[爆卦]รถยนต์ Toyota是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇รถยนต์ Toyota鄉民發文沒有被收入到精華區:在รถยนต์ Toyota這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 รถยนต์產品中有1812篇Facebook貼文,粉絲數超過32萬的網紅The Wild Chronicles - ประวัติศาสตร์ ข่าวต่างประเทศ ท่องเที่ยวที่แปลก,也在其Facebook貼文中提到, *** สรุปประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นเข้าใจง่าย ใน 15 นาที *** เวลาพูดถึงญี่ปุ่น ทุกคนนึกถึงอะไรกันบ้างครับ? การ์ตูน? ซาซิมิ? รถยนต์? ...จะเห็นว่าไม่ว่ามองไปท...

 同時也有1874部Youtube影片,追蹤數超過28萬的網紅Welldone Guarantee,也在其Youtube影片中提到,#รถไฟฟ้า #รถยนต์ไฟฟ้า #โตโยต้า เมื่อประเทศไทยวันนี้ เคยเป็นฐานการผลิตรถยนต์น้ำมันมากกว่า 50 ปี โดยเฉพาะค่ารถยนต์ญี่ปุ่นที่เป็นผู้มาลงทุน จนมาวันนี้ ร...

  • รถยนต์ 在 The Wild Chronicles - ประวัติศาสตร์ ข่าวต่างประเทศ ท่องเที่ยวที่แปลก Facebook 的精選貼文

    2021-09-30 20:35:10
    有 1,393 人按讚

    *** สรุปประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นเข้าใจง่าย ใน 15 นาที ***

    เวลาพูดถึงญี่ปุ่น ทุกคนนึกถึงอะไรกันบ้างครับ? การ์ตูน? ซาซิมิ? รถยนต์? ...จะเห็นว่าไม่ว่ามองไปทางไหน เราก็อาจเห็นสิ่งที่เป็น “ญี่ปุ่น” อยู่ทั่วไป ประเทศญี่ปุ่นแม้มิได้มีประชากร หรือขนาดใหญ่ที่สุด แต่กลับมีอิทธิพลต่อโลกเป็นอันมาก และย่อมมีประวัติศาสตร์ที่รุ่มรวยอย่างยิ่ง

    บทความนี้จะเล่าเรื่องราวของญี่ปุ่น ตั้งแต่ตำนานการกำเนิดโลก, การรับอารยธรรมจากจีน, ยุคขุนศึกซามูไร, ยุคปฏิรูปไปจนถึงปัจจุบัน ทั้งหมดเป็นแบบรวดรัด เหมือน intro to ญี่ปุ่นให้ท่านพอทราบประวัติศาสตร์ของพวกเขาแบบคร่าวๆ ในเวลา 15 นาที

    (อ่านบทความผ่านคำบรรยายภาพประกอบไปเรื่อยๆ นะครับ)

