雖然這篇สังคม ไฮ โซ Pantip鄉民發文沒有被收入到精華區:在สังคม ไฮ โซ Pantip這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章
在 สังคม產品中有818篇Facebook貼文,粉絲數超過178萬的網紅ลงทุนแมน,也在其Facebook貼文中提到, สรุปประเด็นจากห้อง Clubhouse ทำไมเงินถึงไหลเข้ากองทุน ESG ถึง 1,000,000,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ ? Clubhouse BBLAM x ลงทุนแมน ถ้าพูดถึง Theme การลงทุนพล...
同時也有358部Youtube影片,追蹤數超過1萬的網紅Kapiew101 Lifestyle Channel,也在其Youtube影片中提到,...
「สังคม」的推薦目錄
- 關於สังคม 在 ???Home Gym Fit Style??? Instagram 的精選貼文
- 關於สังคม 在 Point of View Instagram 的最佳貼文
- 關於สังคม 在 ณัช???? Instagram 的最讚貼文
- 關於สังคม 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於สังคม 在 Facebook 的最讚貼文
- 關於สังคม 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於สังคม 在 Kapiew101 Lifestyle Channel Youtube 的最佳解答
- 關於สังคม 在 Evefee Youtube 的最佳貼文
- 關於สังคม 在 DBigbike Youtube 的最佳解答
สังคม 在 ???Home Gym Fit Style??? Instagram 的精選貼文
2021-09-03 15:50:59
#ลิปกลอส3D (สิ่งแวดล้อม สังคม ชุมชน) 💄 ลิปกลอสเวอชั่น Natural Origin จาก @ira_thailand มาในรูปแบบเนื้อกลอส ชุ่มชื้น ละมุนผิวปาก เพราะมีส่วนผสมจากน้ำมั...
สังคม 在 Point of View Instagram 的最佳貼文
2021-09-10 19:03:44
ชนัญญา ไม่ได้อายุ 27 ปี แต่ #มาริสาอายุ27ปี ว่าแต่มาริสาคือใคร? เจอกับมาริสา 12 คน จาก 12 นักเขียนได้ที่ สำนักพิมพ์ @avocadobooksco ค่ะ จริงๆ แล้วนี...
สังคม 在 ณัช???? Instagram 的最讚貼文
2021-09-03 15:53:08
บ้นทึกการฉีดวัคซีนเข็มแรก 💉💟🩹✨ #AZ #10082021 #ไทยร่วมใจ #ในที่สุด #มาช้าแต่มานะ เลือกที่พารากอนเพราะใกล้ สะดวก คุ้นเคย และเป็นบริการจากโรงพยาบาลกรุงเท...
-
สังคม 在 Evefee Youtube 的最佳貼文
2021-05-30 10:39:22?ติดตามมามิและน้องวิคเตอร์ได้ที่
??♀️
Ig : https://instagram.com/_evefee_
FB : https://fb.com/EvefeeBlog
??
Ig : https://instagram.com/babyboy.victor
FB: https://fb.com/VictorAndFamily
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
จากใจมามิเมื่อก่อนเป็นคนไม่อยากมีลูก
เพราะสภาพเศรษฐกิจ สังคม เป็นห่วงมากๆ
คิดว่าถ้ามีคงเป็นประสาทตาย
ติดเที่ยว อยากใช้ชีวิตอิสระ ไม่มีภาระ
แล้วสมัยนี้ลูกต้องเริ่ด ต้องมีเงิน ต้องเปย์ลูกได้
แต่พอเราตัดสินใจก้าวเข้ามาในวงการการเป็นแม่แล้ว
เราไม่จำเป็นต้องไปแข่งกับใครก็ได้ ใช้ชีวิตตามศักยภาพที่เราจะสามารถสนับสนุนเค้าให้ดีที่สุดตามกำลังของเรา
ให้เค้าเป็นคนดีและมีความสุขต่างหาก
เรารู้สึกว่าเราขอบคุณวิคเตอร์มากๆเลย
หนูทำให้มามิมีเป้าหมายในชีวิต เหมือนมีขีวิตใหม่
ทุ่มขยันสุดตัวเพื่อทำบ้านให้หนูใหม่
ถ้าไม่มีหนู มามิกับป่ะปี๊ก็อยู่กันง่ายๆเละเทะๆวนไป
คงไม่ได้วางแผนอะไรมากมาย ใช้ชีวิตกันไปวันๆ
ทุกคนในครอบครัวกลับมาแอคทีฟกันมากๆ
ปรับเปลี่ยนอะไรกันไปหลายอย่าง
แค่หนูเกิดมาก็ทำให้บ้านเราดีขึ้นจริงๆ
ขอบคุณหนูมากๆๆๆ ที่เข้ามาในชีวิตครอบครัวเรานะคับ ?
? รักที่สุดในโลก ?
มามิ พ่อพ่อ -
สังคม 在 DBigbike Youtube 的最佳解答
2021-04-28 14:40:06สมัครเป็นสมาชิกของช่องนี้เพื่อเข้าถึงสิทธิพิเศษต่างๆ
https://www.youtube.com/channel/UCnyukcxy9nb0723Sr79Bc2g/join
สนใจบิ๊กไบค์มือสอง รบกวนติดต่อฝ่ายขายโดยตรงนะครับ
☎086-415-4982, 066-162-1119 , 094-767-3773, 066-162-0004
Line เพื่อ ซื้อรถ ที่ร้าน : https://lin.ee/wDCsjc1
Line เพื่อ ขายรถ ให้ร้าน แอด id: @dbigbike
สามารถดูราคาบิ๊กไบค์มือสองได้ที่ https://www.dbigbike.com/
เพจ ดีเจริญยนต์ https://www.facebook.com/dbigbike/
เฟสส่วนตัวเฮียเบนซ์ https://www.facebook.com/benz.dbigbike/
กลุ่มเฟสบุ๊ค https://goo.gl/s5NyJx
----------------------------------------------------------------
ติดต่องานโฆษณา https://www.youtube.com/user/dbigbike/about/
Email Channel
dbigbike@gmail.com
----------------------------------------------------------------
#Bigbike #Superbike #Motorcycle
สังคม 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
สรุปประเด็นจากห้อง Clubhouse
ทำไมเงินถึงไหลเข้ากองทุน ESG ถึง 1,000,000,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ ?
