[爆卦]ภาวนามยปัญญา是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇ภาวนามยปัญญา鄉民發文沒有被收入到精華區:在ภาวนามยปัญญา這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 ภาวนามยปัญญา產品中有3篇Facebook貼文,粉絲數超過282萬的網紅Capt.Benz,也在其Facebook貼文中提到, Ep.59 - คิดยังไงกับกฎแรงดึงดูด ? . กฎแรงดึงดูดมันเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้ใช่เรื่อง วิเศษอะไรเลย ก็แค่ตั้งใจ ตั้งเป้าหมาย แล้วก็หาวิธีการมา แล้วก็ท...

ภาวนามยปัญญา 在 Instagram 的最佳貼文

2020-11-02 13:48:32

ในวิชาเรียงความแก้กระทู้ธรรมครั้งที่ ๒ ที่อาตมะได้อธิบายขยายความแห่งพุทธศาสนสุภาษิต คือ สุโข ปญฺญาปฏิลาโภ. ความได้ปัญญา ให้เกิดสุข. สรุปโดยย่อมีคว...

ภาวนามยปัญญา 在 nuikessarin_dc Instagram 的最讚貼文

2020-04-28 07:42:01

#รู้ มีอยู่ 2 แบบ คือ รู้ด้วยสมอง และ รู้ด้วยจิต ทำไมเรารู้ว่า ควรปล่อยวาง แต่ยังคิดมาก ทำไมเรารู้ว่า ควรนิ่ง ควรฟัง แต่ยังพูด ทำไมเรารู้ว่า ควรหยุดฟ...

ภาวนามยปัญญา 在 Slot Machine Instagram 的最讚貼文

2020-05-10 15:53:16

ความหมายของ🙌👽..... ปัญญา แปลว่า ความรู้ทั่ว คือรู้ทั่วถึงเหตุถึงผล รู้อย่างชัดเจน, รู้เรื่องบาปบุญคุณโทษ, รู้สิ่งที่ควรทำควรเว้น เป็นต้น เป็นธรรมที่คอ...

  • ภาวนามยปัญญา 在 Capt.Benz Facebook 的最佳解答

    2020-05-18 21:00:02
    有 34,330 人按讚

    Ep.59 - คิดยังไงกับกฎแรงดึงดูด ?

    .

    กฎแรงดึงดูดมันเป็นเรื่องปกติ

    ไม่ได้ใช่เรื่อง วิเศษอะไรเลย

    ก็แค่ตั้งใจ

    ตั้งเป้าหมาย

    แล้วก็หาวิธีการมา

    แล้วก็ทำตาม

    .

    พระพุทธเจ้า

    พูดสิ่งนี้ไว้นานมากแล้ว

    เราจะเป็นชาวพุทธ

    ‘พุทธ’ แปลว่าอะไร

    พุทธ แปลว่า ตื่นรู้

    .

    เราจะเป็นผู้ตื่นรู้

    เราจะเป็นชาวตื่นรู้

    เราจะเป็นผู้ประสบความสำเร็จ

    .

    “พุทธํ สรณํ คจฺฉามิ”

    สิ่งแรกที่เราต้องพูดเลย

    ‘ข้าพเจ้า ขอถือเอา ซึ่งพระพุทธ เป็นที่พึ่ง’

    .

    “ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ”

    ‘ถือเอาพระธรรมเป็นที่พึ่ง’

    .

    “สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ”

    ‘ถือเอาพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง’

    .

    แต่จริง ๆ แล้ว คำว่า พุทธํ ธมฺมํ สงฺฆํ

    มีความหมายลึกซึ้งกว่านั้นมาก

    พุทธะ แปลว่า ตื่นรู้

    ธัมมะ แปลว่า แนวทาง

    สังฆะ แปลว่า ผู้ปฏิบัติตาม

    .

    มันต่างอะไร?

    กับการตั้งเป้าหมาย มันต่างอะไร

    กับกฏแรงดึงดูด?

