ธุรกิจที่ปิด Painpointได้ ไม่ต้องหมด แค่มากกว่าคู่แข่ง ก็ชนะแล้ว

ที่ปิด pain point หมดไม่ได้ เพราะ

1.อีกหน่ยอจะไม่มีมุกอื่นมาขายของต่อ
2.ความต้องการคน ไม่มีวันหมด

นึกถึงสมัยก่อนดิ คุณภาพชีวิตคนลำบากกว่านี้มาก เอาแค่เรื่องอาหาร จะมากินฟู่ฟ่า อาหารสวยงาม มีพร้อมจัดจาน มาจากแดนไกลสุดขั่วโลก ถ้าไม่ได้มีอำนาจ เงินทอง ไม่มีทางได้กินแบบนี้ จะกินปลาแซลม่อนย่าง โน่นออกเรือไปจับ เอง ไม่ ก็ต้องเลี้ยงเอง เอามาฆ่า เอามาปรุงอาหาร ไม่นับ ดินฟ้า อากาศ การขนส่ง

แต่ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น ทั้งการเก็บการขนส่ง ต่อมาเดินไปซื้อกินร้านแถวบ้านก็ได้ ถ้าไกลหน่อย โทรไปสั่ง ให้ที่ร้านมาส่ง และทุกวันนี้ จิ้มกดๆจากหน้าจอ

เทคโนโลยีจริงๆแล้วก็คือ กระบวนการนำทรัพยากร มาสนองความต้องการเราน่ะแหละ ก้าวหน้ามาก ก็คือ ตอบสนองได้มาก ซับซ้อนขึ้น โดยที่ผ่านมา เทคโนโลยีคิดมาแต่ด้านความต้องการผู้บริโภคด้านเดียว ไม่มองรอบด้าน ปัญหาจากการสร้างเทคโนโลยีที่แก้ painpoint ต่อมาก็ส่งผลตีกลับ

Start up ทั้งหลาย ที่พยายามทำทุกนวตกรรม มาแก้ปัญหา แต่ปัญหา มันไม่มีวันหมด แก้อันนี้ได้ ความต้องการอย่างอื่น เพิ่มไปอิกๆ และสิ่งที่แย่กว่า คือแก้ปัญหาอันนึง แต่กลับไปปสร้าง ปัญหาอื่นที่ใหญ่กว่า เช่น ขยะพลาสติก ปัญหาสิ่งแวดล้อมทั้งหลายในทุกวันนี้

ความสะดวกสบายของเราในอนาคต น่าจะถึงขั้นสั่งอาหารได้ด้วยจิตนะ แค่คิด พิซซ่าก็มาแล้ว หรือ แค่คิด ก็อิ่มเลย เหมือน อิ่มทิพย์แบบเทวดาในสวรรค์ แต่นั่นจะทำให้สุดท้ายเราเป็นง่อย รึป่าว

ไม่ง่อยหรอก ชั้นเถียงกับตัวเอง เราก็ไปเข้าฟิตเนส ออกกำลังกายไง

ที่บางทีก็งง เรายอมจ่ายเงิน เพิ่มความสบาย จากการไม่ต้องออกไปล่าสัตว์ แต่มาเสียเงิน ให้คนมาบังคับ หรือ บังคับตัวเองให้แบกของหนัก ออกแรงอย่างเหน็ดเหนื่อย หอบแดก ที่ฟิตเนส แล้วได้กลับมาแค่สุขภาพอย่างเดียว แทนที่จะได้แบกข้าวสารเข้าบ้าน ได้ทั้งงาน ได้ทั้งข้าว ได้ทั้งออกกำลังกายไปในตัว หรือ ในอนาคตจะมีแพลทฟอร์มคล้ายๆแกร็บที่รับสมัครให้คน อยากออกกำลังกาย และได้เงินด้วย ลงจำนวนเวลา และ ชม.ที่ตัวเองอยากทำ แล้วไปแมช กับคนที่มีงาน ... อ่ะขอโทษที่พาออกทะเล

เราเลยต้องมาตั้งคำถามว่า ความเจริญจริงๆแล้วคืออะไร มันควรต้องเป็นยังไง ความเจริญ นำมาซึ่งความสุขจริงหรือ? และความสุขเหล่านี้ เป็นประโยชน์ หรือ เป็นโทษมากกว่ากัน

ถ้านิพพานคือ ความสุขยาวนานตลอดไป คุณคิดว่า ในนิพพานนั้น คือ ที่ๆ เราแก้ ปิด painpoint ได้ทุกปัญหา สมปรารถนาทุกความต้องการ หรือ เข้าใจ เห็นคุณค่าทุกสิ่งเป็นธรรมดา ยอมรับในธรรมชาติของมัน

Painpoint มันเป็นปัญหา เพราะมัน pain จริงๆ หรือ เพราะความต้องการของเรา

ที่โลกมันมาถึงทุกวันนี้ได้ ไม่ว่าจะโอกาส หรือ ปัญหา มันมาจาก วิธีคิด และทางเลือกของเราทั้งนั้น ในฐานะผู้บริโภครุ่นใหม่ ที่มีความรู้มากมายเธอจะเลือกอะไร

