "ของจริง"

    -\-\-
    #ชายกลางเดอะมิวสิคัล
    รีสเตจ 4 รอบเท่านั้น
    2-10 พ.ย. นี้ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ
    ซื้อบัตรได้ที่ thaiticketmajor

  • เข้าฝัก 在 Roundfinger Facebook 的最佳貼文

    2019-11-02 12:28:39
    有 908 人按讚

    มนุษย์ทำให้มนุษย์น้ำตาไหล
    ---
    1
    "มีไลฟ์สดไหมครับ" "มีคลิปไหมคะ" , ดูเหมือนจะเป็นคำพูดติดปากของคนในยุคสมัยนี้เมื่อได้เห็นข่าวสารของงานกิจกรรมต่างๆ ทั้งงานพูด งานเพลง งานเสวนา ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบถามในใจว่า "พอจบงานแล้วมีคลิปให้ดูไหม" และดูเหมือนว่าเราจะชาชินกับการเสพสิ่งต่างๆ ผ่านทางหน้าจอไปแล้วจริงๆ ซึ่งก็เข้าใจได้เพราะมันสะดวกสบายกว่าการไปยังสถานที่จริงทุกประการ กระนั้นก็น่าตั้งคำถามว่า--เหตุใดบางคนจึงชอบไปชม 'ของจริง' กันอยู่

    2
    เมื่อวานผมมีโอกาสได้ไปนั่งชมละครเวที "ชายกลาง เดอะมิวสิคัล" ที่เสียงชื่นชมล้นหลามจนกลับมารีสเตจหรือเล่นใหม่อีกครั้ง แล้วก็พบว่าละครเรื่องนี้สนุกซึ้งสมคำร่ำลือ เนื้อหา การแสดง แสงเสียง เพลง ฉาก ทำงานกับทั้งสมองและหัวใจ ได้ทั้งความคิดและความรู้สึก

    3
    ทีมงาน "โต๊ะกลม" ทำละครเวทีคุณภาพดีขึ้นเรื่อยๆ กระชับขึ้น คมขึ้น ตัดความย้วยและความงกมุกตลกที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องซึ่งมักจะมีเยอะในช่วงปีแรกๆ ออกไปจนทำให้เรื่องดำเนินไปอย่างรวดเร็ว กระนั้นก็ไม่ได้ขำน้อยลงเลย เมื่อวานนี้ผมน่าจะอายุยืนขึ้นอีกเป็นสิบปี เพราะหัวเราะตัวโยกนับครั้งไม่ถ้วน จาก "โหมโรง" มาถึง "ชายกลาง" ดูเหมือนทีมโต๊ะกลมทำละครได้ "เข้าฝัก" และ "เก๋า" มาก เหมือนนักบอลมากประสบการณ์ที่ไม่ต้องขยับตัวเยอะ แต่ทุกดอกมีผลต่อเกม

    4
    สิ่งที่ชอบในละครเวทีเรื่องนี้คือการโฟกัสอยู่ที่แก่นเรื่องซึ่งแข็งแรงมาก ทำให้ไม่ต้องเน้นฉากอลังการดาวล้านดวง ผมคิดถึงหนังเล็กๆ โลเคชั่นหลักแค่สองแห่ง คือบ้านนักเขียนกับคฤหาสน์ท่านชาย แล้วบอกเล่าเรื่องราวโลกคู่ขนานไปตลอดทาง โดยมีฉากน่ารักอย่างฉากขี่จักรยานมาชวนยิ้ม (ฉากนี้เหมือนหนังญี่ปุ่น) และฉากที่ผมชอบที่สุดคือฉากที่ภักดีร่ายเพลง "จังหวะจักรวาล" ใช้การออกแบบแสงง่ายๆ แต่ได้อารมณ์และสื่อสารเนื้อความได้ยอดเยี่ยม

    5
    เพลงทุกเพลงไพเราะ มีเสน่ห์ เต้นสนุก เพลงที่เนื้อร้องฮาก็ฮาเต็มสิบ เพลงปิดท้าย "ดั่งนิยาย" ของแสตมป์ก็ซึ้งชวนน้ำตาไหล เหมือนได้นั่งอยู่ในคอนเสิร์ตที่มีตัวละครมาเล่น MV สดให้ดูตรงหน้า สวยงามและโรแมนติกมาก การเต้น ร้องแร็ป ขยับร่างอย่างมีพลังของนักแสดงหลักและทีมเต้นก็ส่งพลังออกมาได้เต็มเปี่ยม