  • รถยนต์ 在 Money Coach Facebook 的最佳解答

    2021-09-28 13:35:39
    有 4,968 人按讚

    ผ่านไปแต่ละปี เรารวยขึ้น หรือจนลง
    .
    ทำงานกันมา 5 ปี 10 ปี หรือ 20 ปี เคยตั้งคำถามแบบนี้กับตัวเองหรือเปล่าครับ ถ้ายังไม่เคย วันนี้ผมชวนคิดชวนคุยเรื่องนี้กัน
    .
    จะว่าไปแล้วมันเป็นหนึ่งในกิจกรรมประจำปีของผมเลยก็ว่าได้ ที่เมื่อผ่านพ้นไปในแต่ละปี ผมจะกลับมานั่งทบทวนถึงจำนวนทรัพย์สินและหนี้สินที่ตัวเองมี เช็คเป็นสถานะปัจจุบัน แล้วก็เทียบกันกับปีก่อน
    .
    วิธีทำก็ง่ายๆ ครับ หยิบกระดาษ A4 มาหนึ่งแผ่น ขีดเส้นแบ่งครึ่งตรงกลาง ด้านซ้ายเขียนรายการทรัพย์สินทั้งหมดที่เรามี ไม่ว่าจะเป็น เงินฝาก สลากออมทรัพย์ กองทุนรวมต่างๆ (อะไรขึ้นชื่อว่ากองทุนนับให้หมด) หุ้นสหกรณ์ หุ้นสามัญ บ้าน รถยนต์ ทองคำ ทั้งหมดที่เราเป็นเจ้าของและมีมูลค่า ระบุใส่ช่องทางซ้ายมือนี้ให้หมด
    .
    ส่วนด้านขวามือ ให้เขียนรายการหนี้สินทั้งหมดที่มี ไม่ว่าจะหนี้บริโภค อาทิ หนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อบุคคล ผ่อนของ นอกระบบ จัดกันมาให้ครบ รวมถึงหนี้กู้ซื้อบ้าน กู้ซื้อรถ กู้เรียน รวมทั้งหมดไว้ทางฝั่งขวา
    .
    สุดท้ายให้เอา มูลค่าทรัพย์สินรวม (ทางฝั่งซ้าย) ตั้งแล้วลบด้วยมูลค่าหนี้รวมทั้งหมด (ทางฝั่งขวา) ได้ผลลัพธ์เป็นเท่าไหร่ เราเรียกเจ้าค่าที่ได้นี้ว่า “ความมั่งคั่งสุทธิ” หรือ NET WORTH (บางตำราเรียก “ทรัพย์สินสุทธิ”)
    .
    ตัวอย่างเช่น ถ้า ณ วันที่ 1 มกราคม 2564 เรามีมูลค่าทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 2,000,000 บาท และมีหนี้สินรวมคงค้างอยู่ 1,500,000 บาท แบบนี้ก็จะเท่ากับว่า เรามี “ความมั่งคั่งสุทธิ” เท่ากับ 2,000,000 - 1,500,000 หรือ ​+500,000 บาท นั่นเอง
    .
    โดยหลักการแล้ว ถ้าเรามีความมั่งคั่งสุทธิเป็น “บวก”​ ก็จะถือว่า “ดี”​ และยิ่งถ้าทุกปีเราทำตัวเลขนี้เปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า แล้วพบว่า เป็นบวกมากขึ้นทุกปี แบบนี้ก็แสดงว่า “เรารวยขึ้น”
    .
    ในทางตรงกันข้าม หากความมั่งคั่งสุทธิปีนี้ลดลงจากปีที่แล้ว อันนี้ก็แสดงว่า “เราจนลง” ซึ่งก็เกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการมีหนี้บริโภคเพิ่มมากขึ้น (ก่อหนี้ที่ไม่ได้ใช้ซื้อทรัพย์สิน) หรือไม่ทรัพย์สินบางกลุ่มของเราก็อาจมีมูลค่าลดลง อย่างเช่น กรณีหุ้นตก มูลค่ากองทุนรวมลดลง ก็จะเข้าข่ายในลักษณะนี้
    .
    จากที่สอนเรื่องการเงินมาหลายปี ผมพบว่าถ้าเราหมั่นตรวจสอบความมั่งคั่งของเราอยู่เสมอ และทุกปีเรามีความมั่งคั่งสุทธิเพิ่มขึ้น หรือทรัพย์สินเพิ่ม (สะสมเพิ่ม) หนี้สินลดลงทุกปี (ทยอยใช้หนี้ตามกำหนด) แบบนี้รับประกันได้เลยว่าเกษียณสบายครับ เพราะถ้าทรัพย์สินสะสมเพิ่มเรื่อยๆ แถมหนี้สินยังลดลงเรื่อยๆ และเคลียร์หมดได้ก่อนเกษียณ แบบนี้รับประกันเลยว่า “Happy Retirement” แน่นอน
    .
    ครั้งหนึ่งเมื่อ 10 ปีก่อน ผมเล่าเรื่องนี้ในการบรรยายให้กับองค์กรแห่งหนึ่ง พี่ท่านหนึ่งที่เข้าฟังบรรยายบอกผมว่า เขาทำอย่างที่ผมบอกทุกปี และไม่เพียงแต่นั่งคำนวณตัวเลขทรัพย์สินหนี้สินเท่านั้น พี่เขายังจดรายละเอียดทุกรายการของทรัพย์สิน เช่น กองทุนซื้อกับที่ไหน หุ้นเปิดพอร์ตกับบริษัทหลักทรัพย์อะไร ประกันชีวิตซื้อกับที่ไหน และระบุข้อมูลเบอร์ติดต่อของผู้เกี่ยวข้องไว้ทั้งหมด ทำแบบนี้เป็นประจำทุกปี
    .
    พี่แกเล่าให้ฟังว่า การสรุปข้อมูลรายการทรัพย์สินหนี้สินในแต่ละปี สำหรับแกแล้วเหมือนการ “เตรียมตัวตาย” เพราะคนเราเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ เกิดเราลงทุน ซื้อประกัน สะสมทรัพย์สินอะไรไม่รู้จิปาถะ แต่ไม่ได้บอกคนข้างตัวไว้ เกิดตายวันตายพรุ่งไป คนข้างตัวก็ไม่รู้ว่าเรามีอะไรสะสมอยู่บ้าง หนี้สินแกก็คิดอย่างเดียวกัน ว่าต้องให้รู้ไว้บ้าง จะได้ไม่ตกใจ
