[爆卦]อดออม ภาษาอังกฤษ是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇อดออม ภาษาอังกฤษ鄉民發文沒有被收入到精華區:在อดออม ภาษาอังกฤษ這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 อดออม產品中有42篇Facebook貼文,粉絲數超過0的網紅,也在其Facebook貼文中提到, คนที่รายได้น้อย แต่ #อดออม จะ "มั่งคั่ง" มากกว่า คนที่รายได้มาก แต่ #ฟุ่มเฟือย -วรัทภพ รชตนามวงษ์-...

 同時也有17部Youtube影片,追蹤數超過87萬的網紅Paul Pattarapon พอล ภัทรพล,也在其Youtube影片中提到,EP.นี้ปิ๊งจะมาชวนคุยเรื่อง ช้อปปิ้งยังไง ให้เงินเหลือเพียบ อาจจะฟังดูไม่ยากแค่ช้อปให้น้อยลง แต่ที่จริงแล้วการช้อปปิ้งมีเหตุผลเกี่ยวกับอารมณ์ค่ะ ซึ่งเพ...

อดออม 在 sornram_theappitak Instagram 的精選貼文

2021-02-17 03:58:19

8/2/2564...วีจิ​น้อย​ครบ​ 1​ ขวบ​ 10​ เดือนแล้วนะคะ​ ปาป๊า​ขอให้​นู๋​สมบูรณ์​แข็งแรง​ทั้ง​ร่างกาย​และ​จิตใจ​ ไม่เจ็บ​ไม่​ไข้​ มีสติปัญญา​ที่ดี​เฉลียวฉ...

  • อดออม 在 Facebook 的最佳貼文

    2021-09-06 13:00:15
    有 16 人按讚

    คนที่รายได้น้อย แต่ #อดออม

    จะ "มั่งคั่ง" มากกว่า

    คนที่รายได้มาก แต่ #ฟุ่มเฟือย

    -วรัทภพ รชตนามวงษ์-

  • อดออม 在 สมองไหล Facebook 的精選貼文

    2021-05-03 08:27:08
    有 2,366 人按讚

    เรามักถูกปลูกฝังกันมาตั้งแต่เด็กๆ ว่าให้ ประหยัด อดออม ถ้ามีเงินก็พยายามอย่าใช้จ่าย ซึ่งคำสอนเหล่านี้ไม่ได้เป็นเรื่องผิดอะไร แต่มันถูกเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น
    .
    เพราะถ้ามาลองดูตามความจริง ถ้าคุณไม่ได้ใช้เงินที่หามาได้เลย แล้วคุณจะมีเงินไปทำไม ถ้ามีแล้วเก็บมันไว้เป็นตัวเลขในสมุดบัญชีเฉยๆ จะมี หรือ ไม่มี มันก็คงไม่ต่างกัน เพราะนอกจากเงินจะไม่สามารถเพิ่มพูนขึ้นได้แล้ว ยังถือเป็นการเสียโอกาสที่เงินจำนวนนั้นจะไปสร้างประโยชน์อื่นๆ ให้คุณอีกต่างหาก
    .
    ดังนั้น แทนที่จะมาสอนกันว่า “อย่าใช้เงิน” เรามาเปลี่ยนเป็นสอนให้ “ใช้เงินเป็น” จะดีกว่า
    .
    แล้วการ “ใช้เงินเป็น” ที่ว่านั้นเป็นอย่างไร ถ้าอยากรู้แล้วก็
    เอื้อมนิ้วของคุณ กดเข้าไปฟัง ตอนนี้ เพื่อหาคำตอบ ที่ลิงก์ข้างล่างนี้ ได้เลยครับ
    .
    https://youtu.be/1segW6x8wR0

