อ่านเนื้อหา จม.ร้องเรียน ผกก.พัวพันคดีถุงคลุมหัวผู้ต้องหารีดเงิน 2 ล้าน อีกทีครับ 😣

การร้องเรียนเรื่องนี้เกิดจากผู้ใต้บังคับบัญชาในชุดจับกุมรายหนึ่ง เกิดความรู้สึกผิด ที่ได้เห็นเหตุการณ์หัวหน้าในสังกัด แสดงพฤติกรรมโหดร้าย ในการทรมานผู้ต้องหาจนเสียชีวิต และเกรงว่า ทีมชุดจับกุมทุกคนจะมีความผิดไปด้วย โดยทำจดหมายร้องเรียนไปถึงผู้บังคับบัญชาโดยตรง

“ได้โปรดให้ความเป็นธรรมกับน้องเค้าด้วยนะครับ และขอความเป็นธรรมกับพวกผมด้วยครับ เพราะท่าน ผกก.ท่านมักอ้างเสมอว่า ท่านเป็นสายตรง พล.ต.ท.(ต) และเป็นลูกเขยกับท่าน ผู้บัญชาการ …… แถมยังอ้างกับพวกผมอยู่บ่อยๆว่า ท่านสนิทกับ ท่าน ……

เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ผมกับชุดยาเสพติดของสภ. เมืองนครสวรรค์ ได้ออกปฏิบัติหน้าที่ จับกุมผตห.พร้อมของกลางมาสองคน เป็น ผู้ชายกับผู้หญิง ซึ่งทั้งสองคนเขาเป็นแฟนกัน พอมาถึงก็จับแยกสอบปากคำ ผมอยู่คอยเฝ้าดูอยู่กับผตห.ที่เป็นผู้หญิง ใช้เวลาอยู่สักพัก หน.ชุดที่คุย กับผตห.ผู้ชาย ก็เดินไปบอกกับ ผกก.ว่า …นายครับ มันยอมจบที่ 1 ล้าน ผกก.ผมตะโกนตอบกลับมาอย่างเสียงดัง (ได้ยินกันหลายคน) “ล้านเดียวจะไปพออะไร ….เรียกมันสองล้านซิว่ะ …..พวกมึงไม่ได้เรื่อง เดี๋ยวกูเอง หลังจากนั้นผกก.ผมก็เดินมาหา ผตห.ชาย พร้อมกับเอาถุงดำคลุมหัว เพื่อต้องการทรมานน้องเค้าเพราะอยากได้เงินเพิ่มอีก1ล้าน…

ด้วยเหตุผลอะไรพวกผมไม่ทราบ ปรากฎว่าน้องผตห.ขาดอากาศเสียชีวิต ผกก.แกก็เลิ่กลั่ก ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่สั่งพวกผมว่า พวกมึงไปลบกล้องวงจรปิด แล้วเอาศพไปส่งที่โรงพยาบาล บอกกับหมอว่า มันเสพยาเกินขนาดนะ แล้วก็สั่งให้หน.05(ชุดยาเสพติด)ไปคุยกับ ผตห.หญิงว่าแฟนมันช็อคตายเพราะยาเสพติด แล้วตกลงว่าไม่ต้องพูดอะไรเพื่อแลกกับอิสรภาพ หลังจากนั้นก็ส่งศพ มีผลในทางคดีชันสูตรพลิกศพ ในวันที่ 6 สิงหาคม

พวกผมพร้อมจะให้รายละเอียดและปากคำครับ แต่ตอนนี้ขอยังไม่เปิดชื่อจริงนะครับ สิ่งที่พวกผมรู้สึกแย่เข้าไปอีกคือ หลังจากเกิดเหตุ ผกก.ผมก็เรียกพ่อน้องคนตาย แล้วเอาเงินอุดปาก โดยที่แกพูดกับพวกผมว่า “กลัวเหี้ยอะไร เงินซื้อได้ทุกอย่าง”