Clubhouse BBLAM x ลงทุนแมน
ถ้าพูดถึง Theme การลงทุนพลังงานสะอาด หลายคนก็มักจะติดภาพความน่าเบื่อ และไม่ตื่นเต้น
แต่หลังจากที่ ลงทุนแมน ได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์คือ คุณมทินา วัชรวราทร CFA®, Head of Investment Strategy กองทุนบัวหลวง ในวันพุธที่ 22 กันยายน ที่ผ่านมา
ก็พบว่า Theme พลังงานสะอาด ไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่หลายคนคิด นอกจากนั้นยังเป็น Theme ที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงรอบใหญ่ของโลก และยังเกี่ยวโยงกับหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่กำลังเติบโตในอนาคต อีกด้วย
ความน่าสนใจของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร
ลงทุนแมนจะมาสรุปให้ฟังง่าย ๆ 9 ข้อ..
1. ทำไมกระแส ESG จึงกลายเป็นที่พูดถึงในตอนนี้ ?
พลังงานสะอาดคือ เทรนด์การลงทุนที่สำคัญมากในอนาคต และไม่ใช่แค่เทรนด์ระยะสั้น
สังเกตได้จากเม็ดเงินที่ไหลเข้ากองทุน ESG ทั่วโลกแตะ 1,000,000,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ อ่านว่า “1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ” เป็นครั้งแรก
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในยุโรป และการลงทุนใน ESG ยังให้ผลตอบแทนที่ดีด้วย จึงเป็นหลักของการลงทุนที่เรียกว่า Green and Great Return
ถ้าเราลองมาดูผลตอบแทนของ กองทุน Pictet Global Environmental กองทุนรวมที่ลงทุนในธุรกิจที่ดูแลสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นกองทุนหนึ่งที่ B-SIP เข้าไปลงทุน ก็ให้ผลตอบแทนดีในหลายไตรมาส
และหากลงทุนตั้งแต่ก่อตั้งกองทุนในปี 2014 ก็จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีเท่ากับ 14.92% ถือว่าทำได้ดีกว่า เมื่อเทียบกับการลงทุนในดัชนีโลกที่มีทั้ง ESG และไม่มี ESG ที่ให้ผลตอบแทนเพียง 10%
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้การลงทุนกองทุนที่ลงทุนในธุรกิจที่ดูแลสิ่งแวดล้อมให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า
ก็เป็นเพราะว่าบริษัทที่ยึดหลัก ESG จะมีคุณภาพทั้งด้านรายได้ กำไร และผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น ดีกว่า บริษัททั่ว ๆ ไป
ทำให้สามารถกำหนดราคาสูงขึ้นได้ ดึงดูดคนที่มีความสามารถเข้ามาร่วมงานได้ง่าย รวมทั้งยังมีโอกาสด้านต้นทุนการกู้ยืมที่ถูกกว่า เสียดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า และธนาคารปล่อยสินเชื่อง่ายกว่าอีกด้วย
2. ทำไม พลังงานสะอาด จะเป็นการเปลี่ยนแปลงรอบใหญ่ของโลก ?
สิ่งที่ทำให้ กองทุนบัวหลวงมองว่า พลังงานสะอาดจะไม่ใช่เทรนด์ระยะสั้น
ก็คือการสังเกตคลื่นนวัตกรรมเปลี่ยนโลกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ที่ผ่านมาแล้ว 5 คลื่นด้วยกัน นั่นคือ
- คลื่นที่ 1 คือ การปฏิวัติอุตสาหกรรม
- คลื่นที่ 2 คือ การเริ่มใช้พลังงานไอน้ำ
- คลื่นที่ 3 คือ การใช้รถยนต์แทนม้า
- คลื่นที่ 4 คือ การเดินทางโดยเครื่องบิน
- คลื่นที่ 5 คือ โลกออนไลน์ เช่น Microsoft, Facebook, Amazon, Netflix
สิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่กินระยะเวลายาวนานหลายสิบปี และนำมาซึ่งกิจการขนาดใหญ่ที่มีความมั่งคั่งมากขึ้น
แต่ในโลกอีก 25 ปีข้างหน้า สิ่งที่จะกลายเป็นประเด็นสำคัญ และทั่วทั้งโลกกำลังเผชิญเหมือนกันอยู่ก็คือ “ภาวะโลกร้อน”
เพราะฉะนั้น คลื่นที่ 6 ก็คือ “เทคโนโลยีพลังงานสะอาด” ซึ่งจะเป็นหนึ่งเทรนด์ต่อจากนี้ไปอีก 25 ปี พร้อม ๆ กับ Robotics, Drones, AI, IoT สิ่งนี้เองที่จะเป็นแนวทางให้เราได้ว่า โลกในอนาคตจะเป็นไปในทิศทางไหน แล้วเราควรจะลงทุนอะไรต่อไป
3. สัญญาณสำคัญที่ชี้ว่า โลกกำลังอยู่ในช่วงต้น คลื่นที่ 6 พลังงานสะอาด คืออะไร ?