  • อดออม 在 สมองไหล Facebook 的最佳貼文

    2021-03-01 22:21:16
    有 3,179 人按讚

    เรามักถูกปลูกฝังกันมาตั้งแต่เด็กๆ ว่าให้ ประหยัด อดออม ถ้ามีเงินก็พยายามอย่าใช้จ่าย ซึ่งคำสอนเหล่านี้ไม่ได้เป็นเรื่องผิดอะไร แต่มันถูกเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น
    .
    เพราะถ้ามาลองดูตามความจริง ถ้าคุณไม่ได้ใช้เงินที่หามาได้เลย แล้วคุณจะมีเงินไปทำไม ถ้ามีแล้วเก็บมันไว้เป็นตัวเลขในสมุดบัญชีเฉยๆ จะมี หรือ ไม่มี มันก็คงไม่ต่างกัน เพราะนอกจากเงินจะไม่สามารถเพิ่มพูนขึ้นได้แล้ว (ถ้าไม่นับดอกเบี้ยที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน) ยังถือเป็นการเสียโอกาสที่เงินจำนวนนั้นจะไปสร้างประโยชน์อื่นๆ ให้คุณอีกต่างหาก
    .
    ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ไม่ได้หมายความว่าไม่ให้ทุกคนออมเงินนะครับ แต่กำลังจะบอกว่าการออมเงินที่ไม่มีเป้าหมาย แค่ออมไปเรื่อยๆ มันไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร เว้นเสียแต่คุณมีเป้าหมายชัดเจนว่าจะออมเงินไปทำไม อย่างเช่น เพื่อเรียนต่อ เพื่อสร้างธุรกิจ เพื่อลงทุน เป็นต้น
    .
    ดังนั้น แทนที่จะมาสอนกันว่า “อย่าใช้เงิน” เรามาเปลี่ยนเป็นสอนให้ “ใช้เงินเป็น” จะดีกว่า
    .
    แล้วการ “ใช้เงินเป็น” ที่ว่านั้นเป็นอย่างไร เดี๋ยวสมองไหลจะเล่าให้ฟัง...
    .
    1) ใช้เงินซื้อประสบการณ์ ไม่ใช่เพื่อเรียกร้องความสนใจ
    .
    มีงานวิจัยของแวน โบแว่น และทีมงาน นักจิตวิทยาสังคม ค้นพบว่า การใช้เงินซื้อประสบการณ์นั้นทำให้คนมีความสุขมากถึง 57 เปอร์เซ็นต์
    .
    หรือต่อให้ประสบการณ์นั้นอาจจะไม่ดีนัก เช่น ถ้าคุณไปเที่ยวรีสอร์ตแล้วถูกยกเลิกเที่ยวบินขากลับอย่างกะทันหัน แม้คุณจะต้องกลับบ้านช้ากว่าที่กำหนด และ ต้องอารมณ์ขุ่นมัว ณ ตอนนั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความทรงจำตอนที่คุณติดอยู่ที่สนามบินกับเพื่อน จะกลายเป็นเรื่องเล่าตลกๆ ในวงสนทนาของเราเสมอ
    .
    นั่นก็เพราะว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคนเราก็คือความสัมพันธ์ หากเราไปดูผู้ป่วยที่กำลังอยู่ในวาระสุดท้ายของชีวิต เราจะพบว่าแทบไม่มีใครถามหาถึงกระเป๋าแบรนด์เนม รถหรู หรือ บ้านหลังใหญ่ มีแต่จะถามหาครอบครัว ลูกหลาน เพื่อนฝูง และ คนที่รัก ซึ่งโดยส่วนใหญ่ของที่ให้ประสบการณ์กับเรานั้น มักจะมีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์อยู่
    .
