雖然這篇หยิ่งผยอง鄉民發文沒有被收入到精華區:在หยิ่งผยอง這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章
在 หยิ่งผยอง產品中有2篇Facebook貼文,粉絲數超過21萬的網紅จิรายุ ตันตระกูล (Jirayu Tantrakul),也在其Facebook貼文中提到, คาถาประจำตัวข้าพเจ้า ข้าพเจ้ามีเป้าหมายสำคัญที่แน่นอนในชีวิต นั่นคือการ"ทำตามฝันของตนให้บรรลุ" ข้าพเจ้าจะเพิ่มพูนความเชื่อมั่นในตัวเองด้วยการ"แก้...
หยิ่งผยอง 在 จิรายุ ตันตระกูล (Jirayu Tantrakul) Facebook 的最佳貼文
คาถาประจำตัวข้าพเจ้า
ข้าพเจ้ามีเป้าหมายสำคัญที่แน่นอนในชีวิต นั่นคือการ"ทำตามฝันของตนให้บรรลุ"
ข้าพเจ้าจะเพิ่มพูนความเชื่อมั่นในตัวเองด้วยการ"แก้ไขข้อเสียที่มีอยู่ในตัว"
ข้าพเจ้าจะเห็นคุณค่าของเงินด้วยการฝึกนิสัยประหยัดอดออม
ข้าพเจ้าจะศึกษาบุคคลที่มีความคิดริเริ่มและมีความเป็นผู้นำเพราะความรู้เหล่านั้นสำคัญต่ออาชีพของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าจะพัฒนาจินตนาการของตนเองให้ลุ่มลึกพิศดารเพราะนั้นคือที่มาของไอเดีย
ข้าพเจ้าจะเอาชนะความขี้เกียจที่ติดอยู่ในสันดานด้วยการทำตัวให้มีความกระตือรือร้น
ข้าพเจ้าต้องฝึกควบคุมตนเอง เพื่อความ"สมดุลย์ของอารมณ์"
ข้าพเจ้าจะสร้างนิสัยทำงานเกินเงินเดือนเพราะประสบการณ์สำคัญกว่าเงิน
ข้าพเจ้าต้องฝึกฝนบุคคลิกภาพให้ต้องตาต้องใจ แต่ไม่ใช่"หยิ่งผยอง"
ข้าพเจ้าต้องฝึกวิธีคิดให้มีความถูกต้องเที่ยงตรง"เข้าใจธรรมชาติของโลกอย่างไม่ตะแบง"
ข้าพเจ้าต้องฝึกนิสัยใจจดใจจ่อเพราะพลังในแต่ละวันของข้าพเจ้ามีขีดจำกัด
ข้าพเจ้าจะเห็นค่าของความสามัคคีเพราะข้าพเจ้าไม่สามารถเติบโตได้เพียงลำพัง
ข้าพจะฝึกจิตใจให้พร้อมเดินต่อเมื่อพบกับความล้มเหลวชั่วขณะ
ข้าพเจ้าจะเป็นคนใจกว้างเพราะ"การให้"เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในตัวมนุษย์
ข้าพเจ้าต้องฝึกสติในการ คิด พูด ทำ
สติเท่านั้นที่จะนำพาความสำเร็จมาสู่ชีวิตของข้าพเจ้า
หยิ่งผยอง 在 Roundfinger Facebook 的最佳貼文
หลังอาน
อุปสรรคใหญ่หนึ่งอย่างสำหรับคนปั่นจักรยานในกรุงเทพฯ คือ หมา ยากจะคาดเดาว่ามันจะวิ่งมาตอนไหน หรือจะวิ่งไหม บางตัวนั่งๆ นอนๆ อยู่ใกล้ถนน พยายามหลบเลี่ยงมันด้วยการเบี่ยงออกมาไกลๆ มันก็ไม่คิดจะแยแสสักนิด แต่บางตัว (และบางฝูง) อยู่ไกลเป็นโยชน์ เราก็ขี่ของเราไปอย่างสงบเสงี่ยมเจียมน่อง มันก็ดันวิ่งเข้ามารุมทึ้งราวกับไฮยีน่าเห็นม้าลาย เห่ากระโชกโฮกฮาก แววตาโกรธขึ้งราวกับเราเคยขี่จักรยานไปทับหางพ่อมัน ทั้งที่เราก็ไม่เคยมีกรรมเวรใดๆ ต่อกัน เพราะเราก็เพิ่งเจอกันครั้งแรก
