Dark คือสุดยอดซีรีส์ที่เริ่ดและสมบูรณ์แบบไปหมดควรค่าแก่แก่การนั่งปวดหัวรับชมมากกกกก ใครที่ไม่ได้ชมคือพลาดมาก!!!!!! (อ่านได้ มีบอกว่าสปอยล์ตอนไหนเป็นวงเล็บๆ)

นี่คือซีรีส์ที่คะแนนสูงที่สุดใน Netflix นะ ! รับชมได้ทาง Netflix (รีวิวนี้ยาวมากกกกกกกกก)
.
มาปวดหัวไปด้วยกันครับ อีเหี้ยยยยยยยยย นี่คือคำอุทานที่บอกเลยว่าขอชมแบบอวยเลยว่า เจ๋งมากกกกกกก เยอรมันมึงคิดพล็อตเรื่องออกมาได้ยังไง สมองมึงมีกี่กลีบกี่ขด แม่งอหังการแห่งการครีเอทมากกกกกก เล่นใหญ่มากกก เกิดมาไม่เคยดูอะไรที่ซับซ้อนขนาดนี้เหมือนเอาสามก๊กทุกเล่มมาฉีกเป็นแผ่นๆแล้วโปรยลงมาจากท้องฟ้าให้คนดูนั่งเรียงลำดับกันใหม่ ด้วยความที่ว่าตัวละครแม่งเยอะมากกกกก ยังไม่พอ มันยังมีห้วงเวลาที่ทับซ้อนกันตั้ง 4 ช่วงเวลา ไม่สิ 5 ช่วงเวลาด้วย กินเวลารวมกันกว่า 130 ปี ตัวละครร่วม 20 ตัว แถมพูดภาษาเยอรมันทั้งเรื่อง แต่มันคุ้มค่ากับการเสียเวลาและนั่งปวดหัวมากกกก ใครเป็นสมาชิก netflix แล้วไม่ดูนี่บอกเลย เสียชาติเกิดเป็นสมาชิกมาก!!!
.
Dark เริ่มเรื่องในเมืองวินเดน วันที่ 21 มิถุนายน2019 มิคาเอล ตัดสินใจผูกคอตายแล้วเขียนจดหมายลาตายโดยระบุเอาไว้ว่าให้เปิดอ่านวันที่ 4 พฤศจิกายน 2019 เวลา 22.13 ทำให้ โยนาส ลูกชายวัยรุ่นของมิคาเอลถึงกับเสียสติ ต้องไปรับการบำบัดในโรงพยาบาลบ้าอยู่หลายเดือน จนกลับมาที่โรงเรียน เค้าก็พบว่า อีริค นักเรียนในโรงเรียนเดียวกับเค้าหายตัวไป ซึ่งหากย้อนเวลาไปเมื่อ 33 ปีก่อนตอนปี 1986 มัด น้องชายของ อูลริค(ซึ่งปัจจุบันเป็นตำรวจ) ก็ได้หายตัวไปตั้งแต่ตอนโน้น โดยยังไม่มีใครตามตัวพบ หลังจากนั้นไม่นาน มิเคล ลูกชายของอูลริค นายตำรวจประจำเมืองวินเดนก็หายตัวไปอย่างลึกลับอีก (โดยอูลริคนี่ก็แอบคบชู้กับแม่ฮันนาห์ของโยนาสด้วย ) หลังจากนั้นเรื่องราวยิ่งชวนสงสัยเข้าอีกเมื่อมีการพบศพเด็กอีกหนึ่งศพ ที่สวมเสื้อผ้าในยุค 80 แน่นอนว่าเดาไม่ยากเด็กคนนั้นคือมัดน้องชายของอีริคที่หายไปตัวเมื่อ 33 ปีก่อนหรือในปี 1986 นั่นเอง แต่ศพที่พบในปี 2019 กลับสภาพสมบูรณ์เหมือนเพิ่งตาย เพียงแต่บริเวณดวงตาถูกไฟหลอมละลายจนไหม้เกรียม แน่นอนว่ามันมีเรื่องราวเหนือธรรมชาติเกิดขึ้นในเมืองวินเดนแห่งนี้ที่คนตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ไปจนรุ่นปู่ย่าตายายปิดบังไม่ยอมเล่าให้ฟัง และหนังมันก็ค่อยๆเฉลยให้เรารู้ว่า ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติดังกล่าวนี้มันอาจจะเกิดขึ้นโดยฝีมือมนุษย์ที่เราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าเป็นฝีมือของคนในอดีตหรือคนที่มาจากอนาคตย้อนอดีตมาทำให้มันเกิดขึ้น เพราะความเชื่อของเราที่ว่า อดีตส่งผลต่อปัจจุบัน และปัจจุบันส่งผลต่ออนาคตนั้น มันไม่แน่เสมอไป เพราะบางทีอนาคตมันอาจจะส่งผลต่ออดีตก็ได้ แน่นอนว่าความยอดเยี่ยมของ Dark คือสิ่งที่เราควรจะต้องดูจริงๆ เพราะเราเองก็แทบมืดแปดด้านว่ามันคืออีหยังวะ
.