    อย่างไรก็ตาม มนุษย์มีสัญชาตญาณดิบที่ต้องการเป็นที่ยอมรับจากผู้อื่น นั่นจึงทำให้คนส่วนใหญ่มักจะทำทุกอย่างเพื่อเรียกร้องความสนใจโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะการซื้อสิ่งของแพงๆ เพื่ออวดคนอื่นให้มองว่าตัวเองมีสถานะสูงกว่า ซึ่งดูเหมือนจะมีความสุข แต่มันก็เป็นความสุขเพียงชั่วขณะเท่านั้น เพราะถ้าการซื้อสิ่งของนั้นทำให้คุณมีความสุขอย่างแท้จริง คุณจะมีความสุขกับมันแม้ว่ามันจะวางอยู่ในบ้านที่ไม่มีใครเห็น แต่ถ้าคุณมีความสุขเฉพาะเวลาได้เอาสิ่งของออกไปโชว์คนอื่น นั่นแหละคือ สัญญาณ ว่าคุณกำลังใช้จ่ายเพื่อเรียกร้องความสนใจอยู่
    .
    เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ตอน Iphone 11 เปิดตัวใหม่ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่ไปซื้อมา เพราะโทรศัพท์เดิมที่ใช้อยู่นั้นไม่ไหวแล้วจริงๆ เพราะใช้มานานมากๆ ซึ่งตอนนั้นผมก็ซื้อแค่ตัวเริ่มต้น ความจุ 128 GB เพราะคิดว่าเหมาะสมกับการใช้งานแล้ว ซึ่งผมก็ซื้อมาใช้งานตามปกติ
    .
    แต่อยู่มาวันหนึ่ง ไม่นานหลังจากวันที่ผมซื้อมา ก็มีหัวหน้าที่ทำงานคนหนึ่ง ซื้อ Iphone 11 Pro max ความจุ ตัว Top สุดมา ซึ่งถ้าเขาซื้อมาใช้งานก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่ประเด็นคือ ชอบเที่ยวถืออวดทุกคนทั้งออฟฟิศ แถมเดินมาบอกผมว่า “ทำไมไม่ซื้อ Iphone 11 Pro max วะ สวยกว่าเยอะ”
    .
    ผมก็ได้แต่ตอบกลับไปในใจว่า “เพื่อ...?”
    .
    ดังนั้น เมื่อไหร่ที่คุณคิดจะใช้จ่ายซื้อสินค้าราคาแพง ให้ถามตัวเองบ่อยๆ ว่า “ซื้อเพื่อตัวเอง” หรือ “เพื่อเรียกร้องความสนใจ” กันแน่
    .
    แต่สิ่งสำคัญกว่า คือ คุณควรเอาเงินไปซื้อประสบการณ์ โดยเฉพาะประสบการณ์ในสิ่งที่ตัวเองชอบ เพราะสิ่งเหล่านั้นมันสามารถนำมาสร้างรายได้ต่อได้อีก อย่างตัวผมชอบการเขียน เวลาไปท่องเที่ยวต่างประเทศผมก็จะนำความรู้ที่ได้มาเขียนเป็นซีรีย์ หรือ บางคนเก่งในเรื่องทำคลิปก็ไปทำยูทูบได้ ทำให้มีรายได้หลั่งไหลเข้ามา ต่างจากการซื้อเพื่อเรียกร้องความสนใจ เพราะนอกจากคนที่คุณไปอวดเขาจะไม่ได้ให้เงินคุณแล้ว มันยังทำให้เงินในกระเป๋าของคุณน้อยลงอีกด้วย
    .
    2) ซื้อของที่ “มูลค่า” มากกว่า “ราคา”
    .
    ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่า “มูลค่า” กับ “ราคา” เป็นคนละเรื่องกัน ของ “ราคาถูก” ไม่ได้หมายความว่า มูลค่าจะต่ำ” และของ “ราคาแพง” ก็ไม่ได้หมายความว่า “มูลค่าจะสูง” ตามไปด้วย
    .
    วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยกล่าวเอาไว้ว่า “ราคา คือ สิ่งที่คุณจ่ายเมื่อซื้อของบางอย่าง ส่วน มูลค่า คือ สิ่งที่คุณจะได้รับเมื่อซื้อมันมา”