    .
    “ถ้าเตรียมตัวตายดีๆ รับรองเลยว่าอาจารย์จะไม่ตาย อาจารย์จะอายุยืน ฮา ๆๆ” พี่แกบอกผมอย่างนั้นในวันที่เจอกันครั้งแรก
    .
    หลายปีต่อมา ผมยังไปบรรยายที่องค์กรของพี่เขาอยู่บ่อยๆ แม้จะไม่ได้เป็นคนเข้าฟังบรรยายในคลาส แต่แกก็จะแวะมาทักทายตอนพักอาหารว่าง หรือมาแวะส่งตอนกลับ เหมือนเจอน้องเจอที่รู้จักคุ้นเคย แล้วก็ต้องแวะมาเจอกันสักหน่อย แม้จะได้พูดคุยไม่กี่นาทีก็ตาม
    .
    เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก เมื่อสิ้นปี 2563 ผมมีโอกาสไปบรรยายที่องค์กรของพี่ท่านนี้อีกครั้ง แล้วก็เจอแก คราวนี้ผมไปบรรยายเรื่องการจัดการเงินหลังเกษียณ พี่แกเข้ามาเป็นนักเรียนในคลาส เพราะสิ้นปีแกจะเกษียณแล้ว ตลอดการพูดคุยกันในคลาส สิ่งที่ผมรู้สึกได้เลยก็คือ แกไม่ได้เดือดร้อนที่จะต้องเกษียณ เพราะเตรียมตัวมาดีมาก (ดีมากจริงๆ)
    .
    หลังจบการบรรยาย แกเดินเข้ามาทัก แล้วก็บอกผมว่า “ยังทำรายการทรัพย์สินหนี้สินอยู่ทุกปีนะอาจารย์ เสียอย่างเดียว คนที่เราเป็นห่วง กลัวว่าเขาจะลำบากถ้าเราไม่อยู่ เขาไปก่อนเราเสียแล้ว ฮาๆๆๆ” คนพูดแม้จะมีเสียงหัวเราะ แต่แววตาดูเศร้าชนิดสังเกตได้
    .
    “แต่อย่างน้อยที่ทำมาตลอด ก็ดีกับพี่เองต่อจากนี้นะครับ” ผมอยากจะปลอบใจแก แต่ไม่รู้จะพูดว่าอะไรดี
    .
    เราสนทนากันเป็นครั้งสุดท้าย เพราะรู้ดีว่าครั้งหน้าที่ผมมาสอนที่นี่ ก็คงไม่เจอพี่เขาอีกแล้ว ได้ยินว่าพี่เขาปลูกบ้านไว้ที่ภูมิลำเนาเดิมในจังหวัดใกล้กรุงเทพ เตรียมทุกอย่างไว้พร้อม พร้อมที่จะเป็นคนเกษียณที่มีความสุขมากที่สุดคนหนึ่ง
    .
    ทั้งหมดเริ่มต้นง่ายๆ จากการวัดผลเล็กๆ ที่ว่า ในแต่ละปีเรารวยขึ้นหรือจนลง และใส่ใจกับผลของการวัดอย่างจริงจัง
    .
    ลองคิดดูง่ายๆ ว่า ถ้าเราทำงานมาเป็น 10 ปี แต่ความมั่งคั่งสุทธิยังติดลบ มันบอกอะไรกับชีวิตเรา แน่นอนว่ามันไม่ได้เลวร้ายถึงขั้นจะกลับตัวหรือแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่า ยังมีอีกหลายคนที่ไม่เคยเห็นตัวเลขสำคัญทางการเงินของตัวเองตัวนี้เลย
    .
    หรือถ้าเห็นว่าตัวเลขไม่สวย แต่ละปีความมั่งคั่งสุทธิไม่เพิ่มขึ้น แถมยังลดลง แล้วยังอยู่เฉยได้ คนแบบนี้ก็ยากที่เราจะไปช่วยอะไรเขาได้ ทั้งนี้เพราะหัวใจของการสร้างสำเร็จทางการเงิน สิ่งแรก คือ ความรับผิดชอบทางการเงิน ที่คนแต่ละคนต้องเชื่อก่อนว่า “อนาคตทางการเงินของเรา เปลี่ยนแปลงได้ ทำให้ดีขึ้นได้ และทั้งหมดขึ้นอยู่หนึ่งสมองและสองมือของเราเท่านั้น ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงอนาคตการเงินเราได้”
    .
    ใครยังไม่เคยลองทำ ผมเชิญชวนทุกท่านลองหยิบกระดาษ A4 ขึ้นมา แบ่งครึ่งซ้ายขวา ลิสต์รายการทรัพย์สิน หนี้สิน และมูลค่าทั้งหมด จากนั้นลองคำนวณ “ความมั่งคั่งสุทธิ” ณ วันปัจจุบัน ของตัวเองออกมาดูครับ
    .
    ใครทำเป็นปีแรก ลองดูสิว่า ความมั่งคั่งสุทธิเป็นบวกมั้ย ถ้าบวก ก็ถือว่า “โอเค”
    .
    ส่วนใครทำมาแล้วมากกว่า 1 ปี ลองดูสิว่า เทียบกับปีก่อน ความมั่งคั่งสุทธิของเรา เพิ่มขึ้นหรือเปล่า ถ้าเพิ่มขึ้นแปลว่า เรารวยขึ้น และถ้าแต่ละปีเรารวยขึ้นเรื่อยๆ ด้วยทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หนี้สินที่ทยอยลดลงเรื่อยๆ จากการผ่อนจ่ายของเรา เมื่อถึงวันหนึ่งที่เกษียณ เราจะเป็นคนไทยอีกคนหนึ่งที่มีชีวิตเกษียณที่มีความสุขอย่างแน่นอนครับ ฟันธง!
    .
    ขอให้ทุกท่านรวยขึ้นทุกปีนะครับ
    #โค้ชหนุ่ม #TheMoneyCoachTH