ขอบอกก่อนเลยว่าการเดินเรื่องของ Dark มันจะไม่ปรู๊ดปร๊าดฉับไวเหมือนซีรีส์ทางอเมริกัน เพราะทางยุโรปนี่จะเดินเรื่องเนิบมาก แต่ไม่เนื่อย เนื่องจากรายละเอียดเยอะมาก ดีเทลเยอะมาก เงื่อนเวลาทับซ้อนกันสามสี่เจนเนอเรชั่นกับตัวละครเกือบยี่สิบตัว และตัวละครเดียวต้องมีนักแสดงมาแสดงสามสี่ตัวเพราะมันเป็นช่วงเวลาหลายยุค ความยากคือ ชื่อตัวละครมันเป็นภาษาเยอรมันที่ไม่คุ้นหูยังไม่ว่า ความยากอีกประการคือนักแสดงเยอรมันนี่เราจะไม่คุ้นหน้าเลย แถมเปลี่ยนยุคบ่อยมาก เท่ากับว่าเราต้องวนเวียนเห็นตัวแสดงที่มีบทเยอะมากๆมาแสดงร่วมกันมากกว่า 30 คน ซึ่งจำชื่อว่ายากแล้ว บางทีก็ยังจำหน้าไม่ค่อยได้ด้วย โดยเฉพาะผู้ชายในเรื่องพอแก่ผมขาวจะหนวดเครารุงรังแล้วสับสนดูหน้าคล้ายๆกันไปหมด และเนื่องจากว่าพอมันมีการย้อนเวลาไปแล้ว การลำดับญาติก็ยิ่งชวนงงเข้าไปอีก ความสัมพันธ์ของตัวละครนี่คืออุรุงตุงนังมาก มันมีตัวละครไม่ถูกกันด้วย เป็นยุคๆ เป็นช่วงๆ ไอ้ครั้นจะมาเชื่อมโยงตัวละครแบบแจกแจงให้ฟังนี่คือสปอยล์ชัดเจนเลย แต่มันก็ทำให้เราสับสนมากพอดู ยกตัวอย่างนะครับ นี่ยกมาแค่วงเดียวนะครับ ในเรื่องมันยังมีกลุ่มตัวละครอีกสองสามวงที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน คือถ้าบรรยายหมดมันจะดูไม่สนุกครับ

(มีสปอยล์)
โยนาส(2019) เป็นลูกชายของ ฮันนาห์ กับ มิคคาเอล(2019) แต่มิคคาเอลเนี่ย จริงๆแล้วคือ เด็กชายมิคเคล(2019) ที่หายสาบสูญไปปรากฏตัวในปี 1986 และไปพบรักกับฮันนาห์ในปี 1986 ซึ่งเท่ากับว่า โยนาสคือลูกชายของเด็กชายมิเคล แต่ในเวลาเดียวกัน มิคเคล เนี่ยก็เป็นลูกชายคนเล็กของอูลริค โดยอูลลิคมีลูกสามคน คนโตเป็นผู้ชายชื่อ มัคนุส คนกลางเป็นผู้หญิงชื่อมาร์ธา และคนเล็กคือมิคเคล โดยอูลริค เนี่ยมาคบฮันนาห์แม่ของโยนัสเป็นชู้ ก็เท่ากับว่า จริงๆแล้ว อูลริค เป็นปู่ของของโยนาส ดังนั้นแปลว่าแม่ของโยนาสก็มานอนกับปู่ของโยนาส และที่ซับซ้อนกว่านั้นคือโยนาสไปชอบกับมาร์ธาพี่สาวของมิคเคล ก็เท่ากับว่าโยนาสไปรักกับป้าแท้ๆของตัวเองเข้าไปอีก ดังนั้นโยนาสคือศูนย์รวมของความสับสนในการนับเครือญาติ