    6
    เนื้อเรื่องขออนุญาตไม่เล่า เพราะอยากชวนให้ไปดูกัน นี่คือบทละครเวทีที่ดีมากเรื่องหนึ่ง บอกสั้นๆ ว่านี่ไม่ใช่ละครเรื่องชายกลางกับพจมานในบ้านทรายทอง หากคือเรื่องเล่าที่ชวนกันขบคิดถึงชีวิตจริงอันเจ็บปวดรวดร้าวกับโลกพาฝันอันงดงามเกินจริงราวกับวิ่งในทุ่งลาเวนเดอร์ ว่าถึงที่สุดแล้วสองโลกนี้เป็นหนึ่งเดียวกันอย่างไร ด้วยกลวิธีการเขียนบทที่สลับซับซ้อนและหักมุมราวกับโค้งถนนแม่ฮ่องสอน

    7
    นักแสดงทุกคนบนเวทีเล่นได้อย่างน่ารัก หมายถึงทำให้เรารักตัวละครที่พวกเขาสวมบทบาท กระทั่งตัวร้ายเราก็หลงรักในการแสดงที่ทำให้เราหัวเราะหัวเขย่า ที่ชอบเป็นพิเศษคือคาแรกเตอร์ "แม่นางเอก" ซึ่งบุคลิกคล้าย "แม่ชี" เสียมากกว่า และที่ประทับใจในการแสดงคือคนที่เล่นบทคนรับใช้ประจำบ้าน และพี่ภักดีซึ่งออกมาแต่ละทีทำให้ละครกลายเป็นหนังเวนิซได้ทุกครั้ง

    8
    ในช่วงท้ายการแสดง ผมปรบมือระรัวและน้ำตาไหลออกมาไม่รู้ตัว ไม่ใช่เพราะความซาบซึ้งกับเรื่องราวที่เรียกน้ำตาออกมา หากเป็น "พลัง" ของการแสดงสดซึ่งมักทำให้ผมน้ำตาไหลเสมอในโชว์ที่สร้างความประทับใจแบบเข้มข้น ความเข้นข้นที่ว่าเกิดขึ้นจาก "พลัง" ของมนุษย์ซึ่งเป็นทีมทำละครทุกคน ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง เราสัมผัสพลังนั้นได้ผ่าน "ผลงาน" ที่ปรากฏตรงหน้า

    9
    เพลงทุกเพลงที่ได้ยิน มันผ่านการแก้เกลาเหลาเนื้อและทำนองมาไม่รู้กี่ครั้ง คนแต่งเพลง เล่นดนตรี นักร้องที่ต้องหัดร้อง การเต้นที่พร้อมเพรียงนั้นผ่านการซ้อมมาไม่รู้กี่เดือน คิวไฟ ซาวนด์เอฟเฟ็กต์ที่แม่นเป๊ะมันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ การแสดงที่ส่งรับกันจนทำให้เราหัวเราะร่าน้ำตารินนั้นผ่านการแก้ตัดดัดเปลี่ยนมาไม่รู้กี่ร้อยหน ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในวันที่เราไปนั่งชมการแสดงมันเป็นเพียงผลลัพธ์จากการบ่มเพาะของความมุ่งมั่นตั้งใจยาวนานจากผู้คนนับร้อย ไม่แปลกเลยที่มันจะมี "พลัง" ผมเชื่อเสมอว่าพลังของความมุ่งมั่นตั้งใจของมนุษย์ส่งถึงมนุษย์เสมอ

    10
    และสิ่งนี้เองที่เป็นคำตอบว่า ทำไมเราจึงควรไปดู "ของจริง" สิ่งนี้เองคือ "พลัง" ของการแสดงสด การไปอยู่ "ที่นั่น" ทำให้เราได้รับหลายสิ่งที่ไม่ใช่แค่ "เนื้อหา" หากมันคือ "พลังงาน" ที่เกิดจากความมุ่งมั่นตั้งใจของมนุษย์ผู้หลงรักในสิ่งที่ตัวเองทำ

    11
    "พลัง" เช่นนี้ไม่ได้มอบแค่ความบันเทิงเริงใจ หากมันอัดฉีด "พลัง" เข้าไปในตัวเราด้วยเช่นกัน มันทำให้เราอยากลุกขึ้นมาทุ่มเทพลังของตัวเองใส่ลงไปในผลงานที่เราทำให้ดีที่สุดบ้าง กระบวนการเช่นนี้เกิดขึ้นกับผมตลอดเวลาที่ได้ดูโชว์ดีๆ

    12
    ผมรู้สึก "อิ่ม" และเข้าใจความหมายของคำว่า "อิ่มใจ" คือใจที่มันได้รับสารอาหารเข้าไปเต็มที่ แล้วพร้อมจะส่งพลังใจแบบเดียวกันต่อไปให้คนอื่นๆ ผ่านการทำงานของเรา

