雖然這篇ภาคกลางตอนบน鄉民發文沒有被收入到精華區:在ภาคกลางตอนบน這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章
在 ภาคกลางตอนบน產品中有5篇Facebook貼文,粉絲數超過0的網紅,也在其Facebook貼文中提到, เส้นทางพายุ “โกนเซิน” 5 โมงเย็นที่ผ่านมาครับ *ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา พายุโซนร้อนกำลังแรง “โกนเซิน” ฉบับที่ 9 ลงวันที่ 11 กันยายน 2564 เมื่อเวลา 16...
ภาคกลางตอนบน 在 Tai Orathai | ต่าย อรทัย Instagram 的最讚貼文
2020-05-02 22:09:55
..ออกจากภาคอีสาน สู่ ภาคกลางตอนบน คืนนี้พบกันที่วัดเขาสมอแครง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก จ้า..😊😊 ..ใส่เสื้อกันหนาวไปเที่ยวงานด้วยเด้อ..😘😘 ..แล้วเจอกันค่ะ..😊😘...
ภาคกลางตอนบน 在 Facebook 的最讚貼文
เส้นทางพายุ “โกนเซิน” 5 โมงเย็นที่ผ่านมาครับ
*ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
พายุโซนร้อนกำลังแรง “โกนเซิน”
ฉบับที่ 9 ลงวันที่ 11 กันยายน 2564
เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันนี้ (11 ก.ย. 64) พายุโซนร้อนกำลังแรง “โกนเซิน” บริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 145 กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม หรืออยู่ที่ละติจูด 15.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 109.4 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
และกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 13 กม./ชม. คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองดานัง ประเทศเวียดนามในวันพรุ่งนี้ (12 ก.ย. 64) หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ
ในขณะที่ร่องมรสุมกำลังแรง พาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
พื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้
วันที่ 12 กันยายน 2564 บริเวณที่มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดนครพนม สกลนคร มุกดาหาร กาฬสินธุ์ อำนาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ภาคตะวันออก: จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด
วันที่ 13 กันยายน 2564 บริเวณที่มีฝนตกหนักบางแห่ง
ภาคเหนือ: จังหวัดแพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก ตาก และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดนครพนม สกลนคร มุกดาหาร อำนาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี และกาญจนบุรี
ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด
อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง โดยหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน
ควรงดออกจากฝั่ง จนถึงวันที่ 14 กันยายน 2564
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ประกาศ ณ วันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2564 เวลา 17.00 น.
ภาคกลางตอนบน 在 Tai Orathai Facebook 的精選貼文
..ออกจากภาคอีสาน สู่ ภาคกลางตอนบน คืนนี้พบกันที่วัดเขาสมอแครง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก จ้า..😊😊
..ใส่เสื้อกันหนาวไปเที่ยวงานด้วยเด้อ..😘😘
..แล้วเจอกันค่ะ..😊😘
ภาคกลางตอนบน 在 sittikorn saksang Facebook 的最佳貼文
"โมเดลที่มาของ ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญใหม่"
เปิดโมเดลเลือกตั้งระบบใหม่แบ่งประเทศเป็น 6 กลุ่มจว. ภาคกลางตอนบน 17 จว. จะมีส.ส.ในสองระบบมากสุด 92 คน ขณะที่ระบบเขตเลือกตั้งเก้าอี้ลดทุกจังหวัด กทม. เหลือ 22 โคราช 10
จากกรณีที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญกำหนดรูปแบบที่มาของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือส.ส. ซึ่งจะใช้การเลือกตั้งระบบสัดส่วนแบบผสม โดยจะมีจำนวนส.ส.ทั้งหมดไม่น้อยกว่า 450 คน แต่ไม่เกิน 470 คน แบ่งเป็นส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งในระบบเขตเลือกตั้ง 250 คน และส.ส.ที่มาจากระบบบัญชีรายชื่อไม่น้อยกว่า 200 คน แต่ไม่เกิน 220 คนนั้น ขณะนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะหน่วยงานปฏิบัติได้มีการเตรียมข้อมูลรองรับ
1.การแบ่งกลุ่มจังหวัดของประเทศ ออกเป็น 6 กลุ่มจังหวัดตามที่ร่างรัฐธรรมนูญกำหนดให้พิจารณาจากพื้นที่จังหวัดที่ติดกัน และแต่ละกลุ่มจังหวัดไม่จำเป็นต้องมีจำนวนประชากรที่เท่ากัน เสร็จสิ้นแล้ว พร้อมกับได้มีการคำนวณจำนวนส.ส.เขตในแต่ละจังหวัดที่พึงมี ไว้เป็นเบื้องต้นและได้มีการนำเสนอต่อคณะกรรมาธิการยกร่างไปบางส่วนแล้วเช่นกัน