กองทุนบัวหลวงมองว่า Megatrends จะต้องมี 3 องค์ประกอบ คือ
1. ความร่วมมือระดับโลก
2. การเห็นด้วยจากรัฐบาล
3. ความร่วมมือภาคเอกชน
เมื่อครบทั้ง 3 องค์ประกอบนี้ เงินลงทุนก็จะหลั่งไหลมายังเทรนด์นั้น ๆ อย่างแน่นอน ซึ่งเทรนด์ ESG ตอนนี้มีครบทั้ง 3 องค์ประกอบเรียบร้อยแล้ว
เริ่มต้นด้วยความร่วมมือระดับโลกคือ ข้อตกลง Paris Agreement จาก UN
ที่ต้องการให้ประเทศต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม เพื่อป้องกันภัยพิบัติต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นจากภาวะโลกร้อน
ต่อมาคือ การขานรับนโยบาย จากรัฐบาลของประเทศมหาอำนาจ
เราได้เห็นประเทศต่าง ๆ ในยุโรปมีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ เช่น
- European Green Deal เพื่อที่จะลดการปล่อยคาร์บอนให้เหลือศูนย์ ภายในปี 2050
- European Climate Law กฎหมายที่พูดถึงการลดการปล่อยมลพิษลงอย่างน้อย 55% ภายในปี 2030
นอกจากนี้มหาอำนาจอย่าง “สหรัฐอเมริกา” ก็ได้จัดตั้งแผนงบประมาณด้านสิ่งแวดล้อม เช่น
- แผนที่ 1 วงเงิน 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการผลิตรถยนต์ EV และแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน
- แผนที่ 2 วงเงิน 5.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานพลังงานสีเขียว ซึ่งภายในปี 2035 สหรัฐอเมริกาตั้งเป้าจะใช้พลังงานแสงอาทิตย์ 40% ของพลังงานทั้งหมด
ขณะเดียวกัน มหาอำนาจซีกโลกตะวันออกอย่าง “จีน” ที่แม้จะยังคงใช้พลังงานถ่านหินเป็นหลัก แต่ก็มีการคาดการณ์ว่าจะมีสัดส่วนพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2035 เป็นต้นไป
โดยล่าสุดประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยังกำหนดนโยบายสิ่งแวดล้อม ไว้ในแผนการพัฒนาประเทศฉบับที่ 14 ซึ่งจะลดการปล่อยคาร์บอนต่อสัดส่วนของ GDP ลง 65% และจะเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทน 25% ภายในปี 2030 อีกด้วย
หรือประเด็นรถยนต์ไฟฟ้า แม้ในปี 2020 ยุโรปขายรถยนต์ EV ไปแล้ว 1.3 ล้านคน ขณะที่จีนขายรถยนต์ EV ไปแล้ว 1.2 ล้านคัน แต่ก็มีการคาดการณ์ว่าจีนจะสามารถแซงหน้าและกินส่วนแบ่ง 20% จากตลาดรถยนต์ทั้งหมดภายในปี 2025 ได้ไม่ยากเลย
4. แล้วภาครัฐและภาคเอกชน เชื่อมั่นใน Megatrends เรื่องพลังงานสะอาด แค่ไหน ?
ผลสำรวจของ UBS หรือธนาคารเพื่อการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์
ที่ได้สอบถามองค์กรต่าง ๆ ว่าอยากลงทุนใน Theme อะไรเป็นอันดับหนึ่ง
ปรากฏว่า 2 ใน 3 ตอบว่า จะลงทุนในพลังงานสะอาด เพราะเป็นปัญหาที่โลกเราต้องแก้ไข และยังให้ผลตอบแทนที่ดีด้วย
ซึ่งหากลงทุนในด้านพลังงานทดแทนเป็นระยะเวลา 5 ปี เมื่อเทียบกับการลงทุนในพลังงานแบบเก่า
จะเห็นว่า ผลตอบแทนแตกต่างกันค่อนข้างมาก จุดนี้เองที่บอกว่ามันคือ Green and Great Return
นอกจากนี้กองทุนใหญ่ ๆ ก็ประกาศเข้ามาลงทุนในเรื่องพลังงานสะอาดเช่นกัน
เช่น Cathie Wood ผู้จัดการกองทุน ETF ARK
ประกาศว่าจะทำกองทุน ETF ใหม่ ที่ใช้ ESG Score ทั้งสามด้าน
คือ ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล
โดยจะไม่ลงทุนในบริษัทที่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม หรือไม่ส่งผลดีต่อสังคม
ขณะเดียวกัน กองทุนมหาวิทยาลัย Harvard ที่มีขนาด 4.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ก็ประกาศหยุดการลงทุนในบริษัทที่ผลิตพลังงานฟอสซิลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รวมทั้งบริษัทผลิตน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Saudi Aramco ก็ประกาศลงทุนในพลังงานสะอาด
โดยลงทุนในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในซาอุดีอาระเบีย
นอกจากนี้ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ยังวางเป้าหมายประเทศว่าจะใช้พลังงานสะอาดให้ได้ 50% ภายในปี 2030 และจะไม่ได้ลงทุนแค่พลังงานลมและแสงอาทิตย์ แต่ยังลงทุนในพลังงานไฮโดรเจน อีกด้วย
5. แล้วอะไรคือ ความเสี่ยงของเทรนด์ ESG และพลังงานสะอาด ?
ความเสี่ยงของ ESG พลังงานสะอาดอย่างแรกคือ กองทุนที่เสนอขายเป็น ESG จริงหรือไม่ แล้วมีมาตรฐานขอบเขตการลงทุนด้านพลังงานสะอาดที่ชัดเจนจริง ๆ หรือไม่
ความเสี่ยงที่สองคือ ต้องระวังว่าบริษัทที่เกี่ยวกับพลังงานสีเขียวนี้ มีราคาแพงไปแล้วหรือยัง มีฟองสบู่ที่เรียกว่า Green Bubble จากเม็ดเงินที่เข้าไปลงทุน 1.65 แสนล้านในปี 2019 และอีกกว่า 3.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2020 อยู่หรือไม่
ดังนั้น วิธีการลงทุนที่สำคัญ คือ การเลือกกองทุนที่ใส่ใจเรื่อง Valuation และใช้เรื่องมูลค่ามาเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญในการลงทุน
6. แล้วเราควรเลือกลงทุนใน ธุรกิจพลังงานสะอาด อย่างไร ?
