雖然這篇ศตวรรษที่ 21 คือ พ ศ鄉民發文沒有被收入到精華區:在ศตวรรษที่ 21 คือ พ ศ這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章
在 ศตวรรษที่產品中有42篇Facebook貼文,粉絲數超過51萬的網紅TravelKanuman / คา นู แมน 2เท้าชาวท่องโลก,也在其Facebook貼文中提到, Mont saint Michel ภาพฝันในนิยายของปราสาทที่ลอยเด่นกลางผืนน้ำขนาดใหญ่ พร้อมกับเงาสะท้อนลงผืนน้ำ ใคร ๆ ที่ได้เห็นก็ต่างคิดในใจว่าภาพนี้เป็นภาพจริง หรือ...
同時也有15部Youtube影片,追蹤數超過168萬的網紅Ketchup Jo,也在其Youtube影片中提到,ในอินเตอร์เน็ตมีอะไรอีกมากที่ทำให้เราต้องว้าววว!!! ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี ธรรมชาติ หรือนวัตกรรมใหม่ๆ วันนี้เรามายำรวมมิตรวีดีโอน่าสนใจกัน!! #รีแอคชั่น...
「ศตวรรษที่」的推薦目錄
- 關於ศตวรรษที่ 在 b_ampairat Instagram 的最佳解答
- 關於ศตวรรษที่ 在 Jaja Instagram 的最佳貼文
- 關於ศตวรรษที่ 在 b_ampairat Instagram 的最佳解答
- 關於ศตวรรษที่ 在 TravelKanuman / คา นู แมน 2เท้าชาวท่องโลก Facebook 的精選貼文
- 關於ศตวรรษที่ 在 The Wild Chronicles - ประวัติศาสตร์ ข่าวต่างประเทศ ท่องเที่ยวที่แปลก Facebook 的最讚貼文
- 關於ศตวรรษที่ 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於ศตวรรษที่ 在 Ketchup Jo Youtube 的最讚貼文
- 關於ศตวรรษที่ 在 iT24Hrs Youtube 的最佳解答
- 關於ศตวรรษที่ 在 MR.CHAT. TV Youtube 的最佳貼文
ศตวรรษที่ 在 b_ampairat Instagram 的最佳解答
2020-05-09 19:57:23
กลับมาถึงไทยแล้ว ได้ยินว่ามหาวิหาร Notre Dame ไฟไหม้ เราก็ไม่ได้ไปหรอกนะมีนั่งแท็กซี่ผ่านนิดนึง เสียดายสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ ศตวรรษที่13นู่นแหนะ....ปล...
ศตวรรษที่ 在 Jaja Instagram 的最佳貼文
2020-05-13 09:44:53
ในสมัยโรมัน ศตวรรษที่ 6 ที่ St.Sophia แห่งนี้เคยเป็นโบสถ์ของศาสนาคริสต์มาก่อนค่ะ แต่พอถึงจักรวรรดิออตโตมัน ที่นี่ก็ถูกยึด ทาปูนทับโมเสก แล้วทำเป็นสุเห...
ศตวรรษที่ 在 b_ampairat Instagram 的最佳解答
2020-05-09 20:02:54
สะพานถอนหายใจ สะพานข้ามไปยังคุกซึ่งนักโทษทุกคนจะได้เห็นแสงสว่าง น่านน้ำท่าเรือผ่านช่องสะพานเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนสิ้นสุดอิสรภาพ ทำให้นักโทษทุกคนต้องถอน...
-
ศตวรรษที่ 在 Ketchup Jo Youtube 的最讚貼文
2020-05-19 17:15:01ในอินเตอร์เน็ตมีอะไรอีกมากที่ทำให้เราต้องว้าววว!!! ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี ธรรมชาติ หรือนวัตกรรมใหม่ๆ วันนี้เรามายำรวมมิตรวีดีโอน่าสนใจกัน!!
#รีแอคชั่น #techล้ำ #KetchupJo
Make sure to subscribe! ◆ https://www.youtube.com/KetchupJo
(ผมลงคลิปใหม่ทุกอาทิตย์นะครับ ?)
อย่าลืมติดตามผมใน Facebook และ Instagram นะคร้าบบ ?
Facebook ► https://www.facebook.com/ketchupjow/
Instagram ► ketchup_jo
สนใจติดต่อเรื่องการลงโฆษณาหรือการร่วมงานเท่านั้น กรุณาติดต่อ
► Email: ketchupjow@gmail.com
For business or stock footage inquires ONLY contact me via
Email: ketchupjow@gmail.com
?????คำเตือน ?????
