อยากชวนหมอคุย ต้องทำไง?

สวัสดีครับ เปียงครับ นับว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่น่าสนใจในสังคม social network ที่กำลังคึกคักมากในขณะนี้ ระหว่างช่วงการแพร่ระบาดของ COVID 19 จู่ๆก็เกิดกลุ่มต่างๆใน Facebook ขึ้นมามากมาย กลายเป็น community ใหม่ๆ ที่เคลื่อนไหวรวดเร็วมาก และได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี มาแรงแซงทุกโค้งอย่างไม่น่าเชื่อ และหนึ่งในกรุ๊ปที่ active มากๆคือกรุ๊ปคนโสดต่างๆครับ

กลุ่มคนวิชาชีพทางการแพทย์ โดยเฉพาะฝั่งหมอนี่เป็นโสดกันเยอะมากนะครับ อันนี้เป็น fact ที่น่าสนใจครับ มีหลายคนถามถึงเรื่องนี้เยอะมาก วันนี้เลยถือโอกาสรื้อคอนเทนต์ที่เขียนเมื่อนานมาแล้ว มารีรันกันอีกรอบ เป็น #กรณีศึกษา สำหรับคนนอกวิชาชีพที่อยากจะ make a move ครับผม

อยากชวนหมอคุย ต้องทำไง?

เป็นอะไรที่ตลกดีเหมือนกัน แต่หมอเป็นอาชีพที่มักจะโดนใส่คำนำหน้าให้ว่า “หมอ” ตลอดเลย เหมือนใส่ยศและครอบกรอบความคิดบางอย่างบนตัวพวกเรากับภาพที่เป็น stereotype ของความเป็นหมอในทีวี การกินการอยู่การใช้ชีวิตต้องเป็นแบบสายรักสุขภาพสุด อนามัยสุด และมักมีคนพูดถึงพวกเราว่าต้องแบบนู้นแบบนี้ตลอด ซึ่งอาจจะจริงบ้าง และไม่จริงบ้างผสมกันไป ด้วยความที่หลายๆ สถานการณ์จะเห็นพวกเรายุ่งมากๆ เข้าถึงยาก และอยู่ในโรงพยาบาลตลอด ทำให้สำหรับบางคนมองว่า การจะชวนหมอคุยเนี่ย มันช่างยากเสียเหลือเกิน ผมจะไม่เถียงกับคุณ และจะไม่ชี้แจงใดๆทั้งนั้น ผมจะเล่าให้ฟังในส่วนของ fact และความเห็นส่วนตัวของผมเท่านั้น ขอย้ำว่าเป็นคหสต. ห้ามดราม่าใส่ผมนะครับ

1. สลัดคราบหมอในหนังออกไปก่อน
ภาพจำในหัวคนไทยคือหมอใส่แว่น หน้าตาเนิร์ดๆ แต่งตัวเรียบร้อย พูดจาเนิบๆ ไพเราะ และชอบพูดประโยคว่า
“เสียใจกับญาติด้วยครับ หมอได้พยายามเต็มที่แล้ว แต่ผู้ป่วยทนพิษบาดแผลไม่ไหว”
แต่จริงๆ แล้วหมอก็คือคนคนหนึ่งครับ จะเป็นอย่างไรก็ได้ มีทุกบุคคลิก เป็นปุถุชนคนหนึ่ง พูดคุยแบบคนคนหนึ่งครับ

2. หมอจะไม่คุยกับคนไข้ในแบบอื่น
การชวนหมอคุยในรพ. ส่วนตัวผมว่าไม่เวิร์คหรอก เพราะคนไข้เยอะแยะ งานก็ต้องทำ มีแต่ความไม่เหมาะสมเต็มไปหมด อาจจะต้องเลือกแล้วแหละ ว่าอยากให้หมอคุยด้วยในฐานะคนไข้ หรือ แบบอื่น

3. หมออยู่ได้ทุกที่ในวันหยุด
หมอมีทุกสายเลยครับ สายเนิร์ด สายเชฟ สายวิ่ง สายฟิตเนส สายคาเฟ่ สายซิส สายเที่ยว สายกิน สายตื๊ด ถ้าอยากเริ่มคุย หากจะให้ง่าย อาจจะเริ่มจากการเข้าหาทาง social ก่อนก็ได้ หรืออาจจะเปิดชัดๆ ไปเลย ตอนเจอข้างนอก ก็ต้องลองดูปฏิกิริยากันต่อไป หรือถ้าให้ดีที่สุด เนียนที่สุด ก็คือได้ร่วมกิจกรรมบางอย่างด้วยกัน เช่น งานวิ่ง ฟิตเนส ร้านหนังสือ ชมรมบางอย่าง ร้านกาแฟ เป็นต้น เพราะกิจกรรมมักพาไปสู่เรื่องดีๆ เสมอ เชื่อผม