    13
    เคยกินอาหารที่อร่อยมากแล้วน้ำตาจะไหลไหมครับ ผมเคย, และผมคิดว่านั่นคือความรู้สึกอยากขอบคุณคนปรุงอาหารที่ทุ่มเทฝึกฝนจนทำอาหารได้อร่อยขนาดนี้ให้เรากิน การแสดงดีๆ ก็ให้ผลลัพธ์คล้ายกันครับ เราไม่ได้น้ำตาไหลเพราะเศร้าใจกับเรื่องราวในละคร แต่น้ำตามันไหลออกมาเพราะอยากขอบคุณในทุกความทุ่มเทที่สร้างสรรค์ "อาหารใจ" ที่อร่อยขนาดนี้ให้สัมผัส

    14
    และสิ่งนี้คือ "พลัง" ของการแสดงสด คือพลังที่มนุษย์ส่งมอบให้กันได้เมื่อเราอยู่ "ตรงหน้า" ของกันและกัน

    15
    ทุกครั้งที่ได้เห็นโชว์ดีๆ ผมมักคิดเสมอว่า ถ้าเมืองไทยมีโชว์เจ๋งๆ ที่หลากหลายคงจะดีมากเลย เพราะเป็นกำไรของคนดูอย่างเราที่จะได้เลือกชมได้มากมายหลายรสชาติ แต่เมื่อได้พูดคุยกับคนทำโชว์ก็พบว่า มันไม่ง่ายนักที่จะขายบัตรหรือชวนคนออกจากบ้านมาดูโชว์ สถานการณ์ละครเวทีและการแสดงอีกหลายแขนงจึง "ไม่ง่าย" นัก ในฐานะของคนดูที่อยากเห็นโชว์ดีๆ ผมคิดว่าคนดูแบบเราๆ สามารถเป็นส่วนสนับสนุนให้บ้านเรามีโชว์คุณภาพได้เช่นกัน คือไปดูกันเยอะๆ แล้วบอกต่อญาติมิตร เมื่อคนทำอยู่ได้ เราก็จะมีของดีดูกันเยอะขึ้น

    16
    เวลาไปประเทศที่มีวัฒนธรรมการดูละครเวที ดูโชว์ดนตรี หรือการแสดงศิลปะที่แข็งแรงก็มักรู้สึกอิจฉา อยากให้บ้านเราเป็นแบบนั้นบ้าง ซึ่งผมว่าแค่อิจฉาเขามันไม่พอ เราน่าจะช่วยกันสนับสนุนผลงานของผู้สร้างสรรค์เหล่านี้ถ้ารู้สึกชอบและประทับใจ, อยากชวนไปดูละคร "ชายกลาง เดอะมิวสิคัล" กันเยอะๆ รวมถึงโชว์อื่นๆ ที่ตั้งใจสร้างสรรค์กันด้วยครับ

    17
    และทั้งหมดที่เขียนมาอาจจะคล้ายกับคำขอบคุณที่มอบให้พ่อครัวแม่ครัวทุกคนที่ปรุง "อาหารตา" และ "อาหารใจ" ให้ผมได้ "อิ่มใจ" จนน้ำตาคลอเมื่อวานนี้ ขอบคุณทีมงานและนักแสดงทุกคนที่สร้างสรรค์ผลงานดีๆ ที่ตั้งใจทำแบบนี้ออกมา

    18
    ในยุคที่เราใช้เวลากับหน้าจอเยอะขึ้นทุกวัน ความท้าทายของคนทำการแสดงสดก็คือ คนอาจไม่รู้สึกอยากไปดู "ของจริง" กันสักเท่าไร แต่โอกาสสำหรับคนดูที่อยากสนับสนุนก็คือ เราสามารถ "บอกต่อ" ผลงานดีๆ กันได้ ผมว่าสิ่งนี้เป็นความสัมพันธ์ที่น่ารักระหว่าง "ผู้สร้าง" กับ "ผู้เสพ" ผลงาน

    19
    ขอชวนไปรับพลังจากมนุษย์ผู้มีความมุ่งมั่นตั้งใจกันครับ

    20
    และสำหรับคำถามในตอนต้น ขอตอบสั้นๆ ว่า "งานนี้ไม่มีคลิปครับ" ส่วนเหตุผลว่าทำไมเราไม่ควรเสพละครเวทีผ่านทางหน้าจอ ผมคิดว่าทุกท่านอาจต้องไปหาคำตอบเองด้วยการชม "ของจริง"

    ---
    #ชายกลางเดอะมิวสิคัล
    รีสเตจ 4 รอบเท่านั้น
    2-10 พ.ย. นี้ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ
    ซื้อบัตรได้ที่ thaiticketmajor

你可能也想看看

搜尋相關網站