  • รถยนต์ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文

    2021-09-27 18:00:25
    有 4,328 人按讚

    สรุปประเด็นจากห้อง Clubhouse
    ทำไมเงินถึงไหลเข้ากองทุน ESG ถึง 1,000,000,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ ?
    Clubhouse BBLAM x ลงทุนแมน

    ถ้าพูดถึง Theme การลงทุนพลังงานสะอาด หลายคนก็มักจะติดภาพความน่าเบื่อ และไม่ตื่นเต้น
    แต่หลังจากที่ ลงทุนแมน ได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์คือ คุณมทินา วัชรวราทร CFA®, Head of Investment Strategy กองทุนบัวหลวง ในวันพุธที่ 22 กันยายน ที่ผ่านมา

    ก็พบว่า Theme พลังงานสะอาด ไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่หลายคนคิด นอกจากนั้นยังเป็น Theme ที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงรอบใหญ่ของโลก และยังเกี่ยวโยงกับหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่กำลังเติบโตในอนาคต อีกด้วย

    ความน่าสนใจของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร
    ลงทุนแมนจะมาสรุปให้ฟังง่าย ๆ 9 ข้อ..

    1. ทำไมกระแส ESG จึงกลายเป็นที่พูดถึงในตอนนี้ ?

    พลังงานสะอาดคือ เทรนด์การลงทุนที่สำคัญมากในอนาคต และไม่ใช่แค่เทรนด์ระยะสั้น
    สังเกตได้จากเม็ดเงินที่ไหลเข้ากองทุน ESG ทั่วโลกแตะ 1,000,000,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ อ่านว่า “1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ” เป็นครั้งแรก

    ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในยุโรป และการลงทุนใน ESG ยังให้ผลตอบแทนที่ดีด้วย จึงเป็นหลักของการลงทุนที่เรียกว่า Green and Great Return

    ถ้าเราลองมาดูผลตอบแทนของ กองทุน Pictet Global Environmental กองทุนรวมที่ลงทุนในธุรกิจที่ดูแลสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นกองทุนหนึ่งที่ B-SIP เข้าไปลงทุน ก็ให้ผลตอบแทนดีในหลายไตรมาส

    และหากลงทุนตั้งแต่ก่อตั้งกองทุนในปี 2014 ก็จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีเท่ากับ 14.92% ถือว่าทำได้ดีกว่า เมื่อเทียบกับการลงทุนในดัชนีโลกที่มีทั้ง ESG และไม่มี ESG ที่ให้ผลตอบแทนเพียง 10%

    สาเหตุหนึ่งที่ทำให้การลงทุนกองทุนที่ลงทุนในธุรกิจที่ดูแลสิ่งแวดล้อมให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า
    ก็เป็นเพราะว่าบริษัทที่ยึดหลัก ESG จะมีคุณภาพทั้งด้านรายได้ กำไร และผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น ดีกว่า บริษัททั่ว ๆ ไป

    ทำให้สามารถกำหนดราคาสูงขึ้นได้ ดึงดูดคนที่มีความสามารถเข้ามาร่วมงานได้ง่าย รวมทั้งยังมีโอกาสด้านต้นทุนการกู้ยืมที่ถูกกว่า เสียดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า และธนาคารปล่อยสินเชื่อง่ายกว่าอีกด้วย

    2. ทำไม พลังงานสะอาด จะเป็นการเปลี่ยนแปลงรอบใหญ่ของโลก ?

    สิ่งที่ทำให้ กองทุนบัวหลวงมองว่า พลังงานสะอาดจะไม่ใช่เทรนด์ระยะสั้น
    ก็คือการสังเกตคลื่นนวัตกรรมเปลี่ยนโลกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ที่ผ่านมาแล้ว 5 คลื่นด้วยกัน นั่นคือ
    - คลื่นที่ 1 คือ การปฏิวัติอุตสาหกรรม
    - คลื่นที่ 2 คือ การเริ่มใช้พลังงานไอน้ำ
    - คลื่นที่ 3 คือ การใช้รถยนต์แทนม้า
    - คลื่นที่ 4 คือ การเดินทางโดยเครื่องบิน
    - คลื่นที่ 5 คือ โลกออนไลน์ เช่น Microsoft, Facebook, Amazon, Netflix

    สิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่กินระยะเวลายาวนานหลายสิบปี และนำมาซึ่งกิจการขนาดใหญ่ที่มีความมั่งคั่งมากขึ้น

    แต่ในโลกอีก 25 ปีข้างหน้า สิ่งที่จะกลายเป็นประเด็นสำคัญ และทั่วทั้งโลกกำลังเผชิญเหมือนกันอยู่ก็คือ “ภาวะโลกร้อน”

    เพราะฉะนั้น คลื่นที่ 6 ก็คือ “เทคโนโลยีพลังงานสะอาด” ซึ่งจะเป็นหนึ่งเทรนด์ต่อจากนี้ไปอีก 25 ปี พร้อม ๆ กับ Robotics, Drones, AI, IoT สิ่งนี้เองที่จะเป็นแนวทางให้เราได้ว่า โลกในอนาคตจะเป็นไปในทิศทางไหน แล้วเราควรจะลงทุนอะไรต่อไป

    3. สัญญาณสำคัญที่ชี้ว่า โลกกำลังอยู่ในช่วงต้น คลื่นที่ 6 พลังงานสะอาด คืออะไร ?

    กองทุนบัวหลวงมองว่า Megatrends จะต้องมี 3 องค์ประกอบ คือ
    1. ความร่วมมือระดับโลก
    2. การเห็นด้วยจากรัฐบาล
    3. ความร่วมมือภาคเอกชน

    เมื่อครบทั้ง 3 องค์ประกอบนี้ เงินลงทุนก็จะหลั่งไหลมายังเทรนด์นั้น ๆ อย่างแน่นอน ซึ่งเทรนด์ ESG ตอนนี้มีครบทั้ง 3 องค์ประกอบเรียบร้อยแล้ว

    เริ่มต้นด้วยความร่วมมือระดับโลกคือ ข้อตกลง Paris Agreement จาก UN
    ที่ต้องการให้ประเทศต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม เพื่อป้องกันภัยพิบัติต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นจากภาวะโลกร้อน

    ต่อมาคือ การขานรับนโยบาย จากรัฐบาลของประเทศมหาอำนาจ

    เราได้เห็นประเทศต่าง ๆ ในยุโรปมีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ เช่น
    - European Green Deal เพื่อที่จะลดการปล่อยคาร์บอนให้เหลือศูนย์ ภายในปี 2050
    - European Climate Law กฎหมายที่พูดถึงการลดการปล่อยมลพิษลงอย่างน้อย 55% ภายในปี 2030

    นอกจากนี้มหาอำนาจอย่าง “สหรัฐอเมริกา” ก็ได้จัดตั้งแผนงบประมาณด้านสิ่งแวดล้อม เช่น
    - แผนที่ 1 วงเงิน 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการผลิตรถยนต์ EV และแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน
    - แผนที่ 2 วงเงิน 5.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานพลังงานสีเขียว ซึ่งภายในปี 2035 สหรัฐอเมริกาตั้งเป้าจะใช้พลังงานแสงอาทิตย์ 40% ของพลังงานทั้งหมด

    ขณะเดียวกัน มหาอำนาจซีกโลกตะวันออกอย่าง “จีน” ที่แม้จะยังคงใช้พลังงานถ่านหินเป็นหลัก แต่ก็มีการคาดการณ์ว่าจะมีสัดส่วนพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2035 เป็นต้นไป

    โดยล่าสุดประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยังกำหนดนโยบายสิ่งแวดล้อม ไว้ในแผนการพัฒนาประเทศฉบับที่ 14 ซึ่งจะลดการปล่อยคาร์บอนต่อสัดส่วนของ GDP ลง 65% และจะเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทน 25% ภายในปี 2030 อีกด้วย

    หรือประเด็นรถยนต์ไฟฟ้า แม้ในปี 2020 ยุโรปขายรถยนต์ EV ไปแล้ว 1.3 ล้านคน ขณะที่จีนขายรถยนต์ EV ไปแล้ว 1.2 ล้านคัน แต่ก็มีการคาดการณ์ว่าจีนจะสามารถแซงหน้าและกินส่วนแบ่ง 20% จากตลาดรถยนต์ทั้งหมดภายในปี 2025 ได้ไม่ยากเลย

    4. แล้วภาครัฐและภาคเอกชน เชื่อมั่นใน Megatrends เรื่องพลังงานสะอาด แค่ไหน ?