หมาที่วิ่งเข้าใส่จักรยานอาจด้วยสัญชาตญาณนักล่า อาจเพราะความกลัว อาจเพราะป้องกันตัว อาจเพราะมีปม อาจเพราะไม่ไว้ใจมนุษย์ หรืออาจเพราะได้ใจว่าจักรยานเป็นพาหนะที่หมาอย่างมันพอจะวิ่งไล่กวดได้ทัน หรือบางตัวอาจจะแค่อยากออกกำลังกาย ยากจะคาดเดา ไอ้เราก็ไม่เคยเป็นหมา (หรือต่อให้เคยเป็นก็ลืมอดีตไปหมดแล้ว)
หมาที่วิ่งเข้ามา จะแยกเขี้ยวสีขาวอมเหลืองของมัน พร้อมส่งเสียงคำรามดังลั่น เห่าเป็นประโยคขนาดยาวที่แปลเป็นภาษาคนได้ว่า "ดุ" ถ้ายาวกว่านั้นอาจต้องเติมคำว่า "ฉิบหาย" เข้าไปข้างท้ายคำว่า "ดุ" ด้วย
มันจะไล่กวดด้วยฝีเท้าตีนต้นที่ยังไม่เต็มฝีตีนทั้งสี่ ก่อนที่จะควบสี่ตีนหมาแบบเหยียบมิดเมื่อเห็นอาการหวาดกลัวของคนบนหลังอานจักรยาน ยิ่งลน หมายิ่งได้ใจ ยิ่งใกล้ มันยิ่งอยากขย้ำ
ทุกครั้งที่โดนไล่ จะคิดในใจว่า "เอาไงกับมันดีวะ" หยุด--ก็อาจจะโดนงับแข้ง มันอาจไม่ได้กินอะไรมาสองสัปดาห์แล้ว จะรักษาความเร็วไว้เท่าเดิม--มันก็อาจจะเร่งฝีเท้ามาทันแล้วฝากรอยฟันเอาไว้พอให้ไปฉีดยากันพิษสุนัขบ้า ครั้นจะเร่งความเร็ว--ก็กลัวว่ามันจะคิดว่าเราหือ จะยิ่งเพิ่มความโกรธแค้นให้มันในการไล่ล่าเข้าไปใหญ่
เลือกทางไหนจะถูกใจพี่หมา?
จากประสบการณ์ขอสรุปว่า วิธีเร่งความเร็วดูจะสร้างความพอใจให้กับทุกฝ่าย ไม่ว่าหมาจะดุร้ายแค่ไหนมันก็มีอาณาเขตของมัน มันจะวิ่งไล่เต็มฝีเท้าจนกระทั่งเราข้ามพ้นอาณาเขตที่มันครอบครอง ยิ่งเราเร่งความเร็วมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งออกจากอาณาเขตของมันได้เร็วยิ่งขึ้นเท่านั้น
มันจะวิ่งไล่ด้วยความองอาจ โหดร้าย หยิ่งผยอง ราวกับเจ้าของบ้านวิ่งไล่ผู้บุกรุก เมื่อไล่เราพ้นไปจากอาณาเขตมันก็จะชะลอฝีเท้าลง แล้วเดินกลับไปหนุงหนิงกับครอบครัว เพื่อนฝูง พี่น้องของมันดังเดิม บางตัวก็เลียริมฝีปากทำท่าเสียดายที่อดแอ้มน่องเนียนๆ ของเราไปอย่างฉิวเฉียด
การไล่นักปั่นพ้นไปจากอาณาเขตของมันย่อมนับเป็นชัยชนะของหมาโดยไม่ต้องสงสัย
ในมุมของนักปั่น เมื่อเราเร่งฝีเท้าพ้นจากเงื้อมเขี้ยวของสัตว์สี่ขาอันดุร้ายมาได้ เราก็จะชะลอความเร็วของฝีเท้าลงเช่นกัน พร้อมกันกับชะลอจังหวะการเต้นของหัวใจให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ
ผ่านมาได้ เราก็นับเป็นชัยชนะที่ได้ "ทิ้งห่างอย่างเหนือชั้น"
ตกลงว่าใครชนะ?
หรืออยู่ที่ใครเป็นผู้มองเหตุการณ์นั้น
บางเหตุการณ์มีผู้ชนะ แต่ไม่มีผู้แพ้