雖然這篇ลีโอนาโด อายุ鄉民發文沒有被收入到精華區:在ลีโอนาโด อายุ這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章
在 ลีโอนาโด產品中有27篇Facebook貼文,粉絲數超過5,916的網紅สาระศาสตร์,也在其Facebook貼文中提到, ลีโอนาโด ดาวินชี คือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในหลายศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นด้านศิลปศาสตร์ ดาราศาสตร์ กายวิภาคศาสตร์ นักพฤกษศาสตร์ และความฉลาดของเขาก็ได้รับการ...
同時也有10部Youtube影片,追蹤數超過70萬的網紅มิติที่ 6,也在其Youtube影片中提到,มิติที่ 6 สัปดาห์นี้ เราจะทิ้งทฤษฎีสมคบคิดเหล่านั้น เพื่อย้อนกลับมาดูเบื้องหลังการมาของเธอ ภาพวาดโมนาลิซา ลีโอนาโด ดาวินชีวาดเธอขึ้นมาทำไม วิจารณญาณ...
「ลีโอนาโด」的推薦目錄
- 關於ลีโอนาโด 在 Bundit Ungrangsee Instagram 的最讚貼文
- 關於ลีโอนาโด 在 Bhudhipong Sreewatana Instagram 的最佳貼文
- 關於ลีโอนาโด 在 Sornsaluck Seesuthorn Instagram 的最佳解答
- 關於ลีโอนาโด 在 สาระศาสตร์ Facebook 的精選貼文
- 關於ลีโอนาโด 在 สาระศาสตร์ Facebook 的最佳貼文
- 關於ลีโอนาโด 在 People Persona Facebook 的最佳貼文
- 關於ลีโอนาโด 在 มิติที่ 6 Youtube 的最佳解答
- 關於ลีโอนาโด 在 FaRaDise Youtube 的精選貼文
- 關於ลีโอนาโด 在 Scoop Viewfinder Youtube 的最佳解答
ลีโอนาโด 在 Bundit Ungrangsee Instagram 的最讚貼文
2020-11-02 11:12:45
เนื้อหาที่จะสอนคอร์สฟรีคืนนี้2ทุ่มครับ.. #8หลักคิดผลิตอัจฉริยะ --- หลักคิดที่ ทำให้ผม ก้าวไปชนะในระดับโลกได้ #มรดกทางปัญญา ให้เป็นวิทยาทาน ขอบคุณ.. ...
ลีโอนาโด 在 Bhudhipong Sreewatana Instagram 的最佳貼文
2020-05-03 22:33:42
ผมไม่เคยเล่นเกมส์ซีรีส์นี้มาก่อนเลย หนังก็ไม่เคยดู แต่พอมีโอกาสได้เล่นภาคแรกจบก็หาภาคที่เหลือมาจนครบตั้งใจว่าจะค่อยๆเล่นให้จบทีละภาคๆ เนื้อเรื่องสนุกม...
ลีโอนาโด 在 Sornsaluck Seesuthorn Instagram 的最佳解答
2020-05-12 12:44:17
Hellooooo 🙌🏻 เห็นเราไม๊ 👀 เราก้จะกลมกลืนๆกะฝรั่งหน่อยนะ 😆 . 🏰🏦 มหาวิหารดูโอโมแห่งมิลาน สัญลักษณ์มิลาน ใช้หินอ่อนในการสร้างเป็นสถาปัตยกรรมโกธิกที่ใหญ่ท...
-
ลีโอนาโด 在 มิติที่ 6 Youtube 的最佳解答
2020-08-23 11:01:25มิติที่ 6 สัปดาห์นี้ เราจะทิ้งทฤษฎีสมคบคิดเหล่านั้น เพื่อย้อนกลับมาดูเบื้องหลังการมาของเธอ ภาพวาดโมนาลิซา
ลีโอนาโด ดาวินชีวาดเธอขึ้นมาทำไม วิจารณญาณจำเป็นต้องใช้ โปรดนำมาวางไว้ข้างภู่กันและจานสี แล้วค่อยมาดูกันต่อว่า เรื่องราวทั้งหมดนี้ มันคืออะไรกันแน่ !!?
-----------
Fanpage : facebook.com/Mitithee6
กลุ่มมิติที่ 6 : facebook.com/groups/Mitithee6Group
Website : www.mitithee6.com
Twitter : twitter.com/mitithee6
------------
แปลและเรียบเรียงโดย นิวัฒน์ อ่ำแสง
------------
ดนตรีประกอบ:
Action Time
Djinn
Cemetary Clown
Apprehensive at Best
-------------------
Echoes of Time, Lightless Dawn, Dreams Become Real, Classic Horror 1 Dark World , Classic Horror 3 และ Crossing the Threshold [Ghostpocalypse]
โดย Kevin MacLeod
ได้รับอนุญาตภายใต้ใบอนุญาต Creative Commons Attribution
(https://creativecommons.org/licenses/by/4.0/)
ที่มา: http://incompetech.com/music/royalty-free/index.html?isrc=USUAN1100663
ศิลปิน: http://incompetech.com/
-----------
ติดต่อโฆษณา: https://www.facebook.com/Mitithee6/inbox/ -
ลีโอนาโด 在 FaRaDise Youtube 的精選貼文
2020-04-17 19:30:03Leonardo DiCaprio เป็นอีกหนึ่งคนที่หลายๆคนชื่นชอบทั้งในและนอกจอ รวมไปถึงทรงผม Iconic ของเขา วันนี้ก็เลยจะมาทำคลิป รวมประวัติทรงผมทั้งหมดของ Leonardo DiCaprio ให้ทุกๆคน เผื่อจะได้เอาเป็นไอเดียในครั้งต่อไปที่จะได้ตัดผม
?SUBSCRIBE TO MY CHANNEL‼️https://www.youtube.com/faradise?sub_...