    ก็เรารู้แล้ว ว่าเราจะเอาอะไร

    เราก็ไปหาแนวทางมา

    แล้วเราก็ปฏิบัติตาม

    .

    เนี่ย..

    Ask

    Believe

    Receive

    “ขอ เชื่อ รับ”

    แบบพุทธ ๆ

    .

    พระพุทธเจ้าบอกว่า

    ถ้าเธอจะเป็นชาวพุทธ

    เธอพูด 3 คำ แค่นี้

    แค่นี้ เธอก็เป็นผู้ตื่นรู้แล้ว

    .

    ง่ายดายแค่นี้เอง

    แล้วเขาสอนกัน

    วุ่นวาย มากมาย

    ว่าต้องคิดอย่างนั้น

    คิดอย่างนี้

    ต้อง…อะไร ๆ

    .

    โอเค เคารพแหละ

    ยอมรับ

    แต่ ถ้าจะอธิบายให้ง่าย ๆ

    มันง่ายแค่นี้แหละ

    .

    อยากทำอะไร ตั้งเป้าหมายครับ

    แล้วหาวิธีการ ที่ถูกต้องมา

    แล้วก็ปฏิบัติตามครับ

    แค่นั้น

    จบ

    กฎแรงดึงดูด

    .

    เขาจะทำผ้าปูที่นอนลายเงิน

    ปลอกหมอนลายเงิน ก็เรื่องของเขา

    ทำแล้วจิตเขาดี ทำแล้วเขาจิตสบาย

    ไม่เบียดเบียนใคร ไม่เดือดร้อนใคร ปล่อยเขา

    .

    ทำแล้วมันเดือนร้อนใคร?

    เดือดร้อนเราเหรอ?

    จิตเราเป็นยังไง?

    ถึงไปเดือดร้อนกับเขา

    .

    พระพุทธเจ้าบอกว่า

    ตาเป็นของร้อน

    หูเป็นของร้อน

    จมูกเป็นของร้อน

    ลิ้นเป็นของร้อน

    สัมผัสเป็นของร้อน

    เลยทำให้ใจร้อน

    .

    เราใจร้อนเพราะอะไร

    เราเห็นเขา ผ้าปูที่นอนลายเงิน

    ทำไมเราถึงใจร้อน

    .

    ตาเรามันเลวไง

    ตาเรามันเ-ี้ยไง

    ถ้าตาเรามันไม่เ-ี้ย

    เ-ือกไปเห็น

    แล้วก็เจ็บอกเจ็บใจ

    เราจะมาผูกใจเจ็บทำไม?

    .

    ผมเคยแซวคนพวกนี้ กผมก็แซวเล่น ๆ ไป

    แซวผมไม่ได้ว่าแบบ เขาเพ้อเจ้อ

    เขาอะไรหรอก ผมอาจจะปากหมาไปบ้าง

    แต่จริง ๆ ผมก็เอ้อ…

    มีความสุขเธอก็ทำไปสิ

    ไม่เดือดร้อนใครนี่

    สร้างอาชีพอีก

    .

    ใครทำผ้าปูที่นอนลายเงินก็ ขายได้

    กับคนที่มีความเชื่อในสิ่งนั้น

    ใช่ปะ?

    .

    แต่ความเชื่อ พระพุทธเจ้าให้ไว้

    มันต้องประกอบด้วยปัญญา

    ถ้าเชื่อโดยที่ ไม่ประกอบด้วยปัญญา

    นั่นไม่ใช่เชื่อ ที่เรียกว่า ‘ศรัทธา’

    นั่นคือเชื่อ ที่เรียกว่า ‘โมหะ’

    คือความลุ่มหลงมันแตกต่างกัน
    .

    เพราะฉะนั้นแล้วเนี่ย

    ปล่อยเขา!

    เราไปเดือดร้อนอะไรเขาล่ะ?