    .
    ความหมายคือ สมมติ คุณซื้อ Iphone ในราคา 30,000 บาท แต่คุณใช้มันแค่ 300 บาท ก็เท่ากับว่าคุณ “ขาดทุน” แต่ถ้าคุณซื้อ Iphone ในราคา 30,000 บาท แล้วสามารถเอามันไปทำเงินได้ 50,000 บาท แสดงว่าคุณได้กำไร 20,000 บาท
    .
    ทุกวันนี้ก่อนผมจะใช้จ่ายซื้อของอะไรมา ผมจะคิดเสมอว่า มันจะให้ “ผลตอบแทน” กลับมาได้ “มากกว่า” ที่จ่ายไปหรือเปล่า
    .
    ก่อนจะซื้อคอมพิวเตอร์ Macbook ผมก็คิดก่อนว่าจะเอาไปใช้ทำอะไร แล้วสิ่งที่ทำนั้นให้ผลตอบแทนเท่าไหร่ โดยผมเอามันมาใช้เขียนบทความ และ เขียนหนังสือ ซึ่งมันสร้างรายได้ได้ แล้วผมก็คิดต่อว่า แล้วรายได้นั้นจะคืนทุนภายในระยะเวลาเท่าไหร่ ซึ่งพอคำนวณดูแล้วมันสามารถคืนทุนให้ผมได้ภายใน 1 เดือน ผมจึงตัดสินใจซื้อมาทันที ไม่ว่ามันจะแพงเท่าไหร่ก็ตาม
    .
    ทุกวันนี้ของทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่กล้อง ไฟจัดแสง โต๊ะ เก้าอี้ และอื่นๆ ก่อนผมจะจ่ายเงินออกไปทุกครั้ง ผมคิดก่อนเสมอว่า มันจะให้ “ผลตอบแทน” กลับมาได้ “มากกว่า” ที่จ่ายไปหรือเปล่า
    .
    ไม่ได้คิดว่ามันจะแพงแค่ไหน เพราะต่อให้มันแพง แต่ให้ผลตอบแทนมากกว่าที่จ่ายไปก็ถือว่า “คุ้ม” เพราะมันทำให้เงินในกระเป๋าเราเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการซื้อ “หนังสือ” ซึ่งบางคนอาจจะมองว่าราคาแพง แต่สำหรับผมแล้วมันราคาถูกมาก เพราะหนังสือแต่ละเล่มให้ผลตอบแทนผมกลับมาได้เฉลี่ย 57 เท่า ซึ่งถือว่าคุ้มมากๆ
    .
    แต่ถ้าเราไม่คิดแบบนี้เลย สุดท้ายเงินก็มีแต่จะไหลออกจากกระเป๋า และ ในห้องของเราก็จะเต็มไปด้วย “ขยะ” ที่เราซื้อมาโดยที่มันไม่สามารถสร้าง “มูลค่า” อะไรได้เลย
    .
    3) ใช้เพื่อพัฒนาทักษะ
    .
    เงิน ยิ่งใช้ยิ่ง “หดหาย” แต่ ทักษะ ยิ่งใช้ ยิ่ง “แหลมคม” ถ้าคุณชอบทำขนมก็ไปเรียนทำขนมเพิ่ม ถ้าชอบค้าขายก็ลองไปเรียนทักษะการขาย ชอบทำธุรกิจก็ลองไปเรียนเรื่องการวางกลยุทธ์ อย่างตัวผมชอบการเขียน และ ชอบทำให้การเขียนเป็นธุรกิจ ผมจึงไปเรียนการเขียน ธุรกิจ และ การตลาด เพิ่มอยู่ตลอด
    .
    หลายคนอาจจะพอใจกับจุดที่ยืนอยู๋ แต่อย่าลืมว่าคุณไม่ได้ยืนอยู่คนเดียวในสนามแข่งขันนี้ เพราะยังมีคนอีกมากมายที่กำลังต่อสู้อย่างดุเดือด คู่แข่งคุณจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และสุดท้ายการแข่งขันด้านราคาก็จะเกิดขึ้น
    .
    ทุกวันนี้ผมเห็นนักเขียนคอนเทนต์บ่นกันเอาเป็นเอาตายว่า โดนกดราคาจนต่ำเตี้ยเรี่ยดิน บางคนจ่ายกันที่ 300 คำ 30 บาท แล้วก็มาตั้งกระทู้บ่นกันในกลุ่มเต็มไปหมด

