โรคธาลัสซีเมีย เป็นโรคที่ร่างกายจะผลิตเม็ดเลือดแดงผิดปรกติ ทำให้เม็ดเลือดแตกง่าย คนไทยมีคนเป็นโรคนี้เยอะมาก ความรุนแรงของโรคมีตั้งแต่ อาจจะโลหิตจางนิดหน่อย ไปจนถึงอาการรุนแรง ซีดจัด ตับโต ม้ามโต อายุขัยสั้น แต่ปัจจุบันสามารถรักษาให้หายขาดได้ ด้วยการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์

เคสนี้เป็นเคสที่น่าทึ่งมาก เพราะน้องคนที่เป็นธาลัสซีเมีย อาการหนักและต้องรีบปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ โดยจะใช้สเต็มเซลล์จากน้องชายมาปลูกถ่ายให้พี่สาว แต่คนน้อง ติด covid-19 พอดี แต่หมอไทยสามารถ ปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ให้น้องโดยปลอดภัย ไม่ติด covid-19 ได้

ตอนนี้เด็กไทยอีกเยอะที่ยังรอการรักษาแบบนี้ ใครสนใจอยากสนับสนุนทางสถาบันเรื่องนี้ ลองไปดูคลิปกันจ้าาาา

นี่คือเรื่องจริงของครอบครัวหนึ่ง...

“น้องจีน” ลูกสาวคนแรกลืมตาดูโลกพร้อมกับโรคธาลัสซีเมีย
โชคดีที่มีวิธีรักษาให้หายได้ “การปลูกถ่ายไขกระดูก” คือความหวังเดียว
แต่การหาไขกระดูกที่มีเนื้อเยื่อเข้ากันได้...ไม่ใช่เรื่องง่าย
โชคดีที่ “น้องจีโอ้” ลูกชายคนที่สองมีเนื้อเยื่อที่สามารถบริจาคให้พี่สาวได้
แต่ดีใจได้เพียงไม่นานหนทางก็กลับดูมืดมนลงอีกครั้ง
เพราะ 1 วันก่อนการปลูกถ่ายไขกระดูก พบว่า “น้องจีโอ้ ติดเชื้อไวรัสโควิด-19!”

ทั้งหมดนี้คือเหตุการณ์จริงที่เราอยากให้คุณได้ร่วมเป็นกำลังใจให้กับผู้ป่วย และครอบครัวของน้องจีนกับน้องจีโอ้ กับการรักษาโรคธาลัสซีเมีย ด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูกจากผู้บริจาคที่ติดเชื้อโควิด-19 ครั้งแรกของโลกโดยทีมแพทย์คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

ขอเชิญร่วมเป็นส่วนหนึ่งเพื่อมอบอนาคต และชีวิตใหม่ให้แก่ผู้ป่วย ได้ที่ มูลนิธิรามาธิบดีฯ
• ธ.กรุงเทพ 090-3-50015-5
• ธ.กสิกรไทย 879-2-00448-3
• ธ.ไทยพาณิชย์ 026-3-05216-3
• บริจาคออนไลน์ www.ramafoundation.or.th

#คำว่าให้ไม่สิ้นสุด

[เรื่องและภาพได้รับอนุญาตจากครอบครัวผู้ป่วย และโรงพยาบาลรามาธิบดีแล้ว]
This is true of one family...

′′ Chinese sister ′′ the first daughter opens her eyes to see the world with Dhal cuddle S.M.
Fortunately, there is a cure for ′′ bone marrow transplant ′′ is the only hope.
But finding bone marrow with tissue matching... is not easy.
Fortunately, ′′ Little Gio the second son has tissues that she can donate to the sister.
But I'm glad. It's not long ago. It's darker again.
Because 1 days ago, bone marrow transplant found that ′′ Gio is infected with the COVID-19!"

All of these are real events that we want you to cheer up for patients and family of China and Gio with treatment of cuddle ccmia with bone marrow transplant from COVID-19 infected donors. The first time in the world by the medical team, Faculty of Medicine, Ramathibodi Hospital, Mahidol University cuddle

Invitation to be part of the future and new life for patients at Ramathibodi Foundation.
• Dec. Bangkok 090-3-50015-5
• Dec. Kasikorn 879-2-00448-3
• Dec. Siam Commercial 026-3-05216-3
• Donate online www.ramafoundation.or.th

#คำว่าให้ไม่สิ้นสุด

[Story and pictures are allowed by family, patients and Ramathibodi hospital]Translated