    ‘บาป’

    บาปแปลว่าอะไร?

    บาป แปลว่า เลว

    ใช่ปะ?

    .

    มันเลวตรงไหนอะ?

    หลอกลวงอะไร?!

    มันไม่ได้หลอกลวง

    มันมี demand

    มันถึงมี supply

    เออ…

    .

    ในเมื่อเขาต้องการสิ่งนี้

    เขามีความสุขกับสิ่งนี้

    ถ้าเราบอกว่า

    “คนทำผ้าปูที่นอนลายดอลลาร์

    หลอกลวงคน”

    ไอ้พวก ปั้นนู่น

    ปั้นนี่

    ปั้นนั่น

    เทวรูปอะไร

    หินเหิน อย่างนี้

    ก็ว่าหลอกลวงไปดิ

    .

    มันอยู่ที่อะไร

    มันอยู่ที่ศรัทธาของผู้คน

    มันอยู่ที่ความคิดของผู้คน

    คนเรามันมีสิ่งยึดเหนี่ยวแตกต่างกัน

    เดือดร้อนอะไรเราอะ?

    เราหาเรื่องเดือดร้อนเอง

    ………………………………….

    การบรรลุธรรม มันมีหลายวิธีมาก

    หนึ่งในนั้น

    ‘บรรลุธรรมเพราะสอนธรรม’

    ในพุทธกาลมีมาแล้ว

    สอน ๆ ไปเนี่ย สอนไปสอนมา

    บรรลุเอง

    มันมี ไม่ใช่ไม่มี

    ปัญญามันเกิดไง

    ปัญญามันจะเกิดได้ 3 ทาง

    ทางแรกเขาเรียก

    “สุตมยปัญญา”

    ‘ปัญญาอันเกิดจากการฟัง’

    2 คือ

    “จินตมยปัญญา”

    ‘ปัญญาอันเกิดจากการคิด’

    3 คือ

    “ภาวนามยปัญญา”

    ‘ปัญญาอันเกิดจากการปฏิบัติ’

    การพูดธรรมะเนี่ย

    มันได้ 3 อย่างเลย

    .

    มันได้ฟัง ฟังสิ่งที่ตัวเองพูด

    มันได้คิด คิดสิ่งที่ตัวเองพูด

    มันได้ปฏิบัติ มันได้พูด ในสิ่งที่เราคิดได้

    .

    เนี่ยคือ เกิดเหตุการณ์อย่างนี้

    บ่อยครั้งมาก

    เวลาที่ทำสัมมนา

    สัมมนาพูดไปพูดมาปุ๊บ

    มาเรื่องนี้ได้ไง

    แล้วมันบรรลุเอง

    มันแบบ..

    เฮ่ย!!

    ฮู้ยเลย

    แบบ

    โหผมคิดได้ไง

    นี่ปัญญามาจากไหน

    กลับมาบ้านต้องจุดธูป

    ต้องแบบว่า

    โอ้โห…

    ขอบคุณมากเลย

    .

    ไม่รู้แหละ

    อะไรดลใจ

    ผมไม่ได้ฉลาดขนาดนั้นแน่นอน

    ผมไม่ได้คิดขึ้นมาเองแน่ ๆ

    แ-่งไม่ได้--

    คือปัญญาเกิดขึ้นมาเอง

    แต่จริง ๆ ผมรู้ว่าข้างบน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย

    หรืออะไรทั้งหลาย ท่านช่วยเราอยู่

    ท่านช่วยจัดคนนี้มาหาเรา

    ท่านช่วยจัดคนนี้

    มาในห้องสัมมนาเรา

    แล้วคนเหล่านี้

    ตั้งคำถามให้เราเกิดปัญญา

    ระหว่างที่เราพยายามอธิบายเขา

    .