ทีแรกตอนท่านมารับตำแหน่ง พวกผมก็แอบดีใจนะครับ เพราะค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต พบว่า ท่านผกก.แกรวย มีฐานะ ขับรถเฟอเรอรี่ อยู่สังคมไฮโซ เคยคบหามีแฟนเป็นดารา หน้าตาท่านผกก.ก็ดูดี แถมยังเป็น “จิตอาสา พระราชทาน” รุ่นแรก … ดีใจกันใหญ่เลยครับ มีคนดีเป็นพ่อพระมาแล้ว เบี้ยเลี้ยง ค่านำ้มันหรือความสุขต่อประชาชนจะดี แต่ที่ไหนได้ครับ “นี่มันโจรในคราบเครื่องแบบชัด” คนเรามันดูที่ภายนอกไม่ได้กันจริงๆ”

ชีวิตใช่ว่า "จะมั่งมี มีสมบัติ มียศตำแหน่ง อำนาจราชศักดิ์ พวกพ้องเส้นสาย โอกาส"ไม่มีสิ่งใดๆทั้งสิ้น ในชาตินี้
เพราะ ไม่มี จึงต้อง ทุ่มสุดชีวิตสุดกำลัง ในทุกๆอย่าง
ทุ่มเทเวลาชีวิตให้กับการอ่าน เพราะ ความรู้ ความรอบรู้ จากทุกๆเรื่องราว คือ"สติปัญญา"เป็นรากฐานสำคัญของชีวิต
ทุ่มเททำงานสุดชีวิต ในทุกเรื่องที่ทำ และศึกษา เรียนรู้ วิธี แนวทาง ในการทำหน้าที่ อันเป็นงาน สิ่งที่ต้องทำ ให้ดีที่สุด ไม่เอาแต่สักแค่ว่าทำ หรือ ทำผ่านๆไป เพราะ ไม่ใช่ ว่า "งาน สิ่งที่ต้องทำ คือ เสร็จๆไป"แต่ "ผลของงาน มันคือ เงาสะท้อนตัวตนจิตวิญญาณของเรา ผลของงาน คือ คุณค่า ของคนๆนั้น"คิดเข้าใจแบบนี้ และยึดถือปฏิบัติมาตลอด
ชาตินี้ ลักษณ์ ราชสีห์"บุญน้อย" เกิดมาในชาติตระกูลไม่สูง ไม่มีฐานะ ไม่มีสมบัติ พ่อแม่ ทำนา ชีวิตยากลำบาก คุณย่าผมอบรมสั่งสอน ให้ รักการสร้างบุญกิริยา ปฏิบัติ ตั้งใจ ทำให้ปราณีต เเละ ไม่จาบจ้วงล่วงเกิน ผู้มีศีลมีศักดิ์ มีฐานะ ต้องปฏิบัติ แสดง ต่อ บุคคลต่างๆด้วยนึกถึง ความเป็นผู้มีบุญวาสนา บารมี ที่สั่งสมมาอต่อดีต ต้องไม่ไปอิจฉาริษยา คิดไม่ดี เราเกิดมาต่ำแล้ว จะยิ่งลำบาก และจะลำบากยากเข็ญไปทุกชาติภพ ตลอดจนคนแย่กว่าเรา ก็ต้องมีเมตตาเกื้อกูล ตามโอกาส วาระ ทุกๆชาติ เราจะมีมิตร และบริวาร ทั้งมวลนี้ ก็ยึดถือปฏิบัติมาตลอด
ชีวิตผมลักษณ์ ราชสีห์ ก็ดำเนินมาในวิถีแบบนี้ เสมอต้นเสมอปลาย โดยไม่มี โอกาส นอกจากสร้างโอกาส สร้างทางเดินของชีวิตในวิถี ที่ดีงาม งดงามด้วยตนเอง แบบทุ่มสุดชีวิตสุดกำลัง มาตลอด ชีวิต ก็บังเกิดความสุข ความเจริญ ในแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์นี้ ไม่ เคยรู้สึกถูกกดขี่ ไร้เสรีภาพ ขาดความเป็นธรรม ในรอบสิบกว่าปีมานี้ ไม่ต้อง นึกคิด พูดหรือ ไปกระทำการ เรียกร้อง สิ่งใดๆ เพราะ ทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง ที่เกิดขึ้นและเป็นไป ด้วย กฏแห่งกรรม กฏหมาย เพียงเรา ยึดมั่น ในศีลธรรม กฏหมาย และที่สำคัญ เรามีความรับผิดชอบ ปฏิบัติหน้าที่ในทุกๆบทบาท อย่างดีที่สุด สุดกำลังสุดชีวิต ผิดพลาด ปรับปรุง แก้ไข พัฒนา ไม่ประมาท ในการดำเนินชีวิต ชีวิตเป็นของไม่แน่นอน จึงต้อง ทำวันนี้ ให้ดีที่สุด เพราะวันนี้ คืออดีตของวันพรุ่งนี้ และเป็น รากฐานของอนาคต ที่ กำหนดได้ด้วยเรา ไม่ใช่ ไปหวัง พึ่งพา ใครๆ นี่คือสิ่งที่ถูกต้องชัดเจน ที่ ยึดถือปฏบัติ มาจนอายุ 50 ปี ในวิถี แนวทางนี้ สงบ ร่มเย็น เป็นสุข ในทุกๆสถาน
ลักษณ์ ราชสีห์