คนส่งหลังไมค์มาถามเรื่องที่มีคนโพสบอกว่า งาดำกินแล้วอันตราย กินแล้วเป็นพิษ ทำให้ทองแดงคั่งในร่างกาย บลาๆ

อธิบายตามนี้ ปรกติ งาดำ เป็นอาหารที่มีประโยชน์สูงมาก มีสารต้านอนุมูลอิสระ โปรตีน กรดอะมิโน กรดไขมันไม่อิ่มตัวที่สำคัญหลายตัว ใยอาหารก็เยอะ เกลือแร่ เช่น ทองแดงก็มี

ถ้าบริโภคตามปรกติจะเป็นประโยชน์กับร่างกาย แนะนำให้แดกไม่เกินวันละ 15 กรัม หรือ 1 ช้อนโต๊ะ กำลังดี เพราะแคลอรี่สูงฉิหัยเลย 100 กรัม ปาเข้าไปตั้ง 700 kcal อะไรจะเยอะขนาดนั้นวะ แดกเยอะๆอ้วนครับ ดังนั้นแดกแต่พอดี

อ้างอิง http://www.thaiheartfound.org/category/details/food/168

ส่วนไอ้ที่มีคนบอกว่า มีคนเฒ่าคนแก่กินเยอะแยะจนขี้ดำ (นี่กินเยอะขนาดไหนวะกินจนขี้ดำเนี่ย) แล้วมีอาการต่างๆนานาตามมามากมาย โดยบอกว่าเป็นเพราะวิตามินอีเอย เพราะไฟเบอร์เอย เพราะทองแดงในงาดำเอย บลาๆ

อย่างแรก งาดำมีปริมาณทองแดงค่อนข้างสูง แต่ส่วนมากร่างกายก็กำจัดได้ไม่มีปัญหาอะไร ยกเว้นว่าจะเป็นโรคบางอย่าง เช่น โรค Wilson's disease เป็นโรคทางพันธุกรรมที่เป็นมาแต่เกิด ทำให้การขับทองแดงออกจากร่างกายบกพร่อง ทำให้มีทองแดงสะสมในร่างกายคนๆนั้นเรื่อยๆ

จนเริ่มมีอาการต่างๆ ที่พบบ่อยสุดคืออาการทางตับ เช่น ตัวเหลือง ตับโต ม้ามโต ตามมาด้วยอาการทางระบบประสาท เคลื่อนไหวผิดปรกติ กลืนลำบาก อะไรประมาณนั้น

สนใจอ่านเพิ่มเติมที่นี่ http://www.med.nu.ac.th/patho/humanities/Group-65.pdf

ซึ่งคนที่เป็นโรคนี้ อาการสังเกตอันนึงของโรคนี้คือมีวงแหวนรอบตา เรียกว่า Kayser Fleischerring ring ดูภาพประกอบในลิงค์ข้างบน

ซึ่งอันนี้ดูยากครับ ถ้าไม่ใช่หมอเฉพาะทางที่เคยเห็นมาก่อน อาจจะแยกไม่ออกกะได้ เพราะมันจะคล้ายๆกับ Arcus cornealis ที่เกิดจากภาวะไขมันในเลือดสูง คนแก่พบอาการนี้ได้บ่อย

ดูในเน้นะ

https://www.facebook.com/endopractice/posts/2020806498190023/

ส่วนที่บอกว่าอาม่าคนนั้นท้องอืด แน่นท้องตลอดเวลา เพราะงาดำมีไฟเบอร์สูง กินเยอะย่อยยาก จริงๆแล้วงาดำไฟเบอร์สูงนี่กินแล้วลำไส้ทำงานดี ขี้กันฉิบหายวายป่วงเลยนะครับ เพราะงาดำนี่มีสรรพคุณระบาย ทำให้ขี้คล่องมาก

ส่วนไอ้ที่ว่าทองแดงไปทำให้เกิดฝ้าดำที่หน้าอะไรงี้ อันนี้ไม่มีข้อมูลแฮะว่ามันทำให้มีอาการแบบนั้น สรุปไอ้ที่เขาบอกว่าอาการอาม่าเป็นงั้นเพราะกินงาดำ

ยังเร็วไปที่จะสรุปแบบนั้นเน้อ เพราะยังไม่เห็นว่าอาการที่เขาเล่ามาจะเหมือนเคสคนไข้ที่ทองแดงเกินในร่างกายเลย ควรให้อาม่าคนนั้นไป รพ เพื่อตรวจวินิจฉัยโดยละเอียดก่อนจะดีกว่า