จริงๆแล้ว ดี หรือ ร้าย เป็นอุปโลกส่วนตัวนะ เช่น ถ้าใช้ความรู้สึกตัดสิน เรื่องดี-ร้าย ถ้าเรื่องไหนเราชอบก็บอกว่าดี ไม่ชอบก็บอกว่า ไม่ดี

บางคนเอา เหตุผลเป็นตัวตัดสิน ด้วยหลักการต่างๆ ความรู้ที่มี หรือ ความเห็นส่วนตัว ว่าเรื่องไหน ดี หรือ ร้าย

จะด้วยมาตรวัดไหนก็ตาม ถ้าเกิดขึ้นแล้วเรายอมรับ สรุปไปเลย ว่าเป็นสิ่งดี เสมอ ก็ไม่น่าใช่ เช่นมีการทิ้งระเบิดถล่มเมืองแห่งนึง -นี่ก็ไม่ได้ดีเสมอ

ไม่มองลบด้วยอคติ ไม่ต้องพยายามมองบวก และไม่ต้องพยายามมองกลาง ให้มองตามความเป็นจริง อันไหนเบียดเบียน หรือไม่เบียดเบียน-อันไหนมี หรือ ไม่มีมนุษยธรรม -อันไหนเมตตา หรือ ทารุณ ก็ว่ากันตามความเป็นจริง แบบ ลดอคติ และ ความชอบส่วนตนในการตัดสินให้น้อยที่สุด

เมื่อเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นแล้ว ทำให้เราพัฒนา เต็มศักยภาพมนุษย์ ที่ประเสริฐ มีคุณธรรม มนุษยธรรม เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ต่อโลก และส่วนตนได้

สิ่งที่เกิด หรือ ไม่เกิด ตรงนั้น ไม่สำคัญเท่า วิธีคิด “กระบวนการเรียนรู้ และ พัฒนา” ตรงนั้นต่างหาก ที่ดีเสมอ

เล่มใหม่ 'รวิศ' เปิดจองแล้ว!
(วันนี้- 8 ส.ค. นี้เท่านั้น) ‼️ส่งฟรี‼️

⭐ หนังสือเกี่ยวกับอะไร?

โลกเต็มไปด้วยความผันผวน ทั้งเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเรียนรู้ที่ต้องวิ่งไล่ตามให้ทัน ถูกเสริมให้รุนแรงขึ้นอีกจากโรคระบาดครั้งใหญ่อย่างโควิด-19 ในห้วงเวลาเช่นนี้นับเป็น ‘ช่วงเวลาสำคัญ’ สำหรับทุกคน บางคนถึงขั้นบอกว่าเป็นช่วงเวลาชี้ชะตาว่าธุรกิจไหนจะอยู่ธุรกิจไหนจะไป

ในยามวิกฤตแบบนี้ แต่ละคนล้วนพยายามนิยามตัวตนใหม่ขึ้นมา ผ่านความมุ่งมั่นตั้งใจ ปรับเปลี่ยน พัฒนา วางแผน คิดค้นสร้างสรรค์ และทำทุกวิถีทางเพื่อปรับตัวให้เข้ากับโอกาสที่พอจะมองเห็น ทำทุกกระบวนท่าที่ทำให้ตัวเองอยู่รอด พร้อมกันนั้นก็หาวิธีพาผู้อื่นทั้งทีมงานและเพื่อนร่วมสังคมให้รอดไปด้วยกัน

ช่วงเวลาเช่นนี้เองคือ ‘Defining Moment’ ที่ทุกคนสามารถนิยามตนขึ้นมาใหม่

เป็น ‘รุ่งอรุณแห่งการเปลี่ยนแปลง’ ที่สาดแสงของวันใหม่ หลังความมืดผ่านพ้นไป

เราต้องการความรู้อะไรบ้าง ทักษะประเภทไหน มุมมอง ทัศนคติ วิธีคิด หรือข้อมูลอะไรที่จำเป็น

‘รวิศ หาญอุตสาหะ’ รวบรวมและเรียบเรียงแง่มุมสำคัญสำหรับห้วงยามเช่นนี้ออกมาเป็นงานเขียนขนาดกระชับแต่เข้มข้นด้วยเนื้อหาที่ชวนคิดตาม นับเป็นหนังสือที่เหมาะกับช่วงเวลาอย่างยิ่ง อ่านเพื่อเสริมมุมมองสำหรับตัวเอง ธุรกิจ และโลกขณะนี้ เพื่อนิยามตัวเองใหม่ในช่วงเวลาของ...รุ่งอรุณแห่งการเปลี่ยนแปลง

☀️☀️☀️

⭐ ซื้อยังไง?

เปิดให้สั่งซื้อแล้วตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป!
จนถึง 23.59 น. ของวันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม 2564
ปกแข็งพิมพ์ตามจำนวนสั่งซื้อ หมดแล้วหมดเลย!
📍 สั่งภายใน 7 วันนี้ ทุกเล่มได้ลายเซ็น ‘รวิศ หาญอุตสาหะ’
📍 พิเศษสุด! ส่งฟรี! (ประหยัดค่าส่ง 50 บาท)

☀️☀️☀️


⭐ ซื้อหลายเล่มถูกกว่า!