แสงจากสุริยุปราคามีผลต่อชีวิตหรือไม่? [ความเชื่อ]

ผ่านกันไปแล้วสำหรับสุริยุปราคาแบบบางส่วนเหนือประเทศไทยเมื่อวานนี้ (21 มิถุนายน 2020) แต่ข่าวลือก็ยังไม่จบ มีข่าวลือแพร่หลายกันมามากว่าไม่ควรจะไปสัมผัสกับแสงสุริยุปราคา ควรจะอยู่ในที่ร่มไม่ออกจากบ้าน ห้ามออกไปโดนพลังสุริยุปราคาเด็ดขาด เพราะอาถรรพ์ หยินหยาง หรืออะไรก็แล้วแต่

ในเชิงตรรกะแล้ว เราไม่มีวันพิสูจน์อะไรให้เป็นจริงได้ เช่น เราอาจจะอ้างว่า "หงส์จะต้องเป็นสีขาวเท่านั้น" และเมื่อหงส์ทุกตัวที่เราพบในชีวิตมีแต่สีขาว เราก็อาจจะหลงคิดไปว่าคำกล่าวนี้จะต้องเป็นจริงอย่างแน่นอน แต่ความเป็นจริงแล้วเราไม่สามารถพิสูจน์ประโยคดังกล่าวให้เป็นจริงได้ เราก็แค่ยังไม่เจอกรณีที่มันเป็นเท็จเพียงเท่านั้น แต่เมื่อนักสำรวจได้เดินทางไปพบกับหงส์ดำในเกาะนิวซีแลนด์เป็นครั้งแรก เราจึงพิสูจน์ได้ทันทีว่าคำกล่าวดังกล่าวนั้นจะไม่เป็นจริงอีกต่อไป เพราะหงส์ที่ไม่ใช่สีขาวนั้นมีอยู่ในโลก

ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ก็เช่นเดียวกัน ที่เราไม่มีวันพิสูจน์ให้เป็นจริงได้ แต่เราพร้อมที่จะผิด และอัพเดตความเข้าใจอยู่เสมอ เช่นเดียวกับที่การส่ายของวงโคจรดาวพุธ ทำให้เราทราบว่าทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของนิวตันนั้นไม่สมบูรณ์ และนำไปสู่ทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอสไตน์ ครั้งหนึ่งเราเคยเชื่อว่าทั้งเอกภพมีแต่กาแล็กซีทางช้างเผือก จนกระทั่งเราพบว่าระยะห่างถึงกาแล็กซีแอนโดรเมดานั้นไกลเกินกว่าที่จะเป็นไปได้ หรือครั้งหนึ่งที่เราเคยเชื่อว่าเอกภพจะต้องไม่ขยายตัว จนปัจจุบันเราพบว่าไม่เพียงแต่ว่าเอกภพกำลังขยายตัวเพียงเท่านั้น แต่มันกำลังขยายตัวด้วยความเร่ง นำไปสู่การค้นพบพลังงานมืด และความเข้าใจในวิทยาศาสตร์ปัจจุบันอีกทั้งปวง ที่รอคอยการล้มล้างของการค้นพบใหม่ที่จะนำเราไปสู่ทฤษฎีที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