เราลองมาดูตัวอย่างธุรกิจที่เกี่ยวกับการผลิตไฟฟ้า การขนส่ง การทำการเกษตร ว่าจะสามารถ Green and Great Return ไปพร้อมกับการให้ผลตอบแทนที่ดีได้จริงหรือไม่
เริ่มต้นที่ Orsted บริษัทพลังงานลมนอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดในโลกของเดนมาร์ก เดิมทีเคยเป็นบริษัทพลังงานถ่านหินเก่าแก่มาตั้งแต่ปี 1972 โดย 85% ของการผลิตไฟฟ้ามาจากฟอสซิล
จากนั้นในปี 2008 ก็พลิกธุรกิจครั้งใหญ่มาสู่เส้นทางพลังงานสะอาด โดย 85% ของการผลิตไฟฟ้ามาจากพลังงานสีเขียว และเดินทางสู่การเป็นบริษัทพลังงานลมที่ใหญ่ที่สุดของโลกได้สำเร็จ
ซึ่งรู้หรือไม่ว่า กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF บริษัทพลังงานของไทย ก็ได้ร่วมลงทุนใน Orsted เช่นกัน เพราะมองเห็นนวัตกรรมของพลังงานลมที่ดีที่สุดในโลกของ Orsted โดย 1/3 ของพลังงานลมของโลก มาจากบริษัทนี้
ที่น่าสนใจก็คือ ราคาของพลังงานลม ถูกกว่า ราคาพลังงานของถ่านหินไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ปี 2018 และยังคาดการณ์ว่าภายในปี 2030 พลังงานลมและแสงอาทิตย์จะเป็นแหล่งพลังงานที่ถูกที่สุดในโลก
ในแง่ของ Green and Great Return อย่าง Orsted เริ่มเข้าตลาดปี 2016 ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ราคาปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 96% ต่อปี
ขณะเดียวกันยังมีรายได้เติบโตเฉลี่ย 30% ต่อปี และจะเป็นเช่นนี้ต่อเนื่องไปอย่างน้อยถึงปี 2050 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะยังมีโอกาสขยายตลาดไปยังประเทศต่าง ๆ ได้อีกมาก เช่น อินเดีย ญี่ปุ่น
7. ธุรกิจพลังงานสะอาดที่ไม่พูดไม่ได้ในตอนนี้ ก็คือ EV ?
เราทราบดีอยู่แล้วว่า หนทางลดปัญหามลภาวะจากการใช้รถยนต์ก็คือ การหันมาใช้รถยนต์ EV หรือรถไฟฟ้า แต่สงสัยไหมว่า ทำไมเทรนด์นี้จึงกลายเป็นโอกาสลงทุนมหาศาลในอนาคต
จากข้อมูลคาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์ EV จะเพิ่มขึ้น 18 เท่าในอีกสิบปีข้างหน้า แสดงว่าอาจเพิ่มขึ้นสองเท่าทุก ๆ ปี ซึ่งในอนาคตรถยนต์ทั่วโลกจะกลายเป็นรถยนต์ EV อย่างน้อย 80%
เหตุผลก็เพราะว่า ราคารถยนต์ไฟฟ้าจะถูกลงเรื่อย ๆ สังเกตได้จาก ลิเทียมไอออนแบตเตอรี่ ที่มีราคาถูกลง 88% เมื่อเทียบกับสิบปีก่อน หากราคายังคงลดลงเรื่อย ๆ ก็เชื่อว่า ราคารถยนต์ EV และรถยนต์สันดาป จะมีระดับราคาใกล้เคียงกัน
นอกจากนี้ นโยบายของประเทศแถบยุโรปยังให้ความสำคัญเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยจะยกเลิกการขายรถยนต์สันดาปแล้วจริง ๆ เช่น สวีเดน ประกาศยกเลิกในปี 2025 หรืออังกฤษ ก็ประกาศยกเลิกในปี 2035
พอเป็นแบบนี้ แบรนด์รถยนต์ต่าง ๆ จึงต้องปรับตัวกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เก่าแก่อย่าง Honda, Toyota หรือแบรนด์ใหม่อย่าง Tesla, BYD, XPeng แม้กระทั่งค่ายเก๋าอย่าง Harley-Davidson, Porsche ก็ต้องปรับตัวตามเช่นกัน
ที่น่าสนใจก็คือ การเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมรถยนต์รอบนี้ ทิศทางเงินลงทุนไม่ใช่แค่ส่วนของรถยนต์ EV เพียงอย่างเดียว แต่จะไปถึง Supply Chain ต่าง ๆ ทั้งหมด เช่น
- บริษัทผลิตแบตเตอรี่
- บริษัทชิป Semiconductor
- บริษัท Software ที่ทำ ADAS (รถยนต์ไร้คนขับ Autonomous Driving) และบริษัท Simulation ทำการจำลองการขับรถ
ทีนี้ลองมาดูตัวอย่างธุรกิจรถยนต์ EV ที่กองทุน B-SIP เข้าไปลงทุนกันบ้าง
XPeng อ่านว่า เสี่ยวเผิง เป็นบริษัทรถยนต์ EV เน้นตลาดระดับกลางเเละระดับสูงในจีน ที่เรียกได้ว่าท้าชนกับ Tesla ได้เลย เช่น รถยนต์ EV รุ่น XPeng P7 ที่มีราคาเปิดตัวล้านกว่าบาท ชาร์จหนึ่งครั้งจะวิ่งได้ 700 กิโลเมตร โครงสร้างต่าง ๆ มาจากการออกแบบของวิศวกรที่มาจาก Apple, Tesla
XPeng ยังใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ อย่าง 5G, AI ซึ่งตอนนี้ก็มีเทคโนโลยี Autonomous Driving เรียบร้อยแล้ว และยังใช้แบตเตอรี่ของ CATL ผู้ผลิตแบตเตอรี่จีนที่ใหญ่ที่สุด ที่เพียงใช้เวลา 30 นาที ก็สามารถชาร์จได้ 80% อีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ กองทุน B-SIP จึงไม่พลาดที่จะเข้าไปลงทุน IPO ปีที่แล้ว เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจพลังงานสะอาดที่มี Green and Great Return เลยทีเดียว
8. นอกจาก พลังงานลม และรถยนต์ EV ยังมีธุรกิจไหนจะเป็นเทรนด์อนาคตได้อีกบ้าง ?