?FOLLOW ME ON SOCAIL MEDIA ‼️
OUR FACEBOOK PAGE ► @OfficialFaradise
MY FACEBOOK ► Chalermpong koykul
MY INSTAGRAM ► @iamchalermpong
?ติดต่องาน โฆษณา/สปอนเซอร์?
For Business ► [email protected]
#ทรงผม #ทรงผมชาย #Faradise
คลิปอื่นๆเกี่ยวกับทรงผม‼️
เซ็ทผม "3 สไตล์ ใน1ทรง" กับ Hanz De Fuko "Quicksand" : https://bit.ly/2IClf7f
วิธี "เลือกทรงผม" ให้เข้ากับโครงหน้าของคุณ : https://bit.ly/2I7qKM9
10 ทรงผมสุด เท่และดูดี สำหรับ“นักเรียนชาย” : https://bit.ly/2KbjZLB
7 ทรงผมของผู้ชาย ที่ผู้หญิง"ไม่ชอบ" : https://bit.ly/2Zl1nwq
คลิปอื่นๆเกี่ยวกับ แฟชั่น‼️
เสื้อยืด ยี่ห้อไหนดีและคุ้มราคา ที่สุด : https://bit.ly/2MFAjX0
10 วิธี "แต่งตัวให้ดูแพง" ราคาประหยัด : https://bit.ly/2nz6A69
5 วิธี "พับขากางเกง" ให้ดูเท่และมีสไตส์" : https://bit.ly/2lmvR2B
วิธีเลือก "แว่นกันแดด" ให้เข้ากับโครงหน้า ใส่แล้วดูดี : https://bit.ly/2R8oUxs
10 สิ่งที่"ผู้ชายดูดี" ไม่มีวันทำ : https://bit.ly/2m29RKO -
ลีโอนาโด 在 Scoop Viewfinder Youtube 的最佳解答
2020-01-23 12:59:53จากใจ Joker 2019 ถึง Joker ในตำนาน / Parasite กับอีกสถาบันรางวัลที่กวาดมาครอง
ติดตามความเคลื่อนไหวของรายการ
https://www.facebook.com/viewfinderfanpage
#Viewfinder #Joker2019 #Parasite
ลีโอนาโด 在 สาระศาสตร์ Facebook 的精選貼文
ลีโอนาโด ดาวินชี คือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในหลายศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นด้านศิลปศาสตร์ ดาราศาสตร์ กายวิภาคศาสตร์ นักพฤกษศาสตร์ และความฉลาดของเขาก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นอัจฉริยะในรอบพันปี
Michael Gelb ผู้เขียนหนังสือ Think Like Da Vinci ได้รวบรวมข้อมูลจากบันทึกของดาวินชีจากแหล่งต่างๆ โดยเขาได้สังเกตุเห็นถึงลักษณะพิเศษแนวคิดของลีโอนาร์โด ดาวินชี และเรียกสิ่งนั้นว่า หลักแนวคิด 7 ประการ โดยเขาได้ตั้งชื่อแนวทางต่างๆ เป็นภาษาอิตาเลียน เพื่อเป็นเกียรติแก่ดาวินชี และเรียกแนวทางทั้งเจ็ดนี้ว่า Seven Da Vincian Principles
หลักการที่ 1 Curiosita ( Curious )
Curious หรือ ความอยากรู้ อยากเห็น อาจจะพูดได้ว่ามนุษย์ทุกคนมีความอยากรู้อยากเห็นอยู่กับตัวทุกคน เพียงไม่รู้ว่าจะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไร ดาวินชีเป็นคนที่มีความสนใจใคร่รู้ในสิ่งต่างๆ รอบตัวตั้งแต่เรื่องใกล้ตัวที่สุดอย่างร่างกายตนเอง ด้วยความสงสัยว่าร่างกายมนุษย์ทำงานยังไง เขาจึงลงมือวาดภาพร่างกายของมนุษย์อย่างละเอียดจนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ วิชากายวิภาคศาสตร์
ดาวินชี จะคอยถามคำถามต่างๆ กับสิ่งรอบๆตัวเสมอ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น อยากจะทำความเข้าใจต่อสิ่งต่างๆ ให้ถูกต้องและชัดเขน ทำให้ดาวินชีไม่หยุดที่จะแสวงหาความรู้ใหม่ๆ ใส่ตัวตลอดชีวิตของเขา
หลักการที่ 2 Dimostrazione ( Demonstration )
คือการนำความรู้ที่มีอยู่ไปลองใช้จริง เพื่อก่อให้เกิดการเรียนรู้จากประสบการณ์ และความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ประสบการณ์คือเป็นบ่อเกิดสำคัญของสติปัญญา ดาวินชีเองเป็นผู้ที่ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์เป็นอย่างมาก ด้วยความเป็นหัวขบถและความเป็นนักวิทยาศาสตร์ ดาวิชีจึงไม่ค่อยจะยอมรับต่อความเชื่อที่ยังไม่ผ่านการทดลองและการพิสูจน์ โดยตัวของดาวินชียอมรับว่า "การที่จะเรียนรู้จากประสบการณ์นั้น มักจะหนีไม่พ้นการเรียนรู้จากความผิดพลาด"
หลักการที่ 3 Sensazione ( Sensation )