วิดีโอที่คุณกำลังชมนี้ทำขึ้นเพื่อจุดประสงค์สำหรับ"ความบันเทิง”เท่านั้น
เนื้อหาต่างๆที่ทำขึ้น เพื่อให้ผู้ชมสามารถนำเอาไปต่อยอดเพื่อการเรียนรู้
โดยไม่ใช่บทสรุปหรือข้ออ้างอิงทางวิทยาศาสตร์แต่อย่างใด
แต่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่เกิดจากการลองผิดลองถูกส่วนตัว
หากผู้ใดนำไปทดลองหรือทำตามแล้วเกิดความเสียหายใดๆ
ทาง Ketchup Jo จะไม่มีส่วนในความรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น
โปรดรับชมด้วยวิจารณญาณ
และให้คำแนะนำแก่บุตรหลานของท่านในการรับชม -
ศตวรรษที่ 在 iT24Hrs Youtube 的最佳解答
2018-05-16 18:00:05โดราเอมอนและของวิเศษจากศตวรรษที่ 22 การ์ตูนที่คนทุกยุคต้องรู้จัก หลายๆคนอยากจะได้ของวิเศษแบบโนบิตะบ้าง แต่ว่าศตวรรษที่ 22 ใกล้จะมาถึงแล้ว ของวิเศษของโดราเอมอนก็มีจริงๆแล้วหลายชิ้น ซึ่งหลายคนก็ได้ใช้กันแล้ว มีอะไรบ้าง ลองไปดูกันเลย
ติดตามรับข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
facebook.com/it24hrs
twitter.com/panraphee
twitter.com/it24hrs
IG: panraphee -
ศตวรรษที่ 在 MR.CHAT. TV Youtube 的最佳貼文
2016-10-25 22:56:42คลิปนี้ไม้ได้เจตนาที่จะหลอกหรือว่าอะไรนะครัชทำเพื่อความสนุกเชยๆ
ท้าชอบ(อย่าลืม)
กดไลร์
กดติดตาม กันด้วยนะครับ
สังกัด Online Station ช่วยให้ช่องคุณเติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด คนดูวิดีโอเยอะขึ้น มีรายได้เพิ่มมากขึ้น ใครทำช่อง Youtube อยู่สมัครได้เลยที่นี่ http://caster.os.co.th
---------------------------------------------------------------------------
::: สนใจติดต่อโฆษณาหรือสปอนเซอร์ :::
ติดต่อทีมงาน Online Station
โทร : 02-647-5171
ศตวรรษที่ 在 TravelKanuman / คา นู แมน 2เท้าชาวท่องโลก Facebook 的精選貼文
Mont saint Michel
ภาพฝันในนิยายของปราสาทที่ลอยเด่นกลางผืนน้ำขนาดใหญ่ พร้อมกับเงาสะท้อนลงผืนน้ำ ใคร ๆ ที่ได้เห็นก็ต่างคิดในใจว่าภาพนี้เป็นภาพจริง หรือสร้างขึ้นมาเพื่อประกอบฉากในภาพยนตร์เท่านั้น
แต่... สถานที่นี้มีอยู่จริง
Mont saint Michel คือวิหารที่ตั้งอยู่บนเกาะเล็ก ๆ ชื่อ Tidal island ที่อยู่ในแถบ Normandy ทางตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ปากแม่น้ำ Couesnon ใกล้กับเมือง Avranches บนพื้นที่ 247เอเคอร์ และมีประชากรบนเกาะเพียง 44คนเท่านั้น
เกาะนี้มีประวัติเริ่มต้นราว ศตวรรษที่หกและเจ็ด โดยใช้เป็นฐานที่มั่นรักษาการของชาว Gallo-Roman ก่อนที่จะถูกตีแตกพ่ายไป และเข้ายึดครองโดยชาว Franks และเรียกเกาะแห่งนี้ว่า Mont Tombe โดยตามตำนานกล่าวไว้ว่า องค์เทวดา Michel ได้มาเข้าฝันนักบุญ Aubert บิชอปแห่ง เมืองAvranches และในฝัน องค์ Michel ได้รับสั่งให้บิชอปสร้างวิหารขึ้นบนเกาะหิน แต่นักบุญ Aubert ไม่ได้ปฎิบัติตามนั้น เนื่องจากนึกว่าที่เข้าฝันเขานั้นคือปีศาจที่พยายามชักนำ จนถึงการเข้าฝันครั้งที่สาม องค์ Michel ได้ใช้นิ้วชี้เผาบริเวณหน้าผากของ Aubertในฝัน และเมื่อตื่นขึ้นมา ก็มีร่องรอยอยู่ที่หน้าผากจริง Aubertจึงได้สั่งให้ดำเนินการสร้างวิหารตามที่ได้รับสั่งมาในฝัน
การสร้างวิหารนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากต้องขนหินมาจาพื้นที่ใกล้เคียง โดยส่วนใหญ่นำมาจากเกาะ iles Chaussey และเมือง Bretagne
