雖然這篇มุมานะ ภาษาอังกฤษ鄉民發文沒有被收入到精華區：在มุมานะ ภาษาอังกฤษ這個話題中，我們另外找到其它相關的精選爆讚文章
在 มุมานะ產品中有8篇Facebook貼文，粉絲數超過0的網紅，也在其Facebook貼文中提到， แด่แก้ม 14.6.2021 🌺สักวาฉีดวัคซีนกันโควิด รถก็ติดแต่ก็ไปไม่แล้วหรือ ไปถึงบ่ายอากาศร้อน ตาก็ปรือ ไม่ได้ง่วง แค่กินอิ่ม อ๋อโอเค ไปถึงที่ต่อคิวเรียงลำ...
มุมานะ 在 Tippawan Tanchai Instagram 的最佳貼文
2020-05-10 23:30:35
มีเรื่องมีราวดีๆมาแบ่งปัน นี่คือ... โจทย์ชีวิต ทัศนคติ วิถีชีวิตของเด็กผู้หญิงคนนึงที่ชีวิตไม่มีต้นทุนอะไรเลย คนนั้นคืออ้อยเอง^^ #ทำงานหาเงินยังไงให้...
มุมานะ 在 ?BEE วัลวิภา ? YOKAKUL???? Instagram 的最讚貼文
2020-05-11 16:36:00
"มิเรียม คือ ลูกแกะ ของพ่อแม่" "เค้าเป็นเด็กที่เข้มแข็ง มุมานะ ขยัน" "พ่อนับถือน้ำใจของเค้ามาก ที่สู้ชีวิตดูแลครอบครัวและตัวเองตั้งแต่เค้ายังเด็กๆ" ป...
มุมานะ 在 Warattaya Nilkuha (Jooy) Instagram 的最佳貼文
2020-05-01 22:50:09
เวลาทำบุญไหว้พระ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือเรื่องธุรกิจการค้า ก็จะขอให้ท่านคุ้มครองบริษัทตัวแทน พนักงานวิฟสกินทุกคน และขอทำงานกันด้วยความราบรื่...
มุมานะ 在 Facebook 的最佳解答
แด่แก้ม 14.6.2021
🌺สักวาฉีดวัคซีนกันโควิด
รถก็ติดแต่ก็ไปไม่แล้วหรือ
ไปถึงบ่ายอากาศร้อน ตาก็ปรือ
ไม่ได้ง่วง แค่กินอิ่ม อ๋อโอเค
ไปถึงที่ต่อคิวเรียงลำดับ
เกือบจะหลับคิวยาวร้องอื้อหือ
มุมานะ อุตสาหะ ต้องฝึกปรือ
หยิบมือถือเตรียมสั่งแกร็บหลังวัคซีน
2 ชม.มาถึงแล้วคิวของข้า
รีบหยิบบัตรคิวออกมาโชว์ให้เห็น
แต่สุดท้ายเข่าแทบทรุดตอนเย็นๆ
เข็มอยู่ข้างหน้า ควักกระเป๋าออกมา
ลืมบัตรประชาชน.....เอยยย 😭
มุมานะ 在 People Persona Facebook 的最讚貼文
Leadership of the new era!