แต่เรื่องราวของสายเลือดที่สับสน นั่นก็ถือเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยเล็กน้อยมากกกก เพราะซีรีส์มันยังพูดถึงเรื่องราวทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ที่ว่าด้วยการเกิดหลุมดำ บิ๊กแบง ไปจนถึงทฤษฎีการย้อนเวลาต่างๆ ได้อย่างโคตรจะสมเหตุสมผลโดยมีการอิงทั้งพระคัมภีไปจนถึงการค้นคว้าของนักปรัชญานักวิชาการในอดีตมากมาย โดยมีเมือง วินเดน เป็นศูนย์กลาง ซึ่งตัวละครในเมืองวินเดนนี่มันก็วนเวียนกันทั้งโคตรทั้งตระกูลกันอยู่ในเมืองนี้เป็นร้อยๆปี ความผูกพันธ์ของตัวละครในเมืองนี้วนเวียนกันเป็นมหากาพย์ ถ้าดูตอนแรกๆแบบไม่ตั้งใจจะงงมาก งงจนต้องเปิดกลับมาดูอีกรอบ ดูไปกดรีโมทย้อนไปเพราะมันชวนงง ชวนสับสนมากกกกกกกกกกก แต่พอเริ่มต่อติดและเริ่มจำตัวละครได้เท่านั่้นแหละคุณเอ๋ย หยุดดูไม่ได้เลย คนครีเอทซีรีส์ตัวนี้แม่งเล่นใหญ่มากกกทะเยอทะยานมากกกกกก มันทำให้เราอยากดูอยากรู้อยากเห็นในเรื่องที่สับสนแบบนี้โดยละสายตาไม่ได้เลย
.
นักแสดงทางสายยุโรปนี่สายแข็งมากนะ แสดงดีทุกคน ถึงใจถึงอารมณ์ตั้งแต่รุ่นเด็กตัวเล็กตัวน้อยไปจนคนแก่ แสดงดีละสายตาไม่ได้เลยครับ คือนักแสดงนี่แคสมาดีมากกกนะครับ ดูไม่สวยไม่หล่อจนสะดุดตาหน้าตาดูบ้านๆแบบชาวบ้านๆเลยครับ แต่ด้วยความไม่สะดุดตานี่แหละ หน้าตามันดูชาวบ้านๆจนเราดูไม่ออกเลยเหมือนเห็นฝรั่งหน้าเหมือนๆกันไปหมดเลย แต่แม่งเรียลมากกเรียลสุดตีน เรียลฉิบหายเลย ชอบมากกกกกกกกก
.
การเล่าเรื่อง การยกพระคำภีร์ ลำนำ การอธิบายทฤษฎีวิทยาศาสตร์ ดนตรีประกอบ เพลงประกอบ พิถีพิถันมากกกกกก ไม่มีอะไรโดดแบบขโมยซีนเลย ทุกอย่างกลมกลืนและสมบูรณ์แบบมากกกกก งานเปรียบเปรย สือความหมาย ภาษาหนังแม่งล้ำมากกกกกกกกก มีความเป็นภาพยนตร์แบบศิลปะชั้นสูง โอ๊ยยยยยย จะอวยยังไงดีวะ แม่งเริ่่ดมากกอ่ะ รัก รัก รัก รักซีรีส์เรื่องนี้มากกกกกกกกกก
.
ดูแล้วแทบจะต้องย้อนกลับไปกลับมาทุก EP ย้ำว่าทุก EP คือซีรีส์มันเริ่มที่ปี 2019 ย้อนอดีตไป 33 ปีคือปี 1986 ว่าปวดกบาลแล้ว คือซีรีส์มันตามขุดลงไปที่ปี 1953 อีก และมันยังตลบเรากลับลงถึงช่วง 1920 แล้ววาร์ปขึ้นไปปี 2052 อีก พูดเลยว่ามันคือมหากาพย์ที่เล่นใหญ่มากกกกก ยิ่งดูยิ่งสนุก เพลินจนแบบเออคือเดียวจบอีพีเลย จบแบบย้อนไปย้อนมาหลายรอบมาก แต่ยังก่อน มันยังไม่จบนะ 2 ซีซั่นก็ยังไม่จบ มิถุนามันจะมีซีซั่น3 ซึ่งผู้สร้างคอนเฟิร์มว่าจะจบตำนานมหากาพย์แน่นอน ตอนนี้ดูไปก่อน 2 EP 18 ตอน อดนอนวนไป ปวดหัววนไป แต่รับรองว่าไม่เสียเวลาแน่นอนครับ ดูเถอะ ของมันดีมากกกกดีมากจริงๆ

ปล.ถ้าใครไม่คุ้นภาษาเยอรมัน ผมแนะนำให้เปิดภาษาอังกฤษแทนครับ ภาษาเยอรมันฟังยากมากกกกกกกกครับ (ในความรู้สึกผมนะ)