เริ่มต้นด้วยเรื่องใกล้ตัว อย่างอาหารที่เรียกว่า “Beyond Meat” ซึ่งเป็นธุรกิจผู้ผลิตอาหารคล้ายเนื้อที่ไม่ได้มาจากเนื้อจริง ๆ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมเรื่องปัญหาดิน ปัญหาน้ำ และปัญหามลพิษ
โดยในปี 2050 คาดว่าจะมีการเพิ่มขึ้นของประชากรโลก 2.8 พันล้านคน และจะตามมาด้วยปริมาณอาหารที่ต้องการเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
หากเป็นอาหารประเภทเนื้อสัตว์ จำเป็นต้องใช้พื้นที่เลี้ยงสัตว์และปัจจัยต่าง ๆ มากกว่าการปลูกพืชอย่างมาก เช่น การเลี้ยงวัว จะใช้ที่ดินมากกว่า 18 เท่า รวมทั้งใช้น้ำและพลังงานมากกว่า 10 เท่า และยังจะปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซมีเทน ออกมาจากร่างกายอีกด้วย
จึงไม่แปลกใจเลยว่า สัดส่วน 79% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการเกษตรมาจาก “การเลี้ยงสัตว์”
ปัจจุบัน Beyond Meat กำลังขยายฐานลูกค้าได้ดี สังเกตได้จากแบรนด์อาหารต่าง ๆ ที่หันมานำเสนอผลิตภัณฑ์จาก Beyond Meat มากขึ้นทั่วสหรัฐอเมริกา
เช่น แมคโดนัลด์, เอแอนด์ดับบลิว, Dunkin'
และยังกระจายไปตามร้านสะดวกซื้อ ที่เราสามารถซื้อกลับไปปรุงอาหารที่บ้านได้เองอีกด้วย
Beyond Meat กลายเป็นบริษัทที่น่าจับตามอง และเข้า IPO ในปี 2019 ที่มีมูลค่าบริษัท 3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มาในปีนี้มูลค่าบริษัทเพิ่มขึ้นมาเป็น 9.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นสองเท่ากว่า ๆ ภายในสองปี นอกจากนี้ยังมีรายได้ปี 2020 เติบโต 36% อีกด้วย
นอกจากธุรกิจอาหารแล้ว ก็ยังธุรกิจอื่น ๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เช่น
- Schneider Electric เป็นบริษัทผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น ลิฟต์ ที่มีการคำนวณการใช้งานแบบประหยัดพลังงาน ซึ่งในอนาคตหากอาคารไหนเป็นอาคารประหยัดพลังงาน ก็จะสามารถเรียกค่าเช่าสูงขึ้นได้
- Equinix เป็นบริษัทโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของโลก เป็นศูนย์จัดเก็บข้อมูลที่ไม่สามารถหยุดทำงานได้ ต้องใช้ไฟตลอดทั้งวันทั้งคืน ปัจจุบันบริษัทสามารถใช้พลังงานหมุนเวียน 92% ของพลังงานทั้งหมด
- Ansys เป็นบริษัทจำลองผล จำลองสถานการณ์สำหรับรถยนต์, เครื่องบิน และอื่น ๆ เพื่อช่วยลดปริมาณการสูญเสียทรัพยากรในช่วงของการทดสอบ
เช่น Dyson แบรนด์เครื่องเป่าผมของผู้หญิง ทำให้แห้งเร็วขึ้นและดีขึ้น
Ansys เข้ามาช่วยคำนวณทิศทางลม, ลมแรง และค้นหาประสิทธิภาพที่ดีที่สุด โดยใช้ซอฟต์แวร์จำลองผลการทดสอบ ช่วยประหยัดทรัพยากร และประหยัดต้นทุนไปได้อย่างมาก
สรุปแล้ว แค่ Theme พลังงานสะอาดอย่างเดียว ก็ทำให้เราเห็นโอกาสของธุรกิจหลากหลายสาขา
ไม่ว่าจะเป็น การผลิตไฟฟ้าที่จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนด้วยพลังงานลม
หรือจะเป็นการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากรถยนต์ที่จะเปลี่ยนทั้ง EV Supply Chain
รวมทั้ง การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนด้วยอุตสาหกรรมอาหาร และการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือมากขึ้น นั่นเอง
9. แล้วเราจะเข้าถึงโอกาสการลงทุนในบริษัทเหล่านี้ได้อย่างไร ?
กองทุน B-SIP เป็นหนึ่งกองทุนเพื่อตอบโจทย์การลงทุนในพลังงานสะอาดโดยตรง และมีจุดเด่นด้วยสไตล์การลงทุนของกองทุนบัวหลวง ที่จะเฟ้นหาธุรกิจดีมีคุณภาพและเติบโต ซึ่งจะสร้างความแตกต่างจากกองทุนอื่นทั่วไป นั่นคือ
1. เน้นลงทุนธุรกิจรักษาสิ่งแวดล้อม ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ในอนาคตที่เรียกว่า Green and Great Return นั่นเอง
2. มองว่าเทรนด์รักษาสิ่งแวดล้อมและพลังงานสะอาด จะเป็น Megatrends ของโลกที่เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น จึงเชื่อว่า Theme นี้มีความน่าสนใจและสามารถลงทุนระยะยาวได้
3. เปลี่ยนภาพจำว่า การลงทุนในพลังงานสะอาดและสิ่งแวดล้อมไม่จำเป็นต้องเป็นหุ้นน่าเบื่อหรือหุ้นโครงสร้างพื้นฐานเสมอไป
เพราะการลงทุนของ B-SIP ส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นเติบโต มีนวัตกรรม มีเทคโนโลยี และยังคำนึงถึงการประเมิน Valuation ด้วย
ถ้าฉายภาพใหญ่ ๆ ก็คือ กองทุน B-SIP จะลงทุนทั้งในฝั่ง Global Environmental Opportunities และ Clean Energy นั่นเอง
โดยฝั่ง Global Environment จะมีสัดส่วนธุรกิจเทคโนโลยี 40% นอกจากนั้นจะเป็นบริษัทอุตสาหกรรม, กลุ่มวัสดุก่อสร้าง และกลุ่มเคมีภัณฑ์
ซึ่งจะมีรูปแบบลงทุน Active Management เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างหุ้นเติบโตและหุ้นคุณค่า
ส่วนในฝั่งของพลังงานสะอาด จะมีสัดส่วนธุรกิจเทคโนโลยี 48% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะได้เข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรม EV ทั้ง Supply Chain ราว 33% ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทฝั่งสหรัฐอเมริกา และยุโรป เพราะเป็นผู้นำเรื่องเทคโนโลยีพลังงานสะอาด
เช่น Orsted ธุรกิจพลังงานลมนอกชายฝั่งมากว่า 10 ปี มีเทคโนโลยีน่าสนใจ และยังมีโอกาสขยายตลาดได้อีกมาก
ทั้งหมดนี้ จึงสะท้อนได้ว่า กองทุน B-SIP เป็นอีกหนึ่งช่องทางลงทุนใน Theme พลังงานสะอาดที่จะสร้างการเติบโตในระยะยาวได้แบบ Green and Great Return นั่นเอง..