หลังจากการก่อสร้างแล้วเสร็จ Mont saint Michel ได้กลายเป็นที่แสวงบุญของนักบวชชาวคริสต์ และศาสนิกชนที่เคร่งครัดในศาสนา และมีการเดินทางจากฝั่งไปที่เกาะเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากกระแสน้ำที่ขึ้น-ลงอย่างรวดเร็วของแถบนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตระหว่างการเดินข้ามไปที่เกาะอยู่หลายครั้ง
ในราว ศตวรรษที่ 11-16 มีการก่อสร้างอาคารบ้านเรือนเพิ่มเติมภายในเกาะ และมีประชาชนย้ายเข้ามาอยู่มากขึ้น มีการตั้งหมู่บ้านขึ้นมาที่เชิงเขา และเนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่เอื้ออำนวยต่อการป้องกันตัวเอง ทำให้เกาะแห่งนี้ไม่ถูกโจมตีในสงครามร้อยปีกับประเทศอังกฤษ แต่ด้วยภาวะสงครามทำให้วิหารกลายเป็นวิหารร้าง ไม่มีพระมาจำพรรษาเลย และกลายเป็นฐานที่มั่นทางการสงครามโดยสมบูรณ์แบบ และด้วยความแข็งแกร่งนี้เอง ทำให้เกาะถูกใช้เป็นป้อมปราการคอยดูแลชายแดนของประเทศเรื่อยมา จนในปี 1863 Mont saint Michel ได้ถูกใช้เป็นที่คุมขังนักโทษเป็นเวลากว่า 10ปี ทางรัฐบาลจึงเล็งเห็นความสำคัญของโบราณสถานนี้ ได้ทำการบูรณะครั้งใหญ่และสร้างวิหารขนาดใหญ่กว่าเดิมขึ้นโดยใช้ฐานรากของวิหารเก่า และในปี 1969 เหล่าผู้แสวงบุญเริ่มกลับมาที่วิหารอีกครั้ง ทำให้กิจกรรมทางศาสนากลับมามีชีวิตอีกครั้ง
ในปี 1979 ยูเนสโก้ประกาศให้ Mont saint Michel เป็นมรดกโลกโดยการสนับสนุนของ Victor-Marie Hugo กวี นักเขียนบทละคร นักประพันธ์ ศิลปิน รัฐบุรุษและนักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชนชาวฝรั่งเศส ผู้ที่มีบทบาทมากสำหรับการเคลื่อนไหวทางวัฒนธรรมของฝรั่งเศส
ปัจจุบันนี้ Mont saint Michel เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนมาเข้าชมมากกว่าปีละ 3ล้านคน ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการเยี่ยมชมมากท่าสุดเป็นอันดับสามในฝรั่งเศสรองจาก หอไอเฟลและพระราชวังแวร์ซาย
การเดินทางมา Mont saint Michel
จากปารีสมีวิธีเดินทางมาที่ Montsaint Michel อยู่หลายวิธีดังนี้
- นั่งรถไฟด่วน TGV ที่สถานี Paris Montparnasse station ลงที่สถานีเมือง Rennes จากนั้นนั่งรสบัสมาถึง Mont saint Michel เลย ระยะทางประมาณ 60กิโลเมตร
- นั่งรถไฟท้องถิ่นจาก PARIS มาที่เมือง Pontorson จากนั้นต่อรถบัสมาที่ Mont saint Michel ระยะทางประมาณ 9กิโลเมตร
- ขับรถจาก PARIS ใช้เวลาประมาณ 4ชั่วโมง หากเดินทางเกิน2คน น่าจะเป็นวิธีที่ประหยัดที่สุด
ศตวรรษที่ 在 The Wild Chronicles - ประวัติศาสตร์ ข่าวต่างประเทศ ท่องเที่ยวที่แปลก Facebook 的最讚貼文
*** จี้โบราณรูปจ้าวมังกรจากอัฟกานิสถาน ***
ในปี 1978 เมื่ออัฟกานิสถานยังปกครองโดยระบอบคอมมิวนิสต์และเป็นมิตรกับโซเวียต ทีมนักโบราณคดีของทั้งสองชาติได้ร่วมมือกันสำรวจซากศาสนสถานสำหรับบูชาไฟในเขตโจว์ซยาน ใกล้กับเมืองชีเบอร์กาห์น ทางตอนเหนือของอัฟกานิสถาน
ณ ศาสนสถานแห่งนั้น ทีมสำรวจนำโดยวิกเตอร์ ซาเรียนิดี ชาวรัสเซียเชื้อสายกรีกได้พบกับหลุมที่มีโครงกระดูกรายล้อมด้วยเครื่องทองและเครื่องเพชร ซึ่งซาเรียนิดีเปรียบเปรยการค้นพบครั้งนี้ว่ามันยิ่งใหญ่ราวกับการค้นพบสุสานตุตันคาห์มุนในปี 1922
