ประเพณีชักพระ บางท้องถิ่นเรียกว่า "ประเพณีลากพระ " เป็นประเพณีพื้นเมืองของชาวภาคใต้ ได้มีการสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยศรีวิชัย โดยสันนิษฐานว่าได้เกิดมีขึ้นครั้งแรกในประเทศอินเดีย มีพุทธตำนานเล่าขานสืบทอดกันมาว่า เมื่อพระพุทธเจ้าทรงผนวชได้ 7 พรรษา และ พรรษาที่ 7 นั้นได้เสด็จไปจำพรรษา ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ครั้นออกพรรษาแล้ว ยามเช้าของแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ได้เสด็จกลับมายังโลกมนุษย์ ในการนี้พุทธบริษัททั้ง 4 ประกอบด้วย ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก และ อุบาสิกา ซึ่งรอคอยพระพุทธองค์มาเป็นเวลานานถึง 3เดือน ครั้นทราบว่า พระพุทธเจ้าเสด็จกลับ จึงได้รับเสด็จและได้นำภัตตาหารคาวหวานไปถวายด้วย ผู้ไปทีหลังนั่งไกล ไม่สามารถเข้าไปถวายภัตตาหารด้วยตัวเองได้ จึงใช้ใบไม้ห่ออาหารและส่งผ่านชุมชนต่อๆกันไป

#ชักพระทางบก คือการอัญเชิญพระพุทธรูปปางอุ้มบาตรขึ้นประดิษฐาน บนนบพระ หรือบุษบก แล้วแห่แหน ใช้เชือกแบ่งผูกเป็น 2สาย เป็นสายผู้หญิงและสายผู้ชาย ใช้โพน ฆ้อง ระฆัง เป็นเครื่องตีให้จังหวะในการลากพระ คนลากจะเบียดเสียดกันสนุกสนานและประสานเสียงร้องบทลากพระเพื่อผ่อนแรง วัดส่วนใหญ่ ที่ดำเนินการประเพณีลากพระวิธีนี้ มักตั้งอยู่ในที่ไกลแม่น้ำลำคลอง

#ชักพระทางน้ำ เป็นการอัญเชิญพระพุทธรูปปางอุ้มบาตรขึ้นประดิษฐาน บนบุษบก ในเรือ แล้วแห่แหนโดยการลากไปทางน้ำ ประเพณีลากพระ ที่มักกระทำด้วยวิธีนี้ เป็นของวัดที่ส่วนใหญ่อยู่ใกล้แม่น้ำลำคลองการลากพระทางน้ำจะสนุกกว่าการลากพระทางบก เพราะสภาพการเอื้ออำนวยต่อกิจกรรมอื่น ๆ เช่น สะดวกในการลากพระ ง่ายแก่การรวมกลุ่มกันจัดเรือพาย

Cr. sites.google.com/site/suratthaniloca12/prapheni-chakphra/praphenichakphrawathnthrrmphakhti

พระศรีศากยะทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์ องค์พระประธานแห่งพุทธมณฑล
พระศรีศากยะทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์ เป็นพระพุทธรูปปางลีลาขนาดใหญ่ ที่ถูกสร้างขึ้นในโอกาสการเฉลิมฉลองพระพุทธศาสนาครบ 2500 ปี
พระพุทธถูกหล่อด้วยสำริด หนัก 17,543 กิโลกรัม ออกแบบโดย ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ชาวอิตาลี ซึ่งจำลองแบบมาจากพระพุทธรูปลีลาสมัยสุโขทัย ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระพุทธรูปลีลาที่งดงามที่สุด (ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ในระเบียงแก้ววัดเบญจมบพิตรฯ) และปรับพระพุทธลักษณะให้เสมือนบุคคลจริง รวมถึงมีรอยพับ หรือ ริ้วจีวรตามธรรมชาติที่สุด นับเป็นพุทธศิลป์ยุคใหม่ที่ได้รับการผสมผสานความงดงามอย่างลงตัว
พระพุทธรูปลีลา เป็นการจำลองพุทธประวัติตอนที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปจำพรรษา ณ ปัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ภายใต้ไม้ปาริฉัตตกะ ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เมื่อออกพรรษาแล้ว จึงเสด็จลงจากเทวโลก ซึ่งเรียกว่า เทโวโรหณสมาคม
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่9) เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีก่อฤกษ์พุทธมณฑล ณ บริเวณใต้ฐานองค์พระประธานเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2497 และได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี พ.ศ. 2500 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2525 โดยโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาเสด็จประกอบพิธีสมโภช เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2525
นับจากบัดนั้นมา พุทธมณฑลจึงนับเป็นอีกหนึ่งพุทธสถานที่พุทธศาสนิกชนชาวไทยนิยมใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมสำคัญอันเกี่ยวเนื่องกับพุทธศาสนาจวบจนถึงปัจจุบัน

มหามงคล ราตรีนี้ พระลีลาเปิดโลก หน้าทองคำเนื้อว่าน หมวดพระกรุ
พระพุทธลีลาหน้าทองคำ เนื้อว่าน ชุดนี้เป็นพระในตำนาน ท่ีองค์หนึ่งจากกรุลีลาถำ้หีบ สุโขทัย และจากกรุใต้ฐานหลวงพ่อพระพุทธชินราช ท่ีหาดูหาชมได้ยากยิ่งท่ีจะงดงามสมบูรณ์เช่นพระ2องค์นี้ ต้องเป็นพระท่ีสร้างโดยพระมหากษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัยและในสมัยอยุธยา พุทธลักษณะปางเสด็จลงมาจากโปรดพุทธมารดา ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จึงเปรียบประดุจปางเปิดโลก พระปางนี้เหมาะกับยุคสมัยท่ีดาวมฤตยูโคจรยกย้ายเข้าสู่ราศีเมษ ตามมติข้อวินิจฉัยของเจ้าคุณธงชัย วัดไตรมิตร
ผู้ใดได้บูชาสักการะ อธิษฐาน จะบังเกิดความสุขความเจริญ รำ่รวยโชคดี มีความสำเร็จในเรื่องในสิ่งท่ีปรารถนา
ในราตรีนี้ผมจึงได้นำพระอันมีตำนานท่ีศักดิ์สิทธิ์ มาให้สาธุชนได้แชร์ อธิษฐาน จะได้มีความสุข สำเร็จ และสวดอธิษฐานกำกับด้วยพระคาถาท่ีเจ้าคุณธงชัยได้ มอบให้ว่า "มะ อะ อุ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา พุทโธ พุทโธ พุทโธ"
ปล.พระนี้ไม่มีให้เช่าบูชาเป็นสมบัติส่วนตัวครับ