    ผมดูแล้วอดปวดหัวไม่ได้ เพราะคุณจะไม่ถูกกดราคาได้ยังไง ในเมื่อคุณเขียนเหมือนๆ กับชาวบ้าน คือ ทำได้แค่เขียนข่าวทั่วไป
    .
    เพราะเอาจริงๆ มันก็เป็นเรื่องปกติของตลาดอยู่แล้ว ถ้าคุณทำอะไรแบบที่ใครๆ ทำได้ คุณก็ไม่มีอำนาจต่อรอง เพราะต่อให้ไม่มีคุณ เขาก็ไปจ้างคนอื่น แต่ถ้าคุณเขียนได้แบบที่คนอื่นทำไม่ได้ ถ้าเขาไม่จ้างคุณ เขาก็ไม่รู้จะไปจ้างใคร สุดท้ายเขาก็ต้องกลับมาหาคุณอยู่ดี แล้วคุณก็จะเป็นฝ่ายที่เรียกราคาเท่าไหร่ก็ได้
    .
    จำไว้ว่า การทำสิ่งที่ “เหมือน” กับคนอื่น ไม่สามารถทำให้ประสบความสำเร็จได้ อย่าบ่นว่าโดน “กดค่าจ้าง” อย่าโทษใครว่าเขา “ตัดราคา” เพราะถ้าคุณทำเหมือนคนทั่วไป คุณก็จะได้ผลลัพธ์แบบคนทั่วไป แต่ถ้าคุณอยากได้ผลลัพธ์ที่ “มากกว่า” คนทั่วไป คุณก็ต้องทำสิ่งที่คนทั่วไปเขา “ไม่ทำ”
    .
    ถ้าคุณทำขนมก็ต้องมีสูตรพิเศษกว่าใคร ถ้าคุณขายสินค้าก็ต้องมีบริการที่ใครก็ทำแทนคุณไม่ได้ ถ้าคุณเก่งภาษาอังกฤษก็ไปฝึกภาษาเทคนิคเพิ่ม เช่น ภาษาอังกฤษธุรกิจ ภาษาอังกฤษวิจัย ภาษาอังกฤษกฎหมาย เป็นต้น
    .
    ฉะนั้น เอาเงินไปลงทุน กับทักษะของคุณซะ เพราะต่อให้คุณลงทุนไปมากแค่ไหน มันจะได้กลับมามากกว่าที่จ่ายไปแน่นอน
    .
    ทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นแล้วว่า การใช้จ่ายเงินไม่ใช่เรื่องผิด ถ้าคุณใช้เงินเป็น เพราะถ้าเราหาเงินมาแต่ไม่เอาออกมาใช้ประโยชน์ เงินก็ไม่ต่างอะไรกับกระดาษธรรมดาที่นอนอยู่ในธนาคาร
    .
    ฉะนั้น เรามาเปลี่ยนเงินให้เป็นกระดาษที่มีค่า ด้วยการปรับวิธีการใช้เงิน ด้วยเทคนิคจาก “หนังสือ เปลี่ยนความชอบให้เป็นเงิน” กันเถอะครับ
    .
    .
    ราคา 295 บาท รวมส่ง
    .
    วิธีการสั่งซื้อ
    ,
    1.กดลิงก์ https://m.me/432860907260347?ref=sale_pkGgydNp
    .
    2.กด “สั่งซื้อ”
    .
    3.เลือกจำนวน และ กด “ยืนยันคำสั่งซื้อ”