ตลอด 3 เดือนนับจากนั้น มีการค้นพบหลุมศพเพิ่มอีก 5 หลุม พบโบราณวัตถุช่วง 100 ปีก่อนคริสตกาล - ศตวรรษที่ 1 อีกมากกว่า 20,000 ชิ้น มีทั้งสร้อยคอ, เข็มขัด, เหรียญตรา, มงกุฎ ฯลฯ มักมีสัณฐานเป็นทองคำ เรียกรวมๆ ว่า “ทองแบคเทรียน” (Bactrian Gold) ตามชื่อภูมิภาคแบคเทรียในเอเชียกลาง และทำให้โบราณสถานดังกล่าวได้รับการขนานนามว่า “ทิลยา ทีป” (Tillya Tepe) ซึ่งแปลว่า “เนินทองคำ”
น่าเสียดายว่า ด้วยความผันผวนทางการเมืองและสงครามของอัฟกานิสถานในปี 1979 ซาเรียนิดีและพวกจำใจต้องทิ้งแหล่งโบราณคดีนี้ไป วัตถุโบราณบางส่วนจึงโดนลักขโมย ส่วนของที่ซาเรียนิดีเก็บติดมาได้ เขาก็ส่งไปเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์กรุงคาบูล
ท่ามกลางช่วงเวลามิคสัญญี ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ โอมารา ข่าน มาซูดี และลูกน้องอีกจำนวนหนึ่ง ได้เสี่ยงชีวิตรักษาวัตถุโบราณเหล่านี้ไว้เป็นอย่างดี แม้จะมีข่าวออกมาว่า มันถูกนำไปมอสโกแล้วบ้าง ถูกนำไปหลอมซื้ออาวุธแล้วบ้าง หรือนำไปขายในตลาดมืดแล้วบ้าง แต่ความจริงมันยังอยู่ในพิพิธภัณฑ์ไม่ไปไหน
หลังการเข้ามาของอเมริกาและชาติตะวันตก ตาลีบันต้องถอยร่นไปในปี 2003 สถานการณ์ในอัฟกานิสถานสงบลง รัฐมีความคิดที่จะเปิดกรุสมบัติโบราณ จึงได้มีการติดต่อกับซาเรียนิดี, นักโบราณคดีอื่นๆ รวมทั้งสมาคมเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิค ที่คอยดูแลศึกษาโบราณสถานและโบราณวัตถุ มาร่วมเปิดตู้เซฟที่เก็บของไว้ไว้ในเดือนเมษายน 2004 ปรากฏว่าของด้านในยังคงสภาพดี ไม่มีอะไรเสียหาย
จี้จ้าวมังกร (Dragon Master) ในภาพ ประกอบด้วยทองคำ เทอควอยซ์ โกเมน แร่ลาพิส แร่คาร์เนเลียน และมุก ดูคล้ายศิลปะจีน ถูกค้นพบในหลุมศพที่ 2 อยู่บนคอของหญิงสาววัยราว 30 ซึ่งในขณะเดียวกัน บนนิ้วเธอยังสวมแหวนที่สลักเป็นรูปอธีน่าเทพีแห่งปัญญาของกรีกไว้ด้วย ...นักโบราณคดีกล่าวว่า นี่แสดงให้เห็นการผสมของวัฒนธรรมทั้งกรีก, โรมัน, จีน และอินเดีย ที่ชนชาติที่อยู่ในหลุมศพได้รับมาบนเส้นทางสายไหมแล้วสร้างเป็นศิลปะของตัวเอง
รัฐบาลอัฟกานิสถานได้ตกลงกับหลายชาติให้นำวัตถุโบราณเหล่านี้ไปจัดแสดงอยู่หลายปีตั้งแต่ 2007 ก่อนซื้อกลับมาประจำอัฟกานิสถานในปี 2020 แต่เมื่อเดือนมกราคม 2021 รัฐบาลก็ได้มีการคิดจะนำมันไปจัดแสดงที่ต่างประเทศอีกครั้ง เพราะกลัวว่าจะมีการคอร์รัปชั่นหรือขโมยมันไปขาย อย่างไรก็ตาม ไม่มีการรายงานว่ามันไปที่ไหน และตอนนี้มันยังอยู่หรือไม่…
::: อ้างอิง :::
- smithsonianmag (ดอต) com/arts-culture/lost-found-7605081/
- bbc (ดอต) com/news/world-south-asia-12599726
- artsy (ดอต) net/artwork/a-pair-of-pendants-showing-the-dragon-master-tillya-tepe-tomb-ii
ศตวรรษที่ 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
รู้จัก ฝรั่งเศส ผ่าน 10 บริษัท ที่ใหญ่สุดในประเทศ /โดย ลงทุนแมน
เมื่อเอ่ยถึง ฝรั่งเศส สิ่งแรกที่คนทั่วโลกจะนึกถึงก็คือ “ความหรูหรา”
วงการศิลปะแทบทุกแขนงของยุโรปล้วนมุ่งหน้าสู่ฝรั่งเศส
และผู้คนที่นี่ก็คลั่งไคล้ศิลปะมาทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม วรรณกรรม เครื่องแต่งกาย หรือแม้แต่อาหารการกิน
ในยุคก่อนที่วัฒนธรรมอเมริกันจะครองโลก ฝรั่งเศสคือผู้ส่งออกวัฒนธรรมที่ทรงอิทธิพลมากที่สุด
และแน่นอนว่าวัฒนธรรม ก็ยังคงสร้างมูลค่าให้ฝรั่งเศสอย่างมหาศาลในปัจจุบัน..