:: ฉบับปกแข็ง รูปเล่มสวยงาม
:: พิมพ์สองสีทั้งเล่ม 240 หน้า
📖 1 เล่ม ราคา 360 บาท (ส่งฟรี)
📖 2-9 เล่ม ลด 10% เหลือเล่มละ 324 บาท
📖 10-19 เล่ม ลด 17% เหลือเล่มละ 299 บาท
ต้องการซื้อ 20 เล่มขึ้นไป ติดต่อ ‘คุณแบม’ 098-392-8551
(รบกวนติดต่อในช่วงเวลา 8.00-18.00 น. นะครับ)

‼️ ท่านที่ต้องการซื้อปกอ่อน ‼️
เปิดจองปลายเดือนสิงหาคมครับ
:: ปกอ่อนราคา 249 บาท

☀️☀️☀️

:: วิธีสั่งซื้อ
1) พิมพ์จำนวนเล่มที่ต้องการในช่องคอมเมนต์
เช่น ซื้อ 1 เล่ม ให้พิมพ์ D1
ซื้อ 12 เล่ม ให้พิมพ์ D12
แต่ถ้าซื้อ 20 เล่มขึ้นไป โทร 098-392-8551
2) จะมีข้อความเด้งเข้าไปใน inbox ของคุณ
3) เลือกไอเท็มสินค้าที่ต้องการ
4) ดำเนินการจนจบขั้นตอน
(หลังจากชำระเงินเรียบร้อยจะมี Order No.
ส่งเข้าไปใน inbox ของคุณ
แปลว่าจบขั้นตอน รอรับหนังสือได้เลยครับ)

☀️☀️☀️

หนังสือจัดส่งตามลำดับการสั่ง
หนังสือล็อตแรกจะส่งถึงมือผู้อ่าน
วันที่ 5 กันยายน 2564 ทาง Kerry
ติดขัดประการใด โทร. 098-392-8551
(รบกวนติดต่อในช่วงเวลา 8.00-18.00 น. นะครับ)

สั่งซื้อได้ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป
ทางเพจ Roundfinger / เพจ KOOB /
เพจ Mission to The Moon

ขอให้เพลิดเพลินกับการสั่งซื้อ
หนังสือที่อ่านแล้วเติมพลังครับ ☀️

#รุ่งอรุณแห่งการเปลี่ยนแปลง
#definingmoment
#KOOB

Don't Forget To Turn On My Post Notifications

?Let's keep in touch
- Facebook Page: https://www.facebook.com/fomefommelog/​​​
- Instagram : https://www.instagram.com/fomefommedsk

⭐️For collaboration please contact
- Line Official ID: @fomefomme
- Email: fomefommelog@gmail.com

EP.นี้สำคัญมากๆครับเพราะเป็นภาคต่อจากคลิป "เก็บเงิน 1 ล้านบาทแรก" ไปแล้วใน EP.99 ครับ
ซึ่งคลิปนี้เหมาะกับทุกคนที่มีเงินถึงหลักล้าน รวมถึงคนที่ยังมีไม่ถึงหลักล้านก็ต้องห้ามพลาดครับ
เพราะในอนาคตคุณได้แน่ๆ แล้วยังไงต่อหละ เราจะมาพูดถึงกันในEP.นี้ ไปรับชมพร้อมกันครับ

สำหรับใครที่อยากใกล้ชิดกับผมมากกว่านี้และให้การสนับสนุนช่องเพื่อสร้างสรรคอนเทนต์
แบบนี้ต่อๆไปสามารถเข้าไปสมัคร Membership กันได้ตามลิงก์ข้างล่างนี้ครับ
https://www.youtube.com/channel/UCunVACpk7PRWB1tz1VrhrrA/join

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมาตลอดครับ สำหรับใครที่ยังไม่ได้กดติดตาม สามารถเข้าไป
กดติดตามได้ที่ YouTube : https://www.youtube.com/paulpattarapon

ช่องทางการติดตาม
Facebook : https://www.facebook.com/paulpattaraponofficial
Instagram : https://www.instagram.com/paulpattarapon
Website : https://www.paulpattarapon.com

สนใจติดต่อโฆษณา และทำวิดีโอ YouTube
โทร : 092-664-8245
Email : paulpattarapon@anymindgroup.com
Powered by AnyMind Group

#MoneyMatters #PaulPattarapon #พอลภัทรพล

❤️สำหรับผู้หญิงทุกคนที่ต้องการกำลังใจ
ปรึกษาพูดคุยกับเก๋ ฟรี ได้ที่ https://bit.ly/3gjGeLq​
ร่วมเข้ากลุ่ม clubgig พลังใจ กลุ่มแลกเปลี่ยนความคิดเพื่อสร้างพลังใจด้านบวก กดเข้าร่วมที่ลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ
https://bit.ly/39Gewa8