สังคม 在 Facebook 的最讚貼文
เราจะอยู่อย่างไรให้ใจเป็นสุข
เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องแสวงหา
และเรียนรู้ไขว่คว้ามาสู่ตัวตน
ของแต่ละบุคคลให้ได้
.
แน่นอนว่าเราไม่สามารถ
เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง
ให้เป็นไปดังใจเราได้
.
แต่เราสามารถเปลี่ยนความคิด
ของเราเพื่อที่จะอยู่ท่ามกลาง
ทุกสถานการณ์ได้อย่างมีความสุข
แค่เปลี่ยนความคิดชีวิตก็เปลี่ยนเช่นเดียวกัน
1. เรียนรู้ที่จะรักตัวเอง
ควรได้สำรวจตัวเองว่าเป็นคนอย่างไร
ต้องยอมรับว่าคนเรามีทั้งส่วนดีและส่วนเสีย
เราต้องมองหาส่วนดี เห็นคุณค่า ชื่นชม
พยายามพัฒนาส่วนดี พร้อมทั้งยอมรับ
ในข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้
แล้วหาแนวทางปรับปรุงแก้ไข
คนที่มีความสุขนั้นไม่ได้หมายความว่า
จะไม่เคยพบอุปสรรค ข้อขัดแย้งในใจ
หรือไม่เคยพบปัญหา แต่อาจจะเป็นคนที่
บางครั้งแก้ปัญหาไม่ได้ จึงต้องใช้ความพยายาม
ความอดทน ก็จะสามารถเผชิญปัญหาไปได้
2. ทัศนคติ
ควรมองหาความสุข ความเพลิดเพลิน
เพื่อช่วยลดความตึงเครียดต่างๆ
ทำให้อารมณ์ผ่อนคลาย การหัวเราะ
ทำให้จิตใจเบิกบาน มีการกระเพื่อม
ของหน้าท้องหัวใจปอดได้ออกกำลัง
มีผลถึงกล้ามเนื้อหัวไหล่ แขน หลัง
กระบังลม และขา เกิดความพึงพอใจในความสุข
นอกจากนี้ไม่ควร มองโลกในแง่ร้าย
เวลาจะทำอะไรต้องหาจุดดีของเรื่องนั้นให้พบ
เมื่อพบแล้วทำความพอใจและชื่นชม
ก็จะเกิดแต่ความดีงาม
3. ใช้เวลากับสิ่งที่สบายใจ
ควรหาอะไรที่ชอบและพอใจทำ
ทำในเวลาว่างที่เหลือจากกิจวัตรประจำวัน
การทำอะไรในสิ่งที่พึงพอใจย่อมเกิด
ความสุขเพลิดเพลิน ทำให้ไม่มีเวลาว่าง
ที่จะคิดกังวลเรื่องต่างๆ งานอดิเรกที่เกี่ยวกับ
กีฬาจะช่วยให้มีความสุข สนุกสนาน ร่าเริง แจ่มใส
นอกจากนั้นการได้ท่องเที่ยวไปกับธรรมชาติ
ที่กว้างใหญ่ เช่น ท้องฟ้า ทะเล ป่าเขาลำเนาไพร
จะก่อให้เกิดความปลอดโปร่ง สดชื่น มีความสุข
4. ดูแลใส่ใจตัวเอง
สุขภาพทางกายและสุขภาพทางจิต
มีอิทธิพลต่อกันและกันคนที่มีสุขภาพกายดี
ย่อมส่งผลให้มีจิตใจร่าเริงเข้มแข็ง
การทำให้สุขภาพแข็งแรงได้แก่
การรับประทานอาหารถูกส่วน
การพักผ่อนเพียงพอ การรักษาความสะอาด
ของร่างกาย ตลอดจนการออกกำลังกาย
อย่างพอเพียง
5. เลือกสิ่งแวดล้อม
สังคม สถานที่ หรือสภาพแวดล้อมต่างๆ
เป็นสิ่งหนึ่งที่มีอิทธิพลอย่างสูง
ต่อคนที่อยู่ในสถานที่ หรือสภาพแวดล้อมนั้นๆ
มันจะหล่อหลอมเข้าไปอยู่ในตัวคนๆนั้น
โดยที่เขาไม่รู้ตัว เคล็ดลับในการเปลี่ยนนิสัย
ก็คือการเปลี่ยนสภาพแวดล้อม ผู้คนที่คบ
หรือการหาสังคมใหม่ๆ เราจะเจอเพื่อนที่
มีพลังงานดีๆ และเค้ามักจะนำพาโอกาสดีๆ
มาให้เราด้วย
การทำตัวให้มีความสุขได้ย่อมขึ้นอยู่กับ
การปฏิบัติ ต้องอาศัยการ เรียนรู้ และหาวิธีการ
แล้วนำไปดัดแปลง ปรับปรุงให้เหมาะสม
สอดคล้องกับสภาพการของผู้ต้องการ
แสวงหาความสุขนั่นเอง
#อยู่อย่างใจสุข
#Howto
#รักจากใจ
#ศีลเสมอแล้วเจอกัน
เอ๋ อภัยลักษณ์
มาสร้างตัวเอง ให้ #เด่นจนเป็นแบรนด์
กับ Course ยอดฮิต ติด Signature
“The New YOU Live”
เรียนสด ผ่าน Zoom เหมือนเรียนในคลาส!!