10 บริษัทที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุดของประเทศฝรั่งเศส เป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์หรูถึง 6 บริษัท
ทั้งเครื่องแต่งกาย เครื่องดื่ม เครื่องประดับ และเครื่องสำอาง
แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ นอกจากบริษัทแบรนด์หรูทั้งหลายแล้ว
ก็ยังมีบริษัทยา และบริษัทเทคโนโลยีอยู่ใน Top 10 ด้วย
เรื่องราว 10 บริษัท ที่ใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศส เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ราชสำนักฝรั่งเศสคือจุดเริ่มต้นของความหรูหรา
ศตวรรษที่ 15 พระนางแคทเธอรีน เดอ เมดิชี เป็นผู้ริเริ่มอุตสาหกรรมน้ำหอมในฝรั่งเศส
ศตวรรษที่ 16 พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ผู้ริเริ่มนำวิกมาสวมศีรษะ และใส่รองเท้าส้นสูง
และศตวรรษที่ 19 จักรพรรดินีเออเฌนี เป็นผู้ผลักดันให้เกิดโรงเรียนสอนการออกแบบ และผลักดันให้เกิดแบรนด์แฟชั่นชั้นนำมากมาย
ถึงแม้ราชสำนักฝรั่งเศสจะต้องประสบกับการปฏิวัติหลายต่อหลายครั้ง แต่ความหรูหราที่ได้ทิ้งไว้ก็ยังถูกนำมาสานต่อ และผ่านการพัฒนาอย่างเป็นระบบ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเครื่องแต่งกาย ที่มีการจัดตั้งสถาบันสอนออกแบบ ให้กำเนิดการเดินแฟชั่นโชว์ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19
ดึงดูดนักออกแบบเสื้อผ้าจากทั่วฝรั่งเศสและทั่วโลกให้เข้ามาแสดงฝีไม้ลายมือ จนทำให้กรุงปารีสกลายเป็นเมืองศูนย์กลางแฟชั่นระดับโลก
การวางแผนอย่างเป็นระบบระเบียบนี้เอง ส่งผลให้วิถีชีวิตแบบฝรั่งเศสกลายเป็น Story และนำมาสู่การสร้างแบรนด์ที่เป็นตำนานระดับโลก
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร หาก 10 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส จะเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์หรูถึง 6 บริษัท
ซึ่งหลายบริษัทเกิดจากการควบรวมหลายแบรนด์เข้าไว้ด้วยกัน
หากเรียงตามลำดับอายุที่ก่อตั้ง จะได้เป็น..