และเช่นเดียวกัน โดยตรรกะแล้วเราไม่มีวันพิสูจน์ "ความเชื่อ" ให้เป็นจริงได้ การที่หมอดู "ทาย" ถูก ไม่ได้หมายความว่าหมอดูจะต้องถูกเสมอไป แต่สิ่งที่ทำให้ "ความเชื่อ" แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกับทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ก็คือ ความเชื่อนั้นไม่สามารถที่จะพิสูจน์ให้ "ผิด" ได้ ลองนึกดูว่าหากหมอดูจะต้องตกงานทันทีที่คำทำนายพิสูจน์ว่าผิด โลกนี้ก็คงจะไม่มีหมอดูเหลืออยู่อีกต่อไป หรือเราอาจจะ "รอด" จากอาถรรพ์มาหลายต่อหลายครั้ง แต่นั่นก็ไม่สามารถหยุดคนให้เชื่อในอาถรรพ์และสิ่งลี้ลับได้ และในทุกวันนี้ "ความเชื่อ" ก็ยังอยู่รอดต่อไป

เนื่องจากเรื่องของ "อาถรรพ์" จากแสงสุริยุปราคานั้นเป็นเรื่องของ "ความเชื่อ" เราจึงไม่สามารถพิสูจน์ได้ และความเชื่อนั้นเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล แต่ในบทความนี้เราจะลองมาพิจารณาดูเหตุผลในอีกแง่มุมดู แล้วให้ผู้อ่านลองพิจารณาดูเอาเองว่าต้องการที่จะเลือก "เชื่อ" อย่างไร

- แสงเป็นแค่โฟตอน ไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพชีวิตมนุษย์ ไม่ว่าจะมีดวงจันทร์มาบังหรือไม่ ทีนกบังเมฆบังหลังคาบัง ยังไม่เห็นมีคนบ่นว่าอาถรรพ์ บลาๆๆๆ อันนี้คงไม่ต้องพูดกันละ ข้ามไปเลยดีกว่า

- เราต้องมาอยู่ในเงาของ "อุปราคา" ทุกวัน

เชื่อหรือไม่ว่า "อุปราคา" (eclipse) นั้นเกิดขึ้นทุกวัน? หากเราพิจารณาว่า "อุปราคา" นั้นเกิดขึ้นจากแสงของดวงอาทิตย์มีวัตถุมาบดบัง หรือการที่เราไปอยู่ในเงาของวัตถุแล้วล่ะก็ เราจะพบว่าเราจะต้องไปอยู่ในเงาทุกวันในเวลาประมาณ 17:00-19:00น. เมื่อดวงอาทิตย์เคลื่อนที่ลับไปอยู่ด้านหลังวัตถุที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่เรามองเห็นได้จากบนพื้นโลก... นั่นก็คือพื้นโลกที่อยู่ใต้เท้าเรานั่นเอง

เพราะว่าโดยทางเทคนิคแล้ว จากมุมมองของเรา "กลางคืน" ก็คือ "อุปราคา" ที่มีโลกมาบังดวงอาทิตย์ เกิดขึ้นทุกวันและกินเวลายาวนานตลอดทั้งคืน

ทุกวันดวงอาทิตย์จะต้องไปหลบอยู่ "หลัง" พื้นโลก และเราทุกคนจะต้อง "อาบ" เงาของโลกกันอยู่ทุกวัน หากเทียบกันแล้วเงาบางส่วนของดวงจันทร์ที่กินเวลาไม่กี่ชั่วโมงนั้นเล็กน้อยมาก เทียบกับเงาของโลกหรือ "กลางคืน" ที่เราจะต้องอาบกันอยู่ทุกคืน ซึ่งหากการถูกเงามัวของดวงจันทร์นั้นเป็นอาถรรพ์จริง ก็อดคิดไม่ได้ว่า dose อาถรรพ์ของเงาดวงจันทร์ 4 ชั่วโมงนั้น เทียบได้อย่างไรกับ dosage ของเงาโลกที่เราต้องเจอกว่า 4380 ชั่วโมงในทุกๆ ปี

