[爆卦]หัวไหล่是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇หัวไหล่鄉民發文沒有被收入到精華區:在หัวไหล่這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 หัวไหล่產品中有117篇Facebook貼文,粉絲數超過0的網紅,也在其Facebook貼文中提到, นิยามในการวิ่งของลุงตอนนี้ เปลี่ยนไปจากตอนแรกที่วิ่ง ตอนแรกยังคงคอนเซ็ปท์นักกล้ามสายวิ่ง กล้ามใหญ่วิ่งเร็ว ตอนนี้ผมมักไม่ค่อยพูดถึงตัวเองว่าเป็นนักก...

 同時也有84部Youtube影片,追蹤數超過7萬的網紅CHETA Channel,也在其Youtube影片中提到,สั่งเวย์โปรตีน สต็อคในไทย สั่งซื้อสินค้า Instagram ►https://www.instagram.com/elkthailand/ Instagram ►https://www.instagram.com/elkbrand/ ? Line ► @e...

หัวไหล่ 在 KAW’JUTARAT Instagram 的最佳貼文

2021-08-02 09:20:45

Full body 🦾 แบบหลายท่า ในท่าเดียว ประหยัดเวลา ฝึกความแข็งแรง ฝึกสมาธิ ได้ดีค่ะ 1.ท่าแรก bb deadlift squat shoulder press ใช้ขวดน้ำ dumbbell แทนได้หมด...

  • หัวไหล่ 在 Facebook 的精選貼文

    2021-09-25 16:34:10
    有 1,257 人按讚

    นิยามในการวิ่งของลุงตอนนี้ เปลี่ยนไปจากตอนแรกที่วิ่ง

    ตอนแรกยังคงคอนเซ็ปท์นักกล้ามสายวิ่ง กล้ามใหญ่วิ่งเร็ว

    ตอนนี้ผมมักไม่ค่อยพูดถึงตัวเองว่าเป็นนักกล้าม

    มีความต้องการลดกล้ามเนื้อที่ไม่จำเป็นออก

    เหลือเฉพาะกล้ามเนื้อที่จำเป็น ขนาดไม่ต้องใหญ่แต่ต้องแข็งแรง

    ต้นขา แขน กล้ามหลัง อก ได้ถูกลดขนาดลงอย่างมีนัยยะ

    แต่ไปเพิ่มความแข็งแรงให้แก่นกลาง กล้ามเนื้อสะโพก น่อง หัวไหล่ กล้ามเนื้อที่ไว้ใช้วิ่ง ใช้เคลื่อนไหวให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

    น้ำหนักที่ลดลง ทำให้อาการบาดเจ็บจากการวิ่งน้อยลงไปด้วย

    น้ำหนักที่ลดเกิดจากการฝึกซ้อมวิ่งอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ เพราะไม่ค่อยมีอาการบาดเจ็บเลยทำให้วิ่งได้ต่อเนื่อง

    ช่วงที่น้ำหนักตัวเยอะมีแรงกระแทกสูงจะบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง จากการวิ่งเยอะ

    ไม่ค่อยยืดเหยียด และไม่ค่อยใส่ใจ วอร์มอัพ คูลดาวน์

    สำหรับคนที่อยากลดน้ำหนักการวิ่งเป็นหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้เราควบคุมรูปร่างได้ ข้อแม้คือต้องค่อยเป็นค่อยไป

    อย่ากดดันตัวเองมากจนเกินไป ทำให้การออกกำลังกายเป็นเรื่องสนุก ทำจนเป็นนิสัย ทำบ่อย สม่ำเสมอ

    เชื่อว่าจะประสบผลสำเร็จได้ทั้งการวิ่งและลดน้ำหนักครับ

  • หัวไหล่ 在 Facebook 的最讚貼文

    2021-08-08 20:21:35
    有 28 人按讚

    ตอนนี้พุงใหญ่ม้ากกกกค่ะ เข้าวี๊คที่ 30 เต็มแล้ว คือ พุงนำไปก่อนไม่รอเพื่อนเลย แต่ตอนนี้ท้องยังไม่มีรอยแตกนะคะ เพราะทาครีมทั้งวัน!!

    Mama’s Choice Stretch Mark Cream อันนี้ได้มาใหม่เลย เนื้อดีนะ ไม่หนัก ไม่เหนียว คาดว่าจะใช้กันไปยาวๆ ค่ะ เพราะ ราคาน่ารักด้วย จะพยายามรักษาให้หน้าท้องยังเรียบเนียน เผื่อเลี้ยงลูกแล้วผอม จะได้ใส่บิกินี่ได้ อะงูยยยย

    รวมถึงคนทั่วไปที่มีปัญเรื่องผิวแตกลาย ทาขา เข่า หัวไหล่ หรือส่วนอื่นๆ ได้ด้วยนะคะ แบรนด์ Mama's Choice Thailand เค้าดังจริงๆ ค่ะ