- LVMH
ถึงแม้บริษัทนี้จะเกิดจากการควบรวมบริษัทในปี 1987 แต่ประวัติของแต่ละบริษัทที่อยู่ในเครือถูกย้อนไปไกลกว่านั้น
Moët & Chandon เป็นผู้ผลิตแชมเปญ ก่อตั้งในปี 1743
Hennessy ผู้ผลิตบรั่นดีคอนญัก ก่อตั้งในปี 1765
และ Louis Vuitton ผู้ผลิตกระเป๋าเดินทางแบบทรงเหลี่ยม ในปี 1854 เพื่อให้ชนชั้นสูงวางบนรถม้าได้อย่างสะดวกสบาย ก่อนจะกลายเป็นตำนานของกระเป๋าในเวลาต่อมา
ทั้ง 3 บริษัทได้ควบรวมกันในปี 1987 แต่หลังจากนั้น 2 ปีก็เกิดสงครามแย่งกิจการ จนท้ายที่สุดก็ได้ Bernard Arnault บุคคลภายนอก เข้ามามีอำนาจในการบริหาร LVMH นับตั้งแต่นั้นมา
Arnault ได้ขยายอาณาจักร LVMH ด้วยการเข้าครอบครองกิจการแบรนด์หรูชื่อดังอย่างต่อเนื่อง
ทั้งเครื่องแต่งกาย ไวน์ นาฬิกา จน LVMH ครอบครองแบรนด์หรู กว่า 75 แบรนด์
ปัจจุบัน LVMH กลายมาเป็นเจ้าของธุรกิจแบรนด์หรูที่ใหญ่สุดในโลก และถือเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในฝรั่งเศสและยุโรป ด้วยมูลค่า 13.5 ล้านล้านบาท
- Hermès
กิจการนี้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1837 โดย Thierry Hermès
แรกเริ่มบริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตอานม้าสำหรับชนชั้นสูง ต่อมาลูกชายก็ได้ขยายธุรกิจ และให้กำเนิดกระเป๋าเพื่อแบกสัมภาระไปกับการเดินทางบนหลังม้า จนกลายเป็นกระเป๋าที่มีรูปแบบเอกลักษณ์ และขยายไปสู่เครื่องแต่งกายต่าง ๆ
ปัจจุบัน Hermès เป็นแบรนด์หรูที่ไม่ได้ควบรวมกับแบรนด์อื่น ๆ
ซึ่งถึงแม้จะเป็นแบรนด์เดี่ยว แต่มูลค่าของ Hermès ก็สูงถึง 5.3 ล้านล้านบาท
- EssilorLuxottica
สมาคมช่างทำแว่นตาแห่งปารีส หรือ Société des Lunetiers (SL) หรือ Essel ได้ถูกจัดตั้งขึ้นในปี 1849 ให้เป็นศูนย์รวมของช่างฝีมือ เพื่อพัฒนากระบวนการทำแว่นตา ทั้งกรอบแว่นและเลนส์แว่นตา
ต่อมา Essel ได้ควบรวมกับบริษัททำเลนส์ Silor กลายเป็น Essilor
และก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในการผลิตและจัดจำหน่ายเลนส์สายตา โดยเฉพาะกลุ่มเลนส์ตระกูล Varilux และล่าสุดได้ควบรวมกับบริษัท Luxottica บริษัทผลิตกรอบแว่นตาที่ใหญ่สุดในโลกของอิตาลี
ทำให้บริษัทนี้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำเรื่องแว่นตาของโลก ที่ครอบคลุมตั้งแต่เลนส์ ไปจนถึงแว่นตา
และมีมูลค่าตลาด 2.6 ล้านล้านบาท
- Kering
เช่นเดียวกับ LVMH ถึงแม้ Kering จะก่อตั้งในปี 1963 แต่ประวัติของแต่ละบริษัทที่อยู่ในเครือถูกย้อนไปไกลกว่านั้น
บริษัทที่เก่าแก่ที่สุดในเครือ ก็คือ Boucheron แบรนด์เครื่องประดับสุดหรูของฝรั่งเศส ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1858 และเป็นที่โปรดปรานอย่างมากของชนชั้นสูงในยุคนั้น
Kering ยังเป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับชั้นนำอีกมากมาย
ทั้ง Yves Saint Laurent ของฝรั่งเศส และของประเทศอื่น ๆ เช่น Gucci และ Bottega Veneta ของอิตาลี
ด้วยความที่มีแบรนด์หรูระดับโลกมากมาย มูลค่าบริษัทของ Kering จึงสูงถึง 3.7 ล้านล้านบาท
- L'Oréal
ก่อตั้งในปี 1909 โดยนักเคมีชาวฝรั่งเศส ชื่อ Eugène Schueller ได้คิดค้นน้ำยาย้อมสีผม แล้วได้รับเสียงตอบรับจากช่างทำผมในเมืองปารีสเป็นอย่างมาก
จนทำให้เขาตั้งเป็นบริษัท Société Française de Teintures Inoffensives pour Cheveux ขึ้นมา และต่อมาก็เปลี่ยนชื่อเป็น L'Oréal
แต่หลังจากที่ Eugène Schueller เสียชีวิต แล้ว François Dalle ได้เข้ามาบริหารงานแทน
Dalle ก็ได้ขยายตลาดด้วยการซื้อบริษัทเครื่องสำอางแบรนด์อื่น โดยมีจุดประสงค์เพื่อเจาะกลุ่มตลาดใหม่ และเพิ่มช่องทางการกระจายสินค้า
หลังจากนั้น L'Oréal ก็ซื้อบริษัทอื่นเข้ามาเรื่อย ๆ ทั้งผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง เวชสำอาง เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ
จนในที่สุด L'Oréal ก็กลายเป็นบริษัทเครื่องสำอางที่มีมูลค่าบริษัทมากที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าบริษัทกว่า 8.4 ล้านล้านบาท
- Dior
ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง Christian Dior ดีไซเนอร์อิสระ ได้รับจ้างออกแบบหมวกให้กับแวดวงไฮโซ ที่ผ่านชีวิตล้มลุกคลุกคลานจนได้เปิดห้องเสื้อของตัวเองในปี 1946
เขาสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับวงการแฟชั่นของปารีส ด้วยคอลเลกชันแรก ที่มีชื่อว่า “New Look” เป็นชุดเข้ารูป และกระโปรงสุ่มบาน ก่อนจะขยายผลิตภัณฑ์ไปสู่น้ำหอม “Miss Dior” อันโด่งดัง
หลังจากนั้นแบรนด์ Dior ก็ผ่านการล้มลุกคลุกคลาน จนท้ายที่สุดก็ได้มาอยู่ภายใต้การบริหารของ Bernard Arnault แห่ง LVMH ในปี 1984
Dior ก็เติบโตจนเป็นอาณาจักรแฟชั่นที่มียอดขายหลักล้านล้านบาท และมีมูลค่าตลาด 4.8 ล้านล้านบาท..