“ความเป็นผู้นำ ทัศนคติใหม่บนโลกใบเดิม”
หลังจากผ่านเวลาการทำงานเป็น พนักงานบริษัทเอกชนมากว่า 20 ปี
ผมพบว่าโลกในการทำงานของผมเปลี่ยนไปอย่างมาก
ผมเกิดอยู่บนโลกของคน Gen Y ที่คาบเกี่ยวกับคน Gen X
และมีหัวหน้าใหญ่เป็นคน Baby boom ส่วนใหญ่ในวัยผมก็เรียกว่า "เจ้านาย"
ส่วนผมก็ถูกเรียกว่า "ลูกน้อง"
หากสังเกตสองคำนี้ดีๆ มันบ่งบอกการมองโลกในช่วงเวลา 2000-2010 ได้เป็นอย่างดี
เราต้องให้คนที่สอนการทำงานและปรับเงินเดือน ให้เป็นทั้ง เจ้า(ชีวิตการทำงาน) นาย(ผู้สั่งให้เราทำอะไรก็ได้)
ในขณะที่หัวหน้าเราก็ควรจะมอง เราเป็นทั้ง ลูก(สอนได้-ตีได้) น้อง(ตายแทนกันได้)
หัวหน้าที่ดีก็มักจะตามมาด้วยภาวะความเป็นผู้นำ เพราะอะไรเหรอครับ
ก็เพราะ เค้ามีความทุ่มเท มุมานะ มีประสบการณ์สูง อาบน้ำร้อนมาก่อน เก่งไปซะทุกอย่าง
มีอิทธิพลในที่ประชุมเยอะ ออกความเห็นอะไรคนก็เออก็ออ จนเราก็แอบปลื้ม และอยากตามรอยเท้าให้ได้ในอนาคต
ส่วนตัวผมเองผมก็เคยคิดว่าผู้นำแบบนี้เหมาะมากที่จะทำให้เรายอมที่จะทำงานด้วย และไม่ลาออกไปไหนง่ายๆ ติดสอยห้อยตามกันไปจนเกษียณ
แต่ทว่า...โลกใบนี้มันไม่ได้หยุดเพียงแค่ปี 2010 สิครับ หลังจากนั้น ความเป็นผู้นำ เป็นเพียงแค่สิ่งที่ผมคิด แต่กลับไม่ใช่สิ่งที่ใช้ผมจะนำมาได้ในยุค 2020 และหลังจากนี้ เมื่อผมต้องเริ่มเป็นผู้นำซะเองด้วย
ดังนั้น ทัศนคติของผู้นำในองค์กรยุคใหม่ (บนโลกใบเดิม) ตามประสบการณ์ของผม และที่ได้อ่านได้ฟังมาจากนักคิดนักเขีนน และผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆมีอะไรบ้าง
ลองอ่านและคิดตามดูครับว่าตรงกันไหม
1. ความรู้ของเรามีวันหมดอายุ ความรู้ในวันนี้อาจจะใช้ไม่ได้ในวันพรุ่งนี้ ยอมรับว่าไม่รู้ดีกว่าไปโชว์โง่ทีหลัง เด็กรุ่นใหม่รู้มากกว่าเราในหลายๆมุมเยอะ(แม้อาจยังตัดสินใจได้ไม่ดีเท่าเราก็ตาม)
2. การนำใจเขามาใส่ใจเราเป็นเรื่องสำคัญ เพราะปัญหาของมนุษย์ส่วนใหญ่ไม่ใช่ปัญหาทางเทคนิค แต่เป็นปัญหาด้านการปรับตัว ความรู้สึกเป็นเรื่องลึกซึ้งและสอนกันไม่ได้
3. ความชัดเจนในการเปิดเผยความจริง เราต้องกล้าที่จะบอกว่าเราคิดอะไร และสถานการณ์ตอนนี้เรากำลังเผชิญกับอะไร เพราะผู้นำมิใช่พระเอก รับกระสุนแล้วทำเหมือนสบายดี ความซื่อสัตย์จริงใจ มักมีราคาแพงเสมอ
4. ถ้อยคำรุนแรงในสมัยก่อนที่เอาไว้ด่าลูกน้อง แล้วคิดว่าเค้าจะทนได้ ใช่ไม่ได้กับสมัยนี้ เพราะศักดิ์ศรีความเป็นคนเราเท่ากัน เช่น "ทำไมโง่จังวะ" "จบปริญญามาจริงไหมเนี่ย" “เอาสมองส่วนไหนคิด” เลิกใช้ซะครับ ถ้าไม่อยากถูกด่าลับหลัง ว่า”กะโหลกกะลาล้าหลัง”
ใครคิดอะไรออกมาแชร์กันนะครับ ว่าผู้นำยุคใหม่ควรมีคุณสมบัติอะไรบ้าง ผมรู้ว่ามีอีกเยอะ ผู้นำยุคนี้ นำให้ดีให้คนรัก ยากกกกก มากครับ แต่ไม่ใช่จะทำไม่ได้เนอะ ^^
#leaderofthenewera
#changebeforeyoulead
#peoplepersona
#เขย่งก้าวกระโดด
มุมานะ 在 เกี้ยแซ่บบ Facebook 的最佳貼文
อยากเล่า..เรื่องราวชีวิตกว่าจะมีวันนี้ของพี่เกี้ย เผื่อเป็นกำลังใจให้คนที่ท้ออยู่ และเผื่อเป็นประโยชน์สำหรับใครบางคน ไม่มากก็น้อยนะฮะ!! 🥰🥰
.