- คนที่อาบเงาจันทร์อยู่เป็นประจำนั้นอายุยืน รวย และ "โชคดี" กันทุกคน

ทั่วโลกมีคนอยู่จำนวนไม่น้อยที่เป็น "eclipse chaser" หรือนักล่าสุริยุปราคา ประสบการณ์สุริยุปราคาเต็มดวงนั้นเป็นประสบการณ์ที่ยากจะหาประสบการณ์ใดเทียบ และหลายๆ คนที่เมื่อเกิดครั้งแรกแล้วก็อยากจะมีครั้งถัดๆ ไป จนมีหลายคนที่สะสม "เวลาใต้เงาจันทร์" เป็นงานอดิเรก ซึ่งจากเว็บ www.eclipse-chasers.com แล้วมีคนที่มีบันทึกเวลาภายใต้ totality เกิน 30 นาทีอยู่อย่างน้อย 86 คน และเนื่องจากสุริยุปราคาแต่ละครั้งกินเวลาแค่ไม่กี่นาที ในขณะที่สุริยุปราคาบางส่วนที่เกิดขึ้นก่อนและหลังนั้นกินเวลาหลายชั่วโมง ทำให้เวลาภายใต้เงาจันทร์ของคนเหล่านี้นั้นมีตั้งแต่ 30กว่าชั่วโมง ไปจนถึงเกือบ 200 ชั่วโมง

คนนึงที่น่าจะเป็นผู้ที่เคยใช้เวลาอยู่ใต้เงามืดของดวงจันทร์นานที่สุด ก็คือ Donald Liebenberg นักดาราศาสตร์ที่เคยนั่งเครื่องบินคอนคอร์ดเหนือเสียงเพื่อไล่ตามเงามืดของดวงจันทร์ในปี 1973 ทำให้ในครั้งนั้นเขาได้อยู่ภายใต้เงามืดของดวงจันทร์ไปนานททั้งสิ้น 74 นาที และได้เห็นสุริยุปราคาไปทั้งสิ้นกว่า 27 ครั้ง

ซึ่งในหมู่ผู้คนที่ใช้เวลาอยู่ภายใต้ totality เกิน 30 นาทีเหล่านี้นั้น... พูดได้ว่า "รวย" และ "อายุยืน" ทุกคนอย่างแน่นอน ซึ่งสำหรับเหตุผลนั้นก็ง่ายๆ ก็เพราะว่าสุริยุปราคาเต็มดวงแต่ละครั้งนั้นกินเวลาเพียงไม่กี่นาที การจะสะสมให้ครบ 30 นาทีขึ้นไปนั้นเท่ากับว่าจะต้องอยู่ในสุริยุปราคาประมาณสิบครั้งขึ้นไป โดยทั่วๆ ไปแล้วในปีหนึ่งจะเกิดสุริยุปราคาเพียง 2 ครั้ง และไม่ใช่ทุกครั้งที่จะเกิดขึ้นแบบเต็มดวงหรือพาดผ่านพื้นดินที่สามารถสังเกตได้ (ครั้งที่เพิ่งผ่านไปนี่เป็นเพียงแบบวงแหวน) ดังนั้นกว่าจะครบ 30 นาทีได้ก็ต้องใช้เวลาหลายทศวรรษ คนในลิสต์นี้จึงมีอายุยืนไปโดยปริยาย (เพราะคนที่อายุไม่ยืนก็ตายไปตั้งแต่ยังไม่ติดลิสต์นี้ตั้งนานแล้ว)

และคนในลิสต์นี้ก็จะต้องมีฐานะดีเป็นธรรมดา เพราะสุริยุปราคานั้นไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ และหลายๆ ครั้งก็เกิดขึ้นในสถานที่ห่างไกล ที่ต้องมีค่าใช้จ่ายเดินทางสูง ต้องลางานเป็นอาทิตย์ เพื่อเตรียมตัว บวกกับค่าเครื่องบินและค่าที่พักที่แพงเป็นพิเศษในช่วง eclipse ถ้าไม่ได้มีทุนแต่เดิมอยู่แล้วจึงเป็นเรื่องยากที่จะสามารถเดินทางไปชมสุริยุปราคาหลายสิบครั้งได้