แต่ฝรั่งเศสไม่ได้มีแค่แบรนด์หรูเท่านั้น..
นอกจากทั้ง 6 บริษัทแบรนด์หรูที่กล่าวมาข้างต้น บริษัท Top 10 ของฝรั่งเศสยังประกอบไปด้วย
- อุตสาหกรรมไฟฟ้า 1 บริษัท
- ยารักษาโรค 1 บริษัท
- ก๊าซ 1 บริษัท
- และพลังงาน 1 บริษัท
และเช่นเดียวกับแบรนด์หรู หากเรียงลำดับอายุของการก่อตั้ง จะเริ่มต้นจาก..
- Schneider Electric
ในช่วงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ถึงแม้อุตสาหกรรมในฝรั่งเศสจะไม่ได้โดดเด่นเท่าอังกฤษหรือเยอรมนีในยุคเดียวกัน แต่องค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ของฝรั่งเศสก็ไม่น้อยหน้าใคร
นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศส Pierre-Émile Martin เป็นผู้พัฒนาเตากระทะ หรือ Open Hearth Furnace เพื่อใช้สำหรับหลอมเหล็กกล้าซึ่งต้องใช้อุณหภูมิสูงมาก
2 พี่น้องครอบครัว Schneider เดินทางจากเมืองบ้านเกิดที่อยู่ไม่ไกลจากชายแดนเยอรมนี มาลงทุนสร้างเตาหลอมเหล็กในเมือง Le Creusot ในปี 1836 จนกลายเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมเหล็กกล้าและเครื่องจักร
ไม่นานก็ได้ขยายเข้าสู่อุตสาหกรรมก่อสร้างและไฟฟ้า
ปัจจุบัน Schneider Electric คือผู้นำในอุตสาหกรรมไฟฟ้า ระบบอัตโนมัติ การควบคุมอาคาร และการบริหารจัดการพลังงานระดับโลก มีมูลค่าบริษัท 3.3 ล้านล้านบาท
- Sanofi
ปี 2020 ฝรั่งเศสส่งออกยารักษาโรค มากเป็นอันดับ 4 ของโลก คิดเป็นมูลค่ากว่า 9.3 แสนล้านบาท
หนึ่งในจุดเริ่มต้นของอุตสาหกรรมยาในฝรั่งเศส มาจากห้องทดลองของนักวิทยาศาสตร์ ที่คนทั้งโลกจะต้องคุ้นเคยกับชื่อของเขา คือ Louis Pasteur ผู้ให้กำเนิดกระบวนการพาสเจอไรซ์ หรือการใช้ความร้อนฆ่าเชื้อโรค
Louis Pasteur เป็นผู้วิจัยและพัฒนาวัคซีนพิษสุนัขบ้า และผู้ก่อตั้ง Pasteur Institute สถาบันวิจัยด้านวัคซีนในปี 1887
จนในปี 1974 Pastuer Production ได้ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นโรงงานผลิตวัคซีน และได้ถูกควบรวมเข้ากับบริษัทยาอีกหลายแห่ง จนท้ายที่สุดก็อยู่ภายใต้บริษัทยา Aventis
ต่อมาในปี 2004 Aventis ก็ได้ควบรวมกับบริษัท Sanofi และทำให้ Sanofi กลายเป็นบริษัทยาที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย ทั้งยารักษาโรคเรื้อรัง ยารักษาโรคมะเร็ง วัคซีน
รวมถึงวัคซีนโควิด 19 ที่กำลังทำการวิจัยอยู่ในระยะที่ 3 ด้วย
ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย Sanofi จึงมีมูลค่าตลาดมากถึง 4.3 ล้านล้านบาท
- Air Liquide
Georges Claude วิศวกรชาวฝรั่งเศส ได้พัฒนากระบวนการทำให้อากาศกลายเป็นของเหลว เพื่อแยกส่วนประกอบสำคัญในอากาศ คือก๊าซไนโตรเจน และก๊าซออกซิเจนออกจากกัน
กระบวนการนี้ทำให้ได้ก๊าซบริสุทธิ์ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญอย่างมากสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ
ก๊าซไนโตรเจน ใช้สำหรับการถนอมอาหาร อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และปิโตรเคมี
ในขณะที่ก๊าซออกซิเจน นอกจากจะใช้ทางการแพทย์แล้ว ยังสำคัญในอุตสาหกรรมเหล็กและกระจกอีกด้วย
ความสำเร็จนี้ทำให้ Georges Claude ได้ก่อตั้งบริษัท Air Liquide ในปี 1902