    #ผู้กองเบนซ์

    ปล. ธรรมะ เป็นเรื่องมหัศจรรย์

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

    *ติดต่องานวิทยากร,อบรมสัมมนา,สนับสนุนช่อง โทร 094-449-9464 (คุณจี้)

    ช่องยูทูป : ผู้กองเบนซ์ - Capt.Benz
    blockdit : ผู้กองเบนซ์ - Capt.Benz
    IG : capt.benz
    Line OA : @ captbenz
    twitter : @ captbenz

  • ภาวนามยปัญญา 在 Danai Chanchaochai Facebook 的最佳貼文

    2019-09-08 07:00:28
    有 494 人按讚

    🌟ธรรมะ จากป่าละอู🌟

    จงทำญาณให้เห็นจิต
    เสมือนหนึ่งตาเห็นรูป
    ทั้งนี้ เป็นไปเพื่อการตรัสรู้ยิ่ง
    เป็นไปเพื่อการตรัสรู้พร้อม
    เป็นไปเพื่อพระนิพพาน

    ในวันที่เมฆหมอกและสายฝน ปกคลุมไปทั่วราวป่า ท่ามกลางความเทาหม่นของผืนฟ้ายังคงมีสำนักสงฆ์กลางป่าอยู่แห่งหนึ่ง คอยช่วยจุดประทีปฉายแสงแห่งพระสัจธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้ส่องสว่างขึ้นกลางใจผู้มาเยือน..

    🔆ณ สวนพุทธธรรม ป่าละอู🔆

    ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย 🌧🌧🌧
    หลวงพ่อมนตรี อาภัสสโร เมตตาแสดงธรรม สร้างความฉ่ำเย็นให้กับหัวใจของผู้มาเยือนเป็นยิ่งนัก โดยการกล่าวถึงพุทธดำรัสว่า

    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ตรัสถึง ๓ สิ่งที่เป็นไปได้ยากยิ่งในโลก คือ

    ๑.การเสด็จอุบัติขึ้นของพระพุทธเจ้า
    ๒.การได้เกิดมาเป็นมนุษย์
    ๓.การได้ฟังพระสัจธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า

    ▪︎ พระพุทธองค์ ทรงเวียนเกิดเวียนตาย สั่งสมบุญบารมีมาไม่รู้กี่อสงไขย กว่าจะได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ และเมื่อพระองค์ทรงค้นพบเส้นทางสายเอกนั้นแล้ว ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ตัดสินพระทัยประกาศพระสัจธรรม เพื่อชี้บอกทางให้แก่หมู่สัตว์ ที่ยังคงหลงทาง หลงเกิดหลงตายว่ายวนอยู่ในวัฎฎะ ให้ได้เดินตามรอยพระบาทออกจากสังสารวัฎ

    #การเวียนว่ายตายเกิด ก็เป็นเฉกเช่นเดียวกับ #การเดินทาง

    ตราบใด..ที่ยังไม่ถึงพระนิพพาน
    ตราบนั้น..เราก็ยังต้องเดินทางกันต่อไปในสังสารวัฏนี้

    จนกว่าจะถึงซึ่งจุดหมายปลายทาง คือถึงซึ่งพระนิพพาน อันเป็นจุดหมายสูงสุดของการได้เกิดมาเป็นมนุษย์

    ▪︎หลวงพ่อมนตรี ท่านเมตตาหยิบยกคำเปรียบเปรย ความยากยิ่งของการได้เกิดมาเป็นมนุษย์

    ตามที่พระพุทธองค์ทรงอุปมาอุปไมยไว้ว่า ..