นอกไปจากนี้ คนพวกนี้ยังจะต้องเป็นมนุษย์ที่ "โชคดี" ที่สุดพวกหนึ่งด้วย เพราะไม่มีจังหวะไหนในชีวิตที่คุณหวังพึ่ง "โชคลาง" มากไปกว่าการลุ้นให้ฟ้าเปิดเมื่อคุณเสียเงินบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปรอดูดวงอาทิตย์ดับสองนาทีอีกแล้ว...

เท่ากับว่าเหล่าผู้คนที่อาบเงาจันทร์มากที่สุดในโลก ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่อายุยืน มีฐานะ และ "โชคดี" ด้วยกันทั้งนั้น.... ซึ่งถ้าหากอาถรรพ์เงาจันทร์นั้นมีจริง ก็ดูไม่ออกว่าอาถรรพ์เหล่านี้นั้นส่งผลกระทบต่อคนพวกนี้อย่างไร

แน่นอนว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเพียงเรื่องของความเชื่อ หากใครกังวลว่าแสงสุริยุปราคาจะส่งผลเสียต่อหน้าที่การงานอะไร เราก็คงไม่สามารถไปห้ามได้ (แต่ก็อดดูไปเองนะ ช่วยไม่ได้)

แต่อย่างน้อยสำหรับนักดาราศาสตร์อย่างผม ผมรู้ว่าถ้าผมไม่ออกไป มันมีผลต่อหน้าที่การงานผมแน่ๆ!

ภาพถ่ายนี้เป็นภาพถ่ายของสุริยุปราคาเต็มดวงในวันที่ 1 กรกฎาคม 2019 จากประเทศชิลี บันทึกโดยผู้เขียนด้วยตัวเอง ซึ่งปัจจุบันนี้ผู้เขียนก็ยังแข็งแรง และปลอดภัยดี และนกตัวที่ดูเหมือนจะบินอยู่ในโคโรนาดวงอาทิตย์ในภาพก็ยังดูบินได้ปรกติดีในเฟรมต่อๆ ไปของภาพ

เจอโหมดสาว ๆ ไปหลาย EP. คราวนี้ขอทางให้ “โท” หนุ่มโสดรูปหล่อ โปรไฟล์ดี มีฐานะ สาว ๆ คะ ถ้าสนใจต่อคิวด่วน!!??

#จีบหนูหน่อย #โคตรคูล #โอ๊ตปราโมทย์ #ซานิ #โท #Khotkool #OatPramote

อย่าลืม! กดไลค์กดแชร์ ?
Youtube : โคตรคูล
Facebook : จีบหนูหน่อย
Instagram : @khotkoolchannel

ติดต่องานได้ที่
Email : khotkoolads@gmail.com
Tel : 061- 651-6269 (พลอยชิ) หรือ Line OA : @khotkoolads , 06-2592-9957 (ตู๋)

สำหรับท่านที่ซื้อคอมแพงๆแล้วไม่รู้จะเอาเหตุผลอะไรไปอ้างดี ผมขอแนะนำ 5 เหตุผลที่เราต้องซื้อคอมแพงๆ

คนใช้คอมแพงๆ เขาจัดสเปคแบบไหนกัน มาดู
https://notebookspec.com/pc/ranking/

1.มีฐานะ
2.อวดเพื่อน
3.ใช้ยาว
4.เล่นเกม
5.ทำงาน

"แล้วเพื่อนๆละมีเหตุผลอะไรในการซื้อคอมกันบ้าง"
!!ชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์เป็นกำลังใจให้ทีมงาน NBS กันด้วยนะครับ

___________________

เลือกซื้อโน้ตบุ๊ค : http://bit.ly/NBsearch
จัดสเปค PC : http://bit.ly/NBSspecpc
คลิปรีวิวล่าสุด NBS : http://bit.ly/NBSyoutube
กลุ่มถามตอบ แก้ปัญหาคอม-โน้ตบุ๊ค : http://bit.ly/NBSgroup