    ผลสำรวจของ UBS หรือธนาคารเพื่อการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์
    ที่ได้สอบถามองค์กรต่าง ๆ ว่าอยากลงทุนใน Theme อะไรเป็นอันดับหนึ่ง
    ปรากฏว่า 2 ใน 3 ตอบว่า จะลงทุนในพลังงานสะอาด เพราะเป็นปัญหาที่โลกเราต้องแก้ไข และยังให้ผลตอบแทนที่ดีด้วย

    ซึ่งหากลงทุนในด้านพลังงานทดแทนเป็นระยะเวลา 5 ปี เมื่อเทียบกับการลงทุนในพลังงานแบบเก่า
    จะเห็นว่า ผลตอบแทนแตกต่างกันค่อนข้างมาก จุดนี้เองที่บอกว่ามันคือ Green and Great Return

    นอกจากนี้กองทุนใหญ่ ๆ ก็ประกาศเข้ามาลงทุนในเรื่องพลังงานสะอาดเช่นกัน

    เช่น Cathie Wood ผู้จัดการกองทุน ETF ARK
    ประกาศว่าจะทำกองทุน ETF ใหม่ ที่ใช้ ESG Score ทั้งสามด้าน
    คือ ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล
    โดยจะไม่ลงทุนในบริษัทที่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม หรือไม่ส่งผลดีต่อสังคม

    ขณะเดียวกัน กองทุนมหาวิทยาลัย Harvard ที่มีขนาด 4.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ก็ประกาศหยุดการลงทุนในบริษัทที่ผลิตพลังงานฟอสซิลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    รวมทั้งบริษัทผลิตน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Saudi Aramco ก็ประกาศลงทุนในพลังงานสะอาด
    โดยลงทุนในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในซาอุดีอาระเบีย

    นอกจากนี้ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ยังวางเป้าหมายประเทศว่าจะใช้พลังงานสะอาดให้ได้ 50% ภายในปี 2030 และจะไม่ได้ลงทุนแค่พลังงานลมและแสงอาทิตย์ แต่ยังลงทุนในพลังงานไฮโดรเจน อีกด้วย

    5. แล้วอะไรคือ ความเสี่ยงของเทรนด์ ESG และพลังงานสะอาด ?

    ความเสี่ยงของ ESG พลังงานสะอาดอย่างแรกคือ กองทุนที่เสนอขายเป็น ESG จริงหรือไม่ แล้วมีมาตรฐานขอบเขตการลงทุนด้านพลังงานสะอาดที่ชัดเจนจริง ๆ หรือไม่

    ความเสี่ยงที่สองคือ ต้องระวังว่าบริษัทที่เกี่ยวกับพลังงานสีเขียวนี้ มีราคาแพงไปแล้วหรือยัง มีฟองสบู่ที่เรียกว่า Green Bubble จากเม็ดเงินที่เข้าไปลงทุน 1.65 แสนล้านในปี 2019 และอีกกว่า 3.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2020 อยู่หรือไม่

    ดังนั้น วิธีการลงทุนที่สำคัญ คือ การเลือกกองทุนที่ใส่ใจเรื่อง Valuation และใช้เรื่องมูลค่ามาเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญในการลงทุน

    6. แล้วเราควรเลือกลงทุนใน ธุรกิจพลังงานสะอาด อย่างไร ?

    เราลองมาดูตัวอย่างธุรกิจที่เกี่ยวกับการผลิตไฟฟ้า การขนส่ง การทำการเกษตร ว่าจะสามารถ Green and Great Return ไปพร้อมกับการให้ผลตอบแทนที่ดีได้จริงหรือไม่

    เริ่มต้นที่ Orsted บริษัทพลังงานลมนอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดในโลกของเดนมาร์ก เดิมทีเคยเป็นบริษัทพลังงานถ่านหินเก่าแก่มาตั้งแต่ปี 1972 โดย 85% ของการผลิตไฟฟ้ามาจากฟอสซิล

    จากนั้นในปี 2008 ก็พลิกธุรกิจครั้งใหญ่มาสู่เส้นทางพลังงานสะอาด โดย 85% ของการผลิตไฟฟ้ามาจากพลังงานสีเขียว และเดินทางสู่การเป็นบริษัทพลังงานลมที่ใหญ่ที่สุดของโลกได้สำเร็จ

    ซึ่งรู้หรือไม่ว่า กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF บริษัทพลังงานของไทย ก็ได้ร่วมลงทุนใน Orsted เช่นกัน เพราะมองเห็นนวัตกรรมของพลังงานลมที่ดีที่สุดในโลกของ Orsted โดย 1/3 ของพลังงานลมของโลก มาจากบริษัทนี้

    ที่น่าสนใจก็คือ ราคาของพลังงานลม ถูกกว่า ราคาพลังงานของถ่านหินไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ปี 2018 และยังคาดการณ์ว่าภายในปี 2030 พลังงานลมและแสงอาทิตย์จะเป็นแหล่งพลังงานที่ถูกที่สุดในโลก

    ในแง่ของ Green and Great Return อย่าง Orsted เริ่มเข้าตลาดปี 2016 ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ราคาปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 96% ต่อปี
    ขณะเดียวกันยังมีรายได้เติบโตเฉลี่ย 30% ต่อปี และจะเป็นเช่นนี้ต่อเนื่องไปอย่างน้อยถึงปี 2050 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะยังมีโอกาสขยายตลาดไปยังประเทศต่าง ๆ ได้อีกมาก เช่น อินเดีย ญี่ปุ่น

    7. ธุรกิจพลังงานสะอาดที่ไม่พูดไม่ได้ในตอนนี้ ก็คือ EV ?