และงาดำเป็นอาหารที่มนุษย์กินกันมานานมากไม่รู้กี่พันปี
กินได้ตามปรกติ ไม่ต้องซีเรียสมาก แต่ขอให้บริโภคแต่พอดี
อย่าแดกมากไปล่ะครับ แคลอรี่สูงสัสๆเลยโว้ย แล้วก็ อะไรก็ตาม แดกมากไปแม่งก็มีปัญหาตามมาทั้งนั้น เช่น โซเดียม ก็เป็นเกลือแร่ตัวนึงที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่ถ้าแดกมากไป ไตก็ทำงานหนัก ความดันก็สูงปริ๊ด อะไรงี้
แนะนำให้แดกงาดำแต่พอดี ไม่เกินวันละ 1 ช้อนโต๊ะ

ปล หมอแมวแกกำลังเขียนเรื่องนี้แบบละเอียดๆเด๋วรออ่านกันเนอะ

#เก็บตก2 "ไม่ใส่รองเท้าในบ้านที่ปูกระเบื้อง ไม่ได้ทำให้ม้ามชื้น แต่อาจจะไม่ดีต่อสุขภาพเท้า"

อันนี้เป็นคำถามเกี่ยวกับ "ม้าม" ว่า การไม่ใส่รองเท้าในบ้านที่ปูกระเบื้องหรือหินอ่อน ความเย็นเข้าทางเท้าไปสะสมในม้ามและกระดูก ทำให้อ่อนแรง ภูมิคุ้มกันลด" จริงหรือไม่ ... คำตอบคือ เป็นแค่ความเชื่อเท่านั้นครับ ไม่ได้จะอันตรายอะไรอย่างที่ว่า ... แต่การไม่ใส่รองเท้าเดินบนพื้นแข็งๆ ก็ไม่ดีต่อสุขภาพเท้าเหมือนกันนะ

ม้าม หรือ spleen เป็นอวัยวะที่อยู่บริเวณช่องท้องส่วนบน ใต้กะบังลมทางซ้าย และอยู่ใกล้กับตับอ่อนและไตซ้าย (ดูรูปประกอบ) มีรูปทรงเรียวรีคล้ายเมล็ดถั่ว ทำหน้าที่ขจัดเชื้อโรคและเซลล์เม็ดเลือดแดงที่ตายแล้ว ออกจากกระแสเลือด

ม้ามยังทำหน้าที่ดึงธาตุเหล็กจากฮีโมโกลบินของเซลล์เม็ดเลือดแดง นำมาใช้ในร่างกาย และเอาของเสียออกจากกระแสเลือดในรูปของน้ำปัสสาวะ นอกจากนี้ ม้ามสามารถสร้างแอนตีบอดีในการต่อต้านเชื้อโรค และยังผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงขึ้นมาใหม่ได้ด้วย

ม้ามอาจจะมีอาการผิดปรกติได้ เช่น Splenomegaly (ม้ามโต) เพราะมีการติดเชื้อแบคทีเรีย ปรสิต หรือไวรัสในร่างกาย ทำให้การกำจัดเซลล์เม็ดเลือดแดงเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้เกิดโรคโลหิตจางแทรกซ้อนขึ้นมา ... จะเห็นว่า ความผิดปรกติของม้านนั้น ไม่ได้เกิดจากความเย็นสะสมเนื่องจากไม่ใส่รองเท้าบนพื้นกระเบื้องแต่อย่างไร

แต่ๆๆ การเดินเท้าเปล่าบนพื้นแข็งๆ ก็ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับสุขภาพของเท้าคนเรา ที่ธรรมชาติออกแบบมาให้เดินบนพื้นดินที่อ่อนนุ่มกว่าพื้นแข็งๆ อย่างกระเบื้องหรือซีเมนต์

การเดินเท้าเปล่าเพียง 5,000-10,000 ก้าวต่อวัน ก็มากพอที่จะทำให้คุณเกิดอาการปวดเท้าได้แล้ว เพราะความแข็งของพื้นทำให้ น้ำหนักถ่ายเทลงไปอย่างผิดลักษณะ เกิดเป็นอาการปวดส้นเท้า ฝ่าเท้า หรือแม้กระทั่งปวดเข่าตามมา เพราะฉะนั้น ถ้าจะรองเท้าแตะมาใส่เดินในบ้านด้วย ก็จะช่วยเพิ่มความสบายให้กับเท้าของเรานะครับ

ภาพและข้อมูลเรื่อง ม้าม จาก https://th.wikipedia.org/wiki/ม้าม

ข้อมูลเรื่องเดินบนพื้นแข็ง จาก https://www.sanook.com/health/349/