ดาวินชีเป็นคนที่ให้ความสำคัญต่อประสาทสัมผัสทั้งห้า ( การมองเห็น ได้ยิน สัมผัส รสชาติ และกลิ่น ) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ( การมองเห็น ) ผ่านทางการวาดภาพ ตามมาด้วย ( การได้ยิน ) ผ่านดนตรี นอกจากนี้ดาวินชี ก็ยังให้ความสำคัญต่อประสาทสัมผัสด้านอื่น ไม่ว่าจะเป็นการสวมเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าที่ดีที่สุด ( สัมผัส ) ในห้องทำงานของดาวินชีจะอบอวลด้วยกลิ่นดอกไม้ และน้ำหอมตลอดเวลา ( กลิ่น ) ส่วนในด้านการกิน ดาวินชีเป็นผู้ที่ให้ความสำคัญต่อการออกแบบ และรสชาติของอาหาร ( รสชาติ ) สิ่งที่น่าสนใจคือ ดาวินชีเป็นคนแรกๆ ที่สร้างสรรค์แนวคิดของการนำเสนออาหารที่คำไม่ใหญ่ แต่อุดมด้วยสุขภาพ
สิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในเรื่องประสาทสัมพัสทั้ง 5 ของ ดาวินชีคือคำพูดของเขาที่กล่าวว่า
" looks without seeing, listens without hearing, touches without feeling, eats without tasting, inhales without awareness of odour or fragrance and talks without thinking"
หรือแปลเป็นไทยได้ว่า " มองโดยไม่เห็น ฟังโดยไม่ได้ยิน สัมผัสโดยไม่รู้สึก กินโดยไม่รู้รสชาติ หายใจเข้าโดยไม่ตระหนักถึง กลิ่นหอม และพูดโดยไม่คิด"
หลักการที่ 4 Sfumato
หลักข้อนี้ใช้คำว่า Sfumato เป็นเทคนิคภาพสีหม่นที่เป็นแบบฉบับของ ลีโอนาโด ดาวินชี เป็นการลงสีที่บางและเบาเหมือนหมอกหรือควันจางๆ โดยไม่มีเส้นตัดหรือขอบที่ชัดเจน เป็นภาพที่มองได้หลายแง่ ตีความได้หลายมุม ตามแต่ผู้มองภาพจะจินตนาการ
Sfumato เปรียบได้กับ ความพร้อม ความเต็มใจ ที่จะต้องเผชิญกับความคลุมเครือ (Ambiguity) ความขัดแย้ง (Paradox) และความไม่แน่นอน (Uncertainty)
ในยุคสมัย Renaissance แนวคิดของดาวินชีต้องถือว่าล้ำหน้าคนในยุคสมัยเดียวกันไปหลายร้อยปี ทำให้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ตัวดาวินชีจะต้องเผชิญกับความคลุมเครือ ความไม่แน่นอน รวมถึงความขัดแย้งในแนวคิดต่างๆ อยู่ตลอดเวลา แต่ตัวของดาวินชีก็ยังสามารถที่จะคิดสร้างสรรค์และจินตนาการในสิ่งใหม่ที่ไม่ใครนึกภาพและจินตนาการตามเขาทัน การทำสิ่งที่ไม่ชัดเจนให้กลายเป็นภาพชัดเจน ซึ่งสิ่งนี้ที่เป็นตัวกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ให้กับดาวินชี เพราะเขาต้องคิดและจินตนาการอยู่เสมอ
หลักการที่ 5 Corporalita ( Cooperation )
หรือ ความสมบูรณ์ของปัญญาและร่างกาย เรามักจะไม่ค่อยเชื่อมโยง ระหว่างบุคคลที่ฉลาด กับบุคคลที่มีร่างกายที่สมบูรณ์ แต่เรื่องนี้ดาวินชีคงจะไม่เห็นด้วยซักเท่าไหร่ เพราะตัวของดาวินชีเองถือว่าเป็นผู้ที่มีร่างกายที่สมบูรณ์ผู้หนึ่ง คนในยุคเขาเรียกดาวินชี ว่า เป็นผู้ที่มีร่างกายที่สวยงาม (Great physical beauty) ในยุคนั้นดาวินชีมีชื่อมากในเรื่องของความสมบูรณ์ แข็งแรงของร่างกาย หรือแม้แต่นักวิชาการจำนวนมากก็ระบุว่า การที่ดาวินชีให้ความสนใจอย่างมากต่อร่างกายของมนุษย์นั้น ก็เนื่องมาจาก ความสมบูรณ์ในร่างกายของเขาเอง ดาวินชีจะบอกไว้เสมอให้รักษาสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดี เนื่องจาก ความพร้อมของร่างกาย จะส่งผลกระทบต่อความพร้อมของสมอง ถ้าร่างกายเราอ่อนแอหรือเจ็บป่วย ก็ย่อมส่งผลต่อจิตใจและความคิดของเราด้วย
หนักการที่ 6 Arte/Secienza ( Art/Science )
คือการสร้างความสมดุลระหว่าง วิทยาศาสตร์และศิลปะ เหตุผลกับจินตนาการ หรือการคิดโดยใช้สมองทั้ง 2 ด้าน