ถามตอบ + โค้ชชิ่ง + แบบฝึกหัด
คอร์สนี้ช่วยให้ ...
📍คุณลุกขึ้นมาสร้าง “แบรนด์” ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
📍ตกหลุมรักในตัวเองแบบจัง ๆ
📍สร้างบุคลิกที่ชัดเจนแบบมืออาชีพ
📍สร้างเสน่ห์จากสีที่ใช่ + การ Mix & Match
📍กลบจุดด้อย ดึงความเด่นจนฉายแวว!
👇👇👇👇👇👇👇👇👇👇👇👇
คอร์สนี้เอ๋ เชิญชวนพวกเรา
มาเรียนไปด้วย ทำบุญด้วย...
ทุกยอดของการโอน - บริจาคช่วยทีมแพทย์...!!
เรียนสดผ่าน ZOOM วันที่ 28 - 29 - 30 ส.ค. นี้
12,900 บาท < ยอด 2,900 บาท โอนเข้าอีกบัญชีเพื่อการบริจาค >
พิเศษ VVIP เรียนสด + ฝึกจริง + โค้ชชิ่ง
พร้อมเรียนในคลาสอีก 2 วัน เต็ม ๆ (เมื่อรัฐบาลอนุญาต)
ราคา 35,000 บาท < ยอด 5,000 บาท โอนเข้าบัญชีเพื่อการบริจาค >
= เท่ากับได้เรียน Online ฟรี ๆ
👇👇👇👇👇👇👇👇👇👇👇👇
ติดต่อ โทร. 065-2049371, 098-9145443
สังคม 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
BMW กับแผนการเป็นเบอร์ 1 ของโลก ในตลาดรถหรูพลังงานไฟฟ้า
BMW X ลงทุนแมน
รถยนต์คันแรกของ BMW เกิดขึ้นเมื่อ 93 ปีก่อน โดยมีชื่อรุ่น BMW 3/15 PS
ซึ่งเวลานั้น สร้างกระแสไปทั่วโลกเมื่อสามารถชนะการแข่งขันรายการ Alpine Rally
ตั้งแต่ ณ วันนั้น BMW ก็พัฒนาทั้งดีไซน์รถที่สวยหรูและเทคโนโลยีที่ถูกอัปเกรดขึ้นเรื่อย ๆ
จนกลายเป็นแบรนด์รถยนต์ระดับ Luxury แถวหน้าของโลก
ด้วยยอดขายปีละมากกว่า 2 ล้านคัน
สิ่งที่น่าสนใจคือความสำเร็จ ณ วันนี้ BMW กลับไม่ได้นิ่งเฉย
เมื่อเป้าหมายล่าสุดของ BMW ในอนาคตอันใกล้
คือต้องการเป็นผู้นำระดับโลกในตลาดรถหรูพลังงานไฟฟ้า
รู้หรือไม่ว่า ภายในปี พ.ศ. 2568 หรืออีก 4 ปีข้างหน้า
BMW จะมีรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 25 รุ่น โดยมีถึง 12 รุ่น ที่เป็น EV Car
ส่วนที่เหลือก็จะเป็นรถกลุ่ม Hybrid ประเภทต่าง ๆ
ยิ่งหากเจาะลึกเรื่องนี้ลงไปอีกจะพบว่า โรงงานผลิตของ BMW ใน 15 ประเทศทั่วโลก
ได้เปลี่ยนการใช้พลังงานไฟฟ้าในโรงงานที่มาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน 100%
จนถึงกระบวนการผลิตรถต่าง ๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต
ทำไม BMW ถึงให้ความสำคัญและจริงจังกับเรื่องเหล่านี้
และหากทำสำเร็จตามแผน BMW จะได้ประโยชน์อะไรบ้าง
ลงทุนแมนจะวิเคราะห์ให้ฟัง
องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก คาดการณ์ว่าในปี 2050
หากโลกยังคงมีอุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อย ๆ อาจต้องเผชิญสารพัดวิกฤติ
เช่น หลายเมืองอาจเกิดน้ำท่วมรุนแรง, ผลผลิตทางการเกษตรทั่วโลกตกต่ำ
แล้วหนึ่งผู้ก่อการร้ายที่ทำให้โลกร้อนก็คือ รถที่วิ่งบนท้องถนนทั่วโลก
ที่ปล่อยก๊าซ CO2 ในแต่ละปีกันอย่างมหาศาล
เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ภาครัฐและค่ายผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกไม่ได้นิ่งนอนใจ
เพราะต่างรู้ดีว่า หากโลกถูกทำร้ายจนวันหนึ่งทนไม่ไหว
มลพิษต่าง ๆ ที่สะสมมายาวนาน ก็จะระเบิดออกมา
แน่นอนว่า มนุษย์ทุกคนจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
ทำให้ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ต่างเดินหน้ามุ่งไปสู่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า
เพราะนี่คือยนตรกรรมไร้ควันพิษ พร้อมทั้งรัฐบาลในแต่ละประเทศก็สนับสนุนเรื่องนี้จริงจัง
BMW ก็เชื่อว่า หากเริ่มสตาร์ตไปที่เทรนด์รถพลังงานไฟฟ้าเร็วกว่าคนอื่น ๆ
โอกาสที่จะยืนเป็นเบอร์หนึ่งในอุตสาหกรรมรถหรูในอนาคตก็ไม่ใช่เรื่องยาก
เหตุผลก็เพราะเมื่อถึงวันที่ท้องถนนทั่วโลกพร้อมใจไปสู่รถพลังงานไฟฟ้า
BMW ก็จะมีเทคโนโลยีที่เหนือกว่า, ฐานลูกค้าที่มากกว่า และแบรนด์ที่คนทั่วโลกเชื่อมั่น
รู้หรือไม่ว่า จริง ๆ แล้ว BMW เริ่มต้นพัฒนาเทคโนโลยีรถไฟฟ้าตั้งแต่เมื่อ 40 กว่าปีที่แล้ว
โดยมีชื่อว่า BMW 1602e ซึ่งเป็นการผลิตเพื่อทดลองไม่ได้จำหน่ายในตลาด
มาถึงในปี พ.ศ. 2551 หรือเมื่อ 13 ปีที่แล้ว
BMW เริ่มหันมาจริงจังกับการผลิตรถพลังงานไฟฟ้าภายใต้ชื่อ “Project i”
ซึ่งก็ผลิตรถออกมาหลายรุ่น พร้อมกับได้เสียงตอบรับที่ดี
จนปัจจุบันไอคอน i กลายเป็นจุดขายของ BMW ถึงการเป็นรถแห่งอนาคตไปแล้ว