  • อดออม 在 Paul Pattarapon พอล ภัทรพล Youtube 的最讚貼文

    2021-05-06 18:00:28

    EP.นี้ปิ๊งจะมาชวนคุยเรื่อง ช้อปปิ้งยังไง ให้เงินเหลือเพียบ อาจจะฟังดูไม่ยากแค่ช้อปให้น้อยลง
    แต่ที่จริงแล้วการช้อปปิ้งมีเหตุผลเกี่ยวกับอารมณ์ค่ะ ซึ่งเพราะอะไรนั้น ตามไปรับชมกันได้เลยค่ะ

    ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมาตลอดครับ สำหรับใครที่ยังไม่ได้กดติดตาม สามารถเข้าไป
    กดติดตามได้ที่ YouTube : https://www.youtube.com/paulpattarapon

    ช่องทางการติดตาม - ปิ๊ง จิดาภา
    Instagram : https://www.instagram.com/pingpingg_
    Facebook : https://www.facebook.com/ping.watcharasinaporn

    ช่องทางการติดตาม - พอล ภัทรพล
    Facebook : https://www.facebook.com/paulpattaraponofficial
    Instagram : https://www.instagram.com/paulpattarapon
    Website : https://www.paulpattarapon.com

    สนใจติดต่อโฆษณา และทำวิดีโอ YouTube
    โทร : 092-664-8245
    Email : paulpattarapon@anymindgroup.com
    Powered by AnyMind Group

    #MoneyPing #PaulPattarapon #พอลภัทรพล #ปิ๊งจิดาภา

  • อดออม 在 Paul Pattarapon พอล ภัทรพล Youtube 的最讚貼文

    2021-01-04 18:00:13

    ถ้าคุณอยากจะมั่งคั่งแล้วหละก็ต้องรู้จักบริหารเงินเป็น บริหารเงินเก่ง ซึ่งจะเข้าสู่เนื้อหาของ EP.นี้นั่นก็คือ
    สูตรเก็บเงินตามกฏ 50/30/20 ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่อยากให้ทุกคนได้ลองทำตามกันดูครับ !!

    สำหรับใครที่อยากใกล้ชิดกับผมมากกว่านี้และให้การสนับสนุนช่องเพื่อสร้างสรรคอนเทนต์
    แบบนี้ต่อๆไปสามารถเข้าไปสมัคร Membership กันได้ตามลิงก์ข้างล่างนี้ครับ
    https://www.youtube.com/channel/UCunVACpk7PRWB1tz1VrhrrA/join

    ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมาตลอดครับ สำหรับใครที่ยังไม่ได้กดติดตาม สามารถเข้าไป
    กดติดตามได้ที่ YouTube : https://www.youtube.com/paulpattarapon

    ช่องทางการติดตาม
    Facebook : https://www.facebook.com/paulpattaraponofficial
    Instagram : https://www.instagram.com/paulpattarapon
    Website : https://www.paulpattarapon.com

    สนใจติดต่อโฆษณา และทำวิดีโอ YouTube
    โทร : 092-664-8245
    Email : paulpattarapon@anymindgroup.com
    Powered by AnyMind Group

    #MoneyMatters #PaulPattarapon #พอลภัทรพล

  • อดออม 在 Paul Pattarapon พอล ภัทรพล Youtube 的精選貼文

    2020-10-12 18:00:06

    EP.นี้จะพูดถึงเรื่องการออมเงินด้วยทฤษฎี 6 JARS หรือเรียกง่ายๆคือการแบ่งออมเงินเป็น 6ส่วน
    โดยในแต่ละส่วนนั้นจะมีอะไรบ้าง ไปรับชมในคลิปพร้อมๆกันได้เลยครับ

    ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมาตลอดครับ สำหรับใครที่ยังไม่ได้กดติดตาม สามารถเข้าไป
    กดติดตามได้ที่ YouTube : https://www.youtube.com/paulpattarapon

    ช่องทางการติดตาม
    Facebook : https://www.facebook.com/paulpattaraponofficial
    Instagram : https://www.instagram.com/paulpattarapon
    Website : https://www.paulpattarapon.com

    สนใจติดต่อโฆษณา และทำวิดีโอ YouTube
    โทร : 092-664-8245
    Email : paulpattarapon@casting-asia.com
    Powered by CastingAsia

    #MoneyMatters #PaulPattarapon #พอลภัทรพล #ออมเงิน #เก็บเงิน #6JARS

你可能也想看看

搜尋相關網站