เราคงทราบอยู่แล้วว่า การใช้สมองด้านขวา คือการใช้สมองเชิงสร้างสรรค์ การใช้สมองด้านซ้าย คือการใช้สมองในเชิงตรรกะ เหตุผล แต่คนส่วนใหญ่มักจะถนัดใช้สมองเพียงข้างใดข้างหนึ่งในการคิดตัดสินใจ เช่น คนที่ถนัดใช้สมองด้านซ้าย จะเรียนหนังสือดี มีหลักการ แต่ขาดจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ คนที่ถนัดใช้สมองด้านขวา มักมีไอเดียมากมายฟุ้งอยู่ในหัว มีโปรเจคมากมาย และจินตานาการสูง แต่ขาดหลักการและเหตุผล
ดาวินชีเป็นทั้งนักคิด นักวิทยาศาสตร์เอกของโลก และในขณะเดียวกัน ก็เป็นศิลปินเอกของโลก ดาวินชีเองยอมรับในหลายโอกาสว่า ในการสร้างสรรค์งานศิลปะนั้น เขาได้นำเอาหลักการทางวิทยาศาสตร์เข้ามาผสมผสาน ทำให้ดาวินชีเป็นคนที่สามารถมองเห็นทั้งภาพรวม (ใช้สมองข้างขวาเป็นหลัก) และรายละเอียดของสิ่งต่างๆ (ใช้สมองข้างซ้ายเป็นหลัก) ได้พร้อมกัน
หลักการที่ 7 Connessione ( Connection )
การเชื่อมโยง หรือ Conecting the dot การให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งต่างๆ
ดาวินชีเป็นผู้ที่ปฏิบัติตามแนวคิดนี้มาตลอด งานหลายๆ ชิ้นของดาวินชีแสดงให้เห็นถึงความสามารถของเขาในการคิดเชิงองค์รวม หรือความสัมพันธ์ระหว่าง ปัจจัยต่างๆ รูปภาพหลายรูปของดาวินชีก็เป็นผลจากความสามารถในการเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปของสัตว์ในเทพนิยาย) และตัวอย่างของบุคคลที่มีความคิดแบบเชื่อมโยงคล้ายกับดาวินชี ที่หลายท่านรู้จักกันเป็นอย่างดี คนผู้นั้นก็คือ สตีฟ จ็อบส์ อัจฉริยะคนล่าสุดของโลกนั่นเอง
ลีโอนาโด 在 สาระศาสตร์ Facebook 的最佳貼文
ความหมายของชื่อสายพันธุ์มนุษย์นั้น แปลว่า "มนุษย์ที่ฉลาด" หรือที่รู้จักกันดีว่า โฮโมเซเปียนส์ (Homo sapiens) (homo = มนุษย์ sapiens = ฉลาด)
ระยะเวลา 2564 ปีของมนุษย์ตั้งแต่ที่เริ่มมีการนับพุทธศักราช ได้กำเนิดมนุษย์ที่มีความฉลาด และมีความสามารถมากมาย บ้างก็เป็นนักปราชญ์ บ้างก็เป็นจิตกร บ้างก็เป็นนักธุกิจ ภูมิปัญญามากมายต่างถูกส่งต่อจากอดีต มาถึงยังพวกเราคนในยุคปัจจุบัน
1. ขงจื๊อ นักคิดและนักปรัชญา ( 8 กันยายน 551 – 479 ปีก่อน ค.ศ )
คำสอนของขงจื๊อนั้น ฝังรากอิทธิพลลึกลงไปในสังคมเอเชียตะวันออกมาเป็นเวลาถึง 20 ศตวรรษ หลักปรัชญาของขงจื๊อนั้นเน้นเกี่ยวกับศีลธรรมส่วนตัว และศีลธรรมในการปกครอง ความถูกต้องเหมาะสมของความสัมพันธ์ในสังคม และ ความยุติธรรมและบริสุทธิ์ใจ นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ผู้มีคนให้ความเคารพศรัทธา และยึดถือแนวทางคำสอนกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ได้สอนหลักในการคบคนไว้ ดังนี้ "การคบคน ต้องเลือกคบคนที่มีคุณธรรมสูงกว่าหรือเท่า ๆ กับเรา" หากเราคบหาสมาคมกับคนที่ขาดคุณธรรม จะทำให้จิตใจของเรา ตกต่ำตามไปด้วย ดังนั้น ถ้าอยากมีชีวิตที่ดี มีความสุข ประสบความสำเร็จ จะต้องเลือกคบคนดีมีคุณธรรม
หลักการของจื๊อได้แก่
#ศาสตร์สี่แขนง
รากฐานที่ขงจื๊อวางไว้ ได้แก่ วัฒนธรรม ความประพฤติ ความจงรักภักดี และ ความซื่อสัตย์ โดยวัฒนธรรมเน้นถึงการเคารพบรรพบุรุษและพิธีการโบราณ ยึดถือผู้อาวุโสเป็นหลัก แต่ไม่ยึดติดหรืออายที่จะหาความรู้จากคนที่ต่ำชั้นหรืออายุน้อยกว่า
#แปดหลักการพื้นฐานในการเรียนรู้
ได้แก่ สำรวจตรวจสอบ ขยายพรมแดนความรู้ จริงใจ แก้ไขดัดแปลงตน บ่มเพาะความรู้ ประพฤติตามกฎบ้านเมือง ประเทศต้องได้รับการดูแล นำความสงบสุขมาสู่โลก
#ลำดับการเรียนรู้
ได้แก่ พิธีกรรม ดนตรี ยิงธนู ขี่ม้า ประวัติศาสตร์ และ คณิตศาสตร์
#คุณธรรมทั้งสาม
ได้แก่ ภูมิปัญญา เมตตากรุณา และความกล้าหาญ
#สี่ขั้นตอนหลักการสอน
ตั้งจิตใจไว้บนมรรควิธี ตั้งตนในคุณธรรม อาศัยหลักเมตตาเกื้อกูล สร้างสรรค์ศิลปะใหม่
#สี่ลำดับการสอน
ได้แก่ คุณธรรมและความประพฤติ ภาษาและการพูดจา รัฐบาลและกิจการบ้านเมือง และสุดท้ายคือวรรณคดี