    ในท้องทะเลกว้างใหญ่สุดที่จะประมาณได้นั้น
    มีเต่าตาบอดทั้งสองข้างอยู่ตัวหนึ่ง

    ทุกๆ หนึ่งร้อยปี จะโผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำ ๑ ครั้ง
    และในท้องทะเลนี้ มีห่วงที่พอดีกับหัวเต่าลอยอยู่อันหนึ่ง

    โอกาสที่เต่าตาบอดจะโผล่หัวขึ้นมา แล้วเอาหัวสอดเข้าไปในห่วงพอดี มีความยากเพียงใด
    โอกาสที่จะได้เกิดเป็นมนุษย์นั้น มีความยากยิ่งกว่า

    เราท่านทั้งหลาย...มีโอกาสเกิดมาเป็นมนุษย์
    อันเป็นสิ่งที่เกิดได้ยากยิ่งในโลกแล้ว
    แล้วเรา..ได้ใช้อัตภาพแห่งความเป็นมนุษย์นี้
    กระทำหน้าที่ อันเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ให้สมค่ากับการที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนา ได้ฟังพระสัจธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้วหรือยัง

    สังสารวัฏนั้นร้ายเหลือเกิน ทำให้เราเป็นผู้มีความส่ำส่อนทางอารมณ์

    ชาตินี้รับบทบาทเป็นคนคนนี้ ชาติต่อไปรับบทบาทเป็นคนใหม่ ไม่รู้จักจบสิ้น

    “จะรักเธอไปจนวันตาย”
    ชาตินี้ก็พูดกับคนนี้
    ชาติต่อไปก็ไปหาคนใหม่พูด เป็นอย่างนี้เรื่อยไป

    ยิ่งต้องเวียนว่ายตายเกิดมากครั้งเท่าใด
    ยิ่งเป็นการเพิ่ม
    #ความสำส่อนทางอารมณ์มากขึ้นเท่านั้น

    หลวงพ่อท่านได้เสาะแสวงหาพ่อแม่ครูบาอาจารย์
    เพื่อจะสอบถามคำถามหนึ่ง ซึ่งคาค้างอยู่ในหัวใจ

    จากการได้ยิน ได้ฟัง ได้เรียนรู้มาก็มากว่า..
    หากเราปฏิบัติภาวนาไปจนเกิดนิพพิทา (ความเบื่อหน่าย) เมื่อนั้นจิตจะคลายกำหนัด แล้วจิตจะหลุดพ้น ..

    แล้วท่านจะต้องทำเช่นไร จิตจึงจะหลุดพ้น
    พ้น..ออกไปจากสังสารวัฎนี้ !!

    จนท่านได้มาพบกับพ่อแม่ครูอาจารย์องค์หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ซึ่งคำตอบจากองค์หลวงปู่ในครั้งนั้น หลวงพ่อยังจดจำไม่รู้ลืม...

    “ถ้าเรามีความเห็นอย่างเด็ดขาดลงไปว่า
    จิตของเรากับธรรมชาติต่างๆ ที่แวดล้อมเราอยู่นั้น เป็นสิ่งเดียวกัน

    เราจะเป็นผู้ไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิด
    ในภพภูมิใดทั้งสิ้นอีก ..

    จิตจะมุ่งตรงสู่พระนิพพานแค่เพียงแห่งเดียวเท่านั้น ..”

    คำตอบจากองค์หลวงปู่ดูลย์ประโยคนั้น อุปมาดั่งท่านได้พบกับ
    #ทางสายตรง
    #เส้นทางที่มุ่งตรงต่อพระนิพพาน

    ท่านจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาด สละเพศฆราวาสในวัย ๔๔ ปี ออกเดินตามรอยบาทพระศาสดา เข้าสู่เส้นทางธรรม โดยมีองค์หลวงปู่ดูลย์ ซึ่งหลวงพ่อเทิดไว้เหนือเศียรเกล้า เป็นพ่อแม่ครูอาจารย์ผู้ชี้บอกทาง

    ▪︎แล้วสัญญาเดิมของหลวงพ่อ ก็กลับคืนมา..
    เมื่อครั้งที่ท่านยังเป็นเด็กน้อย ครอบครัวพาท่านไปทำบุญกับวัดใหญ่แห่งหนึ่ง พอเสร็จพิธี แทนที่ท่านจะอธิษฐานขอสิ่งของมีค่าเช่นเดียวกับคนอื่นๆ แต่สิ่งที่อยู่ภายในใจท่าน กลับเป็นความปรารถนาที่ท่านอยากเป็นพระอรหันต์ !!