ทั้งนี้ 6 กลุ่มจังหวัดที่มีการแบ่งประกอบด้วย
1.1ภาคเหนือ 15 จังหวัด แบ่งเป็นส.ส. แบบแบ่งเขต 41 คน แบบบัญชีรายชื่อ 18 คน รวมมีส.ส 59 คน ประกอบด้วยจังหวัด แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน ลำปาง ลำพูน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์
1.2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 12 จังหวัด แบ่งเป็นส.ส.แบบแบ่งเขต 42 คน แบบบัญชีรายชื่อ 28 คน รวมมีส.ส. 70 คน ประกอบด้วยจังหวัด เลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี บึงกาฬ นครพนม สกลนคร ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด
1.3 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 8จังหวัด แบ่งเป็นส.ส.แบบแบ่งเขต 41 คน แบบบัญชีรายชื่อ 46 คน รวมมีส.ส. 87 คน ประกอบด้วยจังหวัด ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร
1.4 ภาคกลางตอนบน 17 จังหวัด แบ่งเป็นส.ส.แบบแบ่งเขต 42 คน แบบบัญชีรายชื่อ 50 คน รวมมีส.ส. 92 คน ประกอบด้วย กาญจนบุรี ราชบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ สุพรรณบุรี ลพบุรี ชัยนาท สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ปทุมธานี นนทบรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว
1.5 ภาคกลางตอนล่าง 9 จังหวัด แบ่งเป็นส.ส. แบบแบ่งเขต 44 คน แบบบัญชีรายชื่อ 30 คน รวมมีส.ส. 74 คน ประกอบด้วย สุมทรสงคราม สุมทรสาคร สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบรี ตราด
1.6 ภาคใต้ 16 จังหวัด แบ่งเป็นส.ส.แบบแบ่งเขต 40 คน บัญชีรายชื่อ 33 คน รวมมีส.ส. 73 คน ประกอบด้วย เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี พังงา ภูเก็ต กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส
2. การคำนวน ส.ส.แบ่งเขต 250 คน ดังนี้
ส.ส.เขต 250 คนที่กกต.ได้คำนวณจำนวนส.ส.ที่พึงมีในแต่ละจังหวัด โดยใช้ฐานข้อมูลจำนวนประชากรล่าสุดเมื่อ 31 ธ.ค. 57 จำนวน 65,124,716 คน และใช้อัตราส่วนราษฎร 260,499 คน ต่อส.ส.หนึ่งคนโดยมีการปัดเศษแล้วนั้น ก็ทำให้ส.ส.ลดลงทุกจังหวัด ดังนี้
2.1 จังหวัดที่มีส.ส.เพียงคนเดียว 14 จังหวัด
คือ แม่ฮ่องสอน มุกดาหาร อำนาจเจริญ อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท อุทัยธานี นครนายก สมุทรสงคราม ตราด พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล
2.2 จังหวัดที่มีส.ส. 2 คน มี 25 จังหวัด
คือ ตาก น่าน พะเยา พิจิตร แพร่ ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ เลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ ยโสธร สระบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว สมุทรสาคร จันทบุรี กระบี่ ชุมพร ตรัง ประจวบคีรีขันธ์ พัทลุง ยะลา เพชรบุรี
2.3 จังหวัดที่มีส.ส. 3 คน มี 14 จังหวัด
คือ กำแพงเพชร พิษณุโลก ลำปาง นครพนม นครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง นราธิวาส ปัตตานี
2.4 จังหวัดที่มีส.ส. 4 คน มี 8 จังหวัด
คือ เพชรบูรณ์ มหาสารคาม กาฬสินธุ์ สกลนคร ชัยภูมิ ปทุมธานี นครสวรรค์ สุราษฏร์ธานี
2.5 จังหวัดที่มีส.ส. 5 คน มี6 จังหวัด
คือ เชียงราย ร้อยเอ็ด สุรินทร์ นนทบุรี สงขลา สมุทรปราการ
2.6 จังหวัดที่มีส.ส. 6 คน มี 6 จังหวัด
คือ เชียงใหม่ อุดรธานี บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ ชลบุรี นครศรีธรรมราช
2.7จังหวัดที่มีส.ส. 7 คน มี 2 จังหวัด
คือ ขอนแก่น อุบลราชธานี ส่วนจังหวัดที่มีส.ส. 10 คน คือ นครราชสีมา และกรุงเทพมหานครมีส.ส.มากสุดคือ 22 คน
อย่างไรก็ตามหากพิจารณาจำนวนส.ส.เขตเดิมที่แต่ละจังหวัดมีตามรัฐธรรมนูญ 50 ที่มีส.ส.เขต 375 คน แล้วในระบบใหม่ที่กำหนดให้มีส.ส.เขตเพียง 250 คน จะพบว่าจังหวัดใหญ่ ๆ มีการลดลงของจำนวนส.ส.ค่อนข้างมาก เช่น กรุงเทพมหานคร เดิมมี 33 คน ก็ลดลงเหลือเพียง 22 คน นครราชสีมา จากเดิมที่มี 15 คนก็ลดลงเหลือ 10 คน อุบลราชธานี จากเดิมมีส.ส. 11 คน ก็เหลือ 7 คน ขอนแก่นจากเดิม 10 คนก็จะลดลงเหลือ 7 คน เชียงใหม่ จากเดิมมีส.ส. 10 คน ก็จะลดลงเหลือเพียง 6 คน นครศรีธรรมราช จากเดิม 9 คน ก็ลดลงเหลือ 6 คน เป็นต้น