2. ลีโอนาโด ดาวินชี จิตรกร นักปั้น นักพฤกษศาสตร์ ( 15 เมษายน ค.ศ. 1452 - 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1519 )
คงมีน้อยคนที่จะไม่รู้จัก ลีโอนาโด ดาวินชี เพราะความสามารถอย่างล้นเหลือ จนเป็นที่กล่าวขวัญไปทั่วโลก ชายผู้ที่เป็น จิตรกร นักปั้น นักพฤกษศาสตร์ และบิดาแห่งศิลปะทางด้านกายวิภาคศาสตร์ (Gross Anatomy) สิ่งที่ดาวินชี่ได้ถ่ายทอดไว้ให้แก่ชาวโลกมีมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ ปรัชญาในการดำรงชีวิตที่เป็นอมตะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทุกเวลา ทุกสถานที่
หลักปรัชญาที่สำคัญจากหนังสือเรื่อง How to Think Like Leonardo da Vinci แต่งโดย Michael Gelb มีใจความสำคัญ ดังนี้
"คุณมองแต่คุณไม่เห็น (You look but you don't see)
คุณฟังแต่คุณไม่ได้ยิน (You listen but you don't hear)
คุณสัมผัสแต่คุณไม่รู้สึก (You touch but you don't feel)
คุณพูดแต่ไม่ได้คิดก่อนที่จะพูด (You speak but you don't think)"
มนุษย์มักทำอะไรโดยขาดสติ ไม่รู้เนื้อรู้ตัว ทำให้ประสิทธิภาพในการเรียนรู้ต่ำลง การมีสติตลอดเวลา ทำให้ความสามารถในการเรียนรู้รวดเร็ว ว่องไว และเฉียบคม สามารถรู้ว่าตนเองกำลังทำอะไร ที่ไหน อย่างไร และเพื่ออะไร สามารถเลือกเส้นทางชีวิตของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีชีวิตเป็นของตนเอง
3. เดล คาร์เนกี นักเขียนและผู้พัฒนาหลักสูตรการพัฒนาตนเอง (24 พฤศจิกายน 1888 – 1 พฤศจิกายน 1955)
อดีตเด็กรับจ้างตัดหญ้าด้วยค่าแรงชั่วโมงละ 5 เซนต์ สู่นักพูดค่าตัวนาทีละ 1 ดอลลาห์ และนักเขียนผู้ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของหนังสือที่ขายดีที่สุดตลอดกาลอย่าง How to Win Friends and Influence People และ How to Stop Worrying and Start Living
หากคุณอยากที่จะผูกมิตรกับใครสักคน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามลองปฏิบัติตาม กฏทั้ง 6 ข้อนี้
กฎข้อที่ 1 จงเอาใจใส่อย่างแท้จริงต่อผู้อื่น
การผูกมิตรกับผู้อื่นจะได้ผลเรียบร้อยภายในสองเดือนด้วยการเอาใจใส่อย่างแท้จริงต่อเค้าผู้นั้น มันดีกว่าที่จะให้คนอื่นมาพยามใส่ใจเรา เพราะธรรมชาติของมนุษย์ชอบที่จะรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ เริ่มจากใส่ใจที่จะจำชื่อใครก็ตามที่อยากรู้จักตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ใส่ใจรายละเอียดเล็กน้อยของเค้าไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ชอบ สีโปรด หรือแม้แต่ความเป็นอยู่ของคนในครอบครัวของเค้าคนนั้น
กฎข้อที่ 2 ยิ้ม
รอยยิ้มเป็นสิ่งมีค่าที่เราให้คนอื่นได้ฟรีๆ หมั่นยิ้มทักทายให้ทุกคนที่ท่านอยากผูกมิตรด้วย รอยยิ้มเปรียบเสมือนเป็นประตูแห่งความสัมพันธ์ เมื่อรอยยิ้มปรากฎมาบนรอยหน้าของคนใดคนนึง เรื่องต่อๆ ไปก็จะง่ายเอง
กฎข้อที่ 3 จงจำไว้ว่าชื่อของบุคคลใดก็ตามสำหรับบุคคลนั้นเป็นสำเนียงหวานที่สุดและสำคัญที่สุดในภาษามนุษย์
หมั่นทักทายผู้อื่นด้วยชื่อของเค้า จดจำชื่อของคนที่ท่านปราถนาจะผูกมิตรให้แม่น เอ่ยชื่อของเค้าอย่างชัดถ้อยชัดคำเมื่อท่านต้องการสรรเสริญถึงความดีความชอบใดๆ ที่เค้าทำ ทั้งหมดทั้งมวลนี้เพราะคนเราให้ความสำคัญกับชื่อตัวเองอย่างที่สุด
กฎข้อที่ 4 จงเป็นนักฟังที่ดี
จงสนับสนุนให้อีกฝ่ายหนึ่งคุยถึงเรื่องของเขา พูดถึงตัวเองให้น้อยฟังคนอื่นพูดให้เยอะ ทุกคนล้วนอยากเป็นคนสำคัญ อยากถูกเอาใจใส่ การรับฟังเป็นเรื่องง่ายๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการเหล่านั้นได้ หากคุณทำได้คุณจะเป็นคู่สนทนาคนโปรดของใครหลายๆ คน