จริงๆ ที่บ้านพี่เกี้ย มีปัญหาเรื่องธุรกิจล้มเนอะ ตั้งแต่ช่วงปี 2538 ตอนนั้น พี่เกี้ยเรียนมหาวิทยาลัยอยู่เลย ประมาณ ปี 4 จากสภาพของคนที่เป็นคุณหนูตั้งแต่ยังเด็ก ไม่เคยลำบาก ก็กลายเป็นคนไม่มีอะไรทันที ได้ญาติช่วยค่าเล่าเรียน จนเรียนจบมหาลัย ตอนนั้นจำได้ว่า ป๋าถูกฟ้องให้เป็นบุคคลล้มละลาย ป๋าต้องติดคุกอยู่ช่วงนึงสั้นๆ ส่วนแม่ก็ต้องวิ่งหายืมเงินประกันมาช่วย และต้องหย่ากับป๋า เพื่อไม่ให้ผลกระทบถึงแม่ และลูกๆ มันลำบากมากจริงๆ
.
พี่เกี้ยเองก็เริ่มทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยแต่ ต้องหาที่ฝึกงาน ต้องหาของมาขาย และเริ่มสอนร้องเพลง เพื่อหารายได้เสริมให้แม่กับป๋าได้ใช้ แม้จะได้ไม่เยอะมาก ก็ยังพอได้แหละ 6,000 -7,000 ต่อเดือน พอเรียนจบ ก็ทำงานมัน 7 วันเลย วันธรรมดาก็ทำงานประจำไป เงินเดือนก็น้อยมาก ในวันเสาร์อาทิตย์ ก็ยังต้องหาของมาขาย รับจ้างทำบัญชี และสอนร้องเพลงไปเรื่อยๆ เพื่อพยายามดูแม่กับป๋าให้ดีที่สุด
.
ต่อมาไม่นาน บ้านก็จะถูกยึด จากคนที่เรียกได้เป็นญาติกัน ซึ่งเป็นเจ้าของร้านเบเกอรี่ดังในอดีต ตอนนั้นแม่กับป๋า ก็เลยต้องจำใจขายบ้านย่านถนนจันทน์ ในราคาที่ถูกกว่าปกติ 40% เพื่อเอามาใช้หนี้ สุดท้ายก็เหลือเงินอยู่ไม่เท่าไหร่ เพื่อมาหาซื้อบ้านใหม่ ตัวพี่เกี้ยเลยต้องระเห็จ ออกมาหาบ้านชานเมือง เพราะเป็นพนักงานออฟฟิศเงินเดือนน้อยๆ เพราะมีปัญญาในการผ่อนบ้านได้แค่นี้ พี่เกี้ยเองก็เลยต้องเป็นกำลังหลัก ในการผ่อนบ้าน ผ่อนรถ และรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมด จะเรียกว่าคนเดียวก็ได้มั้ง
.
จริงๆ พี่เกี้ย ก็พยายามถีบตัวเองขึ้นมาเนอะ พยายามสร้างตัวเองจากคนที่ไม่มีอะไรเลย ไม่ได้มีมรดก มีหนี้สิน ไม่มีญาติที่ไหนมาช่วยอีกแล้ว ต้องดิ้นรนด้วยตัวเองทุกอย่าง ทำงานประจำเหมือนเดิม สอนร้องเพลง หัดทำขนมขาย ทำที่ตัวเองทำได้ ใช้วิชาชีพที่ตัวเองมีติดตัว แต่ก็ทำด้วยความตั้งใจดี และคิดดี เพื่อให้มีรายได้ พอจะมาจุนเจือที่บ้าน แม้ว่าเราจะไม่สามารถทำให้แม่กับป๋าสบายได้มากเท่าไหร่ในตอนนั้น
.