    แนะนำให้รีบทาตั้งแต่น้องพุงเริ่มขยายเลย เพราะ แตกแล้วแก้ยากค่ะ แล้วทายาววววไปจนถึงหลังคลอดเลยค่ะ ทางเราเตรียมไว้หลายอย่างมาก

    ครีมเอย ออยล์เอย สูตรกู้พุงต้องมาค่ะ

    หรือ ถ้าคุณแม่คนไหหนเริ่มรู้สึกคันๆ เริ่มมีรอยแตกลายสีแดงมาให้เห็นแล้วล่ะก็ รีบคว้าครีมมาทากันเลยน้า ด่วนนนนนน

    ส่วนผสม เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ 100% ออแกนิกๆ ค่า

    - ว่านหางจระเข้ - เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว บรรเทาอาการคัน
    - เมล็ดถั่ว - กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดริ้วรอย
    - เชียบัตเตอร์และน้ำมันมะกอด - ต้านอนุมูลอิสระ ปลอมประโลมผิวที่แห้งแตกคัน
    - น้ำมันโจโจ้บา - ต้านการอักเสบ บำรุงและคืนความยืดหยุ่นให้ผิว

    ส่วนภาพสุดท้ายคือ เลกกิ้ง จาก Mama's Choice เช่นกันค่ะ ผ้านุ่มนิ่ม สบายพุงมาก รักก

    8.8 นี้ไปช๊อปกันได้เลยค่ะ

  • หัวไหล่ 在 Roundfinger Facebook 的精選貼文

    2021-01-23 17:25:21
    有 3,170 人按讚

    "คนไข้อ้าปากแล้วกดหน้าลงค่ะ อ้ากว้างๆ ไม่กว้างจะไม่ชานะคะ" ผมอ้าสุดศักยภาพขากรรไกร จะได้ชาเต็มที่ เพราะหมอบอกว่า เจ็บจังหวะเดียวคือตอนฉีดยาชา

    หมอคุยกับพยาบาลเพลินๆ เหมือนนัดเจอเพื่อนที่ร้านกาแฟวันเสาร์ ระหว่างกำลังเพลินไปด้วย ผมก็รู้สึกเหมือนมีเข็มแหลมแทงเข้าที่เหงือก เทคนิคหมอแยบยลมาก 'เพลงกระบี่จิ้มเหงือกโดยไม่บอกกล่าว'

    นี่ยาชารึเปล่าวะ--ผมสงสัย

    ก่อนจะมีคำถามมากไปกว่านั้นก็สัมผัสได้ว่าหมอกำลังกดเข็มฉีดยาให้ซึมเข้าเหงือก เจ็บจริงด้วย แต่ไม่มากเท่าที่คิดไว้ หมดหลอด อา...ผ่านไปแล้ว เฮ้ย ไม่น่ากลัวเท่าที่คิด

    "คนไข้ลุกขึ้นบ้วนปากค่ะ"

    "เจ็บแค่ฉีดยาชานี่แหละค่ะ"

    ผมยิ้ม สบายละกู หมอยิ้มเยือกเย็น "อีกแค่สามเข็มค่ะ"

    หืมมมมมมม??? อะไรนะ????????

    "ต้องฉีดสี่เข็มค่ะ"

    วินาทีนั้นรู้สึกเหมือนรอดฟ้าผ่ามาแล้วต้องวิ่งฝ่าพายุต่อ

    "เริ่มชารึยังคะ"

    "ชาแล้วครับ ชามากเลย" กะว่าถ้าบอกว่าชามากหมอจะลดเข็มให้

    "ชาตรงไหนบ้างคะ" เหมือนหมอจะไม่เชื่อ

    "ริมฝีปาก เหงือก ปลายลิ้น ชาจริงๆ นะครับ"

    "ดีค่ะ นอนลง เข็มที่สองค่ะ" อ้าว โดนอยู่ดี

    จากนั้นคุณพยายามก็บอกว่า "คนไข้โอเคนะคะ มีอะไรยกมือซ้ายบอกได้เลย ถ้าไม่ไหว" ผมยกนิ้วโป้งส่งสัญญาณโอเค คุณหมอกล่าว "หมอจะเปิดหน้าคนไข้ไว้นะคะ เผื่อเป็นลมจะได้รู้"

    "เอ่อ มันจะถึงขั้นเป็นลมเลยเหรอครับ"

    หมอยิ้ม "ไม่หรอกค่ะ แค่เผื่อไว้" แล้วบอกให้หายใจสบายๆ

    "หายใจไว้นะคะ อย่ากลั้นหายใจ"

    ผมน้อมรับคำแนะนำจากคุณพยาบาล คิดว่าถ้ากลั้นหายใจอาจต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่แทน

    2...3...4

    "หลังจากเข็มที่สี่ก็ไม่มีอะไรแล้ว แค่เมื่อยหน้าและก็สะเทือนเล็กน้อย" คุณหมอปลอบใจ

    "จะไม่ปิดหน้านะคะ ถ้าคนไข้ไม่อยากดูก็หลับตานะคะ"

    ผมพยักหน้า, คิดในใจ--แม่งมีคนไข้ประเภทที่อยากดูด้วยเหรอวะ อยากนัดสัมภาษณ์เลยทีเดียว!