กฎข้อที่ 5 สนทนาในเรื่องที่อีกฝ่ายสนใจ
ศึกษาดูว่าคนที่คุณอยากผูกมิตรชอบอะไรเป็นพิเศษ คุณสามารถหยิบมาเป็นประเด็นในการสนทนาได้เสมอ หากคุณทำการบ้านมาดีคุณจะคุยกับเค้าคนนั้นได้อย่างลื่นไหล
กฎข้อที่ 6 จงทำให้ผู้อื่นรู้สึกสำคัญ และจงทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ
เราทุกคนต่างมีข้อดีในแบบของตัวเอง ไม่ว่าใครก็ต้องมีเรื่องที่เก่งกว่าคนอื่นสักเรื่องสองเรื่อง ในขณะเดียวกันผู้อื่นก็มีเรื่องที่เราเทียบไม่ได้เลยเช่นกัน หาเรื่องนั้นให้เจอและเอ่ยปากชมเค้าผู้นั้นด้วยความบริสุทธิ์ใจ
4. นโปเลียน ฮิลส์ เนักเขียนแนวพัฒนาตัวเอง ( 26 ตุลาคม 1883 – 8 พฤศจิกายน 1970 )
ปี 1928 นโปเลียน ฮิลล์ ได้เผยแพร่ผลงานของเขา กฎแห่งความสำเร็จ (The Law of Success) ได้แสดงถึง 45 รายชื่อที่เขาศึกษา “ชีวิตส่วนใหญ่ของบุคคลเหล่านี้ในระยะใกล้ ด้วยตัวเอง” เช่นเดียวกับบุคคลที่หนังสือได้อุทิศไว้ แอนดรูว์ คาร์เนกี้, เฮนรี่ ฟอร์ด และ เอ็ดวิน ซี บานส์ (ผู้ร่วมงานของ โทมัส เอดิสัน) คาร์เนกี้ได้ให้จดหมายแนะนำฮิลล์แก่ฟอร์ด ซึ่งเป็นผู้แนะนำให้ฮิลล์รู้จักกับ อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์, เอลเมอร์ อาร์ เกตส์, โทมัส เอดิสัน และ ลูเธอร์ เบอร์แบงก์
"ท่านทำได้ ถ้าท่านคิดว่าท่านทำได้"
การเชื่อมั่นในตนเองไม่ใช่การหลอกตัวเอง แต่เป็นการตั้งหลักในจิตใจว่า เราจะต้องทำสิ่งเหล่านั้นให้จงได้ เมื่อเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนพอที่จะเป็นไปได้ และท้าทายความสามารถในระดับหนึ่งรวมกับขั้นตอนและกลยุทธต่าง ๆ ที่จะต้องทำและแผนสำรอง เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ "ความเชื่อมั่นว่าเราสามารถทำได้"
"ว่าวจะลอยสูงได้ต้องมีลมมาปะทะ"
ผู้ที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น จะต้องฟันฝ่าอุปสรรคนานัปการ ต้องรับได้ในทุกสถานการณ์ และเมื่อเจอปัญหาต้องนิ่งสงบใช้สติปัญญาแก้ไขปัญหาอย่างสุดความสามารถ
5. แจ็ค เวลช์ ผู้จัดการแห่งศตวรรษที่ 21 ( 19 พฤศจิกายน 2478 - 1 มีนาคม 2563 )
แจ็ค เวลซ์ คือ หนึ่งใน CEO ที่ประสบความสำเร็จจนมีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของโลก พูดได้ว่า ไม่มีหนังสือที่เกี่ยวกับ CEO เล่มไหนในโลกที่ไม่อ้างถึงแนวคิดและวิธีการบริหารจัดการของ แจ็ค เวลซ์ เขาจึงเป็น“ต้นแบบ”ที่ผู้บริหารระดับสูงในองค์กรชั้นนำทั่วโลกต่างยึดถือเป็นแบบอย่าง
แจ็ค เวลส์ คืออดีต CEO ของบริษัท General Electric หรือ GE ที่มีค่าตัวสูงที่สุดในโลก สุดยอดแนวคิดของ Jack Welch นำมาจากหนังสือเรื่อง Control the Destiny or Someone Else Will คือการรู้จักกำหนดชะตาชีวิตของตนเองก่อนที่คนอื่นจะเข้ามาบงการชีวิตคุณ
"Live with the present reality as it is, not the kind of reality that used to be in the past or the reality that you want it to be"
"จงอยู่กับความเป็นจริงในปัจจุบันที่คุณกำลังประสบอยู่ ไม่ใช่ความเป็นจริงที่มันเคยเป็น หรือความเป็นจริงที่คุณอยากให้มันเป็น"
จงอยู่กับปัจจุบัน มนุษย์มักยึดติดกับความสุข ความสำเร็จในอดีต และคิดว่ามันจะต้องเป็นเช่นนั้นดังเดิมตลอดไป แต่เมื่อปัจจุบันไม่เป็นอย่างที่หวังก็เศร้าเสียใจ หรือติดกับความทุกข์ในอดีตจนไม่กล้าที่จะทำสิ่งใดต่อไปในอนาคต ชีวิตก็จมปรักอยู่กับที่ การดำเนินชีวิตเพื่อไปสู่ความสำเร็จ คือการอยู่กับปัจจุบันทิ้งอดีต และทำวันนี้ให้ดีที่สุด
6. สตีฟ จ็อบส์ นักธุรกิจและนักประดิษฐ์ (24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1955 - 5 ตุลาคม ค.ศ. 2011)