พอมาถึงวันนี้ สิ่งที่ทุกคนมองเห็น มันคือภาพที่ทุกคนต่างก็พูดว่า ชีวิตพี่เกี้ยดี มีคนรัก มีความสามารถ มีชื่อเสียง เป็น Youtuber น่าอิจฉา มีเงินใช้ มีของกินดีๆ
.
แต่ในความเป็นจริง กว่าจะมาถึงทุกวันนี้ มันลำบากมากนะ ลำบากจริงๆ อดทนมาตลอด และสิ่งที่ทำมาตลอดชีวิต มันหล่อหลอมให้เป็นไอ้เกี้ย พี่เกี้ย หรือน้องเกี้ยในวันนี้
.
บางทีก็อยากให้มองเห็นภาพ หรือความพยายามของพี่เกี้ย มากกว่าเห็นภาพในวันนี้ ชีวิตมันไม่สบายเลย มันเหนื่อย มันมีอุปสรรค มันท้อ มันต้องคิดบวกตลอดเวลา ชีวิตต้องทำงานด้วย อยากทำในสิ่งที่รักด้วย ต้องมีวินัยในตัวเองมากประมาณนึงเลยหล่ะ เพราะต้องทำงานตลอด 7 วัน มาตลอด 24 ปี ไม่เคยหยุดพักเลย ยกเว้นวันที่ป่วย
.
อยากเล่า เพราะอยากเป็นกำลังใจให้ทุกคน ที่ท้อ อยากให้มีพลังใจในการชีวิต พี่เกี้ยไม่ได้มีชีวิตที่ดีเหมือนกับคนอื่นเลยนะ ออกจะลำบากด้วยซ้ำ ลำบากมาก พี่เกี้ยไม่มีต้นทุนใดๆ เหมือนกับคนอื่น ที่หลายๆคน เค้ามีพร้อมทั้งฐานะ และรูปทรัพย์ และเค้าก็เป็นเพศปกติที่คนทั่วไปในสมัยนั้นยอมรับ ส่วนพี่เกี้ยรู้แค่เพียงว่า ชั้นเองก็มี 1 สมอง กับ 2 มือ อันนี้แหละที่มีเท่ากับคนอื่น เพราะฉะนั้น ถ้ารู้ว่าเรามีแค่นี้ ก็แค่คิด และทำมันซะ
.
แล้วพอมาถึงวันนี้ วันที่พี่เกี้ยทำได้แล้ว อยากให้มองถึงสิ่งที่กว่าจะผ่านมันมาได้ ไม่อยากให้มองภาพที่สวยหรู มันไม่มีหรอกความสวยหรูที่ว่า มันมีแต่ความคิดดี ทำดี มุมานะ และมีเป้าหมายในชีวิต
.
ถึงพี่เกี้ยจะยังทำได้ไม่ดีที่สุด หรืออาจจะยังไม่ดีพอด้วยซ้ำ ที่จะดูแลแม่กับป๋าให้สบายมากกว่านี้ แต่พี่เกี้ยก็ไม่เคยท้อ หรือสิ้นหวังเลยนะ และก็ยังอยาก ที่จะพยายามทำให้ดีขึ้นไปอีก ยังมีแรง และยังพลังที่จะทำได้
.
อีกหนึ่งกำลังใจของพี่เกี้ย ที่อยากจะขอบคุณมากๆ คือ แม่กับป๋า เอาจริงๆนะ พลังที่มีจนมาถึงทุกวันนี้ ก็คือการได้ดูแลแม่กับป๋า มันคือเป้าหมายในชีวิตที่สูงสุดแล้ว มันเป็นความรู้สึกว่าอยากดูแล อยากให้เค้าสบาย ไม่เคยมีความรู้สึกว่าเป็นภาระเลยซักนิด ไม่เคยอยากทิ้งเค้าเอาตัวเองรอด แต่มีความรู้สึกตลอดเวลาว่า อยากเห็นเค้ามีความสุข อยากดูแลเค้า นั้นคือเป้าหมายของพี่เกี้ย
.
อยากเล่า อยากเป็นกำลังใจให้ทุกคน ที่กำลังท้อแท้สิ้นหวังนะฮะ สู้ไปด้วยกัน พี่เกี้ยทำได้ ทุกคนต้องทำได้ เชื่อสิ ❤️❤️