    ผมพบว่า ถ้าอยากมีซิกซ์แพ็ก ไม่ต้องแพลงก์ ไม่ต้องวิดพื้น ไม่ต้องซิตอัพ ให้มาหาหมอฟัน สิบนาทีนี่เกร็งไปทั้งตัว ได้กล้ามตั้งแต่คอ หน้าอก หัวไหล่ ไล่ไปถึงกล้ามท้อง

    "ไม่ต้องเกร็งค่ะ มันชาหมดแล้ว เกร็งกับไม่เกร็งก็ไม่ต่างกัน"

    ผมพยายามดึงสติมาอยู่กับลมหายใจ เอานิ้วบี้กันให้จิตไปอยู่ที่นิ้ว นิ้วมือก็แล้ว นิ้วเท้าก็แล้ว แต่แรงสั่นที่ปากก็เรียกความกังวลกลับมาอยู่ที่เหงือกครั้งแล้วครั้งเล่า และอยากบอกว่า ท่าอ้าปากแต่กดคางชิดคอนี่ยากพอๆ ลังกาหน้าใส่เกลียวสามรอบเลยทีเดียว มันฝืนธรรมชาติดีแท้

    "โอ๊ะ ยังไม่ทันทำอะไรเลย ฟันแตกซะแล้ว"

    "โดนไม่ได้เลย ฟันเปราะบาง"

    "หูย"

    "อื้อ"

    "อืม"

    ทุกพยางค์นามธรรมของหมอชวนให้ตีความว่ามันบวกหรือลบ วิกฤตหรือโอกาส ร้ายหรือดี รอดหรือร่วง

    ผมชอบมากเวลาที่หมอทำฟันไปแล้วคุยกับพยาบาลไปเหมือนปากผมเป็นเพียงกระถางต้นไม้บนโต๊ะในร้านกาแฟ ทำให้เราสบายใจไปด้วย แต่เสียงอื้ออ้าเล็กๆ ที่หมออุทานก็ชวนให้เสียวไส้ตลอดเวลาทั้งที่มันก็ชาไปทั้งปากแล้ว อันที่จริงอยากฉีดยาชาที่สมองสักชั่วโมงหนึ่งจะอุ่นใจกว่า ไม่เคยเอาใจช่วยใครขนาดนี้มาก่อน

    จากนั้นผมรู้สึกเหมือนมีรถขุดมาวิ่งอยู่ในปากประมาณสิบนาที แล้วหมอก็บอกว่าพายุผ่านไปแล้ว "ไม่มีอะไรแล้วค่ะ" ผมรู้สึกราวได้ยินเสียงของนางฟ้า "ทำใจให้สบาย หายใจลึกๆ ค่ะ"

    สบายแล้วสิเรา

    "เหลือแค่เย็บแผลค่ะ"

    อ้าว ยังไม่จบ

    รู้สึกเหมือนหมอเริ่มเย็บ "เอ๊ะ มันพันกันรึเปล่า" อ้าว หมอครับ ดีๆ ครับ ดีๆ "อ๋อ ไม่ๆ ช่วยดูหน่อยสิ" หมอชี้ชวนพยาบาล "ลองดึงตรงนี้" ริมฝีปากสัมผัสได้ถึงเส้นไหมป้วนเปี้ยนไปมา เหมือนใครกำลังถักโครเชต์อยู่ในปากเรา "โอเค เรียบร้อย" กว่าจะได้ยินคำนี้ผมก็จินตนาการวาดภาพกิจกรรมในปากตัวเองไปมากมาย ลุ้นทุกช่วงตอน

    "เห็นมั้ยคะ จริงๆ ไม่มีอะไร"

    ผมยิ้ม "เวลาเรามองไม่เห็นมันก็กลัวน่ะครับ"

    หมอยิ้ม "ค่ะ ผ่อนคลายได้แล้วค่ะ"

    "หมอฟันนี่น่ากลัวที่สุดแล้วครับ" ผมแกล้งบอกหมอ

    "ใช่ค่ะ โดยเฉพาะหมอศัลย์ ไม่มีใครอยากเจอ"

    ผมพยักหน้ารัวๆ เกือบจะสงสารหมอ แต่ติดที่สงสารตัวเองอยู่

    ผ่านไปแล้ว อีกซี่ อีกสี่เข็ม

    อย่างน้อยกูก็ไม่เป็นลมล่ะวะ

    แต่ตะคริวจะขึ้นร่าง 😅

你可能也想看看

搜尋相關網站