    เราทราบดีอยู่แล้วว่า หนทางลดปัญหามลภาวะจากการใช้รถยนต์ก็คือ การหันมาใช้รถยนต์ EV หรือรถไฟฟ้า แต่สงสัยไหมว่า ทำไมเทรนด์นี้จึงกลายเป็นโอกาสลงทุนมหาศาลในอนาคต

    จากข้อมูลคาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์ EV จะเพิ่มขึ้น 18 เท่าในอีกสิบปีข้างหน้า แสดงว่าอาจเพิ่มขึ้นสองเท่าทุก ๆ ปี ซึ่งในอนาคตรถยนต์ทั่วโลกจะกลายเป็นรถยนต์ EV อย่างน้อย 80%

    เหตุผลก็เพราะว่า ราคารถยนต์ไฟฟ้าจะถูกลงเรื่อย ๆ สังเกตได้จาก ลิเทียมไอออนแบตเตอรี่ ที่มีราคาถูกลง 88% เมื่อเทียบกับสิบปีก่อน หากราคายังคงลดลงเรื่อย ๆ ก็เชื่อว่า ราคารถยนต์ EV และรถยนต์สันดาป จะมีระดับราคาใกล้เคียงกัน

    นอกจากนี้ นโยบายของประเทศแถบยุโรปยังให้ความสำคัญเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยจะยกเลิกการขายรถยนต์สันดาปแล้วจริง ๆ เช่น สวีเดน ประกาศยกเลิกในปี 2025 หรืออังกฤษ ก็ประกาศยกเลิกในปี 2035

    พอเป็นแบบนี้ แบรนด์รถยนต์ต่าง ๆ จึงต้องปรับตัวกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เก่าแก่อย่าง Honda, Toyota หรือแบรนด์ใหม่อย่าง Tesla, BYD, XPeng แม้กระทั่งค่ายเก๋าอย่าง Harley-Davidson, Porsche ก็ต้องปรับตัวตามเช่นกัน

    ที่น่าสนใจก็คือ การเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมรถยนต์รอบนี้ ทิศทางเงินลงทุนไม่ใช่แค่ส่วนของรถยนต์ EV เพียงอย่างเดียว แต่จะไปถึง Supply Chain ต่าง ๆ ทั้งหมด เช่น
    - บริษัทผลิตแบตเตอรี่
    - บริษัทชิป Semiconductor
    - บริษัท Software ที่ทำ ADAS (รถยนต์ไร้คนขับ Autonomous Driving) และบริษัท Simulation ทำการจำลองการขับรถ

    ทีนี้ลองมาดูตัวอย่างธุรกิจรถยนต์ EV ที่กองทุน B-SIP เข้าไปลงทุนกันบ้าง

    XPeng อ่านว่า เสี่ยวเผิง เป็นบริษัทรถยนต์ EV เน้นตลาดระดับกลางเเละระดับสูงในจีน ที่เรียกได้ว่าท้าชนกับ Tesla ได้เลย เช่น รถยนต์ EV รุ่น XPeng P7 ที่มีราคาเปิดตัวล้านกว่าบาท ชาร์จหนึ่งครั้งจะวิ่งได้ 700 กิโลเมตร โครงสร้างต่าง ๆ มาจากการออกแบบของวิศวกรที่มาจาก Apple, Tesla

    XPeng ยังใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ อย่าง 5G, AI ซึ่งตอนนี้ก็มีเทคโนโลยี Autonomous Driving เรียบร้อยแล้ว และยังใช้แบตเตอรี่ของ CATL ผู้ผลิตแบตเตอรี่จีนที่ใหญ่ที่สุด ที่เพียงใช้เวลา 30 นาที ก็สามารถชาร์จได้ 80% อีกด้วย

    ด้วยเหตุนี้ กองทุน B-SIP จึงไม่พลาดที่จะเข้าไปลงทุน IPO ปีที่แล้ว เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจพลังงานสะอาดที่มี Green and Great Return เลยทีเดียว

    8. นอกจาก พลังงานลม และรถยนต์ EV ยังมีธุรกิจไหนจะเป็นเทรนด์อนาคตได้อีกบ้าง ?

    เริ่มต้นด้วยเรื่องใกล้ตัว อย่างอาหารที่เรียกว่า “Beyond Meat” ซึ่งเป็นธุรกิจผู้ผลิตอาหารคล้ายเนื้อที่ไม่ได้มาจากเนื้อจริง ๆ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมเรื่องปัญหาดิน ปัญหาน้ำ และปัญหามลพิษ

    โดยในปี 2050 คาดว่าจะมีการเพิ่มขึ้นของประชากรโลก 2.8 พันล้านคน และจะตามมาด้วยปริมาณอาหารที่ต้องการเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

    หากเป็นอาหารประเภทเนื้อสัตว์ จำเป็นต้องใช้พื้นที่เลี้ยงสัตว์และปัจจัยต่าง ๆ มากกว่าการปลูกพืชอย่างมาก เช่น การเลี้ยงวัว จะใช้ที่ดินมากกว่า 18 เท่า รวมทั้งใช้น้ำและพลังงานมากกว่า 10 เท่า และยังจะปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซมีเทน ออกมาจากร่างกายอีกด้วย