    เราทุกคน.. ล้วนมีสัญญาเดิมติดตัวมา
    อยู่ที่ว่าเรา..จะได้ยินสัญญาเดิม ที่จะพาเราย้อนกลับสู่จิตเดิมแท้ของตนเองหรือไม่

    ปัญญาอันเกิดขึ้นจากการศึกษาเล่าเรียน
    การได้ยินได้ฟัง (สุตมยปัญญา)
    การคิดพิจารณาตาม (จินตมยปัญญา) นั้น
    ทำให้เรา #จำได้ #เข้าใจได้
    แต่มันมิอาจพาเรา #เข้าถึงธรรมได้

    คงมีแต่ #การภาวนา (ภาวนามยปัญญา) เท่านั้น
    ที่จะพาเราท่านทั้งหลาย เดินทางกลับคืนสู่บ้านเดิม อันเป็นธรรมชาติเดิมแท้ของจิตได้

    ด้วยตระหนักชัดแล้วว่า ชีวิตนี้น้อยนักสั้นนัก..
    หลวงพ่อ จึงไม่ยอมเสียเวลาหลงทางไปกับสิ่งอื่นใดอีก

    ▪︎ตะกั่ว ดีบุก ทองคำ ๓ สิ่งนี้ ล้วนเป็นแร่ธาตุที่มีคุณค่า

    การพาญาติโยมสร้างบุญกุศล ทอดกฐิน-ผ้าป่า สร้างศาสนวัตถุทั้งหลายนั้น หลวงพ่อไม่ได้กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่นั่นยังเป็นการพาไปสู่สุคติ พาไปสู่สวรรค์ อันมิใช่จุดหมายสูงสุดที่มนุษย์พึงมี เสมือนการหยิบยื่นตะกั่ว และดีบุก ให้แก่ญาติโยม

    สำหรับหลวงพ่อแล้ว ท่านขอมอบ #ทองคำ ซึ่งถือเป็นแร่ธาตุที่มีคุณค่าสูงสุด สนองตอบแทนคุณพวกเราทั้งหลาย ที่ได้เมตตามาเยี่ยมสำนักสงฆ์เล็กๆ ในป่าละอูแห่งนี้

    นับจากวันที่หลวงพ่อได้สละเพศฆราวาส ในวัย ๔๔ ปี วันนี้หลวงพ่อมีอายุ ๘๒ ปี แล้ว
    ตลอด ๓๘ พรรษา ระยะเวลา ๒๕ ปี ที่หลวงพ่อพำนักอยู่ ณ ป่าละอู แห่งนี้ ท่านดำรงอยู่ด้วยปฏิปทาเดิมที่ไม่เคยเปลี่ยน

    ที่นี่..ไม่รับกฐิน-ผ้าป่า ไม่รับกิจนิมนต์ ไม่มีการเรี่ยไรญาติโยมเพื่อก่อสร้างศาสนวัตถุใดๆทั้งสิ้น
    เพราะนั่น .. ยังเป็นการพาไป #แวะข้างทาง

    ที่ป่าละอูแห่งนี้ จะไม่พาญาติโยมไปสวรรค์ชั้นไหนๆ ไม่พาไปแวะข้างทาง

    หลวงพ่อ คือ บุตรแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงขอนำพาหมู่คณะ เดินตามรอยบาทพระศาสดา มุ่งสู่เส้นทางสายตรงเพียงสายเดียวเท่านั้น