4. หมอหลายคนเบื่อบางคำถาม
การเริ่มเปิดบทสนทนาเพื่อคุยกับหมอๆ คำถามที่โดนถามบ่อยก็คือ “เป็นหมออะไร” “จบมากี่ปีแล้ว” จริงๆ ก็ไม่ได้ผิดครับ เพียงแค่ ผมว่ามันเป็นการเริ่มต้นที่น่าเบื่อไปนิด เพราะ สุดท้ายถ้า explore เนียนๆ เราจะค่อยๆ รู้เรื่องนี้เองในที่สุด หมอส่วนใหญ่เป็นหมอเวชปฏิบัติทั่วไป ก็คือ หมอที่ดูอาการได้โดยรวมๆ ไม่ได้เฉพาะทางด้านใดด้านหนึ่ง โดยเฉพาะถ้าดูยังเด็กๆอยู่ ก็มักจะเป็นหมอฝั่งนี้กัน เช่นเดียวกันกับคำถามหลายอย่างที่ ฟังแล้วหงุดหงิดนิดๆ “เป็นหมอป่วยได้ด้วยหรอ” เอ้า ป่วยได้สิคุณ นี่คนนะเนี่ย (ฮา)

5. หมอหาย มีความหมายหลายอย่าง
การอยู่ดีๆก็หายไลน์ไม่ตอบ ใจเย็นๆก่อนนะคุณ โอเค ไม่ปฏิเสธว่าเขาอาจจะเบื่อคุณ หรือเขาอาจจะมีคนอื่นก็ได้ แต่ต้องไม่ลืมนะว่า เหตุผลที่เจอบ่อยกว่านั้นก็คือการโดนตามตัวไปทำบางอย่าง ตรวจ ราวน์วอร์ด ประชุม อ่านหนังสือ ไปเข้าผ่าตัด หรือมีเคสฉุกเฉิน หลายๆ ครั้งเขาจะหายไปแบบไม่บอกอะไรคุณเลย บางทีหายเป็นวันๆ ก็ได้ เอาจริงๆ ถ้าเขาคลิกกับคุณ ทิ้งข้อความไว้แบบนั้น เดี๋ยวเขาจะรีบติดต่อกลับมาเองแหละครับ

6. การเข้าเวรของหมอกับความเข้าใจผิดที่ควรทราบ
คำว่าเข้าเวรของหมอมีได้หลายความหมายครับ แต่โดยปกติส่วนใหญ่แล้ว มักจะหมายถึงการทำงานนอกเวลาราชการ หมอที่ทำงานในโรงพยาบาลจะทำงานทุกวันในเวลาราชการ รวมถึงเสาร์อาทิตย์ด้วยสำหรับบางคน ดังนั้นวันธรรมดา การทำงานในเวลาราชการ เราจะไม่ได้เรียกสิ่งนั้นว่าเวรนะครับ เวรคือสิ่งที่เกิดขึ้นนอกเวลาราชการ ถ้าหมอเข้าเวรในวันธรรมดา มักหมายถึงเวลา 16.00 น. - 8.00 น. ของอีกวันหนึ่ง และทำงานต่อในวันราชการต่อไป (นั่นหมายความว่า คืนนั้นถ้าคนไข้เยอะอาจได้นอนน้อยหรือไม่ได้นอนเลย) ส่วนถ้าเวรในเสาร์อาทิตย์คือ 8.00 น. - 8.00 น. ของอีกวันนั่นเอง

7. หมอมีความสนใจที่หลากหลาย
ไม่ใช่แค่เรื่องสุขภาพที่จะชวนคุยได้ อันที่จริง แนะนำชวนคุยเรื่องอื่นไปเลยก็ได้นะ ตรวจเป็นไง เคสนี้เป็นไง ให้ยาอะไร เอาไว้ให้หมอๆเขาดิสคัสกัน บ่นกันไปเองในวงของเขา ส่วนคนอื่นๆนอกวิชาชีพ อยากจะบอกว่า จริงๆ แล้วหมอมีความสนใจที่กว้างมากๆ เลยครับ ก็เหมือนคนอื่นๆ นั่นแหละ จับจุดให้ได้ว่าเขาชอบอะไร ไลค์เพจไหน ชอบโพสต์เกี่ยวกับอะไร ชอบไปที่ไหน ชอบกินอะไร เชียร์ฟุตบอลทีมไหน คุยเรื่องสถานการณ์บ้านเมือง หรือ เรื่องตลกไวรัลต่างๆ ก็โอเคแล้ว หาอะไรที่ชอบตรงกัน อันนั้นน่าจะเป็นอะไรที่ดี

8. หมอชอบคนมีเหตุผล
เราถูกฝึกมาให้มี critical thinking กับทุกเรื่อง ความรักไม่ต้องมีเหตุผลครับ แต่บางทีเราก็ติดมาใช้การเรื่องความรักได้เหมือนกัน งี่เง่าได้ แต่บ่อยไปก็ไม่ดีนะครับ เข้าใจเขาเยอะๆ เพราะเวลาเขารักคุณ ชีวิตเขาก็มีแค่คุณ โรงพยาบาล และ คนไข้แค่นั่นแหละ

จบไปครับ ขอย้ำว่าทั้งหมดเป็นคหสต.ของผม ดังนั้นห้ามดราม่าใส่ผมนะ เขียนลงเป็นสีสันของช่วงนี้ แล้วพบกันโพสต์หน้าครับ

เปียง

FACEBOOK - PYONG Traveller X Doctor
INSTAGRAM - pycaptain
YOUTUBE CHANNEL - PYONG : Traveller X Doctor
WEBSITE - www.pyongtravellerxdoctor.com