ชายผู้ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีแห่งทศวรรษ 21 อัจฉริยะผู้พลิกโลกแห่งวงการไอที แม้ว่าในวันนี้เขาจะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่สิ่งที่เขาสร้างเอาไว้ได้เปลี่ยนแปลงโลกของไอทีไปตลอดกาล และตลอดระยะเวลาของการมีชีวิตอยู่ สตีฟ จ็อบส์ ก็ได้ทิ้งบทเรียนดีๆไว้มากมาย
8 บทเรียนที่ สตีฟ จ๊อปส์ ได้บอกคนทั้งโลกผ่านการทำงานของเขาทั้งชีวิตได้แก่
1. อย่าไปฟังความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ
ไม่ว่าจะเป็นนักวิเคราะห์ หรือพวกกูรูทั้งหลาย ความเห็นของพวกเขาเป็นร้อยก็ช่วยคุณเป็นผู้ประกอบการไม่ได้หรอก มันก้เป็นเพียงแค่ “ความเห็น” เท่านั้น
“ถ้าคุณเป็นผู้ประกอบการตัวจริง หาทางเอาเองสิ อย่ามัวแต่พึ่งคนอื่น”
2. ลูกค้าบอกไม่ได้หรอกว่าเขาต้องการอะไร
สตีฟ จ็อฟส์บอกเสมอว่า “หลายๆครั้ง คนก็บอกไม่ได้ว่าเขาต้องการอะไรจนกว่าคุณเอาสิ่งที่พวกเขาอยากได้ไปให้เขาเห็น” จงหาปัญหาของผู้คนให้เจอแล้วแก้ปัญหาให้เขาก่อนที่คนอื่นจะทำ
3. ดีไซน์เป็นเรื่องจำเป็น
"ในโลกที่คนพูดแต่เรื่องราคา การออกแบบก็เป็นเรื่องสำคัญ สำหรับหลายๆคนแล้ว ดีไซน์เป็นสินค้าอย่างหนึ่งด้วย"
4. จงทำให้ดีขึ้น 10 เท่า ไม่ใช่ 10 %
นวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่จะเกิดขึ้นถ้าผู้ประกอบการทำสินค้าและบริการให้ดีขึ้น 10 เท่า ไม่ใช่เพียงแค่ 10%
5. ความเป็นเลิศ
ผู้คนตัดสินคุณจากการกระทำ ดังนั้นจงมุ่งเป้าหมายไปที่ผลลัพธ์ จงเป็นมาตราฐานในการวัดคุณภาพ เพราะคนบางคนไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมที่ต้องการความเป็นเลิศ
6. อย่ากลัวการแข่งขัน
ผมไม่คิดว่า Apple เป็นเจ้าของผม ผมคิดว่าผมเป็นเจ้านายตัวเอง และการที่ผมจะไม่สามารถทำอาชีพที่ถนัดได้อีกในชีวิตนี้ผมเห็นว่าเป็นเรื่องประหลาดพิลึก เราไม่ได้นำเทคโนโลยีหรือความคิดที่เป็นของ Apple โดยเฉพาะใดๆไปจากที่นั่น ไม่มีอะไรที่ระบุว่า Apple ไม่สามารถแข่งขันกับเราถ้าพวกเขาคิดว่าสิ่งที่เราทำนั้นเป็นความที่วิเศษ มันยากนะที่จะคิดว่าบริษัทที่มีมูลค่า 2,000 ล้าน และพนักงานกว่า 4,300 คน จะไม่สามารถแข่งขันกับคนนุ่งกางเกงยีนส์แค่หกคน ( หลังจากที่ สตีฟ จ็อบส์ โดนไล่ออก เขาและอดีตพนักงาน Apple ทั้งหกคนต่อมาได้ก่อตั้งบริษัท NEXT )
7. ปฏิเสธเพื่อเป้าหมาย
คนมักคิดว่าการมุ่งเป้า หมายถึง การตอบรับสิ่งที่คุณต้องมุ่งไปหา แต่นั่นไม่ใช่ความหมายของมันเลย มันหมายถึงการ "ปฏิเสธ" ความติดดีๆ อื่นๆ นับร้อยต่างหาก คุณต้องเลือกอย่างระมัดระวัง จรีงๆแล้วผมภูมิใจที่ไม่ได้ทำพอๆกับสิ่งที่ได้ทำ นวัตกรรมนั้นคือ "การปฏิเสธ" อะไรเป็นพันๆอย่าง
8. คิดอย่างผู้เริ่มต้น
ความหนักอึ้งของการประสบความสำเร็จถูกแทนที่ด้วยความเบาหวิวของการเป็นผู้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ความรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจในทุกอย่าง มันทำให้ผมมีอิสระที่จะเข้าสู่ช่วงเวลาที่สร้างสรรค์ที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิต
ลีโอนาโด 在 People Persona Facebook 的最佳貼文
Oscars Seeker (I’ll finally find you!)
จากเด็กหนุ่มผู้กุมหัวใจสาวๆทั่วโลก สู่ตำนานผู้พลาดรางวัลออสการ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ลีโอนาโด ดิคาปริโอ”
.
ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ เป็นชาวอเมริกัน เขาเกิดเมื่อปี 2517 วันที่ 11 พฤศจิกายน ... ลีโอนาร์โด เริ่มงานแสดงของเขาในปี ค.ศ.1990 หลังจากที่ลีโอนาร์โด...เข้าเรียนเกี่ยวกับภาพยนตร์นั้น เขาได้มีโอกาสได้เล่นละครทีวีซีรีส์ เรื่อง Mickey's Safety Club ในบทจอช (Josh) และได้แสดงเรื่อง Critters 3
.