    จึงไม่แปลกใจเลยว่า สัดส่วน 79% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการเกษตรมาจาก “การเลี้ยงสัตว์”

    ปัจจุบัน Beyond Meat กำลังขยายฐานลูกค้าได้ดี สังเกตได้จากแบรนด์อาหารต่าง ๆ ที่หันมานำเสนอผลิตภัณฑ์จาก Beyond Meat มากขึ้นทั่วสหรัฐอเมริกา

    เช่น แมคโดนัลด์, เอแอนด์ดับบลิว, Dunkin'
    และยังกระจายไปตามร้านสะดวกซื้อ ที่เราสามารถซื้อกลับไปปรุงอาหารที่บ้านได้เองอีกด้วย

    Beyond Meat กลายเป็นบริษัทที่น่าจับตามอง และเข้า IPO ในปี 2019 ที่มีมูลค่าบริษัท 3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มาในปีนี้มูลค่าบริษัทเพิ่มขึ้นมาเป็น 9.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นสองเท่ากว่า ๆ ภายในสองปี นอกจากนี้ยังมีรายได้ปี 2020 เติบโต 36% อีกด้วย

    นอกจากธุรกิจอาหารแล้ว ก็ยังธุรกิจอื่น ๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เช่น

    - Schneider Electric เป็นบริษัทผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น ลิฟต์ ที่มีการคำนวณการใช้งานแบบประหยัดพลังงาน ซึ่งในอนาคตหากอาคารไหนเป็นอาคารประหยัดพลังงาน ก็จะสามารถเรียกค่าเช่าสูงขึ้นได้

    - Equinix เป็นบริษัทโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของโลก เป็นศูนย์จัดเก็บข้อมูลที่ไม่สามารถหยุดทำงานได้ ต้องใช้ไฟตลอดทั้งวันทั้งคืน ปัจจุบันบริษัทสามารถใช้พลังงานหมุนเวียน 92% ของพลังงานทั้งหมด

    - Ansys เป็นบริษัทจำลองผล จำลองสถานการณ์สำหรับรถยนต์, เครื่องบิน และอื่น ๆ เพื่อช่วยลดปริมาณการสูญเสียทรัพยากรในช่วงของการทดสอบ

    เช่น Dyson แบรนด์เครื่องเป่าผมของผู้หญิง ทำให้แห้งเร็วขึ้นและดีขึ้น
    Ansys เข้ามาช่วยคำนวณทิศทางลม, ลมแรง และค้นหาประสิทธิภาพที่ดีที่สุด โดยใช้ซอฟต์แวร์จำลองผลการทดสอบ ช่วยประหยัดทรัพยากร และประหยัดต้นทุนไปได้อย่างมาก

    สรุปแล้ว แค่ Theme พลังงานสะอาดอย่างเดียว ก็ทำให้เราเห็นโอกาสของธุรกิจหลากหลายสาขา
    ไม่ว่าจะเป็น การผลิตไฟฟ้าที่จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนด้วยพลังงานลม
    หรือจะเป็นการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากรถยนต์ที่จะเปลี่ยนทั้ง EV Supply Chain
    รวมทั้ง การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนด้วยอุตสาหกรรมอาหาร และการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือมากขึ้น นั่นเอง

    9. แล้วเราจะเข้าถึงโอกาสการลงทุนในบริษัทเหล่านี้ได้อย่างไร ?

    กองทุน B-SIP เป็นหนึ่งกองทุนเพื่อตอบโจทย์การลงทุนในพลังงานสะอาดโดยตรง และมีจุดเด่นด้วยสไตล์การลงทุนของกองทุนบัวหลวง ที่จะเฟ้นหาธุรกิจดีมีคุณภาพและเติบโต ซึ่งจะสร้างความแตกต่างจากกองทุนอื่นทั่วไป นั่นคือ

    1. เน้นลงทุนธุรกิจรักษาสิ่งแวดล้อม ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ในอนาคตที่เรียกว่า Green and Great Return นั่นเอง

    2. มองว่าเทรนด์รักษาสิ่งแวดล้อมและพลังงานสะอาด จะเป็น Megatrends ของโลกที่เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น จึงเชื่อว่า Theme นี้มีความน่าสนใจและสามารถลงทุนระยะยาวได้

    3. เปลี่ยนภาพจำว่า การลงทุนในพลังงานสะอาดและสิ่งแวดล้อมไม่จำเป็นต้องเป็นหุ้นน่าเบื่อหรือหุ้นโครงสร้างพื้นฐานเสมอไป

    เพราะการลงทุนของ B-SIP ส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นเติบโต มีนวัตกรรม มีเทคโนโลยี และยังคำนึงถึงการประเมิน Valuation ด้วย

    ถ้าฉายภาพใหญ่ ๆ ก็คือ กองทุน B-SIP จะลงทุนทั้งในฝั่ง Global Environmental Opportunities และ Clean Energy นั่นเอง

    โดยฝั่ง Global Environment จะมีสัดส่วนธุรกิจเทคโนโลยี 40% นอกจากนั้นจะเป็นบริษัทอุตสาหกรรม, กลุ่มวัสดุก่อสร้าง และกลุ่มเคมีภัณฑ์
    ซึ่งจะมีรูปแบบลงทุน Active Management เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างหุ้นเติบโตและหุ้นคุณค่า

    ส่วนในฝั่งของพลังงานสะอาด จะมีสัดส่วนธุรกิจเทคโนโลยี 48% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะได้เข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรม EV ทั้ง Supply Chain ราว 33% ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทฝั่งสหรัฐอเมริกา และยุโรป เพราะเป็นผู้นำเรื่องเทคโนโลยีพลังงานสะอาด

    เช่น Orsted ธุรกิจพลังงานลมนอกชายฝั่งมากว่า 10 ปี มีเทคโนโลยีน่าสนใจ และยังมีโอกาสขยายตลาดได้อีกมาก

    ทั้งหมดนี้ จึงสะท้อนได้ว่า กองทุน B-SIP เป็นอีกหนึ่งช่องทางลงทุนใน Theme พลังงานสะอาดที่จะสร้างการเติบโตในระยะยาวได้แบบ Green and Great Return นั่นเอง..