ยกตัวอย่าง รุ่นที่เพิ่งเปิดจองในเมืองไทยเมื่อกลางปีที่ผ่านมา
BMW iX3 รถอเนกประสงค์ขับเคลื่อนไฟฟ้า 100%
ซึ่งนอกจากระบบชาร์จไฟฟ้าที่รวดเร็วแค่ 34 นาทีก็ชาร์จได้ถึง 80%
และหากเราชาร์จเต็ม 1 ครั้ง รถ iX3 คันนี้สามารถวิ่งได้ไกลถึง 460 กิโลเมตร
ทำความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว
หรืออีกหนึ่งรุ่นที่สร้างกระแสให้ BMW โด่งดังไปทั่วโลก
และยังเป็นรถที่ใครหลาย ๆ คนรอให้มาเปิดขายในไทยอย่างเป็นทางการนั่นคือ BMW i4
เพราะนี่คือ Gran Coupé รุ่นแรกที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100%
และหากชาร์จเต็ม 1 ครั้งรถรุ่นนี้สามารถวิ่งได้ไกลถึง 600 กิโลเมตร
พร้อมกับทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
แต่ที่น่าทึ่งก็คืออัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเพียงแค่ 4 วินาที
ส่วนเรื่องดีไซน์การออกแบบทั้งภายนอกและภายใน เรื่องนี้ไว้ใจ BMW ได้
เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาดีไซน์การออกแบบรถยนต์ BMW ถือว่ายืนระดับต้น ๆ ของโลก
รถตระกูล i ก็เช่นกันที่มาพร้อมสไตล์เรียบหรูแต่แฝงไปด้วยการเป็นรถของคนรุ่นใหม่
อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นว่า แผนของ BMW ไม่ใช่แค่การมุ่งไปสู่ตลาดรถไฟฟ้าอย่างเดียว
แต่ยังรวมไปถึงโรงงานและกระบวนการผลิต
ทีนี้หลายคนคงถามว่าเพราะอะไร ?
หลายคนอาจยังไม่รู้ แม้รถไฟฟ้าจะช่วยลดการปล่อยก๊าซ CO2 เวลาวิ่งอยู่บนถนน
แต่ในอีกมุมหนึ่ง กระบวนการผลิตอลูมิเนียมและเซลล์แบตเตอรี่ของรถไฟฟ้า
กลับมีแนวโน้มจะปล่อยก๊าซคาร์บอนมากกว่ากระบวนการผลิตรถเครื่องยนต์สันดาป
และเพื่อแก้ปัญหานี้ ภายในปี พ.ศ. 2573
BMW จึงมีนโยบายลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 80% ในการผลิตรถแต่ละคัน
พร้อมมุ่งเป้าที่จะลด carbon footprint ใน supply chain ให้ได้ 20%
การจะทำเรื่องนี้ให้เป็นจริงได้ นอกจากระบบบริหารสภาพแวดล้อมในโรงงาน
ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด 100% แล้วนั้น
แนวคิดรีไซเคิลก็ยังถูกนำมาใช้ อีกด้วย
ใครจะคิดว่า 99% ของเสียจากการผลิตรถยนต์ 2.5 ล้านคันในแต่ละปี
BMW จะใช้เทคโนโลยีรีไซเคิลชั้นสูงเพื่อฟื้นคืนสภาพให้ไม่ต่างจากของใหม่
และวิธีนี้ก่อให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่ามากหากเทียบกับต้องผลิตชิ้นส่วนใหม่
ที่น่าสนใจหากนำโรงงานผลิตรถยนต์ของ BMW มาเทียบกับค่ายรถยนต์อื่น ๆ
ที่ผลิตในประเทศเยอรมนีผลปรากฏว่า BMW ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ในการผลิตต่ำกว่าโรงงานอื่น ๆ
ส่วนในประเทศไทยเรา ก็มีความเป็นไปได้สูง
ที่ในอนาคตข้างหน้า BMW จะผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
เพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็ได้ลงทุนสร้างโรงงานประกอบแบตเตอรี่แรงดันสูง
ในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
หลายคนอาจตั้งคำถาม ทำไม BMW ถึงต้องลงทุนกับเรื่องเหล่านี้ด้วยเงินมหาศาล
เชื่อว่า BMW น่าจะรู้ดีว่าในอนาคตอันใกล้โลกของยนตรกรรม
ต้องเปลี่ยนถ่ายจากรถเครื่องยนต์สันดาปมาสู่รถพลังงานไฟฟ้า
หากเริ่มต้นเร็วกว่าคนอื่น ก็จะได้เปรียบในทุกมิติการแข่งขัน
และในขณะเดียวกัน BMW มีความเชื่อที่ว่า
สิ่งแวดล้อม สังคม ธุรกิจของตัวเอง ทุกอย่างมันต้องเติบโตไปพร้อม ๆ กัน..
References:
-https://www.press.bmwgroup.com/global/article/detail/T0342172EN/the-bmw-group-emphas:izes-its-consistent-focus-on-sustainability-at-the-2021-iaa-mobility:-more-stringent-co2-targe:ts-go-hand-in-hand-with-concrete-measures-and-concepts-for-implementation
-https://www.bmw.co.th/th/topics/fascination-bmw/electromobility/sustainability.html
-https://www.bmw.co.th/th/topics/fascination-bmw/all-news/2019/21-06-19-bmw-the-future-of-mobility.html
-https://car.kapook.com/view115047.html
-https://www.greenpeace.org/thailand/story/1729/1-5degrees/
-https://www.bmw.co.th/th/topics/fascination-bmw/all-news/2019/21-06-19-bmw-the-future-of-mobility.html