ปัจจุบัน Air Liquide ให้บริการแก๊สสำหรับอุตสาหกรรมและทางการแพทย์ เคมี และอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และมีมูลค่าบริษัทกว่า 2.8 ล้านล้านบาท
- TotalEnergies
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 กองทัพฝรั่งเศสประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมันอย่างหนัก จนต้องขอความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งในเวลานั้น อุตสาหกรรมน้ำมันในสหรัฐอเมริกาครองสัดส่วนกว่า 70% ของโลก
เมื่อสงครามสิ้นสุดลง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้มอบหมายให้ Ernest Mercier จัดตั้งบริษัทปิโตรเลียมแห่งฝรั่งเศส (CFP) ในปี 1924 เพื่อความมั่นคงทางพลังงานของฝรั่งเศสเอง
ในปัจจุบัน CFP ได้เปลี่ยนชื่อเป็น TotalEnergies เป็นบริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส
เป็นผู้ผลิตน้ำมันเครื่อง และผลิตภัณฑ์หล่อลื่นทั้งกับยานยนต์และอุตสาหกรรม
มีมูลค่าบริษัทกว่า 3.9 ล้านล้านบาท
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ 10 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศฝรั่งเศส
ทุกบริษัทล้วนมีมูลค่าบริษัทมากกว่า 1.1 ล้านล้านบาท
ซึ่งเป็นมูลค่าที่ใหญ่กว่าบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในประเทศไทย อย่างบริษัท ปตท.
หลายคนอาจคิดว่า แบรนด์ฝรั่งเศส สร้างเพียงแค่ Story ก็เพียงพอแล้วที่จะสามารถส่งออกไปขายได้ทั่วโลก
แต่ทั้งหมดจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ วิจัยและพัฒนาต่อยอดอย่างเป็นระบบ
และผ่านการบริหารกิจการ โดยเฉพาะการควบรวมแบรนด์ ที่ทำให้การบริหารมีประสิทธิภาพ และเพิ่มช่องทางกระจายสินค้าได้มากขึ้น
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ประเทศฝรั่งเศสไม่ได้เชี่ยวชาญแต่แวดวงศิลปะเท่านั้น
เพราะการพัฒนาศิลปะจะเติบโตได้ ส่วนหนึ่งจะต้องเกิดจากการพัฒนาองค์ความรู้ในด้านอื่น ๆ ควบคู่กันไป โดยเฉพาะองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
จากการสังเกตบริษัทชั้นนำ 10 บริษัทของแต่ละประเทศ เราก็สามารถบอกได้คร่าว ๆ ว่าประเทศเหล่านั้นมีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมด้านไหน และให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมอะไรในอนาคต
สำหรับฝรั่งเศส คงบอกได้ว่า
ประเทศนี้สามารถนำโลกแห่งศิลปะ กับวิทยาศาสตร์ ซึ่งดูเหมือนอยู่คนละขั้วกัน
มาผสมผสานกันได้อย่างลงตัว..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://companiesmarketcap.com/france/largest-companies-in-france-by-market-cap/
-https://www.essilor.co.th/about-essilor
-https://www.vogue.co.uk/article/christian-dior
-https://www.airliquide.com/shareholders/stock-share/focus-on/air-liquide-118-years-history-individual-shareholders
-https://www.se.com/th/en/about-us/company-profile/history/schneider-electric-history.jsp
-https://www.worldstopexports.com/drugs-medicine-exports-country/
-https://www.sanofi.com/en/about-us/through-time
-https://totalenergies.com/group/identity/history