  • รถยนต์ 在 Welldone Guarantee Youtube 的最佳貼文

    2021-06-23 20:21:17

    #รถไฟฟ้า #รถยนต์ไฟฟ้า #โตโยต้า

    เมื่อประเทศไทยวันนี้ เคยเป็นฐานการผลิตรถยนต์น้ำมันมากกว่า 50 ปี โดยเฉพาะค่ารถยนต์ญี่ปุ่นที่เป็นผู้มาลงทุน จนมาวันนี้ รถยนต์ไฟฟ้าเริ่มมีบทบาทมากขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นรถค่ายจีน ที่เข้ามาทำตลาดในเมืองไทย แต่ถ้าว่าใครญี่ปุ่นยังคงผลักดัน Hybrid ต่อไปไม่มีทีท่าว่าจะเปลี่ยนเป็นทางผลิตรถไฟฟ้า แล้วเมื่อไหร่ไทยจะเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ มาติดตามดูกันต่อไป

    ?⚡สำหรับใครที่สนใจอยากเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดัน รถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานทางเลือกให้เกิดขึ้นในประเทศไทยให้ได้??
    เข้ามาเป็นส่วนนึงในการผลักดัน สมัครเป็นสมาชิกของช่องนี้เพื่อเข้าถึงสิทธิพิเศษต่างๆ??
    https://www.youtube.com/channel/UCXEM58IYx6OxTYRMcoYIOTw/join

    FB: @welldone guarantee
    Tik Tok: http://bit.ly/3goOcUU
    IG: welldone_guarantee

    ติดต่องานได้ที่
    [email protected]

  • รถยนต์ 在 Channel RL Youtube 的最佳貼文

    2021-06-20 12:19:29

    สมัครเป็นสมาชิกของช่องนี้เพื่อเข้าถึงสิทธิพิเศษต่างๆ
    https://www.youtube.com/channel/UC6EVXYCjYxul_6YR9H4HBzw/join

    ติดตามช่องใหม่ https://www.youtube.com/channel/UCFzRHbEwio2EIiFDy21M7QA?sub_confirmation=1

    กด subscribe ติดตามทาง YouTube ช่วยแชร์ด้วย บอกต่อเล่าต่อ เขียนคอมเม้นมาคุยกันบ้าง

    #อย่าลืม #กดไลค์ #กดแชร์ #กดถูกใจ #กดติดตาม
    #เขียนคอมเม้นท์มาคุยกันบ้าง #SUBSCRIBE
    #กดกระดิ่งแจ้งเตือน #เพื่อไม่พลาดคลิปต่อๆไป
    #ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม

    ฝากติดตาม เพจใหม่ด้วยครับ บอกต่อเล่าต่อ ด้วยครับท่าน ดูคลิปการแข่งขัน รถมอเตอร์ไซค์ 2ล้อ รถยนต์ 4 ล้อ ที่สนามกีฬาสงขลาสปีดเวย์

    หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
    บริจาค สนับสนุนช่องช่วยค่าน้ำมันในการเดินทางไปรีวิวได้ที่
    true wallet : 0858992289

    สนใจ โทร 085-899-2289
    สนับสนุนสถานี : นายหร้อหีม และตี 562-057089-4 ธนาคารกรุงเทพ

    ฝากกดติดตามได้ที่
    ติดต่อสอบถาม
    YT @Channel RL
    YT @ช้อปชิมชมเที่ยว
    Fp #Channel RL
    Fp #คำคมชาวล้อ
    Fp #เทพในสนาม
    กลุ่ม #สงขลาสปีดเวย์ มอเตอร์สปอร์ตNEWS
    กลุ่ม #สงขลาสปีดเวย์ ซื้อขายแลกเปลี่ยน (เก่าใหม่)

  • รถยนต์ 在 Welldone Guarantee Youtube 的最佳貼文

    2021-06-19 11:09:09

    #รถไฟฟ้า #รถยนต์ไฟฟ้า #GWM #Haval

    Great wall Motor เริ่มผลิตรถในไทยจริงๆแล้วหลังจากที่ซื้อโรงงาน General Motor ไปร่วมปี จึงได้เปลี่ยนโฉมโรงงานเป็น smart Factory เลยเพิ่มระบบหุ่นยนต์ และเครื่องมือ ต่างๆ ที่สามารถรองรับการผลิตรถได้หลากรูปแบบรวมไปถึงรถไฟฟ้าในอนาคตด้วย มาติดตามดูกันว่าเป็นอย่างไรเทคโนโลยีในโรงงานจะขนาดไหน

    ?⚡สำหรับใครที่สนใจอยากเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดัน รถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานทางเลือกให้เกิดขึ้นในประเทศไทยให้ได้??
    เข้ามาเป็นส่วนนึงในการผลักดัน สมัครเป็นสมาชิกของช่องนี้เพื่อเข้าถึงสิทธิพิเศษต่างๆ??
    https://www.youtube.com/channel/UCXEM58IYx6OxTYRMcoYIOTw/join

    FB: @welldone guarantee
    Tik Tok: http://bit.ly/3goOcUU
    IG: welldone_guarantee

    ติดต่องานได้ที่
    [email protected]

你可能也想看看

搜尋相關網站