แล้วในปีถัดมาคือ ค.ศ. 1991 เขาได้แสดงในหนังซิตคอมเรื่อง Growing Pains และได้แจ้งเกิดในบท โทเบียส วุล์ฟ หนังของผู้กำกับ ไมเคิล เคตัน-โจนส์ ในภาพยนตร์เรื่อง This Boy’s Life แสดงร่วมกับ โรเบิร์ต เดอ นีโร และเอลเลน บาร์กกิน หลังจากนั้นก็ทำให้เขาเป็นที่รู้จักมากขึ้นในสายการแสดง
.
ซึ่งนำพาให้ ลีโอนาร์โด ได้มาแสดงร่วมกับ จอห์นนี เดปป์ในปี ค.ศ.1993 เรื่อง What’s Eating Gilbert Grape ทำให้ตัวเขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำเป็นครั้งแรก!... จากผลงานการแสดงในบทชายหนุ่มพิการทางจิต ที่ผิดปกติ นอกเหนือจากนั้นเขาได้รับรางวัล National Board of Review Award ด้าน Best Supporting Actor และรางวัล Los Angeles Film Critics Association’s New Generation Award อีกด้วย (ยิ่งทำให้เขาเป็นที่รู้จักมากขึ้นไปอีก)
.
ถ้าพูดถึง ลีโอนาร์โด คงหนีไม่พ้นภาพยนตร์ที่โด่งดังที่สุด! ที่ไม่ว่าใครๆก็รู้จัก นั่นก็คือเรื่อง Titanic เป็นภาพยนต์ในปี ค.ศ.1997 ตัวเขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล ลูกโลกทองคำอีกครั้ง... และผลงานของภาพยนต์เรื่องนี้ทำลายสถิติทุกๆ Box Office ในปีนั้น จนนำไปสู่การได้รับรางวัลออสการ์ 11 รางวัลด้วยกัน และรางวัลลูกโลกทองคำ อีก 4 สาขา คือ
* รางวัลออสการ์ ชนะเลิศ 11 สาขา ได้แก่
* สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
* สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม
* สาขาถ่ายภาพยอดเยี่ยม
* สาขาออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม
* สาขาเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม
* สาขาบันทึกเสียงยอดเยี่ยม
* สาขาลำดับเสียงยอดเยี่ยม
* สาขาลำดับภาพยอดเยี่ยม
* สาขาดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
* สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
* สาขากำกับศิลป์ยอดเยี่ยม
* รางวัลลูกโลกทองคำ ชนะเลิศ 4 สาขา ได้แก่
* สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ดราม่า
* สาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
* สาขาดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
* สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
.
‘ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ’ เป็นนักแสดงชายที่ได้รับรางวัล พร้อมได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลตุ๊กตาทองถึง 3 ครั้งด้วยกัน! ... ซึ่งได้แก่ภาพยนต์เรื่อง
.
Best Actor – Motion Picture Drama
2005 - The Aviator
Best Actor – Motion Picture Musical or Comedy
2014 - The Wolf of Wall Street
Best Actor – Motion Picture Drama
2016 - The Revenant
.
นอกจากอาชีพการแสดงของเขา เขายังรักในการทำงานการกุศล ,การอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือรักษาสิ่งแวดล้อมโลก พร้อมกับก่อตั้ง Leonardo Dicaprio Foundation ในปี ค.ศ. 1998
.
ต่อมา LeonardoDicaprio.org ได้ร่วมงานกับองค์กรอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรเกี่ยวกับเรื่องภาวะโลกร้อน ,พลังงานทางเลือกต่างๆ เขายังเป็นคณะกรรมการของ NRDC และ Global Green USA ในปี 2007 เขาเขียนบท อำนวยการสร้างภาพยนตร์สารคดีเรื่องดัง The 11th Hour และ พากย์เสียงด้วยตนเองอีกด้วย
.
แต่นั่นแหละค่ะ...มีเพียงสิ่งเดียวที่เขารอมาเนิ่นนานกว่า 23 ปี...สิ่งนั้นก็คือ รางวัลออสการ์ สาขา "นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Actor in a Leading Role)"
ที่เขาโดนเสนอชื่อเข้าชิงกว่า 5 ครั้งด้วยกัน (ค.ศ.1993-2016) แต่กลับต้องกินแห้วไปหลายครั้ง
.
จนกระทั่ง The Academy Awards ครั้งที่ 88 เขาได้รับรางวัลออสการ์ จากหนัง เรื่อง Revenant รางวัลออสการ์ สาขา "นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Actor in a Leading Role)" ตามที่เขารอคอยได้สำเร็จ! เขาถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก...ไม่ว่าจะเป็นบนโซเชียล หรือบนหนังสือพิมพ์ ทุกคนล้วนให้ความสนใจกับข่าวนี้ จนขึ้นเทรนทวิตเตอร์...
.
23 ปี ที่รอคอย
.
23 ปี ที่ ลีโอนาร์โด ยังคงเต็มที่ในเส้นทางนักแสดงของเขา ต่อให้เขาจะได้รับรางวัลที่เขารอคอยไปแล้ว เราก็รองานจากนักแสดงคุณภาพคนนี้เสมอ ผู้ซึ่งไม่เคยทำให้แฟนๆผิดหวัง
.
‘ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ’
#Peoplepersona
#fftudy