    นั่นคือ เส้นทางแห่งความหลุดพ้น
    มุ่งตรงต่อพระนิพพาน

    ให้เราปฏิบัติจนญาณเห็นจิต เหมือนตาเห็นรูป

    เมื่อใดที่จิตหยุดคิด
    ธาตุรู้จะอุบัติเกิดขึ้น

    เมื่อใดที่หยุดความคิด เมื่อนั้น คือ การหยุดสร้างสังสารวัฏ

    🙏🙏🙏

    ส่วนหนึ่งจากการเมตตาแสดงธรรม
    โดยองค์หลวงพ่อมนตรี อาภัสสโร
    ณ สวนพุทธธรรม ป่าละอู จ.ประจวบคิรีขันธ์
    วันอาทิตย์ที่ ๑ กันยายน ๒๕๖๒

    หากมีสิ่งหนึ่งประการใด ที่ลูกประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินองค์หลวงพ่อ จากการสรุปสาระธรรมครั้งนี้ ลูกกราบขอขมากรรม กราบขออโหสิกรรม ต่อองค์หลวงพ่อมนตรี อาภัสสโร มา ณ ที่นี้

    ด้วยจิตเคารพอย่างสูงสุด
    🙏🙏🙏
    มูลนิธิธรรมดี

  • ภาวนามยปัญญา 在 นักคณิตศาสตร์ประกันภัย - ทอมมี่ แอคชัวรี Actuary Facebook 的最佳解答

    2015-11-26 19:30:08
    有 33 人按讚


    ทำไมเรารู้ว่า
    ควรปล่อยวาง...แต่ยังคิดมาก
    ทำไมเรารู้ว่า
    ควรนิ่ง ควรฟัง...แต่ยังพูด
    ทำไมเรารู้ว่า
    ควรหยุดฟุ่มเฟือย...แต่ไม่เคยทำได้
    ทำไมเรารู้ว่า
    ไม่ควรนินทา...แต่ยังนินทา
    ทำไมเรารู้ว่า
    ไม่ควรขี้เกียจ...แต่ยังขี้เกียจ
    ทำไมเรารู้ว่า
    ไม่ควรเหงา...แต่ยังเหงา
    ทำไมเรารู้ว่า
    การเปรียบเทียบไม่ดี ...แต่ยังเปรียบเทียบ
    ทำไมเราอ่านหนังสือฮาวทูไปแล้วร้อยเล่ม...แต่ยังทำตามไม่ได้
    ทำไมเราสร้างแรงบันดาลใจได้แล้ว...แต่สามวันถัดไป จิตใจเราเริ่มเหี่ยว
    ทำไมเรารู้ทุกอย่าง แต่...เราทำอะไรไม่ได้สักอย่าง
    คำตอบคือ... "รู้" มีอยู่สองแบบ !!
    หนึ่ง: รู้ด้วยสมอง
    สอง: รู้ด้วยจิต
    การฟัง คิด อ่าน เป็นการฝึกรู้ด้วยสมอง
    และสมองมีอำนาจน้อยกว่าจิต
    จิตเป็นนาย สมองเป็นบ่าว
    เมื่อควบคุมสมองได้ แต่ควบคุมจิตไม่ได้
    ชีวิตย่อมเปลี่ยนแปลงช้า หรือไม่เปลี่ยนเลย
    ด้วยเหตุนี้พระพุทธเจ้าจึงมุ่งสอนให้คนฝึกจิต(ภาวนามยปัญญา)
    ท่านเน้นย้ำเปลี่ยนคนไปที่กระบวนการของจิต มิใช่สมอง
    เมื่อจิตเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยน
    มีกี่ครั้งในชีวิตที่คุณรู้ดีทุกอย่าง คิดดีทุกอย่าง
    แต่บังคับให้ตัวเองทำตามความคิดดีๆ ไม่ได้สักอย่าง
    ฝรั่งสอนให้เปลี่ยนที่ความคิด
    แต่พระพุทธเจ้าสอนให้เปลี่ยนที่จิต...
    @ พศิน อินทรวงค์

你可能也想看看

搜尋相關網站